ธามนิธิเคลียร์งานที่คั่งค้างบนโต๊ะทำงานอย่างตั้งใจเพราะอีกสองวันเขาก็จะต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้ว เขาอยากจะเปลี่ยนใจกับเรื่องที่บอกเลขาไปเหลือเกินว่าไม่อยากพาผู้หญิงคนไหนไปด้วยเพราะตั้งแต่เห็นรูปที่เลขาส่งให้ชายหนุ่มก็เอาแต่รอวันที่จะได้เจอกับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าจะให้เธอเดินทางไปต่างประเทศด้วยมันก็คงจะกะทันหันเกินไปชายหนุ่มจึงคิดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานน่าจะดีกว่าเพราะถ้าหากกลับมาจากต่างประเทศแล้วเขาจะเรียกใช้งานเธอทันที ธามนิธิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าเธอแล้วยิ้ม
ผู้หญิงผิวขาวดวงตากลมโตผมสีบลอนด์ทองดัดลอนเล็กๆ ส่งให้น่าดูเด็กกว่าอายุจริงมาก เธอไม่ได้สวยจัดเหมือนจีน่าผู้หญิงคนล่าสุดของเขาแต่เธอดูสวยมีเสน่ห์มากจนชายหนุ่มอยากจะรู้เหลือเกินว่าเวลาที่เธอกับเขาอยู่บนเตียงเธอจะทำให้เขามีความสุขมากแค่ไหนเพียงแค่คิดชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างจนต้องรีบเก็บโทรศัพท์ลงเพราะกลัวว่าตนเองจะเสียสมาธิจนไม่สามารถทำงานตรงหน้าต่อได้
เขานั่งทำงานจนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูจากเลขาเมื่อเธอเปิดเข้ามาเขาก็รีบถามถึงเรื่องที่ให้เธอไปจัดการทันที
“เรื่องที่ให้จัดการเรียบร้อยดีไหมคุณจี๊ด”
“กำลังดำเนินเรื่องอยู่ค่ะคุณธามเสาร์หน้าจี๊ดจะเข้าไปที่โมเดลลิ่งอีกครั้ง แต่ตอนนี้ก็สั่งให้เขาตรวจเลือดและฉีดยาคุมรอไว้แล้วค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ว่าแต่คุณธามเถอะค่ะสนใจผู้หญิงคนนี้แน่ๆ ใช่ไหม”
“แน่สิผมอยากเจอเธอตอนนี้เลยด้วยซ้ำ”
“ไม่ได้นะคะคุณธาม” สุจิตรารีบร้องห้าม
“ผมรู้หรอกน่าว่าทุกอย่างมันต้องทำตามขั้นตอน”
“คุณธามไม่คิดจะเปลี่ยนใจแน่ใช่ไหมคะ จี๊ดส่งรูปมาให้คุณธามดูอีกหลายรูปเลย บางคนก็สวยกว่าน้องคนนี้มากๆ” สุจิตราถามเพราะอยากให้เจ้านายมองหาผู้หญิงคนใหม่
“ไม่ล่ะผมถูกใจคนนี้ ฝ่ายนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะก็แค่อยากให้คุณธามได้เจอคนที่ถูกใจมากจริงๆ”
“ครั้งนี้คุณดูแปลกนะเหมือนไม่อยากจะให้ผมจ้างคนนี้เลยนะ มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่า”
“จี๊ดกลัวคุณถามจะไม่ถูกใจทางโมเดลลิ่งบอกมาว่าน้องเขาไม่เคยรับงานแบบนี้ก็กลัวจะทำงานได้ไม่เต็มที่”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” ธามนิธิพูดแล้วยิ้มที่มุมปาก ถ้าหญิงสาวยังไม่เคยผ่านผู้ชายมามันก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเรื่องบนเตียงมันสามารถสอนกันได้ อันที่จริงเขาก็นอนกับผู้หญิงได้ทุกคนนั่นแหละไม่สนใจหรอกว่าเธอจะผ่านใครมาบ้างแต่เมื่อได้ยินว่าเธอยังไม่เคยมีประสบการณ์มันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเพราะนานมาแล้วที่เขาไม่เคยนอนกับผู้หญิงบริสุทธิ์ ถึงแม้จะรู้ว่าครั้งแรกเธออาจจะไม่เป็นงานแต่ชายหนุ่มก็คิดว่าประสบการณ์อันโชกโชนของเขาจะสามารถทำให้เธอเก่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นจี๊ดจะจัดการให้นะคะ แต่ถ้าคุณธามนึกอยากจะเปลี่ยนใจก็บอกจี๊ดได้เลยก่อนที่คุณธามจะกลับมาจากต่างประเทศ”
“แต่ผมคิดว่าคงไม่เปลี่ยนใจหรอก” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจเพราะเพียงแค่เห็นรูปถ่ายเขาก็รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้มากๆ
“ค่ะคุณธาม ถ้าอย่างนั้นจี้ดขอตัวไปทำงานต่อนะคะ แฟ้มพวกนี้คุณธามก็อย่าลืมเซ็นชื่อก่อนไปด้วยนะคะ” เลขาสาววางแฟ้มลงบนโต๊ะทำงานของเจ้านายแล้วก็เดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียด
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของรองประธานบริษัทแล้วสุจิตราก็โทรศัพท์ไปยังฝ่ายธุรการสั่งงานบางอย่างก่อนจะนั่งทำงานของตนเองตามปกติจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน
“คุณจี๊ดทำไมยังไม่เตรียมตัวกลับบ้านอีกล่ะ” ธามนิธิถามเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วเห็นว่าเลขาของตนยังนั่งทำงานอยู่และบนโต๊ะก็ยังมีแฟ้มกระจัดกระจายต่างจากทุกครั้งที่โต๊ะทำงานของเธอจะเรียบร้อยพร้อมจะกลับบ้าน
“จี๊ดมีงานต้องเคลียร์นิดหน่อยค่ะ”
“ผมใช้งานหนักคุณหนักเกินไปใช่ไหมครับ”
“ไม่หรอกค่ะช่วงที่คุณทางไปต่างประเทศจี๊ดก็จะว่างานอีกนานเลยเพราะฉะนั้นมันก็ถือว่าเป็นการทดแทนกับช่วงที่จะทำงานหนักได้ค่ะ”
“ถ้างั้นผมกลับก่อนแล้วกันนะอย่าลืมเรื่องที่เราคุยกันล่ะ” ชายหนุ่มย้ำกับเธออีกครั้ง
เมื่อเจ้านายออกไปแล้วสุจิตราก็ถอนหายใจเพราะดูเหมือนครั้งนี้เจ้านายจะถูกใจกับผู้หญิงที่เธอส่งรูปให้เอามากๆ แต่มันก็เกิดปัญหาเพราะมันมีเงื่อนไขบางข้อที่เขายังไม่ได้บอกเจ้านายของตน
หญิงสาวนั่งทำงานอยู่อีกสักพักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก็เงยหน้าขึ้นทักทาย”
“สวัสดีจ้ะ”
“สวัสดีค่ะ คุณคือคุณจี๊ดที่เรียกเกรซมาพบใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ หรือเกรซทำอะไรผิด”
“เปล่าหรอกหรอกมันเป็นเรื่องส่วนตัว”
“เรื่องส่วนตัวเหรอคะคุณจี๊ด”
“ไม่ต้องเรียกว่าคุณจี๊ดก็ได้เรียกว่าพี่จี๊ดก็พอ”
“ค่ะพี่จี๊ด”
“พี่ว่าเราไปคุยกันในห้องประชุมเล็กดีกว่านะพี่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราคุยเรื่องอะไรกัน”
“ค่ะพี่จี๊ด”
กชณิชาเดินตามเลขานุการของรองประธานเข้าไปในห้องประชุมเล็ก เธอไม่เคยเจอกับคุณสุจิตรามาก่อนและไม่รู้เลยว่าคุณสุจิตราคนนี้จะมีธุระส่วนตัวอะไรคุยกับเธอ ตอนที่หัวหน้าแผนกแจ้งว่าเลขานุการของรองประธานอยากจะเจอหญิงสาวก็เกิดคำถามขึ้นมากมายในหัว
“พี่ไม่อยากจะอ้อมค้อมอะไรมากพี่อยากให้เกรซดูรูปในไอแพดและบอกพี่ว่าผู้หญิงคนนี้เกรซหรือเปล่า”
คุณสุจิตราส่งไอแพดที่เปิดรูปค้างไว้ให้กับกชณิชาเมื่อหญิงสาวเห็นรูปตัวเองในนั้นก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าคุณสุจิตราจะมีรูปถ่ายของเธอที่ส่งให้กับทางโมเดลลิ่งของพี่พลอยใส
สุจิตราสังเกตอากัปกิริยาของหญิงสาวก็พอจะเดาออกว่านั่นใช่เธอจริงๆ แต่ดูลักษณะตอนนี้กับในรูปมันแตกต่างกันอย่างมากตอนนี้หญิงสาวสวมแว่นตากรอบสีดำค่อนข้างหนา ผมก็มัดเรียบตึงแล้วผมสอดเข้าไปได้เน็ตด้านในทำให้ดูแก่กว่าอายุมากแล้วถ้าไม่บอกว่าผู้หญิงในรูปกับเธอเป็นคนคนเดียวกันก็ไม่มีทางรู้ได้เลย
“คนในรูปคือเกรซค่ะพี่จี๊ดได้รูปนี้มาจากไหนคะ”
“แล้วเกรซเอารูปนี้ให้ใครบ้างล่ะ”
“รูปนี้เกรซส่งให้พี่พลอยที่โมเดลลิ่งค่ะ ที่พี่เรียกเกรซมาคุยก็เพราะเรื่องที่เกรซไปทำงานที่นั่นใช่ไหม เกรซขอร้องพี่จี๊ดได้ไหมคะว่าไม่ให้บอกใครว่าเกรซไปทำงานที่นั่น”
“ลองบอกเหตุผลพี่มาสิว่าทำไมต้องไปทำงานที่นั่นทั้งที่ตัวเองมีงานประจำทำเป็นหลักแหล่งแล้ว””
สุจิตรารู้มาจากพลอยใสว่าหญิงสาวมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินแต่ไม่รู้ว่าความจำเป็นนั้นมันคืออะไรและเธอคิดว่าจะต้องรู้เหตุผลก่อนที่จะดำเนินการขั้นต่อไปกับผู้หญิงคนนี้
“เกรซมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากและด่วนด้วยค่ะ เกรซจะยืมเงินจากบริษัทอายุงานก็ได้แค่หนึ่งปี แต่เกรซจะทำงานครั้งนี้แค่ครั้งเดียวจากนั้นคิดจะเลิกทำงานนี้อย่างเด็ดขาด พี่จี๊ดอย่าบอกใครได้ไหมคะ เกรซขอร้อง”
“ความจำเป็นที่ว่ามันคืออะไร”
เกือบสองเดือนแล้วที่ธามนิธิไม่ได้ข่าวคราวของกชณิชาเลย เขาไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหนเพราะไม่รู้จักเพื่อนหรือครอบครัวของหญิงสาวเลย ในทุกวันจึงได้แต่หวังว่าจะบังเอิญเจอกับเธอที่ไหนสักแห่งชายหนุ่มไปยังร้านอาหารที่เคยพาหญิงสาวไปทาน บางครั้งก็ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่เคยพาเธอไปเดินซื้อของแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาธามนิธิไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัวหญิงสาวเลยสักนิดชายหนุ่มให้คุณสุจิตราติดต่อไปที่โมเดลลิ่งแต่ก็ทางโมเดลลิ่งก็บอกว่าหญิงสาวไม่ได้ติดต่อมาที่นี่นานแล้วชายหนุ่มได้เบอร์โทรศัพท์ของกัญญาวีร์มาจากโมเดลลิ่งเขาโทรไปถามเธอแต่กัญญาวีร์ก็บอกว่าเธอเองก็ไม่ได้เจอกับกชณิชานานแล้วเหมือนกันเขาไม่รู้เลยว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างเธอจะทำงานที่ไหน มีชีวิตที่สุขสบายดีหรือเปล่าและจะคิดถึงเขาบ้างไหม ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงเธอวันนี้เขารู้สึกเซ็งสุดขีดเนื่องจากเพื่อนสนิทอย่างภากรและณัฐวิทย์ไม่ว่างทำให้เขาต้องออกมานั่งดื่มที่ผับแห่งนี้ตามลำพังธามนิธิเลือกที่จะนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์แทนการขึ้นไปนั่งบริเวณโซนวีไอพีชั้นสองอย่างเคยเพราะขึ้นไปนั่งบนนั้นคนเดียวก็รู้สึกเหงา ชายหนุ่มนั่งดื
ธามนิธิรู้เรื่องลาออกของกชณิชาก็ตกใจเป็นอย่างมากเขารีบโทรศัพท์มาคุยกับเธอทันทีเมื่อทราบเรื่อง“ผมว่าเราต้องคุยกันนะเกรซว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเกรซต้องลาออกด้วย”“คุณธามยังจะต้องถามเกรซอีกเหรอคะ คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไมเกรซถึงต้องลาออก”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ”“คุณอย่าทำเหมือนไม่รู้เรื่องเลยนะคะ เกรซรู้หมดแล้วว่าคุณมีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า”“ผมขอโทษที่ไม่บอก ผมไม่คิดว่ายุ้ยจะกลับมาเร็วแบบนี้”“คุณรู้มาตลอดว่าคุณมีคู่หมั้นแต่คุณก็มาขอคบกับเกรซ เกรซคงเป็นแค่ผู้หญิงคั่นเวลาสำหรับคุณใช่มั้ยคะ”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะเกรซ”“คุณธามไม่คิดแล้วทำไมถึงมาขอคบกับเกรซทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะคะ”“มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะเกรซ”“แล้วมันเป็นแบบไหนคะ”“ที่ผมบอกคุณว่าจะบอกทุกคนเรื่องของเราในงานปีใหม่ผมพูดจริงนะเกรซจากนั้นผมก็จะบอกคุณพ่อคุณแม่ให้ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับยุ้ย”“แต่มันก็สายเกินไปแล้วค่ะคุณธาม ตอนนี้คุณสองคนกำลังจะแต่งงานกันแล้วจะให้เกรซทนทำงานอยู่ในบริษัทได้ยังไงคะ”“แล้วคุณจะไปทำงานที่ไหนล่ะเกรซ เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคุณไม่ต้องทำงานเลยผมจะให้เงินเดือนคุณเอง ผมจะให้คุณอยู่ที่คอนโ
บ่ายนี้กชณิชาไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิดแต่เธอก็พยายามเคลียร์งานตรงหน้าให้เสร็จทันตามเวลาหญิงสาวอยากจะโทรศัพท์ไปถามธามนิธิว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังเลยสักครั้ง เมื่อวานชายหนุ่มเพิ่งพูดว่าจะบอกคนอื่นเรื่องที่คบกับเธอในงานปีใหม่ แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีเรื่องคู่หมั้นของเขามาให้เธอได้ยินกชณิชาอยากโทรศัพท์ไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่คิดว่าคงไม่ได้รับคำตอบอย่างแน่นอนหญิงสาวเลยคิดจะไปดักรอเขาที่ลานจอดรถเมื่อถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ไปยืนแอบอยู่ที่เสาต้นใหญ่ใกล้รถของธามนิธิและคิดว่าเมื่อเขามาถึงเธอจะเข้าไปถามเขาให้รู้เรื่อง หญิงสาวรอด้วยหัวใจที่เต้นแรงและหวังว่าเรื่องที่วนิดาได้ยินมามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเธอยืนแอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางลานจอดรถ ตอนนี้เหลือเพียงแค่รถของธามนิธิเพียงคันเดียวเท่านั้นเธอกำลังจะก้าวขาออกมาแต่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดเขามาเสียก่อน“พี่ธามคะคุณแม่บอกว่าวันเสาร์นี้เราต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันนะคะพี่ธามว่างไหมคะ”“ไม่ว่างก็ต้องว่างนั่นแหละ แล้วยุ้ยล่ะโอเคไหมสำหรับงานแต่งงาน”“โอเคค่ะ สำหรับ
เพราะตนเองก็มีใจให้กับธามนิธิอยู่แล้วกชณิชาจึงใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เธอเห็นถึงความพยายามของเขาที่ทั้งโทรศัพท์มาหาและตามรับส่ง หญิงสาวก็ยอมตกลงคบกับเขาการคบกันครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินหรือสัญญาเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ทั้งสองก็ยังไม่บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคุณสุจิตราเลขาของชายหนุ่มเองก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับกชณิชาเลยเพราะเธอเองก็ชอบที่จะอยู่เงียบๆ แบบนี้หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าสถานะของตนเองกับธามนิธินั้นจะคบกันได้นานแค่ไหนเธอรู้แค่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากธามนิธิเอาใจเธอทุกอย่างและเธอเองก็ตามใจเขาในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องบนเตียงซึ่งทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เธอกับเขาใช้เวลาในทุกๆ วันด้วยกันอย่างมีความสุขตอนนี้กชณิชาย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งเดิมแล้วโดยที่ธามนิธิก็ย้ายของใช้ของตนเองเข้ามาอยู่กับเธอด้วยหญิงสาวรู้ว่าเขาเองก็มีคอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งแต่เธอก็ไม่เคยถามหรืออยากจะไปที่นั่นเพราะเข้าใจดีว่าเขาก็อาจจะอยากมีโลกส่วนตัวเหมือนกับเธอที่ถึงแม้จะย้ายมาอยู่กับเขาได้เดือนกว่าแล้วแต่ก็ยังคงเช่าหอพักไว้อย่างเดิมและมักจะแวะไปทำความสะอาดอยู่บ่อยๆใ
ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ธามนิธิไม่ได้เจอกชณิชา เขาเว้นระยะเพราะคิดว่าถ้าห่างจากเธอแล้วความรู้สึกของตนเองจะชัดเจนขึ้นและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้เขารู้ใจตัวเองแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้กับกชณิชานั้นมันมากกว่าคู่นอนและอาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ ธามนิธิไม่อยากชักช้าอีกต่อไปเขาคิดว่าจากนี้จะจัดการทุกอย่างไปตามที่หัวใจตนเองต้องการชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหากชณิชาแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับสายเขาจึงใช้โทรศัพท์ภายในโทรไปที่โต๊ะทำงานของเธอ“สวัสดีค่ะแผนกธุรการค่ะ” กชณิชารับสาย“เกรซผมเองอย่าเพิ่งวางสายนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”“เกรซไม่มีเรื่องจะคุยอะไรกับคุณหรอกนะคะ”“แต่ผมมี”“คุณธามคะนี่มันเป็นเวลางานเกรซขอทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวกระซิบเพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมงานจะได้ยินว่าเธอคุยกับใคร“เกรซถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะไปหาคุณที่แผนกนะ” ธามนิธิขู่เสียงเข้ม“อย่านะคะ” หญิงสาวตกใจเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะมาหาที่แผนกตามที่พูดจริงๆ“ถ้าไม่อยากให้ผมไปหาคุณที่แผนกเย็นนี้เจอกันหน่อยได้ไหม”“แต่.....”“ไม่มีแต่นะเกรซครั้งนี้ผมขอสั่งคุณในฐานะเจ้าของบริษัทก็แล้วกัน คุณไปเจอผมร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมที่เราเคยไปด้วยกัน
ธามนิธิรู้สึกโกรธและโมโหมากที่กชณิชาไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยอมทำสัญญากับตนเองอีกครั้ง ครั้นจะไปบังคับเธอก็ไม่ใช่นิสัยของเขาหรือจะไปขอร้องเธอก็กลัวเสียศักดิ์ศรีวันนี้เขารู้สึกเบื่อๆ จริงออกมานั่งดื่มกับเพื่อนที่ผับประจำของพวกเขา“ว่าไงวะหายไปนานเลยวันนี้ไม่พาน้องเกรซมาด้วยเหรอ” ภากรทักทายเพื่อนเป็นคนแรก“จะพามาได้ยังไงล่ะตอนนี้หมดสัญญาแล้ว”“สามเดือนนี่ไวเหมือนกันนะ แล้วผู้หญิงคนต่อไปล่ะเป็นใครพามาให้เพื่อนรู้จักนะจะได้ไม่ทับทางกัน” ณัฐวิทย์พูดอย่างอารมณ์ดี เขารู้ว่าเพื่อนมักจะขาดผู้หญิงไม่ได้เมื่อคนเก่าครบสัญญาเขาก็จะหาคนใหม่มาทำสัญญาทันที“ตอนนี้เบื่อว่ะฉันยังไม่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่”“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำว่าเบื่อออกมาจากปากนายนะธาม”“ก็มันเบื่อจริงนี่กร”“แต่ท่าทางนายเหมือนคนอกหักเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า” ภากรสังเกตว่าวันนี้เพื่อนของตนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม“นิดหน่อยน่ะ”“มันเรื่องอะไรเหรอธาม ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลย”“นายว่าเกรซเป็นยังไงล่ะณัฐ”“เท่าที่ได้เจอกันสองสามครั้งฉันก็ว่าเธอเป็นคนน่ารักดีนะหรือที่ยังไม่ยอมมีคนใหม่เพราะเกิดต