Share

บทที่ 2683

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋จ้องมองไปยังจุดที่คนทั้งสองกำลังพูดคุยกัน หลังจากเพ่งมองอย่างตั้งใจ ในที่สุดนางก็มองเห็นคนทั้งสอง

ที่แท้เสื้อคลุมกันฝนบนกายของคนทั้งสองล้วนทำขึ้นจากการเย็บใบไม้เข้าด้วยกัน เมื่อมองดูจึงกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับพุ่มไม้ หากมิสังเกตให้ดีก็มิอาจพบเห็นได้เลย

หลิงอวี๋สัมผัสมิได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณจากคนทั้งสองมากนัก ทว่านางก็มิได้ผลีผลามลงมือ ยังคงอดทนรอคอยอย่างใจเย็น

เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงอีกครั้ง ชายคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า “พี่รอง กลับกันเถอะ ฟ้าจะมืดแล้ว คงไม่มีใครมาอีกแล้ว!”

“ฝนตกจนข้าเปียกไปทั้งตัว ข้ามิอยากล้มป่วยไป!”

ชายที่ถูกเรียกว่าพี่รองจึงกล่าว “เช่นนั้นก็กลับกันเถอะ!”

ทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหวและเดินกลับไป

หลิงอวี๋รอจนกระทั่งพวกเขาเดินไปไกลแล้วจึงค่อย ๆ ติดตามไป

นางเห็นคนทั้งสองสวมเสื้อกันฝนใบไม้ที่หนาหนัก แต่กลับหลบหลีกกับดักได้อย่างคล่องแคล่วและมุ่งหน้าต่อไป

หลังจากเดินมาได้ราวหนึ่งลี้ พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่สร้างอยู่บนเนินกลางเขา

หลิงอวี๋ที่อยู่ด้านหลังเห็นแล้วก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านจากหมู่บ้านตงหยางล้วนอาศัยอยู่ในถ้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2702

    สือเหล่ยเห็นดังนั้นก็เอ่ยยิ้มขึ้นมา “ท่านแม่ทัพหลิง แม้มันจะเป็นสัตว์อสูร แต่ก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่าที่ยังมิถูกขัดเกลา”“ข้าคาดว่ามันคงฟังที่ท่านพูดมิเข้าใจ ต่อไปภายหน้าท่านค่อย ๆ สอนมันไปเรื่อย ๆ มิช้ามันย่อมสื่อใจกับท่านได้!” หลิงเฟิงครุ่นคิดแล้วก็เห็นว่ามีเหตุผล ในเมื่อพูดกับเจ้ากร่างมิรู้เรื่อง ก็คงต้องพามันออกเดินทางไปด้วยกัน!ทั้งสองคำนึงถึงบาดแผลบนตัวของเจ้ากร่าง จึงมิได้เร่งฝีเท้า เพียงค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆเดินมาได้ครึ่งค่อนวัน ครั้นเมื่อถึงจุดนัดหมาย ก็ยังมิเห็นวี่แววของอู่หรานและเถาจื่อทั้งสองจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ซานเชวี่ยทิ้งร่องรอยไว้ครั้งนี้เมื่อเดินมาจนเกือบค่อนบ่าย ก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากที่ไกล ๆ ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของสัตว์ป่า“หรือว่าอู่หรานกับเถาจื่อจะเจอเรื่องอันตรายเข้าแล้ว?”หลิงเฟิงชักกระบี่ออกมา แล้วรีบรุดไปข้างหน้าพร้อมกับสือเหล่ยเพื่อไปสมทบกับเถาจื่อและอู่หรานวิ่งไปได้มิถึงร้อยเมตร ก็เห็นเถาจื่อและซานเชวี่ยกำลังประคองอู่หรานที่อาบไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาเมื่อเห็นหลิงเฟิง เถาจื่อก็ตะโกนลั่น “พี่ใหญ่หลิง รีบมาช่วยเร็วเข้า!”“พี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2701

    หลิงเฟิงในยามนี้ราวกับเด็กน้อยจอมซน แม้จะเห็นว่าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวมิพอใจ แต่เขาก็ยังเอ่ยหยอกเย้าว่า “ก็ให้ชื่อนี้แหละ!”“เจ้าจะคงมิได้จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้าถั่ว เจ้าจิ๋ว หรือว่าเจ้าลิงหรอกใช่หรือไม่?”เจ้าตัวประหลาดตาเขียวกลอกตาอย่างจนใจ ชื่อพวกนี้ยังสู้ชื่อปี้อวี้มิได้เลยด้วยซ้ำ!“หรือจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้ากร่าง?”หลังจากหยอกเย้าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวจนพอใจแล้ว หลิงเฟิงก็เริ่มตั้งชื่ออย่างจริงจังเสียที“เจ้ากร่าง ก็มิเลวนะ ต่อให้เจ้ามิชอบ ข้าก็มิเปลี่ยนแล้ว!”หลิงเฟิงแสร้งทำเป็นข่มขู่เจ้าตัวประหลาดตาเขียวเอียงคอ ดูเหมือนจะมิเข้าใจว่าเจ้ากร่างหมายความว่าอะไรหลิงเฟิงจึงทำท่าทางวางมาดใหญ่โตในท่วงทีแบบประหนึ่งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี พร้อมกับอธิบายอย่างใจเย็น“เจ้ากร่าง ก็คือความหมายที่ว่าเก่งกาจมาก ๆ เจ้าสามารถเอาชนะเสือดำตัวนั้นได้ ก็นับเป็นเจ้าป่าได้แล้ว!”“ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่าหวังป้า[footnoteRef:0]ก็ได้ แต่หวังป้ากับหวังปา[footnoteRef:1]ฟังดูคล้ายกันนัก ฝ่ายหนึ่งเป็นคำด่าคน แต่อีกนัยหนึ่งก็แฝงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม!” [0: หวังป้า 王霸 หมายถึง เจ้าป่า]

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2700

    ยังมิทันที่สือเหล่ยจะพูดอะไร หลิงเฟิงก็ไต่ลงไปตามกองหินที่พังทลายนั้นแล้วเขาคล่องแคล่วว่องไว เวลามินานก็ลงไปถึงลำธารด้านล่างแล้วเขาเดินเข้าไป แต่ยังมิทันได้เข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าลิงตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่หลิงเฟิงอย่างโหดร้ายหัวใจของหลิงเฟิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วมองลิงตัวนั้นอย่างกังวลเมื่อคืนหลิงเฟิงได้เห็นความโหดเหี้ยมในการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้แล้ว หากลิงตัวนี้กระโจนเข้าใส่ตน เขาก็มิรู้เช่นกันว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือไม่แต่ลิงตัวนั้นมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่จ้องมองหลิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนั้นหลิงเฟิงเห็นว่าผิวหนังบนร่างของมันเปิดออกและเลือดก็ไหลซึมออกมามิหยุดเขารู้สึกสะกิดใจขึ้นมา สัตว์ประหลาดตาเขียวตัวนี้อ่อนแรงมากแล้ว บางทีมันอาจจะไม่มีแรงโจมตีตนแล้วก็เป็นได้หลิงเฟิงจึงยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมทั้งยิ้มแล้วเอ่ยว่า “หากเจ้าฟังข้ารู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าข้ามิได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า มิฉะนั้นหากข้าคิดจะสังหารเจ้า เจ้าก็หนีไปมิพ้นหรอก!”“สัตว์ประหลาดน้อย เจ้าดูบาดแผลเต็มตัวเจ้าสิ หากข้ามิช่วยเจ้า เจ้าก็คงจะเลือดไหลออกมาจนตาย!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2699

    ปกติแล้วภายนอกนั้นเถาจื่อจะทำตัวเหมือนมิได้คิดมากอะไร และยังคงช่วยทุกคนทำงานไปตามเดิมแต่ในบางครั้งหลิงเฟิงก็เห็นว่า เถาจื่อมักจะหลบไปตามลำพังเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับคนที่ตายในการสู้รบเช่นพวกจ้าวซวนอยู่บ่อย ๆครานั้นเมื่อหลิงเฟิงเห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาตอนนั้นเขาเองก็ถูกเถาจื่อทำร้ายจนเกือบตายเช่นกัน บนร่างกายเขามีบาดแผลจากมีดขนาดต่าง ๆ อยู่นับสิบแผล และเป็นหลิงอวี๋ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากที่รู้ว่าเถาจื่อคือคนที่ทรยศพวกเขา หลิงเฟิงเองก็อยากสังหารเถาจื่อเช่นกันแต่หลังจากที่ได้ฟังหลิงอวี๋บอกว่า เถาจื่อถูกชายาเจ้าแห่งทะเลควบคุม จึงสูญเสียสติของตนไปแล้วทำความผิดเหล่านั้น ความโกรธที่หลิงเฟิงมีต่อเถาจื่อก็หายไปกว่าครึ่งแล้วแต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกคน ต่อให้ในแง่ของเหตุผลหลิงเฟิงจะรู้สึกว่าการที่เถาจื่อทรยศพวกเขานั้นมิใช่ความผิดของนางทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นเถาจื่อ ในใจของหลิงเฟิงก็มักจะมีความรู้สึกที่ติดค้างอยู่เสมอวันนั้นเมื่อเห็นเถาจื่อคุกเข่าอย่างตั้งมั่น แล้วสวดบทสวดส่งวิญญาณในใจของหลิงเฟิงก็รู้สึกมิสบายใจยิ่งนักเขานึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋กล่าวไว้ว่า หากเปลี่ยน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2698

    วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเพิ่งจะสว่าง ทั้งสี่คนก็รีบลุกอย่างรีบร้อน และตามไปทางร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดหลิงเฟิงมุ่งมั่นเต็มที่ แล้วชิงอยู่หน้าขบวนไปตลอดทางเพื่อตามรอยสัตว์ประหลาดสองตัวทำเอาต้นไม้หักโค่นไปจำนวนมาก และร่องรอยเหล่านี้ก็ลากยาวไปตลอดสิบกว่าลี้ทั้งสี่คนเห็นเช่นนั้นต่างก็รู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าจะมิได้เห็นสภาพการต่อสู้ด้วยตาตนเอง แต่ดูจากเสียงเมื่อคืนกับร่องรอยเหล่านี้แล้ว การสู้รบช่างโหดร้ายนัก“หวังว่าพวกมันจะมิได้ต่อสู้กันจนตายไปด้วยกันนะ!”หลิงเฟิงยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ยออกมาแต่อู่หรานกลับมิได้มีความทะเยอทะยานคิดจะทำให้สัตว์อสูรเชื่องเช่นเดียวกับหลิงเฟิงเนื่องจากสัตว์อสูรมิใช่ใครที่ไหนจะสามารถเลี้ยงได้ไหว มันจะต้องกินพวกโอสถเสริมพลังวิญญาณอะไรทำนองนั้น ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เงินที่อู่หรานหามาได้ ยังคงต้องใช้ประโยชน์อยู่ เขาทำใจนำเงินออกมาเลี้ยงดูสัตว์อสูรมิได้หรอกสือเหล่ยกับเถาจื่อก็เช่นกันอู่หรานเดินตามหลิงเฟิง พลางสังเกตสัญลักษณ์ของซานเชวี่ยไปด้วยแต่ทางนี้ดูเหมือนจะมิใช่เส้นทางที่ซานเชวี่ยไป เดินไปได้สักพักหนึ่งก็มิพบสัญลักษณ์ของซาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2697

    เถาจื่อได้ฟังคำพูดของหลิงเฟิงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจไปมิน้อยนางเองก็มิอยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับซานเชวี่ยเช่นกัน ในช่วงนี้ที่ติดกันอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เถาจื่อกับพวกซานเชวี่ยล้วนอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้องซานเชวี่ยมีความคิดที่บริสุทธิ์ ทำให้เถาจื่อนึกถึงตนเองในอดีต ในใจก็ยิ่งสนิทกับซานเชวี่ยมากขึ้นอีกเสียงต่อสู้ผสมกับเสียงคำรามของสัตว์ยังคงดำเนินต่อไปหลิงเฟิงเห็นประกายสีเขียวกะพริบมิหยุด เขาจึงเอ่ยถาม “อู่หราน เจ้าคิดว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นเป็นตัวอะไรกัน?”อู่หรานเป็นคนแดนเทพ ทั้งยังเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตำหนักคนเก่าอีกด้วย จึงพอจะรู้จักพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้อยู่บ้างเขาพิจารณาจากขนาดและเสียงคำรามของมันแล้วเอ่ยออกว่า “ข้าว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้น่าจะเป็นเสือดาว ที่มีขนาดพอ ๆ กัน!”หลิงเฟิงเอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “อีกตัวอาจจะเป็นเสือดาว แต่เจ้าเห็นหรือไม่ว่าตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดตาสีเขียว รูปร่างมิคล้ายเสือดาวนะ!”“ดูเหมือนมันจะยังมิเปล่งเสียงออกมา!”สือเหล่ยจึงขยับเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าสัตว์ประหลาดตาสีเขียวมิใช่เสือดาวเช่นกัน มันดูคล้ายลิงขนาดใหญ่มากกว่า! มันดูว่องไวกว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status