กลับมาครั้งนี้กู้เฉิงฮวนปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่จนกลายเป็นคุณแม่สุดแซ่บ ทิ้งคราบยัยเฉิ่มเชยคนเก่าแล้วใชีชีวิตในแบบที่ไม่เคยลองทำมาก่อน
View More'อย่าทำแบบนั้นลูก! ฮึก หนิงเหมิงลูกอย่ายิงเค้า อย่าเอาอนาคตของตัวเองไปแลกกับคนแบบนั้น'
ปั้ง!
กรี๊ดดด
"เรียกตำรวจมาเร็วเข้า นังเด็กบ้านั่นมันกำลังจะหนีแล้ว นังฆาตกร! จับตัวมันไว้เร็วเข้า มันยิงลูกสาวของฉัน"
"ฮึก พวกแกต่างหากที่เป็นฆาตกร พวกแกฆ่าคุณตา ฆ่าแม่ของฉัน แถมยังทำให้พ่อของฉันตรอมใจจนตาย สมควรแล้วที่พวกแกต้องชดใช้แบบนี้"
'โธ่ลูกแม่ ฮื้ออ แม่ผิดเองที่อ่อนแอ สมองนิ่ม ยอมให้คนพวกนั้นปั่นหัว ฮึก หากแม่เข้มแข็งกว่านี้ลูกคงไม่ต้องลงเอยแบบนี้ เสี่ยวหนิงเหมิงของแม่'
ดวงวิญญาณของ กู้เฉิงฮวน ร้องไห้เจียนขาดใจกับภาพตรงหน้า ตอนนี้ลูกสาวของเธอกลายเป็นฆาตกร ตราบาปนี้จะต้องติดตัวลูกเธอไปจนวันตาย ไม่มีใครสนว่าคนที่ถูกยิงเคยทำเรื่องร้ายกาจอะไรมาก่อน
ตอนนี้ในสายตาของทุกคน มีเพียง กู้หนิงเหมิง ลูกสาวของเธอเท่านั้นที่เป็นคนชั่วร้ายที่สุด ไม่นานตำรวจที่อยู่ใกล้พื้นที่ก็เข้ามาจับกุมลูกสาวของเธอไปดำเนินคดีตามกฎหมาย กู้เฉิงฮวนยอมตายอีกเป็นร้อยเป็นพันครั้งหากช่วยลูกสาวของเธอได้
เสี่ยวหนิงเหมิงเพิ่งอายุ 15 ปีเท่านั้น แต่ก็ต้องไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในเรือนจำเสียแล้ว วิญญาณของกู้เฉิงฮวนตามลูกสาวไปทุกแห่งหน ในขณะเดียวกันเรื่องราวในอดีตก็ตามวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ หากเธอไม่เชื่อคนง่าย ทุกอย่างคงไม่ลงเอยแบบนี้
13 ปีก่อน
เวินเฉิงฮวนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเศรษฐีเวินซีฮัน พ่อหม้ายหนุ่มพราวเสน่ห์ เขาแต่งงานใหม่อีกครั้งกับแม่หม้ายลูกติด นางชื่อ หลิงเจียอี ลูกของนางชื่อ หลิงจินเยว่ ทั้งคู่เข้ากันได้ดีกับเวินเฉิงฮวนแต่นั้นมาเวินซีฮันจึงยกหน้าที่ดูแลลูกให้กับหลิงเจียอี แต่ใครจะไปคิดว่านางเพียงแค่แสร้งทำดีเท่านั้น
สิ่งของสวยงามนางหลิงเจียอีต่างบอกว่าไม่เหมาะกับเวินเฉิงฮวน ของดี ๆ นางล้วนแต่เก็บไว้ให้ลูกสาวของตนเองทั้งหมด พร้อมกับเป่าหูลูกเลี้ยงให้เชื่อฟังทุกอย่างที่นางบอก เพราะนางหวังดีกับเวินเฉิงฮวนเสมอ
เด็กสาวใสซื่อเวินเฉิงฮวน สิ่งไหนที่แม่เลี้ยงบอกว่าเป็นเรื่องดี นางก็โอนอ่อนตามโดยง่าย ไม่เคยนึกสงสัยหรือหวาดระแวง ไม่ระแวดระวังตัวเลยสักครั้ง กระทั่งนางได้แต่งงานกับชายที่บิดาหาให้ แม่เลี้ยงของนางพยายามยัดเยียดบุตรสาวของตนแทนที่เวินเฉิงฮวนแต่ก็ไม่เป็นผล
นับแต่นั้นเป็นต้นมานางหลิงเจียอีจึงเริ่มวางยาพิษ เศรษฐีเฒ่าเวินซีฮัน ทีละนิดเพื่อให้ร่างกายของเขาค่อย ๆ อ่อนแรงลง ในเวลาเดียวกันก็วางแผนให้บุตรสาวพยายามเข้าหาสามีของกู้เฉิงฮวน แต่กู้อี้หานก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครเข้าหาได้โดยง่าย เพราะคนที่เขารักมีเพียงกู้เฉิงฮวนเท่านั้น (หลังจากนี้นางเอกแต่งงานแล้ว ไรต์ต้องเปลี่ยนมาใช้แซ่ของสามีแทนแซ่เวินแล้วนะคะ)
เมื่อสองแม่ลูกเข้าหากู้อี้หานไม่สำเร็จ ขณะนั้นกู้เฉิงฮวนก็ตั้งท้องลูกคนแรก กู้อี้หานจึงดูแลนางไม่ห่างจนสองคนแม่ลูกไม่อาจเข้าใกล้กู้เฉิงฮวนได้ จนเวลาผ่านไป กู้เฉิงฮวนได้คลอดลูกสาวชื่อกู้หนิงเหมิง หรือ เสี่ยวหนิงเหมิง เจ้าก้อนมะนาวน้อย
งานของกู้อี้หานเริ่มไปได้ดี จึงมีเวลาไม่มากพอจะมาดูแลลูกเมีย นางหลิงเจียอีและลูกสาวที่รอเวลานี้อยู่นานแล้วจึงเริ่มทำการวางยาชนิดเดียวกันที่ใช้กับเศรษฐีเฒ่าเวินซีฮัน ขณะเดียวกันก็เป่าหูให้นางระแวงสามี จนกู้เฉิงฮวนตามไปอาละวาดกู้อี้หานที่โรงแรมอยู่บ่อยครั้ง
พักหลังมา ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาเริ่มเหินห่าง กู้เฉิงฮวนนึกน้อยใจสามีบวกกับพิษจากยาที่แม่เลี้ยงใส่ให้นางกินในปริมาณที่มากขึ้น คนในบ้านต่างก็คิดว่าอาการของนางมาจากการตรอมใจ หลังจากที่มีปัญหากับสามีจึงไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยว
พอกู้อี้หานกลับมาบ้านหลังจากไปทำงานต่างเมืองหลายเดือนก็พบว่า ตอนนี้ภรรยาของตนซูบผอมไม่มีเรี่ยวแรงลุกนั่ง นั่นจึงทำให้เขาโทษว่าเป็นความผิดของตน ไม่นานเศรษฐีเฒ่าเวินซีฮันก็สิ้นใจ นางหลิงเจียอีทำพินัยกรรมปลอม ทรัพย์สมบัติทั้งหมดจึงตกเป็นของนางเพียงคนเดียว
ครั้นสืบหาความจริงกว่าจะรู้ว่าภรรยากับพ่อตาถูกวางยาพิษก็สายไปเสียแล้ว กู้เฉิงฮวนเสียชีวิตห่างจากบิดาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ตอนนั้นกู้หนิงเหมิงมีอายุเพียง 2 ขวบ กู้อี้หานได้พาลูกสาวไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของตนเอง
หลายปีต่อมากู้อี้หานยังหาทุกหนทางเพื่อจะแก้แค้นให้ภรรยา แต่ก็ไม่สำเร็จ นานวันเข้าเขาก็ตรอมใจแล้วจากโลกไปตอนที่กู้หนิงเหมิงอายุเพียง 10 ขวบ แม้จะมีผู้เป็นลุงทั้ง 4 คนคอยเคียงข้าง แต่ความอบอุ่นไม่อาจสู้อยู่กับบิดามารดาได้
จานนั้นมากู้หนิงเหมิงก็กลายเป็นเด็กเก็บกด ก้าวร้าว ชอบไปขลุกตัวอยู่กับพวกอันธพาล จากผ้าสีขาวบริสุทธิ์บัดนี้แปดเปื้อนไปด้วยสีสันดำมืด จึงนำพามาสู่เหตุฆาตกรรมในวันนี้ แต่สิ่งเดียวที่หนูน้อยไม่เคยรู้นั่นก็คือ วิญญาณของกู้เฉิงฮวนผู้เป็นมารดา ยังคงวนเวียนอยู่ข้างกายมานานนับ13 ปีไม่เคยห่างหาย
กลับมาที่ปัจจุบัน
ในขณะที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวกู้หนิงเหมิงไปที่สถานีตำรวจ แต่ดวงวิญญาณของกู้เฉิงฮวนที่กำลังจะตามไป กลับมีพลังบางอย่างดึงนางให้ไปที่ไหนสักแห่งที่นางไม่รู้จัก
"ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ ฮึก ฉันขอร้อง ฉันเป็นห่วงลูกของฉัน ได้โปรด!"
ดินแดนสุขาวดี
"นี่คือที่ไหนกัน"
เสียงนกร้องขับขาน เหมือนมีเพลงบรรเลงอยู่ตลอดเวลา รายรอบด้วยภูเขาเขียวขจี พืชผักนานาพันธุ์อวบอ้วนน่ากิน ไม่ไกลนักมีสระบัวส่งกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่วบริเวณ ถัดไปเป็นบ่อมรกตที่มีตาน้ำพิสุทธิ์ผุดขึ้นมาตลอด
"ที่ไหนสำคัญอย่างไร เราผู้เฒ่ามีสิ่งอยากจะสอบถามเจ้าสัก 2-3 ประโยคได้หรือไม่"
ชายชราชุดขาว ผมสีขาวยาวสยายถึงกลางหลัง หนวดเครายาวเฟื้อยล้วนเป็นสีขาวทั้งหมด กู้เฉิงฮวนจ้องมองดูคนผู้นั้นในยามเดินเหมือนมีสายลมพัดพา ราวกับว่ามีเวทมนตร์นำพาให้เธอได้มายังที่นี่
"ได้ค่ะ แต่..ท่านเป็นใครเหรอคะ"
"เราผู้เฒ่าคือผู้ที่จะให้โอกาสเจ้า หากเจ้าต้องการ เราสามารถทำให้เจ้ากลับไปยังวันวานได้อีกครั้ง แก้ไขทุกอย่างให้ถูกให้ควร เจ้าไม่ควรไว้ใจผู้อื่นเช่นนั้น"
"จะ..จริงเหรอคะ ฮึก ได้โปรดอย่าหลอกฉันเลยนะคะ"
สีหน้าของกู้เฉิงฮวนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความหวัง หากเธอสามารถกลับไปยังอดีตได้ เธอสาบานว่าจะใช้ทุกนาทีให้มีค่า
"หากเจ้าต้องการก็ย่อมได้ แต่มีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน"
"แลกเปลี่ยน แลกด้วยอะไรคะ"
"กุศล สระมรกตแห่งนั้นมีตาน้ำพิสุทธิ์ ที่สามารถชะล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในร่างกายได้ ไม่ว่ายาพิษชนิดรุนแรงในโลกมนุษย์ที่ไม่สามารถหายารักษาได้ เพียงแค่ใช้น้ำในสระนี้ดื่มกินเข้าไปเพียง 1 กลืนเท่านั้นก็จะเห็นผลในชั่วข้ามคืน"
"ท่านจะให้ฉันใช้น้ำพิสุทธิ์ในบ่อนี้ช่วยคนเหรอคะ"
"ช่วงเวลาที่เจ้าจากมา บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายโกลาหล หลายคนต้องสูญเสียโดยใช่เหตุ บ้างก็ต้องสูญเสียเพราะความละโมบของผู้อื่น เช่นครอบครัวของเจ้า ดังนั้นเจ้าควรสร้างกุศลใหญ่ ให้โอกาส ให้ชีวิตกับคนที่คู่ควรเท่านั้น"
"ตกลงค่ะ ฉันตกลง!"
ชายชราลูบที่เคราของตนเองในขณะที่ใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยเตือนแก่กู้เฉิงฮวนอีกครั้ง
"ระวังอย่าหลงกลคนโลภ ไม่เช่นนั้นเรื่องน้ำพิสุทธิ์นี่จะก่อให้เกิดเรื่องร้ายแรงครั้งใหญ่ เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
"นี่คือวิธีใช้ของในมิตินี้ ส่วนนี่ เป็นแหวนที่ต้องใช้ในการเข้าออกที่แห่งนี้ มีเพียงเจ้าที่มองเห็นมัน นอกจากเจ้าจะต้องการให้คนผู้นั้นได้ล่วงรู้ จึงจะสามารถเห็นได้"
"มิติ?"
ยังไม่ทันได้เอ่ยถามต่อ วิญญาณของกู้เฉิงฮวนก็ถูกดึงดูดไปที่ไหนสักแห่ง หรืออาจจะเป็นที่ที่นางจากมา...
กู้อี้หานเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องคลอดด้วยความตื่นเต้น นายท่านเวินกับยัยหนูเหมิง รวมไปถึงป้าหวัง เฉินเทียนที่จอดรถเสร็จก็รีบตามมาสมทบที่หน้าห้องคลอดทันที"เป็นยังไงบ้างอี้หาน""ป๊ะป๋า น้องอยู่หนายหย๋อ"ร่างเล็กของหนูน้อยหนิงเหมิงถูกคนเป็นพ่ออุ้มขึ้นไว้แนบอก "ยังไงมีใครออกมาเลยครับคุณพ่อ คงต้องรออีกสักพัก คุณพ่อนั่งพักก่อนเถอะครับ""ไม่ต้องกังวลนะอี้หาน เฉิงฮวนต้องปลอดภัยแน่นอน""ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับคุณพ่อ"พ่อตากับลูกเขยนั่งคุยกันไปสักพัก ส่วนหนูน้อยเสี่ยวหนิงเหมิงก็นั่งเจื้อยแจ้วถามหาน้อยตัวน้อยอยู่ตลอดเวลา2 ชั่วโมงต่อมาแอดดดประตูห้องคลอดเปิดออกพร้อมแพทย์หญิงที่รับหน้าที่ทำคลอดเดินออกมา ทุกคนที่รออยู่ต่างก็รีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง"ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ""ภรรยากับลูกของผมปลอดภัยทั้งคู่ใช่ไหมครับคุณหมอ""น้องออกมายึยังค้า" (น้องออกมารึยังคะ)"ปลอดภัยทั้งแม่และลูกค่ะ คุณพ่อได้ลูกชายนะคะ อีกสักครู่คนไข้จะถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้น ติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"ใบหน้าคมคายของกู้อี้หานยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็มีลูกชายอย่างที่ต้องการ"...""ติดต่อไว้เรี
การบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้านผ่านไปด้วยดี วันต่อมากู้อี้หานและภรรยาก็เริ่มเตรียมสิ่งของช่วยเหลือ และส่งมอบให้กับพนักงานในห้างและพนักงานในบริษัทของตระกูลเวิน ก็ได้รับการช่วยเหลือด้วยเช่นกันอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เด็กมากกว่า 30 ชีวิตที่ต้องไร้ที่พึ่งพิง ไร้บ้านให้กลับไปอยู่อาศัย บ้านปันสุขจึงอ้าแขนรับพวกเขาทั้งหมดให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในครอบครัวใหญ่แห่งนี้เช่นเดียวกับผู้คนที่มีทุนทรัพย์ พอได้รู้ข่าวว่ามีการก่อตั้งบ้านปันสุข รวมไปถึงการบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้าน พวกเขาจึงนำสิ่งของที่มีอยู่มาร่วมบริจาคด้วยอีกแรงหนึ่ง ทางด้านหน่วยงานรัฐก็เร่งเข้ามาพูดคุณเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก ๆ ที่ต้องสูญเสียครอบครัวสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือทั้งจากคนใจบุญและเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลายฝ่ายร่วมมือกันจึงทำให้เรื่องร้าย ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี 7 เดือนต่อมาเดือนธันวาคมส่งท้ายปีเก่า เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว เสื้อผ้าคอลเลคชั่นหน้าหนาวที่เฉิงฮวนออกแบบไว้กว่า 10 ชุดมียอดสั่งซื้อถล่มทลาย ทำเอาโม่เยี่ยนซีกับฟ่านเหมยลี่ต้องขยายไลน์ผลิต เพื่อจะได้มีสินค้าส่งให้ลูก
รถสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโกดังเก็บของของชางหยวน โดยมีพนักงานที่เฝ้าอยู่เปิดประตูให้รถที่เจ้านายขับมาผ่านเข้าไปด้านใน แล้วปิดประตูอย่างมิดชิดตามคำสั่ง"หนิงซิน รอพี่แป้บนึงครับ รถสูงมันลงลำบาก"ดับเครื่องยนต์ได้ชางหยวนก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูให้หนิงซิน แล้วช่วยประคองเธอลงจนปลอดภัยดี"ขอบคุณค่ะคุณชางหยวน""เมื่อไหร่จะหายโกรธพี่ พี่ไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ"ชางหยวนไม่รู้ว่าเวลานี้เขาจะต้องทำยังไง ขอให้หนิงซินเปิดใจก็ว่ายากแล้ว แต่พอมีเรื่องที่สองแม่ลูกมาก่อเอาไว้ยิ่งทำให้ทุกอย่างยากเข้าไปอีก"ฉันทราบค่ะว่าคุณคงไม่ชอบผู้หญิงประเภทนั้น""ใช่ ใช่ครับพี่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนนั้น แต่พี่ชอบเธอนะหนิงซิน""แต่ฉันไม่เหมาะสม ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังนะคะ ฉันขอไปหยิบของให้เฉิงฮวนก่อน"หนิงซินเอากล่องกระดาษที่มีแผ่นรองกันกระแทกออกมาให้เฉิงฮวน 25 กล่อง ตามคำขอของสหาย พร้อมด้วยกล่องพลาสติกใสขนาดพอเหมาะกับการบรรจุผลไม้ออกมาเตรียมไว้อีกจำนวนมาก"ขอบใจเธอมากนะหนิงซิน""ไม่เป็นไร จำไว้ว่าเก็บเท่าที่เก็บไหว ฉันทำให้มันมีปริมาณเพิ่มขึ้นได้เท่าที่เธอต้องการ รู้ใช่ไหม""รู้แล้ว แต่ฉันก็ไม่อย
"เฉิงฮวน น้องเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมว่าเสื้อผ้าที่น้องออกแบบ 2 ชุดที่ถูกผลิตออกมา มีลูกค้าสั่งสินค้ามาแล้วกว่า 2 หมื่นชุดเลยนะ ราคาส่งออกจากโรงงานชุดละ 3 หยวน ค่าออกแบบของน้อง 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ตอนนี้น้องทำเงินได้ตั้ง 3,000 เลยนะ นี่จ้ะค่าออกแบบก้อนแรก"พอโม่เยี่ยนซีได้เห็นหน้าเฉิงฮวนก็รีบมอบรายได้ก้อนแรกให้กับเธอทันที เงิน 3,000 หยวนถือว่าเยอะมาในตอนนี้ หากเทียบกับพนักงานห้างคงต้องทำงานอยู่เกือบ 3 ปี กว่าจะหาเงินจำนวนนี้ได้"โห ได้ตั้ง 3,000 หยวนเลยเหรอคะ ฉันไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากนะคะพี่เยี่ยนซี พี่เหมยลี่"เฉิงฮวนรับซองเงินมาด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นเงินก้อนแรกที่เธอสามารถหามาได้ด้วยตัวของเธอเอง"นั่นยังน้อยไปนะเฉิงฮวน น้องรู้ไหมว่าชุดครอบครัวที่น้องใส่ไปเซี่ยงไฮ้รอบที่แล้วมีคนโทรมาจองไว้มากขนาดไหน"กู้เฉิงฮวนเองก็ตื่นเต้นกับคำพูดของฟ่านเหมยลี่ไม่น้อย เดือนก่อนเธออยู่เซี่ยงไฮ้และออกไปพบปะผู้คนมากมาย ทำให้เธอได้ฐานลูกค้าและแจกนามบัตรออกไปไม่น้อย แต่หลังจากกลับมาก็มีเรื่องยุ่ง ๆ จึงยังไม่มีเวลาเข้าไปหาพี่สาวทั้งสองที่โรงงานเลยสักครั้ง"เยอะเลยเหรอคะพี่เหมยลี่""แ
1 ชั่วโมงต่อมากู้อี้หานกลับมาถึงบ้านตระกูลกู้เพื่อแจ้งข่าวให้ภรรยารู้ ว่าสถานการณ์ที่บ้านปันสุขตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ก็ต้องตกใจกับข้าวของมากมายที่กองอยู่"ฮวนฮวน ของพวกนี้คืออะไรกัน ทำไมเต็มไปหมดแบบนี้ล่ะ"กู้เฉิงฮวนมองตามต้นเสียงของสามีที่เพิ่งเดินพ้นบันไดขึ้นมา โชคดีที่เธอกับหนิงซินเอาของออกมามากพอในระดับหนึ่งแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ ของพวกนี้หนิงซินอยากบริจาคให้กับชาวบ้านค่ะ หนูก็เลยจะช่วยแยกเป็นจำพวก พอจัดเป็นชุดแล้วค่อยนำไปบริจาคให้ทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ที่เกิดการเสียหาย"อี้หานกับชางหยวนหันมองหน้ากันเพียงครู่เดียว ก่อนจะหันกลับมองที่ที่คนของตน ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าพวกเธอมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะสามารถนำของออกมาได้มากมายขนาดนี้"หนิงซิน เฉิงฮวน พวกน้องต้องระวังตัวกันให้มาก ห้ามให้ใครรู้ว่าของพวกนี้มาจากไหน เข้าใจที่พี่ต้องการจะบอกใช่ไหม ถ้าพลาดทำให้คนอื่นเห็นผลที่ตามมาคงไม่ดีแน่ ๆ"ชางหยวนรีบย้ำเตือนกับทั้งสองสาวอีกครั้ง ที่จริงตอนที่นั่งรถกลับมาที่บ้านตระกูลกู้ เขาได้ปรึกษาเรื่องนี้กับสหายเอาไว้บ้างแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยเหลือคนงานของตัวเองด้วย"น้องรู้แล้ว
2 วันต่อมานายท่านเวินให้ทุกคนจัดเตรียมอาหารลงไปในห้องใต้ดินที่เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี โชคดีที่บ้านปันสุขเองก็มีห้องหลุมหลบภัยเช่นกัน เมื่อวานที่ผ่านมา ทุกคนช่วยกันจัดเตรียมเสบียงอาหารและน้ำ พร้อมกับยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะหน้าลงไปไว้ทั้งหมดตัวท่านเลือกที่จะไปอยู่ที่บ้านปันสุขพร้อมกับคนงานชายและคนขับรถ เพื่อช่วยกันดูแลเด็ก ๆ มุมหนึ่งก็เพื่อให้พวกเขาอุ่นใจว่าไม่มีใครคิดทอดทิ้ง ผ่านมรสุมครั้งนี้ไปคาดว่าคงมีเรื่องที่ต้องจัดการกันอีกมากเปรี๊ยง วิว วิว หวี๊ดดด เปรี๊ยง ซ่า ซ่า ซ่าภายนอกอาคารในตอนนี้ถูกลมมรสุมถล่มจนมืดฟ้ามัวดิน โชคดีที่ทุกคนยังวิ่งลงมาหลบที่ห้องใต้ดินได้ทัน"ป๊ะป๋า เสียงไยหย๋อ เหมิงเหมิงกัว"หนูน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มแล้วนั่งอยู่บนตักของบิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ไฟดับไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาในห้องชื้น ๆ นี้เลยแม้แต่น้อย มีเพียงแสงไปจากตะเกียงเท่านั้นที่ส่องสว่างให้ทุกคนผ่านพ้นคืนที่มืดมิดนี้ไปให้ได้"แค่เสียงลมครับลูก หนูไม่ต้องกลัวนะ ป๊ะป๋ากับแม่จ๋าอยู่ตรงนี้แล้ว ป๊ะป๋าจะกอดหนูไว้แน่น ๆ เลยดีไหม""อื้อ กอกแน่ง ๆ " (กอดแน่น ๆ)"ฮวนฮวน ถ้าหนูเ
Comments