Share

รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่
รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่
Auteur: อู๋ตู๋จุ้ยหลิง

บทที่ 1

Auteur: อู๋ตู๋จุ้ยหลิง
“ทูลฝ่าบาท ศึกที่เขาซือถัว กองทัพของเราพ่ายแพ้ยับเยิน ทหารห้าหมื่นนายสิ้นชีพในสนามรบ องค์รัชทายาทในฐานะแม่ทัพใหญ่ของสามเหล่าทัพ ต้องได้รับโทษอย่างหนัก เพื่อให้จิตใจของราษฎรสงบลงพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ต้องลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของเหล่าทหารทั้งห้าหมื่นนาย...”

“กระหม่อมขอเสนอให้ปลดองค์รัชทายาท และแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ เพื่อความมั่นคงของแผ่นดินพ่ะย่ะค่ะ...”

“ฝ่าบาท ถึงแม้องค์รัชทายาทจะพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นการสู้รบเพื่อบ้านเมือง จะปลดจากต้ำแหน่งไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ มิฉะนั้นจะทำให้ราษฎรทั่วหล้าต้องใจสลาย...”

“...”

ฮ่องเต้อู่เต๋อทอดพระเนตรเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ที่กำลังโต้เถียงกันไม่หยุดเบื้องล่าง ก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา

หนึ่งเดือนก่อน จักรวรรดิตงเซิ่งรุกราน ฮ่องเต้อู่เต๋อได้ส่งองค์รัชทายาทหยางเฉินนำทัพออกศึก แต่กลับตกหลุมพรางของศัตรู เป็นเหตุให้กองหน้าห้าหมื่นนายต้องตายในสนามรบ

หยางเฉินเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส รองแม่ทัพต้องสู้ตายถึงจะช่วยชีวิตเขากลับมาได้ แต่คาดไม่ถึงว่า หลังจากบาดเจ็บสาหัส วรยุทธ์ขององค์รัชทายาทจะสูญสิ้นไปทั้งหมด อีกทั้งขาขวายังพิการไปด้วย

เมื่อกล่าวถึงหยางเฉินบุตรชายคนนี้ เขาคือผู้มีพรสวรรค์อันโดดเด่นเหนือใคร ตอนอายุสิบสามปีก็บรรลุถึงระดับยอดฝีมือขั้นเก้า สิบหกปีบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ ยี่สิบปีก็ก้าวเข้าสู่ระดับเขตแดนสามัญวชิระ

ปีนี้อายุยี่สิบสี่ ก็สัมผัสได้ถึงเขตแดนสวรรค์สำราญแล้ว หากมีเวลาอีกสักหน่อย เขาจะต้องกลายเป็นเซียนกระบี่ที่อายุน้อยที่สุดของตระกูลหยางได้อย่างแน่นอน

ฮ่องเต้อู่เต๋อเองก็เลี้ยงดูเขาในฐานะผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของจักรวรรดิ แต่บัดนี้ เขากลับกลายเป็นคนพิการไปเสียแล้ว

ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน เสียงเรียกร้องในราชสำนักว่าให้ถอดถอนองค์รัชทายาทนั้นก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังต้องการให้ลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก เพื่อรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ที่เขาซือถัว

“พอแล้ว หยุดเถียงกันได้แล้ว เรื่องการถอดถอนรัชทายาท ให้เราได้ไตร่ตรองอีกครั้ง!” ฮ่องเต้อู่เต๋อตรัสเสียงดัง

อันที่จริงแล้ว ตอนนี้พระองค์ก็ทรงคิดที่จะถอดถอนหยางเฉิน และแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่แล้ว

ตอนนี้ฮ่องเต้อู่เต๋อมีโอรสอยู่สิบกว่าพระองค์ นอกจากหยางเฉินซึ่งเป็นบุตรคนที่ห้าแล้ว องค์ชายใหญ่ องค์ชายรอง องค์ชายสาม และองค์ชายเจ็ด ล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่นทั้งสิ้น

ในเมื่อหยางเฉินกลายเป็นคนพิการไปแล้ว การแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่เพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

ในฐานะผู้ที่ทะลุมิติมา หยางเฉินเองก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจอย่างยิ่ง ตัวเขาได้ทะลุมิติมาเป็นถึงองค์รัชทายาท แต่กลับกำลังจะถูกปลดในไม่ช้า

หยางเฉินที่นอนอยู่บนเตียง หวนนึกถึงศึกที่เขาซือถัวในหัว แม้ว่าเหล่าทหารของจักรวรรดิเฉียนอู่จะตกหลุมพรางของศัตรู แต่กลับไม่มีผู้ใดยอมจำนน ต่างสู้รบจนตัวตายกันทั้งสิ้น

แม้จักรวรรดิตงเซิ่งจะได้รับชัยชนะ แต่ก็เป็นชัยชนะที่สูญเสียอย่างหนัก จนไม่สามารถรุกคืบมาทางทิศตะวันตกได้อีก ทำได้เพียงล่าถอยกลับไป และทำให้จักรวรรดิเฉียนอู่มีโอกาสได้หยุดพักหายใจ

ศึกที่เขาซือถัว หยางเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายใต้การคุ้มกันอย่างสุดชีวิตของรองแม่ทัพไป๋หานอีและองครักษ์ เขาจึงหนีรอดกลับมาได้

ขณะที่ความทรงจำค่อย ๆ หลอมรวมเข้าด้วยกัน หยางเฉินก็นึกเรื่องบางอย่างออก วรยุทธ์ของเขาถูกคนทำลายระหว่างทาง ขาของเขาก็ถูกคนหักอย่างโหดเหี้ยม

เป็นเพราะกลุ่มคนสวมหน้ากากที่ดักซุ่มโจมตีกลางทางนั่นเอง ที่ทำให้เจ้าของร่างเดิมถูกสังหาร เขาถึงได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้

“ในเมื่อข้ามาอาศัยอยู่ในร่างนี้ ข้าจะหาทางแก้แค้นให้เจ้าอย่างแน่นอน!”

“ส่วนจักรวรรดิเฉียนอู่นี้ ก็ให้ข้าเป็นคนปกป้องแทนเจ้าก็แล้วกัน!”

หยางเฉินได้รู้จากความทรงจำว่า ในบรรดาพี่น้องตระกูลเดียวกัน เขาเป็นบุตรชายลำดับที่ห้า เดิมทีเป็นองค์ชายห้า แต่ภายหลังเพราะพรสวรรค์อันโดดเด่น จึงได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้อู่เต๋อให้เป็นองค์รัชทายาท

อย่างไรก็ตาม บรรดาพี่น้องของเขาเหล่านั้นต่างหมายปองตำแหน่งรัชทายาทนี้อยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้ เขาถูกคนดักซุ่มโจมตีกลางทาง หากจะบอกว่าไม่ใช่ฝีมือขององค์ชายคนใดคนหนึ่ง ต่อให้ตีเขาจนตายเขาก็ไม่เชื่อ

การต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ล้วนโหดร้ายและนองเลือดเสมอมา!

ขณะที่จิตใจของเขากำลังเหม่อลอย เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา รายงานเสียงดังว่า “ทูลองค์รัชทายาท องค์ชายรองกับองค์ชายเจ็ดมาเยี่ยมพระองค์เพคะ”

มาเยี่ยมข้าอย่างนั้นหรือ? คงมาดูเรื่องตลกของข้ามากกว่ากระมัง?

หยางเฉินรู้แจ้งแก่ใจ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปบอกพวกเขาว่า ข้าบาดเจ็บสาหัส ยังไม่หายดี ไม่ขอพบแขก!”

“รัชทายาท น้ำเสียงของเจ้าฟังดูเปี่ยมด้วยพลัง จะบาดเจ็บสาหัสยังไม่หายดีได้อย่างไรกัน?”

“ใช่แล้ว รัชทายาท พวกเราอุตส่าห์มาเยี่ยมท่าน ไยจึงไม่ให้พวกเราเข้าพบเล่า?”

เสียงขององค์ชายรองและองค์ชายเจ็ดดังมาจากนอกประตู

องค์ชายรองหยางคุน และองค์ชายเจ็ดหยางอวี๋ เป็นพี่น้องแท้ ๆ บิดามารดาเดียวกัน มารดาของพวกเขาคือเซวียกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้อย่างยิ่ง

องค์ชายรองนั้นเหมือนกับองค์ชายใหญ่ที่หมายปองตำแหน่งรัชทายาทมานาน วันนี้เมื่อได้ยินเสียงเรียกร้องให้ถอดถอนองค์รัชทายาทดังก้องในราชสำนัก ก็ทำให้องค์ชายรองดีใจจนเนื้อเต้น

สิ้นเสียง องค์ชายทั้งสองก็เดินเข้ามาข้างในแล้ว

“พี่รอง พวกท่านมาได้อย่างไร?” หยางเฉินพยายามลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับโบกมือให้สาวใช้ เป็นสัญญาณว่าให้นางออกไปได้

“องค์รัชทายาท ได้ยินว่าขาของเจ้าถูกคนตีจนหัก? วรยุทธ์ก็ถูกทำลายไปด้วย? เช่นนั้นต่อไปเจ้าก็คงกลายเป็นคนพิการแล้วสินะ? ฮ่า ๆ ๆ ...” องค์ชายรองกล่าวเย้ยหยันอย่างอารมณ์ดี

“กลายเป็นคนพิการแล้วจริง ๆ หรือ? ข้าไม่เชื่อ!” สายตาขององค์ชายเจ็ดฉายแววเหี้ยมโหด เขายื่นมือออกไปกดลงบนขาขวาของหยางเฉิน

“อ๊าก...” หยางเฉินเจ็บปวดจนร้องเสียงหลง เหงื่อกาฬไหลซึม

“เจ้าเจ็ด เบามือหน่อย หากไปโดนจุดที่บาดเจ็บขององค์รัชทายาทเข้า เดี๋ยวองค์รัชทายาทก็ไปฟ้องเสด็จพ่อหรอก” องค์ชายรองยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางเอ่ยขึ้น

“ฟ้องหรือ? เช่นนั้นก็ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เปิดปากฟ้องอีกเลย!” องค์ชายเจ็ดกล่าว พร้อมกับใช้มือบีบคอของหยางเฉินอย่างโหดเหี้ยม

“ปล่อย... ปล่อยข้า... อึก... อึก...” หยางเฉินใช้สองมือพยายามแกะมือขององค์ชายเจ็ดออก ปากก็ส่งเสียงอู้อี้

เมื่อถูกบีบคอ หยางเฉินก็หายใจติดขัด ใบหน้าแดงก่ำ สองมือตะเกียกตะกายอย่างสะเปะสะปะ แต่ตอนนี้เขาสูญสิ้นวรยุทธ์ไปแล้ว จึงไม่สามารถสลัดให้หลุดออกจากมือที่แข็งแกร่งของหยางอวี๋ได้เลย

“เมื่อก่อนเจ้าเป็นรัชทายาท พวกเราทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคนพิการคนหนึ่ง พวกเราอยากจะบีบคอเจ้าให้ตาย ก็ง่ายเหมือนกับบี้มดตัวหนึ่ง หากเจ้ากล้าไปฟ้อง ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะต้องตายอย่างอนาถ” องค์ชายเจ็ดกล่าวข่มขู่ด้วยรอยยิ้มเย็นชา

องค์ชายรองเห็นว่าหยางเฉินใกล้จะขาดใจตายแล้ว จึงโบกมือให้น้องชายเป็นสัญญาณว่าอย่าเพิ่งฆ่าเขา

แม้ว่าตอนนี้หยางเฉินจะสูญสิ้นวรยุทธ์ และกลายเป็นคนพิการไปแล้ว แต่หากฆ่าเขาในตอนนี้ ก็จะนำปัญหามาสู่พวกเขาไม่น้อย

โดยเฉพาะพวกองค์ชายใหญ่และองค์ชายสามจะต้องฉวยโอกาสนี้มาเล่นงานพวกเขาเป็นแน่ ถึงตอนนั้น เรื่องการชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท ก็คงหมดสิทธิ์

“แค่ก... แค่ก...” ในที่สุดหยางเฉินก็ได้สูดอากาศหายใจเข้าไปอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองของเขาเย็นเยียบราวกับคมมีด เปล่งประกายจิตสังหารที่หนาวเหน็บจนถึงกระดูก

คนที่คิดจะฆ่าเขา เขาไม่มีวันปล่อยมันไปเด็ดขาด!

“พวก... พวกท่านแน่จริงก็ฆ่าข้าเสียสิ! มิเช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็ว ข้าก็จะฆ่าพวกท่าน!” น้ำเสียงของหยางเฉินเยียบเย็นจนน่าขนลุก

“เจ้ากล้าขู่พวกเราหรือ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้!” จิตสังหารขององค์ชายเจ็ดปรากฏออกมา

“ดีเลย! อย่างไรเสียองค์ชายใหญ่ก็คงจะดีใจจนเนื้อเต้นที่พวกท่านฆ่าข้า หากเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครไปแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับเขาแล้ว”

องค์ชายรองคิดถึงเรื่องนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงยิ้มอย่างเย้ยหยันพลางกล่าวเสียงเย็น “องค์รัชทายาท ดูเจ้าพูดเข้าสิ พวกเราเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ จะฆ่าเจ้าได้อย่างไรกัน? แม้จะฆ่าเจ้าไม่ได้ ทว่า โทษตายอาจละเว้นได้ แต่โทษเป็นนั้นยากจะหนีพ้น!”

เพียะ!

องค์ชายรองเงื้อมือขึ้นตบเข้าที่ใบหน้าของหยางเฉิน ทิ้งรอยนิ้วมือห้านิ้วไว้บนใบหน้าทันที

ถุย!

หยางเฉินกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระเด็นใส่หน้าขององค์ชายรอง “แน่จริงก็ฆ่าข้าสิ!”

“ดูสิว่าปากของเจ้าจะแข็งกว่า หรือหมัดของข้าจะแข็งกว่ากัน!” องค์ชายเจ็ดปล่อยหมัดกระแทกลงไปอย่างแรง

อ๊าก ...

หยางเฉินร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แล้วขดตัวเป็นก้อน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 100

    เวลานี้ ภายห้องโถงใหญ่ของพระตำหนัก ฮ่องเต้อู่เต๋อกำลังนำฮองเฮาถวายพระพรและถวายของขวัญให้ไทเฮา ไทเฮาที่นั่งอยู่ตรงกลางดีพระทัยจนแย้มสรวลไม่หยุด รีบสั่งให้คนจัดที่นั่งให้ฮ่องเต้และฮองเฮาผู้ที่มาร่วมงานคล้ายวันพระราชสมภพในวันนี้ ถูกฮองเฮาแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม กลุ่มที่เข้ามาอวยพรวันเกิดเป็นกลุ่มแรกย่อมเป็นบรรดาพระญาติพระวงศ์ ที่สำคัญก็คือเหล่าองค์ชายและพระราชนัดดา แม้แต่องค์หญิงใหญ่หยางจิ่นอวี๋ก็มาด้วยแล้วต่อจากฮองเฮาก็คือเหล่าพระสนมวังหลัง ที่ตามมาติดๆ กันคือเซวียกุ้ยเฟย เซียวซูเฟย และยังมีเจาหรง เจาอี๋ ไฉเหริน และกุ้ยเหรินจากตำหนักในด้วยแม้แต่มารดาของหยางเฉิน ‘พระสนมฉิงกุ้ยเฟย - หลีหว่านฉิง’ ก็ยังมาอวยพรวันเกิดไทเฮาด้วยทว่านอกจากฮองเฮาและกุ้ยเฟยอีกไม่กี่นางแล้ว เหล่านางสนมที่อยู่ด้านหลังพวกนั้นไม่มีแม้แต่ที่นั่ง จึงทำได้เพียงจากไปทางประตูข้างหยางเฉินในฐานะองค์รัชทายาทและผู้นำของทายาทรุ่นที่สาม แม้จะสูญเสียวรยุทธ์ไปจนสิ้นและต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ทว่าฐานะของเขายังคงตั้งอยู่ตรงนั้น ดังนั้นจึงเป็นคนแรกที่เข้าสู่ห้องโถงเช่นกัน“หลานหยางเฉินขออวยพรเสด็จย่า ขอพระองค์ทรง ‘โชควาสนาเปี่

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 99

    ด้วยความสามารถระดับสามัญวชิระของเขาในอดีต ต่อให้เป็นเพียงพลังยุทธ์สามส่วน ก็สามารถต่อกรกับยอดฝีมือขั้นแปดลงไปได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังมีวิชาลับอันร้ายกาจที่เพิ่มพูนความสามารถได้อีกวันนี้เป็นวันเกิดของเสด็จย่า หยางเฉินเลือกของขวัญที่ดูเข้าเกณฑ์สองชิ้น เตรียมไปอวยพรวันเกิดให้เสด็จย่าเรื่องใหญ่อย่างงานคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา ย่อมมีฮองเฮาประมุขแห่งวังหลังเป็นผู้กำกับดูแล และมีการเชื้อเชิญเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊กับครอบครัว กล่าวได้ว่าครึกครื้นอย่างที่สุดพระตำหนักฉือหนิง เป็นตำหนักที่ประทับของไทเฮา ผู้เป็นพระพันปีหลวงในตอนที่หยางเฉินมาถึงที่นี่ บรรดาเสด็จพี่เสด็จน้องชายทั้งหลายก็ต่างมาถึงกันแล้ว ต่างกำลังเข้าแถวรออยู่นอกตำหนัก เพื่อเข้าไปมอบของขวัญและอวยพรวันเกิดแก่พระพันปี“เสด็จพี่ใหญ่ เสด็จพี่รอง วันนี้พวกท่านไม่ไปเจรจาสันติภาพหรือ?” หยางเฉินแกล้งถามอย่างประหลาดใจ“พอองค์หญิงได้ยินว่าเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา ก็ให้พวกเรามาอวยพรวันเกิดให้เสด็จย่า พรุ่งนี้ค่อยเจรจากันต่อ” องค์ชายใหญ่ตอบด้วยรอยยิ้มองค์ชายรองยิ้มแทรกขึ้นมาว่า “องค์รัชทายาท องค์หญิงผิงหยางผู้นี้คิดได้รอบ

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 98

    คนที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงทั้งสองต่างวางแผนเล่นงานอีกฝ่าย เจ้าวางแผนใส่ข้า ข้าก็วางแผนใส่เจ้า!ในขณะที่องค์หญิงผิงหยางกำลังยินดีนั่นเอง สาวใช้ทั้งสองคนของนางก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบงัน คุกเข่าลงกับพื้นทั้งคู่“ทูลองค์หญิง ภารกิจล้มเหลวแล้วเพคะ!”“ว่าอย่างไรนะ? ล้มเหลวแล้ว? หรือถูกเขาค้นพบเข้าแล้ว?” องค์หญิงผิงหยางตกตะลึง“องค์หญิง พวกเราวางกำลังดักซุ่มถึงสองครั้ง แต่ในขณะกำลังจะเข้าสู่หลุมพราง เจ้าหยางเฉินผู้นี้ล้วนวกรถม้ากลับไป ทำให้แผนการของเราล้มเหลวทั้งหมด!” ถัดมา อวิ๋นจือก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างละเอียดอีกรอบหนึ่งองค์หญิงผิงหยางฟังคำรายงานของสาวใช้ ในใจพลันกระตุกขึ้นมา โพล่งออกมาว่า “หรือหยางเฉินจะพบว่าพวกเราคิดลอบสังหารเขาจริงๆ ?”“องค์หญิง พวกเรามิได้ถูกเปิดโปงเพคะ เขาน่าจะไม่รู้ว่าพวกเราคิดลอบสังหารเขา!” ชูเซี่ยส่ายหัว คิดว่าหยางเฉินไม่มีทางสังเกตเห็นพวกนาง“หรือเขาคิดได้ระหว่างทางจริงๆ เลยยอมรับข้อเสนอของข้าแล้วย้อนกลับมาบอกข้า?” องค์หญิงผิงหยางคาดเดา“ข้อเสนออะไรหรือเพคะ?” สาวใช้อวิ๋นจือถาม“ข้าคิดขจัดความสงสัยของเขา จึงบอกไปว่าจะแต่งงานกับเขา แล้วช่วยให้ตำแ

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 97

    “เป็นไปไม่ได้ หากฮ่องเต้กล้าปลดท่าน ข้าก็จะให้จักรวรรดิตงเซิ่งเริ่มทำสงคราม หรือฮ่องเต้จะไม่กลัวราษฎรต้องทุกข์ร้อนหรือ?” องค์หญิงผิงหยางเต็มไปด้วยความอหังการหยางเฉินขมวดคิ้ว กล่าวหน้ามุ่ยว่า “องค์หญิง ท่านก็อย่างได้จ้องจะจับข้าอีกเลย ไม่งั้น ท่านไปทำร้ายเสด็จพี่ใหญ่ หรือเสด็จพี่รองแทนเถอะ?”“หยางเฉิน…เจ้ามัน…” องค์หญิงผิงหยางรู้สึกว่าโมโหจนแม้แต่ปอดก็จะระเบิดแล้ว“องค์หญิง ขอลาก่อนล่ะ!” หยางเฉินกลัวจนต้องรีบเผ่นองค์หญิงผิงหยางมองเงาหลังที่จากไปของเขา ความโมโหบนใบหน้าก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นรอยยิ้มเยาะหยันที่แสนเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกแทน……หลังหยางเฉินขึ้นรถม้าแล้ว ก็มุ่งหน้าไปทางพระราชวัง เตรียมกลับไปที่ตำหนักรัชทายาททว่า หลังจากรถม้าแล่นออกไปได้ไม่ไกล หัวใจของหยางเฉินที่นั่งอยู่ในรถม้าก็สั่นสะท้านขึ้นมา เขารีบเปิดใช้วิชาสดับฟ้าแผ่ขยายออกไปทันที“หยุดรถ!” หยางเฉินออกคำสั่งเสียงดังยอดฝีมือที่สำนักตรวจการส่งมาคุ้มครองเขามีราวยี่สิบคน แต่ฝีมือของคนพวกนี้กลับมิได้สูงมากนัก“องค์รัชทายาท เกิดสิ่งใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” คนผู้หนึ่งเข้ามาใกล้รถม้าแล้วกระซิบถาม“พวกเจ้าไม่สังเกตเห็นว่า

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 96

    ซยงหนูเคลื่อนลงใต้มารุกรานที่ราบภาคกลาง นี่เป็นภัยคุกคามที่มีมานานของจักรวรรดิส่วนการรุกรานในครั้งนี้ของพวกซยงหนู จะเป็นการร่วมมือกับจักรวรรดิตงเซิ่งหรือไม่ หรือจะเป็นเพราะซยงหนูเห็นจักรวรรดิตงเซิ่งปิดล้อมป้อมปราการเกอเอ่อเติง อยากฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ จับปลาในน้ำขุ่น จึงเคลื่อนทัพลงใต้ก็ยากที่จะบอกได้อันที่จริงแล้ว ในสายตาของหยางเฉิน ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนไม่ได้สำคัญถึงเพียงนั้น ยามนี้พลังยุทธ์ของเขาฟื้นตัวกลับมาได้สามส่วนแล้ว ขอเพียงฟื้นฟูกลับมาได้ห้าส่วน ต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นเก้าเขาก็ไม่กลัว สามารถนำทัพออกศึกได้แล้วตามการขยายขอบเขตของ ‘วิชาสดับฟ้า’ ตอนนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมระยะยี่สิบเมตรแล้ว หากเขาฝึกฝนต่อไป ระยะหลายร้อยหรือกระทั่งหลายพันเมตรก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาขอเพียงมีวิชาลับนี้อยู่ เขาก็จะไม่มีทางตกสู่หลุมพรางของศัตรูอีกเมื่อเผชิญกับท่าทีบีบคั้นผู้คนขององค์หญิงผิงหยาง หยางเฉินก็มิได้ใส่ใจเลย เขากลับหลุดหัวเราะออกมาราวได้ยินเรื่องตลกว่า “องค์หญิง ท่านคิดว่าคำข่มขู่เล็กๆ นี้ของท่าน จะทำให้พวกเรายอมแพ้ได้หรือ?”“ความหมายขององค์รัชทายาทคือ จะรอจนพวกเราตีป้อมปรา

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 95

    การเจรจาสันติภาพของนางกับองค์ชายทั้งสองในวันนี้ ไม่อาจเรียกว่าการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งเลยสักนิด รู้สึกเพียงว่ามีแมลงวันสองตัวกำลังส่งเสียงหึ่งหึ่งอยู่ข้างหูนาง และทุกครั้งที่พูดถึงประเด็นสำคัญ พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงไม่ยอมคุยที่น่าโมโหกว่านั้นก็คือ องค์ชายใหญ่จะเชิญนางไปร่วมรับประทานอาหารค่ำ ส่วนองค์ชายรองก็จะเชิญนางไปร่วมชมจันทร์ทันทีที่นึกถึงองค์ชายทั้งสองผู้ใช้ร่างกายท่อนร่างแทนสมอง องค์หญิงผิงหยางก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย ทว่า เมื่อนางแสร้งส่งสัญญาณเป็นนัยว่าตนสนใจหยางเฉิน ก็สามารถปลุกเพลิงโทสะในตัวองค์ชายทั้งสองขึ้นมาได้สำเร็จหากกระตุ้นพวกเขาต่อไป ไม่แน่อาจทำให้พวกเขากำจัดหยางเฉินทิ้งก็ได้นับแต่โบราณมา ‘อุบายหญิงงาม’ ก็เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ร้อยครั้งสัมฤทธิ์ผลร้อยครา องค์หญิงผิงหยางใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ องค์ชายทั้งสองย่อมติดกับเป็นธรรมดาในความเป็นจริงแล้ว เพื่อต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ องค์ชายทั้งสองก็มีความคิดจะสังหารหยางเฉินมานานแล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ส่งคนไปลอบโจมตีเรือนรับรองทิงเฟิงครั้งนี้ องค์หญิงผิงหยางแค่กระตุ้นพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาก็พลันเกิดจิตสังหารต่อหยางเฉินแล้ว

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status