หลิวอี้ชิง ได้แต่งงานกับแม่ทัพโยวหยางเล่อบุรุษในดวงใจของนางอย่างสมหวัง แต่นางก็ไม่คิดมาก่อนว่าหลังจากที่นางเข้ามาเป็นสะใภ้ในจวนโยวแล้วต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง สามีก็ไปรบแต่เมื่อกลับมาเขากลับพาสตรีอีกคนนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกันกับเขากลับมาด้วยกันในวันที่นางอุตส่าห์ออกไปยืนรอรับเขาอย่างแสนจะดีใจที่จะได้พบหน้าสามี และนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้าย สำหรับความอดทนอย่างทุกข์ทรมานตลอดสองปีที่ผ่านมาในจวนโยว นางตัดสินใจเขียนหนังสือหย่าให้กับเขาและจากไปทันที……
View Moreหลิวอี้ชิงนั่งอยู่ในเรือนหอของนางกับแม่ทัพโยวหยางเล่อเพียงลำพัง เพราะสามีที่เพิ่งแต่งงานกันนั้น เขาออกเดินไปทางไปชายแดนทันทีเพราะมีภารกิจด่วน มีคำสั่งให้กองทัพโดยการนำของเขาออกไปรบที่ชายแดนเป็นการด่วนเพราะมีข้าศึกเข้ามาประชิดอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเสร็จพิธีแต่งอย่างรวบรัดแล้ว เขาก็เปลี่ยนจากชุดเจ้าบ่าวเป็นชุดเครื่องแบบแม่ทัพแล้วร่ำลามารดาของเขาที่เหลือเพียงคนเดียว ส่วนบิดานั้นได้เสียชีวิตไปในสนามรบหลายปีมาแล้ว และเขาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งแม่ทัพต่อจากบิดาของตนเอง
วันนี้เขาเพิ่งดีใจที่ได้สมรักกับหญิงงามที่เขาเองก็มีใจให้นางไม่น้อย หลังจากเพียงแค่ได้พบหน้ากัน หลังจากนั้นไปมาหาสู่กันอยู่หลายครั้งจนมาถึงวันหมั้นหมายและจัดพิธีแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินของเขาแล้ว ยัังไม่มีโอกาสจะได้เข้าหอด้วยซ้ำ ก็มีราชโองการด่วนมาหาเขาที่จวนแม่ทัพ เพื่อให้เคลื่อนทัพในทันทีเพื่อไปสู้ศีึกที่ชายแดนระหว่างแคว้นชิงกับแคว้นต้าเหนิง
หลังจากร่ำลากับท่านแม่ของเขาแล้ว เขาก็จับข้อมือบางของเจ้าสาวของเขาเดินเข้าไปในห้องหอ เมื่อปิดประตูลงแล้ว เขาก็หันมาจับไหล่ของนางเอาไว้ “ อี้ชิง พี่จะต้องไปทำหน้าที่ของแม่ทัพเพื่อบ้านเมืองก่อนนะ แต่ขอให้เจ้าอยู่ที่จวนนี้รอพี่ ฝากเจ้าดูแลท่านแม่ของพี่ด้วย พี่จะพยายามกลับมาให้เร็วที่สุด ขอให้เจ้ารอพี่นะ พีี่รักเจ้า ”
เขาดึงร่างของหลิวอี้ชิงที่ตอนนี้กลายมาเป็นฮูหยินของเขาแล้ว มาจนชิดแล้วหอมแก้มนวลของนางทันที อี้ชิงใบหน้าแดงระเรื่อ ร่างกายสะท้านไปหมดด้วยความเขินอายที่ถูกชายที่นางเองก็มีใจให้เขานั้นกอดเอาไว้แนบอกแกร่งแถมยังหอมแก้มนวลของนางอีกด้วย และยังไม่เพียงเท่านั้นแม่ทัพหนุ่่มใช้มือหนาของเขาเชยคางของนางขึ้นมาเพื่อพิศดูใบหน้าหวานปานจะล่มเมืองนั้น แล้วก็ก้มลงมาจนชิดแล้วประกบจูบริมฝีปากแดงระเรื่อที่อวบอิ่มน่าจูบเหลือเกินนั่นทันที
อี้ิชิงที่ปิดปากเอาไว้แน่นเพราะตกใจและไม่เคยเสียจูบให้กับชายใดมาก่อน แต่แม่ทัพหนุ่มก็บดขยี้กลีบปากอวบอิ่มของนางจนเจ็บแปลบจึงได้ยอมเผยอปากอวบอิ่มออกเล็กน้อยและนั่นทำให้ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มสอดเข้าไปควานชิมความหวานในปากจิ้มลิ้มของนางแทบจะในทันที ลิ้นสากของเขาเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่อ่อนนุ่มของนางอย่างดูดดื่มและยาวนานจนร่างอวบอิ่มในอาภรณ์สีแดงของเจ้าสาวที่งดงามปราณีตนั้นอ่อนระทวย แขนแข็งแกร่งของแม่ทัพหนุ่มเข้าโอบประคอบร่างอวบอิ่มของภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงครู่เอาไว้กับอกแกร่งของเขา และค่อยๆถอนจูบที่เร่าร้อนนั้นอย่างแสนจะเสียดาย
“ อี้ชิง พี่ไม่อยากจะปล่อยเจ้าไปเลย แต่คงจะต้องจำใจทำเช่นนั้น พี่ต้องไปก่อนนะ เจ้ารักษาตัวให้ดี รอพี่นะ แล้วฝากดูแลท่านแม่และจวนของเราด้วย พี่รักเจ้านะ ” แม่ทัพหนุ่มเอ่ยคำร่ำลากับร่างในอ้อมกอดอย่างแสนจะอาลัย แล้วก็จำต้องปล่อยร่างของนางเป็นอิสระ แล้วหันหลังกลับจะออกไปจากห้องหอ แต่เขาก็ได้ยินเสียงหวานของคนด้านหลังดังขึ้น “ ข้าก็รักท่านพี่เจ้าค่ะ ” แม่ทัพหนุ่มหันไปยิ้มให้นาง แล้วก็จำต้องเดินออกไปจากห้องหออย่างเร่งรีบ
เจ้าสาวหมาดๆที่เปิดผ้าคลุมหน้าออกแล้วโดยฝีมือของสามี ก็เดินตามหลังของสามีหมาดๆ ออกไปแต่นางเดินก้าวตามฝีเท้าที่ก้าวยาวอย่างเร่งรีบของเขาแทบจะไม่ทัน แม่ทัพหนุ่มมุ่งตรงไปที่หน้าประตูที่มีม้าสีน้ำตาลตัวสูงใหญ่น่าเกรงขามยืนรอเขาอยู่โดยมีคนสนิทของเขาจับจูงมันเอาไว้ แม่ทัพหนุ่มหันมองไปรอบๆอีกครั้งแล้วก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่บนม้าของเขาทันที อี้ชิงที่เร่งฝีเท้าเดินตามมาทันได้ โบกมือลาสามี เขายิ้มให้นางอีกครั้ง แล้วดึงบังเหียนบังคับม้าให้เร่งฝีเท้าออกไปจากหน้าประตูจวนทันที โดยมีคนสนิทที่ต่างก็ดึงบังเหียนบังคับม้าให้ออกวิ่งตามหลังเขาไปทันที
ที่ประตูจวนนอกจากอี้ชิงที่เร่งฝีเท้าตามสามีมาจนทัน และกำลังจ้องมองเขาไปจนลับสายตานั้น ก็ยังมีร่างของฮูหยินใหญ่โยวซึ่งเป็นมารดาของแม่ทัพโหวหยางเล่อและที่ข้างๆนางก็มีร่างของสตรีผู้หนึ่งที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักไม่น้อย รูปร่างของนางอ้อนแอ้นอรชร การแต่งกายก็ดีเหมือนเป็นคุณหนูในจวนขุนนางหรือคหบดีที่พอมีฐานะ
“ เข้าไปข้างในกันเถอะ เสี่ยวหลาน ป้าเมื่อยเต็มทีแล้ว ” ฮูหยินใหญ่่เอ่ยขึ้น สายตาของนางปรายตามองร่างในชุดสีแดงนั้นอย่างไม่ค่อยพึงใจนัก แล้วสตรีที่มีชื่อว่าเสี่ยวหลานก็เข้าประคองร่างของฮูหยินใหญ่โยวก้าวเดินกลับเข้าไปในจวน โดยมีอี้ชิงในชุดเจ้าสาวเดินตามเข้าไป ฮูหยินใหญ่มุ่งตรงไปที่เรือนหลัก ที่ยังคงมีญาติมิตรบางส่วนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของแม่ทัพโยวยังคงอยู่ในเรือน
อี้ชิงที่ไม่รู้จะทำตัวเช่นไรเพราะนางเองก็เพิ่งแต่งงานกับเขาเมื่อครู่นี้เอง และยังไม่ค่อยสนิทสนมกับฮูหยินใหญ่โยวและคนในจวนแม่ทัพนัก นางเคยมาเยี่ยมฮูหยินใหญ่เพราะแม่ทัพโยวไปรับนางมาเพื่อพบมารดาของเขาจะได้ทำความคุ้นเคยกัน และสิ่งที่นางรู้สึกได้ ก็คือความหมางเมินไม่ค่อยอยากจะสานสัมพันธ์ใดๆกับนางนัก แต่ก็จำพูดด้วยอย่างเสียไม่ได้เพราะบุตรชายนั้นอยู่ด้วย อี้ชิงก็รู้สึกว่าว่าที่แม่สามีนั้นไม่ค่อยอยากจะต้อนรับนางนัก แต่ด้วยตอนนี้นางได้แต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ของฮูหยินโยวแล้ว และสามีก็ย้ำนักย้ำหนาว่าขอให้ช่วยดูแลมารดาของเขาด้วย อี้ชิงก็จำต้องก้าวเท้าตามพวกนางเข้าไปในเรือนหลัก
ขณะที่ฮูหยินหยางกับเสี่ยวหลานเดินเข้ามาในห้องโถงที่มีญาติมิตรบางคนของจวนโยวนั่งอยู่ในห้อง ฮูหยินใหญ่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้มุกชิดผนังโดยมีเสี่ยวหลานทรุดนั่งที่เก้าอี้ข้างๆกัน ทุกสายตาจับจ้องมองไปยังร่างในชุดเจ้าสาวที่ก้าวเดินตามหลังฮูหยินใหญ่มา “ ตัวอัปมงคล พอแต่งงานเข้ามายังไม่ทันไร อาเล่อก็จำต้องออกไปรบพุ่งเสียแล้ว ” หญิงวัยกลางคนๆหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงไม่เบานัก
“ ข้าก็ห้ามปรามเขาแล้ว ไม่ให้แต่งกับนาง แค่บุตรของอนุจวนขุนนางไร้อำนาจ แค่ในจวนของตัวเองก็แทบจะไร้ตัวตนอยู่แล้ว แถมยังเป็นกำพร้าอีกด้วย ไม่เหมาะสมกับแม่ทัพใหญ่อย่างอาเล่อสักนิด แต่เขาก็ไม่ฟัง ความรักของหนุ่มสาวมันลุ่มหลงรุนแรงนัก ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดถึงความเหมาะสมเท่าเทียมเลย ” ฮูหยินใหญ่เปรยขึ้นอย่างเห็นด้วยกับญาติของนางผู้นั้นที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้ามาเลยแม้แต่น้อย
“ ข้าบอกกับเขาแล้วว่าให้แต่งกับเสี่ยวหลาน อย่างน้อยที่สุดบิดาของนางก็เป็นขุนนางสำคัญไม่น้อย และนางเป็นสตรีที่ดีงาม เพียงพร้อมทั้งคุณสมบัติของสตรีที่เหมาะสมจะมาเป็นฮูหยินแม่ทัพ เงินทองหรือก็มากมาย ไม่น้อยหน้าใคร อย่างที่สตรีแซ่หลิวผู้นี้เทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ” ฮูหยินใหญ่เอ่ยสำทับอีกครั้งอย่างต้องการตอกย้ำให้กับหลิวอี้ชิงผู้ต่ำต้อยรู้ตัวว่าไม่คู่ควรที่จะมาเป็นฮูหยินจวนแม่ทัพเลยแม้แต่น้อย "
เมื่อหมอสาวหลิวซิงเหยียนได้ตั๋วเงินจากพ่อบ้านแล้ว นางก็ตัดสินใจเดินทางจากไปทันที ไม่มีประโยชน์ใดที่นางจะทู่ซี้อยู่ที่จวนแม่ทัพแห่งนี้อีกแล้ว เพราะข้าวของของนางมีไม่มากเก็บเพียงครู่เดียวก็เสร็จ นางไม่แม้แต่จะร่ำลาฮูหยินใหญ่โยว เพราะไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเสวนากับนางอีก เพราะไม่มีผลประโยชน์ใดที่จะต้องการพึงพิงสตรีผู้เฒ่านั่นอีก จึงได้ก้าวออกไปจากจวนแม่่ทัพทันทีอย่างไม่เหลียวหลังกลับมามองด้วยซ้ำ ส่วนเสี่ยวหลานเมื่อสาวใช้คนสนิทของนางเข้ามาบอกเรื่องหมอสาวที่จากไปแล้ว และนางได้ยินว่าพ่อบ้านโยวให้เงินนางติดตัวไปด้วย เพราะท่านแม่ทัพเคยสั่งเอาไว้ว่าให้เงินนางไปตั้งตัวเพราะนางเคยมีบุญคุณกับกองทัพในยามศึก เสี่ยวหลานนิ่งคิดว่าหมอสาวนั้นต้องรู้แน่แก่ใจแล้วว่าท่านพี่หยางเล่อ คงไม่อาจจะกลับมาหายดีดังเดิมได้นางจึงได้ตัดสินใจจากไป เช่นนี้แล้วเสี่ยวหลานเองเล่า นางจะอยู่ในจวนแม่ทัพเพื่อทู่ชี้จะเป็นฮูหยินของเขาอีกหรือ นางตอบตนเองได้ว่าไม่ เพราะนางยังสาวยังมีความงดงามอยู่ นางสามารถหาสามีที่ดีกว่านี้ได้ นางก็จะไม่ยอมทิ้งอนาคตของตนเองเอาไว้กับคนพิการเช่นพี่หยางเล่ออย่างแน่นอน ท่านพี่หยางเล่อแม้จะมีเงิน
เมื่อหมอสาวเดินออกมาจากห้องนอนของแม่ทัพหนุ่ม ทุกคนที่นั่งรออยู่ด้านนอก ทั้งฮูหยินใหญ่ เสี่ยวหลาน และบรรดาสาวใช้ทุกคนต่างหันไปจ้องมองนางอย่างมีความหวัง เสี่ยวหลานนั้นถึงกับวางเรื่องทุกอย่างเอาไว้ก่อน นางต้องการรู้ว่าท่านพี่อาการเป็นเช่นไร และจะมีโอกาสหายดีเป็นปกติหรือไม่ หมอสาวส่ายหน้าให้กับทุกคน “ หมายความว่าอย่างไรกันซิงเหยียน ” หมอสาวเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของฮูหยินใหญ่ “ ข้าตรวจอาการของเขาอย่างละเอียดเท่าที่ความสามารถของข้ามีแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าหมอผู้้นั้นพูดถูก ท่านแม่ทัพนั้น เส้นประสาทของเขาเสียหายหนักมากจนทำให้ตัั้งแต่ช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงปลายเท้านั้นไม่มีความรู้สึกอีก และไม่แน่ใจว่าจะสามารถรักษาให้หายดีเป็นปกติได้หรือไม่ ” ทุกคนอึ้งงันไปอย่างมาก โดยเฉพาะฮูหยินใหญ่และเสี่ยวหลาน “ เจ้าหมายความท่านพี่จะไม่มีโอกาสหายดีเป็นปกติและกลับมาเดินได้อีกครั้งอย่างนั้นหรือ ” เสี่ยวหลานอดไม่ไหว นางต้องการรู้อย่างแน่ชัดว่าท่านพี่หยางเล่อของนางจะหายดีเป็นปกติหรือไม่ “ ข้าบอกตามตรงนะ ว่าโอกาสที่จะกลับมาเป็นปกตินั้นแทบไม่มี แต่หากกระดูกและบาดแผลสมานอาจจะพอนั่งรถเข็นได้ แต่คงจะกลับมาเ
อี้ชิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อยามสายมากแล้ว นางเห็นมีแสงแดดส่องเป็นลำเข้ามาตามรอยแยกของฝาไม้ ทอดลงมาบนพื้นห้อง นางค่อยๆขยับกายลุกขึ้น ทั้งตัวเจ็บระบมไปหมด โดยเฉพาะร่องอวบที่ทั้งเจ็บทั้งแสบ ขณะที่นางกำลังจะหย่อนขาลงจากเตียงนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นด้านหลัง “ เมียจ๋า เจ้าอยู่ที่จวนนี้รอพี่ก่อนนะ พี่จะไปจัดการเรื่องในจวนให้แล้วเสร็จ รับรองว่าเจ้ากลับไปคราวนี้จะไม่มีสตรีใดอยู่ในจวนอีก แล้วพี่ขอสัญญากับเจ้าว่าด้วยเกียรติของแม่ทัพใหญ่แคว้นชิง พี่จะไม่ยอมรับสตรีอื่นใดเข้าจวนอีก จะมีเพียงเจ้าตลอดชีวิต เจ้าจะยอมคืนดีและกลับไปเป็นฮูหยินของพี่ตามเดิมได้หรือไม่ พี่รักเพียงเจ้าเท่านั้น และต้องการมีบุตรกับเจ้าเพียงเท่านั้น สตรีอื่นใดพี่ไม่ต้องการ ” อี้ขิงหันไปมองบุรุษที่กำลังลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้านหลังของนาง แล้วกระเถิบเข้ามาโอบกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดที่แสนอุ่นของเขา “ ถ้าท่านพี่ทำได้จริงอย่างเช่นที่สัญญากับข้า ข้าก็ยอมคืนดีกับท่านก็ได้เจ้าค่ะ ” นางเอนกายพิงอกแกร่งของเขา ในใจของนางนั้นยังมีเขาอยู่เต็มเปี่ยมแต่เพราะนางรักเขามาก นางจึงเจ็บมากที่เห็นเขาเริงรักกับสตรีอื่น “ แต่หากท่านไม่รักษาสัญญา
“ อ๊าาา อ๊าางง อ๊าางงง อ๊าาา อ๊าาา อ๊าากก ” ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันอย่างเสียวซ่าน แม่ทัพหนุ่มทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะบัดนี้เจ้าลูกชายตาเดียวของเขาที่มันโหยหานางเต็มที่ มันคับแน่นจนตึงแทบปริแตก หัวบานของมันมีน้ำรักไหลออกมาอย่างมากมายเพราะความเสียวที่มากจนเกินจะทนได้เขาถอดนิ้วแกร่งของตนเองออก แล้วมือหนาก็เลื่อนลงมาดึงเอวกางเกงหูรูดของตนเองลงจนพ้นสะโพกหนาของตนเอง เพื่อปลดปล่อยเจ้าลูกรักออกมาเป็นอิสระ ทันทีที่มันพ้นออกมาจากขอบเอวกางเกงของเขา มันก็ผงาดง้ำและพรักพร้อมอย่างเต็มที่แล้วอี้ชิงก้มลงมองลำกายอวบใหญ่ที่ผงาดง้ำและกำลังทิ่มแทงที่ท้องน้อยของนางอยู่อย่างตื่นตระหนก “ ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ ข้ากลัว อย่า…..ไม่นะ….ปล่อยข้า…….” อี้ชิงพยายามอ้อนวอนเพราะนางหวาดหวั่นเหลือเกิน“ เจ้าจะมีความสุข เชื่อพี่…...” เขากระซิบนางเสียงกระเส่า เขาไม่คิดจะรั้งรออะไรอีกแล้ว และไม่อาจจะปล่อยโอกาสให้นางเปลี่ยนใจ มือหนาของเขาจับเจ้าลูกชายตาเดียวของเขา เอาส่วนหัวถูไถเข้ากับเมล็ดดอกไม้ของนางด้วยจังหวะที่ถี่ระรัว“ อ๊าาาา อ๊าางง อู๊ยยยย อู๊ยยยยย อู๊ยยยย ” อี้ชิงครางออกมาอีกครั้งด้วยเสียงกระเส่า ปากจิ้มลิ
แม่ทัพหนุ่มเฝ้าจูบฮูหยินร่างอวบที่เขาดึงนางขึ้นมานั่งอยู่บนตักแกร่งอย่างเร่าร้อน เขาจูบนางยาวนานจนแทบจะสูบวิญญาณ จนร่างของอี้ชิงอ่อนระทวยซบลงที่อกแกร่งของเขา มือบางของหล่อนลูบไล้อยู่ที่อกแกร่งหนั่นแน่นนั้นอย่างลืมตัวเขาจูบจนพอใจแล้วจึงได้เลื่อนใบหน้าหล่อเหลาซุกไซร้ไปจนทั่วซอกคอขาวผ่องของหล่อนและขบเม้มทำรอยรักเอาไว้อย่างรุนแรง เขาซุกไซร้ไม่หยุด ทั้งขบเม้ม ทั้งไล้เลียจนผิวสาวเปียกชุ่มไปหมด “ หอมจัง ” เขากระซิบเบาๆ เสียงทุ้มของเขาคำรามอยู่ใกล้ๆ ใบหูขาวผ่องของนาง “ อา….ท่านแม่ทัพ….ท่าน..อย่านะ อย่า ….อ๊าาาา " ตอนนี้เขาไม่ได้แค่ซุกไซร้ลำคอขาวผ่องของนางเพียงเท่านั้น แต่มือหนาของเขายังลูบไล้ไปทั่วร่างบางขาวผ่องที่บัดนี้อาภรณ์นั้นถูกเลิกขึ้นมาสูงจนแทบจะเปลือยทั้งร่างให้เขาเห็นอยู่แล้ว สายรัดเอวหายไปตอนไหนนางก็ไม่อาจจะรู้ได้ มือของเขาซุกซนเหลือเกิน ตอนนี้มันกำลังฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ที่บัดนี้อาภรณ์ที่ปกปิดมันนั้นหลุดลุ่ย ทำให้เห็นทั้งสองเต้าที่อวบใหญ่เหลือเกินเพราะสาปเสื้อนั้นหลุดลุ่ยหลุดจากไหล่มนไปแล้วมือหนานั้นทั้งฟอนเฟ้นอกอวบจนโนมเนื้อของนางปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วของเขา และนิ้วแกร่งนั้นก็สะก
บัดนี้อาภรณ์ของนางแทบจะหลุดลุ่ยเพราะมือหนาที่ไม่อยู่สุกเลยนั้น ตราบจนม้าคู่กายของแม่ทัพหนุ่มตะบึงห้อมาจนถึงหน้าประตูจวนเล็กของเขาที่อยู่นอกเมือง จวนหลังนี้เขาปลูกเอาไว้เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในจวนใหญ่ของเขาตั้งแต่เขายังไม่ได้แต่งงาน และเขามักจะปลีกตัวมาพำนักที่นี่ เพื่อฝึกฝนวรยุทธ์และเมื่อต้องการวางแผนการรบที่ต้องใช้สมาธิ เขาก็มักจะควบม้ามาอยู่ที่นี่กับองครักษ์และคนสนิทเพียงไม่กี่คน แต่ที่นี่ก็มีสาวใช้และคนดูแลอยู่หลายคน เมื่อแม่ทัพหนุ่มควบม้ามาถึง รอเพียงครู่ซีห้าวก็ควบม้าตะบึงตามหลังมาหยุดลงที่ด้านหลังของแม่ทัพหนุ่ม แล้วเขาก็โหนตัวลงจากรถม้าเดินไปใช้ที่เคาะทองเหลืองหน้าประตูเคาะประตูใหญ่สามสี่ครั้ง ครู่หนึ่งก็มีชายคนหนึ่งเปิดประตูออก แล้วเยี่ยมหน้าออกมาเมียงมอง“ ท่านแม่ทัพมาหรือขอรับ ” แล้วเขาก็เปิดประตูใหญ่นั้นออกกว้าง แม่ทัพหนุ่มบังคับม้าให้เดินเข้าไปในประตูจวน ส่วนซีห้าวก็อุ้มตัวของชุ่ยเอ๋อลงมายืนข้างตัวม้า แล้วเขาก็จูงม้าคู่กายของตนเองเดินตามท่านแม่ทัพเข้าไปในจวน โดยมีชุ่ยเอ๋อหอบห่อผ้าของตนเองและนายหญิงเข้าไปในจวนด้วยเมื่อขี่ม้ามาอยู่ลงที่หน้าเรือนหลักของตนเองแล้ว แม่ทัพหนุ่ม
เมื่อแม่ทัพโยวและซีห้าว ขี่ม้าคู่กายโดยไม่หยุดพักเลย พวกเขาตามจนพบขบวนรถม้าที่แล่นตามกันเพื่อมุ่งหน้าไปทางหนิงโจวและพวกเขาแน่ใจว่าใช่ขบวนรถม้าของคุณชายจางลี่หลินพ่อค้าใหญ่ที่มีกิจการค้าอยู่หลายเมืองอย่างแน่นอน พวกเขาจึงได้ขี่ม้าแซงไปเพื่อหยุดขบวนรถม้านี้เอาไว้ และเมื่อคนขับเห็นดังนั้นจึงจำต้องหยุดม้า เพราะเขาเห็นชายร่างสูงใหญ่สองคนที่ควบอยู่บนม้าตัวสูงใหญ่และพวกเขาดูมีไอสังหารเข้มข้น ลักษณะองอาจผึ่งผายดูไม่ใช่โจรป่าที่มาดักปล้นขบวนรถม้า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาใช่ทหารหรือไม่ และเมื่อรถม้าทั้งสามคันหยุดลง คุณชายจางจึงได้เปิดผ้าม่านออกไปดูว่ารถม้าของพวกเขานั้นหยุดลงเพราะสิ่งใดกัน และก็พบกับแม่ทัพโยวที่กำลังโหนตัวลงมาจากรถม้า สีหน้าของคุณชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที เขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าในอีกไม่นาน แม่ทัพโยวหยางเล่อจะต้องมาตามอี้ชิงอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วถึงปานนี้ คุณชายหนุ่มจึงได้ก้าวเดินลงจากรถม้าของตัวเอง เพื่อจะเผชิญหน้ากับแม่ทัพโยว เพราะพวกเขาเป็นแค่พ่อค้า มีเพียงผู้คุ้มกันที่จ้างมาเท่านั้น ไม่น่าจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของแม่ทัพหนุ่มที่มีฝีมือเก่งกาจ และชำนาญการใช้อาวุธและม
ด้านที่เรือนฮูหยินใหญ่ หมอสาวหลิวซิงเหยียนนั่งคุกเข่าลงที่หน้าฮูหยินใหญ่ “ ฮูหยินใหญ่ต้องช่วยข้านะเจ้าคะ ข้าทำสำเร็จแล้ว แต่ท่านแม่ทัพกลับจะขับไล่ข้าออกไปจากจวน เช่นนี้แล้วสิ่งลงมือทำไปอาจจะสูญเปล่าได้นะเจ้าคะ เพราะแม้ฮูหยินของเขาออกไปจากจวนแล้ว แต่ไม่แน่ว่านางจะย้อนกลับมาได้อีกหรือไม่ ได้ยินว่าท่านแม่ทัพฉีกหนังสือหย่าที่นางเขียนทิ้งเอาไว้ไปเสียหมดแล้วด้วยเจ้าค่ะ อย่างนี้แล้วยังจะวางใจว่านางนั้นจะไปแล้วไปลับได้หรือไม่เจ้าคะ ”หมอสาวเจ้าเล่ห์เอ่ยปากอ้อนวอนและเติมความวิตกกังวลให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่นั่งอยู่ตรงหน้าของนางด้วย เพื่อใช้เป็นโล่ห์กำบังจากโทสะของแม่ทัพหนุ่มที่พลันเกิดขึ้นทันที หลังจากที่ฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดนั้นคลายลง และเขาได้รู้ว่าอี้ชิงฮูหยินของเขานั้นมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี และนางนั้นถึงกับเขียนหนังสือหย่าและขนข้าวของออกไปจากจวนแม่ทัพแทบจะทันทีในคืนนั้นแต่แทนที่ทั้งฮูหยินผู้เฒ่่าและหมอสาวที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปมาก จะได้ดีใจที่กำจัดสตรีผู้นั้นออกไปได้แล้ว แต่ท่านแม่ทัพกลับฉีกหนังสือหย่านั่นทิ้งไปเสียแล้ว ก็ทำให้แผนที่วางไว้ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จจริงหรือไม่ “ เอาละ ไม่ต้องกังวลไป
“ ท่านพี่ ท่านทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร ” อี้ชิงเอ่ยขึ้นแล้วนางก็กลับหลังหันออกไปจากห้องหนังสือนั่นทันที แม่ทัพหนุ่มที่นอนทอดร่างให้หมอสาวขย่มเขามิได้รับรู้เลยว่าเมียรักมายืนจ้องมองพวกเขาอยู่เพราะเขานอนอยู่ด้านล่าง แต่คนที่เห็นร่างของอี้ชิงเต็มตานั้นคือหมอสาวเจ้าเล่ห์ นางจ้องมองอี้ชิงอย่างเย้ยหยันพลางยกยิ้มเยาะเย้ยนาง จนเห็นนางหันหลังกลับไป หมอสาวจึงยิ่งขย่มแม่ทัพหนุ่มอย่างร่านร้อน ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันอย่างเสียวซ่านเหลือเกิน หมอสาวจงใจร้องครวญครางเสียงดังยิ่งขึ้นเพื่อให้ฮูหยินที่กำลังจะเป็นอดีีตนั่นได้ยินให้ชัดเจน ด้านอี้ชิงเมื่อนางเห็นสามีนอกใจนางเช่นนี้ แม้บุรุษนั้นต่างก็มีภรรยาหลายคน แต่เขากับนางยังไม่ได้พูดจากันตกลงกัน แม้นางจะสงสัยในความสัมพันธ์ของสามีกับสตรีที่เขาพากลับมาด้วย แต่ตอนนี้นางสิ้นสงสัยแล้ว ว่าทั้งสองเป็นอะไรกันแน่ และสตรีผู้นั้นมีความสำคัญกับสามีของตนเองเช่นไร อี้ชิงจึงได้รีบกลับไปยังเรือนเล็กท้ายจวนของตนเอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับชุ่ยเอ๋อที่เดินสวนออกมาเพราะนางกลับมาที่เรือนเล็กก่อนเพื่อตระเตรียมอาหารให้กับนายของตน “ ชุ่ยเอ๋อ เจ้าเก็บข้าวของแล้ว
Comments