Share

หรือรักจะร้าย
หรือรักจะร้าย
Author: พ่รรณพสา

ครอบครัว

last update Last Updated: 2025-08-20 17:52:24

วันนี้ฝนตกแต่เช้า เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว บ่ายสามโมงสามสิบสองนาที ปัทมาปิดโทรศัพท์ ปิดโน๊ตบุ๊ค เธอรู้สึกปวดเอวนิดหน่อย บวกกับอากาศที่เย็นสบาย หญิงสาวเตรียมผ้าห่ม ที่ทำมาจากผ้าต่อผืนกำลังดี เธอชอบผ้าผืนนี้มาก ห่มแล้วเย็นสบายตัวดี บรรยากาศเวลานี้เงียบสนิท เหมาะกับการนอนพักผ่อนนอนหลับมาก วันนี้ตั้งแต่เช้าเธอนั่งเย็บผ้านานเกินไป หญิงสาวล้มตัวลงนอน ที่ปลายเท้าเธอเป็นพัดลมสีขาวตัวใหญ่ เธอปิดมันไปแล้วเพราะอากาศเย็นมาก ได้ยินเพียงเสียงฝนที่กำลังตกและลมเริ่มแรง

ลมฝนแรงจนต้องลุกจากที่เตียง เปิดหน้าต่างมองไปรอบด้าน ด้วยตัวบ้านสูงทำให้มองเห็นเกือบรอบบริเวณ ต้นจำปีที่กำลังออกดอกเต็มต้นส่งกลิ่นหอม ต่างกับต้นจำปาที่ไม่ค่อยออกดอก บ้านต่างจังหวัดมีพื้นที่เหมาะสำหรับปลูกไม้ใหญ่

ครบหนึ่งเดือนแล้วที่เธอกลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลย่าและแม่ บ้านปูนหลังเล็กสีขาวหลังนี้ ย่าเธอเป็นคนปลูกให้เธอ เพราะเห็นว่าเธอต้องทำงานเย็บผ้า อยากให้เป็นส่วนตัว

ส่วนย่ากับแม่อยู่บ้านหลังเดิม เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ สมัยก่อนที่จะเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ ปู่ ย่าตัวเธอและน้องชายอาศัยอยู่ด้วยกัน ปู่กับย่ารักกันมาก พ่อเธอเคยเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่พ่อเกิดมา พ่อไม่เคยได้ยินย่ากับปู่ทะเลาะกันเลย พ่อเธอเป็นลูกชายคนเดียว นายแพทย์ประสิทธิ เกียรติกุล หมอผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ

นายแพทย์ประสิทธิ์ทำงานที่โรงพยาบาลของรัฐ ประจำอยู่ที่กรุงเทพฯส่วนแม่เป็นพยาบาลทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกัน พ่อกับแม่คบหาเจอกันตั้งแต่สมัยที่ยังเรียน พอเรียนจบก็แต่งงานกันเลย หลังแต่งงานไม่นานแม่ก็ตั้งท้องลูกคนแรกก็คือเธอ

ปู่กับย่าไปช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงเธอได้หกเดือน จากนั้นพาเธอกลับมาเลี้ยงที่ต่างจังหวัด เพราะพ่อกับแม่ไม่มีเวลาดูแล ด้วยอาชีพหมอและพยาบาล ต้องทำงานหนักด้วยทั้งคู่ และตั้งบัดนั้นเป็นต้นมาเธอก็กลายเป็นลูกของปู่กับย่า

ทุกสองสัปดาห์พ่อกับแม่จะต้องมาเยี่ยมเธอ มาแล้วก็ต้องรีบกลับ อาชีพหมอและพยาบาล ทุกคนเข้าใจ สองปีต่อมาเธอก็มีน้องชายอีกหนึ่งคน ช่วงน้องเกิดปู่ย่าพาเธอไปอยู่กรุงเทพฯเพื่อช่วยแม่ดูแลน้องแรกเกิด เหมือนเดิม พอแม่แข็งแรง ปู่กับย่าพาน้องกลับมาดูแลที่ต่างจังหวัด เพื่อให้พ่อกับแม่ได้ทำงานเต็มที่ หากพ่อกับแม่ว่างจะต้องเดินทางกลับมาเยี่ยมปู่ ย่าและเธอกับน้องบ่อยๆ

ปัทมากับประภาษเรียนที่ต่างจังหวัดจนถึงมัธยมปีที่หก จากนั้นเข้ากรุงเทพฯเพื่อเรียนต่อปริญญาตรี อีกสองปีถัดมาน้องชายก็ตามมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯด้วยกัน เธอได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อกับแม่อีกครั้ง แต่นั่นแหละ ด้วยอาชีพของพ่อกับแม่ อยู่ด้วยกันเหมือนไม่ได้อยู่ เวลาไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไหร่ วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ถ้าเธอกับน้องไม่มีงานพิเศษทำ ทั้งสองคนก็จะกลับบ้านต่างจังหวัดไปหาปู่กับย่า

ครอบครัวอยากให้เธอกับน้องเรียนหมอ หรือไม่ก็พยาบาล หรือไม่ก็รับราชการ

เธอคุยกับน้องชายแล้ว จะไม่ยอมเรียนเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเธอกับน้องจะหัวดีมาก เรียนเก่งทั้งคู่ ทั้งสองไม่อยากรับราชการ ซึ่งทุกคนก็ตามใจไม่ได้บังคับอะไร ปัทมาเลือกเรียนภาษา น้องชายเธอเขาเลือกเรียนวิศวะ

ทั้งครอบครัวไม่มีใครเห็นด้วย แต่ก็ต้องยอม เพราะพวกเขารู้เหตุผล ปัทมากับประภาษ ต้องกลายเป็นลูกปู่กับย่า เพราะพ่อกับแม่ทำงานหนัก และเป็นงานที่ต้องเสียสละทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ก็เป็นความภูมิใจของครอบครัว งานดีมีคนนับหน้าถือตา แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวอย่างแท้จริง

มันคื่อเรื่องจริง พ่อกับแม่เธออยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่ที่บ้าน อยู่กับคนป่วยมากกว่าอยู่กับลูก

ปู่กับย่าของเธอ เป็นข้าราชการเกษียณทั้งคู่ เดิมบ้านของปู่มีฐานะอยู่แล้ว

ปัทมาเรียนจบ ทำงานที่บริษัทฯเอกชนในกรุงเทพฯ อุตสาห์ไม่เรียนตามความต้องการของครอบครัว ไม่สอบงานราชการ เลือกที่จะทำงานบริษัทเอกช นสุดท้ายบริษัทฯเอกชนงานก็เยอะเหมือนกัน แถมเรื่อง ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร ยังคงมีอยู่ทุกองค์กร แต่ดีตรงที่ว่าเงินเดือนเยอะกว่า อิสระมากกว่างานราชการ

ปัทมาทำงานได้สองปี พ่อของเธอก็เสียชีวิต ตลกมากพ่อเป็นหมอช่วยเหลือคนป่วย แต่พ่อป่วยซะเอง ใช้เวลารักษาไม่นานพ่อก็จากไป นั่นทำให้ทุกคนเสียใจมาก คนที่อาการหนักที่สุดคือปู่

พ่อเป็นลูกชายคนเดียว เป็นความภาคภูมิใจของปู่ แต่เมื่อพ่อเสียชีวิต ปู่ทำใจไม่ได้ อาการทรุดตั้งแต่ที่ลูกชายเสียชีวิต ปู่กลายเป็นคนแก่ที่เงียบขรึม เก็บตัวอยู่แต่บ้าน จมปลักอยู่แต่กับอดีต รับไม่ได้ที่ลูกชายมาด่วนจากไป

นอกจากปู่แล้วแม่ของเธอก็เช่นกัน แม่กับพ่อรักกัน รักกันมาก ตัวติดกันตลอด ตั้งแต่จำความได้พ่อกับแม่ของเธอไม่เคยทะเลาะกันเลย แม่เสียใจมากไม่เป็นอันทำงาน ย่าตัดสินใจพาแม่กลับบ้าน และแม่ลาออกจากงานพยาบาลมาดูแลปู่ การได้ดูแลปู่กับย่าทำให้แม่คลายความโศกเศร้าไปได้บ้าง

ย่ามีอาชีพเสริมคือทำขนมไทยขาย ทำขายตั้งแต่สมัยยังรับราชการ พอเกษียณแล้วย่ายังทำต่อ มีร้านขายขนมไทย

แม่เหมือนเป็นลูกสาวคนหนึ่งของย่า แปลกที่แม่ไม่สนิทกับครอบครัวฝั่งตากับยายเลย ติดปู่กับย่ามากกว่า และนั่นทำให้เธอกับน้องไม่สนิทกับฝั่งตากับยายเหมือนกัน

ย่าเป็นผู้หญิงที่เก่ง สูญเสียลูกชายคนเดียว แถมยังต้องเหนื่อยกับอาการของปู่ ที่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย

เมื่อครั้งที่เธอยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯและดูแลน้องชายแทนแม่ช่วงที่น้องชายยังเรียนไม่จบ สองคนพี่น้องอาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่ที่กรุงเทพฯตามลำพัง ปัทมาทำงานและดูแลน้องไปด้วย เธอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในส่วนของน้องทั้งหมด โดยอาศัยเงินเดือนจากการทำงาน ย่ากับแม่ช่วยบ้างเป็นบางครั้ง

ปัทมาตั้งใจว่าถ้าน้องชายเรียนจบ เธอจะกลับไปอยู่กับย่าและแม่ที่ต่างจังหวัด ส่วนน้องชายจะทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯหรือจะกลับบ้านด้วยกันก็ตามใจเขา

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองปี ปู่ก็เสียชีวิตด้วยโรคชรา ทุกคนในครอบครัวรู้ดีว่าสาเหตุหลักก็คือ ปู่ทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไป นั่นเป็นสาเหตุหลัก

ปัทมาตัดสินใจลาออกจากงาน กลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลย่าและแม่ ส่วนน้องชายเหลืออีกเทอมเดียวเขาก็จะเรียนจบปริญญาตรี หญิงสาวปล่อยให้น้องชายอยู่คนเดียวที่กรุงเทพฯ

ประภาษเป็นเด็กดี ไม่เกเร ตั้งใจเรียน เขารู้ว่าเขาต้องดูแลคนในครอบครัว เพราะมีแต่ผู้หญิง ย่า แม่ และพี่สาว เขารอเวลาสอบเสร็จ จัดการทุกอย่างแล้วจะรีบกลับบ้านไปหาทุกคน เรื่องงานค่อยว่ากัน บางทีเขาอาจกลับไปรับช่วงร้านขนมไทยของย่าก็ได้ เป็นงานที่เขากับพี่สาวทำมาตั้งแต่เด็ก

บ้านกึ่งไม้กึ่งปูนหลังใหญ่ของย่า ปลูกอยู่บนเนื้อที่เกือบห้าไร่ และอยู่ท้ายซอย ด้านหลังเป็นสวนที่ปลูกทุกอย่าง ผลไม้ทุกอย่างที่อยากกิน พืชผักสวนครัว

ย่าเป็นคนมีฝีมือในการทำอาหาร สมัยที่แต่งงานกับปู่ใหม่ๆ ทั้งคู่รับราชการ ย่าใช้เวลาว่างทำขนมไทยส่งขายที่ตลาด รายได้ดีทีเดียว บางเดือนย่าขายขนมได้มากกว่าเงินเดือนซะอีก นั่นทำให้ปู่กับย่ามีเงินเก็บมากพอสมควร ปู่กับย่าของเธอไม่ฟุ่มเฟือย

ปัทมามีงานพิเศษหญิงสาวมีฝีมือตัดเย็บเสื้อผ้า เธอชอบแค่ไปเรียนเพิ่มนิดหน่อยก็สามารถตัดเย็บเสื้อผ้าได้เกือบทุกแบบ โชคดีที่แถวนี้ไม่มีร้านตัดเสื้อผ้า ย่ากับแม่สงสัยว่าก่อนหน้าทำไมเธอไม่เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าโดยตรง ปัทมาตอบว่าเธอก็ไม่คิดว่าการที่เธอตัดเย็บเสื้อผ้าได้ จะทำให้มันกลายมาเป็นอาชีพๆ หนึ่งของเธอ บางเดือนทำรายได้ดีมากกว่าสมัยทำงานประจำซะด้วยซ้ำ บ้านของย่าอยู่ใกล้สถานที่ราชการ แน่นอนพวกเครื่องแบบเธอทำได้ ด้วยความที่เป็นคนสมัยใหม่ ปัทมาสามารถตัดชุดแบบใหม่ๆ ได้เสมอ เป็นที่ชื่นชอบของคนที่นิยมตัดเสื้อผ้าใส่

“หนูปัท เดือนนี้ย่าไม่เห็นว่างเลย งานเยอะจังเลยนะลูก”

“ค่ะย่า มีออเดอร์จากลูกค้าที่กรุงเทพฯค่ะ”

“เขามาวัดตัวกันตอนไหนล่ะลูก ทำไมย่าไม่เคยเห็นมากันเลย”

“วัดกันทางออนไลน์นี่ล่ะคะย่า”

“ยังไงลูก ย่าไม่เข้าใจ”

“ก็ลูกค้าก็จะบอกไซส์มาค่ะย่า ว่าอก เอว สะโพก เท่าไหร่ ต้องการยาวหรือสั้นเท่าไหร่ แบบเป็นของปัทอยู่แล้ว แค่เพิ่มหรือลด แค่นั้นเองค่ะย่า ง่ายมาก”

“เออ...สมัยนี่ดีจังเลยเนอะ ไม่มีลูกค้าที่บ้านก็มีลูกค้ามาจากที่อื่น”

“ใช่ค่ะย่า นี่ขนมของย่ากับแม่ เราก็ทำออนไลน์ได้นะคะ ไม่ต้องไปตั้งที่แผงที่ตลาดก็ได้”

“ยังไงเหรอลูก ย่าไม่เข้าใจ”

“เราก็เปิดหน้าร้านที่บ้านเลยซิคะย่า แม่กับย่าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยตื่นไปตลาดแต่เช้า ทำที่บ้านเราได้อยู่บ้านทำโน่นทำนี่ได้ตั้งหลายอย่าง”

“ก็ดีนะ แล้วแผงที่ตลาดล่ะลูก ย่าก็เสียดาย ร้านนั้นย่าขายมาตั้งนาน”

“ไม่ยากหรอกค่ะย่า ก็ให้เขาเช่าต่อหรือถ้าย่าอยากเซ้งต่อให้คนอื่นก็ได้”

“แล้วจะมีใครมาซื้อของเราล่ะลูก บ้านเราอยู่สุดซอยเลย”

“ย่าขา ไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นเลย ปัทว่าบ้านเราทำเลดี ของดีต้องลึกลับหน่อย มาไม่ยากเลย อีกอย่างขนมของย่าก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วคนรู้จักทั้งเมือง แค่ติดป้ายที่แผงว่าเราขายที่บ้าน พร้อมเบอร์โทร ขี้คร้านคนจะตามมา”

“ย่าสนใจนะหลาน แต่เรื่องวิธีการเราต้องมาคุยกันอีกที ต้องถามแม่เขาด้วย เพราะแม่เขาเป็นกำลังหลักที่สำคัญ”

“ปัทว่าแม่ไม่น่ามีปัญหานะคะย่า แม่น่ะชอบอยู่บ้าน ชอบทำงานบ้าน แม่ไม่ค่อยชอบที่จะไปนั่งที่แผง ถ้าได้ทำอะไรที่บ้านปัทว่าแม่คงจะพอใจมาก”

“แต่ว่า....”

“แต่ว่าอะไรหลาน”

“ย่าจะยอมแบ่งที่ว่างๆ สักหน่อย เอาไว้เป็นที่จอดรถลูกค้าได้ไหมคะ เผื่อรถเยอะ เพราะบ้านเราก็อยู่สุดซอยแล้วต้องมีที่จอดรถและกลับรถให้ลูกค้า”

“ถ้ามันจะขายดีเหมือนอยู่ที่แผง ย่าก็ไม่มีปัญหาหรอก ที่ว่างเปล่าของเราก็เยอะแยะ”

“งั้นเดี๋ยวมื้อค่ำนี้ เราคุยกับแม่อีกทีดีไหมคะย่า ถ้าแม่เห็นด้วยเดี๋ยวปัทจัดการต่อเอง”

ปัทมาดีใจที่ย่าเห็นด้วยกับเธอ หญิงสาวไม่อยากให้ย่าลุกทำขนมตั้งแต่ดึกดื่น จริงๆ เธอกับแม่อยากให้ย่าพักได้แล้ว แต่ย่าบอกว่าการทำงานหรือทำขนมพวกนี้ ทำให้ย่าคลายความคิดถึงปู่และพ่อของเธอ

ไม่ใช่แค่ย่าหรอก แม่ของเธอก็คงเหมือนกัน พ่อกับแม่รักกันมากตัวติดกัน อยู่ด้วยกันตลอด สมัยแม่กับพ่อทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ เธอเห็นแม่กับย่าเศร้าแล้วก็สงสาร การที่ผู้หญิงสองวัยทำงานร่วมกัน เพื่อเป็นการปลดปล่อยอารมณ์เศร้าโศกจากการที่สูญเสียคนที่รัก แรกๆ เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องเศร้า แต่พอได้กลับมาอยู่บ้าน มันทำให้เธอรู้ว่า หัวใจของย่าและแม่ของเธอเข้มแข็งที่สุด

การทำขนมคือการผ่อนคลาย ทำให้สมองไม่เฉื่อยชา ความจำดีด้วย ทุกวันย่ากับแม่จะทำขนมวันละห้าอย่าง ขนมไทยซะส่วนมาก นั่นทำให้ทั้งเธอและน้องชายชอบขนมไทยเป็นพิเศษ ชาวสวนแถวนี้ก็ได้มีรายได้ ย่ารับซื้อมะพร้าว ใบเตย อัญชัน ฟักทอง และวัตถุดิบอีกมากมายจากชาวสวน

หลายคนแปลกใจที่รู้ว่า แม่เป็นลูกสะไภัของย่า เพราะทั้งสองคนดูเหมือนเป็นแม่ลูกกันมากกว่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หรือรักจะร้าย   พนักงานใหม่

    ครอบครัวของโยธินส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอปัทมา เจ้าบ่าวใจร้อนมาก งานแต่งงานถูกจัดงานถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติครอบครัวของฝ่ายหญิง นายยุทธนาและนางบุหงาทุ่มทุนสร้างมาก สินสอดมอบให้กับฝั่งเจ้าสาวเต็มที่ และอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ให้บ้านฝ่ายหญิงได้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว จัดงานถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง ครอบครัวของโยธินตื่นเต้นและดีใจมากกับการที่ลูกชายคนเล็กแต่งงาน เป็นสิ่งที่รอมานานมาก ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวเลยทีเดียว โยธินสร้างบ้านริมน้ำอีกหลังเอาไว้พักผ่อน อยู่ภายในรั้วบ้านของย่ากุล เขาตามใจภรรยาที่อยากอยู่ดูแลย่าและแม่ ขอร้องให้ภรรยาทำงานน้อยลง อยากให้ดูแลแค่ย่ากับแม่ ไม่อยากให้ทำงานหนัก แค่คอยดูแลเขาและเตรียมตัวเป็นแม่ของลูกก็พอ เวลาที่ต้องเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯต้องมีภรรยาไปด้วยเสมอ แค่ต้องตามสามีไปตรวจงานในแต่ละที่ ปัทมาก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว บางทีเธออาจต้องยกร้านกาแฟให้น้องชายดูแล งานตัดเสื้อผ้า เธอแทบไม่ได้ทำเลย เพราะไม่มีเวลาจริงๆ “ปัทมา วันนี้กลับไปนอนในเมืองกันดีกว่านะครับ พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว พี่มีงานที่ร้านผ้า” “อ้าว.....แล้วพี่ภาไปไหนเหรอคะ” “กำลังมีความรัก แฟ

  • หรือรักจะร้าย   พนักงานใหม่

    ตั้งแต่เกิดเหตุร้ายขึ้นกับปัทมา กระทั่งถึงวันนี้ผ่านมาสามเดือนแล้ว ร้านคาเฟ่ขนมไทยของเธอเปิดมาเกือบสองเดือน ผลตอบรับดีมากๆ ลูกค้าไม่ใช่แค่ได้กินแค่กาแฟ และเครื่องดื่มที่อร่อย ยังได้กินขนมไทย ขนมบางชนิด คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้จัก ลูกค้ามาจากหลายพื้นที่ สุดท้ายต้องขยายร้านเพิ่ม เพิ่มโต๊ะ และมีพื้นสำหรับให้ถ่ายรูป โยธินสร้างบ้านให้ประภาษ ย่ากุลวางมือจากการทำขนม ปล่อยให้ลูกสะไภักับลูกชายช่วยกันทำ ด้วยนิสัยที่ขยันของย่า พาคนงานปลูกผักสวนครัว และผักปลอดสารต่างๆ ทำเป็นสวนสวยงาม ยาวไปถึงศาลาริมน้ำ ให้ลูกค้าร้านกาแฟเก็บผักกลับบ้านได้ฟรีๆ ประภาษมองเห็นโอกาส เขาให้โยธินสร้างบ้านหลังเล็กกระทัดรัด ทำเป็นบ้านพัก ลูกค้าชอบมาก และกลายเป็นโฮมสเตย์ เดิมขนมไทยจะทำวันละห้าอย่าง หลังๆ มาไม่พอขาย ต้องเพิ่มทุกอย่างเท่าตัว ทั้งกิจการบ้านพักและร้านคาเฟ่ขนมไทยไปดีสุดๆ พ่อกับแม่ของราวีมาลาทุกคน สองสามีภรรยาประกาศขายบ้านและย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯเพื่อที่จะได้ดูแลลูกชายเต็มที่ ราวียังคงอยู่ที่โรงพยาบาล ล่าสุดเขาพูดไม่รู้เรื่อง ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล จำใครไม่ได้เลย แม้กระทั่งพ่อและแม่ของตัวเอง ครอบ

  • หรือรักจะร้าย   รักหลอน

    บนศาลาริมน้ำตำรวจทั้งสี่คน กู้ภัยอีกสี่คนเขารวบตัวของราวีไว้ ก่อนที่เขาจะกระโดดน้ำหนีไป ทุกคนต่างก็หดหู่กับภาพที่เห็น ย่ากุลเข้าไปจับมือพ่อกับแม่ของราวีเอาไว้ ราวีดิ้นรนหนี เขาร้องไห้คร่ำควาญไม่เป็นเรื่องเป็นราว ตะโกนเสียงดัง กู้ภัยต้องมัดร่างของเขาไว้ที่เปลผ้าใบ ไม่งั้นเขาไม่ยอมสงบ ช่วงที่ทุกคนกำลังชุลมุนกับการควบคุมตัวราวี โยธินและประภาษช่วยกันดึงร่างของปัทมาขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวร้องไห้ดีใจที่ตัวเองรอดจากราวีมาได้ หดหู่ใจกับภาพที่เห็น กู้ภัยหามเปลพาร่างของเขาที่นอนดิ้นอยู่บนเปลนั้นไปขึ้นรถฉุกเฉิน บริเวณรั้วหน้าบ้านมีชาวบ้าน มายืนมุงดู ต่างก็แช่งด่าราวีอย่างเกลียดชัง คนแถวนี้นับถือปู่และย่ามาก ย่ากุลกับนางประภาพร ขอบอกขอบใจตำรวจและกู้ภัยที่เข้ามาช่วย ให้กำลังใจพ่อกับแม่ของราวี บอกให้รีบตามไปดูลูกชาย เรื่องที่เกิดขึ้นไว้ค่อยมาคุยกันวันหลัง สองสามีภรรยาเชื่อฟังแต่โดยดี รีบตามไปดูลูกชายที่โรงพยาบาล ทุกคนกลับไปหมดแล้ว ย่ากุลกับนางประภาพรรีบเข้าไปดูปัทมา ที่ตอนนี้ โยธินและประภาษ พาไปพักที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ปัทมาปลอดภัยไม่มีบาดแผล มีเพียงรอยแดงที่อาจจะเกิดจาก ช่วงที่รา

  • หรือรักจะร้าย   เกิดเหตุไม่คาดฝัน

    หลังจากที่ปัทมาไปบ้านโยธินและช่วยทำความสะอาดและจัดระเบียบบ้าน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไปนอนที่บ้านเกือบทุกคืน เช้ามาดูงานที่ก่อสร้างร้านกาแฟ เที่ยงกินข้าวที่บ้านปัทมาทุกวัน บ่ายๆ บางวันไปดูงานที่ร้านวัสดุก่อสร้าง เย็นกลับไปนอนที่บ้านทำแบบนี้ทุกวัน อีกไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ร้านกาแฟน่าจะเสร็จ เขามีงานที่จะต้องเข้าไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ เลขาโทรตามให้เข้าไปเซ็นเอกสาร ที่บริษัทฯ ไม่อยากไปแต่ต้องไปเพราะเป็นงานของตัวเอง เขาติดปัทมาเหลือเกิน ไม่อยากห่างเลยแม้วินาทีเดียว “พี่โยธินจะเข้ากรุงเทพฯวันไหนครับ ภาษว่าจะติดรถไปด้วย ต้องไปมหาวิทยาลัยจัดการเรื่องเอกสารนิดหน่อยครับ อาจพักหนึ่งหรือสองคืน” “ไปกับพี่ก็ได้นะ พี่ก็ว่าจะอยู่สักสองคืน “ “เราออกเช้าวันจันทร์ดีไหม จะได้รีบไปรีบกลับ” “ได้ครับพี่โยธิน ภาษไม่อยากทิ้งผู้หญิงอยู่บ้านตามลำพังหลายวัน” “ปัทมาอย่าวางโทรศัพท์ไว้ห่างตัวนะครับ “ “ทราบแล้วค่ะ พี่โยธินกับภาษรีบไปทำธุระเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ปัทไม่ออกไปไหนหรอกค่ะ กล้องวงจรปิดก็มี ภาษเปิดดูได้ตลอดเวลา บ้านเราก็รั้วรอบขอบชิด คนงานก็อยู่เต็มเลย” โยธินมารับประภาษแต่เช้า ย่ากับแม่ทำก

  • หรือรักจะร้าย   เหมาะสมกัน

    โยธินกำลังขับรถเขาแวะที่ร้านวัสดุก่อสร้างของที่บ้าน เพื่อสั่งของบางอย่างเข้าร้านให้พี่สาว เยาวภางานยุ่งทั้งที่ร้านขายผ้า และที่ร้านสังฆภันฑ์ เขาต้องเข้ามาช่วยดูที่วัสดุก่อสร้าง แปลกใจที่อยู่ๆ ปัทมาโทรหา “ครับ ปัทมามีอะไรหรือเปล่า” “พี่โยธินถึงบ้านหรือยังคะ” “ยังครับพี่แวะมาที่ร้านวัสดุก่อสร้าง” “อ่อ....ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ เย็นนี้พี่จะเข้ามาบ้านปัทกี่โมงคะ” “เดี๋ยวพี่เสร็จจากที่ร้านนี่แล้วก็จะแวะหาพี่ภา จะอาบน้ำสักหน่อยแล้วก็จะกลับไปลองเสื้อครับ” “อ่อ...ค่ะเข้าใจแล้ว ขับรถระมัดระวังนะคะ งั้นแค่นี้นะคะ เย็นเจอกันค่ะ” “ครับ ขอบใจนะปัทมา” โยธินวางสาย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มตลอด ยิ้มจนลูกน้องบางคนที่แอบสังเกตยิ้มตามไปด้วย เสร็จจากร้านวัสดุก่อสร้าง เขาแวะไปหาพี่สาวที่ร้ายขายผ้า อาการของน้องชาย เยาวภาเดาเอาว่าต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ “พี่ภา ทำไมช่วงนี้ผ้าขายดีจังเลยครับ” “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ น้องปัทโทรมาสั่งผ้าเยอะมาก เห็นบอกว่ามีออเดอร์เข้ามา ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพฯ พอเปิดรับงานปุ๊ป งานก็เข้าเพียบเลย” “ดีเหมือนกันนะครับ ปัทมาจะได้ทำงานอยู่กับที่ไม

  • หรือรักจะร้าย   แจกการ์ด

    ตีห้าเสียงโทรศัพท์ของย่ากุลดังรัวๆ หลายสาย ปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่น มารวมกันที่ห้องของย่า"หนูปัท หรือภาษดูให้ย่าหน่อยลูก ใครโทรมา หลายสายมากเลย ""ครับย่า นี่ป้าช้อยโทรมาครับ""สวัสดีแม่ช้อย มีอะไรกัน ทำไมแม่ค้าที่ตลาดโทรหาฉัน ตั้งแต่เช้าหลายสายมากเลย ""ป้ากุล เกิดเรื่องแล้ว ไม่รู้ใครเอาป้ายงานแต่งหนูปัทกับผู้ชายชื่อราวี ติดไว้หน้าร้านขนม แถมแม่ค้าเกือบทุกคน ได้รับการ์ดงานแต่งของหนูปัทด้วย เนี้ยเดี๋ยวฉันส่งรูปให้ดู วางสายก่อนนะป้ากุล""อะไรนะคะย่า ไหนขอปัทดูหน่อยค่ะ "ภาพและวีดีโอที่ป้าช้อย และแม่ค้าในตลาดส่งมาให้ย่ากุลดูคือ ป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดอยู่หน้าร้านขนมไทย เป็นรูปของเธอใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว และข้างๆ กันราวีอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีน้ำเงิน ป้ายเขียนไว้ว่า ขอเชิญร่วมงานแต่งงาน วัน เวลา และสถานที่ชัดเจน ปัทมาใจเต้นแรง ทั้งโกรธ โทั้งโมโห และอาย ภาพข้างล่าง เป็นการ์ดแต่งงานสีชมพูหวานเชียว หญิงสาวโยนโทรศัพท์ออกไปไกลตัว โมโหจนตัวสั่นทุกคนต่างรุมดูวีดีโอและภาพที่ป้าช้อยส่งมาให้ เสียงพูดคุยของแม่ค้าในตลาดดังแทรกเข้ามาในวีดีโอ ได้ยินว่าปัทมาโดนคนโรคจิต เอารูปไปทำการ์ดแต่งงาน "ใจเย็นๆ นะลูก ไม่ต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status