Share

หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่
หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่
Penulis: อวี๋ปู้เหยียน

บทที่ 1

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 1

ตอนกลางวัน สวีเหยียนซีและฉินเซียวเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกัน และในคืนนั้นเธอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนหอของพวกเขาแล้ว

บนโต๊ะอาหารเป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่เธอตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษ

แต่ในเวลานี้ เธอนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองหน้าจอโน้ตบุ๊กด้วยดวงตาแดงก่ำขณะกำลังกดโทรศัพท์โทรหาฉินเซียว

ในหน้าจอนั้น ปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยกามารมณ์ของฉินเซียว

พร้อมกับเสียงที่น่าขยะแขยงดังกระหึ่มออกมาอย่างชัดเจน

ในขณะที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น สมองของเธอกลับว่างเปล่า เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าฉินเซียวรับสาย เธอควรจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยท่าทีแบบไหน

แต่ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มเพียงเหลือบมองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วหยุดชะงักไปสองวินาที แต่สุดท้ายด้วยไฟราคะที่ลุกกล้า เขาก็เลือกที่จะเพิกเฉยโดยไม่ลังเล

ในวินาทีนั้น ความอดทนครั้งสุดท้ายของสวีเหยียนซีก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

เธอใช้มือที่แทบจะแข็งทื่อปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างแรง

สวีหว่านหนิงชนะแล้ว

เธอยั่วยวนผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน 22 ปี และเพิ่งเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอยังไม่ทันจะพ้นข้ามวันได้สำเร็จ

-

ตอนกลางวันขนของเข้ามาอย่างไร สวีเหยียนซีก็ขนมันกลับไปทั้งอย่างนั้น แม้แต่อาหารมื้อค่ำเธอก็จัดการเก็บกวาดจนสะอาดหมดจดราวกับว่าเธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย

เมื่อกลับถึงคอนโด เธอก็ขดตัวอยู่ในผ้าห่มเงียบ ๆ เหมือนกับโดนดูดพลังจนหมด

จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เธอคิดว่าฉินเซียวโทรกลับมา แต่ความจริงแล้วเป็นสวีหว่านหนิงที่โทรมาโอ้อวดชัยชนะของเธอ

“สวีเหยียนซี ฉันได้กับฉินเซียวก่อนเธออีกนะ” น้ำเสียงของผู้หญิงในสายฟังดูสะใจสุด ๆ

สวีเหยียนซีกำโทรศัพท์แน่นจนปลายนิ้วมือซีดขาว เธอข่มอารมณ์ไว้ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า “ยินดีด้วยนะ”

คำพูดนั้นทำให้สวีหว่านหนิงพึงพอใจอย่างยิ่ง พูดยั่วยุเธอต่อว่า “ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน แล้วทำไมถึงยอมมีอะไรกับฉันล่ะ จริงไหม?”

ไม่ว่าจะมีความรู้สึกหรือไม่ก็ตาม สำหรับสวีเหยียนซีแล้วมันคือการนอกใจ

เมื่อบังคับตัวเองให้ยอมรับความจริงข้อนี้ได้แล้ว เธอหัวเราะเย็นชาแล้วพูดว่า “ใช่สิ ในเมื่อเธอมั่นใจขนาดนั้น งั้นเธอก็ลองดูสิว่าเขาจะยอมหย่ากับฉันเพื่อเธอไหม”

เธอทิ้งคำพูดนั้นไว้ก่อนจะตัดสายไปทันที

อันที่จริงเธอรู้ดีว่าสวีหว่านหนิงไม่ได้ชอบฉินเซียวจริง ๆ หรอก เธอก็แค่อยากจะแย่งของรักที่เหลืออยู่ไม่มากของเธอไปทีละน้อยเท่านั้น

แต่เธอถือดีอะไรมาแก้แค้นเธอ

ต้นเหตุที่พวกเธอถูกสลับตัวตั้งแต่เกิดก็เป็นฝีมือของศัตรูของตระกูลสวีทั้งนั้น และสาเหตุที่สวีหว่านหนิงเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นเพราะพ่อแม่บุญธรรมของเธอที่บีบบังคับเธอ

เมื่อแปดปีก่อนตอนที่สวีเหยียนซีรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลสวี เธอก็ได้เสนอที่จะจากไป แต่ตระกูลสวีกลับไม่ยอม เมื่อหกปีก่อนตอนที่สวีหว่านหนิงถูกตามตัวกลับมา เธอก็เสนอที่จะจากไปอีกครั้ง แต่ตระกูลสวีก็ยังคงรั้งเธอไว้โดยอ้างบุญคุณที่เลี้ยงดู และสัญญาว่าจะช่วยตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ให้เธอ

หลายปีที่ผ่านมา เธอพยายามทำตัวเป็นเหมือนอากาศตลอดเวลาที่อยู่ในตระกูลสวี ไม่ว่าจะเป็นสถานะ พี่ชาย หรือพ่อแม่ ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของเธอ เธอก็คืนให้สวีหว่านหนิงทั้งหมด และไม่เคยแตะต้องมันแม้แต่น้อย

ต่อมาตระกูลสวีไม่เพียงแต่ไม่ทำตามสัญญา แถมยังปล่อยให้เธอกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของสวีหว่านหนิงอีก

เธอคิดว่าการแต่งงานกับฉินเซียวจะทำให้เธอหนีจากตระกูลสวีได้ แต่สวีหว่านหนิงกลับทำลายเกราะกำบังสุดท้ายของเธอ

และคนเดียวที่เธอไว้ใจก็หักหลังเธอ

สวีเหยียนซีซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม สะอื้นไห้จนแทบขาดอากาศหายใจ ขณะที่เธอกำลังงัวเงียจะหลับไป จู่ ๆ ก็มีคนหนึ่งเข้ามาโอบกอดเธอ วินาทีที่ต้นคอของเธอถูกจูบ เธอก็ตัวแข็งไปชั่วขณะ เขาคนนั้นคือฉินเซียว

“ที่รัก” ฉินเซียวเรียกเธออย่างอ่อนโยน “เราตกลงกันแล้วไม่ไช่เหรอว่าจะย้ายเข้าเรือนหอวันนี้ ทำไมถึงยังไม่ย้ายไปอีก?”

“ประจำเดือนฉันมา ก็เลยปวดท้องน่ะ” เสียงที่อ่อนแรงของเธอทำให้ข้ออ้างนี้ดูสมจริงยิ่งขึ้น และยังสามารถยับยั้งความคิดของฉินเซียวที่อยากจะทำอะไรกับเธอได้สำเร็จ

“ประจำเดือนของคุณมาตรงเวลาตลอด ทำไมคราวนี้ถึงมาก่อนกำหนดสองอาทิตย์เลยล่ะ?”

“อาจเป็นเพราะสองวันก่อนเจออากาศหนาวมามั้ง”

ฉินเซียวบีบปลายจมูกของเธออย่างจนใจ “ดูสิว่าต่อไปนี้คุณยังจะกล้าใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นอีกไหม รอเดี๋ยวนะ ผมจะไปต้มน้ำขิงให้”

สวีเหยียนซีไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่มองตามแผ่นหลังที่รีบร้อนเดินออกไปของเขา เธอวางแขนพาดหน้าผากขณะที่หัวใจเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

ในใจของเธอ ฉินเซียวเป็นคนอบอุ่นและเอาใจใส่แบบนี้เสมอ เขาจำทุกความชอบและนิสัยของเธอได้ จำได้แม้กระทั่งวันที่เธอมีประจำเดือน แล้วก็เตรียมน้ำขิงกับถุงประคบร้อนให้ล่วงหน้า ตั้งแต่สมัยเรียนจนกระทั่งตอนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาหรือในรถของเขา จะมียาแก้แพ้ฉุกเฉินและลูกอมแก้เจ็บคอของเธอติดอยู่เสมอ

ทุกคนต่างอิจฉาเธอที่มีคนรักที่ทุ่มเทให้เธออย่างหมดใจขนาดนี้

แน่นอนว่าความกดดันและความเจ็บปวดที่ตระกูลสวีมอบให้เธอ ได้รับการเยียวยาด้วยการอยู่เคียงข้างของฉินเซียว เธอยอมตกลงที่จะอยู่ในบ้านตระกูลสวีต่อ ส่วนหนึ่งก็เพื่อฉินเซียว

ไม่นานนักชายหนุ่มก็ถือถ้วยน้ำขิงเข้ามา และถือถุงประคบร้อนด้วยมืออีกข้าง “ที่รัก มา ดื่มซะหน่อย เดี๋ยวผมจะช่วยนวดท้องให้ด้วย”

สีหน้าของสวีเหยียนซีดูไม่ดีจริง ๆ ดูซูบซีดและไร้ชีวิตชีวา

เธอรับน้ำขิงมาแล้วดื่มไปเพียงสองสามอึกอย่างขอไปที

เมื่อเห็นดังนั้น ฉินเซียวก็พูดโน้มน้าวอย่างอดทน “ดีมาก ดื่มให้หมดนะ”

เธอไม่อยากดื่ม เลยเปลี่ยนเรื่อง “ฉินเซียว ทำไมเมื่อคืนฉันโทรหาคุณแล้วคุณถึงไม่รับสาย?”

ทันทีที่พูดจบ สายตาของฉินเซียวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่สวีเหยียนซีก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เธอรอคอยว่าเขาจะอธิบายอย่างไร

วินาทีต่อมา ฉินเซียวลูบผมของเธอพลางอธิบายอย่างใจเย็นว่า “คุณก็รู้ว่าคุณพ่อเพิ่งยกอำนาจให้ผมบางส่วน ผมต้องใช้โอกาสนี้สร้างผลงานให้ดีสักหน่อย เพื่อให้เขาเชื่อมั่นในตัวผมมากขึ้น ขอโทษนะที่รัก ตอนนั้นผมกำลังประชุมอยู่เลยตั้งโหมดปิดเสียงไว้ เลยไม่ทันสังเกต”

เมื่อเห็นเขาโกหกหน้าตาเฉย สวีเหยียนซีก็หัวเราะอย่างขมขื่น

ครั้งหนึ่ง เขาเคยสัญญาไว้อย่างหนักแน่นว่าจะซื่อสัตย์กับเธอตลอดไป จะไม่นอกใจและไม่หลอกลวง

เธอถามว่า “แล้วทำไมประชุมเสร็จถึงไม่ส่งข้อความมาให้ฉันเลยล่ะ”

ฉินเซียวแสดงสีหน้าขอโทษ “ผมตั้งใจจะส่งข้อความหาคุณนะ แต่ใครจะไปคิดว่าพอเริ่มงานยุ่งแล้วก็ลืมไปเลย ดูสิ พอผมทำงานเสร็จก็รีบกลับมาหาคุณทันทีเลยนี่ไง? ที่รัก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำผิดพลาด ให้อภัยผมหน่อยไม่ได้เหรอ?”

ทำผิดพลาดครั้งแรก... เหอะ เรื่องแบบนี้ให้อภัยกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ

เขาทำมันแล้ว แถมยังหาข้ออ้างมาปกปิดอีก การลักลอบคบชู้แบบนี้ ไม่ก็ไม่มีเลย หรือก็มีอีกนับครั้งไม่ถ้วน

เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ สวีเหยียนซีก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าความขยะแขยงดันขึ้นมาในอกทันที เธอแสร้งทำเป็นหันหน้าไปอีกทาง และพูดอย่างอ่อนแรงว่า “คุณไปเอายาแก้ปวดให้ฉันหน่อยสิ คราวนี้ปวดจริง ๆ”

ฉินเซียววางถุงประคบร้อนลงแล้วรีบออกไปหายา

คอนโดไม่ใหญ่มาก ในเวลานี้เงียบสงบมาก สวีเหยียนซีจึงได้ยินเสียงฉินเซียวรื้อค้นลิ้นชัก และในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาแทบจะรับสายในทันที และรีบเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง

เพียงแค่ได้ยินเสียง สวีเหยียนซีก็สามารถจินตนาการได้ว่าการโทรครั้งนี้ทำให้ฉินเซียวรู้สึกผิดและประหม่ามากแค่ไหน ราวกับกลัวว่าเธอจะค้นพบอะไรบางอย่าง

เธอหลับตาลงอย่างเงียบ ๆ ไม่ยากที่จะเดาว่าคนที่โทรมาคือสวีหว่านหนิงแน่นอน

ไม่นานฉินเซียวก็วางสาย เขาหายาแก้ปวดเจอแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน

“ที่รัก มา ทานยาแก้ปวดซะนะ ถ้ายังไม่ดีขึ้น เราก็ไปหาหมอกัน อย่าเป็นเหมือนครั้งที่แล้วอีกนะ เกือบทำให้ผมช็อคตาย”

ความรักและความห่วงใยของเขาในตอนนี้ช่างดูตลบตะแลงสุด ๆ ในสายตาของสวีเหยียนซี

เธอกลืนยาแก้ปวด ก่อนจะถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “ใครโทรมาตอนดึกดื่นขนาดนี้?”

ฉินเซียวหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเขาก็อธิบายว่า “ผู้ช่วยโทรมายืนยันตารางงานวันพรุ่งนี้กับผมน่ะ”

สวีเหยียนซีหลบตาลงบดบังความเศร้าหมองในดวงตาของเธอเอาไว้ ภายในไม่ถึงสิบนาที เขาโกหกเธอถึงสองครั้ง

ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่า บางทีเธออาจไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้ที่อยู่เคียงข้างเธอมา 22 ปีอย่างถ่องแท้เลย

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ซึ่งก็คือสวีเหยียนเช่อ พี่ชายคนโตของเธอโทรหา

“พี่คะ”

ตามมาด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึกของชายหนุ่มดังมาจากปลายสาย “หนิงหนิงกรีดข้อมือตัวเอง”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 96

    บทที่ 96“มึงมันเหี้ย!”สวีเหยียนซีด่าคำหยาบอย่างชัดถ้อยชัดคำจนทำให้ใบหน้าของสี่คนที่อยู่ไม่ไกลแสดงความประหลาดใจออกมาในระดับที่แตกต่างกันสวีเหยียนซีมีใบหน้าสวยโดดเด่น ปกติจะมีกิริยามารยาทงดงามตามธรรมชาติ ความประทับใจแรกที่ทุกคนเห็นเธอคือเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่แต่เมื่อเธอพูดคำหยาบ มันกลับดูแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อจ้าวจวิ้นโจวยกยิ้ม นั่นแหละถึงจะดูเหมือนคนกำลังโกรธดวงตาของสวีเหยียนซีฉายแววตาเย็นชา “เรื่องนี้ ฉันจะจำคุณไปตลอดชีวิต!”“ไม่นะ!” ฉินเซียวคว้ามือเธอไว้ “ผมผิดไปแล้ว เสี่ยวซี! ผมจะไปหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกมารักษาอาจารย์ถังเดี๋ยวนี้ ผมจะขอโทษเขา ผมจะหาทางชดเชยให้แน่นอน ได้โปรดอย่าโกรธผมเลยนะ อย่าไม่สนใจผม”เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวจวิ้นโจวก็เย็นชาลงทันทีเขาสาวเท้าเดินเข้าไปเมื่อลู่อวี่ที่กำลังโมโหอยู่เห็นว่าเจ้านายของเขากำลังจะไปเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เขาก็ตามไปอย่างตื่นเต้น “บอสไปแล้ว เราก็ไปเหมือนกัน!”ทว่าฟางห่าวและอู๋เสว่นีกลับจับแขนเขาคนละข้างอย่างรู้ใจฟางห่าวพูดว่า “แค่บอสก็พอแล้ว”“โธ่เอ้ย คนเยอะก็มีพลังมาก พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้สถาปนิกสว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 95

    บทที่ 95สวีหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งพลางมองฉินเซียวอย่างน่าสงสาร“พี่ฉินเซียว อย่าไปเชื่อที่พวกเขาพูดนะคะ ฉันไม่ได้ทำเลย! ไม่ได้ทำจริง ๆ!”ฉินเซียวจะไปเชื่อคำพูดของเธอได้อย่างไรเธอเป็นคนแบบไหน เขารู้ดีที่สุด“รู้ไหมว่าพ่อของเธอเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนนี้?” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ แทนที่จะอยู่อย่างสงบ เธอกลับเลือกที่จะทำเรื่องน่าอับอาย ถ้าพ่อฉันไม่สั่งให้ฉันมา เธอก็คิดเหรอว่าเรื่องไร้สาระของเธอแบบนี้ฉันอยากจะยุ่งด้วย?”คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สวีหว่านหนิง แต่ก็เป็นการบอกสวีเหยียนซีทางอ้อมว่าเขาไม่ได้มาด้วยความสมัครใจสวีหว่านหนิงเม้มปาก น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “พี่ฉินเซียว ฉันเป็นภรรยาของพี่นะคะ”“หุบปาก!” ฉินเซียวตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ“คุณตำรวจจางครับ เราจะยืนดูละครรักที่นี่เหรอครับ?” จ้าวจวิ้นโจวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาตำรวจจางก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน เขาจึงส่งสายตาให้เพื่อนตำรวจคนอื่น ๆ แล้วสวีหว่านหนิงก็ถูกบังคับให้ควบคุมตัวไปเธอทั้งร้องไห้ทั้งเรียกหาพี่ฉินเซียว แต่ใครบางคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยจนกระทั่งเสียงของเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 94

    บทที่ 94สวีเหยียนซีรู้สึกชาไปหมด “นี่คือคำชมเหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวยิ้ม “ไม่งั้นล่ะ?”ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานีตำรวจ และบังเอิญมากที่ฉินเซียวก็มาถึงเช่นกันเมื่อฉินเซียวเห็นพวกเขามาด้วยกัน ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเขาก็แทบจะทะลุเข้าไปร่างของจ้าวจวิ้นโจวเมื่อมองมาที่สวีเหยียนซี สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเจ็บปวดดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงที่ขี้น้อยใจสวีเหยียนซีรู้สึกรำคาญ จึงไม่มองตรง ๆ แต่ต่อให้อยากจะมองก็ไม่มีโอกาส เพราะจ้าวจวิ้นโจวเดินบังเธอไว้มิด และก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับเธอฉินเซียวกำหมัดแน่นและรีบตามไป ฟางห่าวเดินเข้ามาขวางหน้าเขาอย่างไร้เสียง “คุณชายรองฉิน ที่นี่คือสถานีตำรวจนะครับ”“ไม่ต้องให้นายเตือน” เขาแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปข้างในเมื่อสวีเหยียนซีเห็นอู๋เสว่นีและลู่อวี่ก็พูดว่า “สถาปนิกอู๋ สถาปนิกลู่”ในขณะเดียวกัน สวีหว่านหนิงที่ได้ยินเสียงของเธอก็เดือดพล่านทันที เธอวิ่งออกจากห้องสอบสวนโดยไม่สนใจว่าตำรวจกำลังสอบปากคำเธออยู่เมื่อเห็นสวีเหยียนซี เธอก็แสดงสีหน้าดุดัน “สวีเหยียนซี!”สวีเหยียนซีตกใจที่ถูกเธอตะคอกใส่อู๋เสว่นีตะโกนว่า “สถาปนิกสวี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 93

    บทที่ 93สวีเหยียนซีที่แปรงฟันอยู่ถึงกับหยุดชะงักทันทีอืม? หือ!?โหยวฉียังคงพูดต่อไป “เพราะมีคนไปขุดเรื่องที่เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฉินเซียว แม้แต่รูปถ่ายสมัยมัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยของพวกเธอก็ถูกเอามาโพสต์ด้วย ดังนั้นพอเห็นชาวเน็ตคนนั้นพูด ทุกคนก็เริ่มเชื่อและเริ่มวิเคราะห์กันยกใหญ่”“แล้วสวีหว่านหนิงดันกระโดดเข้าไปด่าเอง เลยทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือคนที่เป็นมือที่สามจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ เธอโง่หรือเปล่านะ ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ”“ตอนแรกเป็นข่าวเรื่องบริษัทฮุ่ยตี๋เลี่ยงภาษี แต่ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนด่าว่าเธอเป็นมือที่สามและด่าว่าฉินเซียวเป็นผู้ชายหน้าเหี้ย”สวีเหยียนซีหัวเราะอย่างจนใจ “ทำไมเธอถึงได้เอาตัวเองไปตายแบบนี้”โหยวฉียังคงหัวเราะไม่หยุด “ใช่ นี่เรียกว่าอะไรนะ ขุดหลุมฝังตัวเอง กรรมตามสนองแล้ว!”หลังจากวางสายจากโหยวฉี สวีเหยียนซีก็ทำอาหารเช้าง่าย ๆ แล้วนั่งทานไปพลางดูเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตไปพลางมีข่าวมากมายที่ถูกลบไปแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้เพียงเล็กน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ลบข่าวจะต้องคือตระกูลสวีหรือไม่ก็ตระกูลฉินเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ขับรถไปยังบริษัทย่า

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 92

    บทที่ 92เพราะสวีกั๋วหมิงถึงกับยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องสวีเหยียนเช่อ แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็เป็นลูกชายแท้ ๆ เป็นผู้สืบทอดนี่นา “งั้นก็น่าเสียดายแย่เลย!” โหยวฉีตบมือครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเสียดายอย่างเต็มที่ “คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นหลายพันล้าน” คำพูดของจ้าวจวิ้นโจวทำให้โหยวฉีรู้สึกสะใจขึ้นมาอีกครั้ง “แบบนี้มันสะใจจริง ๆ!” สวีเหยียนซีเงียบไป แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลก ๆ ท้ายที่สุด จ้าวจวิ้นโจวก็ขับรถไปส่งโหยวฉีกลับบ้านก่อน เมื่อเหลือแค่พวกเขาสองคนในรถ บรรยากาศก็เงียบสงบเป็นพิเศษ “อยากถามอะไรก็ถามสิ จะอั้นไว้ทำไม” เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเหยียนซีก็กะพริบตาปริบ ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา “ไม่ถามเหรอ?” “ฉันรู้สึกว่าคุณจงใจปล่อยสวีกั๋วหมิงและลูกชายเขาไปอีกแล้ว” เธอไม่อยากคิดแบบนี้ แต่เมื่อรวมกับสไตล์การทำงานของจ้าวจวิ้นโจวที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเพราะเขานึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลสวี มันก็ดูไม่ถูกต้องอยู่ดี “ฉลาดจริง ๆ” จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะเบา ๆ และไม่ปิดบัง “พูดแล้วมันก็บังเอิญจริง ๆ ตอนแรกผมแค่ต้องการให้พวกเขาล้มไม่เป็นท่า อย่างน้อยจ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 91

    บทที่ 91จ้าวจวิ้นโจวเดินลงมาจากรถ เมื่อสวีเหยียนเช่อและฉินเซียวเห็นเขา ทั้งคู่ก็ลดความโกรธลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงขนาดมีท่าทีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผู้ชายสามคนต่างก็ดูดีในแบบของตัวเอง สวีเหยียนซีรู้สึกพูดไม่ออก ได้แต่มองฟ้า ทำไมปากของโหยวฉีถึงได้แม่นยำขนาดนี้นะ เอาล่ะ ตอนนี้มันคือการแสดงละครของชายสามคนจริง ๆ แล้ว เธอไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งในตอนกลางคืน โหยวฉีเป็นคนรักใครรักจริง ใครดีกับสวีเหยียนซี เธอก็จะดีกับคนนั้นด้วย ในช่วงเวลานี้ จ้าวจวิ้นโจวได้รับคะแนนพิเศษในใจของโหยวฉีมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เธอจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น “ประธานจ้าว จัดการเรื่องเสร็จแล้วเหรอคะ” จ้าวจวิ้นโจวล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว เขารู้สึกสนิทกับโหยวฉีมากกว่าคนอื่น เพราะเธอเป็นเหมือนครอบครัวเพียงคนเดียวของสวีเหยียนซี “อืม เกือบจะเรียบร้อยแล้ว คุณโหยวฉีขับรถมาเหรอ?” “เปล่าค่ะ นั่งแท็กซี่มา” โหยวฉีคล้องแขนสวีเหยียนซี “ประธานจ้าวคะ ช่วยไปส่งพวกเราหน่อยได้ไหมคะ” “ได้เลย ไปกันเถอะ” โหยวฉีแอบเพิ่มคะแนนให้จ้าวจวิ้นโจวอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพียงเพราะจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้มองเธอด้วยสาย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status