....เมื่อวานเราคุยงานกันจนดึกเพราะวันนี้เราต้องเตรียมแผนงานเพื่อเสนอให้กับไฮฮาน่าและแน่นอนหญิงสาวให้น้ำใสเป็นคนเสนอโดยให้ข้ออ้างว่าอยากจะดูเป็นแนวทาง แต่ความจริงแล้วแค่ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงถ้าได้เจอเขาอีกรอบเร็วขนาดนี้ “คุณฟอร์นเชิญชั้นสองครับ” เสียงนนท์ดังขึ้นเรียกความสนใจให้ข้าวเหนียวหันไปมองภาพตรงหน้าคือผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งน่าเกรงขามกำลังเดินเข้ามา เขาดูเปลี่ยนไปเยอะมากทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาท่าทางที่สง่างามแต่กลับดูเย็นชาไปกว่าเดิม ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวโดยที่ไม่แม้แต่สบตากันนั้นยิ่งทำให้รู้ว่าเขาลบเธอได้แบบสนิทใจ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เธอจะลบปมในใจโดยไม่ต้องทำเป็นรู้จักกันอีก การเจอกันโดยที่ไม่รู้สึกอะไรนั่นแหละที่ต้องการ “สวัสดีจัส” “สวัสดีพี่ฟอร์น วันนี้ทำไมมาแค่พี่กับเลขาละ” “สบายในการเดินทาง ถ้าเรื่องงานผ่านนายค่อยส่งไปทางพวกนั้นก็ได้ยังไงคนตัดสินใจก็คือฉัน” เขาตอบเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะตามด้วยเลขาวัยกลางคนที่นั่งลงข้างๆ เขา เมื่อทุกคนนั่งกันครบข้าวเหนียวก็เริ่มแจกแผนงานทั้งหมดให้ แต่พอวางแผนงานลงตรงหน้าของฟอร์นใจของเธอกลับมีอาการเต้นรั่วซึ่งมันก็ยิ่ง
ฉันนั่งทบทวนมาหลายวัน ฉันคงปล่อยชีวิตให้วุ่นวายต่อไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ถึงฉันจะได้ทุนอยู่ที่นี่ต่อ แต่ความตั้งใจและการเรียนของฉันก็คงจะถูกรบกวน การมาที่นี่คงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดในชีวิต ฉันตัดสินใจโทรเล่าเรื่องราวเกือบทั้งหมดให้แม่ฟังและได้แต่ขอโทษท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะความไม่อดทนและความชอบหนีปัญหาของตัวเอง ท่านฟังเรื่องเล่าทุกอย่างและตัดสินใจให้ฉันยื่นใบลาออกและไปเรียนต่อต่างประเทศในประเทศที่ท่านต้องไปบ่อยๆ เพื่อที่จะได้ไปดูแลจิตใจฉันอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ฉันพร้อมที่จะหายไปจากความวุ่นวายนี้แล้ว"เธอจะไปวันนี้เลยเหรอ!"จัสตกใจเมื่อฉันเล่าเรื่องการลาออกให้ฟัง"แน่นอนสิฉันทนที่จะต้องเจอผู้ชายคนนั้นไม่ได้แล้ว และฉันอยากขอโทษนายที่นายอุตส่าห์เสียสละตัวเองเข้ามาช่วยเป็นแฟนฉันแถมยังเกือบทำให้นายต้องหมั้นกับฉันอีก""เรื่องหมั้นมันไม่ใช่ความผิดเธอหรอก และฉันก็ไม่ได้เสียใจที่ได้เป็นแฟนเธอ...เพียงแต่มันสั้นไปเท่านั้นเอง""พูดอย่างกับนายดีใจที่ได้เป็นแฟนฉัน""ก็ดีใจนะ แต่เอาเถอะยังไงสะเรื่องงานหมั้นฉันจะแก้ปัญหาเองขอแค่อย่างเดียวเธอต้องติดต่อฉันตลอดนะ"จัสเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ ฉัน
หลังจากงานจบจัสมินก็ตรงมาส่งฉันที่บ้านพักต่างอากาศของจัส ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าพี่ฟอร์นคงไม่ทำอะไรฉันในช่วงที่อยู่ในคราบแฟนของจัสแน่ คงเป็นเพราะหน้าตาทางสังคมอะไรนั้นซึ่งจะให้ฉันเข้าใจฉันก็คงไม่เข้าใจ แต่ที่ฉันไม่เข้าใจยิ่งกว่าคือทำไมฉันต้องเข้างานหมั้นกับจัสมินด้วยน่ะสิ แค่เพียงจัสพาฉันไปแนะนำตัวให้พ่อเขารู้จัก เพียงเท่านั้นพ่อเขาก็ประกาศทันทีว่าจะจัดงานหมั้นของเราในเดือนหน้า เล่นทำฉันตกใจตาค้างไปเลย“เอิ่ม…. ขอโทษเรื่องงานหมั้นด้วยนะ”“แล้วจะทำไงดีละ นี่ไม่ใช่ที่เราตกลงไว้นะฉันเองก็ยังไม่พร้อม”“ฉันไม่คิดว่าพ่อจะทำแบบนี้ ที่บ้านฉันถ้ามีลูกสองคนลูกชายจะต้องหมั้นก่อนลูกสาว”“ไร้สาระมาก! ทำไมคนรวยๆ ต้องทำอย่างนี้นะ ทั้งที่นายกับฉันก็แค่เด็กมหาลัยหรือเปล่า ทำไมต้องมงต้องหมั้น”“ส่วนมากในสังคมของฉัน มหาวิทยาลัยคือหมั้นหลังจากเรียนจบก็แต่งงานไงละ”“แต่ฉันไม่ใช่ ฉันไม่เห็นเกี่ยวเลยบอกพ่อนายยกเลิกเถอะ”“ใจเย็นๆ เอางี้ แค่หมั้นแล้วจบๆ ไปได้ไหมในเมื่อพ่อฉันประกาศออกไปแล้วมันจะทำให้ครอบครัวฉันเสียหน้า ในเมื่อยังไงพ่อก็แค่ทำเพื่ออยากให้คู่ของพี่โรสได้หมั้นกัน หลังจากนั้นเราก็ถอนหมั้นแบบนั้นเธอโอ
ึสองวันแล้วที่อยู่ๆ ข้าวก็หายไปเล่นทำเอาผมอยู่ไม่สุขและผมก็ยังไม่กล้าตามหาเธอเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอเกลียดผมไปมากกว่าเดิม ผมน่ะรู้ดีว่าทุกอย่างที่ผมทำไปโคตรเห็นเแก่ตัว แต่ถ้าเธอกลับมาแล้วเรื่องโรสผ่านไปผมจะทำให้เธอรู้สึกดั่งเจ้าหญิง“หน้าเครียดเชียวนะ”“อืม…”ผมตอบปอร์เช่เพื่อนรักไปส่งๆ เพราะไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรทั้งนั้น เพราะใจผมยังคงกังวลคิดถึงคนที่หายไป“ยังหาไม่เจอเหรอวะ”“ไม่ได้หา…”“หะ? เป็นไปได้ไงวะ”ปอร์เช่ดูตกใจมากกับคำตอบผม แน่นอนละเพราะปกติถ้าผมไม่เบื่อผมไม่มีทางปล่อยให้ออกนอกสายตาไปแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมผิดจริงตั้งแต่รู้จักกับข้าวมามันไม่มีสิ่งไหนที่ผมทำถูก ยิ่งครั้งล่าสุดได้ที่ผมเกือบจะขืนใจข้าวนั้นผมยิ่งละอายใจ ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจว่าเธอคือเด็กของมหาวิทยาลัยตัวเอง“ที่ผ่านมาทำแต่สิ่งไม่ดีวะ อยากให้เวลาเขา….กลับมาค่อยเริ่มต้นใหม่”“โหหห คุณผอ....กลับมาแล้วเว้ยหลังจากปล่อยผีบ้ารักเข้าสิง”“เหอะ!”“แล้วถ้าเขาไม่กลับมาละทำไง”“ค่อยตามขอโทษ ขอโทษจนให้อภัยแหละ”“ให้อภัยไม่ใช่ว่าเขาจะรักนะ แล้วเรื่องแฟนแกตอนนี้จะทำยังไง”“ทำไงได้ละก็พยายามต่อไป ส่วนเรื่องโรสคุณอาขอแค่เดือนเดียวท่านคงไ
สองคนนั่งนิ่งเงียบมาจนถึงทางเข้าไนต์คลับ คืนนี้ฟอร์นยืนยันว่าจะอยู่กับข้าวเหนียวที่นี่และที่มันน่าเจ็บใจคือเขาไม่คิดถึงความรู้สึกของแฟนตัวเอง หรือเธอด้วยซ้ำในสมองของข้าวเหนียวตอนนี้ได้แต่คิดว่าเธอคงไม่แอบรู้สึกดีไปกับคนคนนี้หรอกใช่ไหม หรือถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเธอควรจัดการยังไงกับเรื่องนี้“คิดอะไรอยู่…”“……”“จะเงียบอีกนานไหม…”“……”“พรุ่งนี้เรียนกี่โมง”ข้าวไม่ตอบ เธอล้มตัวลงนอนและข่มตาหลับทันทีตอนนี้เธอไม่แม้แต่อยากจะได้ยินเสียงคนเห็นแก่ตัวคนนี้ด้วยซ้ำถึงอย่างนั้นตัวฟอร์นที่คิดว่าข้าวเหนียวคงรู้สึกแย่กับทุกสิ่งที่เขาทำไปก็ไม่คิดจะพูดหรือถามอะไร เขาคิดเพียงแต่ว่าเมื่อจบแผนคบกันหลอกๆ ระหว่างเขากับโรส ถ้าถึงตอนนั้น เขาจะขอข้าวเหนียวเป็นแฟนอย่างจริงจังฟอร์น:ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะบอกเรื่องนี้กับข้าวไหม ถ้าบอกไปอย่างน้อยเธอจะได้ไม่รู้สึกว่ากำลังอยู่กับคนมีเจ้าของ แต่ถ้าบอกไปแล้วเธอคิดว่าผมโกหกเพื่อจับปลาสองมือก็คงแย่อีกถึงตอนนี้ผมจะดูเป็นคนแบบนั้นก็ตาม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะไม่มานั่งแคร์ความคิดของคนอื่นแบบนี้นักหรอกแต่ตอนนี้ผมแคร์เธอจนสับสนว่าควรทำยังไงต่อไปดี“ข้าว…นอนหรือยัง”ม
“อะไรของพี่เนี่ยพี่ฟอร์น ทำจัสทำไม”“มันจะขโมยของฉัน”“บ้าน่า จัสค่อยๆ ลุก”ฉันพยุงจัสให้ยืนขึ้นก่อนที่พี่ฟอร์นจะดึงแขนฉันอย่างแรงให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา สายตาคมๆ นั้นทำให้ฉันรู้สึกกลัวจนต้องก้มหน้า“ออกมาทำไมดึกดื่น”“ก็พี่บอกให้จัสมารับเองนี่”“ฉันไม่ได้บอก….”“ผมตั้งใจมาเอง ก็เห็นพี่มีความสุขอยู่กับพี่โรสแต่ข้าวกับต้องถูกขังอยู่ในห้องแบบนั้น มันไม่แฟร์”จัสพูดพร้อมดึงฉันกลับไป“ฉันไม่ได้มีความสุขอะไรที่นั่น”“งั้นเหรอ ก็เห็นเดินประกาศกันทั่วงานว่าคบกัน”“มันเป็นเพราะพี่แกต่างหาก”“แต่พี่ก็ยอม? ต่อจากนี้ผมดูแลเพื่อนผมเองดีกว่า”“หยุด!! หยุดก่อน ฉันงงไปหมดแล้ว” ฉันตะโกนหลังจากที่เห็นชายสองคนเอาแต่ต่อปากต่อคำกันสะนานฉันหันหน้าไปพูดกับพี่ฟอร์นด้วยสีหน้าจริงจัง“พี่ฟอร์น ข้าวรู้ว่าพี่ฟอร์นอยากแกล้งข้าวเลยทำอะไรไม่ดีกับข้าว ที่ผ่านมาข้าวยกโทษให้แต่ตอนนี้พี่มีแฟนแล้ว แล้วแฟนพี่ก็คือพี่สาวของเพื่อนข้าว ข้าวว่าพี่เลิกยุ่งกับข้าวดีกว่าข้าวเองก็จะกลับไปอยู่บ้านแล้ว”“อยู่คนเดียวมันอันตราย” พี่ฟอร์นไม่แก้ตัวเรื่องมีแฟนแต่กลับพูดแบบนั้นออกมา ทั้งๆ ที่ตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวทำให้