สุจิตราขับรถมาจอดหน้าโมเดลลิ่งของพลอยใส เธอเดินสวนกับกัญญาวีร์และกชณิชาที่ประตูทางเข้าแต่ก็จำไม่ได้ว่าหนึ่งในนั้นคือพนักงานในบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่
เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็เห็นพริตตี้หลายคนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณโซนรับแขกของบริษัท สุจิตรามองและคิดว่าผู้หญิงพวกนี้คงไม่ใช่สเปกที่เจ้านายของเธอระบุอย่างแน่นอน เพราะเอาแต่ก้มหน้าจนไม่สนใจว่ามีใครเดินเข้ามาหรือเปล่า แต่สุจิตราก็ไม่ใส่ใจเท่าไหร่เพราะเธอโทรศัพท์มานัดพลอยใสเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะเข้ามาเลือกผู้หญิงที่จะไปเป็นคู่นอนของเจ้านาย
เหตุผลที่เธอต้องมาด้วยตัวเองเพราะอยากเจรจาเรื่องสัญญาและอยากคุยกับเจ้าของโมเดลลิ่งแบบเผชิญหน้า เรื่องแบบนี้สุจิตราไม่อยากจะคุยทางโทรศัพท์ หญิงสาวเคาะประตูจนได้ยินเสียงคนด้านในอนุญาตก็รีบเปิดเข้าไปทันที
“สวัสดีค่ะคุณพลอยใส”
“สวัสดีค่ะคุณจี๊ดนี่ครบสามเดือนแล้วเหรอคะไวจังเลยค่ะ” พลอยใสจำได้ว่าเขาจะเจอกับผู้หญิงคนนี้ทุกๆ สามเดือนแต่ไม่เคยได้เจอกับเจ้านายของเธอเลยสักครั้งและก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาคือใคร
“ค่ะคุณพลอย”
“ครั้งนี้เหมือนเดิมมั้ยคะ”
“เจ้านายระบุมาว่าขอคนที่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลค่ะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะเดี๋ยวพลอยจะช่วยดูให้เอง”
“จะเป็นไรไหมคะคุณพลอยถ้าหากครั้งนี้จี๊ดขอเด็กที่หน้าไม่ช้ำแบบที่ไม่ค่อยได้ออกงานและค่อนข้างเชื่อฟังหน่อยค่ะ อย่างคนที่ที่แล้วไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยดูเหมือนเธอจะอยากเปิดตัวว่าคบกับเจ้านายของจี๊ดเหลือเกิน”
“พลอยต้องขอโทษด้วยนะคะตอนนี้จีน่าไม่ได้เป็นเด็กในโมเดลลิ่งของพลอยแล้วล่ะคะ”
“อ้าวทำไมล่ะคะ”
“ก็อย่างที่คุณจี๊ดพูดนั่นแหละเธอคุมยากมาก แอบไปรับงานที่อื่นไม่ผ่านโมเดลลิ่งก็หลายครั้ง พลอยก็เลยตัดปัญหายกเลิกสัญญากับบริษัทไปแล้วล่ะคะ แล้วนี่จีน่าไปสร้างความเดือดร้อนอะไรให้เจ้านายคุณจี๊ดมากไหมคะ” แม้จะยกเลิกสัญญากับจีน่าไปแล้วแต่พลอยใสก็อดกังวลไม่ได้ว่าเธอจะทำความเดือดร้อนให้กับนายจ้างกระเป๋าหนัก
“ไม่หรอกค่ะหรอกเธอก็แค่ไปขอคุณกับเจ้านายของจี๊ดว่าอยากจะคบกันต่อ แต่คุณพลอยก็น่ารู้ว่าของจี๊ดเป็นประเภทเบื่อง่ายค่ะ”
“พลอยเข้าใจค่ะ คนใหม่พลอยคงต้องคุยให้เด็ดขาดว่าจบสัญญาแล้วจะไม่ไปรบกวนเจ้านายคุณจี๊ดอีก”
“ขอบคุณค่ะ””
คุณจี๊ดจะเลือกเด็กเลยไหมคะ”
“ค่ะ”
“วันนี้เพิ่งมีเด็กเข้ามารับงานใหม่คนหนึ่งค่ะ คุณจี๊ดคะปกติค่าจ้างที่คุณจี๊ดจ้างเด็กของพลอยเดือนละแสนใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะเจ้านายของจี๊ดให้เดือนละแสนและแต่ละครั้งที่นัดเจอกันก็จะมีเงินโบนัสพิเศษมีของขวัญให้ตามเทศกาลด้วยคุณพลอยมีอะไรหรือเปล่าหรืออยากจะเพิ่มค่าจ้างคะ”
“เปล่าหรอกค่ะ เพียงแต่พลอยมีเรื่องจะรบกวนคุณจี๊ดนิดหน่อยค่ะ”
“รบกวนอะไรคะ”
“วันนี้พลอยมีเด็กที่อยากเสนอค่ะ เดี๋ยวพลอยเอารูปให้ดูนะคะ” พลอยใสหยิบรูปถ่ายของกชณิชาขึ้นมาให้กับสุจิตราดูถ้าหากเจ้านายของเธอสนใจพลอยใสก็คิดว่าจะขอร้องให้เขาจ่ายเงินล่วงหน้ามาก่อนเพราะสงสารและอยากจะช่วยกชณิชาให้ได้เงินเร็วที่สุด
สุจิตรารับแฟ้มสีน้ำเงินที่ในนั้นมีรูปถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่งเธอเห็นแล้วก็รู้สึกคุ้นหน้ามากๆ
“ทำไมจี๊ดรู้สึกคุ้นหน้าน้องคนนี้จังเลยคะ เธอเคยรับงานมาก่อนหรือเปล่า”
“ไม่นะคะน้องคนนี้ไม่เคยรับงานแบบนี้ เลยที่คุณจี๊ดคุ้นหน้าอาจจะเพิ่งเดินสวนทางกันไปเมื่อกี้หรือเปล่าคะ”
“ก็คงจะอย่างนั้นมั้งคะ” สุจิตราพยักหน้าเห็นด้วยแต่ในใจยังคิดอยู่ว่าตนเองเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหน
“เด็กยังใหม่อยู่เลยค่ะคุณจี๊ด คนนี้พลอยรับรองว่าเจ้านายของคุณจะต้องถูกใจมากๆ เธอยังไม่เคยนอนกับใครเลย”
“อะไรนะไม่เคยนอนกับใครแล้วทำไมถึงมารับงานแบบนี้ได้ล่ะ”
“เธอมีความจำเป็นต้องใช้เงินน่ะ”
“ใครก็พูดกันแบบนี้แหละคุณพลอยจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่ย้อมแมวขาย”
“คนนี้พลอยรับรองได้เลยค่ะ”
“ถ้าเจ้านายของคุณจี๊ดสนใจจะเซ็นสัญญาได้ราคาเดิมหรือเปล่า”
“ราคาเดิมค่ะเดือนละแสนแต่มีข้อแม้นิดหน่อย”
“ข้อแม้อะไรคะ”
“ก็อย่างที่พลอยบอกเมื่อกี้ค่ะ น้องเขามีความจำเป็นจะต้องใช้เงินก็เลยอยากจะขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนสองแสนภายในเดือนนี้ค่ะ”
“ภายในเดือนนี้เหรอคะแต่อาทิตย์หน้าเจ้านายของจี๊ดจะไปทำงานที่ต่างประเทศคงยังไม่เรียกใช้บริการหรอกนะคะ”
“คุณจี๊ดช่วยคุยกับเจ้านายให้หน่อยได้ไหมจ่ายเงินล่วงหน้ามาก่อนระหว่างนี้ก็ให้เด็กของพลอยไปตรวจเลือดไปฉีดยาคุมก็พอดีเจ้านายของคุณจี๊ดกลับมานั่นแหละค่ะ”
“คุณพลอยมีรูปถ่ายของเธอที่ชัดกว่านี้ไหมจี๊ดจะส่งให้เจ้านายดูค่ะ”
“พลอยมีรูปอยู่ในโทรศัพท์เดี๋ยวพลอยส่งให้คุณจี๊ดนะคะ”
“จี๊ดขอโทรคุยกับเจ้านายก่อนนะคะ”
สุจิตราส่งรูปที่ได้รับจากพลอยใสให้เจ้านายดูจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาเขาเพราะข้อเสนอที่คุณพลอยใสยื่นมานั้นมันไม่เหมือนเดิมกับทุกครั้ง
“คุณจี๊ดมีอะไรหรือเปล่า”
“ขอโทษนะคะคุณธามที่จี๊ดโทรมารบกวนวันหยุด คุณธามเห็นรูปที่จี๊ดส่งไปให้แล้วใช่ไหมคะ”
“เห็นแล้วครับเด็กคนใหม่ใช่ไหม”
“ค่ะคุณธามสนใจไหมคะ”
“อือ คนนี้ก็ได้ แต่หน้าเด็กมากเลยนะบรรลุนิติภาวะแล้วใช่ไหม”
“อายุยี่สิบสามแล้วค่ะ”
“ถ้างั้นก็ตกลง”
“แต่มันติดปัญหาอยู่นิดหน่อยค่ะคุณธาม” สุจิตราอึกอักเพราะไม่รู้จะบอกกับธามนิธิยังไง
“ปัญหาอะไรเหรอ”
“คุณพลอยใสอยากได้เงินล่วงหน้าก่อนสองแสนค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นปกติไม่เห็นเคยเรียกเงินล่วงหน้าเลย” ธามนิธิสงสัยถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงเปลี่ยนคนไปแล้วแต่พอเห็นหน้าผู้หญิงที่เลขาส่งให้ดูแล้วก็ไม่อยากจะเปลี่ยนใจ
“พอดีเด็กต้องการใช้เงินด่วนค่ะ”
“แบบนี้จะไว้ใจได้ไหมไม่ใช่เอาเงินไปสองแสนแล้วสุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆนะ ถึงผมจะมีเงินเยอะแยะมากมายแต่ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาหลอกหรือมาเอาเปรียบ”
“คงไม่หรอกมั้งคะ ดูคุณพลอยใสจะมั่นใจในตัวเด็กคนนี้มาก เธอยังบอกอีกว่าเด็กไม่เคยนอนกับใครเลย”
“ผมว่าข้อนี้เป็นไปแทบไม่ได้เลยนะ คนที่จะมารับงานแบบนี้ก็คงต้องผ่านผู้ชายมาแล้วทั้งนั้น แต่ผมไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกผมสนใจแค่ว่าถ้าเธอได้เงินสองแสนแล้วเธอจะไม่หายไปไหนใช่ไหม” เพราะเห็นรูปแล้วรู้สึกชอบขึ้นมาทันที
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะ เดี๋ยวจี๊ดจะให้ฝ่ายนั้นเซ็นสัญญากู้ยืมเงินกันไว้ก่อน”
“ผมให้คุณจี๊ดจัดการตามที่เห็นสมควรเลย”
“จี๊ดจะจ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อนอย่างที่ฝ่ายนั้นขอ แล้วพอคุณธามกลับมาจากต่างประเทศค่อยนัดเจอกับเธออีกที”
“ดูให้แน่ใจด้วยนะคุณจี๊ดว่าตรงปกหรือเปล่าอายุยี่สิบสามแต่หน้าตาเด็กมากผมกลัวจะติดคุกน่ะ”
“ค่ะคุณธามจี๊ดจะตรวจสอบประวัติของเธออีกทีหนึ่งก่อนจะจ่ายเงิน จี๊ดขอวางสายก่อนนะคะ”
เกือบสองเดือนแล้วที่ธามนิธิไม่ได้ข่าวคราวของกชณิชาเลย เขาไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหนเพราะไม่รู้จักเพื่อนหรือครอบครัวของหญิงสาวเลย ในทุกวันจึงได้แต่หวังว่าจะบังเอิญเจอกับเธอที่ไหนสักแห่งชายหนุ่มไปยังร้านอาหารที่เคยพาหญิงสาวไปทาน บางครั้งก็ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่เคยพาเธอไปเดินซื้อของแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาธามนิธิไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัวหญิงสาวเลยสักนิดชายหนุ่มให้คุณสุจิตราติดต่อไปที่โมเดลลิ่งแต่ก็ทางโมเดลลิ่งก็บอกว่าหญิงสาวไม่ได้ติดต่อมาที่นี่นานแล้วชายหนุ่มได้เบอร์โทรศัพท์ของกัญญาวีร์มาจากโมเดลลิ่งเขาโทรไปถามเธอแต่กัญญาวีร์ก็บอกว่าเธอเองก็ไม่ได้เจอกับกชณิชานานแล้วเหมือนกันเขาไม่รู้เลยว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างเธอจะทำงานที่ไหน มีชีวิตที่สุขสบายดีหรือเปล่าและจะคิดถึงเขาบ้างไหม ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงเธอวันนี้เขารู้สึกเซ็งสุดขีดเนื่องจากเพื่อนสนิทอย่างภากรและณัฐวิทย์ไม่ว่างทำให้เขาต้องออกมานั่งดื่มที่ผับแห่งนี้ตามลำพังธามนิธิเลือกที่จะนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์แทนการขึ้นไปนั่งบริเวณโซนวีไอพีชั้นสองอย่างเคยเพราะขึ้นไปนั่งบนนั้นคนเดียวก็รู้สึกเหงา ชายหนุ่มนั่งดื
ธามนิธิรู้เรื่องลาออกของกชณิชาก็ตกใจเป็นอย่างมากเขารีบโทรศัพท์มาคุยกับเธอทันทีเมื่อทราบเรื่อง“ผมว่าเราต้องคุยกันนะเกรซว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเกรซต้องลาออกด้วย”“คุณธามยังจะต้องถามเกรซอีกเหรอคะ คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไมเกรซถึงต้องลาออก”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ”“คุณอย่าทำเหมือนไม่รู้เรื่องเลยนะคะ เกรซรู้หมดแล้วว่าคุณมีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า”“ผมขอโทษที่ไม่บอก ผมไม่คิดว่ายุ้ยจะกลับมาเร็วแบบนี้”“คุณรู้มาตลอดว่าคุณมีคู่หมั้นแต่คุณก็มาขอคบกับเกรซ เกรซคงเป็นแค่ผู้หญิงคั่นเวลาสำหรับคุณใช่มั้ยคะ”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะเกรซ”“คุณธามไม่คิดแล้วทำไมถึงมาขอคบกับเกรซทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะคะ”“มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะเกรซ”“แล้วมันเป็นแบบไหนคะ”“ที่ผมบอกคุณว่าจะบอกทุกคนเรื่องของเราในงานปีใหม่ผมพูดจริงนะเกรซจากนั้นผมก็จะบอกคุณพ่อคุณแม่ให้ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับยุ้ย”“แต่มันก็สายเกินไปแล้วค่ะคุณธาม ตอนนี้คุณสองคนกำลังจะแต่งงานกันแล้วจะให้เกรซทนทำงานอยู่ในบริษัทได้ยังไงคะ”“แล้วคุณจะไปทำงานที่ไหนล่ะเกรซ เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคุณไม่ต้องทำงานเลยผมจะให้เงินเดือนคุณเอง ผมจะให้คุณอยู่ที่คอนโ
บ่ายนี้กชณิชาไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิดแต่เธอก็พยายามเคลียร์งานตรงหน้าให้เสร็จทันตามเวลาหญิงสาวอยากจะโทรศัพท์ไปถามธามนิธิว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังเลยสักครั้ง เมื่อวานชายหนุ่มเพิ่งพูดว่าจะบอกคนอื่นเรื่องที่คบกับเธอในงานปีใหม่ แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีเรื่องคู่หมั้นของเขามาให้เธอได้ยินกชณิชาอยากโทรศัพท์ไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่คิดว่าคงไม่ได้รับคำตอบอย่างแน่นอนหญิงสาวเลยคิดจะไปดักรอเขาที่ลานจอดรถเมื่อถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ไปยืนแอบอยู่ที่เสาต้นใหญ่ใกล้รถของธามนิธิและคิดว่าเมื่อเขามาถึงเธอจะเข้าไปถามเขาให้รู้เรื่อง หญิงสาวรอด้วยหัวใจที่เต้นแรงและหวังว่าเรื่องที่วนิดาได้ยินมามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเธอยืนแอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางลานจอดรถ ตอนนี้เหลือเพียงแค่รถของธามนิธิเพียงคันเดียวเท่านั้นเธอกำลังจะก้าวขาออกมาแต่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดเขามาเสียก่อน“พี่ธามคะคุณแม่บอกว่าวันเสาร์นี้เราต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันนะคะพี่ธามว่างไหมคะ”“ไม่ว่างก็ต้องว่างนั่นแหละ แล้วยุ้ยล่ะโอเคไหมสำหรับงานแต่งงาน”“โอเคค่ะ สำหรับ
เพราะตนเองก็มีใจให้กับธามนิธิอยู่แล้วกชณิชาจึงใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เธอเห็นถึงความพยายามของเขาที่ทั้งโทรศัพท์มาหาและตามรับส่ง หญิงสาวก็ยอมตกลงคบกับเขาการคบกันครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินหรือสัญญาเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ทั้งสองก็ยังไม่บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคุณสุจิตราเลขาของชายหนุ่มเองก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับกชณิชาเลยเพราะเธอเองก็ชอบที่จะอยู่เงียบๆ แบบนี้หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าสถานะของตนเองกับธามนิธินั้นจะคบกันได้นานแค่ไหนเธอรู้แค่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากธามนิธิเอาใจเธอทุกอย่างและเธอเองก็ตามใจเขาในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องบนเตียงซึ่งทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เธอกับเขาใช้เวลาในทุกๆ วันด้วยกันอย่างมีความสุขตอนนี้กชณิชาย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งเดิมแล้วโดยที่ธามนิธิก็ย้ายของใช้ของตนเองเข้ามาอยู่กับเธอด้วยหญิงสาวรู้ว่าเขาเองก็มีคอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งแต่เธอก็ไม่เคยถามหรืออยากจะไปที่นั่นเพราะเข้าใจดีว่าเขาก็อาจจะอยากมีโลกส่วนตัวเหมือนกับเธอที่ถึงแม้จะย้ายมาอยู่กับเขาได้เดือนกว่าแล้วแต่ก็ยังคงเช่าหอพักไว้อย่างเดิมและมักจะแวะไปทำความสะอาดอยู่บ่อยๆใ
ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ธามนิธิไม่ได้เจอกชณิชา เขาเว้นระยะเพราะคิดว่าถ้าห่างจากเธอแล้วความรู้สึกของตนเองจะชัดเจนขึ้นและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้เขารู้ใจตัวเองแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้กับกชณิชานั้นมันมากกว่าคู่นอนและอาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ ธามนิธิไม่อยากชักช้าอีกต่อไปเขาคิดว่าจากนี้จะจัดการทุกอย่างไปตามที่หัวใจตนเองต้องการชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหากชณิชาแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับสายเขาจึงใช้โทรศัพท์ภายในโทรไปที่โต๊ะทำงานของเธอ“สวัสดีค่ะแผนกธุรการค่ะ” กชณิชารับสาย“เกรซผมเองอย่าเพิ่งวางสายนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”“เกรซไม่มีเรื่องจะคุยอะไรกับคุณหรอกนะคะ”“แต่ผมมี”“คุณธามคะนี่มันเป็นเวลางานเกรซขอทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวกระซิบเพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมงานจะได้ยินว่าเธอคุยกับใคร“เกรซถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะไปหาคุณที่แผนกนะ” ธามนิธิขู่เสียงเข้ม“อย่านะคะ” หญิงสาวตกใจเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะมาหาที่แผนกตามที่พูดจริงๆ“ถ้าไม่อยากให้ผมไปหาคุณที่แผนกเย็นนี้เจอกันหน่อยได้ไหม”“แต่.....”“ไม่มีแต่นะเกรซครั้งนี้ผมขอสั่งคุณในฐานะเจ้าของบริษัทก็แล้วกัน คุณไปเจอผมร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมที่เราเคยไปด้วยกัน
ธามนิธิรู้สึกโกรธและโมโหมากที่กชณิชาไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยอมทำสัญญากับตนเองอีกครั้ง ครั้นจะไปบังคับเธอก็ไม่ใช่นิสัยของเขาหรือจะไปขอร้องเธอก็กลัวเสียศักดิ์ศรีวันนี้เขารู้สึกเบื่อๆ จริงออกมานั่งดื่มกับเพื่อนที่ผับประจำของพวกเขา“ว่าไงวะหายไปนานเลยวันนี้ไม่พาน้องเกรซมาด้วยเหรอ” ภากรทักทายเพื่อนเป็นคนแรก“จะพามาได้ยังไงล่ะตอนนี้หมดสัญญาแล้ว”“สามเดือนนี่ไวเหมือนกันนะ แล้วผู้หญิงคนต่อไปล่ะเป็นใครพามาให้เพื่อนรู้จักนะจะได้ไม่ทับทางกัน” ณัฐวิทย์พูดอย่างอารมณ์ดี เขารู้ว่าเพื่อนมักจะขาดผู้หญิงไม่ได้เมื่อคนเก่าครบสัญญาเขาก็จะหาคนใหม่มาทำสัญญาทันที“ตอนนี้เบื่อว่ะฉันยังไม่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่”“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำว่าเบื่อออกมาจากปากนายนะธาม”“ก็มันเบื่อจริงนี่กร”“แต่ท่าทางนายเหมือนคนอกหักเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า” ภากรสังเกตว่าวันนี้เพื่อนของตนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม“นิดหน่อยน่ะ”“มันเรื่องอะไรเหรอธาม ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลย”“นายว่าเกรซเป็นยังไงล่ะณัฐ”“เท่าที่ได้เจอกันสองสามครั้งฉันก็ว่าเธอเป็นคนน่ารักดีนะหรือที่ยังไม่ยอมมีคนใหม่เพราะเกิดต