Share

บทที่ 4

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรงนำกระบี่คู่กายที่ฝ่าบาทพระราชทานให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาได้นำข่าวล่าสุดที่ได้รับมารายงาน

ฮ่องเต้ที่กำลังจิบชาอยู่แทบจะสำลักน้ำชา

พระเนตรเบิกกว้างราวกับระฆังทองแดง!

กระบี่คู่กายที่เรามอบให้ฉู่หนิง องค์รัชทายาทกล้าดีอย่างไรถึงได้เอาไป?

เจ้าลูกทรพีนี่ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!

ความโกรธแล่นขึ้นสู่สมองในชั่วพริบตา น้ำชาที่ติดอยู่ในลำคอถูกกลืนลงไปอย่างยากลำบาก

“บังอาจ!”

ฮ่องเต้ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตวาดเสียงดังลั่น “ไปเรียกเจ้าลูกทรพีนั่นมาพบเรา!”

กระบี่เล่มนั้น เป็นเพียงของที่มอบให้ฉู่หนิงในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

รอจนฉู่หนิงพลีชีพในสงครามที่แนวหน้า กระบี่เล่มนั้นก็ยังคงเป็นขององค์รัชทายาทอยู่ดี!

แต่องค์รัชทายาทรีบร้อนเอากระบี่กลับไปเช่นนี้ หรือคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้ไม่มีตัวตนอยู่หรือไร?

องครักษ์เงาเหลือบมองฮ่องเต้ที่ทรงพิโรธ มุมปากก็กระตุก ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกไปดีหรือไม่

“เจ้ายังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปถ่ายทอดคำสั่งอีก?”

สายพระเนตรของฮ่องเต้เย็นเยียบ ถ้วยชาในมือก็ถูกขว้างลงบนโต๊ะอย่างแรง

องครักษ์เงาอธิบายอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท กระบี่เล่มนั้นเป็นของที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้กับองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”

ขาย... ขายหรือ?

ฮ่องเต้ตกตะลึงไปชั่วขณะ

กระบี่คู่กายของเรา ฉู่หนิงกลับเอาไปขายหรือ?

ฮ่องเต้ทรงรู้สึกผิดหวังที่บุตรชายไม่เอาไหน พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น ตรัสถามเสียงเย็น “เขาขายได้เงินเท่าไร?”

องครักษ์เงาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงตอบตามความจริง “หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ”

“เท่าใดนะ?”

ฮ่องเต้ทรงนึกว่าพระองค์ฟังผิดไป

“หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์เงาตอบเสียงดังขึ้น

“ลูกทรพี เจ้าลูกทรพีเอ๊ย!”

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนเดินไปเดินมาอยู่ที่เดิม “กระบี่คู่กายของเรามีค่าแค่หกหมื่นตำลึงอย่างนั้นหรือ?”

องครักษ์เงาถึงกับตะลึง

ที่แท้ที่ฮ่องเต้ทรงกริ้ว มิใช่เพราะเผิงไหลจวิ้นอ๋องนำกระบี่ไปขาย

แต่ทรงกริ้วที่เขาไม่รู้จักคุณค่าของมันต่างหาก!

“ไม่สิ เดิมทีฉู่หนิงก็เติบโตในหมู่สามัญชน เขาไม่รู้คุณค่าของกระบี่คู่กายของเราก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้”

ฮ่องเต้ทรงถอนหายใจยาว สีพระพักตร์ผ่อนคลายลงไม่น้อย “เงินหกหมื่นตำลึง สำหรับคนที่มีพื้นเพเป็นสามัญชนแล้ว ถือเป็นราคาสูงลิบลิ่วจริง ๆ !”

แต่แล้วสีพระพักตร์ก็กลับมาเคร่งขรึม “แต่ฉู่หนิงไม่รู้ แล้วองค์รัชทายาทก็ไม่รู้ด้วยหรือไร?”

“หึ นี่เขาจงใจรังแกฉู่หนิงที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง เอาเงินแค่นี้มาแลกกระบี่คู่กายของเราไป!”

ฮ่องเต้ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ้ว พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น สายตาฉายแววไม่พอพระทัยออกมาแวบหนึ่ง

องค์รัชทายาทมีความทะเยอทะยานสูง ในฐานะฮ่องเต้แล้วมีหรือจะไม่รู้

แต่ฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้าอยู่แล้ว องค์รัชทายาทยังจะไปแย่งชิงของของฉู่หนิงอีก มันจะเกินไปแล้ว!

“ใครก็ได้ ถ่ายทอดราชโองการเดี๋ยวนี้ ให้องค์รัชทายาทคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบเพื่อถวายในวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮาในเดือนหน้า!”

ฮ่องเต้หรี่พระเนตรลง น้ำเสียงเย็นชา “จนกว่าจะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้เขาออกจากตำหนักบูรพา!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงที่อยู่ด้านนอกรับคำ กำลังจะไปถ่ายทอดราชโองการ

แต่เพิ่งจะหันหลัง น้ำเสียงของฮ่องเต้ก็ดังมาจากในตำหนักอีกครั้ง “รอให้ฉู่หนิงได้รับเงินจากองค์รัชทายาทก่อน แล้วค่อยไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพา!”

“บ่าวเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ทรงต้องการช่วยเผิงไหลจวิ้นอ๋องนี่เอง

บอกว่าให้คัดลอกพระคัมภีร์ แท้จริงแล้วก็คือการกักบริเวณ

จ้าวหมิงเป็นคนหัวไว เมื่อคิดได้แล้ว ก็กระซิบเบา ๆ “ฝ่าบาท เช่นนั้นกระบี่คู่กาย...”

ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น “ในเมื่อเผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้องค์รัชทายาทไปแล้ว เราก็ไม่สะดวกที่จะเรียกคืน แต่ว่า เราก็ไม่ได้มีกระบี่แค่เล่มเดียวนี่!”

“หลังจากเจ้าไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพาแล้ว จงนำหอกที่เราเคยใช้สมัยหนุ่ม ๆ ไปมอบให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง!”

ดวงตาของจ้าวหมิงเบิกกว้าง เผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา แต่ก็ยังคงรับคำแล้วรีบออกไปจัดการทันที

องครักษ์เงาที่อยู่ในตำหนักก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

กระบี่คู่กาย เป็นสัญลักษณ์ของฐานะฮ่องเต้ เปรียบเสมือนฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง สามารถข่มผู้คนมากมายได้

แต่หอกเล่มนั้น เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้เคยใช้ในการทำศึกสงครามในอดีต

มีหอกเล่มนี้อยู่ในมือ ก็มีอำนาจในการประหารก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง!

เมื่อเทียบกับกระบี่คู่กายแล้ว หอกที่ฮ่องเต้เคยใช้กลับน่าเกรงขามยิ่งกว่า!

องครักษ์เงารีบทูลเตือน “ฝ่าบาท พระองค์พระราชทานหอกประกายเงินให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง หากเขาใช้หอกนี้ก่อความวุ่นวาย เกรงว่าจะจัดการได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เหลือบมององครักษ์เงาแวบหนึ่ง “ก่อความวุ่นวาย? เจ้าคิดว่าฉู่หนิงรู้หรือไม่ว่าหอกเล่มนี้แสดงถึงอะไร?”

มุมปากขององครักษ์เงากระตุก

เผิงไหลจวิ้นอ๋องแม้แต่กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ก็ยังกล้าขาย ดูท่าว่าจะไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของกระบี่คู่กายจริง ๆ

แต่การไปแนวหน้า ก็จำเป็นต้องมีของที่สามารถข่มเหล่าทหารเบื้องล่างได้ แค่อาศัยฐานะองค์ชายของเผิงไหลจวิ้นอ๋องอย่างเดียวย่อมไม่พอ

การมีหอกประกายเงินที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ต่างหากที่จะทำให้เหล่าทหารในแนวหน้ายอมเชื่อฟังคำสั่ง!

คำพูดนับพันนับหมื่น สุดท้ายก็รวมกันเป็นประโยคเดียว “ฝ่าบาททรงพระปรีชา!”

...

ณ ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทมองกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ในมือด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี

“ความปรารถนาที่ยาวนานหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้สมหวังเสียที!”

เมื่อมองไปยังตัวกระบี่สีทองอร่าม องค์รัชทายาทก็อดไม่ได้ที่จะตวัดร่ายรำกระบี่ออกมา

ในหัวนึกถึงภาพที่ตนเองใช้กระบี่เล่มนี้ข่มองค์ชายคนอื่น ๆ แล้ว

มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ ต่อไปนี้องค์ชายในเมืองหลวงแห่งนี้จะต้องยอมสยบต่อเขา!

แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกตำหนัก

ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กของจ้าวหมิงก็ดังขึ้น “มีพระราชโองการจากฝ่าบาท!”

องค์รัชทายาทรีบเก็บกระบี่ให้ดี แล้วออกมาทำความเคารพนอกตำหนัก

จ้าวหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “เดือนหน้าเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮา เพื่อแสดงความกตัญญู องค์รัชทายาทจำต้องคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบด้วยพระองค์เอง ก่อนที่จะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้ออกจากตำหนักบูรพา!”

องค์รัชทายาทพลันตกตะลึงไป

เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไร?

คัดลอกพระคัมภีร์ก็คัดลอกไปสิ แต่การห้ามออกจากตำหนักบูรพาก็คือการกักบริเวณดี ๆ นี่เอง

ทุกอย่างก็กำลังไปได้ด้วยดี เหตุใดจู่ ๆ ถึงมากักบริเวณข้า?

เดี๋ยวนะ...

หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่ข้าซื้อกระบี่คู่กายของเสด็จพ่อมาจากในมือของฉู่หนิง?

แต่นี่มันเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจนะ!

ใบหน้าขององค์รัชทายาทฉายแววโกรธเกรี้ยว ในใจรู้สึกขุ่นเคืองอย่างยิ่ง

“องค์รัชทายาท รับราชโองการเถิด”

จ้าวหมิงเห็นองค์รัชทายาทนิ่งเฉยอยู่นาน จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน

สีหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เรื่องนี้ข้าจะไปทูลถามเสด็จพ่อให้เข้าใจด้วยตนเอง!”

สายตาของจ้าวหมิงเย็นชา น้ำเสียงก็กลายเป็นเย็นเยียบ “องค์รัชทายาทคิดจะขัดราชโองการหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าไม่ได้จะขัดราชโองการ...”

“ในเมื่อไม่ได้จะขัดราชโองการ เช่นนั้นก็น้อมรับราชโองการเถิด!”

จ้าวหมิงกล่าวเสียงทุ้ม “ฝ่าบาทได้ส่งทหารรักษาพระองค์มาเพื่อคุ้มกันองค์รัชทายาทที่นี่แล้ว ช่วงเวลานี้ท่านเพียงแค่ตั้งใจคัดลอกพระคัมภีร์ก็พอ!”

สิ้นเสียง ก็มีทหารรักษาพระองค์กลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา

สีหน้าขององค์รัชทายาทดูย่ำแย่เล็กน้อย

ฮ่องเต้ถึงกับส่งทหารรักษาพระองค์มาจับตาดูข้า!

วีรบุรุษย่อมไม่สู้ในศึกที่เสียเปรียบ อย่างไรเสีย กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อก็มาอยู่ในมือแล้ว!

“ลูก...น้อมรับราชโองการ!” องค์รัชทายาทกัดฟันตอบรับ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ณ จวนเผิงไหลจวิ้นอ๋อง ฉู่หนิงกำลังนั่งนับเงินอยู่ในห้องหลังเรือน

โตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเงินมากมายขนาดนี้ หีบใหญ่กว่าสิบใบเชียวนะ

ในขณะนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก “ราชโองการมาถึงแล้ว!”

ฉู่หนิงโยนเงินในมือทิ้ง รีบออกไปรับราชโองการทันที

แม้จะไม่รู้ว่าฮ่องเต้ชราจอมตระหนี่ผู้เป็นบิดาจะส่งราชโองการมาตอนนี้ด้วยเรื่องอันใด แต่ต้องเกี่ยวข้องกับการที่เขาขายกระบี่ไปอย่างแน่นอน

จ้าวหมิงเหลือบมองฉู่หนิงที่ก้มหน้าก้มตาดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย จากนั้นถอนหายใจยาว แล้วค่อย ๆ อ่านราชโองการ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องในฐานะองค์ชายกำลังจะเดินทางไปยังแนวหน้า เรามีความยินดียิ่ง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองของเผิงไหลจวิ้นอ๋อง จึงขอพระราชทานหอกประกายเงิน!”

ทันใดนั้น ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีดำซึ่งอยู่ด้านหลัง ก็ยื่นหอกยาวสีขาวราวกับหิมะเล่มหนึ่งออกมา

“ลูกน้อมรับราชโองการและขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก แล้วยิ้มให้จ้าวหมิงพลางเอ่ยขึ้น “รบกวนกงกงมาถ่ายทอดราชโองการแล้ว เงินจำนวนนี้ถือว่าข้าเลี้ยงน้ำชากงกงก็แล้วกัน”

เงินแท่งห้าสิบตำลึงถูกยื่นออกไป

จ้าวหมิงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบโบกมือปฏิเสธ “การถ่ายทอดราชโองการเป็นหน้าที่ของบ่าวอยู่แล้ว เผิงไหลจวิ้นอ๋องมิต้องทำเช่นนี้ ในวังยังมีธุระ บ่าวขอทูลลาไปก่อน”

พูดจบก็ไม่รอให้ฉู่หนิงได้พูดอะไร หันหลังแล้วหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

องค์รัชทายาทใช้เงินซื้อกระบี่คู่กาย ฮ่องเต้ก็กักบริเวณองค์รัชทายาทแล้ว

หากเขารับเงินของฉู่หนิงไป ฮ่องเต้คงได้สั่งตัดหัวเขาเป็นแน่!

ฉู่หนิงมองท่าทางตกใจกลัวของจ้าวหมิงแล้ว ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จากนั้นก็หันไปมองหอกยาวที่อยู่ในมือ

“จ้าวอวี่ กวนอวิ๋น พวกเจ้าว่าหอกเล่มนี้มีค่าสักกี่ตำลึง?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 696

    แต่ก็มีคนก้าวออกมาคัดค้านทันที “ฮึ่ม ใต้เท้าเหอดูแลกรมโยธาธิการ หากย้ายไปกรมการคลัง ใครจะรับผิดชอบงานของกรมโยธาธิการ?”“ถูกต้อง ใต้เท้าเหอไม่เหมาะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง ให้ใต้เท้าจางดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังเหมาะสมกว่า”“ใต้เท้าจางไม่เหมาะ ให้ใต้เท้าเผิงดำรงตำแหน่งเหมาะสมที่สุด”“ฝ่าบาท ในความเห็นของกระหม่อม ใต้เท้าโม่เหมาะกับตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังที่สุด”ทุกคนพากันก้าวออกมา ปกป้องผู้ที่ตนเองจงรักภักดีตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังมีความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาต้องแย่งตำแหน่งนี้มาให้เจ้านายของตนเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อไปอยู่ในราชสำนัก จะตกอยู่ใต้อำนาจผู้อื่นแต่พวกเขายิ่งทะเลาะกัน รอยยิ้มบนใบหน้าฉู่หนิงก็ยิ่งกว้างทะเลาะเลย ทะเลาะเยอะๆ ทะเลาะจนทำให้เสด็จพ่อรำคาญพวกเจ้า ถึงเวลานั้น ตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังก็จะเป็นของหลิวโส่วเริ่นเจ้าพวกนี้ยังคิดจะฉวยโอกาส แต่หารู้ไม่ว่าเสด็จพ่อ ถนัดเรื่องการถ่วงดุลอำนาจมากที่สุดตอนนี้พวกเจ้าแต่ละคนให้ขุนนางที่สนับสนุนตนเองออกมาร่วมวงด้วย นี่ไม่เท่ากับกำลังบอกฮ่องเต้ว่า : คนพวกนี้เป็นคนของพวกเจ้า!ด้วยนิสัยของฮ่องเต้ ไม่มีทางปล่อยให้ฝ่ายใด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 695

    “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าใต้เท้าหลิวเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง!”ฉู่หนิงก้าวออกมาพูดแทนหลิวโส่วเริ่น “ในช่วงนี้ ขุนนางกรมการคลังขาดแคลน ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถจัดการได้ทันท่วงที ใต้เท้าหลิวเป็นคนประคับประคองกรมการคลังมาโดยตลอดดูจากใต้เท้าหลิวจัดการงานของกรมการคลังในช่วงที่ผ่านมา เขาสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”การมีคนในราชสำนักย่อมทำให้ทำงานง่ายขึ้น หากสามารถควบคุมกรมการคลังที่เป็นหนึ่งในหกกรม ก็เท่ากับมีหูตาอยู่ในราชสำนักนี่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาปิงโจวในอนาคตอย่างมากยิ่งไปกว่านั้น หลิวโส่วเริ่นมีพื้นเพมาจากปิงโจว และยังเคยเป็นเจ้าเมืองเมืองติ้งเซียง มีความผูกพันกับปิงโจว หลังจากกลายเป็นเสนาบดีกรมการคลัง จะต้องหาวิธีดูแลปิงโจวแน่นอนราชสำนักในอดีต ท้องพระคลังขาดแคลน กรมการคลังมีแต่ชื่อ ไม่มีอำนาจมากนักแต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว ท้องพระคลังได้รับเงินมากมายเช่นนั้น กรมการคลังในอนาคต เป็นเนื้อก้อนโตเลยทีเดียว!แต่ก็เพราะเป็นเนื้อก้อนโต องค์รัชทายาทกับองค์ชายคนอื่นๆ ก็อยากชิงดูสักตั้ง!ทันทีที่สิ้นเสียงฉู่หนิง องค์รัชทายาทก้าวออกมาคัดค้านเป็นคนแรก“น้องส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 694

    เพราะอย่างไรเสีย ฉู่หนิงก็เป็นคนทวงเงินกลับคืนมาทันทีที่สิ้นเสียง ขุนนางที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์รัชทายาทก้าวออกมาสนับสนุนทันที เมื่อองค์ชายรองและคนอื่นๆ เห็นดังนี้ก็หันไปสบตากัน จากนั้นก็พากันเห็นด้วย เวลานี้ ขุนนางคนอื่นๆ จึงจะเข้าใจเหล่าองค์ชายเห็นพ้องต้องกัน!แต่มาลองคิดดูมันก็ถูก ครั้งนี้ฉู่หนิงได้สร้างความดีความชอบอันใหญ่หลวงเช่นนี้ ทำให้เขาเด่นเกินหน้าเกินตา ในฐานะองค์ชาย ใครก็ต้องหวั่นเกรงในเรื่องของการพระราชทานรางวัล เหล่าองค์ชายย่อมไม่อยากให้ฉู่หนิงได้เปรียบเหล่าขุนนางที่เข้าใจแล้ว ก็พากันก้าวออกมาสนับสนุน“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทพูดถูก!”“ชีวิตของฉู่อ๋องในปิงโจวลำบากมาก เมื่อก่อนราชสำนักไม่มีเงิน ได้แต่ปล่อยให้ฉู่อ๋องพึ่งพาตนเอง ตอนนี้ราชสำนักมีเงินแล้ว ก็ควรดูแลฉู่อ๋องเป็นพิเศษ!”“กระหม่อมก็รู้สึกว่าควรพระราชทานเงิน”“ขอฝ่าบาทโปรดทรงมีพระราชโองการ!”คำพูดของขุนนางบุ๋นบู๊ ทำให้หลิวโส่วเริ่นที่เป็นผู้รักษาการณ์กรมการคลังทนดูต่อไปไม่ได้แล้วเขาก้าวออกมากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฝ่าบาท ฉู่อ๋องช่วยราชสำนักทวงเงินกลับคืนมานับร้อยล้าน ช่วยแก้ปัญหาท้องพระคลังขาดแ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 693

    วันต่อมา ยามเหมายามเช้าในเดือนห้า ท้องฟ้าสว่างจนมองเห็นชัดฉู่หนิงสวมชุดอ๋องสีม่วง ควบม้ามาถึงหน้าประตูพระราชวัง“คำนับท่านอ๋อง!”หน้าประตูพระราชวัง ขุนนางหลายคนพากันประสานมือคารวะฉู่หนิงสามารถทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ยอมอ่อนข้อเพียงลำพัง ทั่วราชวงศ์ต้าฉู่มีเพียงฉู่หนิงที่ทำได้ไม่ว่าเหล่าขุนนางจะอยู่ฝ่ายใด ล้วนชื่นชมฉู่หนิงมากฉู่หนิงกวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง พยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี”ขณะที่กำลังพูด มีเสียงกีบเท้าม้า องค์ชายรองฉู่หมิงควบม้ามาถึงแล้ว“น้องสิบแปด ช่างหน้าใหญ่จริงๆ!” องค์ชายรองมองฉู่หนิงที่ถูกทุกยกยอจนแทบตัวลอย แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“พี่รองล้อเล่นแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงเอง เป็นเพราะขุนนางทุกท่านเกรงใจเกินไปต่างหาก”“พอแล้ว รีบเข้าไปเถิด การประชุมเช้ากำลังจะเริ่มแล้ว”เมื่อกล่าวจบ องค์ชายรองพลิกกายลงจากม้า แล้วเดินตรงไปที่ประตูของพระราชวังฉู่หนิงพลันยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินตามไปโดยไม่พูดอะไรมากที่หน้าประตูตำหนักจินหลวน มีองค์ชายและขุนนางมารออยู่แล้ว เมื่อเห็นองค์ชายรองกับฉู่หนิงเดินมา ก็พากันคารวะองค์รัชทายาทเพียงกวาดมองฉู่หนิงด้วยสีหน้าไร้อารม

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 692

    ผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ ไม่แน่อาจเป็นปัญหาใหญ่ในวันข้างหน้าแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเหล่านี้ จัดการคนเจ็ดคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน“ฮึ่ม ว่ามา เหตุใดต้องลอบสังหารข้า?” ฉู่หนิงจ้องคนทั้งเจ็ดอย่างเย็นชาและถามหัวหน้าตระกูลทั้งเจ็ดเงียบทันทีเหตุใดลอบสังหารเจ้า? ในใจเจ้าไม่รู้เลยหรือ?เดิมทีปิงโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลใหญ่ แต่พอเจ้าฉู่หนิงไปปิงโจว ยึดที่ดินทั้งหมดคืน ตระกูลใหญ่จะอยู่รอดได้อย่างไรไม่ฆ่าเจ้าแล้วจะฆ่าใคร?แต่พวกเขาไม่กล้าพูดคำพูดนี้ออกมา เพราะกลัวฉู่หนิงจะลงมือกับตนเอง“ไม่พูดใช่หรือไม่?”ฉู่หนิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เด็กๆ ฆ่าพวกมันให้หมด!”ทันทีที่คำสั่งดังขึ้น ก่อนคนทั้งเจ็ดจะตั้งสติได้ หร่านหมิงพลันยิ้มอย่างดุร้าย เงื้อมดาบในมือขึ้น ก็ตัดศีรษะของหัวหน้าตระกูลคนหนึ่งหลุดโดยตรง เมื่อทัพอาชาคนอื่นเห็นดังนี้ ก็พากันลงดาบในมือ พริบตาเดียว ที่เกิดเหตุมีดวงวิญญาณเพิ่มมาหกดวงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนฉุนจมูก ฉู่หนิงปิดจมูก พลางโบกมือสั่ง “เผาศพ แล้วฝังไว้ตรงนี้!”หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ทุกคนเดินทางกลับเมืองเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 691

    ในที่สุดก็หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบสังหารเจอเสียทีเป็นไปตามที่ฉู่หนิงคาดการณ์ เป็นฝีมือของแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ที่จริงเดาออกนานแล้วว่าเป็นฝีมือของคนเหล่านี้ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานก็เท่านั้นเองตอนนี้มีการชี้ตัวของเหล่าตระกูลใหญ่ การจับกุมแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ก็เป็นไปอย่างมีความชอบธรรมและหลักฐานองค์รัชทายาทมองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของฉู่หนิง มีความไม่เต็มใจเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านแววตาวันนี้เจ้าหมอนี่ไม่เพียงทวนเงินคลังที่ถูกยักยอกกลับคืนมา และยังหาเงินสำหรับการสร้างสุสานให้เสด็จพ่อด้วย เสด็จพ่อคงจะโปรดปรานเขามากขึ้นแน่!ไม่ได้ ปล่อยให้ฉู่หนิงทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาดองค์รัชทายาทพลันหรี่ตาลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสด็จพ่อ ปัจจุบันน้องสิบแปดใจกล้าบ้าบิ่น จะต้องทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ เกิดความไม่พอใจต่อเขาแน่นอน นี่ไม่เป็นผลดีต่อราชวงศ์ต้าฉู่ของเรานะ เพราะวันข้างหน้ายังมีเรื่องอีกมากมายต้องพึ่งพาเหล่าตระกูลใหญ่”แต่เวลานี้ฮ่องเต้กำลังจมอยู่กับความปีติยินดีของการสร้างสุสานหลวง เมื่อได้ยินองค์รัชทายาทว่าร้ายฉู่หนิง สีพระพักตร์จึงเคร่งขรึมลงทันที“รัชทายาท เรารู้ว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status