บทที่16.นางมารยั่วสวาท
“คุณดูน่าปรารถนา...มากเลยนะธรร”
เสียงของดารัณทุ้มต่ำอย่างมีอารมณ์ ปลายนิ้วเรียวกรีดไล้ไปที่แผงอกตึงบนเนื้อตัวเปล่าเปลือยของธรรวา ที่นอนหลับไม่ได้สติ สาวใหญ่จัดการปลดเสื้อยืดสีขาว ตามด้วยเก้ๆ กังๆ ปลดกางเกงท่อนล่างของชายหนุ่ม จนกางเกงเอวยางยืดรูดลงไปกองที่สะโพกแบบหมิ่นเหม่ ช่วงกึ่งกลางหน้าขาเขา...มีสิ่งยั่วใจที่ดารัณมองตาฉ่ำ เมื่อความแข็งขันดันกางเกงชั้นในจนตุงโด่งเป็นรูปลำ
“คุณหนีรัณไม่พ้นหรอกค่ะ”
ดารัณอมยิ้ม แลบปลายลิ้มเลียริมฝีปากล่างของตนเอง ลดตัวนั่งลงคุกเข่า ลูบไล้แผงอกแน่นตึงด้วยความหฤหรรษ์
แผนชั่วของดารัณ หล่อนอาศัยช่วงที่ธรรวาเผลอตัว แอบหย่อนยานอนหลับลงไปในแก้วกาแฟ จนเป็นที่มาให้ชายหนุ่มพลาด ตอนนี้...
“อยากรู้จัง หากคุณตื่นขึ้นมาแล้วเห็นรัณอยู่ตรงนี้... คุณจะทำหน้ายังไงนะ?”
ดารัณรำพัน...
หล่อนยกนิ้วแตะที่ริมฝีปาก ใช้ลิ้นเลียวนรอบริมฝีปากสีสด สูดปากครางดังๆ เมื่อกำลังจะสมปรารถนา ได้ลิ้มรสลูกเลี้ยงหนุ่มสมใจ...สักที
ปลายนิ้วเคลือบลิปสติกกรีดลงบ
“นานพอที่จะได้ยินทั้งหมดนั่นแหละรัณ” เทียมตัดสินใจพูดความจริง ท่านมองจ้องใบหน้าภรรยาของตนเองดารัณผวา เธอถลาลงไปนั่งที่พื้นเอียงใบหน้าซบหัวเข่าของสามี พร้อมกับรีบพูดจนลิ้นพันกัน“รัณๆ รัณมีเหตุผลที่จะปิดบังนะคะ ยัยดลเอ่อ...”เทียมโบกมือ ท่านไม่ได้ติดใจ สองมือเหี่ยวๆ ยกวางบนศีรษะภรรยาพร้อมกับกล่าวเสียงแผ่ว“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรรัณนี่ อดีตมันก็คืออดีต เราแค่ทำปัจจุบันให้ดีก็พอ”ดารัณช้อนสายตาซาบซึ้งมองสามี ผู้ชายที่เธอมองข้ามมาตลอด เขาคือบ่อเงิน บ่อทองให้เธอกอบโกย ไม่คิดว่า เทียมจะรักและเสน่หาที่ตัวตนของเธอ จนยอมมองข้ามตำหนิที่แสนน่ารังเกียจนั่น“คุณพี่ไม่ถือเหรอคะที่รัณเอ่อ...เคยมีลูกมาก่อน”เทียมนิ่งไปหนึ่งอึดใจก่อนจะตอบพร้อมกับยิ้ม“ไม่หรอก หนูดลเป็นเด็กดี และเด็กดีๆ แบบนี้ก็มาจากแม่ที่น่ารักอย่างรัณไง”“โฮ!”สาวใหญ่ปล่อยโฮเสียงดัง น้ำตาแตกทะลักทลายอาบใบหน้า ไม่ห่วงภาพพจน์สวยงามที่ตนเองพยายามสร้างลวงตาคนอื่นไว้...เธอซึ้งน้ำใจของสามี จนไม่อาจกลั
ดลยาเดินเลี่ยงไปอีกทาง เธอพยายามจะไม่สนใจพ่อของลูก เมื่อสิ่งที่เขาทำทุกอย่าง ยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดเสียงล้อรถยนต์บดพื้นถนนดังสนั่น คนงานหลายคนชะเง้อคอออกมามอง แล้วก็รีบผลุบกลับไป เมื่อใบหน้าของคนนั่งหลังพวงมาลัยตึงเปรี๊ยะ!!“ลุงชุ่ม คุณธรรเป็นอะไร?”เสียงถามลอยมาเข้าหูดลยาพอดีคนขับรถวัยดึกส่ายหน้า พร้อมกับยิ้มแหยๆ อวดฟันในช่องปากที่เหลือไม่กี่ซี่ให้คนรอฟังคำตอบนึกขำ“อยากรู้ มึงก็ไปถามคุณธรรเอาเองสิวะ”คำตอบที่ทำให้คนถามคอหด ขนาดขับรถพ่อเจ้าประคุณยังใส่อารมณ์เสียแบบนั้น หากเสนอหน้าเข้าไปถาม มิโดนหางเลขไปด้วยหรือ?“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวโดนถีบ” คนตอบ ตอบแล้วก็รีบเผ่น เพราะหากอยู่ต่อ ไม่แนะอาจจะโดนคนแก่ถีบเอาก็ได้ดลยาเดินคอตก เธอก้มหน้าเดินจนไม่ได้มองทางเพราะกำลังนึกวุ่นวายในหัว“อุ้ย!!” หญิงสาวอุทาน เรือนกายโอนเอน เมื่อเดินชนกับดารัณจังๆ“ซุ่มซ่าม!!” สาวใหญ่ตวาด แต่ก็ไม่วายห่วง มือเรียวผอมบางคว้าเอาลำตัวดลยาไว้ “แกไม่ได้ตัวเปล่าแล้วนะ ทำอะไรระวังหน่อย
บทที่17.เปิดโปง“ไอ้หมอนั่นมันล้ำเส้นไปมั้ยรัณ?” เรย์ถาม เขาเงยหน้าพ่นควันสีขาวเป็นวงกลม แล้วจึงหันไปมองคนข้างกายดารัณพลิกตัวหนี เธอเริ่มรำคาญความจุ้นจ้านของคู่ขาคนล่าสุด ที่ดูเหมือนจะก้าวก่ายตนเองทุกๆ เรื่อง“ช่างเขาสิ ก็ดี... รัณจะได้ไม่ต้องไปนั่งปั้นหน้า” ในบดินทร์เดช ดารัณแทบไม่มีบทบาท ครั้งแรกที่เธอได้รับมอบหมายจากเทียม เธอตื่นเต้นและกระตือรือร้นมาก แต่เมื่อได้ลงมือจับงานจริงๆ เธอถึงรู้ เงาของเทียมยังตามราวี เขาไม่เคยปล่อยให้เธออิสระ เธอทนอึดอัดอยู่นานจนสบโอกาส สามารถแทรกแซงคนของเขาได้บางคน...รับผลประโยชน์ในบางเรื่อง...แต่ไม่เคยกินได้เต็มปากเต็มคำสักที เทียมปลูกฝังคนของเขามาอย่างดีส่วนใหญ่แทบไม่มีใครเล่นด้วย ยกเว้นพวกคนแก่ตัณหากลับที่เธอร้อยจมูกไว้ใช้ได้“ที่นั่น...น่าจะทำเงินให้คุณไม่น้อยนะ” ความโลภบังตา ความกระหายอยากได้ของคนอื่นทำให้เรย์เกิดความโลภ“ก็ใช่ แต่หากมันอันตราย รัณอยู่แบบนี้ดีกว่า”หญิงสาวตอบ ธรรวาฉลาดเป็นกรด แค่ไม่กี่วันที่เขาขึ้นแท่น เขาก็จับทางทำเงินของเธอได
บทที่16.นางมารยั่วสวาท“คุณดูน่าปรารถนา...มากเลยนะธรร”เสียงของดารัณทุ้มต่ำอย่างมีอารมณ์ ปลายนิ้วเรียวกรีดไล้ไปที่แผงอกตึงบนเนื้อตัวเปล่าเปลือยของธรรวา ที่นอนหลับไม่ได้สติ สาวใหญ่จัดการปลดเสื้อยืดสีขาว ตามด้วยเก้ๆ กังๆ ปลดกางเกงท่อนล่างของชายหนุ่ม จนกางเกงเอวยางยืดรูดลงไปกองที่สะโพกแบบหมิ่นเหม่ ช่วงกึ่งกลางหน้าขาเขา...มีสิ่งยั่วใจที่ดารัณมองตาฉ่ำ เมื่อความแข็งขันดันกางเกงชั้นในจนตุงโด่งเป็นรูปลำ“คุณหนีรัณไม่พ้นหรอกค่ะ”ดารัณอมยิ้ม แลบปลายลิ้มเลียริมฝีปากล่างของตนเอง ลดตัวนั่งลงคุกเข่า ลูบไล้แผงอกแน่นตึงด้วยความหฤหรรษ์แผนชั่วของดารัณ หล่อนอาศัยช่วงที่ธรรวาเผลอตัว แอบหย่อนยานอนหลับลงไปในแก้วกาแฟ จนเป็นที่มาให้ชายหนุ่มพลาด ตอนนี้...“อยากรู้จัง หากคุณตื่นขึ้นมาแล้วเห็นรัณอยู่ตรงนี้... คุณจะทำหน้ายังไงนะ?”ดารัณรำพัน...หล่อนยกนิ้วแตะที่ริมฝีปาก ใช้ลิ้นเลียวนรอบริมฝีปากสีสด สูดปากครางดังๆ เมื่อกำลังจะสมปรารถนา ได้ลิ้มรสลูกเลี้ยงหนุ่มสมใจ...สักทีปลายนิ้วเคลือบลิปสติกกรีดลงบ
บทที่15.แมวขโมยท้องฟ้าสีดำทะมึนเมื่อเวลาล่วงเข้าสู่กลางดึก บนฟากฟ้ามีแสงดาวน้อยนิด เพราะพระจันทร์ดวงโตลอยเด่นเหนือน่านฟ้า แสงสีนวลเย็นตา ทอแสงลงมาบนพื้นโลก แม้จะไม่สว่างเท่าแสงสุริยา แต่ก็ทำให้ม่านราตรีไม่สามารถบดบังการมองเห็นของสายตาคนได้แมลงตัวเล็กขยับปีกแบบแสนสุข เมื่อเวลาดึกสงัดเช่นนี้ไร้สิ่งมีชีวิตรบกวน เป็นเวลาแสนสงบที่ชีวิตน้อยได้มีความสุขเต็มที่ เวลาเช่นนี้เป็นเวลาที่แมลงเหล่านั้นถือครองแต่...วันนี้ไม่เหมือนกับทุกวันในขณะที่คนอื่นๆ หลับใหลหลังทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ที่นอนนุ่มๆ คือที่พักกายอย่างดีของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่มีคน คนไหนออกมาเดินท่อมๆ ตากน้ำค้างกลางดึกแน่ๆ เพราะเขากำลังนอนหลับบนที่นอนอุ่นๆ คลุมด้วยผ้าห่มผืนหนาๆ เมื่ออากาศกลางดึกเย็นสบายเงาตะคุ่มๆ ของคนร่างใหญ่ เดินย่องเงียบกริบ เขาลัดเลาะตามทิวไม้ สอดส่ายสายตามองเป้าหมายตาเขม็งชายผู้นั้นหยุดยืนใต้หน้าต่างบานหนึ่ง หน้าต่างบานนั้นเปิดโล่ง สายลมด้านนอกพัดกรูเข้าไป จนผ้าม่านลายดอกไม้ไหวพะเยิบพะยาบ“ยัยบ้า...นอนไม่ระวัง หน้าต่างไม่ร
“ไม่! เธอสมควรถูกลงโทษ ครั้งต่อไปจะได้ไม่กล้าหือกับฉัน” ธรรวากล่าวเสียงเข้ม มองริมฝีปากอิ่มเต็มที่กำลังสั่นระริก หวนให้นึกถึงจุมพิตแสนหวานที่เคยฉกฉวยเอามาจากดลยา และอยากจะลองชิมมันอีกสักครั้ง“อย่านะ! คุณกับดลตกลงกันแล้ว เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แล้วนี่สายแล้วด้วย คุณควรไปทำงาน ไปสิคะ... หากคุณยังไม่อยากถูกมองว่าเป็นหัวหน้าที่ไม่ดี” ดลยาออกแรงผลักร่างสูงใหญ่ให้พ้นตัว และทันทีที่ได้อิสระก็แทบจะกระโดดรีบหนีอีกฝ่ายไปยืนตัวสั่นอยู่อีกมุมด้านหนึ่งของโถงทางเดิน“ยังพอมีเวลา และฉันข้อแก้ความเข้าใจของเธอใหม่ด้วย ไอ้ที่ฉันตอแยเธอนี่ไม่ได้พิศวาสเธอสักนิดนะ ฉันแค่ห่วง...” ดวงตาคู่คมกวาดมองไปทั่วร่างบอบบางเป็นประกายตาวาววับ สายตาคู่นั่นหยุดที่เนินหน้าท้องของดลยา ทำให้คนถูกมองหน้าร้อนผ่าว กำมือแน่นพร้อมกับขึงตาใส่“ดลรู้ค่ะ ข้างนอกนั่น มีผู้หญิงอีกมากที่พร้อมจะไปกับคุณทุกที่ ผู้หญิงท้องน่ารังเกียจอย่างดลคุณคงไม่ต้องการ ดังนั้น อยู่ห่างๆ ดลไว้ค่ะ”ดลยาตอบกลับเสียงสั่น เจ็บแปลบๆ ในอกจนน้ำตาเกือบรินไหล เมื่อตนเองไร้ค่า ไม่น่าเ