"เป็นไรของแกแทนขวัญ ทำไมไม่นั่ง"
เจ้อลินกระตุกข้อมือฉันให้นั่งลง แต่เก้าอี้ที่เหลือดันเป็นเก้าอี้ที่ฉันต้องหันไปที่โต๊ะของผู้ชายคนนั้น เขามองฉันนิ่งมาก วันนี้มาด้วยเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ด ขาที่สวมกางเกงสแลคยกไขว่ห้าง และมือขาวๆก็คลึงวิสกี้ในแก้วไปด้วยช้าๆ อย่างมีชั้นเชิง
เออเขาดูดี แต่ไม่ดูดีกว่า
จนสุดท้ายฉันจิกตาใส่ และยอมนั่งลง ดีเจก็ต้อนรับอย่างอลังการงานสร้างประกาศชื่ออีกครั้ง พร้อมกับขบวนเหล้าจุดไฟมาชุดใหญ่
"ว้าว...สุดปัง" ฉันใช้เท้าสะกิดเจ้ซีลีนที่ตื่นตาตื่นใจ ปังอะไร...ไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะข้างๆมันคุ้นๆ
"อะไรของแก"
"ผู้ชายที่เราขับรถชนเมื่อตอนกลางวันนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ" เจ้ซีลีนอย่าหันนะ!
ไม่ทัน
ลูกพี่ลูกน้องฉันหันขวับไปทันทีเมื่อฉันพูดจบ ฉันจึงรีบตีแขนให้เธอหันกลับมาก่อนที่จะโป๊ะ
"ไปมองเขาทำไม"
"ก็แกบอกฉันฉันก็มองป่ะ แต่ไม่เสียสายตานะ มีแต่คนหล่อๆ" ฉันส่ายหน้าเอือมระอา พยายามไม่สนใจสายตาของอีตาบ้านั่น ดื่มด่ำกับเหล้าหรูหลายยี่ห้อหลายรสที่เจ้อลินเปิดมา แต่ระหว่างนั้นรู้สึกตลอดนะว่าเขามอง
ต้องอยากทวงค่าซ่อมรถกับฉันแน่ๆ
รวยทิพย์ล่ะสิ ถึงไม่มีค่าซ่อมลัมโบร์กินี
"นี่ ดูแกไม่มีสมาธิเลยนะแทนขวัญ เป็นอะไร?"
เจ้อลินถามแล้วประสานมือท้าวคาง หนำซ้ำตายังกะพริบตาถี่ๆโชว์ขนตาที่ติดมาด้วย เอ่อขนตานี่ยาวไปถึงลพบุรีแล้วมั้งเจ้ ไม่หนักรึไงวะ
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"
"ฉันพี่แกนะ ไม่ใช่ผัว"
"ก็ไม่มีอะไรจริงๆ" ฉันยืนยันอีกครั้ง จนเจ้ซีลีนกวักมือให้เจ้อลินหันไปหาตัวเอง
"คืองี้ โต๊ะข้างๆพึ่งมีประเด็นกับแทนขวัญเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวแกไปขับรถชนรถเขา"
เจ้ซีลีน
"เหรอๆคนไหนอ่ะ?"
"คนที่หล่อที่สุดนั่งตรงข้ามกับนางนั่นแหละ"
เจ้ซีลีน!
"แล้วทีนี้นะ ก็เถียงกันใหญ่ว่าใครผิด แทนขวัญเอาหมวกกันน็อคไปทุบรถเขาด้วยนะ ขับตั้งลัมโบร์กินีอ่ะ!"
เจ้...ซี ลีน!
"งั้นไปทักแป๊บ"
ความบรรลัยของชีวิตคือการที่เจ้อลินรู้นี่แหละ พอเจ้ซีลีนพูดจบ พี่สาวฉันอีกคนก็คว้าแก้วเหล้าไปที่โต๊ะนั้นทันที
"สวัสดีค่าาา อลินนะคะ" ผู้ชายสองคนมองเจ้อลิน แต่อีตาบีบนมมองหน้าฉัน เขาไม่ละสายตาไปจากฉันเลย วันนี้ฉันต้องมีเรื่องอีกแน่ๆ แต่ก็พร้อมบวกนะ ไม่มีอะไรที่แทนขวัญต้องกลัว
"ดูสิ ขนาดดาราดังอย่างอลินไปนั่งด้วย เขายังมองแกตาเป็นมันเลยอ่ะ"
"สงสัยอยากเรียกค่าซ่อมรถละมั้ง รถลัมโบร์กินีคันนั้น อาจจะเช่ามาอวดสาว พวกรวยทิพย์น่ะเจ้"
ฉันจีบปากจีบคอพูดดังๆ ก่อนจะยกเหล้าของตัวเองดื่มแล้วหันมาสุนทรีกับเพลง เจ้อลินกกผู้ชายที่โต๊ะนั้นเรียบร้อยแล้ว และฉันก็ดื่มโดยไม่สนใจใคร โดยเฉพาะสายตาผู้ชายคนนั้น ที่เผลอมองทีไรแล้วทำตัวไม่ถูกทุกที
"แกดูเครียดๆนะ กระดกเอาๆ"
"เออ ทะเลาะกับพ่อมา"
"เรื่องอะไร?" เพลงดังจัง ฉันแทบจะตะโกนคุยกับเจ้ซีลีนอยู่แล้ว
"เรื่องแต่งงาน ยิงขาบอดี้การ์ด ขับรถบิ๊กไบค์ ฉันเองก็มีส่วนผิดที่พูดอะไรไม่คิดเหมือนกันล่ะ"
ว่าแล้วน้ำตาก็ซึมออกมา แต่เศร้าซึมได้ไม่นานหรอกค่ะ! ก็ต้องสะดุ้งโหย่งเพราะเสียงแว๊ดของเจ้ซีลีน
"ห๊ะ แต่งงาน?!!"
เจ้อลินที่อยู่โต๊ะผู้ชายหันขวับมาหาเรา พลังเผือกนั้นแรงกล้า นางรีบบอกลาผู้ชายแล้วเดินมานั่งถามตาแป๋ว
"ใครจะแต่งงาน? แกเหรอซีลีน" เจ้ซีลีนส่ายหน้าแล้วชี้มาที่ฉัน แต่ฉันยังไม่ตอบในทันที ปล่อยให้พี่ๆนั่งมองตัวเองยกเหล้าดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า
จนแก้วที่สี่หมดฉันถึงเล่าให้ฟังแบบเมาๆ และเล่าเสียงดังด้วย
"เออ! ฉันต้องแต่งงานกับทายาทมาเฟียอีกบ้าน ตอนเด็กๆก็หล่อนะ โตมาไม่รู้หน้าตาเป็นไง แล้วที่ฉันทะเลาะกับพ่อ เพราะว่าอยากทดลองใช้ก่อน แต่ฉันดันไปพูดกับพ่อตรงๆ เลยไม่เข้าหูท่าน"
"แกหมายถึงลองมีอะไรกันเหรอ?" เจ้อลินถามอึ้งๆ
"ใช่"
"ถ้าไม่ชอบทำไง? เสียตัวฟรี ไม่แต่ง?" ฉันวางแก้วบนโต๊ะ ปึก! แล้วมองเจ้ซีลีนตาเยิ้ม
"เจ้ ถ้าคนมันเซ็กส์ห่วยมันก็ต้องห่วยตั้งแต่เล้าโลมแล้วป่ะ ฉันเอาตัวรอดได้น่า จะรีบหุบขาให้ทัน"
พี่ๆถอนหายใจพร้อมกัน ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นยืนแล้วเซไปข้างหลังจนเกือบล้ม
"ไหวป่ะเนี่ย แกจะไปไหน"
"ไปเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวมา"
ฉันว่าจบก็เหลือบมองอีตาบีบนมแว๊บนึง พอเห็นว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำของวีไอพีจะอยู่ข้างหลังเรา ไม่ต้องลงบันไดไปใช้ร่วมกับคนอื่นๆ
ด้วยสติที่ไม่ครบร้อย ฉันจึงรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จอย่างทำเวลา และรีบล้างมือเป่าแห้ง
แต่เมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำหญิงเท่านั้นแหละ ฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนก็คว้าหมับที่ข้อมือฉัน แล้วกดตัวเข้ากำแพงทันที
"ปล่อย!"
"เจอกันอีกแล้ว... แต่ทำไมรอบนี้ปากไม่เก่งแล้วล่ะ"
ฉันกัดฟันจ้องหน้าเขาเขม็ง การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ใกล้ชิดกว่ารอบแรกซะอีก ฉันเห็นหน้าเขาชัด เห็นความหล่อที่ยากจะจับตำหนิ แม้แต่ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่จางๆ ฉันยังรู้สึกได้เลย
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาสำรวจใบหน้าเขา...
เขามีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องตัวฉัน!
"คิดว่าอยากเจอรึไง!? คุณตามฉันใช่มั้ย รวยทิพย์อยากได้เงินซ่อมรถล่ะสิ" ฉันเชิดหน้าขึ้น ไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ใต้อำนาจสายตาคู่นั้น
แต่เขาเหยียดยิ้มที่มุมปาก มองฉันด้วยสายตาที่แปลกไปกว่าเดิม
"ตอนแรก... ฉันไม่อยากพบอยากเจอผู้หญิงอย่างเธอเลย แต่ตอนนี้รู้สึก'อยาก' แล้วล่ะ"
"อย่ามาพูดจาทุเรศกับฉันนะ!" มือใหญ่บีบข้อมือฉันแน่น ก่อนจะกดฉันลงกับกำแพง จนหลังกระแทก ปึก!
"โอ๊ย ไอ้!..." ฉันชะงักทันที เพราะนิ้วชี้เรียวชี้หน้าฉัน ห่างเพียงคืบ
"ลองด่าฉันสิ แล้วเธอจะรู้...ว่าฉันไม่เหมือนคนอื่นๆที่เธอทำนิสัยแย่ด้วย"
"...."
"ผู้หญิงอย่างเธอ... จุดจบควรเป็นที่ไหนดี"
สาบานเถอะ ฉันไม่เคยอยากชกใครเท่านี้มาก่อน ถ้ามือฉันหลุดออกไปได้สักวิเดียวล่ะก็ ฉันจะจัดให้สาแก่ใจเลย
"แล้วคุณล่ะจุดจบควรเป็นที่ไหน ที่กล้าพูดแบบนี้คงไม่รู้สินะว่าพ่อฉันเป็นใคร"
เขาไม่ตอบฉัน ริมฝีปากยังคงยิ้มเหยียดอย่างเคย จนฉันเริ่มดิ้น เริ่มออกแรง เริ่มทำทุกอย่างให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการนี้
แล้วเมื่อเขาปล่อย หมัดหลวมๆของฉันก็ง้างกว้างทันที
หมับ!
บ้าจริง!
มันยังไม่ปะทะกับใบหน้าเขาเลย อีตาบ้านั่นก็จับข้อมือฉันและบีบแรงจนเจ็บ หนำซ้ำยังกระตุกเข้าไปหาตัวเอง และสอดมือว่างอีกข้างรั้งท้ายทอยฉันเข้าไปจูบ
ฉันตาเบิกกว้าง ยืนนิ่งกับที่ ลมหายใจที่หอบโมโหเปลี่ยนเป็นหายใจไม่ทั่วท้อง
ริมฝีปากนั้นไม่ได้สั่งสอนให้ฉันสงบและผ่านไป เขาไม่จบเพียงแค่นั้น รุกล้ำเข้ามาด้วยลิ้นร้อนกดแนบริมฝีปากแรงๆ จนฉันเซไปข้างหลัง
และเมื่อฉันใช้มืออีกข้างดัน ทุบตี เขาก็จับหมับ! กดมันเหนือหัวฉันทันทีอย่างไม่เบาแรง
ฉันหายใจไม่ทันแล้ว
ช่วยออกไปสักที
แรงของฉันมันหายไปไหนหมด!
เวลาล่วงเลยนานแค่ไหนไม่รู้ แต่เมื่อริมฝีปากร้ายถอดถอนออกไป ฉันก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกเลย ร่างเล็กทรุดนั่งลงกับพื้นเหมือนคนโง่หายใจหอบหนัก
ทำได้แค่ช้อนตาขึ้นไปมองเขาที่ล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกไปเท่านั้น
นี่ฉันเมาหรืออะไรกัน... ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันทำให้ฉันอ่อนแออย่างประหลาด
"แทนขวัญๆ แกไหวไหมเนี่ย เป็นอะไรไปนั่งอยู่ตรงนั้น" เจ้ซีลีนที่กำลังเดินผ่านรีบมาพยุงฉันลุกขึ้น
"ฉัน... ฉะ ฉันเมา"
"เมา?"
ฉันพยักหน้า และมองรอบๆบริเวณจนเจ้อลินรีบมาช่วยพยุงไปที่โต๊ะอีกคน ฉันหย่อนก้นนั่งเหมือนคนเหม่อลอย มองไปที่โต๊ะนั้นเขาก็ยังนั่งอยู่และกินเหล้ากับเพื่อนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"วันนี้น้องสาวเราหนักจริงๆ เมาซะแล้ว แก้มแดงเลย"
ฉันจับแก้มตัวเองทันที แต่จังหวะนั้นดันเผลอสบตากับเขาเข้าให้ เขาจ้องมาขณะที่ยกเหล้าดื่ม แล้วรู้ไหม...ว่าอะไรทำให้ฉันแทบกัดลิ้นตัวเองตาย
ตอนที่เขาลดแก้วลง...
เขาเลียริมฝีปากตัวเอง
สติฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉันต้องเมาแล้วแน่ๆ จึงพยายามดื่มให้น้อยลง แล้วหาเรื่องอื่นคุยกับพี่ๆแทน จนถึงเวลาเช็คบิลเจ้อลินอาสาเลี้ยง
แต่พนักงานดันถือใบเสร็จที่จ่ายเงินแล้วมาให้เธอ
"ยังไม่จ่ายเลยนะคะ" เจ้อลินที่ถือใบเสร็จอยู่บอกกับพนักงานไป
"เจ้าของผับบอกไม่คิดเงิน เพราะได้จูบไปแล้วครับ"
เราสามคนมองหน้ากันเลิ่กลัก และฉันเม้มปากทันที ก่อนที่เจ้ซีลีนจะชี้ไปที่เจ้อลินคนแรก
เออข้ามฉันไปเถอะ! ข้ามไป!
"แกเหรออลิน แกแน่ๆเลย นังใจร่าน!"
"บ้าเหรอ?! ไม่ใช่ฉันย่ะ>[]<"
"ไม่ใช่ฉันด้วย แล้วจะเป็นใครล่ะ!"
"คงเป็น... " สองคนนั้นชี้มาที่ฉันพร้อมกัน ซึ่งฉันรีบยกมือปฏิเสธ และส่ายหน้ารัวทันที
ไม่ๆ ไม่ใช่ฉัน!
และนี่มันก็ไม่ใช่ฉันเลย... แก้มฉันมันร้อนไปหมด ร้อนแปลกๆ เหล้ามันแรงเกินไปเหรอ?
ก็ไม่นะ...
หรือว่าจะเป็นคน...
สิบแปดปีต่อมา....กว่าจะผ่านมาได้สิบแปดปี เจ็บไม่รู้กี่ครั้ง หลั่งน้ำตาไม่รู้กี่รอบ แต่ฉันกับลูกๆก็ผ่านมันมาได้อย่างลุ้นระทึก ทำไมถึงเป็นแบบนั้นน่ะเหรอ...ก็เพราะตอนที่ภาขวัญโตพลังเธอยิ่งกว่าวันเดอร์วูแมน บ้านคฤหาสน์ดรากอนสุดยอดแห่งความโกลาหล พายุ ภาขวัญถือปืนของเล่นไล่ยิงกันในบ้าน ใช้ตู้ แจกัน โซฟาเป็นที่กำบังจากกระสุนยางส่วนภาคิณพยายามวิ่งห้าม เพราะทุกๆครั้งที่เล่นแบบนี้ต้องมีของแตกหรือพัง เมื่อก่อนฉันก็บ่นนั่นแหละแต่ตอนนี้รู้สึกแก่เลยปล่อยวาง แต่ความดื้อของลูกไม่ได้ลดน้อยลงเลยนะคะ พวกเขาแค่พูดรู้เรื่องขึ้นเท่านั้น "มาม๊าคะ...หนูเจอผู้ชายคนนึงหล่อมาก!"ฉันยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากภาขวัญทันที พายุอยู่บ้าน ภาคิณอยู่บ้าน รวมถึงพี่องศาก็อยู่ที่ห้องทำงาน พูดเรื่องผู้ชายให้ได้ยินไม่ได้"แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามพูดเรื่องนี้ที่บ้าน ถ้าอยากพูดพูดกับแม่ข้างนอก" ภาขวัญทำหน้ายู่ "ได้ค่ะ แต่มาม๊าช่วยอะไรหนูหน่อยได้ไหมคะ?" พอภาขวัญพูดแบบนั้น ซานิที่พึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยด้วยกันก็จับมือเธอทันที "อย่าเลยแก""เอาน่าซานิ ม๊าฉันเข้าใจ""จะให้แม่ช่วยอะไร?" ฉันถาม"สั่งบอดี้การ์ดของดรากอนหรือไลออน ไปขู่
หนึ่งปีต่อมาพายุ ภาคิณ 5 ขวบภาขวัญ 7 เดือน"ภาขวัญคลานมานี่ คลานมาๆ" พายุอยู่อีกมุมบ้าน กำลังปรบมือเรียกน้องสาวที่กำลังตั้งท่าคลานให้ไปหาตัวเอง บ้านหลังใหญ่อาณาจักรมาเฟียองศา ทุกพื้นที่ถูกบุไปด้วยเบาะนุ่ม และสร้างประตูเล็กกั้นบันไดไม่ให้เด็กแสบอย่างภาขวัญคลานไปถึงแทนขวัญเป็นแบบไหน ภาขวัญคูณสอง นอกจากจะหน้าตาเหมือนฉันอย่างกับโคลนนิ่ง นิสัยก็ปังมาก เอาแต่ใจ งอแงเก่ง และดื้อจนฉันอยากจะยีหัวตัวเอง อย่าเผลอเชียว แอบคลานไปทุกที่และก็ชอบเล่นซ่อนแอบให้ฉันปวดประสาท ถ้าเดินได้ฉันคงไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะ นั่งจ้องลูกทั้งวันกลัวลูกหาย เพราะพี่องศารักภาขวัญมาก เห่อมาก ตอนที่ภาขวัญคลานและล้มตุ๊บใส่ของเล่น ลูกไม่ร้อง แต่พ่อน้ำตาซึมและทิ้งของเล่นแข็งๆหมดบ้านเครียดกันเป็นอาทิตย์"ภาขวัญมาเร็วววววว" ภาขวัญหัวเราะคิกๆแล้วคลานไปหาพี่ชายอีกมุม ซึ่งฝั่งนู้นก็ปรบมือเร่งอย่างครึกครื้น ลืมบอกไปว่าภาขวัญมีฟันกระต่ายสองซี่ขึ้นแล้วนะคะ เวลาหัวเราะหรือยิ้มแฉ่งนี่น่าเอ็นดูมาก"มาเลยภาขวัญ!""พายุอย่าเร่งน้อง" ภาคิณปราม เพราะก่อนหน้ามันมีเหตุเกิดมาแล้ว เล่นกันแบบนี้เชียร์กันสุดเสียงแล้วภาขวัญก็คลานจนแขนล้าล้มหน
หลังจากได้รับโฉนดที่ดินหลักร้อยล้านมาครอง ไม่นานฉันกับพี่องศาก็ขอตัวกลับ แต่พายุไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว เพื่อความเท่าเทียมภาคิณขออยู่กับพี่ชายด้วย เขาให้เหตุผลว่าตัวเองไปไหนต้องมีพายุไปด้วยตลอด เลยไม่อยากให้พี่น้อยใจหรือแยกจากกัน น่าเอ็นดูมาก ฉันกับพี่องศาได้ยินน้ำตาแทบไหล ประทับใจที่พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวเพราะจากที่ไปอ่านมาจากเว็บไซต์ลูกรักที่ตั้งบอร์ดปรึกษาหารือเรื่องลูกแฝด ปัญหาโลกแตกคือเด็กชอบทะเลาะกัน ยิ่งเป็นเพศเดียวกันยิ่งแล้วใหญ่ จิกหัวตบ แย่งของเล่น สารพัด!"ไม่มีลูกก็เหงาเหมือนกันนะคะ กลับรถไปรับดีไหม?"พี่องศาหันมายิ้ม"ติดแค่ลูกเหรอครับ ไม่ติดพี่บ้างเหรอ?" "ติดค่ะ ถ้าลืมพี่องศาไว้บ้านพ่อก็จะกลับรถไปรับเหมือนกัน" เขาจับมือฉันไปหอมฟอดใหญ่แล้วกุมไว้บนตัก และหลังจากนั้นก็ไม่ปล่อยมือเลย แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะหน้าขบวนรถมีรถนำอยู่แล้ว ฉันกับพี่องศาจึงขับรถไปเรื่อยๆ สวีทกันสองคนจนถึงบ้าน...ต้องอาบน้ำเตรียมเข้านอน มาเฟียหนุ่มก็บุกมาก่อกวนฉันถึงในห้องน้ำ เขานั่งซ้อนหลังฉันถูหลังให้ ชโลมครีมอาบน้ำที่หัวไหล่แล้วนวดเบาๆ นี่มือจับปืนจับดาบมาเหรอเนี่ย...นุ่มจัง"รู้
"แม่! ลูกหนูล่ะ!"ทันทีที่ตื่นขึ้นมาฉันไม่สนใจเลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน พอเจอหน้าแม่ก็รีบจับแขนท่านถามทันที "ใจเย็นๆแทนขวัญ พายุไม่ได้เป็นอะไรเลย บอดี้การ์ดรับไว้ทันแถมพายุยังมีความสุขดีไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน""เฮ้ออออ"ฉันยกมือทาบอกถอนหายใจโล่ง ก่อนจะหันไปมองรอบๆห้องแล้วเห็นพี่องศาและพ่อยืนอยู่ ส่วนพายุหลับอยู่ที่โซฟา ภาคิณยืนมองฉันตาละห้อย โถ่...คนพี่ดื้อจนแรงหมด คนน้องก็น่าเอ็นดูเหลือเกิน"พ่อว่าเราต้องจัดการพายุแล้วแทนขวัญ" อยู่ๆพ่อฉันก็พูดขึ้นมา"พะ พ่อหมายความว่ายังไงคะ?""ระหว่างที่ลูกท้อง ให้พายุไปอยู่กับพ่อช่วงเสาร์อาทิตย์"ฉันมองพี่องศาทันที ซึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย จันทร์ถึงศุกร์ถามว่าพายุดื้อไหม ดื้อค่ะ แต่ไม่ได้เอาพลังทั้งหมดมาใช้กับความดื้อขนาดนี้ แต่ถ้าไปอยู่กับพ่อฉัน...ชั้นล่างก็เป็นบ้านพี่แทนคุณ พายุต้องไปป่วนบ้านนั้นเล่นกับเดนิสจนบ้านพังแน่ๆ"คงไม่ชวนเดนิสเล่นซนนะคะ" "ไม่หรอกแทนขวัญ...เดนิสเป็นเด็กผู้หญิงลูก รายนั้นเล่นแต่ตุ๊กตา" แม่ฉันตอบด้วยรอยยิ้ม ตอนที่ฉันเป็นลมทุกคนคงประชุมกันแล้วสินะ สงสัยคงต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ ช่วงนี้ฉันท้องอ่อนๆอยู่ด้วยวิ่งตามจับพายุไม่ไหว
[SPECIAL]แทนขวัญ x องศาสองคนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายออกเยี่ยมราษฎรรึไง รู้แล้วว่ารักกัน รักมาก ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้ซีลีนโชคดีมากจริงๆ แผนทั้งหมดพี่โซ่บอกพวกเราหมดแล้วเขาตั้งใจกับเรื่องนี้มาก ตอนที่พนักงานเอาดอกกุหลาบมาวางอย่างทำเวลา เราทุกคนข้างล่างก็คอยช่วยกำกับ"เหลือคู่เราแล้วนะครับ" ฉันหันไปมองพี่องศาแล้วยิ้มให้เขา เหลือคู่เราอะไร...คู่เราน่ะสมหวังกันตั้งนานแล้ว เหลือแค่ส่งท้ายเล็กๆน้อยๆให้ทุกคนแฮปปี้เอนดิ้งเท่านั้น"คู่เราต้องฉลองด้วยไหมคะ?""ครับ...แต่ฉลองกันสองคน หนูสะดวกไหม?" สะดวกที่สุด ฉันไม่ได้ตอบพี่องศาด้วยคำพูด แต่ใช้สายตาเป็นคำตอบแทน ซึ่งแค่มองตาก็รู้ใจ... หลังจากนั้นพี่โซ่กับเจ้ซีลีนก็เสด็จลงมาขอบคุณทุกคน ก่อนจะดื่มพูดคุยกันนิดหน่อยแล้วแยกย้ายกันกลับ แต่กว่าฉันจะลากสองแฝดกลับบ้านได้ยากมากๆ อยู่ๆลูกชายฉันก็ติดลมเล่นกับซีล นั่งคุยกันเป็นตุเป็นตะราวกับมีธุรกิจพันล้านจะสร้างด้วยกัน"เดี๋ยวซานิออกมาต้องน่ารักมากแน่ๆ" มีคนคลั่งรักน้องด้วย แต่พายุไม่ยอมแพ้"น้องภาขวัญออกมาก็น่ารักเหมือนกัน เป็นเจ้าหญิงน้อยของพวกเรา" ใช่ค่ะ น้องสาวคนเล็กของสองแฝดชื่อภาขวัญ
อยากได้อะไรพ่อก็ตามใจทุกอย่าง นี่แหละตาซีล หลังจากนั้นสองสามวันลูกชายฉันก็เป็นฝ่ายโทรไปชวนญาติสนิทมิตรสหายของเขาด้วยตัวเอง โดยมีพ่อเป็นคนต่อสายให้"มาเยยนะ มีเหล้า มาเมากัน" ไม่ได้! ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากปู่แน่ๆเลย โทรชวนตามากินเหล้าตั้งวงบ่อย คำพูดของตาซีลทำให้คนในบ้านขำจนปวดท้อง หนักสุดคือคุณปู่ท่านถึงกับเดินออกไปขำนอกบ้าน"ซีลยังพูดเรื่องเหล้าไม่ได้นะลูก ยังเด็กอยู่เลย""ก็ฉลองต้องมีเหล้าไม่ใช่เหรอครับ" พี่โซ่จะขำ แต่พอฉันตวัดตามองเขาก็รีบปิดปากไว้ "เหล้าสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ ซีลโตก่อนนะ ตอนนั้นแม่จะไม่ห้ามเลย" ซีลพยักหน้าหงึกๆ แต่ก็ไม่ได้จำคำสอนของฉันเลย เขายกหูโทรศัพท์พูดต่อแถมพูดมากกว่าเดิมอีก"มานะพายุ เหล้าดีๆเยอะแยะไปหมด โอเคๆโทรชวนเพิร์ลก่อน อย่าลืมมานะ พรุ่งนี้นะ" ฉันกุมขมับ เจ้าเด็กพวกนี้ชอบคุยกันเกินอายุจริงๆ•••งานเลี้ยงฉลองฉันดูออกว่าลูกชายชอบการปาร์ตี้ ชอบเพื่อนฝูง พายุกับภาคิณมาถึงนี่รีบออกตัวไปชวนนั่งและชี้สั่งให้แม่บ้านเสิร์ฟของว่างให้ เราจัดงานกันช่วงเย็นที่หน้าบ้านตัวเอง ซึ่งมีน้ำพุกามเทพแผลงศรตระหง่านอยู่หน้าบ้าน ตัวนี้พี่โซ่เขาเป็นคนเลือกเอง บอกว่ามันคล้ายกับควา