แพรดาวนั่งกอดกระเป๋าผ้าของตนในรถสปอร์ตหรู แอร์ในรถเย็นฉ่ำนั่งสบายแต่เต็มไปด้วยความอึดอัด เขาไม่พูด เธอไม่พูด ทุกอย่างอยู่ในความเงียบเธอไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ จนกระทั่งรถมาจอดใกล้บ้านแล้ว หญิงสาวจึงผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วลอบมองเสี้ยวหน้าที่แสนเย็นชา อยากถามเรื่องตำแหน่งงานใหม่ แต่ก็กลัวว่าจะถามเร็วไป ช่างเถอะ ขืนเซ้าซี้มากไปเขาคงไม่ให้เธอเปลี่ยนงาน ท่าทางเหมือนอยากพูดแต่ไม่กล้าแล้วก็กัดริมฝีปากเอา ชายหนุ่มมองแล้วยื่นนิ้วโป้งไปแตะริมฝีปากเธอเบาๆ “จะกัดอะไรนักหนาเดี๋ยวก็เป็นแผลหรอก” การใกล้ชิดเกินความจำเป็นทำให้หญิงสาวเอนตัวออกห่าง มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นแล้วหัวก็หัวเราะในลำคอ ‘อยากเห็นจริงๆ เวลาอยู่กับไอ้ดิน เธอทำตัวยังไง คงเรียกพี่ดินอย่างนั้น พี่ดินอย่างนี้สินะ’ “เจ้าแมวดำเป็นยังไงบ้าง” “แข็งแรงดีค่ะ ขอบคุณสำหรับค่ารักษาและอาหารที่ซื้อไว้ให้ด้วยนะคะ” เขาพยักหน้ารับแล้วเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย “วันนี้ดึกแล้ว วันหน้าค่อยแวะมาดูมันหน่อยก็แล้วกัน” “ค่ะ” โล่งอก...นึกว่าเขาอยากเข้าไปดูแมวตอนตีสาม!
ห้องทำงานเป็นห้องเก็บเสียง เสียงด้านนอกไม่เข้าไปรบกวนด้านใน ชายหนุ่มในชุดดำเปิดประตูห้องเข้าไปได้ยินเพียงเสีนงเครื่องปรับอากาศทำงาน เขากวาดตามองแต่ไม่เห็นคนที่สั่งให้รอนั้นทำให้เขาขมวดคิ้ว หรือว่าเธอจะออกไปแล้ว? ดื้ออะไรขนาดนี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นนักหรอก แต่เกรงว่าถ้าปล่อยให้ออกไปเจอเพื่อนอะไรนั้น จะถูกดักทำร้ายเอานะสิ ยัยเด็กคนนี้ยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วย ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อด้วยความเคยชินแล้วเดินไปหมายจะนั่งเก้าอี้ทำงานและเปิดกล้องวงจรปิดดูว่ายัยตัวปัญหาหายไปไหน ทว่าหางตากลับเหลือบไปเห็นร่างเล็กนอนขดตัวบนโซฟาทำให้เขาชะงักแล้วเปลี่ยนทิศทางไปยังเป้าหมายที่หลับอยู่ จากที่หงุดหงิดรำคาญใจกลับกลายเป็นเสียงถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงบนส้นเท้า จ้องมองใบหน้าของคนที่หลับอยู่ ลมหายใจสม่ำเสมอย้ำให้รู้ว่าเข้าสู่นิทราแล้ว หลับจริงๆ ด้วย เขากะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าเธอจะหลับไปจริงๆ มือใหญ่ยื่นไปหมายจะปลุกแต่ชะงักค้างในอากาศ ผิวแก้มเนียนใสราวกับแก้มของเด็กน้อยทำให้เขาเปลี่ยนใจเกลี่ยเส้นผมเธอเบาๆ นึกอยากสัมผัสแก้มนุ่มด้วยจมูกของ
หนุ่มเนิร์ดอายุ 25 ปีทั้งสองคนนั้น เป็นหนุ่มไอทีของบริษัท CYNEX Corp คนหนึ่งผอมบางท่าทางขี้กลัวแต่ชื่อวินเนอร์ ส่วนอีกคนหน้าตากวนประสาททั้งที่ไม่ได้ทำอะไรชื่อ ชลธี ทั้งสองคือผู้ส่งข้อความโดยใช้ชื่อ NightNet ซึ่งหัสดินในภาคของดาร์กเป็นคนให้ความช่วยเหลือทั้งสองคนนี้ ทั้งที่ต่างที่มา วินเนอร์เป็นเด็กกำพร้าที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์แต่ขาดคนสนับสนุนในทางที่ถูก เขาแฮกค์บัญชีแอบโอนเงินของผู้อำนวยการศูนย์แลเด็กกำพร้า ก่อนที่จะถูกส่งตัวดำเนินคดี เขาได้ขอตัววินเนอร์ไว้ ส่งเขาเรียนด้านไอทีและเมื่อเรียนจบก็มาทำงานกับศาตนันท์กรุ๊ปและย้ายมาประจำที่บริษัท CYNEX Corp ส่วนชลธีนั้นไม่ต่างกันมาก เพียงแต่มาจากครอบครัวที่แตกร้าว พ่อแม่ติดเหล้าทั้งคู่ ชลธีโตมาในร้านเกมส์ เป็นเด็กส่งยา เข้าออกสถานพินิจเป็นว่าเล่น จนอายุ19 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทเขาพลั้งมือ ไม่สิ ต้องเรียกว่าป้องกันตัวต่างหาก ป้องกันตัวจากคนขายยาที่จะแย่งส่วนแบ่งในมือเขา มีดพับที่พกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดนั้นถูกใช้เพียงครั้งเดียวก็ถูกจับติดคุกแล้ว แต่หัสดินประกันตัวและจัดการทุกอย่างเบ็ดเสร็จ ‘อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เลือกอน
“นี่พนักงานคนนั้นนะ”“ค่ะ”แพรดาวหมุนตัวไปตามเสียงเรียกทันที ต่อให้ไม่ได้เรียกชื่อเธอก็ตาม เพราะตอนนี้เธอสวมชุดพนักงานซีเคร็ท คลับ แต่เมื่อหันไปก็พบว่าคนที่เรียกคือเจ้านายของเธอเอง“มิสเตอร์ต้องการอะไรคะ” ดวงตาดุดันกวาดตามองหญิงสาวตัวเล็ก แต่เมื่อสวมชุดพนักงานสีดำก็ยิ่งทำให้ดูรูปร่างเล็กลงแต่กระนั้นก็ดูปราดเปรียวเต็มไปด้วยพลังงานและมีชีวิตชีวา เหมือนเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน“พาผู้หญิงคนนี้พักที่ห้องพนักงาน แล้วตามผู้จัดการดารินมาพบผม”“อ๊ะ! เกรซ!” แพรดาวตกใจที่เห็นเพื่อนสนิทยืนเกาะแขนมิสเตอร์ดาร์กด้วยท่าทีอ่อนแรง เธอรีบสาวเท้าเข้าไปประคอง “เกิดอะไรขึ้น”“รู้จักกันเหรอ” เขาถามสีหน้านิ่งเฉยเหมือนน้ำเสียงของเขา“ค่ะ เพื่อนของดิฉันเอง” แพรดาวพยักหน้ารับ แต่เธอไม่ทันเห็นสีหน้าระอาใจของเกรซที่ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้หนุ่มหล่อและรวยของแท้“เพื่อน?” ลูกไม้ง่ายๆ แค่นี้ทำไมคนอย่างเขาจะมองไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้ใช้มารยากับเขาอยู่ แต่ที่เขาประหลาดใจก็คือคนซื่อๆอย่างแพรดาวมีเพื่อนมารยาร้อยเล่มเกวียนแบบนี้ หรือเพราะเธอซื่อจนบื้อไม่รู้ว่าถูกหลอกใช้“ค่ะ” หญิงสาวยืนยัน “เกรซเป็นเพื่อนของดิฉัน เ
‘ดูแลแพรดาวให้ดี’ ชายหนุ่มในชุดดำอ่านข้อความที่ปรากฏในสมาร์ทโฟน แรกทีเดียวเขาต้องใช้ความคิดอยู่หลายนาทีว่า ‘แพรดาว’คือใครกัน นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนเดียวที่ ‘ดิน’ เป็นห่วงอยู่ตอนนี้ก็คือแพรดาวคนที่ทำให้วุ่นวายเพราะลูกแมวตัวหนึ่ง “ฉันไม่ใช้พี่เลี้ยงเด็ก ทำไมต้องให้มาดูแลยัยเด็กขาดสารอาหารคนนั้นด้วยเล่า” คราวนี้เขาหลับไปหลายวัน ที่จริงเขาไม่ได้ตื่นทุกครั้งที่ ‘ดิน’ หลับ แต่เหมือนจิตใต้สำนึกปลุกให้เขาตื่น กลไกทางสมองเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แต่คนที่เหนื่อยน่าจะเป็น ‘ดิน’ ที่ต้องจัดการงานที่เป็นส่วนของเขาด้วย แต่เขาไปทำขนมแทนเชฟดินไม่ได้อยู่แล้ว หลังจากอาบน้ำแล้วก็นุ่งผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นทีไรก็นึกขำทุกที ด้านหนึ่งเป็นเสื้อสีทึบ อีกด้านเป็นสีขาว แยกกันชัดเจน เขาใส่สีดำเพราะมันช่วยกลบคราบเลือดได้ดี บ่อยเข้าก็เป็นความเคยชิน จึงสวมแต่สีดำมาตลอด หลังจากคว้าเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์สีดำมาสวมแล้วก็คว้าโน้ตบุ๊คมานั่งเปิดดูที่โซฟาในห้องที่จัดทุกอย่างเป็นระเบียบ หลังจากเปิดโปรแกรมและเช็กเอกสาร
ใบหน้าที่เหมือนกันราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันรบกวนจิตใจของแพรดาว แต่นิสัยที่ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวทำให้เธอคิดว่าไม่มีทางที่จะเป็นคนๆ เดียวกันได้ เหมือนเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตจะไม่ช่วยอะไรนัก ทั้งสองบุคลิกของเขาใช้พลังงานเต็มที่ แต่ร่างกายของเขาอ่อนล้าเต็มที ดูร้าน ทำขนม แล้วยังกิจการของศาตนันท์ กรุ๊ฟ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่ชายของเขา -หัสวีร์ จะเหมารับผิดชอบงานเบื้องหน้าหมดจด หรือเพราะมีเลขาดีแบ่งเบาภาระได้มาก แต่เขาจะไปหาเลขาที่ไหนเล่า คนที่จะเก็บความลับเรื่องอาการป่วยของเขาได้ “ทำงานที่นี่เป็นยังไง มีใครรังแกหรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ” ชายหนุ่มจ้องดวงตาเป็นประกายราวกระต่ายน้อยคู่นั้น “ตอบเร็วไปนะ ผมให้คิดสามวินาที” “ให้เวลาดิฉันคิดสามสิบนาทีก็ได้คำตอบเดิมค่ะ” หญิงสาวเหยียดแผ่นหลังนั่งตัวตรงให้ดูมีบุคลิกที่ดี เผื่อจะช่วยยืนยันคำพูดของตนเองได้บ้าง “ทำงานที่นี่ไม่ลำบากอะไรค่ะ แล้วก็ไม่มีใครกลั่นแกล้งรังแกด้วย” “ก็ดี ปกติทำงานที่โซนอะไร” “โซนA ค่ะ” “เคยไปโซนB หรือเปล่า” “ไม่ค่