Share

บทที่ 5

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“จวิ้นอ๋อง ท่าน...ท่านคงไม่ได้คิดจะขายหอกเล่มนี้ไปด้วยหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ?”

“ทำเช่นนี้มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ หอกเล่มนี้เป็นของที่ฝ่าบาทเคยใช้เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ล้ำค่าหาใดเปรียบ ขายไม่ได้เด็ดขาด!”

จ้าวอวี่และกวนอวิ๋นพอเห็นท่าทีของฉู่หนิงก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

ขายกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ไปแล้ว ฮ่องเต้ไม่ทรงลงโทษ นั่นเป็นเพราะความโปรดปรานที่ทรงมีต่อท่านจวิ้นอ๋องแล้ว

แต่หากจะขายหอกเล่มนี้อีก ฝ่าบาทต้องทรงพิโรธเป็นแน่!

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก มองหอกยาวในมือแล้วเอ่ยชมอย่างประหลาดใจ “หอกเล่มนี้เป็นของที่เสด็จพ่อเคยใช้ คงจะมีค่ายิ่งกว่าสินะ!”

“อีกไม่นานข้าก็จะต้องไปทัพหน้าแล้ว หากไม่มีเงินมากพอ ทหารเบื้องล่างที่ไหนจะยอมฟังคำสั่งข้า?”

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่พลันนิ่งเงียบไป

การพ่ายศึกที่แนวหน้า ไม่ใช่เพียงเพราะขาดแคลนเสบียง แต่ยังมีสาเหตุมาจากเบี้ยหวัดทหารไม่เพียงพอด้วย

หากเผิงไหลจวิ้นอ๋องไปมือเปล่า ทหารที่แนวหน้าคนไหนจะยอมฟังคำสั่งขององค์ชายที่ไม่มีทั้งอำนาจ บารมี และเงินทอง?

ทุกสิ่งที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องทำ ล้วนทำเพื่อเหล่าทหารที่แนวหน้าทั้งสิ้น!

ในวินาทีนี้ ภาพลักษณ์ของฉู่หนิงในใจของพวกเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

เดิมทีคิดว่าฉู่หนิงเป็นเพียงองค์ชายตัวตายตัวแทน แต่การกระทำของฉู่หนิงกลับพิชิตใจพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์

“เผิงไหลจวิ้นอ๋องทรงห่วงใยในความปลอดภัยของบ้านเมือง ถึงกับยอมขายหอกยาวที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ จ้าวอวี่ยินดีนำทางให้ท่านพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก “ไปที่จวนขององค์ชายรองก่อน”

...

ณ พระราชวัง ฮ่องเต้กำลังตรวจฎีกา

ทันใดนั้น องครักษ์เงาก็เข้ามารายงาน “ฝ่าบาท เผิงไหลจวิ้นอ๋องกำลังนำหอกประกายเงินมุ่งหน้าไปยังจวนขององค์ชายรองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

พู่กันที่กำลังจรดลงบนฎีกาพลันหยุดชะงัก หมึกหยดหนึ่งไหลซึมลงมาบดบังตัวอักษรเป็นวงกว้าง

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนขว้างฎีกาลงบนพื้นอย่างแรง “ฉู่หนิงคิดจะทำอะไร? หรือว่าเขายังคิดจะขายหอกประกายเงินที่เราให้ไปอีกหรือ?”

เจ้าเด็กสารเลวนี่ ไม่รู้หรือไรว่าหอกยาวที่เราพระราชทานให้นั้นสามารถช่วยชีวิตในยามคับขันได้!

องครักษ์เงาตอบอย่างระมัดระวัง “จ้าวอวี่ส่งข่าวมาว่า เผิงไหลจวิ้นอ๋องต้องการขายหอกประกายเงินจริง ๆ เพื่อรวบรวมเงินให้เพียงพอสำหรับไปปลอบขวัญกองทัพทั้งสามที่แนวหน้าพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ที่ยังทรงกริ้วอยู่ถึงกับชะงักงัน

ใช่สิ ฉู่หนิงที่ไม่มีทั้งอำนาจและบารมี จะทำให้กองทัพนับแสนนายที่แนวหน้ายอมเชื่อฟังเขาได้อย่างไรหากไม่มีเงิน

ว่ากันตามจริงแล้ว ราชสำนักยังค้างจ่ายเบี้ยหวัดของทหารที่แนวหน้าอยู่ถึงสามเดือน

ที่แท้ การที่ฉู่หนิงขายทั้งกระบี่และหอก ก็เพื่อรวบรวมเบี้ยหวัด สร้างขวัญและกำลังใจให้ทหาร!

ฉู่หนิงกำลังทำเพื่อบ้านเมืองต่างหาก!

เป็นเราเองที่เข้าใจเขาผิดไป!

“จับตาดูเขาไว้ก่อน เราอยากจะเห็นนักว่าใครหน้าไหนมันจะกล้าซื้อหอกประกายเงิน!”

“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

...

จวนองค์ชายรอง ณ โถงรับรอง

ฉู่หมิงมองหอกประกายเงินตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย

นี่คือหอกยาวที่เสด็จพ่อเคยใช้เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ มีความหมายมากกว่ากระบี่คู่กายเสียอีก!

ฉู่หนิงมองพี่ชายของตนเอง บนใบหน้ากลับเผยท่าทีซื่อ ๆ ออกมา

“พี่รอง ท่านชอบหอกเล่มนี้หรือไม่?”

“ชอบ!”

ฉู่หมิงชื่นชมมันจนวางไม่ลง พยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“ในเมื่อพี่รองชอบ เช่นนั้นก็ขายหอกเล่มนี้ให้พี่รองก็แล้วกัน!”

ฉู่หนิงเข้าเรื่องทันที “กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อขายให้ท่านพี่องค์รัชทายาทไปหกหมื่นตำลึง หอกเล่มนี้ย่อมต้องเหนือกว่ากระบี่คู่กายเล่มนั้น หนึ่งแสนตำลึง พี่รองก็สามารถเก็บหอกเล่มนี้ไว้ได้เลย!”

องค์ชายรองได้ยินดังนั้นก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

“ชอบก็ชอบอยู่หรอก แต่หอกเล่มนี้เป็นของที่เสด็จพ่อพระราชทานให้น้องสิบแปด พี่จะแย่งของรักของคนอื่นได้อย่างไรกัน!”

ล้อกันเล่นหรือไร องค์รัชทายาทซื้อกระบี่ไปก็ถูกกักบริเวณ หากข้าซื้อหอกเล่มนี้ไป ไม่รู้ว่าจะถูกเสด็จพ่อลงโทษอย่างไรบ้าง!

ชอบก็ส่วนชอบ แต่ข้าไม่อยากถูกลงโทษนะ

ตอนนี้องค์รัชทายาทกลายเป็นเรื่องตลกของเหล่าองค์ชายไปแล้ว ใครจะกล้าซื้อหอกของเจ้าฉู่หนิงอีก!

ข้าไม่อยากกลายเป็นเรื่องตลกเรื่องถัดไปต่อจากองค์รัชทายาทหรอกนะ

ฉู่หนิงได้ยินดังนั้นก็ทำท่าร้อนใจขึ้นมาทันที “หากพี่รองคิดว่าข้าตั้งราคาสูงไป ท่านก็ต่อรองราคาได้นี่”

“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ราคา!”

องค์ชายรองคิดจะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ทำได้เพียงส่งหอกประกายเงินคืนไป “เจ้ารีบเอาหอกของเจ้าไปได้แล้ว!”

ตัวหายนะเช่นนี้ เขาไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้

“พี่รอง หรือท่านจะให้หกหมื่นตำลึงเท่ากันก็ได้ หอกเล่มนี้ก็จะเป็นของท่าน!”

ฉู่หนิงลดราคาให้เองเสียเลย

มุมปากขององค์ชายรองกระตุก

หากเป็นเรื่องราคาจริง ๆ นั่นไม่นับว่าเป็นปัญหาเลย

แต่นี่มันเกี่ยวกับเรื่องหน้าตา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ราคาจะแก้ไขได้

“น้ำใจของน้องสิบแปดพี่ขอรับไว้ แต่หอกเล่มนี้พี่รับไว้ไม่ได้จริง ๆ !”

องค์ชายรองถอนหายใจยาว “แต่จะให้น้องสิบแปดมาเสียเที่ยวก็ไม่ได้ พี่มีเงินอยู่ที่นี่หนึ่งพันตำลึง ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่พี่ทำให้เจ้าต้องเสียเวลา”

คนรับใช้รีบยกหีบใบเล็กเข้ามาใบหนึ่ง เมื่อเปิดออก เงินก็ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่ข้างใน

ฉู่หนิงเห็นเงินแล้วดวงตาเป็นประกาย แต่ภายนอกกลับทำท่าทางผิดหวัง “ก็ได้ ในเมื่อพี่รองไม่ต้องการ เช่นนั้นข้าจะไปถามพี่สามดู”

“ข้ายังมีธุระสำคัญ คงจะไม่ได้ไปส่งน้องสิบแปดแล้ว!”

องค์ชายรองมองฉู่หนิงจากไป พลางเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก

เจ้าตัวหายนะนี่ ในที่สุดก็ไปเสียที

แม้จะถูกรีดไถไปหนึ่งพันตำลึง แต่เมื่อเทียบกับองค์รัชทายาทที่ถูกกักบริเวณแล้ว ไม่รู้ว่าดีกว่ากันกี่เท่า!

จริงสิ เมื่อครู่ฉู่หนิงบอกว่าจะไปหาน้องสามอย่างนั้นหรือ?

เหอะ ๆ ถ้าน้องสามซื้อไป เรื่องคงจะสนุกน่าดู!

ฉู่หนิงไปที่จวนขององค์ชายสามจริง ๆ

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนขององค์ชายรองได้แพร่ออกไปแล้ว องค์ชายสามจึงพูดกันตรง ๆ ปฏิเสธข้อเสนอขายหอกของฉู่หนิงทันที

แน่นอนว่า เพื่อไล่ฉู่หนิงไปให้พ้น ๆ องค์ชายสามก็ให้เงินหนึ่งพันตำลึงเช่นกัน

เรื่องราวต่อจากนั้นก็ง่ายดายแล้ว เมื่อมีบทเรียนจากองค์ชายรองและองค์ชายสามเป็นตัวอย่าง องค์ชายคนอื่น ๆ ก็เตรียมเงินหนึ่งพันตำลึงไว้ ก่อนที่จะฉู่หนิงจะไปถึงจวนเสียอีก

ทั้งสามคนที่ออกมามือเปล่า ตอนกลับจำต้องซื้อรถม้าหนึ่งคัน บนรถม้าวางหีบใบเล็ก ๆ ไว้เต็มถึงสิบหกใบ

องค์ชายสิบแปดพระองค์ ตัดองค์รัชทายาทและตัวฉู่หนิงเองออกไป คนละหนึ่งพันตำลึง รวมเป็นเงินหนึ่งหมื่นหกพันตำลึง!

เพียงแค่ออกมาข้างนอกรอบเดียว ฉู่หนิงก็ได้กลับไปอย่างเต็มไม้เต็มมือ!

จะไปแนวหน้า หากไม่มีเงินเพียงพอจะได้อย่างไร การหาเงินคือภารกิจอันดับแรก!

และข่าวนี้ก็แพร่ไปถึงพระราชวังอย่างรวดเร็ว

“องค์ชายแต่ละคนให้เงินเขาหนึ่งพันตำลึงเพื่อไล่ไปหรือ?”

ฮ่องเต้เบิกพระเนตรกว้าง “ฉู่หนิงแค่เดินเล่นรอบเดียวก็ได้เงินมามากมายขนาดนี้เชียว?”

องครักษ์เงาพยักหน้า

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนพระหัตถ์สั่นเทา

องค์ชายพวกนี้ ตอนที่เปิดศึกบอกให้พวกเขาระดมเงิน แต่ละคนก็ซุกซ่อนเอาไว้ ไม่อยากจะออกเงินเลยสักนิด

ตอนนี้เพื่อจะไล่ฉู่หนิงไป กลับยอมควักเงินคนละหนึ่งพันตำลึง!

ช่างใจกว้างเสียจริง!

น่าเสียดายที่ความใจกว้างของพวกเจ้าใช้ผิดที่ผิดทาง หากนำไปใช้กับทหารที่แนวหน้า ราชวงศ์ต้าฉู่จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร?

ฮ่องเต้ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ้ว พลันทุบโต๊ะทำงานอย่างแรง ตวาดเสียงดังลั่น “จ้าวหมิง ถ่ายทอดราชโองการเดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮา นอกจากฉู่หนิงแล้ว ให้องค์ชายคนอื่น ๆ ทุกคนคัดลอกพระคัมภีร์ถวายคนละหนึ่งจบ!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วรีบออกไปถ่ายทอดราชโองการทันที

ส่วนตัวต้นเรื่องอย่างฉู่หนิง ในตอนนี้กลับกำลังมองกวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ที่กำลังขนย้ายหีบเงินอยู่ พลางเอ่ยถาม “จวนของข้าใหญ่เกินไป แต่คนน้อยเกินไป พวกเจ้าสองคนพอจะมีใครแนะนำบ้างหรือไม่?”

รีดไถองค์ชายทุกคนไปรอบหนึ่งแล้ว จะไปรีดไถเงินจากคนพวกนี้อีกคงจะยาก ต่อไปคงต้องหาคนมาปกป้องชีวิตน้อย ๆ ของตัวเองแล้ว!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 185

    “ขะ...ขอบคุณในความหวังดีของท่านพี่องค์รัชทายาท แต่ข้า…ข้าจะกลับ”ฉู่หนิงที่ดื่มจนเมาลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางประตูตำหนักอย่างโซซัดโซเซ รัชทายาทยิ้มหยันดื่มจนเมาก็จะกลับทั้งเช่นนี้เลย?ฝันไปเถอะ!คืนนี้ เจ้าสารเลวฉู่หนิงต้องชดใช้รัชทายาทรีบลุกขึ้นประคองฉู่หนิง “น้องสิบแปดดื่มจนเป็นสภาพเช่นนี้ เกรงว่าขี่ม้าไม่ไหวด้วยซ้ำ ยังจะกลับอย่างไร?ที่ข้ามีตำหนักเยอะแยะ เดี๋ยวข้าจัดห้องให้เจ้าพัก!”เมื่อกล่าวจบ ก็หันไปสั่งหลิงเฟยเยียนที่อยู่ข้างๆ “เรื่องนี้ให้ชายาที่รักจัดการก็แล้วกัน”หลิงเฟยเยียนยิ้มหยันในใจให้ข้าจัดการ ฮึ่ม เจ้าอยากรู้ว่าข้ากับฉู่หนิงมีอะไรกันจริงหรือไม่มากกว่ากระมังในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็ทำให้เจ้าดู!หลิงเฟยเยี่ยนที่ไม่พอใจเดินเข้าไปประคองแขนของฉู่หนิงด้วยรอยยิ้ม นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อองค์รัชทายาทมีรับสั่ง คืนนี้น้องสิบแปดก็ค้างคืนที่นี่เถิด ข้าจะให้คนไปแจ้งองครักษ์ของเจ้า”ทันทีที่รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลจากแขน ร่างกายฉู่หนิงก็พลันสั่นสะท้าน เขาแสร้งทำท่าจะดึงมือขวาออก แต่ในความเป็นจริงกลับใช้โอกาสนี้ถูร่างกายหลิงเฟยเยียนแถมเขายัง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 184

    ขณะเดียวกันก็ทำให้ฉู่หนิงที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตาไม่กล้ามองต่อล้อเล่นหรือเปล่า มองต่อไปมีหวังได้เรื่องแน่!รัชทายาทกำลังจ้องเขาอยู่ที่ข้างๆ นะหากทนไม่ไหวจนเลือดกำเดาไหล เช่นนั้นก็อธิบายยากแล้วรัชทายาทย่อมสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อยระหว่างฉู่หนิงกับหลิงเฟยเยียน แม้รู้สึกเจ็บใจ แต่ก็ยังกล่าวด้วยรอยยิ้ม“น้องสิบแปดไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้าใจร้อนเกินไป ล่วงเกินฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่น คืนนี้จึงตั้งใจจัดงานเลี้ยง หวังว่าน้องสิบแปดจะช่วยพูดอะไรดีๆ ต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นหน่อย”รัชทายาทกล่าวพลางลากฉู่หนิงไปนั่งที่ฝั่งขวาของตนเองเมื่อหลิงเฟยเยียนเห็นทั้งสองนั่งลง นางก็ไปนั่งลงตรงฝั่งซ้ายของรัชทายาท หรือก็คือตรงข้ามกับฉู่หนิงนั้นเองนางยกกาเหล้ารินให้ฉู่หนิงหนึ่งจอกโดยไม่รอให้รัชทายาทเอ่ยปาก หลังจากนั้นจึงจะรินให้รัชทายาทกับตนเองตามลำดับภาพนี้ทำให้ฉู่หนิงอึ้งเล็กน้อยเหตุใดจึงรินเหล้าให้ตนก่อน?ควรรินให้รัชทายาทก่อนไม่ใช่หรือ?รัชทายาทในเวลานี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาคิดไม่ถึงว่าต่อหน้าเขาเช่นนี้ หลิงเฟยเยียนไม่คิดจะปกปิดเลยนางแพศยาผู้นี้ต้องมีอะไรกับฉู่หนิงแน่!รัชทายา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 183

    “องค์รัชทายาทเชิญข้าไปร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนักบูรพาคืนนี้?”ภายในจวนอ๋อง หลังจากฉู่หนิงได้รับข่าว บนใบหน้ากลับฉายแววพินิจฉู่หนิงมองบัตรเชิญในมือ เผยอมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้ากลับไปบอกองค์รัชทายาทว่า คืนนี้ข้าจะไปตรงตามเวลาแน่นอน”องครักษ์ตำหนักบูรพาขานรับ ประสานมือคารวะถอยออกไปสีหน้าจ้าวอวี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พระองค์ เกรงว่างานเลี้ยงคืนนี้ ไม่ใช่งานเลี้ยงที่ดีอะไรพ่ะย่ะค่ะ!”พระองค์เพิ่งให้องค์ชายทั้งหลายไปหาเรื่ององค์รัชทายาทที่ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทไม่เพียงไม่โกรธ กลับกันยังจะเชิญไปร่วมงานเลี้ยง ต้องมีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝงแน่นอนงานเลี้ยงครั้งนี้ ไปไม่ได้!แต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบาๆ “วางใจเถิด องค์รัชทายาทยังรอให้ข้าไปแนวหน้า เขาไม่มีทางลงมือกับข้าในเวลานี้แน่นอนใช่แล้ว ทางหร่านหมิงเป็นอย่างไรบ้าง?”วันนี้ฉู่หนิงมอบหมายเรื่องรับนักโทษให้หร่านหมิงรับผิดชอบทั้งหมด จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรแม้ช่วงแรกรับนักโทษสองพันกว่าคนมาได้อย่างราบรื่น แต่ยังเหลืออีกแปดพันคน ส่วนหร่านหมิงก็มีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เกิด สามารถควบคุมสถานก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 182

    จ้าวเฟยเยี่ยนกลอกตาหนึ่งรอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “องค์ชายรอง ข้อหาที่ร้ายแรงเช่นนี้ ข้าแบกรับไม่ไหวหรอกนะ!”เมื่อกล่าวจบ นางก็เดินไปแทรกตรงกลางระหว่างรัชทายาทกับองค์ชายทั้งหลาย ทำให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นลงชั่วคราวรัชทายาทย่อมไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่มในเวลานี้ จึงได้แต่แค่นเสียงเย็น ‘ฮึ่ม’ โดยไม่พูดอะไรต่อส่วนองค์ชายรองเผยอมุมปากหัวเราะเบาๆ “เมื่อครู่ข้ากับน้องๆ ทุกคนล้วนได้ยินเจ้าพูดว่าแตะต้องฉู่หนิงไม่ได้แล้ว ทำไม เจ้ายังจะแก้ตัวอีกหรือ?” จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะเบาๆ “ข้าแค่กำลังเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าไปทวงถามเงินหนึ่งล้านตำลึงกับฉู่หนิงก็เท่านั้น อย่างไรข้าก็ยังเป็นหนี้ฉู่หนิงอยู่หนึ่งแสนตำลึงเงินหากองค์รัชทายาทกดดันฉู่หนิงมากเกินไป เขาก็จะมาทวงเงินกับข้า ดังนั้นข้าจึงเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าแตะต้องฉู่หนิง” สมกับที่เป็นหญิงแกร่งของต้าจ้าว เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็หาคำแก้ตัวที่เหมาะสมได้แล้ว“นี่…”องค์ชายรองขมวดคิ้ว ชั่วขณะไม่รู้ควรตอบอย่างไรทั้งที่รู้ว่าจ้าวเฟยเยี่ยนสมคบคิดกับรัชทายาท แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิดต่อให้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็คงมองว่าพวกเขากำลังทะเลาะกันเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 181

    ฉู่หนิงไปเยี่ยมองค์ชายหลายพระองค์ติดต่อกัน พอไปถึงก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาโดยตรง…ขอยืมเงิน!เมื่อองค์ชายเหล่านั้นได้ยินว่าฉู่หนิงขอยืมเงินเพราะรัชทายาท ก็พากันเดือดดาลทันทีอุตส่าห์หาตัวตายตัวแทนมาได้แล้ว อีกทั้งกำลังจะไปแนวหน้าแล้วด้วย รัชทายาทกลับหาเรื่องเดือดร้อนให้พวกเขาในเวลานี้โดยเฉพาะองค์ชายรองฉู่หมิงโมโหจนลุกขึ้นตบโต๊ะ เขาพลางปลอบใจฉู่หนิง พลางเรียกองค์ชายท่านอื่นมารวมตัว เตรียมบุกไปถามรัชทายาทที่ตำหนักบูรพาให้รู้เรื่องแม้ฉู่หนิงจะ ‘ห้ามปราม’ แล้ว แต่พวกเขามีคนเยอะกว่า สุดท้ายก็จำต้องปล่อยให้เหล่าองค์ชายมุ่งหน้าไปยังตำหนักบูรพาขณะเดียวกัน ภายในตำหนักบูรพา เมื่อรัชทายาทได้ยินคำพูดของจ้าวเฟยเยี่ยน สีหน้าเคร่งขรึม เอาแต่นิ่งเงียบจ้าวเฟยเยี่ยนที่อยู่ในตำหนักยิ้มหยัน “ดูท่าว่าฉู่หนิงอยากยืมเงินให้ท่านจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มาหาข้าหรอกเจ้าฉู่หนิงช่างเพ้อฝันเก่งจริงๆ คิดว่าข้าจะยอมจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินที่เหลือให้เขา น่าขำสิ้นดีแต่พูดก็พูดเถอะ องค์รัชทายาทวางหมากตานี้ได้เฉียบจริงๆ ตอนนี้ฉู่หนิงคงจะทำอะไรไม่ถูกแล้วกระมัง!” จ้าวเฟยเยี่ยนยังไม่รู้ว่ารัชทายาทโดนฮ่องเต้สั่งส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 180  

    จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาสั่นไหว รู้สึกแปลกประหลาดในใจไม่หยุด ฉู่หนิงเจ้าหมอนี่จะมาหาข้าเพื่ออะไร? ได้ยินว่าเจ้าหมอนี่ไปขอตัวนักโทษจำนวนมากมาจากเสนาบดีกรมอาญา เขาไม่ไปฝึกยุทธ์ให้คนเหล่านี้ แต่กลับมาหาข้า สงสัยจะว่างมากกระมัง แน่นอนว่า คำพูดนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมา ระหว่างที่แผนการยังไม่ลุล่วงตามประสงค์ นางจำเป็นต้องประคับประคองฉู่หนิงไว้ก่อน จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะออกมาเบา ๆ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องไม่เคยมาหาใครโดยไร้เหตุผล แต่วันนี้อุตส่าห์มาถึงที่นี่ ไม่ทราบมีเรื่องอันใดหรือ?” ใบหน้าของฉู่หนิงเผยแววลำบากใจออกมา “เฮ้อ ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็พูดยากนัก หากมิใช่เพราะถึงทางตัน ข้าก็คงไม่ถ่อมาหาท่านหรอกองค์หญิงเฟยเยี่ยน” คิ้วเรียวกระตุกเบา ๆ จ้าวเฟยเยี่ยนพลันใจเต้นหวิว ๆ ขึ้นมาทันใด ไม่รู้เหตุผลใด นางพลันรู้สึกขึ้นมาว่าฉู่หนิงดูคล้ายจะมาเอาประโยชน์จากตนเองอย่างบอกไม่ถูก ปรับสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมา จ้าวเฟยเยี่ยนก็หรี่ตาพลางเอ่ยถามว่า “เรื่องใดกันทำให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องถึงขั้นเสด็จมาพบข้าด้วยตนเองเช่นนี้?” ฉู่หนิงแสร้งทำท่าทีหมดสิ้นหนทาง “เฮ้อ ความจริงก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก เพียง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status