Share

บทที่ 2 เจ้าเป็นใครกันแน่

last update Huling Na-update: 2025-09-26 11:28:14

บทที่ 2

เจ้าเป็นใครกันแน่

เหมยซิงผู้เป็นนางคณิกาของหอหลันฮวายืนนิ่งราวกับหินผา แม้ว่านางจะยืนอยู่ต่อหน้าของเว่ยสือหยาง ผู้เป็นชินอ๋องที่บ้าเลือดและน่าหวั่นเกรงผู้นั้น ทว่านางกลับมิได้รู้สึกหวาดกลัวเขาเลย กลับกัน... นางอยากจะรู้ว่าเขามีค่ามากพอที่นางจะใช้เป็นตัวหมากได้หรือไม่!

"เจ้าร่ายรำได้หรือไม่"

"เพคะ หม่อมฉันถนัดร่ายรำและการเล่นผีผาเพคะ"

"ดี! เช่นนั้นเจ้าก็ร่ายรำให้ข้าดู"

"เพคะ"

แม้จะแปลกใจกับการกระทำของเขา แต่เหมยซิงก็หาได้รู้สึกตกใจไม่ นางขยับตัวออกไปยืนตรงกลางโดยที่ผีผาได้ถูกนางคณิกาคนอื่นนำออกไปแล้ว ทันทีที่เสียงดนตรีขึ้น ร่างอรชรที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนางระบำที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาอย่างชัดเจน ก็ได้หมุนตัวไปตามจังหวะของเสียงดนตรีนั้น

ร่างกายของนางสอดประสานไปกับเสียงของดนตรีที่ดังก้องกังวานอย่างดงาม ท่วงท่าการร่ายรำมีทั้งความอ่อนช้อยและแข็งแรง พลิ้วไหวดั่งใบไผ่ที่ลู่ไปกับสายลมที่พัดโหมกระหน่ำดั่งพายุคลั่ง เห็นได้ชัดว่านางได้ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

เว่ยสือหยางพลันกระตุกยิ้มเย็น ก่อนจะแกล้งโยนผลผิงกั่ว (แอปเปิล) ไปให้นาง หากเป็นสตรีธรรมดาจะตกใจและรีบหลบผลผิงกั่วทันที ทว่าสตรีผู้นี้กลับรับผลผิงกั่วได้อย่างง่ายดาย ทั้งการร่ายรำของนางก็ไม่ได้หยุดชะงักลงเลย แต่ยังกล้ายั่วเย้าเขาอีกด้วย โดยการกัดผิงกั่วไปหนึ่งคำ ก่อนจะใช้สายตาหวานเยิ้มทอดมองมาทางเขาอย่างยั่วยวน

ช่างใจกล้าดีนัก!

บรรดาบุรุษที่นั่งอยู่ตรงนี้ต่างมองเรือนร่างของเหมยซิงด้วยน้ำลายสอ ด้วยนางนั้นมีรูปร่างที่เย้ายวนใจชายยิ่งนาง ยิ่งขยับเคลื่อนไหวร่างกายไปมาตามเสียงของดนตรีที่บรรเลงอย่างรัวเร็ว ยิ่งทำให้นางดูงดงามยั่วยวนราวกับปีศาจสาวที่ลงมายั่วยวนพวกเขาอย่างนั้นแหละ

อยากครอบครองนางเหลือเกิน!

แปะ แปะ แปะ!

เหมยซิงโค้งคำนับเว่ยสือหยางเมื่อการแสดงร่ายรำของนางจบลง ผลผิงกั่วในมือของนางก็ถืออยู่เช่นนั้น ไม่ได้คิดจะนำไปคืนเขาแต่อย่างใด ในตอนนั้นเองบุตรชายเพียงคนเดียวของอี้ไฉ ผู้มีนามว่า 'อี้ไห่หง' ได้เดินออกมาจากที่นั่งของตนเอง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไป

"ฮ่าฮ่าฮ่า คนงาม เจ้าช่างร่ายรำได้ถูกใจข้ายิ่งนัก คืนนี้ก็จงมาร่ายรำบนตัวข้าด้วยสิ"

ฝ่ามือหนาเอื้อมมาจะคว้าร่างของเหมยซิงเข้าไปกอด ทว่าตัวนางกลับหมุนตัวหลบหลีกมือของเขาอย่างว่องไว และในจังหวะนั้นเองที่ไม่มีใครสังเกตเห็น นางได้ลอบใช้ปลายเท้าตวัดไปเตะข้อเท้าของเขา เป็นผลให้ร่างกายสูงใหญ่พลันล้มลงอย่างน่าอาย

โครม!

สติที่เริ่มลืมเลือนพลันเด่นชัดเมื่อเจ็บตัว อี้ไห่หงจ้องหน้าเหมยซิงด้วยสายตาวาววับ

"ขออภัยคุณชายอี้ ข้าเป็นนางคณิกาขายศิลป์ไม่ได้ขายเรือนร่างเจ้าค่ะ"

เหมยซิงเอ่ยตอบเขาด้วยท่าทางนอบน้อม ทว่าแววตากลับตวัดมองเขาอย่างเย็นชาด้วยความไม่พอใจ

"หึ! เจ้าเป็นนางคณิกาที่ท่านพ่อของข้าซื้อตัวมา เหตุใดถึงได้เรื่องมากนักเล่า หากข้าต้องการเจ้าผู้ใดกล้าขวางกัน"

"พอได้แล้วอาหง นี่อยู่ต่อหน้าชินอ๋องเชียวนะ"

อี้ไฉรีบลุกมาจูงแขนบุตรชายให้กลับไปนั่งที่ อยู่ต่อหน้าของชินอ๋องจะมาเสียมารยาทเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด ทว่าเพราะเขาตามใจบุตรชายจนเคยตัว อะไรที่เขาอยากได้ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะไม่ได้ ในเมื่อครั้งนี้เขาต้องการตัวเหมยซิง เขาก็ต้องได้!

"ท่านพ่อ ข้าต้องการตัวนางขอรับ" เขามองบิดาด้วยสีหน้าเว้าวอน

"นี่เจ้า..."

เว่ยสือหยางที่นิ่งเงียบมานานพลันหัวเราะออกมาดังลั่น เป็นผลให้ทุกคนต่างลอบมองมาด้วยความสนใจและหวั่นเกรงในคราวเดียวกัน การหัวเราะของชินอ๋องเหตุใดจึงฟังแล้วขนลุกนักเล่า

"พวกเจ้าสองคนพ่อลูกช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตานัก ในเมื่อเจ้าเอ่ยถามว่าผู้ใดกล้าขวาง แล้วถ้าข้าบอกว่าข้าเองก็อยากได้นางไปร่ายรำในห้องของข้าคืนนี้ด้วย เจ้าจะว่าอย่างไร"

เว่ยสือหยางลอบสบตากับหลิ่งเอ้อร์อย่างรู้กัน การกระทำของนางคณิกาผู้นี้พวกเขาทั้งสองล้วนเห็นได้อย่างชัดเจน นางเป็นวรยุทธ์! แม้จะไม่เก่งกาจเทียบเท่ากับเขาทว่าก็มีฝีมือไม่น้อยเลย

อี้ไฉกับอี้ไห่หงได้ยินเช่นนั้นพลันตัวแข็งค้าง พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาจะกล้าแข็งข้อกับชินอ๋องผู้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นได้อย่างไรกันเล่า

"กระหม่อมเลอะเลือนไปชั่วครู่ ขอท่านอ๋องอย่าได้ถือสาไปเลยพ่ะย่ะค่ะ"

อี้ไห่หงพลันสร่างเมาทันที ตัวเขารีบเดินกลับไปนั่งที่พร้อมกับบิดาที่มีสีหน้าขาวซีด

"เหอะ! ข้ายังคิดว่าจะได้ประลองดาบกับเจ้าเพื่อแย่งชินนางอยู่เลย ช่างน่าเสียดายนัก"

เว่ยสือหยางยกจอกสุราขึ้นมาดื่มด้วยท่าทางสบายอารมณ์ ทว่าคำพูดของเขานั้นกลับทำให้คนฟังเย็นเยียบไปทั่วแผ่นหลังกว้าง รีบก้มหน้าก้มตาดื่มสุราราวกับเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้อยากได้นางคณิกาผู้นั้นเลย

"ขออภัยท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันได้ถูกจ้างวานให้มาเล่นผีผาเท่านั้น หากท่านอ๋องอยากจะให้หม่อมฉันไปร่ายรำเป็นการส่วนตัวก็ต้องจ่ายเพิ่มนะเพคะ" เหมยซิงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ค่าตัวเจ้าเท่าใดเล่า"

"10 ตำลึงทองเพคะ"

"น้อยนัก! หลิ่งเอ้อร์มอบเงินให้นางสามเท่า และถ้าเจ้าทำให้ข้าพอใจย่อมต้องได้รับมากกว่านี้"

"ขอบพระทัยเพคะ"

เหมยซิงยอบกายคารวะ ก่อนที่นางจะเดินตามหลิ่งเอ้อร์ออกไปเพื่อไปยังรถม้าของชินอ๋อง ด้วยเว่ยสือหยางไม่ประสงค์จะพักที่จวนเจ้าเมือง เขาจึงได้ซื้อจวนหลังใหญ่ในเมืองเป่ยซีชั่วคราว ด้วยตอนนี้เขามีภารกิจที่จะต้องจัดการที่เมืองแห่งนี้ หากแล้วเสร็จก็จะเดินทางไปยังค่ายทหารที่ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของชายแดนอันอยู่ติดกับแคว้นจ้าว

จวนชินอ๋อง

รถม้าเคลื่อนไปยังถนนที่เงียบเชียบของเมืองเป่ยซีอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานรถม้าก็จอดลงตรงหน้าจวนหลังใหญ่ของเว่ยสือหยาง เหมยซิงก้าวลงมาจากรถม้าด้วยท่าทางตึงเครียดเล็กน้อย แม้ในใจจะพยายามนิ่งสงบแต่นางก็ยังแอบกังวลอยู่เล็กน้อย

"ตามข้ามา"

หลิ่งเอ้อร์พาเหมยซิงไปรอยังเรือนหลักของชินอ๋อง ก่อนจะปลีกตัวแยกจากมาโดยบังเอิญพบกับหลิ่งอี้ผู้เป็นแฝดพี่ที่ทันเห็นว่ามีสตรีเข้ามายังห้องของชินอ๋อง

"อาเอ้อร์ สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน" เขาลากแขนน้องชายให้ไปคุยตรงมุมมืดที่ปลอดผู้คน

"นางคณิกาที่ท่านอ๋องจ้างให้มาร่ายรำเป็นการส่วนตัว" สายตาของหลิ่งเอ้อร์มองผู้เป็นพี่อย่างรู้กัน

"เข้าใจแล้ว เช่นนั้นเจ้าไปพักเถอะ ทางนี้ข้าจะดูแลเอง"

"ขอรับท่านพี่"

หลิ่งเอ้อร์เดินกลับไปยังเรือนพักของตนเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผิดกับหลิ่งอี้ที่รู้สึกไม่ไว้วางใจสตรีผู้นั้นนัก ทำไมตาของเขาถึงกระตุกไม่หยุดเลยล่ะ หรือว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ ในตอนนั้นเว่ยสือหยางที่ควบม้ากลับมาเองก็เดินเข้ามาตบไหล่ของหลิ่งอี้

"นางเล่า"

"อยู่ในห้องพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องจะให้กระหม่อมจัดการเค้นคอนางเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

"ไม่ล่ะ ข้าจะจัดการนางด้วยตนเอง เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่ก็พอ ไม่ต้องตามเข้ามาหากข้าไม่ได้เรียก"

"พ่ะย่ะค่ะ"

เว่ยสือหยางเปิดประตูเข้าไปยังในห้องของตน รอยยิ้มมุมปากพลันแสยะยิ้มเหี้ยมเมื่อจะได้เค้นความลับจากสตรีผู้นั้น เขาอยากรู้นักว่านางที่เป็นถึงสายลับเหตุใดถึงพลาดท่าให้เขาจับได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ หรือว่านางจงใจ!

"รอข้านานหรือไม่"

"ไม่เพคะ"

เว่ยสือหยางเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงกลางห้อง โดยมีเหมยซิงเข้ามารินสุราให้กับเขา ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของร่างกายกำยำลอบมองสตรีที่นั่งตรงข้ามอย่างสังเกต

"เจ้าชื่ออะไร"

"หม่อมฉันมีนามว่าเหมยซิงเพคะ"

"แซ่ของเจ้าเล่า"

"หม่อมฉันไม่มีแซ่เพคะ เป็นสตรีกำพร้าที่ถูกนายหญิงแห่งหอหลันฮวารับเลี้ยงเอาไว้เพคะ"

"อย่างนั้นเองหรือ... ไม่ใช่ว่าที่เจ้าไม่มีแซ่เพราะต้องปิดบังตนเองใช่หรือไม่เหมยซิง เจ้าเป็นใครกันแน่!"

เพล้ง!!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   ตอนพิเศษ 2 เมิ่งเอ๋อร์

    ตอนพิเศษ 2เมิ่งเอ๋อร์เหมยซิงต้องมาอยู่ไฟในห้องด้านข้างเพื่อปรับสมดุลร่างกายที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร ทว่าในทุกวันเว่ยสือหยางจะอุ้มบุตรสาวตัวน้อยมาหานาง เพื่อมาดื่มน้ำนมจากอกของนางทุก ๆ 1 ชั่วยาม (2 ชั่วโมง) หลังจากนั้นก็จะส่งเว่ยซิงเมิ่งให้กับแม่นมไปดูแลต่อ ส่วนเว่ยสือหยางก็จะอยู่เป็นเพื่อนเหมยซิง พูดคุยกับนางเพื่อให้คลายความเหงาลง"พรุ่งนี้ท่านหมอเทวดาและท่านแม่ยายก็น่าจะเดินทางมาถึงแล้วล่ะ พี่ได้ส่งคนไปคอยรับพวกท่านทั้งสองแล้ว""ขอบพระทัยเพคะเสด็จพี่ ยังคงเป็นเสด็จที่นึกถึงข้าเสมอมา""ก็เจ้าเป็นคนที่พี่รักอย่างไรเล่า ตอนนี้เจ้าคงอยากจะพบหน้าท่านแม่ยายมากที่สุดใช่หรือไม่ รออีกนิดนะซิงเอ๋อร์""เพคะเสด็จพี่ ว่าแต่... ไทเฮาก็ยังทรงประทับที่จวนของเราหรือเพคะ นี่ก็นานกว่าสิบวันแล้วนะเพคะ""หึ ๆ เห็นทีไทเฮาจะทรงมาเป็นแขกของจวนเราไปอีกนานเลยล่ะ พระนางทรงเอ็นดูเมิ่งเอ๋อร์ของเรามากเหลือเกิน ในทุกวันจะต้องไปที่ห้องของเมิ่งเอ๋อร์เพื่อพูดคุยหยอกล้อ แม้ส่วนมากเมิ่งเอ๋อร์จะนอนหลับก็ตาม" ใบหน้าหวานพลันคลี่ยิ้มหวานเมื่อรู้เช่นนี้ "ทำไมหม่อมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองจะถูกแย่งบุตรสาวไปเลยล่ะเพคะ" นางเอ่ย

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   ตอนพิเศษ 1 ดวงใจของทุกคน

    ตอนพิเศษ 1ดวงใจของทุกคนท้องของเหมยซิงโตขึ้นมากทุกวัน จนตอนนี้ก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เจิ้งไทเฮาได้ส่งหมอหญิงที่มีฝีมือดีในการทำคลอดมาที่จวนชินอ๋อง ในขณะที่กู้ฮองเฮาได้ส่งนางกำนัลให้มาช่วยดูแลเหมยซิงทุกฝีก้าว การดูแลเหมยซิงที่ท้องแก่จะต้องระวังทุกฝีก้าวย่าง จะให้ผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด "โอ๊ย! ข้าเจ็บท้องเหลือเกินจูจู" เหมยซิงจับท้องของตนเมื่อรู้สึกถึงความปวดหน่วงตรงท้อง ใบหน้าหวานขมวดมุ่นด้วยความทรมานที่เคยพานพบเป็นครั้งแรก "พระชายาจะคลอดแล้วหรือเพคะ มะ หม่อมฉันจะรีบไปทูลท่านอ๋องเพคะ"จูจูรีบวิ่งไปบอกกับท่านหลิ่งเอ้อร์ให้ไปส่งข่าวท่านอ๋องที่อยู่ในท้องพระโรงทันที ในขณะที่นางกำนัลของกู้ฮองเฮาก็เข้ามาประคองเหมยซิงไปยังห้องทำคลอด โดยมีท่านหมอหญิงรีบเข้ามาดูอาการโดยไวหลังจากนั้นภายในจวนชินอ๋องก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย บ่าวไพร่ในจวนต่างมายืนรอกันอยู่หน้าเรือนของเหมยซิง เฝ้ารอที่จะร่วมยินดีกับการให้กำเนิดท่านชายหรือท่านหญิงน้อยเว่ยสือหยางที่ทราบข่าวก็รีบตรงดิ่งกลับจวนทันที ถึงแม้ว่าในขณะนั้นในท้องพระโรงกำลังประชุมเรื่องสำคัญ ทว่าเขาหาได้สนใจไม่ ซึ่งเว่ยเฟยอวี่ก็ได้สั่งให้เลิกประชุ

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลังจากงานแต่งงานไม่กี่วัน ก็มีเหตุให้เว่ยสือหยางต้องเร่งเดินทางไปยังแคว้นเซี่ย เพื่อไปช่วยศิษย์น้องเล็กทำสงครามกับพวกไม่กลัวตาย กล้าดีอย่างไรถึงกล้ามาชิงสตรีในดวงใจของเซี่ยหย่งจื้อช่างไม่กลัวตายเสียเลย!หลายเดือนต่อมากองทัพของชินอ๋องได้เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงหลังจากที่ใช้ระยะเวลาเกือบสามเดือน ทั้งที่ความจริงควรจะถึงตั้งแต่เดือนที่แล้วทว่าเพราะเว่ยสือหยางเป็นห่วงเหมยซิงและท่านแม่ยาย จึงได้ระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวของเหมยซิงก็มีอาการไม่สู้ดีนัก เขาผู้เป็นสามีก็ต้องดูแลนางให้ดีที่สุด"ในที่สุดเจ้าก็มาถึงสักทีนะอาหยาง ข้ารอเจ้ามาหลายเดือนแล้ว เสด็จแม่เองก็ทรงบ่นหาเจ้าทุกวันจนข้าตอบไม่ถูกแล้ว"'เว่ยเฟยอวี่' ฮ่องเต้แห่งแคว้นเว่ย ผู้เป็นพระเชษฐาต่างมารดาของเว่ยสือหยาง ถึงแม้ว่าไทเฮาผู้เป็นพระมารดาของฮ่องเต้จะไม่ใช่มารดาแท้ ๆ ของเว่ยสือหยาง แต่เพราะรับเลี้ยงเว่ยสือหยางมาตั้งแต่เยาว์วัย จึงรักใคร่มิต่างจากบุตรชายตนเอง อีกทั้งเว่ยเฟยอวี่ก็ทรงรักเอ็นดูน้องชายผู้นี้เป็นอย่างมาก"ขออภัยฝ่าบาทที่กระหม่อมเดินทางมาถึงล่าช้าพ่ะย่ะค่ะ"เว่ยเฟยอวี่โบกมือให้เว่ยสือหยางลุกขึ้น ที่พระองค

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 30 ชุดเจ้าสาวที่เปื้อนเลือด

    บทที่ 30ชุดเจ้าสาวที่เปื้อนเลือดฉินจินมิอาจรับความจริงในเรื่องนี้ได้ ตัวเขารู้สึกสมเพชตัวเองยิ่งนัก ทว่าความรู้สึกที่เด่นชัดมากที่สุดคือความโกรธ ที่เหมยซิงมาล่วงรู้ความในใจของตน"เจ้าไม่คิดจะรักข้าใช่หรือไม่""ใช่! คนเดียวที่ข้ารักคือท่านอ๋อง และจะเป็นท่านอ๋องตลอดไป""ดี ดีมาก... เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าเสียใจไปตลอดกาลที่มาทำร้ายความรู้สึกของข้าเช่นนี้ ย๊ากกก!"ดาบในฝักถูกควักออกมาฟาดฟันใส่ร่างของเหมยซิงด้วยความรุนแรง ทว่าตัวนางที่ได้รับคำชื่นชมเรื่องวรยุทธ์ในหมู่สายลับ จะพลาดท่าให้กับฉินจินในดาบเดียวได้อย่างไร "หึ! ฝีมือเจ้าต่ำกว่าข้ามากนักฉินจิน"ร่างบอบบางเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ทว่ากลับพลิ้วไหวดุจดั่งสายลมในวสันต์ฤดู ตัวนางดีดกายหลบการโจมตีทุกกระบวนท่าของฉินจินได้ทั้งหมด ก่อนที่มีดสั้นในมือจะเขวี้ยงเข้าใส่จุดตายของฉินจิน แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้อ่อนด้อยถึงเพียงนั้น "ใช่ ข้ายอมรับว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้"ใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินจินผุดยิ้มร้าย ก่อนจะสาดผงสลายลมปราณเข้าใส่ร่างของเหมยซิงอย่างรวดเร็ว เหมยซิงที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วหมุนตัวหลบออกไปได้ทัน แต่เพราะสายลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 29 แหย่หนวดพยัคฆ์

    บทที่ 29แหย่หนวดพยัคฆ์หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเช้าในการคำนับฟ้าดินและพ่อแม่แล้ว เหมยซิงก็ถูกแม่สื่อพาตัวไปนั่งรออยู่ในห้องหอ ในขณะที่เว่ยสือหยางจำต้องไปดื่มสุรากับแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งงานนี้โจวหมิงลู่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการขอคารวะจอกสุรากับเว่ยสือหยางไปหลายจอก ด้วยตัวเองก็รู้สึกหมั่นไส้ท่านอ๋องผู้นี้ไม่น้อยเลยทางด้านเหมยซิงที่นั่งรออยู่ในห้องหอนั้น โดยมีจูจูผู้บัดนี้ได้กลายมาเป็นสาวใช้ข้างกายของนางแล้ว สาวใช้ตัวน้อยเดินถือถาดอาหารของว่างเข้ามา ด้วยกลัวว่าผู้เป็นนายจะรอนานจนหิว "พระชายาทรงหิวหรือไม่เพคะ หม่อมฉันได้ให้คนครัวจัดทำน้ำแกงปลามาให้เพคะ และยังมีขนมดอกกุ้ยฮวาด้วยนะเพคะ"เหมยซิงคลี่ยิ้มบางด้วยความขอบคุณ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเพื่อทานอาหารรองท้อง ในตอนที่นางกำลังตักอาหารเข้าปาก สัมผัสอันว่องไวพลันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากบนหลังคา เหมยซิงวางช้อนลงบนโต๊ะ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำชา เขียนอักษรให้จูจูได้อ่าน 'มีคนร้าย ไปตามท่านอ๋อง'นับว่าไม่เสียแรงที่เหมยซิงเคยสอนตัวอักษรให้กับจูจู และอีกฝ่ายก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วนัก "เอ่อ พระชายาอยากได้สิ่งใดอีกหรือไม่เพคะ" จูจูพยายามไม่

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 28 แก้วตาดวงใจ

    บทที่ 28แก้วตาดวงใจจวนเจ้าเมืองเป่ยซีหานซีอิ๋งผู้เป็นมารดาของเหมยซิงกำลังบรรจงปักปิ่นทองระย้า อันเป็นปิ่นที่สืบทอดมาจากคนตระกูลหานลงบนมวยผมของเหมยซิงด้วยความตื้นตันใจ ทุกคราที่มองปิ่นปักผมอันนี้ นางจะคิดถึงวันที่ท่านพ่อปักปิ่นให้นางในวันที่ถูกส่งตัวเข้าสู่วังหลังของจ้าวเทียน เพราะสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย นางจึงมีเพียงท่านพ่อที่อยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด"ซิงเอ๋อร์ของแม่งามมากเหลือเกิน หากท่านตายังอยู่คงจะดีใจกับเจ้าอย่างแน่นอน" หานซีอิ๋งถอยออกมาพินิจดูบุตรสาวที่แต่งกายด้วยชุดมงคลสีแดงสดอย่างงดงาม ดวงตาคู่สวยที่เหมือนกับบุตรสาวเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความดีใจ นางดีใจที่บุตรสาวสามารถแต่งงานกับบุรุษที่รักได้อย่างภาคภูมิ ถึงแม้ตัวนางจะไม่ได้มีโอกาสนั้น ทว่าขอเพียงได้ยืนส่งบุตรสาวขึ้นเกี้ยวมงคลแปดคนหามนางก็ดีใจแล้ว"ท่านแม่คิดถึงท่านตามากเลยใช่หรือไม่เจ้าคะ" เหมยซิงเอื้อมมือไปจับมือมารดาเพื่อปลอบประโลมหานซีอิ๋งพยักหน้ารับว่าตนคิดถึงบิดาจริง ๆ เมื่อเห็นว่าบุตรสาวมีสีหน้าเป็นกังวลนางจึงคลี่ยิ้มหวาน วันมงคลของบุตรสาวจะมาคิดเรื่องที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองไม่ได้"ยามนี้ไม่เช้าแล้ว เราอ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status