องค์รัชทายาทหัวเราะเยาะ ยกมือเป็นการสั่งให้ยิงธนูได้เคราะห์ดีที่ฉู่หนิงพูดขึ้นก่อนอย่างสงบนิ่ง “แม่ทัพจ้าวไม่ต้องเป็นห่วง องค์รัชทายาทแค่จะพาข้าไปชี้แจงกับเสด็จพ่อ”จ้าวอวี่หยุดฝีเท้า ถามด้วยความสงสัย “ท่านอ๋อง นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”ฉู่หนิงส่ายหน้า “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ ไปรอข้าที่หน้าประตูวังก็พอ”“แต่ว่า…”“กระไร เจ้าไม่ฟังคำสั่งข้าหรือ?”“มิกล้าพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวอวี่จนปัญญา ได้แต่ตอบตกลงแล้วถอดเสื้อคลุมของตัวเอง “ท่านอ๋องโปรดใส่ไว้ก่อน จะได้ไม่ป่วยไข้”ฉู่หนิงมององค์รัชทายาทปราดหนึ่ง “เสด็จพี่รัชทายาทคงไม่ถึงกับไม่ให้ข้าสวมเสื้อคลุมใช่หรือไม่?”องค์รัชทายาทแสยะยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้ว ข้าต้องการให้เสด็จพ่อเห็นเจ้าในสภาพนี้ ไป!”สิ้นเสียงคำสั่ง ทุกคนก็มุ่งหน้าสู่ตำหนักอิงอู่จ้าวอวี่มองแผ่นหลังฉู่หนิงเดินจากไป ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเร่งรุดหน้าไปยังประตูวังฉู่หนิงที่ตัวเปียกโชก ถูกองครักษ์ตำหนักบูรพานำตัวไปที่ด้านนอกตำหนักอิงอู่ทั้งอย่างนี้“ฝ่าบาท ฝ่าบาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงเร่งร้อนของจ้าวหมิงดังมาจากนอกตำหนักฮ่องเต้ที่บัดนี้เข้าบรรทมแล้วถูกปลุกให้ตื่น
ภายในห้องเก็บสุราใต้ดินหลิงเฟยเยียนกำลังเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ยากลำบากเดิมทีนางตั้งใจจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อจัดการฉู่หนิงและองค์รัชทายาท ให้บุรุษทั้งสองคนต้องชดใช้เพื่อการนี้ นางจึงตอบตกลงรับข้อเสนอที่ไร้ยางอายขององค์รัชทายาท ใช้ตัวเองล่อลวงฉู่หนิง!แต่ตอนนี้คำพูดของฉู่หนิงกลับเตือนให้นางนึกขึ้นได้ว่า หากองค์รัชทายาทได้ประโยชน์แล้วถีบหัวส่งนาง ใช้โอกาสนี้ยกตำแหน่งพระชายารัชทายาทของนางให้หญิงสาวคนอื่นเล่า?ถึงแม้องค์รัชทายาทจะสาบานต่อหน้าคนมากมาย แต่อย่างไรมันก็จะเป็นเสี้ยนหนามระหว่างทั้งคู่อยู่ดีชั่วขณะนั้น หลิงเฟยเยียนนิ่งเงียบไปฉู่หนิงยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นดังนี้ เผยรอยยิ้มออกมาไม่มีสตรีคนใดไม่หวงแหนชื่อเสียงของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องถึงตระกูลหลิง หลิงเฟยเยียนต้องคิดให้รอบคอบเมื่อมีคนยินดีก็ต้องมีคนเศร้าตอนนี้สีหน้าขององค์รัชทายามดำทะมึนโดยสิ้นเชิงเจ้าสารเลวฉู่หนิงพูดเพียงประโยคเดียวก็ทำให้หลิงเฟยเยียนลังเล หรือว่านางจะชอบฉู่หนิงเข้าแล้วจริง ๆ?ไม่ได้ แผนการคืนนี้ต้องสำเร็จเท่านั้น มิเช่นนั้นสองคนนี้อาจจะไปทำอะไรลับหลังเขา!องค์รัชทายาทที่ร้อนใจลนลา
ฉู่หนิงเห็นทุกคนออกไปแล้ว ถึงค่อยดันร่างบอบบางที่สั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนออกไปแม้จะโอบเพียงชั่วครู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารูปร่างของหลิงเฟยเยียนดีมากจริง ๆ !โดยเฉพาะความรู้สึกที่ได้ใกล้ชิดแบบแนบเนื้อ มันช่างน่าจดจำไม่รู้ลืมเมื่อเห็นหลิงเฟยเยียนเดินไปหาองค์รัชทายาทและสวมผ้าคลุมบดบังร่างอรชร ฉู่หนิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาภาพนี้ถูกองค์รัชทายาทเห็นเข้าพอดีผิดหวังหรือ?เจ้าสารเลวนี่ผิดหวังหรือ?เขากำลังผิดหวังเรื่องอะไรแน่ นี่เป็นชายาของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่แตะต้องได้!องค์รัชทายาทเดือดดาลสุดขีดความอดทนและศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายถูกเหยียบย่ำในวินาทีนี้!“ชายารัก เจ้าพูดมาให้ชัดเจน ฉู่หนิงได้อาศัยฤทธิ์สุราในการล่วงเกินเจ้าหรือไม่?”องค์รัชทายาทจ้องหลิงเฟยเยียน “เจ้าต้องบอกความจริง ข้าจะช่วงทวงความยุติธรรมให้กับเจ้า!”หลิงเฟยเยียนยิ้มเยาะในใจหากไม่ใช่เพื่อแก้แค้นฉู่หนิง นางมีหรือจะตอบตกลงต่อคำขอที่ไร้ยางอายขององค์รัชทายาทแม้คืนนี้จะถูกฉู่หนิงลวนลาม แต่อย่างน้อยก็ถือว่าฉู่หนิงติดกับ ขอเพียงนางยืนกรานว่าฉู่หนิงลวนลามตัวเอง ฉู่หนิงก็จบสิ้นแล้วยิ่งไปกว่านั้น คืนนี้ก็มีคนเห็นฉู่หนิง
“โอ๊ย!”ร่างกายของหลิงเฟยเยียนถูกฉู่หนิงบีบอย่างแรงจนร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวดองค์รัชทายาทที่รออยู่ข้างนอกมานานแล้วมีสีหน้าถมึงทึงโดยพลัน ตะโกนเสียงดังว่า “ชายารัก เกิดอะไรขึ้น!”พูดจบก็พาคนบุกเข้าไปยังห้องเก็บสุราใต้ดินฉู่หนิงที่อยู่ในห้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาฉายแววเย็นยะเยียบคืนนี้เป็นงานเลี้ยงที่มีจุดประสงค์แอบแฝงดังคาด!แต่ว่า เพื่อให้เขาเข้ามาติดกับ องค์รัชทายาทถึงกับใช้หลิงเฟยเยียนเป็นตัวล่อหึ โชคดีที่เขาตักตวงผลประโยชน์มามากพอแล้วฉู่หนิงยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ กำหมัดขวาต่อยไปที่โถเก็บสุราด้านข้างหน้า!“เพล้ง!”โถสุราแตกละเอียด สุราด้านในสาดกระเซ็นออกมา ทำให้ฉู่หนิงและหลิงเฟยเยียนตัวเปียกโชกหลิงเฟยเยียนที่ผลักฉู่หนิงออกยังไม่ทันจะตั้งตัว ก็รู้สึกเย็บวาบทั้งตัว ความรู้สึกเย็นยะเยียบแผ่ซ่านจากด้านหลังมาถึงอก แต่ในเวลานี้เอง ฉู่หนิงกลับเข้ามาดึงนางไว้ในอ้อมแขนจากนั้น ประตูก็ถูกถีบเปิด องค์รัชทายาทพาองครักษ์ตำหนักบูรพากลุ่มหนึ่งเข้ามาใบหน้าขององค์รัชทายาทกลายเป็นสีเลือดหมูทันทีที่เห็นฉู่หนิงกอดหลิงเฟยเยียน “ฉู่หนิง เจ้าบังอาจ กล้าดีอย่า
ตำหนักบูรพาภายใต้ม่านราตรีแม้จะมืดมิด แต่บนระเบียงทางเดินก็มีคบเพลิงและองครักษ์ยืนเฝ้าอยู่เป็นระยะ ๆ ทำให้ยังพอมองเห็นทางได้ฉู่หนิงที่เดินตามอยู่เบื้องหลังหลิงเฟยเยียน มองดูเรือนร่างอรชรที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้าในระยะใกล้เพียงเอื้อม ชายผ้าที่อยู่ระหว่างเรียวขายาวก็ถูกลมราตรีพัดปลิวขึ้นเป็นครั้งคราว เผยให้เห็นต้นขาที่ขาวผ่องดุจหยกฉู่หนิงที่ใกล้จะระเบิดอารมณ์อยู่แล้วพลันเบิกตากว้าง รู้สึกว่าตนเองใกล้จะระเบิดเต็มที!แต่เขารู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะลงมือ ต้องอดทน!โชคดีที่หลิงเฟยเยียนเดินไปได้ไม่นาน หลังจากผ่านระเบียงทางเดินสามแห่งและตำหนักแห่งหนึ่ง ก็มาถึงหน้าห้อง ๆ หนึ่งนางกำนัลรีบเปิดประตูห้องเก็บสุราใต้ดินหลิงเฟยเยียนหันมามองฉู่หนิงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เชิญน้องสิบแปดเข้ามากับข้า”ฉู่หนิงแสยะยิ้ม ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินตามหลิงเฟยเยียนเข้าไปในห้องเก็บสุราใต้ดินภายในห้องเก็บสุราใต้ดิน มีไหและโอ่งขนาดใหญ่วางเรียงรายอยู่มากมาย กลิ่นสุราที่หอมกรุ่นชวนให้เคลิบเคลิ้ม ฉู่หนิงสูดหายใจเข้าลึก อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม“หอมจริง ๆ !”ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะสิ้นเสียง ก็พลันได้ยินเสียงเอี๊ยด
ภายในตำหนักบูรพาองค์รัชทายาททรงเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง โดยมีพระชายาคอยอยู่เคียงข้าง ท่ามกลางเสียงดนตรีและการร่ายรำ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรื่นเริง ภายใต้การขับเน้นของเหล่านางระบำ หลิงเฟยเยียนงดงามราวกับเทพธิดาจำแลงมา งดงามจนมิอาจหาคำใดมาเปรียบได้บนใบหน้าที่งดงามเลิศล้ำ ทุกรอยยิ้มและทุกการเคลื่อนไหวล้วนแฝงไปด้วยความเย้ายวน ในยามที่เรือนร่างขยับเคลื่อนไหว ทั้งร่างของนางก็ดูราวกับภูตพรายที่สะกดหัวใจคน!ฉู่หนิงที่ดื่มสุราเลือดกวางกระดูกพยัคฆ์สูตรพิเศษเข้าไปสองจอก บัดนี้ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาทั้งสองข้างแดงฉาน จ้องมองไปยังเรือนร่างอันเย้ายวนของหลิงเฟยเยียนอย่างไม่วางตาลมหายใจในบัดนี้พลันหอบกระชั้น เปลวไฟในร่างกายราวกับจะพวยพุ่งออกมาตามลมหายใจ โลหิตในกายก็เดือดพล่านไปทั่วทั้งร่างสุรานี้ ร้ายกาจเกินไปแล้ว!นี่คือกลยุทธ์สาวงามขององค์รัชทายาท!ฉู่หนิงสูดหายใจเข้าลึก บังคับตนเองให้สงบลงแม้จะไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทวางแผนจะทำอะไร แต่ตนเองจะตกหลุมพรางไม่ได้เด็ดขาดเขาก้มหน้าลงหยิบแอปเปิลบนโต๊ะขึ้นมา แล้วกัดเข้าไปคำหนึ่ง เคี้ยวในปากอย่างแรง!แรงปรารถนาอันเดือดพล่านทั้งหมดถูกระบายลงบนแอปเ