แชร์

8.challenge

ผู้เขียน: Alisha_Lanna
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-19 23:26:01

พราวตะวันกำลังพูดคุยบรรยายเกี่ยวกับภาพวาดให้กับผู้ที่เข้ามาชมงานศิลป์ โดยไม่รู้ตัวว่ามีใครคนหนึ่งมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆเธอ เขาแอบมองความงามนั้นอยู่ห่างๆเพราะทั้งแกลลอรี่นี้ งานศิลปะเดียวที่เขาสนใจคือ เธอ 

คิณภัทรยืนรอดูอยู่พักใหญ่เพราะพราวตะวันขยันเดินไปเทคแคร์ผู้ที่มาชมผลงาน เธอพูดเก่ง ดูมีพลังงานล้นเหลือ พลอยทำให้เขารู้สึกสดชื่นและไม่เบื่อเลยสักนิด จนกระทั่งเธอว่างแล้วและกำลังหันไปดูรอบๆก็สบสายตากันพอดี

“พี่คิณ…”

เธอพูดชื่อเขากับตัวเองเบาๆ เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่พึ่งไปทานข้าวด้วยกันมา เธอยืนนิ่งอยู่แบบนั้นโดยที่เขาเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา

“ตกใจเหรอ? ผมคิดไปคิดมาอยากซื้อภาพเพิ่มสักหน่อยน่ะ”

“อ้อ..ค่ะ พี่คิณชอบแนวไหนคะ? เอ่อ..ลองไปดูทางนู้นดีไหมคะ? ราคาไม่สูงมาก เป็นของศิลปินหน้าใหม่แนวร่วมสมัย”

“เหนื่อยมั้ย? คุณดูปวดขานะ”

“ไม่ค่ะ พราวโอเค สบายมาก”

เขาจับแขนเธอดึงเบาๆให้เดินตามมา แต่พราวตะวันขัดขืนนิดหน่อย 

“พี่คิณคะ พราวอยู่ในเวลางานค่ะ”

“ผมเป็นลูกค้านะ คิดว่าผู้จัดการถ้าเห็นคุณอยู่กับผมคงไม่ว่าอะไรหรอก ผมยินดีซื้อภาพพวกนั้นเท่าไหร่ก็ได้ขอแค่ได้อยู่กับคุณนิดหน่อย มาเถอะ“

เขาเปลี่ยนไปจับข้อมือเธอที่เล็กดูน่าทะนุถนอม ดึงไปจนถึงมุมหนึ่งที่อับสายตาคนและมีที่พอจะนั่งได้ 

“อ่ะ นั่งลงก่อน ฝึกงานเสร็จคุณคงเป็นเส้นเลือดขอดพอดี”

พราวตะวันทำตัวไม่ถูกและมุมนี้ก็เงียบไม่มีใครเดินผ่านมา คิณภัทรย่อตัวนั่งลงและจับขาเธอบีบให้เบาๆ 

“พี่คิณ! ทำอะไรคะ? อย่าค่ะพี่ คนมาเห็นมันจะดูไม่เหมาะสม พี่เป็นลูกค้านะคะ”

แต่เขาไม่ฟัง ยังคงบีบเบาๆให้อยู่พักนึง

“พราวโอเคแล้วค่ะ ไม่เมื่อยแล้ว พอเถอะค่ะ”

เธอระแวงจนต้องหันซ้ายหันขวาอยู่ตลอด เขาลุกขึ้นมานั่งข้างเธอ ส่งยิ้มที่แสนเสน่ห์นั้นให้

“คุณดูมีความสุขเวลาทำงานที่นี่ แต่เป็นผมเองที่ทนไม่ได้เวลาเห็นคุณยืนตลอดแบบนั้น”

“ที่นี่ไม่ได้บังคับค่ะ พราวอยากคุยกับลูกค้าเอง”

ในใจของพราวตะวันเริ่มคิดว่าเขาจะทนไม่ได้ทำไม ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย 

“พี่คิณคะ พราวคบกับน้องชายพี่ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ พราวไม่อยากมีปัญหากับเจต”

“ผมทำอะไร? แค่จะมาซื้อภาพเพิ่มแล้วเห็นคุณปวดขาก็แค่นั้นเอง คุณคือแฟนน้องผม ก็เท่ากับว่าไม่ใช่คนอื่น”

ตรรกะอะไรของเขากันเนี่ย คิดได้ยังไง….

”ทำไมพี่คิณต้องให้เงินพราวเยอะขนาดนั้นคะ? ต้องการอะไรจากพราวหรือเปล่า? แล้วกดติดตามไอจีอีก อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะ พราวคิดดีไม่ได้เลย ขอโทษที่พูดตรงๆค่ะ”

คิณภัทรชอบใจที่เธอถามเขาตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม แสดงถึงความเป็นคนชัดเจน ไม่ชอบเล่นเกมกับความรู้สึกของคนอื่น เธอแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาจริงๆ

“Love at first sight มั้ง”

คำตอบนี้ทำให้พราวตะวันไม่มองเขาและถอนหายใจเฮือก เธอเงียบเพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่

“คืนนั้นที่เขาไม่ไปกินข้าวกับที่บ้าน ผมได้ยินเสียงคุณ..เซ็กซี่มากเลย”

คราวนี้เธอหันขวับมามองเขาด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก

“หมายความว่ายังไง?”

“ผมโทรหาเจตตอนกำลังมีอะไรกับคุณมั้ง แล้วเขาไม่ได้กดวางสาย ผมเลยได้ยินทุกอย่าง..จนจบ”

พราวตะวันลุกขึ้นยืน หน้าแดงก่ำด้วยความไม่พอใจอย่างแรง วันนี้เธอต้องเอาเรื่องแฟนหนุ่มให้ได้

“พราวจะต้องคุยกับเจตเรื่องนี้ มันน่าอายจริงๆ แล้วทำไม..พี่คิณก็ต้องอยากฟัง..มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพราวนะ หรือพี่คิณกับเจตรู้กันเลยทำแบบนี้?”

“อย่าเข้าใจผิด ไม่ต้องไปว่าเจตหรอก อยากให้เขารู้ว่าผมมาหาคุณเหรอ?”

“อย่าปั่นหัวพราวแบบนี้เลยค่ะ พราวเข้าใจว่าพี่น้องบางบ้านชอบแข่งขันกัน เอาชนะกัน ไม่งั้นพราวคงต้องเลิกกับเจต”

ท่าทางเธอดูจริงจังจนคิณภัทรต้องรีบอธิบายก่อน

“ผมไม่ได้จะปั่นหรืออยากแกล้งอะไรคุณ ขอโทษที่ปากเร็วไปหน่อย ผมขอแค่ได้คุยกับคุณบ้างก็พอ ทักทายอะไรแบบนี้ แล้วผมจะค่อยๆเฟดตัวเองไปเอง”

“พี่คิณไม่มีใครให้คุยแล้วเหรอคะ? ถ้าเจตรู้จะคิดยังไง? แบบนี้มันไม่ถูกต้อง”

“แค่คุยก็ไม่ได้เหรอ? บางครั้งผมก็แค่อยากมีคนที่แบ่งปันพลังบวกให้บ้าง แค่ข้อความสั้นๆของใครบางคน อาจเปลี่ยนวันทั้งวันของผมให้สดใสขึ้นก็ได้”

  เธอทำท่าว่ายอมแพ้กับลูกตื๊อของเขา

“พราวขอไปทำงานต่อก่อนค่ะ”

“โอเค งั้นช่วยแนะนำภาพสักสองสามภาพให้หน่อยนะ”

เธอแยกแยะความรู้สึกส่วนตัวกับเรื่องงานได้ดีพอสมควรในความคิดของคิณภัทร เธอกลับมาเป็นคนที่มีแพชชั่นในการทำงานทันที เสมือนว่าไม่ได้ปะทะอารมณ์กับเขามาก่อน

เขาเลือกได้สองภาพและกลับไปทำงานต่อ โดยไม่เซ้าซี้เธออีก 

เช่นเคยผู้จัดการได้แจ้งกับพราวตะวันว่า เขาโดเนทให้เธออีกห้าพันบาทสำหรับการพรีเซนต์ภาพที่เขาถูกใจ 

“เขาชอบพราวแน่นอน ดูสายตาก็รู้ พี่นี่เขินแทนเลย แต่ตอนเที่ยงเหมือนเห็นมากับแฟนพราวนี่นา แล้วหน้าคล้ายกันมาก เป็นพี่น้องกันใช่มั้ย?”

“ค่ะ พี่น้องกัน…แต่ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่เขาสงสารเห็นหนูไม่ค่อยมีเงินละมั้ง”

 ผู้จัดการมองเธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ 

“ผู้ชายบางคนก็ชอบความท้าทาย ตราบใดที่อีกฝ่ายนิ้วนางซ้ายยังว่างอยู่”

“พราวว่ามันคือธรรมชาติของผู้ชายเจ้าชู้มากกว่าค่ะ”

คิณภัทรกลับมาถึงบริษัท เขาให้พนักงานนำรูปหนึ่งไปติดไว้ในห้องทำงาน อีกรูปเอาไว้ที่ห้องประชุม ระหว่างนั้นเขาเดินผ่านห้องทำงานกระจกใสของผู้จัดการกองทุนที่กำลังพูดคุยกับน้องชายของเขาอยู่ จึงเข้าไปแวะถามไถ่นิดหน่อย 

“เป็นยังไงบ้าง?”

“สวัสดีค่ะ คุณคิณภัทร น้องชายคุณหัวไวอยู่ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร”

“เดี๋ยวสี่โมงเลิกงานเลยก็ได้เจต เหนื่อยทั้งวันแล้วสิ”

เจตนิพัทธ์ทำมือว่าโอเค พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

ที่ฉันให้เลิกงานไวเพราะนายจะได้ไปง้อเธอหรอกนะ….

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    57.บทกวีของชีวิต The End

    หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ชโลทรก็ส่งข้อความมาบอกพราวตะวันว่าอยู่ที่ปารีสกับครอบครัวโบว์ฟัว เพื่อทำงานศิลปะอย่างที่เคยฝันว่าอยากมีแกลลอรี่เป็นของตัวเองบ้าง แต่ช่วงนี้ต้องอาศัยแกลลอรี่ของกาเบรียลเพื่อวางผลงานไปก่อน พราวตะวันตกใจที่แม่ของเธออยู่ร่วมกับพ่อและภรรยาใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ “พ่อทำยังไงถึงโน้มน้าวแม่ได้คะ? เหลือเชื่อมาก”“ก็เพราะพ่อรู้จักเธอดีกว่าใครๆ เผลอๆรู้จักเธอมากกว่าตัวเธอรู้จักตัวเองเสียอีก แล้วก็ต้องให้เครดิตโคลเอ้นะ น้องสาวลูกตีบทแตกไปเลย”พราวตะวันหัวเราะคิก “พ่อเล่าหน่อยสิ”“ไว้ลูกมาที่ปารีสเดี๋ยวก็เห็นว่าโคลเอ้ทำยังไง?”ที่อเมริกาช่วงพักฟื้นได้จบลง คิณภัทรได้กลับมาประเทศไทยอย่างสุขภาพที่ดี จากการพักผ่อนเต็มที่ อาหารที่แม่ของเขาทำเพื่อลูกอย่างถูกสุขอนามัยทุกวัน แม่บอกรักเขา ดูแลและโอบกอดเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาอยากได้มาตลอด ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเป็นการฟื้นฟูความรู้สึกที่ขาดหายในวัยเด็กด้วยเลยทีเดียวพราวตะวันและเจตนิพัทธ์ที่ใส่ชุดนักศึกษาได้จูงมือกันเข้ามาในบ้าน ก็เจอกับคิณภัทรและแม่ที่บินกลับมาแล้ว“นี่ในบ้านนะ ไม่ต้องกลัวคนหายหรอก”“หายดีก็ปากเหมือนเดิมเลยนะพี่ค

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    56.Passion

    ชโลทรหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคิณภัทรอีกแล้ว“เธอเป็นของคุณ..ดูแลเธอให้ดีก็แล้วกัน..”เธอพูดจบและจะเดินหนีขึ้นข้างบน พราวตะวันรีบเรียกและดึงแขนแม่เอาไว้“แม่!..”“ปล่อยแม่..พราว! รักเขามากกว่าแม่ก็ไปซะ”“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่”“ไม่ใช่แล้วมาปรึกษากันบ้างมั้ย?”“หนูขอโทษค่ะ..”“ให้แม่อยู่คนเดียวซักพักเถอะ ไปสิ..ไปอยู่กับพวกเขา ไปซะ” ชโลทรสะบัดแขนจากลูกสาวแล้วรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสองและปิดประตูห้องล็อก คิณภัทรรีบมากอดเธอไม่ให้ตามขึ้นไป เขาจะสู้เพื่อไม่ให้เสียเธอ โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นแม่ของเธอหรือใครก็ตาม “พี่คิณ..เอาไงดี?”“แม่ว่าพาหนูพราวไปที่บ้านก่อนดีกว่า บางทีปล่อยให้แม่เค้าคิดอะไรสักพักก่อนนะ”“พราว..ไปกับเรานะ พี่ไม่ได้บอกให้ทิ้งแม่ แต่พี่ไม่อยากให้ทุกคนสุขภาพจิตเสีย เดือนหน้าหนูอาจตั้งท้องแล้ว พี่ห่วงลูก เดี๋ยวพี่จะหาทางมาคุยกับคุณแม่ของพราวอีกที พี่ไม่ยอมแพ้หรอก”“เจตจะไปช่วยเก็บของ แม่กับพี่คิณรอนี่แป็บนึงนะ”เจตนิพัทธ์จับมือพราวตะวันให้ออกจากกอดของคิณภัทร เพื่อไม่ให้เสียเวลา“พราวไม่ไปได้ไหม? ขออยู่ที่นี่กับแม่…”“เชื่อเจตนะ เจตมีวิธี”ทั้งสองขึ้นไปเก็บแค่เสื้อผ้ามาไม่มากร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    55.เรื่องเซอร์ไพรส์และการไม่ยอมรับ

    คุณเจตสุภาตัดสินใจจะไปคุยกับชโลทรที่บ้าน เพราะเจตนิพัทธ์ได้บอกกับทุกคนว่าท่าทางคุณแม่ของพราวตะวันดูสับสนกับสิ่งที่ลูกสาวบอกคร่าวๆ“แม่คิดว่ามีส่วนต้องช่วยรับผิดชอบ เพราะลูกชายของแม่ทั้งสองคนไปอีนุงตุงนังกับลูกสาวของเค้าก่อน อีกอย่างอยากทำอะไรให้ถูกต้อง ไหนๆก็จะเรียนจบอยู่แล้ว”พราวตะวันที่จัดของออกจากกระเป๋าอยู่ พอเห็นสายโทรเข้าจากเจตนิพัทธ์ก็รีบรับสายอย่างกระตือรือร้นทันที “ว่าไงเจต? พราวกำลังเครียดเลย”“เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงเจอกัน ที่บ้านเจตโอเคทุกอย่าง ราบรื่นไม่มีอะไร ไม่ต้องเครียดนะ พวกเราเอาอยู่”“เฮ้อ..ไม่รู้สิ กลัวไปหมด”“เจตจะปกป้องพราวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ช่าง เราต้องได้อยู่ด้วยกัน”วันนี้ชโลทรลางานจากมหาวิทยาลัย จึงว่างครึ่งวันโดยเธอนั่งวาดรูปเงียบๆที่ห้องรับแขก ไม่นานนักก็มีรถยนต์คันใหญ่ที่หรูหรามาจอดที่หน้าบ้าน เธอที่เห็นแบบนั้นจึงออกไปดู พอเห็นหน้าสองพี่น้องและหญิงวัยกลางคนที่ดูก็รู้ทันทีว่าคือคุณแม่ของพวกเขา ซึ่งดูอายุอานามมากกว่าเธอ จึงเป็นฝ่ายยกมือสวัสดีขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”“โอ้..ยินดีมากค่ะ อยากเจอคุณแม่หนูพราวมาสักพักแล้ว”คุณเจตสุภารับไหว้และจับมือของชโลทรอ

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    54.รู้เท่าที่อยากให้รู้

    ถึงเวลาบินกลับไทยก่อนหน้าเปิดเทอมสุดท้ายสามวัน ครอบครัวจิรวราพงศ์มารับคิณภัทรและพราวตะวันที่สนามบิน โดยมีชโลทรคุณแม่ของพราวตะวันได้มารอรับลูกสาวเช่นกัน ซึ่งเธอประหลาดใจมากที่ลูกสาวลงเครื่องมากับคิณภัทร ขณะที่แฟนหนุ่มอย่างเจตนิพัทธ์มารอรับทั้งคู่ด้วยและนี่เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของพวกเขาได้รู้จักคุณแม่ของแฟนสาว ทุกคนดูไม่แปลกใจกับทุกสิ่งที่เห็นยกเว้นชโลทรที่รู้สึกแปลกๆพราวตะวันยกมือไหว้พ่อแม่ของแฟนหนุ่มทั้งสอง และปรี่เข้าไปกอดแม่ของเธอแน่น เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันถึงสองเดือนกว่า คิณภัทรกอดกับแม่ของเขาแล้วก็เดินมาหาชโลทร “สวัสดีครับคุณแม่ พอดีผมกลับมากับน้อง วันนี้ผมจะขออนุญาตไปคุยกับคุณแม่ที่บ้านนะครับ เออ..เจต ของเยอะมากเลย ต้องช่วยกันขนใส่รถนะ”คิณภัทรคุยกับชโลทรแล้วหันไปบอกน้องชาย ก่อนจะหันมากระซิบกับพราวตะวันเบาๆ“ที่รัก ตอนเย็นผมกับเจตจะไปหาที่บ้านนะ ขอคุยกับที่บ้านก่อน”พราวตะวันพยักหน้ารับ ขณะที่เจตนิพัทธ์มากอดเธอเป็นคนสุดท้าย “เจตไม่เจอแป็บเดียว พราวสวยขึ้นนะ คิดถึงจะตายละ”“เย็นนี้เจอกันนะ”เธอกล่าวลาทุกคนแล้วกลับบ้านไปกับแม่ ระหว่างอยู่ในรถ แม่ของเธอสังเกตว่าลูกสาวดูสวยขึ้นจร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    53.เอาดีๆ🔞🔥💋

    พราวตะวันไม่เคยไปที่อื่นนอกจากฝรั่งเศส เธอจึงตื่นเต้นมาก ชุดว่ายน้ำทูพีชสีสดใสหลายชุดที่ไปช็อปปิ้งมา เธอจึงใส่ไม่ซ้ำกันสักวันเพื่อว่ายน้ำทั้งในโรงแรมและที่ชายหาดใกล้กับ Brook Point ในเวลาที่สามีทำงานอยู่ในห้อง เธอถ่ายรูปส่งให้เจตนิพัทธ์และแม่ของเธอมากมาย จนแม่ต้องส่งข้อความมาหาว่าทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้ “แล้วหนูจะกลับไปอธิบายให้แม่ฟังนะคะ”คิณภัทรโทรเข้ามาหาเพราะตามหาภรรยาไม่เจอ “ที่รัก อยู่ไหน? ห้ามไปที่ไหนไกลเกินไปคนเดียวสิ พี่เดินหาไม่เจอเลย”“มานั่งเล่นใกล้กับซากเรือเก่าค่ะ สวยมากๆ ถ่ายรูปส่งไปให้แม่ด้วยเผื่อเป็นแบบให้วาดภาพ มีประภาคารด้วยพี่คิณ ปลาก็เยอะน้ำก็ใสสีฟ้าสุดๆ”“เดี๋ยวๆ ทำไมไปไกลจากโรงแรมแบบนั้น? อยู่นั่นเลยห้ามลงน้ำ พี่กำลังไปหา”เขาเอารถของโรงแรมขับอ้อมไปหาเธอ 1.7 กิโล ใช้เวลาห้านาทีก็ถึง พอดูพิกัดในโทรศัพท์ก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน “แพริส ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้มาคนเดียว เห็นมั้ยว่าคนท้องถิ่นอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่มีใครสักคนน่ะ ถ้าจะมาให้รอพี่สิ”เธอเงยหน้ามองแบบไม่พอใจแต่ก็ไม่พูดอะไร พลางใส่เสื้อและกางเกงขาสั้นทับชุดว่ายน้ำไปเลย แล้วทำหน้าหงิก“เดี๋

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    52. She Served 🔞🔥🌷

    ตอนนี้สุขภาพของคิณภัทรดีขึ้นแต่ก็ยังต้องจำกัดอาหารและดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เหมือนเดิม พวกเขาได้รับเอกสารการจดทะเบียนเรียบร้อยและบินไปนีซอีกครั้งเพื่อแสดงเอกสารให้กับทางโบสถ์ รวมถึงไปดูการรีโนเวทโรงแรมอยู่สามวันเหลืออีกครึ่งเดือนเขาและพราวตะวันต้องกลับไทย การใช้ชีวิตด้วยกันกับครอบครัวของเธอสองเดือนกว่านี้ทำให้ชีวิตเขาสงบและร่างกายได้พักผ่อนยาวๆเป็นครั้งแรก ทางด้านเจตนิพัทธ์รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์กับพราวตะวันดีขึ้นมาก พออยู่ไกลกันกลับห่วงหาคิดถึงกันมากกว่าเดิม ไม่มานั่งทะเลาะกัน ได้คุยกันทุกวันแม้จะไม่นานมาก ลมทะเลที่พัดปลิวผ้าม่าน ผมยาวเป็นลอนสวยที่ปลิวตามแรงลม พราวตะวันนั่งที่ระเบียงห้องเพลินๆระหว่างที่คิณภัทรนั่งทำงานคุยซูมประชุมอยู่กับลูกน้องที่ต่างประเทศ เธอนึกอะไรขึ้นได้จึงลุกไปค้นอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพาย มองมันในมืออยู่ครู่หนึ่งเหมือนชั่งใจ สุดท้ายก็ทิ้งมันลงถังขยะ..ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ..อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วด้วย…พราวตะวันเห็นว่าคิณภัทรยังคุยงานอยู่ เธอจึงหยิบบางอย่างในตู้เสื้อผ้าและเข้าห้องน้ำไป ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับหยิบหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วเดินผ่านเขาไปนั่งเอนหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status