Home / โรแมนติก / ร้อนรักกลางใจ (3P) / 7.รักใครเป็นไหมเราอ่ะ

Share

7.รักใครเป็นไหมเราอ่ะ

Author: Alisha_Lanna
last update Last Updated: 2025-06-18 15:55:30

คิณภัทรทำหน้านิ่งหลังจากเจอคำถามของพราวตะวัน จนเธอคิดว่าตัวเองเผลอถามคำถามที่เสียมารยาทใส่เขาทั้งที่พาเธอมาทานข้าว

“ขอโทษค่ะ พราวไม่ได้ตั้งใจ ที่พราวถามแบบนี้เพราะเห็นว่าพี่คิณยังไม่ได้ลงหลักปักฐานกับใครเท่านั้นเองค่ะ“

“ผมไม่ซีเรียสนะ กินต่อเถอะ”

แต่ท่าทางของคิณภัทรทำให้เธอรู้ว่าเขาปากไม่ตรงกับใจ ส่วนแฟนหนุ่มของเธอก็ยังคุยเก่งร่าเริงปกติ โดยไม่สนใจพี่ชายที่นั่งก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ

เมื่อจบมื้อกลางวันที่คิณภัทรรู้สึกกร่อยๆ เขาขับรถไปส่งพราวตะวันกลับไปที่แกลลอรี่ ระหว่างขับรถก็นั่งฟังคู่รักหนุ่มสาวที่นั่งเบาะหลังด้วยกัน คุยหัวเราะต่อกระซิกกันเบาๆตลอดทางเหมือนเขาไม่มีตัวตน

“พี่คิณ..ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เอ่อ..พราวขอโทษที่ทำให้พี่โกรธด้วยค่ะ”

เธอยกมือไหว้เขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เจตนิพัทธ์จึงรีบพูดเพื่อปกป้องเธอตามประสา

“พราวคิดมากไปแล้ว พี่คิณไม่คิดอะไรหรอก เก๊กไปงั้นแหละ ถ้าถามแค่นี้แล้วโกรธก็เกินไปแล้ว รักใครเป็นหรือเปล่าเถอะ”

“อือ..ฉันมันไม่มีหัวใจสินะ”

คิณภัทรพูดเสียงเนือยๆตอบน้องชายพร้อมกับเหลือบหางตามอง

“เจต ทำไมต้องพูดแบบนั้นกับพี่คิณล่ะ พี่เขาทั้งช่วยซื้อภาพวาด ขับรถพาไปทานข้าว ต่อให้เป็นพี่น้องกันก็ต้องถนอมน้ำใจกันนะ”

“พราวดุเจตทำไมน่ะ?”

“ช่างเถอะ ไปทำงานแล้วนะ ขอบคุณนะคะพี่คิณ”

พราวตะวันลงจากรถไป ส่วนเจตนิพัทธ์ก็ย้ายไปนั่งหน้าข้างคนขับ ทำหน้าเครียดที่โดนแฟนสาวดุ

“พี่โกรธพราวเหรอ? เห็นเงียบตลอด”

“ไม่ ที่เธอคิดว่าฉันไม่เข้าใจความรักแบบนั้นเพราะแกชอบพูดให้เธอเข้าใจว่าฉันเป็นเสือผู้หญิงไง ไม่แปลกหรอก ฉันควรโกรธแกมากกว่าที่ทำภาพลักษณ์ฉันเสียหายหมด”

“เอ้า พากันมาโกรธเจตกันหมด อะไรวะ”

“แกเข้าใจความรักมากกว่าใครๆงั้นสิ”

“ไม่ได้พูดแบบนั้น แค่เจอคนที่ใช่ก็หยุดแล้ว ไม่ได้เหมือนตอน15-16”

“แกพึ่งอายุ 21 จะ 22 อย่าพึ่งแน่ใจนักเลย ก่อนนี้มีแฟนกี่คนก็เห็นปลื้มนักปลื้มหนา คลั่งรักหัวปักหัวปำแล้วเป็นไง? แกต่างหากที่เป็นคาสโนว่า ไม่ใช่ฉัน ดีนะที่แต่ละคนไม่ท้องในวัยเรียน ไม่งั้นแกฉิบหายแน่”

“ยังกับพี่ไม่เคยทำงั้นน่ะ”

“ฉันป้องกันโว้ย แล้วเสียซิงก็เกือบจะจบมหาวิทยาลัย ไม่เหมือนแก ล่อตั้งแต่ ม.ปลาย ถ้าแม่รู้นะ นึกภาพไม่ออกเลย”

ทั้งคู่จบการสนทนาและนั่งกันเงียบๆในรถ อันที่จริงแล้วเจตนิพัทธ์จงใจพูดให้พราวตะวันคิดแบบนั้นเสมอ เพราะเขาเห็นสายตาที่พี่ชายของตัวเองมองเธอตั้งแต่พาไปแนะนำตัวให้ครอบครัวรู้จัก แค่ว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อหน้าทุกคนเท่านั้น

ในใจลึกๆเขารู้ดีว่าด้อยกว่าพี่ชายแทบทุกอย่าง แถมไม่ใช่คนโปรดของพ่อแบบคิณภัทร ไม่มีอิสรภาพทางการเงินเหมือนพี่ชายที่จะจ่ายเอาใจผู้หญิงได้ตามอำเภอใจตราบใดที่ยังเรียนไม่จบและยังไม่ได้ทำงาน ที่ผ่านมาก็ทำได้แค่ซื้อของขวัญวันเกิดด้วยช่อดอกไม้ พาไปทานข้าว ดูหนัง เที่ยวเตร่ทั่วๆไป เขาอยากขอเงินแม่เพื่อซื้อของแพงๆให้เธอ แต่ติดที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวเขายังไม่เคยเจอเธอสักครั้ง เพราะพราวตะวันอยากคบหาให้แน่ใจในกันและกันสักพักก่อน

แกลลอรี่ อาร์ต Sukhumvit Art Haus

พราวตะวันเดินเข้าไปเพื่อจะเริ่มทำงานต่อ เนื่องจากมีผู้เข้ามาชมงานศิลปะอยู่ประปราย แต่ทางผู้จัดการได้เข้ามาพูดคุยกับเธอด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มมีเลศนัย

“พราว พี่คุยด้วยครู่นึงจ้ะ”

“ค่ะพี่”

“ลูกค้าซื้อภาพวาดที่พราวขายไปช่วงเที่ยง เขาโดเนทให้พราวเท่ากับราคาภาพเลย บวกกับ5%ที่พราวได้ เดี๋ยวพี่คำนวนแบบหักภาษี ณ ที่จ่ายให้เลย ขอเลขบัญชีของพราวด้วยจ๊ะ”

พราวตะวันอึ้งบวกตะลึงจนดวงตาที่โตอยู่แล้วกลายเป็นเท่าไข่ห่าน พร้อมกันเขียนเลขบัญชีธนาคารใหัไป

พี่คิณทำไมทำแบบนี้นะ แล้วเจตจะรู้หรือเปล่า?…

“พี่คะ ลูกค้าได้ให้รายละเอียดอะไรไว้มั้ย? พราวอยากติดต่อเพื่อขอบคุณเขาน่ะค่ะ”

“อ้อ มีๆ เขาให้นามบัตรเอาไว้เพราะมีที่อยู่บริษัทของเขาน่ะ พี่ต้องส่งใบเสร็จใบกำกับภาษีส่งให้ฝ่ายบัญชีบริษัท นี่เขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ชื่อดังเลยนะ”

“ขอพราวดูหน่อยค่ะพี่”

ผู้จัดการได้ยื่นนามบัตรของคิณภัทรให้ เธอแค่ถ่ายรูปเอาไว้แล้วคืนให้ไป

“พราวขออนุญาตโทรศัพท์ไม่เกินห้านาทีได้มั้ยคะ? แล้วจะรีบมาดูแลหน้างานค่ะ”

“ตามสบายๆ ไม่เป็นไรพราว”

เธอรีบเดินไปมุมๆหนึ่งของแกลลอรี่แล้วโทรหาคิณภัทรตามเบอร์ในนามบัตรนั้นทันที

“ฮัลโหล”

“พี่คิณใช่มั้ยคะ?”

ฝ่ายที่รับสายถึงกับตกใจระคนตื่นเต้น รีบลุกจากเก้าอี้ไปยืนคุยที่หน้าต่างห้องทำงาน

“พราวเหรอ?”

“ค่ะ ผู้จัดการบอกว่าพี่คิณโดเนทให้ แต่มันมากเกินไปนะคะ พราวได้คอมมิชชั่นจากการขายอยู่แล้ว เกรงใจมากค่ะ”

ซึ่งเธอคิดแบบนั้นจริงๆ พาลนึกไปถึงที่ร้านอาหารตอนเสียมารยาทกับเขา

“ผมอยากให้เอง มันคือสิ่งที่คุณควรได้ แค่นึกถึงว่าคุณต้องอธิบายซ้ำๆกับทุกคนแบบนี้ ผมยังเหนื่อยแทนเลย”

นี่ฉันตัดสินเขาเร็วเกินไปจริงๆ ขนาดเรื่องเล็กๆน้อยๆเขายังรู้จักเห็นอกเห็นใจ อยากให้กำลังใจคนอื่น แต่ฉันดันไปถามเขาแบบนั้นทำเหมือนว่าเขาไม่มีหัวใจ

“ถ้าพี่คิณมีอะไรให้พราวทำเป็นการตอบแทนได้ พราวยินดีค่ะ”

“ผมไม่ต้องการอะไรในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆผมมีเบอร์คุณแล้ว พราวตะวัน”

“เรื่องโดเนทนี้เจตรู้มั้ยคะ?”

“ผมไม่จำเป็นต้องบอก เพราะเขาจะคิดมาก”

เธอรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะกล่าวขอบคุณอีกครั้งแล้วกดวางสาย หันหลังเดินกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ

เจตนิพัทธ์นั่งดูเอกสารทำงานด้วยใจที่ไม่มีสมาธิ เขาอยากโทรไปง้อเธอ แต่ติดที่อยู่กับผู้จัดการกองทุนของบริษัทกำลังสอนงานเขาอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองออกไปจากบริษัทอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    11. ถูกใจ..แต่ไม่ถูกต้อง

    คิณภัทรกลับไปที่ห้องนอนของเขา นอนก่ายหน้าผากว่าจะโทรหาเธอดีไหม? ถ้าโทรไปเธอจะวีนใส่เขาหรือเปล่า? เขาตัดสินใจโทรไปซึ่งเธอไม่รับสาย จึงลองโทรอีกครั้งปรากฏว่าโทรไม่ติดอีกเลย ส่งข้อความก็ไม่มีการตอบรับใดๆโอ้โห..บล็อกกันเลยเหรอ? เด็ดขาดดีจริงๆ ไม่งั้นก็คงโดนเกลียดเข้าแล้วสินะ… แต่ทางด้านเจตนิพัทธ์ เขาส่งข้อความหาเธอเพื่องอนง้อขอโทษ พร่ำพรรณนาว่าคิดถึงเธอมากแค่ไหน พราวตะวันตอบมาแค่สั้นๆทำเอาเขาใจแป้ว “สำนึกผิดก็ดี นอนได้แล้วล่ะ”สำหรับเขาที่นิสัยไทป์หมาน้อยบวกกับความรักที่คลั่งไคล้ตามประสาวัยรุ่น ทำให้ตัดสินใจคว้ากุญแจรถแล้วออกไป คิณภัทรได้ยินเสียงปิดประตูห้อง จึงรีบเปิดประตูบ้างก็เห็นหลังน้องชายไวๆเดินลงบันไดไป เขารีบเดินตามไปและเอ่ยห้ามเอาไว้“เจต ยิ่งแกทำแบบนี้ พราวยิ่งหนีแกนะ ปล่อยให้เธออยู่เงียบๆคนเดียวสักพักดีกว่า”“เราไม่เคยทะเลาะกันเลย ไม่เคยตัดการติดต่อแบบนี้ อะไรจะให้แค่ส่งข้อความ เราเคยคุยกันว่าจะไม่เงียบมีอะไรต้องคุยกัน”คิณภัทรอ่อนใจที่เห็นน้องชายอ่อนไหวกับความสัมพันธ์เกินไปจนดูไม่โตเป็นผู้ใหญ่“นี่มันเป็นเพราะเราสองคนผิดต่อเธอ แล้วมันละเอียดอ่อนกระทบความรู้สึกของผู้หญิง เ

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    10. รู้บ้างว่าใครเป็นใคร..ไอ้หมาน้อย

    น้ำอุ่นๆร้อนๆทะลักออกมาเมื่อเจตนิพัทธ์เอาแก่นกายที่อ่อนแรงแล้วออกจากช่องทางรักของคนรักสาวสวย แต่เขาก็ยังอ้อยอิ่งอยู่บนร่างกายที่นุ่มนิ่มจนพราวตะวันต้องท้วงขึ้นมา”เจต..เลอะหมดแล้ว ขอพราวไปห้องน้ำหน่อย“”ถ้าไปส่งบ้านแล้ว คืนนี้ออกมาอยู่กับเจตที่นี่ได้ไหม? ใกล้เช้าจะไปส่งกลับบ้านเหมือนเดิม”“แล้วเจตจะไม่กลับบ้านได้ยังไง? บ้าแล้ว”“ไม่มีโอกาสได้อยู่สองคนนานๆเลยอ่ะ อยากกอดอยากได้ทั้งคืน”“เจตยังไม่ตอบพราวเลย ทำไมถึงคาสายให้พี่คิณฟังเรามีอะไรกัน?”“ก็เขาบอกไม่ต้องวาง แล้วตอนนั้นเจตใกล้เสร็จเลยลืมตัวไปหน่อย”คำตอบของเจตนิพัทธ์ทำเอาพราวตะวันแอบช็อกนี่แปลว่า…พี่คิณจงใจอยากฟังคนสองคนร่วมรักกันอย่างนั้นเหรอ? แล้วแฟนฉันก็บ้าจี้ทำตามที่พี่ชายสั่งอีกต่างหาก…พราวตะวันใช้แรงผลักเจตนิพัทธ์ให้ออกจากตัวเธอ พอเธอลุกขึ้นได้ก็กระฟัดกระเฟียด หยิบกางเกงชั้นในไปด้วยแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง ”พราว..ที่รัก ออกมาหน่อยครับ โกรธอะไรอีกแล้วเหรอ?”เขาเคาะประตูห้องน้ำเบาๆเรียกเธออยู่แบบนั้น เงี่ยหูฟังก็ได้ยินแค่เสียงเหมือนอาบน้ำ สักพักพราวตะวันก็เปิดประตูออกมาโดยไม่มองหน้าเขา“พราว…เจตขอโทษ”“ไม่ต้องไปส่

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    ลากไปกินตับ ก่อนปรับความเข้าใจ

    เจตนิพัทธ์ออกจากบริษัทฝ่ารถติดไปที่แกลลอรี่เกือบไม่ทัน เพราะพราวตะวันกำลังจะออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้านพอดี“ทำไมเจตเลิกงานไว? แล้วจะมาก็ไม่โทรบอก จริงๆไม่ต้องมารับก็ได้”“โกรธหรือเปล่า?”“คนที่เจตต้องขอโทษคือพี่คิณ พราวจะโกรธทำไมล่ะ ก็แค่เตือนเฉยๆ”เขารู้สึกได้ว่าแฟนสาวมีน้ำเสียงที่แข็ง พูดจาห้วนๆ สีหน้าตึงใส่ ส่วนพราวตะวันที่เก็บความไม่พอใจเรื่องที่เจตนิพัทธ์รับสายพี่ชายแล้วปล่อยให้ได้ยินว่าทั้งสองมีอะไรกันนั้น มันทำให้เธออึดอัดใจแต่ก็ไม่อยากพูด“เจตรู้สึกได้ว่าพราวไม่พอใจ แบบมากๆด้วย คบกันมาสองปี รู้สิ”“มารับกลับบ้านใช่มั้ย? งั้นก็ไปส่งพราว ขอไม่คุยอะไรตอนนี้นะเหนื่อยทั้งวันแล้ว”“โอเค”เขาตอบรับง่ายๆ แล้วคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้เอง เดินนำไปที่รถและเปิดประตูให้ ระหว่างทางที่ขับรถเจตนิพัทธ์พยายามจับมือเธอแต่ก็โดนดึงมือกลับ “เดี๋ยวเจตโทรหาพี่คิณตอนนี้เลย พูดขอโทษต่อหน้าพราวก็ได้”“พราวไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนี้นะ เรื่องขอโทษไม่ขอโทษมันเป็นสิ่งที่เจตคิดเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาบอก”“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? เรามีอะไรก็เปิดอกคุยกันตลอดนะพราว เจตไม่อยากให้เป็นแบบนี้อ่ะ”“ไม่มีอะไรหรอก”พ

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    8.challenge

    พราวตะวันกำลังพูดคุยบรรยายเกี่ยวกับภาพวาดให้กับผู้ที่เข้ามาชมงานศิลป์ โดยไม่รู้ตัวว่ามีใครคนหนึ่งมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆเธอ เขาแอบมองความงามนั้นอยู่ห่างๆเพราะทั้งแกลลอรี่นี้ งานศิลปะเดียวที่เขาสนใจคือ เธอ คิณภัทรยืนรอดูอยู่พักใหญ่เพราะพราวตะวันขยันเดินไปเทคแคร์ผู้ที่มาชมผลงาน เธอพูดเก่ง ดูมีพลังงานล้นเหลือ พลอยทำให้เขารู้สึกสดชื่นและไม่เบื่อเลยสักนิด จนกระทั่งเธอว่างแล้วและกำลังหันไปดูรอบๆก็สบสายตากันพอดี“พี่คิณ…”เธอพูดชื่อเขากับตัวเองเบาๆ เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่พึ่งไปทานข้าวด้วยกันมา เธอยืนนิ่งอยู่แบบนั้นโดยที่เขาเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา“ตกใจเหรอ? ผมคิดไปคิดมาอยากซื้อภาพเพิ่มสักหน่อยน่ะ”“อ้อ..ค่ะ พี่คิณชอบแนวไหนคะ? เอ่อ..ลองไปดูทางนู้นดีไหมคะ? ราคาไม่สูงมาก เป็นของศิลปินหน้าใหม่แนวร่วมสมัย”“เหนื่อยมั้ย? คุณดูปวดขานะ”“ไม่ค่ะ พราวโอเค สบายมาก”เขาจับแขนเธอดึงเบาๆให้เดินตามมา แต่พราวตะวันขัดขืนนิดหน่อย “พี่คิณคะ พราวอยู่ในเวลางานค่ะ”“ผมเป็นลูกค้านะ คิดว่าผู้จัดการถ้าเห็นคุณอยู่กับผมคงไม่ว่าอะไรหรอก ผมยินดีซื้อภาพพวกนั้นเท่าไหร่ก็ได้ขอแค่ได้อยู่กับคุณนิดหน่อย มาเถอะ“เขาเป

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    7.รักใครเป็นไหมเราอ่ะ

    คิณภัทรทำหน้านิ่งหลังจากเจอคำถามของพราวตะวัน จนเธอคิดว่าตัวเองเผลอถามคำถามที่เสียมารยาทใส่เขาทั้งที่พาเธอมาทานข้าว “ขอโทษค่ะ พราวไม่ได้ตั้งใจ ที่พราวถามแบบนี้เพราะเห็นว่าพี่คิณยังไม่ได้ลงหลักปักฐานกับใครเท่านั้นเองค่ะ““ผมไม่ซีเรียสนะ กินต่อเถอะ”แต่ท่าทางของคิณภัทรทำให้เธอรู้ว่าเขาปากไม่ตรงกับใจ ส่วนแฟนหนุ่มของเธอก็ยังคุยเก่งร่าเริงปกติ โดยไม่สนใจพี่ชายที่นั่งก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ เมื่อจบมื้อกลางวันที่คิณภัทรรู้สึกกร่อยๆ เขาขับรถไปส่งพราวตะวันกลับไปที่แกลลอรี่ ระหว่างขับรถก็นั่งฟังคู่รักหนุ่มสาวที่นั่งเบาะหลังด้วยกัน คุยหัวเราะต่อกระซิกกันเบาๆตลอดทางเหมือนเขาไม่มีตัวตน “พี่คิณ..ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เอ่อ..พราวขอโทษที่ทำให้พี่โกรธด้วยค่ะ”เธอยกมือไหว้เขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เจตนิพัทธ์จึงรีบพูดเพื่อปกป้องเธอตามประสา“พราวคิดมากไปแล้ว พี่คิณไม่คิดอะไรหรอก เก๊กไปงั้นแหละ ถ้าถามแค่นี้แล้วโกรธก็เกินไปแล้ว รักใครเป็นหรือเปล่าเถอะ”“อือ..ฉันมันไม่มีหัวใจสินะ”คิณภัทรพูดเสียงเนือยๆตอบน้องชายพร้อมกับเหลือบหางตามอง “เจต ทำไมต้องพูดแบบนั้นกับพี่คิณล่ะ พี่เขาทั้งช่วยซื้อภาพวาด ขับรถพาไปทานข้าว ต

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    6.สายเปย์

    สองพี่น้องเดินตามพราวตะวันที่มีพนักงานปลดรูปลงมาแล้วเดินนำไปอีกที เพื่อเอาภาพที่ถูกเลือกนั้นไปห่อด้วย Plastic wrap โดยรอบทั้งกรอบรูป รองมุมทั้งสี่ด้วยโฟมกันกระแทก ตามด้วยใส่กล่องกระดาษเป็นขั้นตอนสุดท้าย คิณภัทรยื่นกุญแจรถให้น้องชาย“เจตพาพนักงานไปที่รถสิ เอาแฟนไปด้วยเลยไหนๆก็ได้เวลาพักเที่ยงพอดี พี่จะจ่ายค่าภาพวาดนี่ก่อน สตาร์ทรถรอได้เลย”พอพวกเขาทั้งหมดไปกันแล้ว เขาจัดการรูดบัตรดำชำระค่าภาพวาดเสร็จ ตามด้วยคุยกับผู้จัดการแกลลอรี่ในอีกเรื่องหนึ่ง“เธอคนที่ขายภาพนี้ ผมต้องการโดเนทให้เธอเป็นการส่วนตัวนอกเหนือจากเปอร์เซ็นที่เธอจะได้”“เอ่อ คุณสามารถติดต่อเธอโดยตรงก็ได้นะคะ ถ้ากรณีให้ด้วยความเสน่หา”“ผมต้องการให้เธอมีกำลังใจในการทำงาน แต่อยากให้ในนามลูกค้าไม่ใช่จากส่วนตัว”“โอเคค่ะ คุณสามารถระบุรายละเอียดได้เลยค่ะ”“ผมจะโดเนทให้เธอเท่ากับราคาภาพในนามบริษัท Innova พวกใบเสร็จใบกำกับภาษีทั้งหมดขอให้ส่งไปที่ฝ่ายบัญชีของบริษัทนะครับ”ทำเอาผู้จัดการตาโตที่เขาให้เยอะขนาดนี้สำหรับนักศึกษาฝึกงาน แม้ราคาภาพวาดจะแค่ 12,000 บาทเท่านั้น“ขอถามได้มั้ยคะว่าอะไรที่ทำให้คุณอยากให้เธอมากขนาดนี้?”“แพชชั่นท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status