เมื่อฉันถูกกล่าวหาว่าทำให้เขาเสียหาย และทำให้เขาต้องกลายมาเป็นผสระอัวของฉันและฉันต้องรับผิดชอบ มันใช่ที่ไหน! นี่มันครั้งแรกของฉันนะ! ส่วนนายมันกี่ร้อยครั้งมาแล้ว! อีตาคุณเรย์ตัวแสบเล่นฉันเข้าให้แล้วสิ!
view more@Darin
ในวันหนึ่งที่ฉันเลิกเรียนเกือบเย็น ก็เป็นอีกวันที่ฉันดูจะเบื่อๆ
ฉันชื่อ “ดาริน” หรือที่เพื่อนๆ ของฉัน ชอบเรียก “ริน”
ฉันเป็นเด็กบัญชีปีสอง มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะดังในระดับหนึ่ง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ฉันมีแฟนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ เขาเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี หากพูดง่ายๆ เขาเป็นพี่ปีสาม พี่เขาชื่อ “วิน”
ฉันกับเขาคบกันได้เกือบปีแล้ว หากนับเป็นเดือน นี้ก็ปาเข้าไปเดือนที่แปดกว่าๆ แล้ว
พี่เขามีนิสัยที่เจ้าชู้ ข้อนี้ฉันรู้ดี ตั้งแต่ก่อนคบกัน จนถึงตอนนี้ที่เขาคบกับฉันอยู่ เขาก็ยังเจ้าชู้อยู่ แต่ฉันก็ทำเป็นหลับตาหูหลับตา เพราะฉันเข้าใจดีว่าผู้ชายต้องมีความต้องการ และเพื่อให้ความต้องการของเขาไม่กระทบกับความรู้สึกของฉัน ฉันจึงปล่อยให้เขาหาที่ระบายความใคร่ของเขาบ้าง ฉันจึงไม่ได้โวยวายอะไร หรือต่อว่าอะไรเขาเลย
และอีกอย่างที่ฉันยอมเขาในเรื่องนี้ ก็เพราะฉันยังไม่ยอมมีอะไรกับพี่เขาเลยนะสิ ฉันถึงต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
และที่สำคัญสุด คือ ฉันยังไม่เชื่อใจว่าเขาจะหยุดอยู่ที่ฉันมั้ยนะ ฉันจึงไม่ต้องการที่จะมีอะไรกับเขาในตอนนี้
.....
“เฮย! ริน วันนี้กลับไงวะ!?” เสียงแพรวเพื่อนฉันหันมาถามเสียงใส ในวันที่แสนเบื่อหน่ายเช่นกัน
“วันนี้เราขี่มอไซค์มานะ กะจะแวะไปหาพี่วินที่คอนโดเขาก่อน” แพรวพยักหน้ารับรู้ว่าฉันกำลังจะไปไหนต่อ
“วันนี้พี่วินของแก ไม่มาเรียนเหรอ?” เหมยเพื่อนของฉันอีกคนถามต่อ กลุ่มฉันมีกันอยู่สามคน
“มาตอนเช้านะ แต่ตอนนี้กลับไปก่อนแล้วล่ะ เห็นว่าไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวเรากะจะแวะหาข้าว หายา เข้าไปให้พี่เขาหน่อย” ว่าแล้วก็ตอบคำถามเพื่อนไป
พี่วินเขาอยู่คอนโด ส่วนฉันอยู่หอพักที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ฉันจึงเลือกขับรถมอเตอร์ไซค์มา แต่เอารถยนต์จอดไว้ประดับหอพักเฉยๆ
“อือ งั้นเราขอตัวกลับก่อนนะพวก” ฉันกล่าวลาเพื่อนๆ
“เออ ขี่รถดีๆ ล่ะ” เพื่อนทั้งสองบอกลาเช่นกัน
ฉันก็โบกมือลาพวกมันทั้งสองแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่หอพักเพื่อเปลี่ยนรถที่จะใช้ขับไปหาพี่วินแฟนของฉัน ขืนขับมอเตอร์ไซค์ไปแบบนี้โดนบ่นตายแน่ๆ
@Condo Win
ฉันขับรถมาถึงคอนโดพี่วินแล้ว ตอนนี้กำลังขึ้นลิฟต์ตรงไปที่ห้องของพี่เขา ในมือของฉันมีโจ๊กที่ทำเองจากหอใส่กล่องมาอย่างดีเพื่อให้เขาได้ทานรองท้องก่อนกินยา
ฉันเดินมาถึงหน้าห้องพี่เขาแล้ว พร้อมกับคีย์การ์ดที่อยู่ในมือ ฉันหยิบมันขึ้นมา และแตะไปตรงจุดสัญญาณเพื่อเปิดห้องอย่างความเคยชิน
แต่พอฉันเปิดเข้ามาภายในห้อง สิ่งแรกที่ฉันเจอ คือ รองเท้าผู้หญิงหนึ่งคู่ เสื้อผ้าที่ถอดระเนระนาด ทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง มันกระจายอยู่ตามทางเดินจนถึงทางเข้าห้องนอน
แถมมีเสียงครางออกมาให้ฉันได้ยินด้วยนี้สิ!!!
“ฮึ! นี่อีกแล้ว!” ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ หากส่องกระจกในตอนนี้ หน้าตาฉันคงดูไม่ได้ ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ และไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่ฉันคิดในใจตอนนี้ คือ ....
ฉันตัดสินใจนั่งรอพวกเขาอยู่ที่โซฟา ฉันไม่ต้องการเข้าไปขัดช่วงที่ทั้งคู่สมสู่กัน
ขณะที่ฉันนั่งรอ ใช่ว่าฉันจะนั่งเป็นท่อนไม้ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก และความคิดที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ประเดประดังเข้ามามากมายภายในหัวของฉัน
โจ๊กที่ถือมาในมือ แถมยังทำมาให้เพราะเป็นห่วง ตอนนี้ฉันมองมันด้วยหางตา … ทำเอาฉันอยากจะเขวี้ยงทิ้งไปให้พ้นๆ ทาง แต่ก็นั้นล่ะ ฉันก็ว่างมันอยู่ตรงนั้นตามเดิม พร้อมยาที่เตรียมมา
ฉันนั่งคิดไปคิดมา จนในที่สุด ... มันก็ทำให้ฉันคิดได้ “ต่อให้ฉันดีแค่ไหน เขาก็คงไม่หยุดที่ฉัน ฮึฮึฮึ”
@Darin พอฉันจะนอนฉันจะนอนพักเอาแรง แม่!!! ... พ่อตัวดีกลับจากทำงานก็เอาแรงมาลงที่ฉัน จัดฉันชุดใหญ่ทุกคืน ฉันไม่กลายเป็นศพก็บุญแค่ไหนแล้ว “รินคราบ ช่วงนี้พี่วุ่นอยู่กับสาขาใหม่จริงๆ ไหนจะบริษัทพ่อพี่ที่ท่านให้พี่ดูแลอีก รินเข้าใจพี่หน่อยนะครับ” อีตาพี่เรย์เสียงอ่อย “รินเข้าใจ แต่พี่ก็ต้องเข้าใจรินด้วยสิ รับปากรินว่าจะช่วยดูแลตาหนูกับยัยหนู แต่ทำไม่ได้อย่างนี้ ลูกๆ ก็อยากเจอพ่อมันเหมือนกันนะ หากไม่เห็นใจริน ก็เห็นแก่ลูกบ้างสิ” ฉันนอยด์เขามาก เขากลับบ้านลูกก็หลับแล้ว เด็กๆ ก็อยากเจอพ่อของเขานะ “แหม้ะๆ แงๆ!!” เสียงยัยหนูดาที่นั่งคาร์ซืที่เบาะหลังคู่กับพี่ชายของเขาร้องออกมา “ยัยหนู ไม่ร้องลูก” ฉันหันไปมองลูกสาวที่เริ่มส่งเสียงร้อง เหมือนเขารับรู้ถึงการทะเลาะกันของพ่อกับแม่ เช่นเดียวกับตาหนูที่เริ่มส่งเสียงร้องเช่นกัน “แม่ งือๆ!!” ฉันเอามือลูบแขนลูก และเบาเสียงตัวเองลง “เห็นไหม ลูกร้อยเลย!” ฉันทำตาดุใส่คนขับรถ แต่เสียงที่ส่งไปหาเบาเท่าที่เบาได้ เพื่อไม่ให้ลูกๆ ตกใจ “โอ๋ๆๆ ตาหนูยัยหนู ไม่ร้องนะคะ เดี๋ยวแม่พาไปหาอะไรอร่อยๆ ทาน ... ตาหนูเด็กดีไม่ร้องนะคะ เดี๋ย
3 ปีผ่านไป บ้านฉัน@Darin ใครว่า ... ครอบครัวเล็กของเรา!!! ให้ตายเถอะ อีตาพี่เรย์จอมหื่น ดันชอบเด็ก อยากมีเด็กเล็กๆ ให้เต็มบ้าน ฉันที่เรียนจบ แต่งงานทันที และมีลูก ฉันได้ลูกชายคนแรก คลอดในเดือนกันยายนของปีที่ฉันแต่งงาน ผ่านมาสามปี ฉันก็ได้ลูกสาวเพิ่มอีกคน ลูกชายฉันชื่อ นครินทร์หรือรินทร์ อายุสองขวบ ส่วนลูกสาวณดาหรือดาอายุเกือบขวบ และฉันคิดว่าอีกไม่นานคงจะมีลูกคนที่สามตามมาติดๆ นี้อีกเป็นแน่ ทำไมนะหรือ!!! ก็อีตาพี่เรย์ เขาอยากมีลูกอีกนะสิ เขาไม่ยอมให้ฉันทำหมัน ไม่ยอมให้ฉันกินยาคุม และไม่ยอมใช้ถุงยาง บอกปล่อยเป็นธรรมชาติ ขอลูกซักสามคนก่อน ค่อยว่ากันว่าจะพอแค่นี้หรือจะจัดเพิ่ม เรื่องมีลูกเยอะป๊าฉันนี้ยิ้มหน้าบาน เห็นดีเห็นงามไปกับพ่อลูกเขยจอมหื่นสุดๆ ก็ป๊าฉันท่านเป็นคนจีน และชื่นชอบการมีลูกเยอะๆ อยู่แล้ว จะลูกสาวลูกชาย ป๊าฉันชอบหมด “แม่ค้าบ ปะป๊าไปหนาย” ลูกชายคนโตเดินคล่องปรื๋อมาหาฉันที่กำลังกล่อมลูกสาวให้หลับ “ชู่ว~ .. น้องหลับอยู่นะ” ฉันยกนิ้วชี้ขึ้นกลางริมฝีปากตัวเอง มองลูกชายที่กำลังถามหาพ่อ สงสัยอยากเล่นขี่หลังพ่อเขาแน่ๆ “ปะป๊าหนาย~”
บ้านดาริน ห้องโถงกลางบ้าน@Darin และแล้ววันเวลาที่ฉันเราเหล่าเรียนมาตลอดเวลา 4 ปี ก็สิ้นสุดลง และมันก็ผ่านจนถึงกลางปีได้ พร้อมกับที่ฉันรอรับใบปริญญาในต้นปีหน้า นอกจากที่ฉันจะได้ใบปริญญาหลังเรียนจบ ฉันยังได้ปริญญาใจมาด้วย นั้นก็คือลูกชายคนแรกของฉันกับพี่เรย์ และหลานคนแรกของพ่อปู่แม่ย่า พ่อตาแม่ยายด้วย ตอนนี้เจ้าตัวเล็กอยู่ในครรภ์ฉันมาแล้วหก เดือน อีกเพียงสามเดือนเขาก็ลืมตาดูโลกใบนี้แล้ว เพื่อให้ครอบครัวฉันสมบูรณ์และเป็นไปตามขนบธรรมเนียม ทางผู้ใหญ่จึงได้หาฤกษ์ให้ฉันกับพี่เรย์ได้เป็นฝั่งเป็นฝาอย่างเป็นทางการ ฉันที่อยู่ในชุดเจ้าสาว ที่สามารถใส่ได้พอดี ขนาดว่าฉันตั้งท้องมาแล้วหกเดือน แต่ด้วยความที่เป็นท้องแรกจึงไม่ได้ใหญ่มากนัก หากมองผิวเผินจะเหมือนคนตัวอวบๆ เท่านั้น อีกอย่างชุดเจ้าสาวที่ฉันเลือกก็เป็นแนวชุดเจ้าสาวแบบใหม่แบบสับ ฉบับที่ใส่กับรองเท้าผ้าใบ เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่อยากใส่ส้นสูง ก็คนมันท้อง ฉันก็ต้องป้องกันไว้ก่อน ผ้าใบปลอดภัยที่สุด อีตาพี่เรย์ก็เห็นด้วย เขาชอบใส่เสื้อผ้าสบายๆ อยู่แล้ว ชุดเจ้าบ่าวก็เลยเข้ากับชุดของฉัน ด้วยสไตล์เท่ๆ ง่ายๆ ยุคใหม่ไม่ค่อ
โรงพยาบาล@Ray “ญาติคุณดารินใช่มั้ยคะ?” พยาบาลเดินออกมาจากห้องตรวจ “ครับ ผม สามีเธอครับ” ผมเดินตรงดิ่งไปหาพยาบาลเพื่อสอบถามว่าดารินเป็นอะไร พยาบาลยิ้มหน้าบานให้ผม “ทางเรายินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ แล้วค่ะ” ผมยิ้มอย่างลืมตัว “อะ .. อะ ครับ ขอบคุณครับ” “ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อ” พยาบาลยังคงแสดงความยินดีกับผม “พี่เรย์” เสียงดารินที่เปิดประตูออกมาจากห้องตรวจ ดูสีหน้าท่าทางเหมือนจะดีใจ หรือจะร้องให้ ผมบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ ผมนะดีใจ กูจะเป็นพ่อคนแล้วเว้ย ไอ้เรย์!!! “ริน” ผมรีบลุกไปหาเธอเมื่อเธอเปิดประตูแล้วเดินออกมาเอง “รับยาและจ่ายเงินตามนี้นะคะ ส่วนรายละเอียดทางเภสัชจะชี้แจงอีกทีนะคะ” พยาบาลยื่นเอกสารรายการยาและค่าใช้จ่ายให้กับผม “ครับ ขอบคุณครับ” ผมยื่นมือไปรับพร้อมกับกล่าวของคุณ “พี่เรย์ ...” ดารินเรียกชื่อผม เธอกอดผมแน่น “พ่อกับแม่จะว่าไงคะ?” ดูเธอกังวลสุดๆ “ไม่ต้องกลัว” ผมปลอบเธอ “รินกลัว ก็ ... ก็เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนี่ค่ะ” “รินจะกลัวอะไร เราก็จดทะเบียนสมรสกันแล้วนะ อย่าลืมสิ เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว
ตึกเรียนสาขาบัญชี มหาวิทยาลัย@Darin หลังปีใหม่มา การเรียนของฉันก็เหลือการสอบสัมมนาในเดือนนี้ และเดือนหน้าก็สอบโปรเจคจบ มันทำให้ฉันมีความเครียดสะสมพอสมควร “อุ้บ ... แหวะ ... แหวะ~” ฉันที่อยู่ในห้องน้ำของอาคารเรียน โกงคออ้วกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า ฉันอ้วกนานพอดู จนเพื่อนทั้งสองของฉันที่กำลังเฝ้าดูอาการฉันรู้สึกเป็นห่วง ยืนค้ำเอวถามหน้าห้องน้ำ “มึงเป็นอะไรวะหมู่นี้ บางวันก็หน้ามืด บางวันอ้วก” “กู น่าจะเครียดนะ... อือ ... อุ้บ ... แหวะ ... แหวะ~” หลังจากที่ฉันอ้วกครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ พอเวยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก ก็เห็นภาพซ้อนทับ 2 3 ภาพได้ ทำเอาฉันตาลาย ปวดหัว จนฉันมองอะไรไม่เห็นอีก “ไอ้รินมึง!!!” เสียงของแพร และเหมยเรียกฉัน ในตอนที่ฉันพยายามเดินออกไปหาพวกมัน แล้วภาพก็ตัดไปCLUB 94@Ray ผมที่เข้าสู่โหมดการทำงานที่ยุ่งจนตัวเป็นเกลียว เพราะใกล้รอบการส่งบัญชีจ่ายภาษีรายปีอีกแล้ว เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ทำเอาผมต้องหยุดมือจากเอกสาร หยิบมันขึ้นมารับในทันที ผมรู้ว่าใครโทรมา เพราะเสียงที่ผมตั้งไว้มีเพียงเฉพาะเมียเท่านั้นที่สามารถใช้เสียงนี้ได้ “ว่าไงครับ”
“แล้วปีใหม่นี้พวกมึงจะไปทะเลบ้านกูไหม ว่าไงเหมยไม่อยากไปเล่นน้ำทะเลบ้างเหรอเพื่อน?” ยัยแพรวหันไปหาเหมย และหันมาถามฉัน “แล้วมึงล่ะ พี่เรย์พามึงไปเที่ยวไหมวะ ... หากไม่มีที่ไป ไปเที่ยวบ้านกูไหม?” ยัยแพรวเปลี่ยนบทสนทนา หาเพื่อนเที่ยว นี้ก็จะปีใหม่แล้ว อีก 2 อาทิตย์เอง ฉันกับพี่เรย์ยังไม่มีเพลนไปไหนเลย เพราะช่วงเทศกาลคลับพี่เรย์คนเน้น และงานของเขาก็คงรัดตัว “ปีใหม่ฉันคงไม่ได้ไปไหน พี่เรย์งานเยอะ ต้องหลังปีใหม่ถึงจะว่าง” ฉันตอบตามความจริง “อือ ก็จริงของมึง มีผัวทำงานด้านนี้ก็ช่วยไม่ได้นะมึง” ยัยแพรวเสียดสีความที่ฉันมีแฟน “พวกแกก็มาเที่ยวคลับพี่เรย์แทนสิ” ฉันหาลูกค้าซะเลย “แกเลี้ยงไหมล่ะ พวกฉันยังเป็นเด็กนักศึกษาอยู่เลยนะ” ยัยเหมยแอบทำเป็นยาจก “หากมึงไม่มีเงิน กูก็ไม่มีมีแล้ว ยัยเศรษฐีไร่อ้อย” ฉันแดกดันเหมย “มึงก็ด้วยยัยแพรว บ้านมึงรวยกว่ากูอีก ทั้งโรงแรม ห้องเช่าแถวกะทู้ หากพวกมึงไม่รวยแล้วใครจะรวยวะ” ฉันแดกดันรอบสอบไปที่เพื่อนทั้งสอง “เอ่อๆ ปีใหม่พวกกูไปฉลองที่ร้านพี่เรย์มึงก็ได้” ความมีเหตุผลของฉันย่อมชนะ ฉันยิ้มหน้าบาน ได้ลูกค้ามาเพิ่ม “
Mga Comments