Share

บทที่ 4 เพื่อนบ้าน

last update Dernière mise à jour: 2025-08-24 11:30:33

“ใจเย็น ๆ ฉันมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้แน่นอน ส่วนพี่ฟีฟ่าปล่อยให้พี่ต๋องจัดการเขาเป็นเพื่อนรักกันยังไงก็ต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้มึงได้”

“ฉันไม่ได้อยากให้มันรับผิดชอบเว้ย แค่อยากให้เรื่องวันนี้มันจบลงโดยไม่มีใครพูดถึงอีก ฉันยอมเสียศักดิ์ศรีดีกว่าต้องไปให้คนอย่างนายนั่นรับผิดชอบ”

“เออ...ฉันเข้าใจว่าแกหวงชีวิตโสดมาก แต่เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่นะเว้ยจะให้เขาฟรี ๆ งั้นเหรอ”

“ใช่! แค่ครั้งเดียวถือว่าทำทานให้สัตว์ไป แกห้ามเล่าเรื่องนี้ให้อีโบ๊ทฟังนะเว้ย แกก็รู้ว่ามันเก็บความลับไม่อยู่”

“เออ ๆ ฉันไม่บอกมันแน่ไว้ใจได้ แกรีบอาบน้ำใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะจะได้รีบกลับบ้าน”

“อื้ม ขอบใจมากแล้วนี่แกจะกลับแล้วเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิกำลังจะกลับพอดีเลยแวะมาหาแกก่อน แล้วก็เจอแจ๊คพอตเข้าให้ซะงั้น”

“ถ้างั้นแกรีบกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันก็จะกลับเหมือนกัน”

“จะดีเหรอฉันกลัวว่าแกจะคิดสั้นน่ะสิ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าแกจะออกไปจากห้องก็แล้วกัน”

“คนอย่างฉันเนี่ยนะจะฆ่าตัวตายเพราะผู้ชาย ไม่มีทางย่ะเรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ”

“อีห่าแล้วเมื่อกี้ใครร้องไห้จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือดกันยะ”

“ก็แค่นั้นล่ะทุกอย่างมันจบลงแล้ว ถ้ามัวแต่ร้องไห้ชีวิตก็ไปต่อไม่ได้สิยะ ฉันทำใจได้แล้วช่างแม่ง”

“เออ...เห็นอย่างนี้ฉันก็สบายใจขึ้น งั้นฉันกลับละนะถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย”

“อือๆ เดี๋ยวโทรหา”

เมื่อยัยน้ำเดินออกไปจากห้องแล้วฉันก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนหมดเพราะนับจากนี้ฉันจะไม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องบ้า ๆ นี้อีกแล้ว

ขับรถมาเกือบครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ถึงบ้านเสียที บ้านปูนสองชั้นซึ่งปลูกในหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมือง ตั้งแต่จำความได้ฉันก็เติบโตขึ้นในบ้านหลังนี้แล้ว มันมาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อกับแม่เมื่อสมัยยังเป็นหนุ่มสาว เพิ่งผ่อนหมดเมื่อห้าปีที่แล้วนี่เอง เมื่อหมดภาระเรื่องบ้านครอบครัวฉันก็เริ่มมีงานเก็บมากขึ้น ตอนนี้พ่อมีโครงการจะซื้อบ้านไว้อีกหลัง เผื่อในอนาคตเมื่อฉันกับน้องเป็นฝั่งเป็นฝาจะได้ไม่อยู่กันอย่างคับแคบจนเกินไป

ลงจากรถแล้วกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ก็ได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์ดังมาจากข้างบ้าน ใช่แล้ว! บ้านหลังที่ว่าคือบ้านนายฟีฟ่านั่นเอง

“มึงรดน้ำต้นไม้ยังไงให้น้ำกระเซ็นมาถูกต้นไม้บ้านกูวะ”

“ไอ้ห่าแค่น้ำกระเซ็นมึงก็มาหาเรื่องกูเหรอวะ ปัญญาอ่อนว่ะ”

“มึงนั่นล่ะปัญญาอ่อน! นี่บ้านกูกูมีสิทธิ์จะว่ามึง แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรข้ามฝั่งมาบ้านกู จำใส่หัวเอาไว้”

“ไอ้ห่าเอ๊ย! เรื่องแค่นี้มึงแม่งทำให้เป็นเรื่องใหญ่ กูไม่รู้ว่าพูดยังไงกับคนไม่มีเหตุผลอย่างมึงแล้ว”

“แหม...ทำเป็นมาว่ากูไม่มีเหตุผลแล้วมึงล่ะมีเหตุผลนักรึไง คราวก่อนแค่หมากูเดินผ่านหน้าบ้านมึงยังด่าหมากูเลย”

นั่นคือการโต้เถียงที่ฉันได้ยินเป็นประจำ ไม่รู้เกลียดกันมาแต่ชาติปางไหนถึงได้หาเรื่องทะเลาะกันเกือบทุกวัน จนฉันชินซะแล้วล่ะ

เฮียป้อ’ คือชื่อของพ่อฉันเองค่ะ พ่อเปิดร้านขายข้าวขาหมูในตลาด ซึ่งห่างจากบ้านฉันไม่ไกล ส่วนคู่กรณีที่กำลังโต้เถียงกันคือ ‘เฮียกร’ พ่อของนายฟีฟ่า เปิดร้านขายข้าวมันไก่ในตลาดเดียวกัน ไม่รู้ว่าเป็นคู่เวรคู่กรรมกันมาแต่ชาติปางไหน ทำอะไรก็ไม่เคยพ้นหน้ากันสักที

“ป๊ากลับเข้าบ้านเถอะไม่อายชาวบ้านชาวช่องเขาหรือไง” ฉันเดินเข้าไปหาพ่อพยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้าไปในบ้าน

“มาก็ดีแล้วพาป๊าเอ็งไปเช็กสมองซะบ้าง ชอบเห่าหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว”

“มึงนั่นล่ะชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว มึงนั่นล่ะบ้า”

“มึงนั่นล่ะบ้า” อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

“พอได้แล้ว! จะทะเลาะกันให้ได้อะไรคะ ถ้าไม่เหนื่อยก็ทะเลาะกันทั้งวันเลยคะ หนูไปล่ะ” ฉันตะเบ็งเสียงออกไปอย่างเหลืออด นั่นเพราะคิดถึงเรื่องก่อนหน้าด้วยล่ะ ทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากกว่าปกติ

เดินออกมาจากตรงนั้นแล้วก็ปรากฏว่าได้ผล ไม่มีเสียงทะเลาะดังขึ้นให้ได้ยินอีก จริง ๆ แล้วการทะเลาะกันของคนทั้งสองไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือเลยสักครั้ง เหมือนกับว่าถ้าไม่ได้ทะเลาะกันต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกขาดอะไรไปสักอย่างอะไรเทือกนั้น

เข้ามาในห้องแล้วฉันก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หยิบเจ้าโอโม่ซึ่งเป็นตุ๊กตาหมีตัวโปรดมากอดไว้ มันคือสิ่งเดียวที่คอยเป็นเพื่อนเวลาเหงาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ ฉันพูดคุยกันมันได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะนำความลับไปบอกใคร

ปึง! ปึง!

เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากหน้าต่างฉันจึงหันขวับไปมอง หน้าต่างกระจกใสยังคงอยู่ในสภาพเดิม ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ฉันจึงลุกขึ้นเดินตรงไปดูว่ามันเป็นเสียงอะไรกันแน่

“ก็ไม่มีอะไรนี่นา”

ฉันเปิดหน้าต่างแล้วชะโงกหน้าออกไปดูก็ไม่พบความผิดปกติ สงสัยคงเป็นนกบินมาชนกระมัง นั่นคือทางเดียวที่น่าจะเป็นไปได้

“ทางนี้ยัยบ๊อง” หันไปมองต้นเสียงก็พบนายฟีฟ่าโผล่หน้ามาจากทางหน้าต่างนั่นเอง

ช่างกล้าเนอะ ปกติแทบไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นอย่างนี้ อยากจะมาเยาะเย้ยกันหรือไงที่ได้แอ้มฉันแล้ว

“บ๊องบ้านนายสิ” ฉันเบะปากใส่แล้วทำท่าจะปิดหน้าต่าง เพราะเห็นหน้าแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที

“เดี๋ยวๆ ๆ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

“แต่ฉันไม่มี”

“ฉันตั้งใจจะมาขอโทษเรื่องนั้น ถ้าเธอจะให้ฉันรับผิดชอบก็บอกมานะ ฉันยินดีอย่างน้อยเราก็...” อีกฝ่ายยกยิ้ม นั่นทำให้ฉันรู้แล้วว่าเขาต้องการมาแกล้ง

“หุบปาก! แล้วไม่ต้องเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีกเด็ดขาด ไปรับผิดชอบผู้หญิงของนายเถอะ ฉันจะถือซะว่าทำทานให้หมาขี้เรื้อนละกัน”

ปึง!

ฉันรีบปิดหน้าต่างแล้วดึงม่านมาบังไว้เพื่อไม่ให้เห็นหน้าเขาอีก ผู้ชายบ้าอะไรจะหน้าตัวเมียอย่างนี้ มาล่วงเกินฉันแล้วยังมีหน้ามาเยาะเย้ยอีก ฉันไม่เคยเกลียดใครเข้ากระดูกดำอย่างนี้มาก่อน อย่าให้มีวันของฉันบ้างละกันจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 60 อวสาน

    “ร้องใหญ่แล้วสงสัยจะหิวมาก รีบพาเข้าไปเถอะแก” น้ำว่า“แม่ไปแล้วค่ะคุณลูก ไม่ร้องนะคะ” ฉันรีบลุกขึ้นอุ้มเจ้าตัวน้อยเข้าไปในห้องหลังจากได้ดื่มนมสมใจอยากแล้วเสียงร้องไห้งอแงก็เงียบสงบลง ได้ยินแค่เพียงเสียงริมฝีปากน้อย ๆ กำลังดูดน้ำนมอย่างหิวกระหาย เป็นภาพที่น่าเอ็นดูซะเหลือเกิน“หิวมากเลยเหรอคะลูกสาวแม่” ปากว่ามือก็ลูบบนแก้มนุ่มเบา ๆไม่นานเจ้าตัวเล็กก็หลับปุ๋ยคาอก ฉันจึงอุ้มไปนอนบนเตียงให้สบายตัว ห่มผ้าให้แล้วยืนยิ้มมองดูความน่ารักอย่างมีความสุขครืนนนเสียงประตูกระจกเลื่อนดังมาจากด้านหลัง ฉันจึงหันไปมอง ก็พบนายฟีฟ่ายืนส่งยิ้มให้อยู่ก่อนแล้ว“อ้าว! เข้ามาทำไม”“เข้ามาไม่ได้หรือไง” เขาเดินตรงเข้ามาสวมกอด กดจมูกซุกไซร้ตามซอกคอ จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ“ไม่เอาเหม็นเหล้าจะแย่แล้ว” ฉันพยายามดันแผงอกแกร่งให้ออกห่างจากตัว“ลูกหลับแล้วใช่ไหม”“อื้อ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เอง”“งั้นออกไปนั่งข้างนอกกัน บรรยากาศกำลังดีเลย” แม้จะได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขา แต่ทว่าน้ำเสียงและสีหน้ากลับไม่ได้บ่งบอกว่าอยู่ในอาการมึนเมาแต่อย่างใด“ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวเนี่ยนะ”“ไม่นานหรอกน่า อยู่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง” ว่าแล้วก

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 59 เที่ยว

    นางโบ๊ทไม่สนใจคำประชดประชัน โพสต์ท่าราวกับนางแบบมืออาชีพ เชิดหน้าใส่อย่างไม่แคร์“คนจะสวยช่วยไม่ได้”“ค่ะสวยมาก” น้ำเหน็บแนมด้วยคำพูดและสีหน้า“ก่อนจะตีกันตายซะก่อนพี่ว่าเอาของไปเก็บก่อนดีไหม” พี่ต๋องเสนอความคิดเห็น“พี่ต๋องนั่นล่ะเอาไปเก็บน้ำจะไปเล่นกับหลาน”“ฉันด้วย” นางโบ๊ทจะเดินเข้ามาแต่โดนน้ำสกัดด้วยการกางแขนกั้น“แกเอาของไปเก็บช่วยผัวฉันเลย คิดจะใช้ผัวฉันคนเดียวหรือไงยะ”“ได้!! ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน” คนพูดทำตาเปรี้ยวตาหวานใส่พี่ต๋อง“เออ!! ถ้ามีปัญญาก็เอาไปเลย ฉันเริ่มจะเบื่อแล้ว”“ถ้างั้นไปกันเถอะค่ะพี่ต๋อง หนูจะขนของช่วยพี่เอง” ว่าแล้วนางก็ควงแขนพี่ต๋องจากเราไปน้ำเดินมาหาเราทั้งคู่ จากนั้นอุ้มเจ้าหญิงตัวน้อยอย่างคล่องแคล่ว ซ้อมมือเตรียมตัวต้อนรับลูกในท้อง ที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลกอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้น้ำท้องได้สี่เดือนแล้ว นางเห็นความน่ารักของออมรักเลยขยันทำการบ้าน จนในที่สุดก็ทำสำเร็จจนได้“น้องออมรักของป้าเลี้ยงง่ายจังเลย ไม่งอแงไม่ร้องเลยสักแอะ”“แอ๊ะ”“นั่นมายิ้มให้กันอีก อยากบิดแก้มให้หลุดติดมือมาซะจริง ๆ”น้ำคุยกับหลานสาวอย่างออกรสไม

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 58 มาช้าจริง

    “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้ายังไงต้องได้รบกวนคุณหมออีกแน่นอน”“ครับผม”หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกัน คุณหมอกลับไปทำงาน ส่วนฉันกับครอบครัวก็ไปเที่ยวกันต่อ ใช้ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้หนำใจ ชดเชยในช่วงแรกที่เราเอาแต่ตั้งแง่ใส่กันการได้พบเจอและรู้จักใครสักคนฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นยัยจอยที่เข้ามาในรูปแบบผู้หญิงร้ายกาจ หรือแม้กระทั่งคุณหมอนที ที่นิสัยดีจนหาที่เปรียบเปรยไม่ได้ เราทั้งหมดถูกกำหนดให้ต้องมาพบเจอกัน เพื่อทำให้ชีวิตมีรสชาติ แต่ละคนเปรียบเหมือนเครื่องปรุงที่มีรสชาติแตกต่างกันไป แต่ในที่สุดแล้วทุกอย่างก็ถูกปรุงแต่งให้อยู่ในจุดที่พอดี และความพอดีของเราก็คือสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ มันกลมกล่อมเหมาะกับชีวิตคู่เราที่สุดแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตเปรียบเหมือนละครเรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเราโดยเฉพาะ เพียงแต่มันเป็นละครที่ไม่ได้ถูกเตรียมการไว้ล่วงหน้า บทสนทนา อารมณ์และความรู้สึก มันเกิดขึ้นเองตามสถานการณ์นั้น ๆ และจะถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำกลายเป็นอดีต ที่นึกถึงแล้วอาจจะทำให้หัวเราะหรือร้องไห้ก็แล้วแต่ละบุคคลที่ประสบพบเจอมาละครของฉันมีพระเอกชื่อว่าฟีฟ่า และตัว

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 57 ได้เลยครับ

    ตั้งแต่คลอดออมรักมายังไม่มีโอกาสเจอคุณหมอนทีเลยสักครั้ง วันนี้เราทั้งคู่จึงตั้งใจไปหาที่โรงพยาบาล เพื่อขอบคุณที่ช่วยทำคลอดในช่วงวิกฤติอย่างนั้นให้เราปลอดภัยทั้งแม่และลูก เรานัดกันที่ร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล ประจวบเหมาะช่วงเวลาพัก คุณหมอจึงสามารถเจียดเวลาออกมาหาเราทั้งสามคนได้“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่ช่วยดูแลฉันกับลูกมาโดยตลอด” ฉันยกมือไหว้คุณหมอ“มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับ ว่าแต่ตั้งชื่อน้องหรือยังครับ”“ตั้งแล้วค่ะ ชื่อออมรัก”“ชื่อเพราะความหมายก็ดี แล้วน้องออมรักงอแงบ่อยไหมครับ ดูสิหลับปุ๋ยเชียว” คุณหมอเอ่ยถาม ขณะวางสายตาไว้เจ้าหญิงตัวน้อย ที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในรถเข็นนายฟีฟ่านั่งฟังเราสนทนากันแทบไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย ก่อนมาฉันย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามแสดงกิริยาไม่ดี เขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ก็ยังไม่อุ่นใจอยู่ดีนั่นละ“เลี้ยงง่ายมากค่ะคุณหมอ ไม่ค่อยงอแงเลย”“ดีแล้วครับ”“เอ่อ…คุณหมอครับผมมีเรื่องจะบอก” จู่ ๆ นายฟีฟ่าก็แทรกเสียงเข้ามา เราจึงหันไปมองเป็นตาเดียวกัน อีกฝ่ายทำหน้าเลิ่กลั่กพิกล“เรื่องอะไรเหรอครับ”“คือ…ผมอยากขอโทษที่เคยทำมารยาทไม่ดีใส่คุณหมอตั้งหลายครั้ง ผมขอโท

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 56 ร้องให้พอ

    “ก็บอกว่าไม่ปล่อย แค่วันเดียวมึงจะตายหรือไง วันสุดท้ายแล้วนะเว้ย”“งั้นก็แล้วแต่ เพราะถึงยังไงมันก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว ต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป” เจ้านายตอบกลับแบบไม่มีเยื่อใยเลยสักนิด นั่นทำให้ความกวนของยูโรแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจฉันรับรู้มาโดยตลอดว่ายูโรพยายามมากแค่ไหน กับการทำให้เจ้านายกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้นก็ความพยายามก็ไม่เคยสำเร็จสักที“ถ่ายรูปกันก่อนดีไหมค่อยคุยกัน” ฉันต้องเอ่ยปรามไว้ไม่งั้นมีหวังวงแตกแน่ ๆแชะ!ภาพที่ได้ไม่มีรอยยิ้มของใครปรากฏให้เห็นเลย ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่านับจากนี้ความสัมพันธ์ของน้องทั้งสองคนจะกลับมาอยู่ในสถานะเดิมได้ยังไงถ่ายรูปแล้วเจ้านายก็เดินเข้ามาทักทายหลานสาวที่รถเข็น ส่วนยูโรได้แต่มองคนที่ไม่สนใจไยดีตาละห้อย ถอนหายใจเสียงดังจนทุกคนได้ยินถนัดฉันกับนายฟีฟ่าได้แต่มองหน้ากันอย่างหมดความหวัง“น่ารักน่าชังจังเลยหลานสาวน้า โตขึ้นต้องเรียนหมอให้ได้เหมือนน้านะครับ” เจ้านายนั่งคุยกับออมรัก ทำทีไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง“พี่ยูโรคะ ยินดีด้วยนะคะ”จู่ ๆ ก็มีนักเรียนสาวหน้าตาน่ารักเดินถือดอกกุหลาบเข้ามา แล้วยื่นให้ยูโร ท่าทีของเจ้าหล่อนดูก

  • ลุ้นรักวิวาห์ร้อน   บทที่ 55 ปล่อยกู

    “ที่สุด”“แสดงว่าฉันคงเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเช่นกันที่ได้สามีหล่อขนาดนี้”“แน่นอนครับผม ไม่มีใครจะหล่อกว่านี้อีกแล้ว”“และก็ไม่มีใครหลงตัวเองเท่านายอีกแล้ว”“ใครบอกว่าไม่มี ก็เธอไงหลงฉันกว่าที่ฉันหลงตัวเองซะอีก”“ใครบอกยะ”“ก็ฉันบอกอยู่นี่ไง”“พูดเองเออเอง” เบะปากใส่หนึ่งที“เหนื่อยยังอ่ะ”“เรื่อง?”“ก็เถียงกับฉันไง พอได้แล้วมั้งขอให้ฉันนั่งอยู่เฉย ๆ มั่งไม่ได้หรือไง”“ก็นายนั่นล่ะเป็นคนเริ่มก่อน”“แหนะ...ยังไม่หยุดอีก ถ้าอ้าปากแม้แต่นิดเดียว ฉันจะอุ้มขึ้นห้องจริง ๆ ด้วย ลูกเลิกไม่สนแล้ววางแม่งไว้ตรงนี้ล่ะ เสร็จแล้วค่อยลงมาดู” ตอนนี้ฉันทำได้เพียงถลึงตาใส่เขา ไม่กล้าอ้าปากเลยสักนิด สีหน้าหื่น ๆ อย่างนี้น่ากลัวว่าตอนโกรธเสียอีก“...”“ดีมากครับที่รัก ให้นมลูกต่อไปเดี๋ยวคืนนี้อย่าลืมให้นมผัวคนนี้บ้างนะ”“ไอ้บ้า! คิกๆ ๆ” ฉันอดขำกับมุกเขาไม่ได้ ตะโกนด่าด้วยรอยยิ้มจนเจ้าตัวน้อยที่กำลังดูดนมอยู่นั้นตกใจร้องไห้งอแง จนเราทั้งคู่ต้องช่วยกันปลอบยกใหญ่แม้จะเหนื่อยไม่น้อยกับการต้องมาเลี้ยงดูลูกตัวเล็ก ๆ แบเบาะอย่างนี้ แต่ทว่าช่วงเวลานี้กลับทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ร่

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status