ตอนที่ 5 แรงแค้นกลางค่ำคืนที่เงียบสงัด… แสงจากตะเกียงน้ำมันเพียงดวงเดียวส่องแสงสลัวภายในเรือน คัมภีร์ไม่อยู่เขาออกไปทำพิธีตามที่มีคนร้องขอชบานั่งกอดเข่าที่มุมห้องด้วยความอ่อนล้า ข้อเท้าเต็มไปด้วยรอยถลอกจากการถูกจองจำในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีเพียงเสียงฝีเท้าของคัมภีร์ที่เข้ามาสร้างบาดแผลใหม่ในจิตใจของเธอแทบทุกคืนแต่คืนนี้กลับผิดแปลกไป เสียงประตูไม้ถูกแง้มออกเบา ๆ เงาร่างของลั่นทมในชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาพร้อมกับชายฉกรรจ์สองคนร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของเธอฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มเย็นชาจนชบาขนลุก"คืนนี้พี่ไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกแล้วนะคะ" ลั่นทมพูดเสียงหวาน แต่แฝงไปด้วยพิษร้ายชบาขยับตัวถอยหนีไปจนชิดมุมกำแพงเมื่อเห็นสายโซ่ถูกปลดออกจากข้อเท้า แต่แทนที่จะปลดปล่อยอิสรภาพ มันกลับพันธนาการใหม่เพื่อส่งเธอเข้าสู่ขุมนรกบทใหม่"ลั่นทม...เธอจะทำอะไร!" ชบาพยายามตะโกนแต่ถูกชายฉกรรจ์สองคนล็อกแขนทั้งสองข้างแน่น"พี่รู้ไหมคะ..." ลั่นทมเดินเข้ามาใกล้จนแทบแนบใบหน้ากับชบา"ฉันเคยคิดว่า ถ้าพี่หายไปสักวัน… คัมภีร์คงจะเห็นค่าฉันบ้าง"เสียงของลั่นทมเริ่มสั่นน้อย ๆ ก่อนจะระเบิดความคับแค้นออกมาด้วยดวงตาสีเข้มเป็นประกายคลั่ง
ตอนที่ 3 ได้โปรดลงโทษแรง ๆภายในห้องนอนสลัวไปด้วยแสงไฟจากโคมบนหัวเตียง กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงแปลกปลอมลอยปะปนกับอากาศเย็น ๆ ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีเชื้อเชิญ ปากยิ้มเย้ายวน ขณะที่มือเลื่อนไปตามต้นแขนของคัมภีร์ อย่างไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงหมากในเกมทดสอบหัวใจเขาไม่แม้แต่จะมองเธอเต็มตา สายตาคมเหยียดไปมุมมืดตรงนั้นที่มีโซ่ตรวนพันธนาการไว้อยู่ และร่างบางในมุมนั้นกำลังมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวภายในห้อง“พี่คัมภีร์แน่ใจเหรอคะ... ว่าคืนนี้พี่อยากให้ฉันอยู่” เสียงผู้หญิงตรงหน้าแผ่วลง แต่ยังไม่ยอมหยุดมือที่ลูบไล้ร่างหนากำยำของเขาเขาไม่ตอบ เพียงแต่ปล่อยให้มือเรียวนั้นลูบไล้ ขณะที่ตาเขาเอาแต่จ้องไปยังรอยเงาของเธอที่อยู่มุมห้องเธอเห็นแน่ เพราะเขาต้องการให้เธอเห็นเพื่ออะไรน่ะหรือ เพื่อให้เธอเจ็บ เพื่ออยากให้เธอหึง อยากเห็นเธอวิ่งเข้ามากอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นแต่สิ่งที่คัมภีร์ได้กลับเป็น... ความเงียบความเงียบที่แทงลึกจนหัวใจเขาร้าวเขาเห็นเงาเธอนั่งกอดเข่านิ่ง ไม่ขยับ ไม่แม้แต่จะหลบหรือหันหนี ราวกับพร้อมจะทนดูทุกอย่างด้วยสีหน้าว่างเปล่าแต่จริง ๆ แล้วชบากำลังอดทน กำมือแน่นจนเล็บจิกเข้
จังหวะสุดท้ายที่หมอคัมภีร์ปลดปล่อยความร้อนลึกเข้าไปในร่างเธอ ราวกับกระแทกเข้าไปถึงวิญญาณร่างของชบาสั่นสะท้าน เธอรู้สึกถึงพลังงานมหาศาลไหลเวียนผ่านกลางกายหัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิด แล้วภาพก็วูบดับไป ก่อนสติจะดับสิ้น เธอจำได้แค่ว่าตัวเองกรีดร้องเสียงแหลม… แล้วความมืดก็กลืนกินทุกอย่างในฝัน…เงาของอดีตชาติที่ถูกลืมร่างของชบาหล่นวูบลงสู่ห้วงลึกแห่งจิตใจ โลกหมุนย้อนกลับ ภาพของชบาในร่างหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดโบราณ ปรากฏขึ้นกลางแสงจันทร์ข้างกายคือเรือนไทยกลางป่า เสียงระฆังสั่นเบา ๆ ดังลอดมากับกลิ่นคาวของวิญญาณ“พี่ชบา…” เสียงหนึ่งกระซิบ เรียกเธอกลับไปสู่ความจริงในอดีตจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม ลั่นทม หญิงสาวผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายชบา ดวงตาเปล่งแสงคลุ้มคลั่ง ยืนอยู่ตรงหน้า เธอไม่ใช่เพียงน้องสาวแท้ แต่คือผู้เริ่มจุดไฟนรกทั้งหมดด้วยความอิจฉา“ข้ารักพี่คัมภีร์ก่อน! ข้าคือคนที่เห็นพี่คัมภีร์ก่อน! แล้วทำไมเขาถึงไม่มองข้าเลยวะ!”แม้จะให้ท่า ยั่วยวนเพียงใดแต่คัมภีร์กลับยืนยันหนักแน่น ว่ารักเพียงชบา“ลั่นทมเอ็งคือน้องสาวของชบาคือครอบครัวของคนที่ข้ารัก ข้าจะไม่แตะต้องเอ็งไม่ว่าเอ็งจะทำอะไร!”คำพูดนั้
ตอนที่ 1: ผูกกรรมน้ำอบกลิ่นมะลิลอยอ้อยอิ่งในห้องอับชื้น กลบกลิ่นสมุนไพรแห้งที่ถูกบดจนกลายเป็นผงแต่ไม่มีสิ่งใดกลบกลิ่นตัณหาที่กำลังค่อย ๆ แผ่คลุมห้องหมอผีเถื่อนเบื้องหน้าได้เลย“ฉันมาขอ..ให้พ่อหมอ ทำของให้ผัวฉันกลับมา...”เสียงแผ่วพร่าของ “ชบา” เจ้าของร้านน้ำอบในตลาดโบราณดังลอดออกมาจากริมฝีปากแดงเรื่อที่ยังไม่ทันได้แตะพานหมากหน้าพ่อหมอแต่แทนที่หมอผีจะยื่นมือรับ เขากลับลุกขึ้นจากเบาะหนังเสือด้วยแววตาคมดุดัน ดวงตาคู่นั้นคมเหมือนเคยสาปเธอไว้แต่ชาติปางก่อน“มึงยังกล้ามาเหยียบที่ของกูอีกเหรอชบา”เธอชะงัก หัวใจเต้นแรงด้วยความงุนงงและหวาดหวั่น ชื่อของเธอหลุดออกจากปากเขาได้อย่างไร ทั้งที่ไม่เคยบอก “มึงมันคนทรยศ หักหลังกูทำให้กูต้องถูกเผาทั้งเป็น”เสียงของเขาต่ำและหน่วงเหมือนคาถาที่ถูกท่องในลมหายใจ ชบาขนลุกซู่ไปทั้งตัวเมื่อมือหนา ๆ ของหมอคัมภีร์คว้าข้อมือเธอไปแนบกับอกเปลือยเปล่าของเขาผิวร้อนราวกับมีไฟเผาภายใน“แต่ในเมื่อตอนนี้ มึงกลับมาหากูอีกครั้ง กูจะไม่ปล่อยมึงไปไหนอีกแล้ว”เธอสะดุ้งเมื่อแผ่นหลังชนกับเสาไม้ท่อนใหญ่ด้านในเรือนของพ่อหมอ เสียงพระเครื่องที่ห้อยอยู่ตามผนังสั่นไหวตามแรงสะบัดของ
ตอนที่ 8 ทำลูกณ หอไป๋หลีบรรยากาศภายในห้องประชุมของหอไป๋หลี่คึกคักกว่าทุกวัน เหล่าบุรุษชั้นดีของเมืองต่างรวมตัวกันอย่างสบายอารมณ์ เหล้าอย่างดีหนึ่งไหกับเรื่องพูดคุยสัพเพเหระ และแน่นอนไม่มีหัวข้อใดหลีกพ้นเรื่องสตรีงาม“เมื่อวานข้าเจอแม่นางผู้หนึ่งในหอประมูลเย่ว์ฮวา งามนัก...”“แต่ข้าว่า แม่นางเมิ่งจากคณะงิ้วซิ่วอวี๋ก็งามหยดย้อยไม่แพ้กัน”เสียงหัวเราะครื้นเครงดังลั่น แต่สายตาหลายคู่กลับเหลือบมองอวี้เทียนเป็นพัก ๆ เพราะรู้กันดีว่า เขาคือบุรุษผู้ครอง สตรีที่เลื่องลือว่างดงามที่สุดในเมือง“ว่าแต่ อวี้เทียน ข้าได้ยินว่าฮูหยินของท่าน ถึงกับทำเหล่าคุณชายอกหัก”เสียงหนึ่งแหย่ขึ้น กลุ่มบุรุษพากันหัวเราะคิกคัก รอฟังคำตอบอย่างสนุกสนาน ครั้งก่อนเขาอาจเพียงยักไหล่เงียบเฉย แต่ครานี้อวี้เทียนกลับยกจอกขึ้นยิ้มบาง ๆ แล้วว่าเสียงมั่นคง“ก็จริง...ฮูหยินของข้างามนัก งามจนข้าไม่อาจละสายตาได้เลย”คำพูดธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“และนางก็งดงาม ไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้า หากแต่รวมถึงจิตใจ และแม้แต่น้ำเสียงยามดุด่าข้าก็ยังไพเราะมข้า...โชคดีที่มีนางเป็นภรรยา”บรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนไป จากความหยอกเย้า กลาย
ตอนที่ 7 คลั่งรักฮูหยินอวี้เทียนยืนนิ่ง ร่างสูงสง่าในชุดคลุมสีหม่นดูเหมือนผู้พ่ายแพ้อย่างแท้จริง ใบหน้าของเขา เหมือนคนกำลังจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ดวงตาสั่นไหวเจ็บลึก จนกระทั่ง...นางหยุดพูด ริมฝีปากบางเม้มแน่นเล็กน้อย ก่อนจะขยับช้า ๆ ยกมือเรียวขึ้นไปแตะแก้มของเขาเบา ๆ ปลายนิ้วสั่นน้อย ๆ แต่มั่นคง อวี้เทียนสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำกลัวว่าสัมผัสนี้จะหายไปหากเขาขยับ“อวี้เทียน…”เสียงนางแผ่วเบา... อ่อนโยน แต่นุ่มลึกจนน้ำตาเขาแทบไหลออกมาในวินาทีนั้น นางยิ้มอ่อน ดวงตายังคงเปียกชื้น ปลายนิ้วนางปาดน้ำตาบนแก้มของเขา พร้อมพูดคำที่เขาเฝ้ารแทบไม่เชื่อหูตนเอง “ข้าให้อภัยท่าน...เพราะข้ารักท่าน”อวี้เทียนก้มลงจับมือนางแน่นมาเขาซบหน้าลงกับฝ่ามือนางราวกับเด็กหลงทางที่เพิ่งได้กลับบ้าน“ซูเหนียง...ข้าสาบาน… จะไม่มีวันปล่อยมือเจ้าอีกแล้ว…”ทั้งสองโอบกอดกันแน่น ไม่มีคำพูดใดอีก เพราะหัวใจทั้งสองดวงได้เอ่ยทุกสิ่งออกมาแล้ว กลิ่นหอมจาง ๆ จากผมของซูเหนียงลอยแตะปลายจมูกของเขาทอวี้เทียนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น จากนั้น เขาก็ค่อย ๆ ล้วงเอากระดาษแผ่นหนึ่งจากอกเสื้อมันคือ หนังสือหย่าที่เขาเก็บไว้“นี่…