มือของคิณณ์ที่จับมือของอิงฟ้าไว้แน่นยังคงอุ่นซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย คำสารภาพที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" และการที่เขาเอากุญแจบ้านมาคืน มันทำให้โลกทั้งใบของอิงฟ้าหมุนคว้าง เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ระหว่างความโกรธที่ยังคงคุกรุ่น กับความรู้สึกประหลาดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
"ท่านประธาน... พูดอะไรคะ" อิงฟ้าถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงแข็งทื่อ คิณณ์กระชับมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความรู้สึกผิดที่ยากจะปิดซ่อน "ผมรู้ว่ามันอาจจะยากที่จะเชื่อ" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ "แต่ผมพูดความจริงทุกอย่าง" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมขอเริ่มต้นอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังอย่างละเอียดอีกครั้งได้ไหมครับ" อิงฟ้าเงียบไป เธอสับสนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ในตอนนี้ เธอแค่พยักหน้ารับช้าๆ คิณณ์จึงค่อยๆ ปล่อยมือของเธอออก และเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเขา พลางผายมือเชิญให้อิงฟ้าไปนั่งที่เก้าอี้รับรองฝั่งตรงข้าม "ผมเข้าใจว่าคุณคงรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวผมมาก" คิณณ์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ "ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความจริงเรื่อง 'สินทรัพย์พรรณราย' จากคุณเลย" อิงฟ้ามองหน้าเขาด้วยสายตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ "บริษัท สินทรัพย์พรรณราย จำกัด เป็นบริษัทที่ผมก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จุดประสงค์หลักคือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา และช่วยเหลือลูกหนี้ที่ติดหนี้นอกระบบโดยการรับจำนองทรัพย์สินในเงื่อนไขที่เป็นธรรม" คิณณ์อธิบาย "เราทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและมูลนิธิต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ" "แล้วทำไมต้องทำแบบลับๆ ล่อๆ ด้วยคะ" อิงฟ้าถามตัดบท "เพราะแก๊งเงินกู้นอกระบบมีอิทธิพลมาก การเข้าไปซื้อหนี้จากพวกเขาโดยตรงมีความเสี่ยงสูงมาก" คิณณ์ตอบ "เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายของพวกเขา และเพื่อปกป้องความปลอดภัยของทั้งทีมงานและลูกหนี้" "แล้วทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับบ้านของดิฉันได้คะ" อิงฟ้าถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก คิณณ์สบตาอิงฟ้าอย่างจริงจัง "ผมได้รับรายงานจากทีมงานว่ามีเคสของครอบครัวคุณเข้ามา พวกเขาแจ้งว่าพ่อของคุณติดหนี้ก้อนใหญ่กับแก๊งเงินกู้ 'พยัคฆ์ทมิฬ' ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม ผมจึงสั่งให้ทีมตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม" "แล้วพอท่านประธานเจอชื่อดิฉันก็เลย..." อิงฟ้าพูดค้างไว้ คิณณ์พยักหน้า "ใช่ครับ พอผมเห็นชื่อ 'อิงฟ้า' และรู้ว่าคุณคือพนักงานใหม่ในบริษัทของผม ผมก็รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ" เขาหยุดไปชั่วครู่ ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย "ตอนนั้น ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็นคนเก่งและขยันขนาดนี้ ผมแค่... แค่รู้สึกว่าอยากจะรู้จักคุณให้มากขึ้น" คำพูดของคิณณ์ทำให้อิงฟ้าใจสั่น เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า "ผมจึงตัดสินใจที่จะเข้าแทรกแซงเคสของคุณโดยตรง" คิณณ์พูดต่อ "ผมให้ทีมงานเจรจากับพวกแก๊งพยัคฆ์ทมิฬเพื่อขอซื้อหนี้ของคุณทั้งหมด และผมตั้งใจจะให้คุณผ่อนชำระกับผมในเงื่อนไขที่ยุติธรรมที่สุด เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจอการข่มขู่คุกคามอีกต่อไป" "แต่ท่านประธานไม่บอกความจริงกับดิฉัน" อิงฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ "ดิฉันต้องมานั่งกังวลแทบตายว่าบ้านจะถูกยึด โดยที่ท่านประธานรู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว" คิณณ์ถอนหายใจ "ผมขอโทษจริงๆ ครับ ผมรู้ว่านั่นเป็นความผิดพลาดของผม" เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาของเขาดูเศร้าลงเล็กน้อย "ตอนนั้นผมกลัวว่าถ้าคุณรู้ว่าผมคือ 'คุณคิณณ์' ที่เป็นเจ้าของบริษัทสินทรัพย์พรรณราย คุณจะเข้าใจผิด คิดว่าผมกำลังใช้โอกาสนี้เอาเปรียบคุณ หรือคิดว่าผมกำลังเล่นตลกกับชีวิตของคุณ" "แล้วท่านประธานไม่คิดว่าการปิดบังแบบนี้มันยิ่งทำให้ดิฉันไม่ไว้ใจท่านประธานหรือคะ" อิงฟ้าถามกลับ คิณณ์พยักหน้ารับ "ผมรู้ครับ และผมก็รู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาตลอด" เขาจ้องมองอิงฟ้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ "ผมแค่อยากให้คุณได้ผ่อนคลายจากปัญหาหนี้สิน และผมอยากให้คุณเห็นว่าผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณเลย" "แล้วเรื่องที่ท่านประธานบอกว่าสนใจดิฉันล่ะคะ" อิงฟ้าถามเสียงเบา ความรู้สึกสับสนยังคงตีกันอยู่ในใจ คิณณ์ยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างที่อิงฟ้าไม่เคยเห็นมาก่อน "ผมไม่ได้โกหกคุณเลยในเรื่องนั้น คุณอิงฟ้า" คิณณ์พูด "ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณในบริษัท ผมก็รู้สึกบางอย่างกับคุณทันที" อิงฟ้าเบิกตากว้าง เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดอะไรแบบนี้กับเธออย่างเปิดเผย "ผมเคยแอบมองคุณตอนที่คุณทำงาน ผมเห็นคุณตั้งใจทำงานหนักแค่ไหน ผมเห็นคุณอดทนแค่ไหน" คิณณ์พูดต่อ "และยิ่งผมรู้เรื่องราวชีวิตของคุณมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมและสนใจในตัวคุณมากขึ้นเท่านั้น" "ท่านประธานกำลังพูดอะไรกันแน่คะ" อิงฟ้าถามอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าของเธอแดงก่ำไปหมด คิณณ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกครั้ง เขาเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าอิงฟ้า และคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ! อิงฟ้าตกใจจนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ "คุณอิงฟ้า... ผมรู้ว่าผมอาจจะดูไม่เหมาะสม" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ "และผมรู้ว่าผมทำผิดที่ไม่ได้บอกความจริงกับคุณตั้งแต่แรก" เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงใจที่สุดเท่าที่อิงฟ้าเคยได้ยินจากเขา "แต่ผมรักคุณ คุณอิงฟ้า" ประโยคเดียวสั้นๆ นี้เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของอิงฟ้า เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครสักคนมาบอกรักเธอในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งกว่านั้นคือคนที่บอกรักคือเจ้านายของเธอเอง! "ท่านประธาน..." อิงฟ้าพูดไม่ออก น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกสับสนไปหมด เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองต่อคำพูดนี้อย่างไรดี คิณณ์เงยหน้าขึ้นมองเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ผมรู้ว่าคุณอาจจะยังไม่เชื่อใจผม แต่ผมจะทำให้คุณเห็นว่าผมจริงใจกับคุณมากแค่ไหน" คิณณ์พูด "ผมไม่ได้ต้องการบ้านของคุณ ผมไม่ได้ต้องการบงการชีวิตของคุณ ผมต้องการคุณ... ในฐานะคู่ชีวิตของผม" อิงฟ้าอ้าปากค้าง เธอแทบจะหยุดหายใจ คิณณ์กำลังขอเธอแต่งงานอย่างนั้นหรือ? ในขณะที่เธอยังคงโกรธและสับสนกับเรื่องราวทั้งหมด? "ท่านประธานกำลังพูดอะไรอยู่คะ!" อิงฟ้าพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย "นี่มันเร็วเกินไป! และดิฉัน... ดิฉันไม่รู้ว่าท่านประธานกำลังเล่นเกมอะไรอยู่กันแน่!" คิณณ์ลุกขึ้นยืน เขาเดินเข้ามาใกล้เธออีกหนึ่งก้าว และจับมือของเธอไว้แน่น "ผมไม่ได้เล่นเกมอะไรกับคุณเลยคุณอิงฟ้า" คิณณ์พูดเสียงหนักแน่น "ผมรู้ว่ามันอาจจะดูแปลกและเร็วไปสำหรับคุณ แต่ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณมันเป็นเรื่องจริง" เขาปล่อยมือเธอออก และเดินไปหยิบกุญแจบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะ ส่งคืนให้อิงฟ้า "บ้านของคุณเป็นของคุณแล้ว คุณอิงฟ้า" คิณณ์พูด "ผมจะไม่เรียกร้องอะไรจากคุณอีกแล้ว" เขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "แต่ผมขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ตัวเอง ได้ไหมครับ" อิงฟ้ามองกุญแจในมือสลับกับใบหน้าของคิณณ์ ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ความโกรธที่เคยมีเริ่มจางหายไปเล็กน้อย เหลือไว้เพียงความสับสนและความรู้สึกประหลาดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ "ดิฉัน... ดิฉันต้องการเวลาค่ะ" อิงฟ้าตอบเสียงแผ่ว "ดิฉันต้องการเวลาคิดทบทวนเรื่องทั้งหมด" คิณณ์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ "ได้ครับ ผมจะให้เวลาคุณคิด" เขายิ้มบางๆ "แต่ผมหวังว่าคุณจะให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเองนะครับ คุณอิงฟ้า" อิงฟ้าเงียบไป เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินความคาดหมายของเธอไปมากนัก เธอไม่เคยคิดเลยว่าหนี้สินนอกระบบของครอบครัวจะนำพาเธอมาพบกับเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าตื่นเต้นเช่นนี้ และเธอจะทำอย่างไรกับหัวใจที่เริ่มสั่นคลอนไปกับคำสารภาพของคิณณ์กันแน่?หลายเดือนผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับคิณณ์ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง อิงฟ้าได้เห็นคิณณ์ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ใช่แค่เจ้านายผู้เย็นชา แต่เป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยน และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ เขามักจะสังเกตเห็นเมื่อเธอเหนื่อยล้า และหาทางมาทำให้เธอผ่อนคลายอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งกาแฟแก้วโปรดมาให้ หรือแค่เดินผ่านมาทักทายด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ใจเธอสั่นไหวส่วนคิณณ์เองก็ตกหลุมรักอิงฟ้ามากขึ้นทุกวัน เขารู้สึกทึ่งกับความเข้มแข็ง ความอดทน และความสดใสที่เธอมี แม้จะเผชิญกับปัญหามากมายเพียงใด เธอก็ยังคงยิ้มและเดินหน้าต่อไปได้เสมอ เขามั่นใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาตามหามาตลอดชีวิตความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่ความลับในที่ทำงานอีกต่อไป แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำของคิณณ์ที่แสดงออกถึงความใส่ใจต่ออิงฟ้าอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างเข้าใจตรงกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังก้าวไปไกลกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้อง"พี่อิงฟ้าคะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีคะเนี่ย ท่านประธานดูรักพี่อิงฟ้าจะแย่แล้วนะ" น้องเมย์แซวพลางยิ้มกว้
กุญแจบ้านที่คิณณ์คืนให้ยังคงอยู่ในมือของอิงฟ้า เอกสารสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่ไร้ดอกเบี้ยก็วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าของคิณณ์ที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความหวังผุดขึ้นในห้วงความคิด เธอใช้เวลาครุ่นคิดตลอดคืนเกี่ยวกับคำพูดของเขา ทุกคำพูดของเขา แม้จะเริ่มต้นจากความลับและการปิดบัง แต่ก็ดูเหมือนจะซ่อนความปรารถนาดีและความรู้สึกที่จริงใจเอาไว้"หนูจะลองดูค่ะแม่" อิงฟ้าพูดกับแม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมอาหารเช้า "หนูจะลองให้โอกาสคุณคิณณ์"แม่มองหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและกังวลในคราวเดียวกัน "อิงฟ้ามั่นใจแล้วเหรอลูก?""หนูไม่รู้ว่าหนูมั่นใจแค่ไหนค่ะแม่" อิงฟ้าสารภาพ "แต่หนูเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเราจริงๆ แล้วหนูก็อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากหนูจริงๆ"พ่อเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา "ถ้าลูกตัดสินใจแล้ว พ่อกับแม่ก็อยู่ข้างลูกเสมอนะ" พ่อพูดพลางตบไหล่ลูกสาวเบาๆ "แต่ถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด ลูกต้องรีบบอกพ่อกับแม่นะ เราจะช่วยกันหาทางออก""ค่ะพ่อ" อิงฟ้ายิ้มให้กับพ่อและแม่ คำพูดของท่านทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งขึ้นเมื่อมาถึงบริษัท อิงฟ้าเดินตรงไปยังห้องทำงานของคิณณ์ด้วยหัวใจที่เ
กุญแจบ้านในมือของอิงฟ้าเย็นเฉียบ แต่กลับร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟในใจของเธอ คำสารภาพรักและการเสนอจะยกเลิกสัญญาจำนองของคิณณ์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท มันทั้งเป็นความหวังที่ริบหรี่และกับดักที่เธอไม่อาจเข้าใจ เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของคิณณ์ด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน เธอต้องการเวลาเพื่อลำดับความคิดและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนเกินกว่าจินตนาการตลอดทางเดินกลับบ้าน ภาพของคิณณ์ปรากฏขึ้นในหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในมุมของนักธุรกิจที่เย็นชา เจ้าระเบียบ นายทุนลึกลับ และผู้ชายที่คุกเข่าสารภาพรักอย่างจริงจัง เธอจะเชื่อคำพูดของเขาได้มากแค่ไหน? หรือนี่เป็นเพียงกลลวงอันแยบยลของนักธุรกิจที่ช่ำชอง?เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อกับแม่ก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ากังวล"เป็นยังไงบ้างอิงฟ้า? คุณคิณณ์ว่ายังไงบ้าง?" แม่ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนอิงฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหยิบกุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋าและวางลงบนฝ่ามือของแม่"เขา... เขายกเลิกสัญญาจำนองแล้วค่ะแม่" อิงฟ้าตอบเสียงเบา ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์พ่อกับแม่มองหน้ากันด้วยความตกใจและไม่เชื่อหู"จริงเหรออิงฟ้า! ยกเลิกจริงเหรอ! แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา!" พ่อถามเส
มือของคิณณ์ที่จับมือของอิงฟ้าไว้แน่นยังคงอุ่นซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย คำสารภาพที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" และการที่เขาเอากุญแจบ้านมาคืน มันทำให้โลกทั้งใบของอิงฟ้าหมุนคว้าง เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ระหว่างความโกรธที่ยังคงคุกรุ่น กับความรู้สึกประหลาดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ"ท่านประธาน... พูดอะไรคะ" อิงฟ้าถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงแข็งทื่อคิณณ์กระชับมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความรู้สึกผิดที่ยากจะปิดซ่อน"ผมรู้ว่ามันอาจจะยากที่จะเชื่อ" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ "แต่ผมพูดความจริงทุกอย่าง" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมขอเริ่มต้นอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังอย่างละเอียดอีกครั้งได้ไหมครับ"อิงฟ้าเงียบไป เธอสับสนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ในตอนนี้ เธอแค่พยักหน้ารับช้าๆ คิณณ์จึงค่อยๆ ปล่อยมือของเธอออก และเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเขา พลางผายมือเชิญให้อิงฟ้าไปนั่งที่เก้าอี้รับรองฝั่งตรงข้าม"ผมเข้าใจว่าคุณคงรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวผมมาก" คิณณ์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ "ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความจ
คำสารภาพของ คิณณ์ ที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งโกรธที่ถูกหลอก เจ็บปวดที่โดนปิดบัง และประหลาดใจกับคำพูดที่เขาเอ่ยออกมา สถานการณ์นี้มันซับซ้อนเกินกว่าที่เธอจะรับไหวจริงๆอิงฟ้ามองหน้าคิณณ์ ใบหน้าของเขาจริงจัง แต่แววตากลับฉายแววปรารถนาและอ่อนโยนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"ท่านประธานกำลังพูดเรื่องอะไรคะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ท่านประธานเป็นเจ้าหนี้ของดิฉัน! ท่านประธานหลอกให้ดิฉันจำนองบ้านกับบริษัทของท่านประธานเอง! แล้วท่านประธานจะมาพูดว่าต้องการดิฉันได้ยังไงคะ!" อิงฟ้าพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนโดนเล่นตลกกับชีวิตคิณณ์ยื่นมือออกไปราวกับจะแตะใบหน้าของเธอ แต่อิงฟ้าก็สะบัดหน้าหนีอย่างรวดเร็ว"ผมรู้ว่าผมทำผิดที่ไม่ได้บอกความจริงกับคุณตั้งแต่แรก" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณเลยแม้แต่น้อย""ไม่ทำร้ายเหรอคะ! การที่ดิฉันต้องมานั่งกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลเรื่องบ้านแทบตาย โดยที่ท่านปร
คำสารภาพของคิณณ์ที่ว่า "ผมคิดว่าผม... สนใจในตัวคุณ คุณอิงฟ้า" ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งตกใจ สับสน และประหลาดใจ ยิ่งเขาบอกว่า "ผมคิดว่าคุณคือคนที่ผมตามหามาตลอด" ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน"ท่านประธาน... คือ... ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ" อิงฟ้าตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าร้อนผ่าว เธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไรคิณณ์ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา "คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจในตอนนี้หรอกครับ แค่รู้ไว้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาเปรียบคุณ" เขาพูด พลางลดมือลงจากไหล่ของเธอ "และที่สำคัญ ผมหวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้คุณมองผมในแง่ดีขึ้นบ้าง"อิงฟ้ายังคงยืนนิ่ง เธอรู้สึกเหมือนโดนดึงเข้าไปในเกมที่เธอไม่รู้จักกฎ คิณณ์เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของเขา ราวกับว่าบทสนทนาอันแสนประหลาดเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องปกติทั่วไป"เอาล่ะ... กลับไปทำงานได้แล้ว" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับดูมีนัยยะบางอย่างที่อิงฟ้าอ่านไม่ออกอิงฟ้าเด