หลังจากที่แยกย้ายกับสหายที่ค่ายทหาร กู้อี้หานก็แวะซื้อขนมปังกับนมกล่องใส่ในกระเป๋าอย่างมิดชิด เพื่อไม่ให้คนในบ้านนั้นผิดสังเกต แต่ในหัวของเขาก็ยังวนเวียนคิดแต่เรื่องพิษร้ายที่วนเวียนอยู่ในตัวภรรยา หวังว่าโม่ฟางสหายของเขาจะหาวิธีช่วยเฉิงฮวนได้
"อี้หานกลับมาจากต่างเมืองแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม"
"สวัสดีค่ะพี่อี้หาน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ"
ทันทีที่กู้อี้หานเดินเข้ามาในตึกก็พบกับสองแม่ลูก หลิงเจียอี กับ หลิงจินเยว่ ที่แต่งตัวแต่งหน้าด้วยสีฉูดฉาดจนแสบตา นั่งจิบชาสบายใจเฉิ่มอยู่ที่ห้องโถง
"สวัสดีครับ ผมสบายดี ที่ไม่สบายเห็นทีจะมีแต่เฉิงฮวน ช่วงที่ผมไม่อยู่ขอบคุณมากที่คอยดูแลเธอให้"
"ไม่เห็นต้องขอบคงขอบคุณอะไรเลยอี้หาน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แม่ให้หมอมาตรวจให้เฉิงฮวนแล้วนะเมื่อ 2 วันก่อน เดี๋ยวแม่จัดยาเข้าไปให้พร้อมกับอาหาร ถ้ากินตามที่หมอสั่ง อีกไม่กี่วันก็หายแล้ว"
"ได้ครับ ผมจะกำชับให้เฉิงฮวนกินให้หมด ถ้าอย่างนั้นข้าวเย็นของผมกับหนิงเหมิง ฝากบอกคนงานทำข้าวต้มหมูจัดขึ้นไปข้างบนให้ด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน"
"ได้จ้ะ"
พูดจบกู้อี้หานกับเฉินเทียนผู้ช่วยคนสนิทก็เดินขึ้นห้องไปทันที สองแม่ลูกที่มองตามหลังแสยะยิ้มร้ายกาจก่อนจะลุกไปจัดการเรื่องอาหาร
"แม่เพิ่มปริมาณยาลงไปได้ไหม? หนูอยากให้พวกมันตาย ๆ ไปให้หมด หนูไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนพวกนี้แล้ว พี่อี้หานก็ไม่เคยหันมามองหนูเลย หนูเกลียดมัน ๆ ๆ"
"ชู่ววว ใจเย็น ๆ ลูกแม่ รอมาได้ตั้งหลายปี รออีกสักเดือนสองเดือนจะเป็นไรไปลูก ต่อไปจินเยว่ของแม่ต้องกลายเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ถึงตอนนั้นจะมีผู้ชายดี ๆ เข้ามาให้ลูกเลือกอีกเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ตอนนี้เราต้องอดทนไว้ก่อนลูก"
"อดทน ๆ อะไรก็ต้องอดทน ไปดีกว่า น่าเบื่อชะมัด"
ระหว่างที่ลูกสาวกำลังจะเดินสะบัดก้นออกไป นางเจียอีก็รีบตามลูกรักไปติด ๆ เพราะรู้ว่าจินเยว่จะต้องไปสถานที่แห่งนั้นเป็นแน่
"เดี๋ยวก่อนลูก รอแม่ด้วย นังลี่จู แกอย่าลืมทำข้าวต้มขึ้นไปให้ทุกคนล่ะ อย่าลืมอะไรที่ควรทำแกก็ต้องทำเหมือนเดิม"
"ทราบแล้วเจ้าค่ะคุณนาย"
หลังจากสองแม่ลูกออกจากบ้านตระกูลเวินไป รถของทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่แหล่งซื้อขายยา ตามด้วบบ่อนที่เป็นแหล่งคลายเครียดของสองแม่ลูก แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีคนของชางหยวนกับฟ่านหนิงหลงคอยตามดูอยู่ไม่ห่าง
แอดดดด
"กลับมาแล้วครับ เหมิงเหมิงของป๋าทำอะไรอยู่เอ่ย จ๊ะเอ๋"
"ต๊ะเอ๋ ฮะ ฮะ ฮะ ป๊ะ ป๋า"
หนูน้อยที่นั่งเล่นอยู่กับมารดา พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยกำลังหยอกล้อตนจึงทำกลับเช่นกัน
"ลูกสาวของป๊ะป๋าเก่งจังเลย ป๊ะป๋าขอตัวไปเก็บของแป้บนึงนะลูก เดี๋ยวป๊ะป๋ามาเล่นด้วย"
"จ้า ๆ "
เสี่ยวหนิงเหมิงตัวน้อยตอบกลับ ราวกับเข้าใจสิ่งที่บิดาพูดทั้งหมด อี้หานรีบรับกระเป๋าเอกสารจากเฉินเทียนแล้วรีบนำของกินที่เตรียมมาไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า
"ถ้าน้องกับลูกหิวให้กินของที่พี่ซ่อนเอาไว้ในตู้นะฮวนฮวน อดทนอีกแค่ไม่กี่วัน ตอนนี้พวกสหายของพี่กำลังเร่งมือช่วยกันจับตามองสองคนแม่ลูกนั่น อาหยวนก็ส่งคนไปจับพวกที่ขายยาไว้แล้ว ถ้าสองแม่ลูกนั่นไปซื้อยาเมื่อไหร่ เรื่องพวกนี้ก็จะจบเร็วขึ้นเท่านั้น"
"ขอบคุณมากนะคะ ทุกคนก็ต้องระวังตัวด้วยนะ"
ทุกคนพูดคุยกันต่อไม่กี่ประโยคก็แยกกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในห้อง เพื่อไม่ให้คนของนางเจียอีสงสัย ป้าหวังพาคุณหนูนั่งเล่นอยู่ที่เบาะนุ่มข้างหน้าต่าง กันตุ๊กตาอีก 2-3 ตัวที่อี้หานซื้อมาฝากลูกสาว ส่วนผู้เป็นพ่อก็นั่งดูเอกสารอยู่บนโต๊ะกลางห้องกับผู้ช่วยคนสนิท ทางด้านเฉิงฮวนก็แกล้งนอนซมอยู่บนเตียงเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เอาอาหารมาส่งค่ะ"
"เข้ามาเลยลี่จู ขอบใจมากนะ"
กู้อี้หานกับเฉิงเทียนรีบเก็บเอกสาร แล้วรับถาดอาหารจากลี่จูมาวางลงที่โต๊ะ
"เป็นหน้าที่ของลี่จูอยู่แล้วค่ะคุณอี้หาน ถาดใหญ่เป็นของคุณหนูหนิงเหมิงกับคุณอี้หานนะคะ ส่วนถาดเล็กกับยาในแก้วเป็นของคุณเฉิงฮวนนะคะ"
"เข้าใจแล้ว นี่เป็นเงินพี่เศษที่เธอช่วยดูแลลูกกับภรรยาของฉันนะลี่จู พรุ่งนี้ตอนเย็นขอเป็นข้าวต้มปลา โรยด้วยต้นหอมแล้วก็ขิงอ่อนซอยนะ ฉันจะให้เฉิงฮวนกินจนหมดถ้วย รวมถึงยานี่ด้วย เธอไม่ต้องห่วง ฉันก็อยากให้ภรรยาของฉันหายเร็ว ๆ เหมือนกัน"
ลี่จูที่เห็นธนบัตร 100 หยวนอยู่ตรงหน้าก็รีบรับไว้อย่างรวดเร็ว เมื่อกู้อี้หานรับปากแล้วว่าจะดูภรรยาของเขากินข้าวกินยาจนหมด แสดงว่าก็หมดหน้าที่ของเธอแล้ว
"ได้เลยค่ะคุณอี้หาน พรุ่งนี้ลี่จูจะสั่งแม่ครัวทำข้าวต้มปลาตาที่คุณอี้หานต้องการค่ะ"
"ว่าแต่ยาพวกนี้คุณแม่เป็นคนจัดหามาใช่ไหมลี่จู"
"ใช่ค่ะคุณอี้หาน คุณนายเป็นคนจัดหาหมอชื่อดังกับยาราคาแพงพวกนี้ มาให้คุณท่านกับคุณเฉิงฮวนด้วยตัวเองเลยค่ะ"
"ได้ยินแบบนี้ฉันก็เบาใจ ไปพักเถอะ เดี๋ยวถ้วนจานพวกนี้ฉันจะให้ป้าหวังเอาลงไปเก็บเอง"
"ค่ะ"
หลังจากได้เงิน 100 หยวนไป ลี่จูก็รีบกลับออกไปจากห้องของเฉิงฮวนอย่างยิ้มแย้มโดยไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของเธอถูกบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว
"อาเทียน รีบจัดการกับอาหารพวกนี้เร็วเข้า"
"ครับคุณอี้หาน"
เฉินเทียนรีบนำข้าวต้มทั้งสามถ้วยไปเททิ้งจนหมด แต่ไม่ลืมที่จะเก็บตัวอย่างในถ้วยของเฉิงฮวนเอาไว้ พร้อมกับเม็ดยาที่ถูกจัดเตรียมมาเพื่อเธอด้วย
"ป้าจ๊ะ ช่วยหยิบแอปเปิลในตู้ให้ฉันหน่อยได้ไหม"
"ได้ค่ะคุณหนู"
ป้าหวังเดินเข้าไปหยิบแอปเปิลที่เฉิงฮวนซ่อนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าออกมาทั้งสองลูก พร้อมกับมีดและจานที่นางหามาให้
"ป้ารอเอาแอปเปิลนี่ไปให้เหมิงเหมิงกินนะจ๊ะ ส่วนชิ้นพวกนี้เป็นของป้า กินแล้วมันจะดีขึ้นค่ะ ไม่ต้องถามอะไร"
"ค่ะคุณหนู"
ถึงป้าหวังจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เฉิงฮวนบอก แต่นางก็ยอมทำตามแต่โดยดี
"ฮวนฮวน ข้าวต้มของน้องมาแล้ว เหมิงเหมิงกับป้าหวังกินด้วยกันได้เลยนะครับ พวกเราอดทนกันก่อนนะ"
ข้าวต้มสองถ้วยที่กู้อี้หานแอบซื้อเข้ามาถูกจัดใส่ถ้วยแทนที่ของเก่า แล้วมาวางต่อหน้าลูกน้อยกับภรรยา ความรู้สึกของเขาเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ล้มเหลว ไม่สมกับมีเงินทองมากมาย ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจพาลูกกับภรรยาออกไปจากที่นี่ได้ในทันที
"เดี๋ยวป้าไปกินของคนงานข้างล่างดีกว่าค่ะ"
"อย่าเลยครับป้า กินพร้อมกับเหมิงเหมิงไปเลย เหมิงเหมิงคนเก่ง หนูกินข้าวกับยายยายนะลูก ป๊ะป๋าจะกินกับแม่จ๋านะคะ"
หนูน้อยที่กำลังกินแอปเปิลอย่างเอร็ดอร่อยหันขึ้นมายิ้มแฉ่งให้บิดาพร้อมกับตอบว่า..
"จ้า ๆ"
"สามีคะ ช่วยเอานี้ให้พี่เฉินเทียนกินด้วยนะ ส่วนของสามีอยู่นี่แล้ว"
"ครับ"
จานแอปเปิลถูกยกไปให้เฉินเทียนที่โต๊ะกลางห้อง ก่อนที่อี้หานจะรีบกลับมากินข้าวถ้วยเดียวกับภรรยาต่อ
"..."
"หยุดปอกแล้วกินข้าวได้แล้ว อ้าปากเร็วเข้า"
"อ้าม"
สองสามีภรรยาป้อนข้าวกันอยู่บนเตียงทั้งน้ำตา กู้เฉิงฮวนดีใจเหลือเกินที่เธอได้มีโอกาสกลับมาแก้ไขเรื่องทุกอย่างอีกครั้ง และแน่นอนว่าเธอจะใช้ทุกนาทีอยู่ร่วมกับสามีและลูกสาวให้คุ้มค่า สิ่งไหนที่ได้รับปากคนผู้นั้นเอาไว้ เธอก็ต้องทำให้สุดความสามารถ
เฉินเทียนกับป้าหวังต่างก็จ้องมองดูสองสามีภรรยาที่ป้อนข้าวกันไปมาทั้งน้ำตา ความรักของทั้งคู่แม้จะเกิดจากผู้ใหญ่จัดหาให้ แต่ก็เรียกว่าเป็นความรักที่ซื่อสัตย์และมั่นคงไม่น้อย
"กินข้าวต้มหมดแล้วสามีต้องกินแอปเปิลนี่ด้วยนะคะ มันจะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ อย่าสงสัยและอย่าถาม เมื่อไหร่ที่ฉันพร้อมฉันจะบอกเรื่องนี้เองค่ะ"
กู้เฉิงฮวนหันมองทุกคนที่อยู่ในห้อง เชื่อว่าแต่ละคนย่อมมีคำถามมากมายเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติเข้าไปแล้ว
"นี่มันคือความรู้สึกอะไรกัน ทำไมมันทำให้ร่างกายสดชื่นแบบนี้ ฮวนฮวน น้องก็กินด้วยสิเร็วเข้า"
กู้อี้หานหยิบแอปเปิลในจานตั้งใจจะป้อนให้ภรรยาได้กิน ทว่าเฉิงฮวนกลับปฏิเสธเสียก่อน
"ไม่ได้ค่ะ ฉันยังกินตอนนี้ไม่ได้ ฉันต้องได้รับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน เมื่อได้ผลตรวจยืนยันเมื่อไหร่ ฉันสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี"
มือข้างขวาของกู้อี้หานลูบแก้มภรรยาอย่างทะนุถนอม ก่อนเก็บถ้วยจานออกไปให้พ้นทางแล้วอุ้มภรรยาสุดที่รักเข้าไปอาบน้ำโดยที่เขาคอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ทางด้านป้าหวังที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่นั่งเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมา
ทว่าก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัวของนาง สายตาของนางจ้องมองไปที่แอปเปิลในจานที่เหลืออยู่หลายชิ้น ตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี อีกไม่นานคนงานก็จะเริ่มกินข้าวเย็นแล้ว แสดงว่าห้องของนายท่านเวินจะปลอดคนดูแล
"อาเทียน ช่วยป้าดูคุณหนูสักครู่นะลูก ป้าจะไปหยิบของสักหน่อย"
"ครับป้า"
เฉินเทียนไม่ได้ถามอะไรมาก ส่วนป้าหวังก็รีบเดินลงไปที่ห้องพักของตัวเองแล้วหยิบถ้วย แก้ว และช้อนอีก 1 คัน ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นมาบนห้องของเจ้านาย
แอปเปิลสองชิ้นถูกหยิบวางลงไปในถ้วย ก่อนที่แม่บ้านหวังจะใช้ก้นแก้วบดให้น้ำแอปเปิลซึมออกมา จากนั้นแอปเปิลอีกหลายชิ้นจึงถูกนำลงไปบดต่อ เฉินเทียนที่พอจะรู้ความต้องการของป้าหวังจึงรีบเข้ามาช่วยอีกแรง
"เดี๋ยวผมช่วยเองครับป้า"
ในที่สุดก็ได้น้ำแอปเปิลที่คั้นออกมาได้ครึ่งแก้ว ประจวบกับสองสามีภรรยาออกมาจากห้องน้ำพอดี
"ทำอะไรกันค่ะ นั่นน้ำแอปเปิลใช่ไหม หรือว่า.."
"ใช่ค่ะคุณหนู ป้าจะเอาไปให้คุณท่าน ตอนนี้คนงานกำลังพักกินข้าว ทางสะดวกค่ะ"
กู้อี้หานรีบวางภรรยาลงบนที่นอน ก่อนจะเดินมาอุ้มลูกน้อยเอาไว้แล้วพาเข้าไปจัดการอาบน้ำต่อ
"อาเทียน นายตามไปช่วยป้าหวังเร็วเข้า"
"ครับ"
หลังจากเฉินเทียนตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าทุกคนกำลังกินข้าวกันอยู่ในครัว ป้าหวังจึงรีบเข้าไปในห้องของนายท่านเวินที่นอนแน่นิ่งรอวันตาย บรรยากาศในห้องดูเย็นเยียบและวังเวงไม่น้อย
"โธ่ คุณท่าน ฝืนใจกลืนลงไปสักหน่อยนะคะ หวังว่าน้ำแอปเปิลนี้จะช่วยคุณท่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อย คุณหนูกำลังเตรียมการพาพวกเราออกไปจากที่นี่ ถ้าคุณท่านได้ยินที่ดิฉันพูด ได้โปรดอย่าสิ้นหวังนะคะ กลืนหน่อยนะ"
ช้อนแล้วช้อนเล่าที่ป้าหวังตักน้ำแอปเปิลป้อนนายท่านเวินอย่างระมัดระวังจนหมด แล้วนางก็รีบกลับออกจากห้องไปก่อนที่จะมีใครมาเห็น ทว่านางไม่ทันได้สังเกตว่ามือของนายท่านเวินยกขึ้นได้เพียงเล็กน้อยแล้ว ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
กู้อี้หานเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องคลอดด้วยความตื่นเต้น นายท่านเวินกับยัยหนูเหมิง รวมไปถึงป้าหวัง เฉินเทียนที่จอดรถเสร็จก็รีบตามมาสมทบที่หน้าห้องคลอดทันที"เป็นยังไงบ้างอี้หาน""ป๊ะป๋า น้องอยู่หนายหย๋อ"ร่างเล็กของหนูน้อยหนิงเหมิงถูกคนเป็นพ่ออุ้มขึ้นไว้แนบอก "ยังไงมีใครออกมาเลยครับคุณพ่อ คงต้องรออีกสักพัก คุณพ่อนั่งพักก่อนเถอะครับ""ไม่ต้องกังวลนะอี้หาน เฉิงฮวนต้องปลอดภัยแน่นอน""ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับคุณพ่อ"พ่อตากับลูกเขยนั่งคุยกันไปสักพัก ส่วนหนูน้อยเสี่ยวหนิงเหมิงก็นั่งเจื้อยแจ้วถามหาน้อยตัวน้อยอยู่ตลอดเวลา2 ชั่วโมงต่อมาแอดดดประตูห้องคลอดเปิดออกพร้อมแพทย์หญิงที่รับหน้าที่ทำคลอดเดินออกมา ทุกคนที่รออยู่ต่างก็รีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง"ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ""ภรรยากับลูกของผมปลอดภัยทั้งคู่ใช่ไหมครับคุณหมอ""น้องออกมายึยังค้า" (น้องออกมารึยังคะ)"ปลอดภัยทั้งแม่และลูกค่ะ คุณพ่อได้ลูกชายนะคะ อีกสักครู่คนไข้จะถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้น ติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"ใบหน้าคมคายของกู้อี้หานยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็มีลูกชายอย่างที่ต้องการ"...""ติดต่อไว้เรี
การบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้านผ่านไปด้วยดี วันต่อมากู้อี้หานและภรรยาก็เริ่มเตรียมสิ่งของช่วยเหลือ และส่งมอบให้กับพนักงานในห้างและพนักงานในบริษัทของตระกูลเวิน ก็ได้รับการช่วยเหลือด้วยเช่นกันอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เด็กมากกว่า 30 ชีวิตที่ต้องไร้ที่พึ่งพิง ไร้บ้านให้กลับไปอยู่อาศัย บ้านปันสุขจึงอ้าแขนรับพวกเขาทั้งหมดให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในครอบครัวใหญ่แห่งนี้เช่นเดียวกับผู้คนที่มีทุนทรัพย์ พอได้รู้ข่าวว่ามีการก่อตั้งบ้านปันสุข รวมไปถึงการบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้าน พวกเขาจึงนำสิ่งของที่มีอยู่มาร่วมบริจาคด้วยอีกแรงหนึ่ง ทางด้านหน่วยงานรัฐก็เร่งเข้ามาพูดคุณเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก ๆ ที่ต้องสูญเสียครอบครัวสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือทั้งจากคนใจบุญและเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลายฝ่ายร่วมมือกันจึงทำให้เรื่องร้าย ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี 7 เดือนต่อมาเดือนธันวาคมส่งท้ายปีเก่า เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว เสื้อผ้าคอลเลคชั่นหน้าหนาวที่เฉิงฮวนออกแบบไว้กว่า 10 ชุดมียอดสั่งซื้อถล่มทลาย ทำเอาโม่เยี่ยนซีกับฟ่านเหมยลี่ต้องขยายไลน์ผลิต เพื่อจะได้มีสินค้าส่งให้ลูก
รถสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโกดังเก็บของของชางหยวน โดยมีพนักงานที่เฝ้าอยู่เปิดประตูให้รถที่เจ้านายขับมาผ่านเข้าไปด้านใน แล้วปิดประตูอย่างมิดชิดตามคำสั่ง"หนิงซิน รอพี่แป้บนึงครับ รถสูงมันลงลำบาก"ดับเครื่องยนต์ได้ชางหยวนก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูให้หนิงซิน แล้วช่วยประคองเธอลงจนปลอดภัยดี"ขอบคุณค่ะคุณชางหยวน""เมื่อไหร่จะหายโกรธพี่ พี่ไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ"ชางหยวนไม่รู้ว่าเวลานี้เขาจะต้องทำยังไง ขอให้หนิงซินเปิดใจก็ว่ายากแล้ว แต่พอมีเรื่องที่สองแม่ลูกมาก่อเอาไว้ยิ่งทำให้ทุกอย่างยากเข้าไปอีก"ฉันทราบค่ะว่าคุณคงไม่ชอบผู้หญิงประเภทนั้น""ใช่ ใช่ครับพี่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนนั้น แต่พี่ชอบเธอนะหนิงซิน""แต่ฉันไม่เหมาะสม ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังนะคะ ฉันขอไปหยิบของให้เฉิงฮวนก่อน"หนิงซินเอากล่องกระดาษที่มีแผ่นรองกันกระแทกออกมาให้เฉิงฮวน 25 กล่อง ตามคำขอของสหาย พร้อมด้วยกล่องพลาสติกใสขนาดพอเหมาะกับการบรรจุผลไม้ออกมาเตรียมไว้อีกจำนวนมาก"ขอบใจเธอมากนะหนิงซิน""ไม่เป็นไร จำไว้ว่าเก็บเท่าที่เก็บไหว ฉันทำให้มันมีปริมาณเพิ่มขึ้นได้เท่าที่เธอต้องการ รู้ใช่ไหม""รู้แล้ว แต่ฉันก็ไม่อย
"เฉิงฮวน น้องเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมว่าเสื้อผ้าที่น้องออกแบบ 2 ชุดที่ถูกผลิตออกมา มีลูกค้าสั่งสินค้ามาแล้วกว่า 2 หมื่นชุดเลยนะ ราคาส่งออกจากโรงงานชุดละ 3 หยวน ค่าออกแบบของน้อง 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ตอนนี้น้องทำเงินได้ตั้ง 3,000 เลยนะ นี่จ้ะค่าออกแบบก้อนแรก"พอโม่เยี่ยนซีได้เห็นหน้าเฉิงฮวนก็รีบมอบรายได้ก้อนแรกให้กับเธอทันที เงิน 3,000 หยวนถือว่าเยอะมาในตอนนี้ หากเทียบกับพนักงานห้างคงต้องทำงานอยู่เกือบ 3 ปี กว่าจะหาเงินจำนวนนี้ได้"โห ได้ตั้ง 3,000 หยวนเลยเหรอคะ ฉันไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากนะคะพี่เยี่ยนซี พี่เหมยลี่"เฉิงฮวนรับซองเงินมาด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นเงินก้อนแรกที่เธอสามารถหามาได้ด้วยตัวของเธอเอง"นั่นยังน้อยไปนะเฉิงฮวน น้องรู้ไหมว่าชุดครอบครัวที่น้องใส่ไปเซี่ยงไฮ้รอบที่แล้วมีคนโทรมาจองไว้มากขนาดไหน"กู้เฉิงฮวนเองก็ตื่นเต้นกับคำพูดของฟ่านเหมยลี่ไม่น้อย เดือนก่อนเธออยู่เซี่ยงไฮ้และออกไปพบปะผู้คนมากมาย ทำให้เธอได้ฐานลูกค้าและแจกนามบัตรออกไปไม่น้อย แต่หลังจากกลับมาก็มีเรื่องยุ่ง ๆ จึงยังไม่มีเวลาเข้าไปหาพี่สาวทั้งสองที่โรงงานเลยสักครั้ง"เยอะเลยเหรอคะพี่เหมยลี่""แ
1 ชั่วโมงต่อมากู้อี้หานกลับมาถึงบ้านตระกูลกู้เพื่อแจ้งข่าวให้ภรรยารู้ ว่าสถานการณ์ที่บ้านปันสุขตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ก็ต้องตกใจกับข้าวของมากมายที่กองอยู่"ฮวนฮวน ของพวกนี้คืออะไรกัน ทำไมเต็มไปหมดแบบนี้ล่ะ"กู้เฉิงฮวนมองตามต้นเสียงของสามีที่เพิ่งเดินพ้นบันไดขึ้นมา โชคดีที่เธอกับหนิงซินเอาของออกมามากพอในระดับหนึ่งแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ ของพวกนี้หนิงซินอยากบริจาคให้กับชาวบ้านค่ะ หนูก็เลยจะช่วยแยกเป็นจำพวก พอจัดเป็นชุดแล้วค่อยนำไปบริจาคให้ทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ที่เกิดการเสียหาย"อี้หานกับชางหยวนหันมองหน้ากันเพียงครู่เดียว ก่อนจะหันกลับมองที่ที่คนของตน ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าพวกเธอมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะสามารถนำของออกมาได้มากมายขนาดนี้"หนิงซิน เฉิงฮวน พวกน้องต้องระวังตัวกันให้มาก ห้ามให้ใครรู้ว่าของพวกนี้มาจากไหน เข้าใจที่พี่ต้องการจะบอกใช่ไหม ถ้าพลาดทำให้คนอื่นเห็นผลที่ตามมาคงไม่ดีแน่ ๆ"ชางหยวนรีบย้ำเตือนกับทั้งสองสาวอีกครั้ง ที่จริงตอนที่นั่งรถกลับมาที่บ้านตระกูลกู้ เขาได้ปรึกษาเรื่องนี้กับสหายเอาไว้บ้างแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยเหลือคนงานของตัวเองด้วย"น้องรู้แล้ว
2 วันต่อมานายท่านเวินให้ทุกคนจัดเตรียมอาหารลงไปในห้องใต้ดินที่เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี โชคดีที่บ้านปันสุขเองก็มีห้องหลุมหลบภัยเช่นกัน เมื่อวานที่ผ่านมา ทุกคนช่วยกันจัดเตรียมเสบียงอาหารและน้ำ พร้อมกับยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะหน้าลงไปไว้ทั้งหมดตัวท่านเลือกที่จะไปอยู่ที่บ้านปันสุขพร้อมกับคนงานชายและคนขับรถ เพื่อช่วยกันดูแลเด็ก ๆ มุมหนึ่งก็เพื่อให้พวกเขาอุ่นใจว่าไม่มีใครคิดทอดทิ้ง ผ่านมรสุมครั้งนี้ไปคาดว่าคงมีเรื่องที่ต้องจัดการกันอีกมากเปรี๊ยง วิว วิว หวี๊ดดด เปรี๊ยง ซ่า ซ่า ซ่าภายนอกอาคารในตอนนี้ถูกลมมรสุมถล่มจนมืดฟ้ามัวดิน โชคดีที่ทุกคนยังวิ่งลงมาหลบที่ห้องใต้ดินได้ทัน"ป๊ะป๋า เสียงไยหย๋อ เหมิงเหมิงกัว"หนูน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มแล้วนั่งอยู่บนตักของบิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ไฟดับไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาในห้องชื้น ๆ นี้เลยแม้แต่น้อย มีเพียงแสงไปจากตะเกียงเท่านั้นที่ส่องสว่างให้ทุกคนผ่านพ้นคืนที่มืดมิดนี้ไปให้ได้"แค่เสียงลมครับลูก หนูไม่ต้องกลัวนะ ป๊ะป๋ากับแม่จ๋าอยู่ตรงนี้แล้ว ป๊ะป๋าจะกอดหนูไว้แน่น ๆ เลยดีไหม""อื้อ กอกแน่ง ๆ " (กอดแน่น ๆ)"ฮวนฮวน ถ้าหนูเ