หลายเดือนผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับคิณณ์ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง อิงฟ้าได้เห็นคิณณ์ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ใช่แค่เจ้านายผู้เย็นชา แต่เป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยน และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ เขามักจะสังเกตเห็นเมื่อเธอเหนื่อยล้า และหาทางมาทำให้เธอผ่อนคลายอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งกาแฟแก้วโปรดมาให้ หรือแค่เดินผ่านมาทักทายด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ใจเธอสั่นไหว
ส่วนคิณณ์เองก็ตกหลุมรักอิงฟ้ามากขึ้นทุกวัน เขารู้สึกทึ่งกับความเข้มแข็ง ความอดทน และความสดใสที่เธอมี แม้จะเผชิญกับปัญหามากมายเพียงใด เธอก็ยังคงยิ้มและเดินหน้าต่อไปได้เสมอ เขามั่นใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาตามหามาตลอดชีวิต ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่ความลับในที่ทำงานอีกต่อไป แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำของคิณณ์ที่แสดงออกถึงความใส่ใจต่ออิงฟ้าอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างเข้าใจตรงกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังก้าวไปไกลกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้อง "พี่อิงฟ้าคะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีคะเนี่ย ท่านประธานดูรักพี่อิงฟ้าจะแย่แล้วนะ" น้องเมย์แซวพลางยิ้มกว้าง อิงฟ้าหน้าแดงก่ำ "บ้า! ทำงานไปเลยเมย์" ความรักที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ นี้ ทำให้ชีวิตของอิงฟ้าเต็มไปด้วยความสุข แต่ลึก ๆ ในใจ เธอก็ยังคงมีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับปฏิกิริยาของคนรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มผู้บริหารบางคนที่อาจจะมองว่าเธอใช้โอกาสนี้เพื่อไต่เต้า หรือเพราะต้องการผลประโยชน์ คิณณ์เองก็รับรู้ถึงความกังวลของอิงฟ้า เขาจึงพยายามทำให้เธอรู้สึกสบายใจและมั่นใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาเสมอ "คุณอิงฟ้าคะ เสาร์-อาทิตย์นี้ ผมว่างนะครับ" คิณณ์เอ่ยขึ้นในบ่ายวันศุกร์ ขณะที่อิงฟ้ากำลังจะกลับบ้าน "อยากไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษไหม?" อิงฟ้าหันไปมองเขา ดวงตาเป็นประกาย "อยากไปทะเลค่ะท่านประธาน" เธอตอบอย่างไม่ลังเล เพราะเธอเป็นคนชอบทะเลมาก คิณณ์ยิ้มกว้าง "งั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ ผมจะพาคุณไปในที่ที่พิเศษที่สุด" เช้าวันเสาร์ อิงฟ้าตื่นเต้นตั้งแต่เช้า เธอจัดกระเป๋าเสื้อผ้า และเมื่อรถคันหรูของคิณณ์ขับมาจอดที่หน้าบ้าน เธอก็รีบก้าวขึ้นรถไปทันที คิณณ์ยิ้มต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "ตื่นเต้นเหรอครับ" คิณณ์ถามพลางเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้แน่น "ค่ะ ตื่นเต้นมากเลย" อิงฟ้าตอบ "ไม่คิดเลยว่าจะได้ไปเที่ยวทะเลกับท่านประธาน" คิณณ์หัวเราะในลำคอเบาๆ "ต่อไปนี้เราจะไปเที่ยวด้วยกันอีกบ่อยๆ ครับ" การเดินทางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด อิงฟ้าได้เห็นคิณณ์ในมุมที่ผ่อนคลายที่สุด เขาเล่าเรื่องราวในวัยเด็ก เรื่องราวความฝัน และความคาดหวังในชีวิต อิงฟ้าเองก็ได้เล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังเช่นกัน ทั้งสองคนต่างเปิดใจให้กันและกันมากขึ้นในทุกๆ นาทีที่อยู่ด้วยกัน เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง อิงฟ้าถึงกับออหปากค้าง สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่รีสอร์ตหรูหราอย่างที่เธอคิด แต่เป็นบ้านพักส่วนตัวหลังเล็กๆ ริมทะเลที่เงียบสงบและสวยงามราวกับภาพวาด ทะเลสีครามสดใส ทรายขาวละเอียด และลมทะเลพัดเอื่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก "ว้าว... สวยมากเลยค่ะคุณคิณณ์" อิงฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ผมรู้ว่าคุณชอบทะเล ผมก็เลยอยากพาคุณมาที่นี่" คิณณ์พูดพลางโอบไหล่อิงฟ้าเบาๆ "ที่นี่เป็นสถานที่พิเศษสำหรับผม และตอนนี้ก็จะเป็นสถานที่พิเศษสำหรับเราสองคนด้วย" ทั้งสองใช้เวลาตลอดวันไปกับการเดินเล่นริมชายหาด เล่นน้ำทะเล และนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น บรรยากาศเป็นใจเหลือเกินสำหรับความรักที่กำลังเบ่งบาน เมื่อค่ำคืนมาเยือน คิณณ์ได้จัดเตรียมอาหารค่ำสุดพิเศษไว้ริมชายหาด แสงเทียนสว่างไสว แสงดาวระยิบระยับ และเสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาด ทำให้บรรยากาศโรแมนติกอย่างที่สุด "คุณอิงฟ้าครับ" คิณณ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อย อิงฟ้าหันไปมองเขา คิณณ์ยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดอยู่ตรงหน้าอิงฟ้า และคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ! อิงฟ้าเบิกตากว้าง หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ คิณณ์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และเปิดออก เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงามที่เปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงจันทร์ "คุณอิงฟ้า... ผมรู้ว่าเราอาจจะเพิ่งคบกันไม่นาน และเราก็เริ่มต้นความสัมพันธ์กันด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อน" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาจ้องมองเธอด้วยความรักและความจริงใจที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา "แต่ผมมั่นใจแล้วว่าคุณคือคนที่ผมตามหามาตลอดชีวิต" เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและชัดเจน "คุณจะแต่งงานกับผมไหมครับ" ประโยคนั้นทำให้โลกทั้งใบของอิงฟ้าหยุดหมุน น้ำตาแห่งความสุขไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกตื้นตันใจจนพูดไม่ออก ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งความรัก ความสุข ความประหลาดใจ และความซาบซึ้งใจ "คุณคิณณ์..." อิงฟ้าพูดเสียงสั่น คิณณ์ยิ้มบางๆ "คุณไม่จำเป็นต้องตอบทันทีหรอกครับ ผมจะให้เวลาคุณคิด" แต่แล้วอิงฟ้าก็ส่ายหน้า เธอไม่ต้องการเวลาคิดอีกต่อไปแล้ว "ไม่ค่ะ! ดิฉัน... ดิฉันตกลงค่ะ!" อิงฟ้าตอบอย่างรวดเร็วและชัดเจน เธอไม่ต้องการที่จะลังเลอีกต่อไปแล้ว เธอเชื่อในความรักที่คิณณ์มีให้เธอ และเชื่อในความจริงใจที่เขาแสดงออกมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา คิณณ์ยิ้มกว้างด้วยความสุขอย่างที่สุด เขาลุกขึ้นยืน และค่อยๆ สวมแหวนเพชรลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของอิงฟ้า แหวนวงนั้นพอดีกับนิ้วของเธอราวกับถูกสร้างมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ "ผมรักคุณนะครับคุณอิงฟ้า" คิณณ์พูดพลางโอบกอดอิงฟ้าไว้แน่น อิงฟ้ากอดตอบเขาแน่นเช่นกัน เธอซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา ปล่อยให้น้ำตาแห่งความสุขไหลรินออกมา "ดิฉันก็รักคุณค่ะ คุณคิณณ์" อิงฟ้าสารภาพออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ค่ำคืนนั้น ทั้งสองคนต่างใช้เวลาอยู่ด้วยกันใต้แสงดาวริมชายหาด อิงฟ้าเล่าเรื่องราวความฝันในชีวิตวัยเด็กให้คิณณ์ฟัง และคิณณ์ก็เล่าเรื่องราวความฝันที่เขามีเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาสองคนให้เธอฟังเช่นกัน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปในทางที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะเคยฝันถึงได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นจากความลับและหนี้สิน แต่กลับค่อยๆ เติบโตเป็นความรักที่มั่นคงและจริงใจ อิงฟ้าได้เรียนรู้ว่าความรักสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ และบางครั้ง สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิต ก็อาจจะนำพาเราไปพบกับความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ เส้นทางข้างหน้ายังคงมีเรื่องราวให้ต้องเผชิญอีกมากมาย แต่ในตอนนี้ อิงฟ้าไม่ได้รู้สึกกลัวอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่ได้เดินอยู่คนเดียว เธอมีคิณณ์อยู่เคียงข้าง และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอหลายเดือนผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับคิณณ์ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง อิงฟ้าได้เห็นคิณณ์ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ใช่แค่เจ้านายผู้เย็นชา แต่เป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยน และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ เขามักจะสังเกตเห็นเมื่อเธอเหนื่อยล้า และหาทางมาทำให้เธอผ่อนคลายอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งกาแฟแก้วโปรดมาให้ หรือแค่เดินผ่านมาทักทายด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ใจเธอสั่นไหวส่วนคิณณ์เองก็ตกหลุมรักอิงฟ้ามากขึ้นทุกวัน เขารู้สึกทึ่งกับความเข้มแข็ง ความอดทน และความสดใสที่เธอมี แม้จะเผชิญกับปัญหามากมายเพียงใด เธอก็ยังคงยิ้มและเดินหน้าต่อไปได้เสมอ เขามั่นใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาตามหามาตลอดชีวิตความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่ความลับในที่ทำงานอีกต่อไป แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำของคิณณ์ที่แสดงออกถึงความใส่ใจต่ออิงฟ้าอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างเข้าใจตรงกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังก้าวไปไกลกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้อง"พี่อิงฟ้าคะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีคะเนี่ย ท่านประธานดูรักพี่อิงฟ้าจะแย่แล้วนะ" น้องเมย์แซวพลางยิ้มกว้
กุญแจบ้านที่คิณณ์คืนให้ยังคงอยู่ในมือของอิงฟ้า เอกสารสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่ไร้ดอกเบี้ยก็วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าของคิณณ์ที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความหวังผุดขึ้นในห้วงความคิด เธอใช้เวลาครุ่นคิดตลอดคืนเกี่ยวกับคำพูดของเขา ทุกคำพูดของเขา แม้จะเริ่มต้นจากความลับและการปิดบัง แต่ก็ดูเหมือนจะซ่อนความปรารถนาดีและความรู้สึกที่จริงใจเอาไว้"หนูจะลองดูค่ะแม่" อิงฟ้าพูดกับแม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมอาหารเช้า "หนูจะลองให้โอกาสคุณคิณณ์"แม่มองหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและกังวลในคราวเดียวกัน "อิงฟ้ามั่นใจแล้วเหรอลูก?""หนูไม่รู้ว่าหนูมั่นใจแค่ไหนค่ะแม่" อิงฟ้าสารภาพ "แต่หนูเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเราจริงๆ แล้วหนูก็อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากหนูจริงๆ"พ่อเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา "ถ้าลูกตัดสินใจแล้ว พ่อกับแม่ก็อยู่ข้างลูกเสมอนะ" พ่อพูดพลางตบไหล่ลูกสาวเบาๆ "แต่ถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด ลูกต้องรีบบอกพ่อกับแม่นะ เราจะช่วยกันหาทางออก""ค่ะพ่อ" อิงฟ้ายิ้มให้กับพ่อและแม่ คำพูดของท่านทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งขึ้นเมื่อมาถึงบริษัท อิงฟ้าเดินตรงไปยังห้องทำงานของคิณณ์ด้วยหัวใจที่เ
กุญแจบ้านในมือของอิงฟ้าเย็นเฉียบ แต่กลับร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟในใจของเธอ คำสารภาพรักและการเสนอจะยกเลิกสัญญาจำนองของคิณณ์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท มันทั้งเป็นความหวังที่ริบหรี่และกับดักที่เธอไม่อาจเข้าใจ เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของคิณณ์ด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน เธอต้องการเวลาเพื่อลำดับความคิดและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนเกินกว่าจินตนาการตลอดทางเดินกลับบ้าน ภาพของคิณณ์ปรากฏขึ้นในหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในมุมของนักธุรกิจที่เย็นชา เจ้าระเบียบ นายทุนลึกลับ และผู้ชายที่คุกเข่าสารภาพรักอย่างจริงจัง เธอจะเชื่อคำพูดของเขาได้มากแค่ไหน? หรือนี่เป็นเพียงกลลวงอันแยบยลของนักธุรกิจที่ช่ำชอง?เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อกับแม่ก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ากังวล"เป็นยังไงบ้างอิงฟ้า? คุณคิณณ์ว่ายังไงบ้าง?" แม่ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนอิงฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหยิบกุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋าและวางลงบนฝ่ามือของแม่"เขา... เขายกเลิกสัญญาจำนองแล้วค่ะแม่" อิงฟ้าตอบเสียงเบา ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์พ่อกับแม่มองหน้ากันด้วยความตกใจและไม่เชื่อหู"จริงเหรออิงฟ้า! ยกเลิกจริงเหรอ! แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา!" พ่อถามเส
มือของคิณณ์ที่จับมือของอิงฟ้าไว้แน่นยังคงอุ่นซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย คำสารภาพที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" และการที่เขาเอากุญแจบ้านมาคืน มันทำให้โลกทั้งใบของอิงฟ้าหมุนคว้าง เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ระหว่างความโกรธที่ยังคงคุกรุ่น กับความรู้สึกประหลาดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ"ท่านประธาน... พูดอะไรคะ" อิงฟ้าถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงแข็งทื่อคิณณ์กระชับมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความรู้สึกผิดที่ยากจะปิดซ่อน"ผมรู้ว่ามันอาจจะยากที่จะเชื่อ" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ "แต่ผมพูดความจริงทุกอย่าง" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมขอเริ่มต้นอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังอย่างละเอียดอีกครั้งได้ไหมครับ"อิงฟ้าเงียบไป เธอสับสนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ในตอนนี้ เธอแค่พยักหน้ารับช้าๆ คิณณ์จึงค่อยๆ ปล่อยมือของเธอออก และเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเขา พลางผายมือเชิญให้อิงฟ้าไปนั่งที่เก้าอี้รับรองฝั่งตรงข้าม"ผมเข้าใจว่าคุณคงรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวผมมาก" คิณณ์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ "ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความจ
คำสารภาพของ คิณณ์ ที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งโกรธที่ถูกหลอก เจ็บปวดที่โดนปิดบัง และประหลาดใจกับคำพูดที่เขาเอ่ยออกมา สถานการณ์นี้มันซับซ้อนเกินกว่าที่เธอจะรับไหวจริงๆอิงฟ้ามองหน้าคิณณ์ ใบหน้าของเขาจริงจัง แต่แววตากลับฉายแววปรารถนาและอ่อนโยนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"ท่านประธานกำลังพูดเรื่องอะไรคะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ท่านประธานเป็นเจ้าหนี้ของดิฉัน! ท่านประธานหลอกให้ดิฉันจำนองบ้านกับบริษัทของท่านประธานเอง! แล้วท่านประธานจะมาพูดว่าต้องการดิฉันได้ยังไงคะ!" อิงฟ้าพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนโดนเล่นตลกกับชีวิตคิณณ์ยื่นมือออกไปราวกับจะแตะใบหน้าของเธอ แต่อิงฟ้าก็สะบัดหน้าหนีอย่างรวดเร็ว"ผมรู้ว่าผมทำผิดที่ไม่ได้บอกความจริงกับคุณตั้งแต่แรก" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณเลยแม้แต่น้อย""ไม่ทำร้ายเหรอคะ! การที่ดิฉันต้องมานั่งกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลเรื่องบ้านแทบตาย โดยที่ท่านปร
คำสารภาพของคิณณ์ที่ว่า "ผมคิดว่าผม... สนใจในตัวคุณ คุณอิงฟ้า" ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งตกใจ สับสน และประหลาดใจ ยิ่งเขาบอกว่า "ผมคิดว่าคุณคือคนที่ผมตามหามาตลอด" ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน"ท่านประธาน... คือ... ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ" อิงฟ้าตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าร้อนผ่าว เธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไรคิณณ์ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา "คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจในตอนนี้หรอกครับ แค่รู้ไว้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาเปรียบคุณ" เขาพูด พลางลดมือลงจากไหล่ของเธอ "และที่สำคัญ ผมหวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้คุณมองผมในแง่ดีขึ้นบ้าง"อิงฟ้ายังคงยืนนิ่ง เธอรู้สึกเหมือนโดนดึงเข้าไปในเกมที่เธอไม่รู้จักกฎ คิณณ์เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของเขา ราวกับว่าบทสนทนาอันแสนประหลาดเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องปกติทั่วไป"เอาล่ะ... กลับไปทำงานได้แล้ว" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับดูมีนัยยะบางอย่างที่อิงฟ้าอ่านไม่ออกอิงฟ้าเด