Share

บทที่ 4

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรงนำกระบี่คู่กายที่ฝ่าบาทพระราชทานให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาได้นำข่าวล่าสุดที่ได้รับมารายงาน

ฮ่องเต้ที่กำลังจิบชาอยู่แทบจะสำลักน้ำชา

พระเนตรเบิกกว้างราวกับระฆังทองแดง!

กระบี่คู่กายที่เรามอบให้ฉู่หนิง องค์รัชทายาทกล้าดีอย่างไรถึงได้เอาไป?

เจ้าลูกทรพีนี่ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!

ความโกรธแล่นขึ้นสู่สมองในชั่วพริบตา น้ำชาที่ติดอยู่ในลำคอถูกกลืนลงไปอย่างยากลำบาก

“บังอาจ!”

ฮ่องเต้ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตวาดเสียงดังลั่น “ไปเรียกเจ้าลูกทรพีนั่นมาพบเรา!”

กระบี่เล่มนั้น เป็นเพียงของที่มอบให้ฉู่หนิงในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

รอจนฉู่หนิงพลีชีพในสงครามที่แนวหน้า กระบี่เล่มนั้นก็ยังคงเป็นขององค์รัชทายาทอยู่ดี!

แต่องค์รัชทายาทรีบร้อนเอากระบี่กลับไปเช่นนี้ หรือคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้ไม่มีตัวตนอยู่หรือไร?

องครักษ์เงาเหลือบมองฮ่องเต้ที่ทรงพิโรธ มุมปากก็กระตุก ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกไปดีหรือไม่

“เจ้ายังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปถ่ายทอดคำสั่งอีก?”

สายพระเนตรของฮ่องเต้เย็นเยียบ ถ้วยชาในมือก็ถูกขว้างลงบนโต๊ะอย่างแรง

องครักษ์เงาอธิบายอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท กระบี่เล่มนั้นเป็นของที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้กับองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”

ขาย... ขายหรือ?

ฮ่องเต้ตกตะลึงไปชั่วขณะ

กระบี่คู่กายของเรา ฉู่หนิงกลับเอาไปขายหรือ?

ฮ่องเต้ทรงรู้สึกผิดหวังที่บุตรชายไม่เอาไหน พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น ตรัสถามเสียงเย็น “เขาขายได้เงินเท่าไร?”

องครักษ์เงาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงตอบตามความจริง “หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ”

“เท่าใดนะ?”

ฮ่องเต้ทรงนึกว่าพระองค์ฟังผิดไป

“หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์เงาตอบเสียงดังขึ้น

“ลูกทรพี เจ้าลูกทรพีเอ๊ย!”

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนเดินไปเดินมาอยู่ที่เดิม “กระบี่คู่กายของเรามีค่าแค่หกหมื่นตำลึงอย่างนั้นหรือ?”

องครักษ์เงาถึงกับตะลึง

ที่แท้ที่ฮ่องเต้ทรงกริ้ว มิใช่เพราะเผิงไหลจวิ้นอ๋องนำกระบี่ไปขาย

แต่ทรงกริ้วที่เขาไม่รู้จักคุณค่าของมันต่างหาก!

“ไม่สิ เดิมทีฉู่หนิงก็เติบโตในหมู่สามัญชน เขาไม่รู้คุณค่าของกระบี่คู่กายของเราก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้”

ฮ่องเต้ทรงถอนหายใจยาว สีพระพักตร์ผ่อนคลายลงไม่น้อย “เงินหกหมื่นตำลึง สำหรับคนที่มีพื้นเพเป็นสามัญชนแล้ว ถือเป็นราคาสูงลิบลิ่วจริง ๆ !”

แต่แล้วสีพระพักตร์ก็กลับมาเคร่งขรึม “แต่ฉู่หนิงไม่รู้ แล้วองค์รัชทายาทก็ไม่รู้ด้วยหรือไร?”

“หึ นี่เขาจงใจรังแกฉู่หนิงที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง เอาเงินแค่นี้มาแลกกระบี่คู่กายของเราไป!”

ฮ่องเต้ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ้ว พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น สายตาฉายแววไม่พอพระทัยออกมาแวบหนึ่ง

องค์รัชทายาทมีความทะเยอทะยานสูง ในฐานะฮ่องเต้แล้วมีหรือจะไม่รู้

แต่ฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้าอยู่แล้ว องค์รัชทายาทยังจะไปแย่งชิงของของฉู่หนิงอีก มันจะเกินไปแล้ว!

“ใครก็ได้ ถ่ายทอดราชโองการเดี๋ยวนี้ ให้องค์รัชทายาทคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบเพื่อถวายในวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮาในเดือนหน้า!”

ฮ่องเต้หรี่พระเนตรลง น้ำเสียงเย็นชา “จนกว่าจะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้เขาออกจากตำหนักบูรพา!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงที่อยู่ด้านนอกรับคำ กำลังจะไปถ่ายทอดราชโองการ

แต่เพิ่งจะหันหลัง น้ำเสียงของฮ่องเต้ก็ดังมาจากในตำหนักอีกครั้ง “รอให้ฉู่หนิงได้รับเงินจากองค์รัชทายาทก่อน แล้วค่อยไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพา!”

“บ่าวเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ทรงต้องการช่วยเผิงไหลจวิ้นอ๋องนี่เอง

บอกว่าให้คัดลอกพระคัมภีร์ แท้จริงแล้วก็คือการกักบริเวณ

จ้าวหมิงเป็นคนหัวไว เมื่อคิดได้แล้ว ก็กระซิบเบา ๆ “ฝ่าบาท เช่นนั้นกระบี่คู่กาย...”

ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น “ในเมื่อเผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้องค์รัชทายาทไปแล้ว เราก็ไม่สะดวกที่จะเรียกคืน แต่ว่า เราก็ไม่ได้มีกระบี่แค่เล่มเดียวนี่!”

“หลังจากเจ้าไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพาแล้ว จงนำหอกที่เราเคยใช้สมัยหนุ่ม ๆ ไปมอบให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง!”

ดวงตาของจ้าวหมิงเบิกกว้าง เผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา แต่ก็ยังคงรับคำแล้วรีบออกไปจัดการทันที

องครักษ์เงาที่อยู่ในตำหนักก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

กระบี่คู่กาย เป็นสัญลักษณ์ของฐานะฮ่องเต้ เปรียบเสมือนฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง สามารถข่มผู้คนมากมายได้

แต่หอกเล่มนั้น เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้เคยใช้ในการทำศึกสงครามในอดีต

มีหอกเล่มนี้อยู่ในมือ ก็มีอำนาจในการประหารก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง!

เมื่อเทียบกับกระบี่คู่กายแล้ว หอกที่ฮ่องเต้เคยใช้กลับน่าเกรงขามยิ่งกว่า!

องครักษ์เงารีบทูลเตือน “ฝ่าบาท พระองค์พระราชทานหอกประกายเงินให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง หากเขาใช้หอกนี้ก่อความวุ่นวาย เกรงว่าจะจัดการได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เหลือบมององครักษ์เงาแวบหนึ่ง “ก่อความวุ่นวาย? เจ้าคิดว่าฉู่หนิงรู้หรือไม่ว่าหอกเล่มนี้แสดงถึงอะไร?”

มุมปากขององครักษ์เงากระตุก

เผิงไหลจวิ้นอ๋องแม้แต่กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ก็ยังกล้าขาย ดูท่าว่าจะไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของกระบี่คู่กายจริง ๆ

แต่การไปแนวหน้า ก็จำเป็นต้องมีของที่สามารถข่มเหล่าทหารเบื้องล่างได้ แค่อาศัยฐานะองค์ชายของเผิงไหลจวิ้นอ๋องอย่างเดียวย่อมไม่พอ

การมีหอกประกายเงินที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ต่างหากที่จะทำให้เหล่าทหารในแนวหน้ายอมเชื่อฟังคำสั่ง!

คำพูดนับพันนับหมื่น สุดท้ายก็รวมกันเป็นประโยคเดียว “ฝ่าบาททรงพระปรีชา!”

...

ณ ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทมองกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ในมือด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี

“ความปรารถนาที่ยาวนานหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้สมหวังเสียที!”

เมื่อมองไปยังตัวกระบี่สีทองอร่าม องค์รัชทายาทก็อดไม่ได้ที่จะตวัดร่ายรำกระบี่ออกมา

ในหัวนึกถึงภาพที่ตนเองใช้กระบี่เล่มนี้ข่มองค์ชายคนอื่น ๆ แล้ว

มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ ต่อไปนี้องค์ชายในเมืองหลวงแห่งนี้จะต้องยอมสยบต่อเขา!

แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกตำหนัก

ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กของจ้าวหมิงก็ดังขึ้น “มีพระราชโองการจากฝ่าบาท!”

องค์รัชทายาทรีบเก็บกระบี่ให้ดี แล้วออกมาทำความเคารพนอกตำหนัก

จ้าวหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “เดือนหน้าเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮา เพื่อแสดงความกตัญญู องค์รัชทายาทจำต้องคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบด้วยพระองค์เอง ก่อนที่จะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้ออกจากตำหนักบูรพา!”

องค์รัชทายาทพลันตกตะลึงไป

เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไร?

คัดลอกพระคัมภีร์ก็คัดลอกไปสิ แต่การห้ามออกจากตำหนักบูรพาก็คือการกักบริเวณดี ๆ นี่เอง

ทุกอย่างก็กำลังไปได้ด้วยดี เหตุใดจู่ ๆ ถึงมากักบริเวณข้า?

เดี๋ยวนะ...

หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่ข้าซื้อกระบี่คู่กายของเสด็จพ่อมาจากในมือของฉู่หนิง?

แต่นี่มันเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจนะ!

ใบหน้าขององค์รัชทายาทฉายแววโกรธเกรี้ยว ในใจรู้สึกขุ่นเคืองอย่างยิ่ง

“องค์รัชทายาท รับราชโองการเถิด”

จ้าวหมิงเห็นองค์รัชทายาทนิ่งเฉยอยู่นาน จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน

สีหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เรื่องนี้ข้าจะไปทูลถามเสด็จพ่อให้เข้าใจด้วยตนเอง!”

สายตาของจ้าวหมิงเย็นชา น้ำเสียงก็กลายเป็นเย็นเยียบ “องค์รัชทายาทคิดจะขัดราชโองการหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าไม่ได้จะขัดราชโองการ...”

“ในเมื่อไม่ได้จะขัดราชโองการ เช่นนั้นก็น้อมรับราชโองการเถิด!”

จ้าวหมิงกล่าวเสียงทุ้ม “ฝ่าบาทได้ส่งทหารรักษาพระองค์มาเพื่อคุ้มกันองค์รัชทายาทที่นี่แล้ว ช่วงเวลานี้ท่านเพียงแค่ตั้งใจคัดลอกพระคัมภีร์ก็พอ!”

สิ้นเสียง ก็มีทหารรักษาพระองค์กลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา

สีหน้าขององค์รัชทายาทดูย่ำแย่เล็กน้อย

ฮ่องเต้ถึงกับส่งทหารรักษาพระองค์มาจับตาดูข้า!

วีรบุรุษย่อมไม่สู้ในศึกที่เสียเปรียบ อย่างไรเสีย กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อก็มาอยู่ในมือแล้ว!

“ลูก...น้อมรับราชโองการ!” องค์รัชทายาทกัดฟันตอบรับ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ณ จวนเผิงไหลจวิ้นอ๋อง ฉู่หนิงกำลังนั่งนับเงินอยู่ในห้องหลังเรือน

โตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเงินมากมายขนาดนี้ หีบใหญ่กว่าสิบใบเชียวนะ

ในขณะนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก “ราชโองการมาถึงแล้ว!”

ฉู่หนิงโยนเงินในมือทิ้ง รีบออกไปรับราชโองการทันที

แม้จะไม่รู้ว่าฮ่องเต้ชราจอมตระหนี่ผู้เป็นบิดาจะส่งราชโองการมาตอนนี้ด้วยเรื่องอันใด แต่ต้องเกี่ยวข้องกับการที่เขาขายกระบี่ไปอย่างแน่นอน

จ้าวหมิงเหลือบมองฉู่หนิงที่ก้มหน้าก้มตาดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย จากนั้นถอนหายใจยาว แล้วค่อย ๆ อ่านราชโองการ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องในฐานะองค์ชายกำลังจะเดินทางไปยังแนวหน้า เรามีความยินดียิ่ง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองของเผิงไหลจวิ้นอ๋อง จึงขอพระราชทานหอกประกายเงิน!”

ทันใดนั้น ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีดำซึ่งอยู่ด้านหลัง ก็ยื่นหอกยาวสีขาวราวกับหิมะเล่มหนึ่งออกมา

“ลูกน้อมรับราชโองการและขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก แล้วยิ้มให้จ้าวหมิงพลางเอ่ยขึ้น “รบกวนกงกงมาถ่ายทอดราชโองการแล้ว เงินจำนวนนี้ถือว่าข้าเลี้ยงน้ำชากงกงก็แล้วกัน”

เงินแท่งห้าสิบตำลึงถูกยื่นออกไป

จ้าวหมิงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบโบกมือปฏิเสธ “การถ่ายทอดราชโองการเป็นหน้าที่ของบ่าวอยู่แล้ว เผิงไหลจวิ้นอ๋องมิต้องทำเช่นนี้ ในวังยังมีธุระ บ่าวขอทูลลาไปก่อน”

พูดจบก็ไม่รอให้ฉู่หนิงได้พูดอะไร หันหลังแล้วหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

องค์รัชทายาทใช้เงินซื้อกระบี่คู่กาย ฮ่องเต้ก็กักบริเวณองค์รัชทายาทแล้ว

หากเขารับเงินของฉู่หนิงไป ฮ่องเต้คงได้สั่งตัดหัวเขาเป็นแน่!

ฉู่หนิงมองท่าทางตกใจกลัวของจ้าวหมิงแล้ว ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จากนั้นก็หันไปมองหอกยาวที่อยู่ในมือ

“จ้าวอวี่ กวนอวิ๋น พวกเจ้าว่าหอกเล่มนี้มีค่าสักกี่ตำลึง?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 564

    “แต่ว่า……”ฉู่หนิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปทางหนึ่งในจวน แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ก่อนไป ข้าต้องไปพบคนผู้หนึ่งก่อน”เสิ่นหวั่นอิ๋งพยักหน้าเบาๆ “ข้าไปเก็บสัมภาระให้ท่าน”นางรู้ ฉู่หนิงจะไปพบราชครูต้าถังหยวนเทียน!คนผู้นี้ถูกคุมตัวไว้ที่นี่มาหลายวันแล้ว ตอนนี้ฉู่หนิงจะไปจากจวน ย่อมต้องจัดการเรื่องของคนผู้นี้ให้เรียบร้อยฉู่หนิงไปพบหยวนเทียนใช้เวลาไม่นานนัก หลังจากครึ่งชั่วยามก็ออกมาไม่มีใครรู้ว่าฉู่หนิงพูดอะไรกับหยวนเทียน เพียงแต่หลังจากฉู่หนิงจากไป บนใบหน้าหยวนเทียนเผยให้เห็นรอยยิ้มในคืนนั้น หลังจากฉู่หนิงเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็พากองทัพม้าขาวมุ่งหน้าไปยังเมืองตุนหวงและไม่นานข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงขณะเดียวกัน ตำหนักบูรพาภายในห้องโถงใหญ่ที่แสงเทียนสั่นไหว สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและแฝงความอำมหิตองค์รัชทายาทหัวเราะไม่หยุด “รีบไปตายที่เมืองตุนหวงขนาดนี้ เกินความคาดหมายของข้าจริงๆ!แต่เช่นนี้ก็ดี คืนนี้ข้าก็สามารถไปลิ้มรสของพระชายาฉู่อ๋องที่จวนฉู่อ๋องแล้ว!” เมื่อกล่าวจบ องค์รัชทายาทก็พาองครักษ์ข้างกายมุ่งหน้าไปยังจวนฉู่อ๋องทันทีฉู่หนิงแตะต้องผู้หญิงข

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 563

    “หว่านอิ๋ง รีบออกมาเลย ข้ามีของดีจะให้เจ้าดู”จวนฉู่อ๋อง เรือนส่วนหลังฉู่หนิงถือป้ายทองเว้นตายไว้ในมือ เมื่อกลับมาถึงก็ตะโกนเข้าไปในห้อง ทำเอาเสิ่นหว่านอิ๋งที่กำลังฝึกเขียนอักษร หนวกหูจนต้องเดินออกมา“รีบมาดูป้ายทองเว้นตายนี่เร็ว” ฉู่หนิงยื่นป้ายทองออกไปราวกับถวายสมบัติเสิ่นหว่านอิ๋งรับป้ายทองมาดูแวบหนึ่ง บนใบหน้าเผยแววประหลาดใจ “ท่านไปขอป้ายทองเว้นตายนี่มาจากฝ่าบาทได้อย่างไร?” ฉู่หนิงพลันแสยะยิ้ม “ราชวงศ์ต้าโจวเคลื่อนทัพมาทางราชวงศ์ของเรา เสด็จพ่ออยากให้ข้าไปจัดการเรื่องนี้ที่แนวหน้า ข้าจึงใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไข ขอป้ายทองเว้นตายนี่มา”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเสิ่นหว่านอิ๋งดูไม่ดีนัก“จะไปแนวหน้าอีกแล้วหรือ?”เสิ่นหว่านอิ๋งคืนป้ายทองเว้นตายให้เขา พลางกล่าวเสียงเย็น “หากไม่เอาป้ายทองเว้นตายนี่ ท่านไม่ไปแนวหน้าได้หรือไม่?”ทั้งสองเพิ่งแต่งงานกันเดือนกว่า ฉู่หนิงก็จะไปแนวหน้าอีกแล้ว เสิ่นหว่านอิ๋งไม่ประหม่าได้หรือหากฉู่หนิงเกิดเรื่องไม่คาดคิดที่แนวหน้า ป้ายทองเว้นตายนี่ยังจะมีประโยชน์อะไร?เมื่อฉู่หนิงได้ยินกลับส่ายศีรษะ พลางกล่าวเสียงเรียบ “นี่เป็นข้อสรุปจากการหารือของ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 562

    นั่นเป็นเพียงทหารกองหน้าที่มาปูทางเท่านั้น!ครั้งนี้ ดูซิว่าเจ้าจะตายอย่างไร!องค์รัชทายาทที่คิดมาถึงตรงหน้า แสร้งทำหน้าจริงจังกะทันหัน “พูดมาเถิด เงื่อนไขของเจ้าคืออะไร?”บนบัลลังก์ ฮ่องเต้กำลังนั่งตัวตรง และทอดพระเนตรมาทางฉู่หนิงด้วยสีพระพักตร์ที่ประหม่า เพราะกลัวว่าฉู่หนิงจะพูดเงื่อนไขที่เกินเลยออกมาเห็นเพียงฉู่หนิงกล่าวสงบ “เงื่อนไขแรกของข้าก็คือ หากข้าสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ต่อไปยกเมืองตุนหวงให้ข้าปกครอง เช่นเดียวกับปิงโจว!”องค์รัชทายาทตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าฉู่หนิงจะพูดเงื่อนไขเช่นนี้ออกมาเมืองตุนหวงตั้งอยู่บริเวณชายแดน อากาศร้อนทั้งปี ไม่มีใครอยากไปปกครองสถานที่แห่งนั้นเลยแม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตรัสอะไรไม่ออกเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเงื่อนไขแรกของฉู่หนิงจะต่ำเพียงนี้สามารถพูดได้ว่า นี่ไม่นับว่าเป็นเงื่อนไขเลยผู้อื่นไม่อยากไปเมืองตุนจวิน มีเพียงฉู่หนิงที่เสนอฮ่องเต้ขมวดพระขนงเบาๆ “เจ้าคิดดีแล้วหรือ เมืองตุนหวงตั้งอยู่บริเวณชายแดน ผู้คนในพื้นที่ห้าวหาญ ยากต่อการปกครอง!”แต่ฉู่หนิงกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เสด็จพ่อ ก็เพราะปกครองยาก ลูกจึงอยากออกแรงส่วนหนึ่งเพื่อราช

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 561

    “เสด็จพ่อก็เห็นควรส่งลูกไปจัดการเรื่องราชวงศ์ต้าโจวเคลื่อนทัพหรือ?”ฉู่หนิงหวนคืนสติ หมุนกายไปมองฮ่องเต้ที่อยู่บนบัลลังก์ฉู่หนิงไม่เชื่อคำพูดของผู้อื่นต่อให้ออกมาจากปากองค์รัชทายาท ฉู่หนิงก็ไม่เชื่อเช่นกันเมื่อองค์รัชทายาทได้ยินดังนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมจนดูบูดบึ้งเล็กน้อยเจ้าหมอนี่ไม่ไว้หน้าข้าเลย!ระหว่างที่จมอยู่ในห้วงความคิด ฮ่องเต้มองฉู่หนิงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งอันที่จริงสำหรับบุตรนอกสมรสผู้นี้ของตนเอง ฮ่องเต้ยอมรับว่าค่อนข้างลำเอียงไปทางเขา ซึ่งถือเป็นการชดเชยที่ให้เขาไปเป็นตัวตายตัวแทนเมื่อครั้งก่อนแต่ครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของต้าฉู่เช่นกัน หากจัดการได้ไม่ดี เป้าหมายต่อไปของราชวงศ์ต้าโจวก็คือต้าฉู่เพื่อต้าฉู่ จึงทำได้เพียงส่งฉู่หนิงไปแนวหน้าแล้วต่อให้ต้องสละฉู่หนิง ก็ยังคุ้มค่าอยู่ดีเสียสละองค์ชายท่านหนึ่งเพื่อบรรเทาโทสะของฮ่องเต้หญิงต้าโจว นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าเขามีลูกชายเยอะ ตายไปคนหนึ่งก็ไม่กระทบต่อราชวงศ์ต้าฉู่แต่หากราชวงศ์ต้าโจวโจมตีต้าฉู่อย่างเต็มกำลัง เช่นนั้นสถานการณ์ก็ต่างกันแล้วเมื่อชั่งน้ำหนักผลได้เสีย ทำได้เพียงสละฉู่หนิง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 560

    แม้ฮ่องเต้จะรู้เจตนาของพวกองค์รัชทายาท แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้วบางที การให้ฉู่หนิงมาอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดฮ่องเต้ทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาหรี่ลงและทอประกายเด็ดขาด “เด็ก ๆ ไปตามตัวฉู่หนิงมาหารือ!”สิ้นเสียงคำสั่ง หัวหน้าขันทีก็เดินทางไปยังจวนฉู่อ๋องด้วยตัวเองราวครึ่งชั่วยามต่อมา ฉู่หนิงที่ได้รับแจ้งข่าวก็เดินทางมาถึงตำหนักอิงอู่เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าสู่ตำหนัก ฉู่หนิงก็รู้สึกได้ว่าสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ตนตัวเขาที่ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ แววตาเผยความประหลาดใจเล็กน้อยประหลาดยิ่งนัก เสด็จพ่อไม่เคยเรียกเขามาร่วมประชุม แต่แล้วจู่ ๆ ครั้งนี้กลับเรียกทุกคนมา หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่?ฉู่หนิงเดินเข้าไปทำความเคารพด้วยความสงสัย “ถวายพระพรเสด็จพ่อ!”ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย ตรัสด้วยเสียงทุ้มว่า “ไม่ต้องมากพิธี องค์รัชทายาท เจ้าบอกฉู่หนิงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเถอะ”องค์รัชทายาทที่ถูกเรียกชื่อยิ้มเยาะในใจ ก้าวออกไปยืนหน้าฉู่หนิงและบอกข่าวที่ได้รับทราบมาเมื่อครู่ด้วยเสียงราบเรียบฉู่หนิงฟังจบก็ขมวดคิ้วแน่น เผยความรู้สึกประหลาดใจ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 559

    “กระไรนะ พวกเขาต้องการให้ราชสำนักเรารับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะสังหารชาวเมืองตุนหวงทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?”ฮ่องเต้ลุกพรวดขึ้นยืนเมื่อได้ยินเช่นกัน พระพักตร์เต็มไปด้วยความโกรธ “รังแกเกินไปแล้ว รังแกเกินไปแล้วจริง ๆ !”ทั้งที่องค์หญิงเกาผิงถูกไป่หลีซิงฆ่าตายต่างหาก แต่นี่ฮ่องเต้หญิงต้าโจวกลับจะให้ต้าฉู่รับผิดชอบช่างเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลสิ้นดีต่อให้ต้าฉู่จะอ่อนแอลง แต่ก็ไม่อาจยอมให้ผู้ใดมารังแกถึงที่ได้แต่เพิ่งจะสิ้นเสียงฮ่องเต้ มหาราชครูกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบก้าวออกมาประสานมือคำนับ “ฝ่าบาท หากไม่อดทนต่อเรื่องเล็กน้อย จะทำให้เสียการใหญ่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้กำหมัดแน่น จ้องมองไปที่มหาราชครู “ฮ่องเต้หญิงต้าโจวข่มขู่ขนาดนี้ จะเรายอมกล้ำกลืนฝืนทนอย่างนั้นรึ?”มหาราชครูเห็นฮ่องเต้ทรงกริ้วก็ไม่กล้าพูดอีกในขณะนั้นเอง อัครเสนาบดีก็ก้าวออกมาพูดเสียงทุ้ม “ฝ่าบาท หากจะทำศึกก็ส่งได้เพียงแม่ทัพใหญ่กับทหารที่เขาฝึก”“ทว่า หากทำเช่นนั้น เรื่องเสบียงและเบี้ยหวัดก็จะเกิดปัญหา เงินที่เหลืออยู่ในท้องพระคลังก็ไม่พอที่จะรับภาระสงคราม”“อีกอย่าง เสบียงที่สำรองไว้ก็มีไม่มาก อีกไม่นานก็จะถึงช่วยเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status