แชร์

บทที่ 17

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-24 12:26:18

บทที่ 17

หว่านเอ๋อร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยกับวิธีแปลกประหลาดของชายหนุ่ม “นี่คงเป็นวิธีที่จะบอกว่าตระกูลโจวมีเงินทองมากมายใช้จ่ายเท่าไรก็ไม่หมดกระมัง” หญิงสาวเหลือบมองไปที่กล่องขนม แม้จะสนใจแต่คิดว่านางเองคงหาซื้อกินเองได้ ไม่จำเป็นต้องรับของกำนัลของอีกฝ่ายให้ยุ่งยาก

“และจวนหลี่เองก็ไม่ได้ขัดสน เชิญคุณชาย ไม่ใช่สิท่านแม่ทัพ เอาของที่นำมากลับไปเถอะเจ้าค่ะ” หว่านเอ๋อร์ยิ้มอย่างเป็นต่อ

แต่แทนที่คำพูดเหล่านั้นจะทำให้ชายหนุ่มสลด เจ้าตัวกลับยิ้มกว้างจนหญิงสาวเริ่มโมโห

“เจ้าไม่ชอบของกำนัลของข้าก็ไม่เป็นไร รับเอาไว้แจกจ่ายคนของเจ้าก็ได้” โจวอี้หลงพูดพลางขยับเดินไปใกล้หญิงสาว ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้านาง "แล้วถ้าเจ้าไม่ชอบให้ข้าทำเช่นนี้ ก็บอกข้าสิว่า ข้าควรจะต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะพอใจกับชายนักรบที่กักขฬะเช่นข้า" โจวอี้หลงก้มตัวลงกระซิบถามอีกฝ่ายจนใบหน้าของเขาห่างจากหญิงสาวไม่ถึงคืบ

หว่านเอ๋อร์ถึงกับอึ้งกับคำถามและการกระทำของชายหนุ่ม นางตั้งตัวไม่ทันเมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่กระทบใบหน้าของนาง แก้มของหญิงสาวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้

เพราะปกตินางไม่ได้ใกล้ชิดกับชาย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 19

    บทที่ 19บรรยากาศในห้องหอนั้นเงียบสนิท ต่างจากด้านนอกที่เขาเพิ่งขอตัวมาได้ โจวอี้หลงเดินไปยังหญิงสาวที่นั่งคลุมหน้าอยู่บนเตียงด้วยใจที่เต้นรัว ทั้งตื่นเต้นและกังวล เขารู้ดีว่าคืนนี้มีความหมายเพียงใด และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเพียงแค่คิดถึงความใกล้ชิดของเขากับหว่านเอ๋อร์ที่จะเกิดขึ้นในฐานะคู่ชีวิต มันก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวและแทบควบคุมร่างกายของตัวเองไม่อยู่หว่านเอ๋อร์นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางสงบนิ่ง แต่ภายใต้ผ้าคลุมสีแดง แววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและมีเป้าหมายที่ชัดเจน แม้โจวอี้หลงจะใช้ราชโองการจนได้นางมานั่งอยู่บนเตียงของเขา แต่หว่านเอ๋อร์คิดว่าตนยังคงถือไพ่เหนือกว่า "มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าคงหนีท่านแม่ทัพไปไหนไม่ได้แล้ว" หว่านเอ๋อร์เอ่ยขึ้นทันทีที่รู้สึกว่าอี้หลงกำลังเดินเข้ามาใกล้นาง "แต่ข้าอยากให้ท่านรู้เอาไว้ ว่าข้าเกลียดการถูกบังคับมากที่สุด" อี้หลงชะงักไป เขามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่ผสมระหว่างความรู้สึกผิดและความรักอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือไปเปิดผ้าคลุมหน้าของคนที่เขารักออก เผยให้เห็นใบหน้าของหว่านเอ๋อร์ที่ดูงดงามกว่าทุกวันจนทำให้หัวใจเขาเต้นแรงม

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 18

    บทที่ 18จูหลิงยิ้ม "เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่จากที่ข้าได้ยินพวกขุนนางพูดกัน เขาเป็นคนไปขอให้ฝ่าบาทพระราชทานงานสมรสให้ด้วยตัวเองเลย เขาดูจริงใจไม่น้อยเลยนะ แล้วถ้าไม่คิดอะไรจริงจังกับเจ้าเขาคงไม่ทำเรื่องแบบนี้ หรือพูดแบบนั้นหรอก" หว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้ว "เจ้าก็เข้าข้างเขาอีกคนแล้ว ข้าคิดว่าเขาแค่รู้สึกผิดที่เคยถอนหมั้นกับข้าเท่านั้นแหละ" จูหลิงยักไหล่ "หรืออาจจะเสียดายที่ยกเลิกการหมั้นกับเจ้า ไม่ลองเปิดใจดูเล่า" หว่านเอ๋อร์ถอนหายใจอีกครั้ง "ข้าจะเปิดใจได้อย่างไร ในเมื่อเขายังดู...เหมือนกำลังหลอกล่อข้าอยู่ตลอดเวลาเลย" จูหลิงหัวเราะเบา ๆ "บางทีนี่อาจจะเป็นนิสัยที่เขาได้มาจากสนามรบ ความเจ้าเล่ห์นั่น แต่ก็น่าสนใจดีไม่ใช่หรืออย่างไร" หว่านเอ๋อร์มองจูหลิงอย่างไม่เชื่อ "น่าสนใจหรือ ไม่มีทาง” "แต่ไม่ว่าอย่างไรหลังจากนี้... เจ้าคงเจอเขาบ่อยขึ้นแน่ ๆ" จูหลิงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มต่ออย่างสบายใจปล่อยให้หว่านเอ๋อร์นั่งเงียบคิดถึงคำพูดและสิ่งที่เพิ่งเจอก่อนหน้าหลังจากข่าวพระราชโองการของโจวอี้หลงและหลี่หว่านเอ๋อร์แพร่ออกไป ไม่ช้าทางราชสำนักก็กำหนดวันสำหรับพิธีมงคลอย่างชัดเจน วันสำคั

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 17

    บทที่ 17หว่านเอ๋อร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยกับวิธีแปลกประหลาดของชายหนุ่ม “นี่คงเป็นวิธีที่จะบอกว่าตระกูลโจวมีเงินทองมากมายใช้จ่ายเท่าไรก็ไม่หมดกระมัง” หญิงสาวเหลือบมองไปที่กล่องขนม แม้จะสนใจแต่คิดว่านางเองคงหาซื้อกินเองได้ ไม่จำเป็นต้องรับของกำนัลของอีกฝ่ายให้ยุ่งยาก“และจวนหลี่เองก็ไม่ได้ขัดสน เชิญคุณชาย ไม่ใช่สิท่านแม่ทัพ เอาของที่นำมากลับไปเถอะเจ้าค่ะ” หว่านเอ๋อร์ยิ้มอย่างเป็นต่อแต่แทนที่คำพูดเหล่านั้นจะทำให้ชายหนุ่มสลด เจ้าตัวกลับยิ้มกว้างจนหญิงสาวเริ่มโมโห“เจ้าไม่ชอบของกำนัลของข้าก็ไม่เป็นไร รับเอาไว้แจกจ่ายคนของเจ้าก็ได้” โจวอี้หลงพูดพลางขยับเดินไปใกล้หญิงสาว ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้านาง "แล้วถ้าเจ้าไม่ชอบให้ข้าทำเช่นนี้ ก็บอกข้าสิว่า ข้าควรจะต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะพอใจกับชายนักรบที่กักขฬะเช่นข้า" โจวอี้หลงก้มตัวลงกระซิบถามอีกฝ่ายจนใบหน้าของเขาห่างจากหญิงสาวไม่ถึงคืบหว่านเอ๋อร์ถึงกับอึ้งกับคำถามและการกระทำของชายหนุ่ม นางตั้งตัวไม่ทันเมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่กระทบใบหน้าของนาง แก้มของหญิงสาวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้เพราะปกตินางไม่ได้ใกล้ชิดกับชาย

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 16

    บทที่ 16เช้าวันถัดมาอี้หลงปรากฏตัวที่ห้องโถงใหญ่ของจวนพร้อมกับรอยยิ้ม เขาดูอารมณ์ดีกว่าตอนที่ยึดเมืองได้มากมายเสียอีก“ท่านแม่” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกมารดาที่กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายใจ "ท่านแม่ ข้าขอถามอะไรสักอย่างได้หรือไม่” คนเป็นแม่มองดูท่าทางของบุตรชายก็พอจะเดาได้ ยิ่งเมื่อรวมจากเรื่องที่ได้ยินเมื่อคืนก็เดาได้ไม่ยากแต่นางกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้เสียอย่างนั้น"เจ้ามีเรื่องอะไรหรืออี้หลง""ท่านแม่พอจะรู้หรือไม่ว่า...คู่หมั้นของข้า ข้าหมายถึงหว่านเอ๋อร์นางชอบสิ่งใดบ้าง" คำถามนั้นทำให้มารดาของเขายิ้มออกมาทันที "คู่หมั้้นหรือ แม่คิดว่าเจ้ากับนางยกเลิกการหมั้นหมายไปแล้วนะ" นางเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะเบา ๆ "แต่ถ้าอยากรู้แม่จะบอกให้ เวลาแม่ไปเยี่ยมหว่านเอ๋อร์มักจะซื้อขนมที่โรงน้ำชาชื่อดังในเมืองไปด้วย นางชอบขนมที่โรงน้ำชาเจ้านั้น"อี้หลงคิดไม่ออกว่าจะมีโรงน้ำชาร้านไหนนอกจากร้านที่เขาพบกับหญิงสาว ชายหนุ่มพยายามคิดว่าวันนั้นอีกฝ่ายกำลังกินหรือทำอะไรบ้าง "ที่นั่นเอง..." เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเองและเมื่อภาพเหตุการณ์ที่ได้พบหว่านเอ๋อร์ครั้งแรกผุดขึ้นในหัว ชายหนุ่มก็เผลอหลุดยิ้มออกมาซ่งอวี้หลินมองท่าทางข

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 15

    บทที่ 15โจวอี้หลงกลับเข้ามาในจวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้การเจอกันครั้งแรกระหว่างเขาและหว่านเอ๋อร์จะรุนแรงไปนิด แต่เขากลับรู้สึกดี เพราะหากหญิงสาวยอมไปหมดทุกอย่างเขาคงไม่ชอบใจแน่ ๆ “อี้หลง” เสียงของโจวอี้เทียนดังขึ้นหยุดความคิดทุกอย่างของอี้หลงเอาไว้ เขาหันไปที่พี่ชายที่ยิ้มแปลก ๆ ก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องของเขาคงรู้กันทั้งจวนแล้ว“ได้ข่าวว่าไปสร้างเรื่องเอาไว้อย่างนั้นเหรอ ถึงขั้นไปขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสเลยนะ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”อี้หลงยิ้มเจื่อน “ท่านพี่อย่าเย้าข้าเลย” “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าจริงสินะ ข้าล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ เจ้าพยายามจะยกเลิกการหมั้นกับนาง แต่กลับถึงขั้นไปขอฝ่าบาทอย่างนั้น ชอบนางหรือ ดูจากที่เดินเหม่อจนเกือบชนเสาเมื่อครู่ หากข้าไม่เรียกเอาไว้เจ้าก็คงชนเสาไปแล้ว” อี้หลงฟังแล้วก็หัวเราะ“ข้าชอบนางจริงอย่างท่านพี่ว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อนเลย” อี้เหวินที่เพิ่งเดินมาหัวเราะ “แต่เมื่อก่อนหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเจ้าก็จะไม่แต่งกับนางนะน้องสาม” “ท่านพี่ทั้งสองอย่าล้อข้าเลย แค่ต้องคิดว่าจะง้อนางอย่างไรข้าก็มืดไปหมดแล้ว”“ข้าล่ะทึ่งจริง ๆ ห

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 14

    บทที่ 14หว่านเอ๋อร์จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ท่านไม่รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องกันแน่” หญิงสาวถามเสียงเรียบแต่ชัดเจน น้ำเสียงของนางทำให้อี้หลงยิ้มค้าง“ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงแปลกใจราวกับได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก หว่านเอ๋อร์ยิ้มเยาะ “ไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ แต่ท่านพ่อท่านแม่ของท่านเป็นฝ่ายมาขอยกเลิกการหมั้นหมายเองเลยนะ”คำพูดนั้นทำให้อี้หลงนิ่งไปชั่วครู่เพื่อคิดหาคำตอบก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ และสุดท้ายก็ยอมรับออกมาตรง ๆ “ข้าขอโทษ ที่จริงข้ารู้เรื่องนั้นดี แต่นั่นก็เพราะตอนนั้นข้ายังไม่รู้ว่าเจ้าคือใคร”หว่านเอ๋อร์เลิกคิ้วสูง “แล้วตอนนี้ที่รู้แล้ว มันต่างอะไรหรือเจ้าคะ ข้าก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างไรเราก็ยกเลิกการหมั้นหมายนั่นไปแล้ว”อี้หลงหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้า “เจ้าพูดเหมือนไม่เข้าใจสถานการณ์ ก่อนหน้าเจ้าเป็นเพียงคู่หมั้นของข้า แต่ตอนนี้ฝ่าบาทประทานเจ้าให้กับข้าเจ้ายังมีทางเลือกอีกหรือ” โจวอี้หลงพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเจ้าเล่ห์เอาไว้หว่านเอ๋อร์เม้มปากแน่น นางรู้ว่าคำพูดของเขานั้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status