'วินตา' กับ 'จาริล' ศิลปินไอดอลชื่อดังของประเทศที่ต่างก็เคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทสนมกันมาก แต่แล้วค่ำคืนอันเลวร้ายกลับทำลายทุกอย่างที่เคยมี วินตายื่นข้อเสนอแลกกับการให้โอกาสอีกครั้ง ทว่าเงื่อนไขนั้นกลับเป็นสิ่งที่จาริลไม่อาจยอมรับได้ และเมื่อหัวใจของวินตาได้พบกับคนที่ใช่ เส้นบางๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่เปราะบางของทั้งสองจะแปรเปลี่ยนไปคงมั่น หรือจะกลายเป็นบาดแผลในใจของเขาและเธอ เมื่อคนหนึ่งรู้ตัวในวันที่สาย และคนหนึ่งเหนื่อยล้าไปทั้งใจ
더 보기“แฮ่กๆๆ”
เสียงหอบหนักของวินตาดังขึ้นเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง แต่อย่าเป็นอิสระเสียยังดีกว่า หากมันจะดึงดูดความสนใจจากร่างสูงไว้ให้หยุดทุกอย่างอยู่เพียงเท่านี้ วินตาก็จะยอมให้อีกฝ่ายจูบต่อให้นานตราบเท่าที่อีกฝ่ายพึงพอใจ ทว่าการจูบไม่เคยเพียงพอสำหรับจาริล ชายหนุ่มผละกายออกมาก็เพื่อจะเริ่มบรรเลงบทรักที่แท้จริงต่อจากนี้ เขากำลังจะครอบครองเรือนร่างของวินตาในไม่ช้า “ริล... ริลอย่า...” วินตาอ้อนวอนรุ่นน้องด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสที่เตรียมจะไหลรินได้ทุกเมื่อ และในไม่ช้า... มันจะหลั่งไหลลงมาเพราะการกระทำของจาริล “จาริลอย่า... ฮือออ...” หญิงสาวยกแขนข้างหนึ่งขึ้นบิดบังใบหน้า เธอทำใจไม่ได้ที่จะต้องทนเห็นคนที่กำลังทำร้ายเธอ จาริลยกขาเปลือยเปล่าของวินตาขึ้นอ้ากว้าง ก่อนจะยัดเอียดความเป็นชายของตนผ่านช่องทางคับแน่นจนไม่สามารถแทรกแก่นกายผ่านเข้าไปได้ ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกเศษแก้วบาดเมื่อครู่ แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็ได้รู้ว่ามันเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลที่ถูกเศษแก้วแทงที่ต้นขาขนาดไหน จาริลพยายามกระแทกกายเข้าไปจนกระทั่งสามารถสอดใส่แก่นกายได้เติมความยาว กายบางสะดุ้งเฮือก ความเจ็บปวดแล่นพล่านจนยากจะบรรยาย ยิ่งร่างสูงกระเสือกกระสนกายเข้ามามากยิ่งขึ้น หน้าท้องเกร็งของเธอก็จุกแน่นไปหมด มันยิ่งเจ็บปวดทรมาน เมื่อกายหนาถาโถมใส่ไม่เว้นจังหวะ ร่างบางเคลื่อนไหวไปตามแรงชักนำของจาริลอย่างทุกข์ทรมานจนในที่สุดก็ไม่อาจสะกดกั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ได้อีกแล้ว วินตาระเบิดเสียงร้องไห้โฮปานจะขาดใจให้กับเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้ เธอเจ็บ... เจ็บเหลือเกิน... “ฮือๆๆๆ.... ริล...หยุดเถอะ ขอร้อง ฟังพี่อยู่ไหม...” ถ้อยคำขอถูกส่งไปหา ทว่าใบหน้าของคนเมาด้วยฤทธิ์ยากลับแสดงออกถึงความสุขใจที่ได้ครอบครองร่างกายของอีกฝ่าย ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจใยดีรุ่นพี่คนนี้เลย จาริลคนนี้ ใจร้ายเหลือเกิน... “ฮือออ...จาริล... ฮือๆๆ” กายแกร่งยังคงเร่งจังหวะไม่หยุดพัก ราวกับไม่เคยเหนื่อยล้าทั้งที่หยาดเหงื่อไหลโทรมกายราวกับคนวิ่งแข่งมาเป็นเวลานาน ตรงข้ามกับคนด้านล่างที่เหน็ดเหนื่อยทรมานมากกว่าร่างหนานั้นหลายเท่า จาริลไม่ปราณีเธอเลยสักนิด และสิ่งที่น่าอับอายสำหรับวินตาในตอนนี้ก็คือร่างกายของเธอ ร่างกายที่เธอไม่รู้ว่ามันตอบสนองต่อการกระทำอันแสนโหดร้ายนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อรู้ตัวอีกทีเธอกลับต้องการปลดปล่อยอย่างยิ่งยวด แม้จะเคยมีประสบการณ์ด้วยตนเองมาบ้าง แต่เธอกลับไม่เคยหลับนอนกับใครเลยสักคน นี่นับเป็นครั้งแรก อีกทั้งคนที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นคนที่เธอสนิทสนมและยังไว้เนื้อเชื่อใจเป็นอย่างดี ความจริงข้อนี้กำลังแผดเผาหัวใจของเธอ ต่อจากนี้เธอจะมองหน้าจาริลด้วยความรู้สึกอย่างไร หากอีกฝ่ายตื่นขึ้นแล้วรู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป นั่นไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเจ้าตัวหรอกหรือ เธอเองรู้สึกโกรธอีกฝ่ายอย่างมาก แต่ทั้งหมดนั้นคงจะเทียบไม่ได้กับความเสียใจที่เกิดขึ้น เพราะทุกวินาทีที่จาริลได้เสพสม ทุกวินาทีที่จาริลมีความสุข เธอคนนี้รู้สึกเสียใจเหลือเกิน... “ฮึก...ฮึก...” วินตาสะอื้นฮักเมื่อร่างสูงแตะถึงฝั่งฝัน ทั้งสองร่างที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวถึงเวลาปลดปล่อยสายธารออกมาพร้อมๆ กัน ซึ่งนั่นเป็นเสมือนเจลหล่อลื่นอย่างดีให้กับร่างสูง จาริลดึงส่วนที่เชื่อมอยู่ภายในกายของวินตาออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่ ช่องทางรักที่ฉีกขาดตอดรัดส่วนแข็งขืนของชายหนุ่มไว้อีกครั้ง แม้ครั้งนี้การสอดใส่จะทำได้ง่ายขึ้นเพราะของเหลวที่เอ่อล้นออกมาพร้อมด้วยเลือดข้นที่ช่วยให้ความหล่อลื่นก็ตาม แต่ผิวอ่อนนุ่มของหญิงสาวก็ยังคงเจ็บปวดมากเหลือเกิน จาริลกระชับท่อนขาของหญิงสาวเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้วส่งแรงทั้งหมดชำแรกผ่านร่างบางด้วยท่อนเนื้อร้อนขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่แก่นกายกรีดผ่านผิวเนื้อของร่างบางเลือดสีแดงสดก็จะไหลหยดลงเปื้อนผ้าปูที่นอนเป็นวงไม่นับรวมรอยเลือดที่เกิดจากบาดแผลที่ต้นขาข้างขวานั้นด้วย เพราะยามนี้เลือดที่ต้นขาขาวก็ยังคงไม่หยุดไหล สายเลือดกระเด็นเปือนผืนผ้าสีขาวไปตามจังหวะโยกไหวของจาริล ร่างหนาซอยสะโพกถี่กระชั้นเป็นสัญญาณบอกให้คนด้านล่างรับรู้ว่าอีกไม่นานร่างสูงจะถึงจุดสูงสุด และหญิงสาวแอบหวังว่าการกระทำอันแสนป่าเถื่อนนี้จะจบลงได้สักที “อาห์...” จาริลครางตํ่า ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อตนเองใกล้ถึงฝั่งฝัน แต่ถึงกระนั้นใครอีกคนกลับไม่ถึงฝั่งฝันไปด้วย ร่างกายของวินตาบาดเจ็บจนไม่อาจตอบรับสัมผัสของเขาอีกแล้ว ทว่าร่างสูงกลับไม่ปล่อยให้อีกคนถูกเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว เขาใช้มือปลุกปั่นอารมณ์ของร่างบางด้วยการบีบขยำทรวงอกของหญิงสาวพลางซุกไซ้ริมฝีปากไปตามซอกคอขาว วินตาส่ายหน้าอย่างทรมาน เธอเอื้อมมือไปเพื่อหยุดมือของจาริลแล้ว แต่กลับถูกมือหนาสะบัดจนหลุดออกราวกับจะกลั่นแกล้ง “อย่า... พอได้แล้ว พอ!” วินตาแผดเสียงแหบแห้งห้ามอีกฝ่ายออกไปด้วยความกลัวและเกลียดสัมผัสนี้ใจแทบขาด แต่จาริลก็ยังไม่ยอมหยุดปรนเปรอความเสียวซ่านให้แก่เธอ ชายหนุ่มจงใจหยอกเย้ายอดปทุมถรรพ์สีชมพูอ่อนอย่างสำราญมือไม่ยอมหยุด มือหนาบีบเค้นทรวงอกอันเต่งตึงสลับกับการบีบบิดยอดถรรพ์อย่างรุนแรง จนกระทั่งเสียงร้องห้ามแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางแห่งความเสียวซ่าน ยามนั้นจึงได้เวลาที่ร่างสูงรุกคืบเข้ามาภายในกายของวินตาอีกครา “อ๊ะ” วินตาร้องครางด้วยความเจ็บจากแผลสดที่ถูกกรีดซ้ำตรงรอยเดิม หญิงสาวผันหน้าหนีเพราะไม่อาจทนมองอีกฝ่าย ร่างสูงเคลื่อนไหวกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเสียงร้องแหบแห้งของวินตาค่อยๆ เบาหายไป เหลือเพียงเสียงครางกระเส่าของจาริลที่ดังสลับกับเสียงเสียดสีของผิวกายแต่เพียงเท่านั้น ร่างของเธอกระตุกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ของเหลวอุ่นจะฉีดพุ่งภายในกายและเอ่อล้นออกมาอาบช่องทางสีสดอย่างมากมาย คราวนี้จาริลถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางรักที่บอบช้ำแล้วถอยตัวออกห่าง เป็นโอกาสให้วินตากระเถิบตัวถอยหนีได้บ้าง ร่างบางรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีลุกหนีลงไปจากเตียงนอน แต่ก็ถูกกระชากเรือนผมกลับมาจนล้มลงนอนหงายบนเตียงกว้าง หญิงสาวพลิกกายนอนตะแคงข้าง ลำตัวขดเกร็งเข้าหากันด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเธออีก ดวงตาของเธอปิดสนิทแน่น ริมฝีปากแดงสั่นระริก ก่อนที่มันจะอ้ากว้างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อจาริลยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดบ่าแล้วกดแท่งเนื้อร้อนลงมาชำแรกผ่านช่องทางรักที่เปื้อนของเหลวสีขุ่นและคราบเลือดเกรอะกรังโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของเธอ แม้ว่าเลือดจากบาดแผลที่ขาจะหยุดไหลลงแล้ว แต่น้ำตาที่เคยเหือดแห้งกลับไหลลงรดหมอนไม่หมดสิ้น เช่นเดียวกับการกระทำของจาริลที่วินตาไม่รู้ว่าจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหน นานจนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ หรือนานจนกว่าทุกคนจะกลับมาถึง เธอไม่อยากให้ใครมาเห็นภาพของเธอกับจาริลตอนนี้เลย “ริล... พอแล้ว... พอได้แล้ว” เสียงสะอื้นไห้ของวินตาทำให้ร่างสูงชะงัก จาริลย่นหัวคิ้วมองจ้องรุ่นพี่ชั่ววินาที จนทำให้หญิงสาวเริ่มมีความหวัง แต่สุดท้ายความหวังของเธอก็ต้องพังลงไป เมื่อจาริลจับขาทั้งสองข้างของเธอถ่างออกกว้างแล้วกระแทกเข้ามาอย่างไม่ปราณีปราศรัย วินตากรีดร้องลั่น น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บที่ทวีมากยิ่งขึ้น “ฮึก อ๊ะ... อ๊ะ! อ๊า!!” “จาริล เจ็บ! ฮือออ พอสักที! พอที!!” ร่างบางรํ่าร้องอย่างเจ็บปวด ไม่มีทางเลยที่เธอจะห้ามปรามอีกคนหนึ่งได้ เธอจำต้องนอนนิ่งให้ร่างสูงตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอมากเท่าที่อีกฝ่ายต้องการ “จาริลพี่ไม่ไหวแล้ว เจ็บ อ๊ะ จาริล!” เสียงของวินตาขาดหายเมื่อถูกร่างสูงก้มลงจุมพิตปิดปาก จาริลส่งผ่านเรียวลิ้นเข้าไปลุกล้ำภายในโพรงปากอุ่นร้อนด้วยความรุนแรงเหมือนทุกครั้งจนร่างบางหายใจไม่ออก มือข้างหนึ่งของวินตาบีบเข้าที่ลำคอของจาริลเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายหยุดการกระของตัวเองครั้งนี้ แต่ผลของการถือดีทำร้ายร่างสูงก็คือความรุนแรงที่มากขึ้นจนร่างบางทนรับไม่ไหว จึงไม่กล้าต่อกรกับคนใจร้ายผู้นี้อีก แล้วเมื่อไรกันที่อีกฝ่ายจะพอ เมื่อไรที่เธอจะถูกปลดปล่อยริมฝีปากที่ร้อนราวกับไฟของชายหนุ่มกำลังบดขยี้ริมฝีปากบางราวกับต้องการระบายอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านโดยมีหญิงสาวคอยตอบรับทุกสัมผัสที่แสนรุนแรงและทิ้งความเผ็ดร้อนให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆยามนี้มือหนาเริ่มทำหน้าที่ปลดเปลื้องอาภรณ์แต่ละส่วนของอีกฝ่าย ตั้งแต่เสื้อคลุมไปจนถึงเสื้อยืดที่วินตาชื่นชอบก็ถูกร่างสูงถอดทิ้งกองลงกับพื้นอย่างไม่ใยดีในไม่ช้าร่างกายท่อนบนของวินตาก็เหลือสภาพเปลือยเปล่า ตอนนั้นเองที่ร่างสูงจับประคองร่างบางให้เข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้นโดยที่ริมฝีปากนั้นยังคงไม่หยุดการรุกล้ำ เขายังคงดื่มดํ่ากับจุมพิตแสนหวานขณะดันร่างบางนำพาไปหยุดนั่งบนเตียงนอนหลังใหญ่วินตาถูกทาบทับโดยร่างของพลับพลาในตอนนั้น คนตัวโตกว่ายังคงเก็บเกี่ยวความหวานจากโพรงปากฉ่ำไม่หยุดหย่อนและเมื่อชายหนุ่มรับรู้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เริ่มติดขัดเพราะรสจูบที่แสนยาวนานครั้งนี้ เขาก็ยอมปล่อยให้กลีบปากบางเป็นอิสระก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปจูบหนักๆ ที่แก้มซ้ายและลดระดับลงไปคลอเคลียที่ซอกคอขาวเนียนของวินตาบ้าง“ริล...จาริล...”“จาริล...เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” สิ้นประโยคนั้นพลับพลาก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองใบหน้า
“ค่ารถเท่าไรคะ จะลงตรงนี้ล่ะ” วินตาถามขณะทำท่าล้วงกระเป๋าสตางค์เมื่อโชเฟอร์บอกราคาตามตัวเลขหน้ามิเตอร์ หญิงสาวก็ยื่นเงินให้ครบตามจำนวนแล้วเปิดประตูลงจากรถ เธอก้าวเท้าไปตามฟุตบาทพลางเดินถือถุงกระดาษใบเล็กที่บรรจุเครื่องสำอางส่วนตัวตรงไปยังสถานบันเทิงที่หมายมั่นพร้อมกับความคิดที่จะดื่มดํ่าและสนุกไปกับผู้คนที่นี่ เพราะในคํ่าคืนนี้เธอจะเป็นคนสุดท้ายที่กลับถึงบ้าน ไม่ใช่จาริลเหมือนทุกทีเก่งนักใช่ไหมเรื่องแบ่งเวลาไปหาผู้หญิง งั้นคราวนี้ขอเธอเถลไถลบ้าง เธอจะดื่มให้กลิ่นเหล้าติดตัวแล้วกลับดึกที่สุดเลยคอยดูขณะที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั่นเอง เท้าข้างหนึ่งของเธอก็ไม่ทันหลบเลี่ยงมันเหยียบเข้ากับเท้าของใครคนหนึ่งเต็มแรง และด้วยความตกใจนั๋นเองทำให้ร่างของเธอชนเข้ากับสีข้างของผู้โชคร้ายที่ถูกเธอเหยียบเท้าเข้าโดยไม่ได้เจตนา“โอ๊ะ! ขะขอโทษค่ะ” วินตาอุทานด้วยความตกใจ เธอรีบถอยออกมาโค้งกายกล่าวขอโทษ เพราะตัวเองผิดเข้าเติมประตูที่เผลอไปเหยียบเท้าและชนกับชายคนนี้ที่เดินสวนผ่านมาใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตากับคนตรงข้ามช้าๆ แ
“ริล พี่อยากขอให้น้องเลิกทำแบบนั้น ทั้งกับผู้หญิงของน้อง และกับพี่ พี่รู้สึกดีนะที่น้องไว้ใจให้พี่เป็นคนเดียวที่รู้ความลับ แต่หลังจากนี้ ขออย่าพาพี่เข้าไปรู้จักกับคนของน้องอีก... ยิ่งเป็นเรื่องที่ผิด พี่ยิ่งไม่อยากรู้ พี่อาจจะห้ามน้องไม่ให้ทำไม่ได้ แต่พี่ก็หวังว่าน้องจะไม่ทำมันอีก” “ครับ ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก” “เรื่องแอบเดทน่ะพี่ไม่ก้าวก่ายหรอก แต่เรื่องมีอะไรกับแฟนคลับในขณะที่น้องยังมีแฟน พี่รับไม่ได้ว่ะ น้องทำผิดหลายสถานเลยนะริล ทั้งนอกใจแฟน นอนกับแฟนคลับ น้องกล้าทำแบบนั้นทั้งที่เรากำลังเดินทางกันอยู่ น้องนี่แม่ง... โคตรแย่” คำพูดแต่ละประโยคของวินตานั้นเติมไปด้วยความผิดหวัง กระแสเสียงที่หญิงสาวเอ่ยกับรุ่นน้องมันสั่นไหวและแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดเช่นเดียวกับลูกแก้วกลมวาวคู่นั้นที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกออกมาอย่างไม่ลวงหลอก ผิดหวัง... เจ็บปวด... ทั้งหมดนั้น เพราะจาริล “ผมขอโทษ... ผมขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่ทำให้พี่ผิดหวัง ขอ โทษที่ปล่อยให้พี่อยู่ตามลำพัง ขอโทษ...” จาริลพรั่งพรูถ้อยคำขอโทษออกมามากมาย ใบหน้าแสดงความรู้สึกผิดดังที่พูด คำขอโทษเหล่านั้นทำให้หญิงสาวคลายอคติ
ความเงียบครอบคลุมอยู่นานจนกระทั่งรถตู้ของบริษัทพาทุกคนมาถึงสนามบิน วินตาเริ่มพูดคุยกับทุกคนยกเว้นจาริล เธอไม่สนใจรุ่นน้องที่มาด้วยกันแม้แต่น้อย เมื่อเธอเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่เพิ่งมีกลุ่มคนลุกจากไป จาริลก็ทำท่าจะเดินตามลงไปนั่งข้างๆ แต่เธอก็รีบฉุดแขนของแม้นเมืองที่ยืนอยู่ให้นั่งตามลงมาแทน ทำให้ที่นั่งฝังนี้ไม่เหลือที่ว่างให้ร่างสูงอีกแล้ว จาริลมองรุ่นพี่อย่างเข้าใจดีทุกอย่าง แต่มันสายเกินไปที่เพิ่งจะมารับรู้ ความรู้สึกของอีกฝ่ายเอาตอนนี้ เขายอมรับว่าเขาผิดที่ทิ้งพี่วินนี่ให้อยู่คนเดียว แบบนั้น เขาน่าจะคิดให้ดีก่อนที่จะทำมันลงไป “พี่โกรธผมจริงๆ ใช่ไหม?” จาริลถามต่อหน้าสมาชิกในวงทั้งสามคนของเขา อคินที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกจากที่นั่งแล้วผลักจาริลให้นั่งลงแทนที่ตน ส่วน อีกสองคนที่เหลือต่างก็หันไปมองทิศทางอื่นทำราวกับไม่สนใจการมีอยู่ของชายและหญิงคู่นี้สองคนตรงนี้ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าจาริลกำลังง้อรุ่นพี่อยู่ “โกรธผมเหรอ...” จาริลยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ร่างบางมากขึ้น จนวินตาต้องใช้ สองมือดันหน้าอกจาริลไ
หลงทาง วินตารำพึงในใจอย่างห่อเหี่ยว หญิงสาวเดินเต็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ก่อนจะพบว่าตนเองวนกลับมาทางเดิม เมื่อรู้ตัวเช่นนั้นเธอจึงไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยวเล่นอีกต่อไป สองเท้าหยุดเดินพลางคลำหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อสูท เมื่อหยิบมันขึ้นมาแล้วนิ้วเรียวรีบเลื่อนหารายชื่อก่อนจะกดโทรหาคนที่พึ่งพาได้มากหี่สุด รอไม่ถึงสิบวินาทีเท่านั้นเสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นทักทายเธออย่างสดใส “ไงคะ” “พี่แอร์โรว์อยู่ไหนคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามรุ่นพี่ที่คาดว่าตอนนี้เจ้าตัวคงกำลังเดินอยู่ที่ใดสักแห่งแถวๆ นี้ “พี่อยู่ที่... เอ่อ ที่ร้านขายไก่ย่างเสียบไม้ ตรงนี้มันโซนขายของกิน” “เอ่อ พี่คะ วินนี่หลงทางทำไงดี” วินตาพูดเหมือนจะร้องไห้ ใบหน้าหันมองรอบ กายแต่ไม่มีใครรู้จักเธอ อย่างน้อยยามนี้ถ้าเธอเจอแฟนคลับเข้าสักคน เธอก็คงจะ กล้าขอความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้นบ้าง “แล้วจาริลไปไหน? วินนี่ ไปกับจาริลไม่ใช่เหรอ แล้วมันอยู่ไหน?” “ไม่รู้ วินนี่หลงกับน้อง” “โทรหารึยัง จะได้พากันกลับมา” แต่คำแนะนำนั้นกลับทำให้วินตารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา จะให้เธอโทรตามอีกฝ่ายได้อย่างไร เธอไม่คิดจะไปขัดจังหวะคนทั้งสองและก็ไม่อยากเรีย
สำหรับวินตาแล้วมันเป็นเพียงร้านธรรมดาๆ ร้านหนึ่งจึงพาลให้นึกสงสัยว่าคนที่พามากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้พาเธอแวะเข้าร้านที่เหมาะกับเด็กผู้หญิงแบบนี้ “จะซื้อของฝาก?” วินตาถามตามความคิดที่น่าจะเป็นไปได้แต่จาริลกลับให้คำตอบที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน “ผมมาตามหาสาวคนหนึ่งน่ะครับ ตอนจบคอนเสิร์ตเธอตามมาส่งเราขึ้นรถ แล้วก็สอดนามบัตรเข้ามาในแขนเสื้อผม” “แล้วนายก็มาจริงๆ เนี่ยนะ” วินตาหันขวับไปมองหน้ารุ่นน้องอย่างไม่อยากจะ เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่ารุ่นน้องคนนี้จะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ “ครับ พี่อย่าบอกใครนะ” แม้แต่แฟนคลับที่ควรจะยกเว้น แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจงั้นเหรอ วินตาถึงกับพูดไม่ออก คนเป็นรุ่นพี่จึงทำใจนิ่งแล้วเดินเคียงคู่ร่างสูงเข้าไปหยุดอยู่ภายในร้านทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไป แขกผู้มาเยือนจึงได้พบกับเจ้าของร้านหรือเจ้าของนามบัตรที่จาริลตั้งใจมาพบเจอ สาวสวยคนนั้นส่งยิ้มกว้างมาทักทายพวกเธอเป็นอย่างแรก บรรยากาศระหว่างพวกเธอทั้งสามเหมือนจะเป็นไปด้วยความอึดอัด หญิงสาวแสดงความ
댓글