Share

หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก
หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก
Author: จิ้งซิง

บทที่ 1

Author: จิ้งซิง
“หม่ำ ๆๆ”

“กินสิ พี่หญิง เหตุใดท่านถึงไม่กินเล่า?”

ภายในห้องลับที่มืดสลัว เวินซื่อบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่าง นอนคว่ำอยู่บนพื้นหายใจรวยริน โซ่เหล็กบนตัวนางส่งเสียงดังเคร้ง รัดคอและแขนขาของนางไว้ จนทำให้นางสลัดไม่หลุด

เบื้องหน้าของนางมีดรุณีน้อยสวมชุดสีเหลืองอ่อนถืออาหารสุนัขไว้ในมือ หยอกล้อนางราวกับกำลังหยอกสุนัขก็มิปาน

ส่วนดรุณีน้อยที่ยิ้มแย้มราวกับบุปผาผู้นี้คือน้องสาวของนาง...เวินเยวี่ย

เวินเยวี่ยเอ่ยกับสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่พอใจว่า “ดูสิ พี่หญิงของข้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริง แม้แต่สุนัขก็ยังเป็นให้ดีไม่ได้ คุณหนูอย่างข้าป้อนให้นางกินด้วยตัวเอง นางยังกล้าไม่กินอีกหรือ?”

สาวใช้ก้าวเข้ามาเตะคนที่อยู่บนพื้นทันที

เตะจนคนร้องคราง สาวใช้ถึงค่อยเอ่ยเอาใจเวินเยวี่ยว่า “คุณหนูอย่าไปโต้เถียงกับนางเลยเจ้าค่ะ เกรงว่าสุนัขตัวนี้ยังคงคิดว่าตนเองเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกง”

เวินเยวี่ยหัวเราะเยาะ “เวินซื่อนับว่าเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของประเภทไหน? แม้แต่ท่านพ่อกับพวกท่านพี่ก็ไม่ยอมรับนางแล้ว การได้เป็นสุนัขก็นับว่าเป็นเกียรติที่คุณหนูอย่างข้ามอบให้นาง”

“น่าเสียดายที่ไม่รู้จักเจียมตัว”

หลังจากที่เอ่ยคำพูดประโยคนี้อย่างเย็นชา เวินเยวี่ยก็เอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบบนมือของเวินซื่อแล้วขยี้อย่างแรง

บดขยี้จนกระดูกมือดังกรอบแกรบ บดขยี้จนเวินซื่อร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

“เวินซื่อ คุณหนูอย่างข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย มอบหยกแขวนชิ้นนั้นมาเสีย!”

“เหอะ...เหอะ ๆ...”

เวินซื่อที่มีสติเลือนรางเล็กน้อยได้ยินคำพูดประโยคนี้ ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาเล็กน้อย

นางหัวเราะออกมาอย่างอ่อนแรงสองครั้ง “เวินเยวี่ย เจ้ามันคิดเพ้อฝัน...”

นั่นเป็นของสิ่งเดียวที่ท่านแม่ทิ้งไว้ในนาง ต่อให้ตาย นางก็ไม่มีทางมอบให้เวินเยวี่ยเป็นอันขาด

“นังแพศยา เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

เวินเยวี่ยโกรธจนดวงตาแทบลุกเป็นไฟ

ในเวลานี้เอง ประตูห้องลับถูกคนเปิดออกจากด้านนอก ก่อนจะมีหลายร่างเดินเข้ามา

เวินเยวี่ยหันหน้าไปเห็นคนเดินมา นางก็เอาอาหารสุนัขไว้ยัดไว้ในอกของสาวใช้ทันที สีหน้าเหมือนเล่นกลก็ไม่ปาน กลับมาเป็นท่าทางบริสุทธิ์น่ารักในพริบตา ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่ผู้ที่มาอย่างมีความสุข...

“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่สี่!”

“พวกท่านมาได้อย่างไร?”

คนที่เข้ามาทั้งห้าคนคือเจิ้นกั๋วกงแห่งราชวงศ์ต้าหมิงกับบุตรชายทั้งสี่คนของเขา

เนื่องจากเจิ้นกั๋วกงเกิดมามีรูปร่างสูงใหญ่ รูปโฉมโดดเด่น

บุตรชายทั้งสี่คนของเขาก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากเขาเช่นเดียวกัน แต่ละคนไม่เพียงมีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาก็ยังหล่อเหล่าสง่างามมาก บุคลิกไม่ธรรมดา

อีกทั้งมีนิสัยของเจิ้นกั๋วกงไม่มากก็น้อย แต่ละคนถ้าไม่มีสีหน้าเย็นชา ก็มีสีหน้าชั่วร้าย

แต่สิ่งที่เป็นข้อยกเว้นคือ เมื่อเวินเยวี่ยใช้เสียงออดอ้อนเรียกขานพวกเขา คนที่ดูเหมือนเย็นชาไร้ความรู้สึกเหล่านี้กลับเปลี่ยนสีหน้า

เวินจื่อเฉินผู้เป็นพี่ชายคนรองมองเวินซื่อที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาดูแคลน ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “น้องหก เป็นอย่างไรบ้าง นางมอบหยกแขวนที่ขโมยไปจากเจ้าแล้วหรือยัง?”

ไม่ได้ขโมย!

นางไม่ได้ขโมยนะ!

นั่นเป็นหยกแขวนของนาง!

“เฮ้อ ยังเจ้าค่ะ!”

เวินเยวี่ยถอนหายใจโดยใช้น้ำเสียงที่ผิดหวังอย่างยิ่ง แล้วเอ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจว่า “พี่ห้ารู้อยู่แก่ใจว่านั่นเป็นของสำคัญที่สุดของข้า เป็นของที่ระลึกเพียงหนึ่งเดียวที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ข้า แต่เมื่อครู่นี้ไม่ว่าข้าขอร้องนางอย่างไร นางก็ไม่ยอมคืนให้ข้าเลย”

“ข้าไม่รู้แล้วจริง ๆ ว่าควรทำอย่างไรดี”

เวินเยวี่ยเอ่ยถึงตอนสุดท้าย เสียงก็สั่นเครือเล็กน้อย ราวกับอยากจะร้องไห้

พวกเวินจื่อเฉินฟังแล้วปวดใจอย่างยิ่ง

“เวินซื่อ ข้าผิดหวังในตัวเจ้าเหลือเกินจริง ๆ”

เวินจื่อเฉินเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว

เวินจื่อเยวี่ยผู้เป็นพี่ชายคนที่สามซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็ทำหน้าเย็นชาในพริบตา ในมือเผยให้เห็นมีดคมกริบ

“ในเมื่อปากแข็งถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ตัดมือของนาง ตัดข้างหนึ่ง ถามหนึ่งครั้ง หากไม่ยอมพูดตลอดก็ตัดมือและเท้าของนางให้หมด กล้าขโมยสิ่งของของน้องหก ข้าจะดูว่ากระดูกของเวินซื่อจะแข็งเหมือนปากของนางหรือเปล่า!”

“ไม่จำเป็นต้องตัดมือแล้ว”

เวลานี้เอง เวินฉางอวิ้นผู้เป็นพี่ชายคนโตเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “มีคนเห็นเวินซื่อเหมือนรีบร้อนกลืนสิ่งของลงท้องก่อนที่จะโดนจับตัวกลับมา”

เวินซื่อตกใจในพริบตา แววตาดูตื่นตระหนก

พวกเวินจื่อเฉินเห็นฉากนี้ก็พากันเข้าใจทันที

เวินจื่อเฉินด่าทออย่างเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ายอมกลืนลงท้องทั้งเป็น แต่ไม่ยอมนำหยกแขวนของน้องหกคืนให้นาง?!”

นัยน์ตาของเวินซื่อฉายแววความบ้าคลั่งออกมาทันที

ในเมื่อถูกจับได้แล้ว นางก็ไม่มีอะไรต้องซ่อนอีก

“ฮ่า ๆ...ใช่แล้ว ข้าบ้าไปแล้ว!”

“เวินเยวี่ยทำร้ายข้าถึงเพียงนี้ และยังอยากแย่งชิงของสิ่งสุดท้ายที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข้า ข้าจะไม่บ้าได้อย่างไร?”

เวินซื่อกระชากโซ่เหล็กหลายเส้นอย่างสะเทือนใจ เสียงเคร้งและเสียงของนางดังไปทั่วห้องลับแห่งนี้

“เป็นอย่างไร? ตอนนี้มีทางเลือกอยู่ตรงหน้าพวกท่านเพียงแค่สองทาง ถอดใจ? หรือว่าคว้านท้องข้า?”

พวกเวินจื่อเฉินมีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง รวมถึงเวินอวี้จือผู้เป็นพี่ชายคนสี่ที่ซึ่งเฝ้าชมอยู่ทางด้านข้างด้วยสายตาเย็นชามาโดยตลอด

พวกเขามองไปทางบิดาของพวกเขาตามจิตใต้สำนึก หรือก็คือเจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง

เวลานี้มีเพียงเขาที่สามารถตัดสินใจได้

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววทะมึน นางเม้มปากแล้วเอ่ยเพียงคำพูดประโยคเดียวว่า “ท่านพ่อ ข้าคิดถึงท่านแม่แล้ว”

เวลานั้น เวินซื่อเห็นเวินเฉวียนเซิ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นางรู้ว่านางพ่ายแพ้การเดิมพันแล้ว

เวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจ “เวินซื่อ อย่าโทษพวกพี่ชายของเจ้าเลย จะโทษก็โทษข้าเถิด”

“ชาติหน้า หากเจ้าเป็นบุตรสาวของสกุลเวินอีก สกุลเวินจะชดเชยเจ้าให้มาก”

เวินซื่อมีหน้าคล้ายหัวเราะคล้ายร่ำไห้ คล้ายคลุ้มคลั่งคล้ายสะเทือนใจ

น้ำตาโลหิตสองสายค่อย ๆ ไหลลงมาจากหางตาของนาง

“ไม่ ชาติหน้าข้าจะไม่ขอเป็นบุตรสาวของสกุลเวินเด็ดขาด!”

เมื่อมีดเย็นเยียบกรีดท้องของเวินซื่อ ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนางหายไปจากในห้องลับ หยกแขวนที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของนางมานานแล้วพลันเผยออกมาให้เห็นเล็กน้อย ส่องรัศมีแสงแสบตาออกมาจากในร่างของนาง

.....

ราชวงศ์ต้าหมิง ปีที่เจ็ดสิบหก

ต้นคิมหันตฤดู

จวนเจิ้นกั๋วกง

วันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงครึกครื้นมาก

คนทั้งเมืองหลวงล้วนทราบว่าบุตรสาวทั้งสองคนของเจิ้นกั๋วกงจัดพิธีปักปิ่นด้วยกัน

เวลานี้เอง ในห้องนอนแห่งหนึ่งภายในจวน...

“ไม่ อย่านะ...”

บนเตียง ดรุณีน้อยวัยสิบห้าผู้หนึ่งคล้ายกับกำลังฝันเรื่องน่ากลัวอะไรบางอย่าง พึมพำด้วยเสียงสั่นเครือ

วินาทีต่อมานางลืมตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นขึ้นฉับพลัน ร้องด้วยความตกใจแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที ก่อนจะยื่นมือไปบังตนเองตามจิตใต้สำนึก

“อ๊า...!”

แต่ความเจ็บปวดจากการโดนผ่าท้องอย่างที่จินตนาการกลับไม่มา

ผ่านไปสักพัก เวินซื่อจึงค่อยลืมตาขึ้นมาอย่างหวาดกลัวและระมัดระวัง

เมื่อมองดูจึงพบว่าสภาพแวดล้อมแปลกไป ไม่ใช่ห้องลับแห่งนั้น

บิดา พี่ใหญ่และพวกเวินเยวี่ยก็ไม่อยู่เลยสักคน

มีเพียงห้องที่เงียบสงบ และการตกแต่งที่คุ้นเคยเล็กน้อย

เวินซื่อใคร่ครวญอยู่พักใหญ่เต็ม ๆ ด้วยสมองที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วค่อยนึกขึ้นได้ว่านี่คือที่ใด

“นี่เป็นห้องเก่าของข้าไม่ใช่หรือ?”

เป็นห้องที่นางเคยอาศัยอยู่ตอนที่ยังได้รับความรักความโปรดปรานจากบิดามารดาและพี่ชายในจวนกั๋วกง

“ไม่ เหตุใดข้าถึงอยู่ที่นี่ได้?!”

เวินซื่อที่ได้สติกลับมาในที่สุดกลับตกใจจนรีบเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนจะโซเซล้มลงไปที่พื้น

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้? เหตุใดข้าถึงกลับมาที่นี่ได้?!”

นางต้องรีบไป!

จะให้พวกบิดากับพวกพี่ใหญ่จับตัวไม่ได้!

มิฉะนั้นนางจะต้องตายเป็นแน่!

แต่นางยังไม่ทันวิ่งไปถึงหน้าประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกประตู...

“ก๊อก ๆ”

“คุณหนูห้า ท่านยังจะนอนถึงเมื่อไร วันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของท่านกับคุณหนูหก หากสายแล้ว อย่าโทษว่าบ่าวไม่ได้เรียกท่านนะเจ้าคะ”

เสียงที่ไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อยของสาวใช้ดังเข้ามาในหูของเวินซื่อ ทำให้เวินซื่อที่เดิมทีเตรียมตัวจะเปิดประตูตกใจจนเก็บมือกลับมา

แต่คำพูดที่เข้ามาในหูของนางทำให้การเคลื่อนไหวของนางค่อย ๆ หยุดลง สีหน้าแข็งทื่อ

“พะ...พิธีปักปิ่น?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
rujira
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Phinnipha Khonhok
อ่านดีโหลดมาอ่านใหม่แต่เสียอย่างเดียวเมื่อก่อนนี้คะแนนรอนานมากแต่ทีนี้อัพเดทใหม่โหลดมาใหม่รู้สึกว่าใช้ line ยิ่งกว่าเดิมค่ะ
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
สนุกมากคาะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 998

    ถ้าหาชุยเหลียงเฟิงเจอ ก็ฆ่าชุยเหลียงเฟิงถ้าหาชุยเหลียงเฟิงไม่เจอ ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าหลานซื่อเสียเลย!อันที่จริง ขอเพียงคนสกุลหลานทุกคนตายจนหมดสิ้น ก็ไม่มีใครสามารถขุดคุ้ยความจริงในตอนนั้นได้อีก!“...ไว้...ชีวิต บอก...บอกอาจารย์ พาข้า...กลับ...กลับเรือน เร็วเข้า!”หลานซื่อล้มลงในอ้อมแขนของเป่ยเฉินหยวน มือข้างหนึ่งประคองกริชที่ปักอยู่กลางอก มืออีกข้างจับเป่ยเฉินหยวนไว้แน่น นางพูดอย่างอ่อนแรง เลือดไหลจากมุมปากไม่หยุดนางจำเป็นต้องรีบกลับไปให้ได้!ในชั่วขณะนั้นที่นางบาดเจ็บ แมลงพิษทั้งหมดในอารามสุ่ยเยว่ตลอดจนทั่วทั้งภูเขาหนานล้วนถูกรบกวนจนตื่นตกใจ ต้องการพุ่งเข้ามาหานางไม่หยุดหากไม่ใช่เพราะหลานซื่อพยายามควบคุมไว้และปลอบประโลมพวกมันอย่างหนัก เกรงว่าตอนนี้ทุกคนที่อยู่หน้าอารามสุ่ยเยว่จะต้องถูกฝูงแมลงพิษโจมตีอย่างบ้าคลั่งอันตราย!อันตราย!นายหญิงประสบอันตราย!!เวลานี้แมลงพิษทั้งหมดกำลังคำรามอย่างบ้าคลั่งว่า “ฆ่า ฆ่า ฆ่า” รวมถึงแมลงพิษตัวอื่น ๆ ที่หลานซื่อทิ้งไว้ข้างนอก พ้นไปจากร้อยลี้ พ้นไปจากพันลี้ แมลงพิษทั้งหมดที่สัมผัสได้ถึงชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของหลานซื่อต่างกระสับกระส่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 997

    “เวินฉางอวิ้น!”หลานซื่อเห็นเวินฉางอวิ้นกุมศีรษะ ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น แล้วกลิ้งไปตามทางเดินบนภูเขาลงสู่ตีเขาอย่างรวดเร็วนางขวางไว้ไม่ทัน ทำได้เพียงเปล่งเสียงเรียก...“จู๋เยวี่ย!”“เจ้าค่ะ!”ไม่จำเป็นต้องให้หลานซื่อสั่งการ จู๋เยวี่ยก็รู้ว่าต้องทำอะไรร่างของนางปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วพุ่งออกไปทันที ไล่ตามเวินฉางอวิ้นที่กลิ้งลงจากภูเขาอย่างรวดเร็วดุจลูกธนูที่หลุดจากคันศร หยุดเขาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนที่ศีรษะของเขาจะกระแทกกับก้อนหินหลานซื่อเห็นดังนั้น ก็ถอนหายใจโล่งอกทันทีแต่ในวินาทีต่อมา จู่ ๆ แมลงพิษโดยรอบก็ส่งเสียงคำรามดังลั่นอย่างรุนแรงครู่หนึ่งในหัวของนาง!อันตราย!คำเตือนจากแมลงพิษทำให้หลานซื่อตระหนักได้ในเสี้ยววินาที นางพุ่งตัวไปข้างหน้าทันใดคนที่อยู่ด้านหลังกระบวนท่าหนึ่งพลาดเป้า แต่ดูเหมือนจะคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงออกกระบวนท่าที่สองอย่างรวดเร็ว หมุนกริชในมืออย่างฉับไว แล้วแทงเข้าที่ตำแหน่งหัวใจของหลานซื่ออย่างรุนแรง“ฉึก!”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์!!”“อู๋โยว!”หลานซื่อจับแขนของคนผู้นั้นไว้แน่น พลางกัดฟันมองเขา “ไม่นึกเลยว่าเจิ้นกั๋วกงจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 996

    “เวินฉางอวิ้น ท่านกำลังทำอะไรอยู่?!”ฉินจื่ออ๋างถอยหลังออกไปหลายก้าวในทันใด มองเวินฉางอวิ้นด้วยความระมัดระวังและไม่อยากจะเชื่อเขาไม่คิดว่าเวินฉางอวิ้นจะลงมืออย่างกะทันหันในชั่วพริบตานั้นเขาแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ตอนที่ตนก้าวออกมาพูดก่อนหน้านี้ ก็เดินเข้าไปใกล้เวินฉางอวิ้น ห่างจากเขาเพียงก้าวเดียว!ถ้าเมื่อครู่เวินฉางอวิ้นชักดาบแทงไปที่เขา เขาคงไม่มีเวลาได้ตอบสนองเลย!ไม่ใช่สิ!เวินฉางอวิ้นน่าจะตั้งใจแทงเขาตั้งแต่แรกต่างหาก!เพียงแต่ติดที่บิดาของเขา ติดที่เรื่องราวจะบานปลายเกินไปไม่ได้ จึงไม่ได้ลงมือกับเขา แต่กลับไปแทงนายทหารคนนั้นแทนเป็นเพราะเขาถูกเจิ้นกั๋วกงส่งมา เป็นเพราะรู้ว่าเขากับบิดายืนอยู่ข้างเจิ้นกั๋วกงอย่างนั้นหรือ?ดังนั้นถึงได้เปิดเผยเจตนาฆ่าต่อเขา?!ฉินจื่ออ๋างขบกรามแน่น ในใจตอนนี้ทั้งเกลียดทั้งกลัวเวินฉางอวิ้นจริง ๆให้ตายสิ เขารู้มานานแล้วว่าเวินฉางอวิ้นกับเจิ้นกั๋วกงไม่ลงรอยกัน แต่ไม่คิดว่าพวกเขาสองพ่อลูกจะไม่ลงรอยกันถึงเพียงนี้!ถ้ารู้แบบนี้ เขาจะไม่เข้ามายุ่งกับความวุ่นวายนี้เลย!“ท่านรองเสนาบดีไม่เห็นหรือ? ข้าก็กำลังตรวจค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 995

    หลานซื่อหันขวับไปมองเวินฉางอวิ้นในชั่วพริบตา แววตาคมกริบ“ท่านอย่าได้ทำอะไรเป็นดีที่สุด”สุดท้ายนางเอ่ยเตือนประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวขาเร่งฝีเท้าออกไปด้านนอกอารามสุ่ยเยว่พอออกมาถึงด้านนอกอาราม เสี่ยวหานก็รีบเข้ามาหา พลางลดเสียงกล่าวว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ เป็นซากแมลงกู่ ทหารพวกนั้นไปพบเจอที่สองข้างทางขึ้นเขาเจ้าค่ะ”“บนเขาไม่มีทางมีซากแมลงกู่”นางได้ส่งแมลงพิษออกไปค้นหาทั่วทั้งภูเขาหนาน รวมถึงอารามสุ่ยเยว่และวัดจินหนานก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วไม่มีแมลงกู่ใด ๆ อยู่เลยเคยมีงูกู่อยู่ไม่กี่ตัวที่ลูกน้องทั้งหลายของไป๋ชูโหรวผู้เป็นมารดาของเวินเยวี่ยทิ้งไว้ แต่ก็ถูกนางกวาดล้างจนหมดสิ้นไปตั้งนานแล้วดังนั้นบนภูเขาแห่งนี้จึงไม่มีทางมีสิ่งใดที่เกี่ยวกับชาวต่างเผ่าและจำพวกกู่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสี่ยวหานก็เข้าใจความหมายของหลานซื่อทันทีเป็นการใส่ร้ายป้ายสี!เสี่ยวหานหันขวับไปมองทหารที่พบซากแมลงกู่เป็นคนแรก ดวงตาฉายแววเย็นเยียบทันใด“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ จะจัดการอย่างไรดีเจ้าคะ?”“ไม่ต้องรีบร้อน”เมื่อครู่ได้ยินเวินฉางอวิ้นพูดจาไร้สาระมากมายในนั้น นางต้องการดูว่าเขาจะทำอย่างไรกันแน่ทันท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 994

    เวินฉางอวิ้นคิดทำอะไรกันแน่?หลานซื่อหันกลับไปมองตามหลังเวินฉางอวิ้นที่ก้าวเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นนางก็คิดในใจพลางเรียกเสียงหนึ่ง...[อวิ่นซิง ให้พวกแมลงพิษทั้งหมดคอยจับตามองอย่างลับ ๆ หากมีการเคลื่อนไหว รีบแจ้งให้ข้ารู้ทันที][รับทราบ นายหญิง]ตอนนี้ทุกคนในอารามสุ่ยเยว่ล้วนถอนตัวออกมาหมดแล้ว หลานซื่อก็ไม่กังวลว่าจะมีใครได้รับอันตรายอยู่ในนั้นส่วนเจ้าหน้าที่สอบสวนที่ส่งมาทั้งหมดนั้นกระทำการอยู่ในสายตาของนางแมลงพิษของนางจะจับตาดูทุกซอกทุกมุมหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ นางก็จะรู้และหยุดยั้งได้ทันทีส่วนภายในอารามสุ่ยเยว่ คนที่เวินเฉวียนเซิ่งอยากตามหาก็แค่ชุยเหลียงเฟิงเท่านั้นเจ้าตัวไม่อยู่ คนที่เขาส่งมาก็หาไม่เจออยากทำอย่างอื่นก็หนีไม่พ้นสายตาของนางแต่ถึงแม้นางจะเตรียมการไว้รอบคอบเพียงนี้แล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดีหลานซื่อรู้สึกว่าปัญหานี้เกิดจากเวินฉางอวิ้นนางคิดดูแล้ว ทิ้งเสี่ยวหานไว้ข้างนอกเพื่อคอยจับตาดูคนอื่น ๆ ต่อไป จากนั้นตัวเองก็ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปในอารามเดินไปได้ไม่นาน นางก็เห็นเวินฉางอวิ้นที่กำลังยืนอยู่หน้าวิหารได้ยินเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 993

    เรื่องบุตรชายนอกสมรสทำให้เวินเฉวียนเซิ่งต้องเสียผู้ช่วยไปสองคน ได้ศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มมาอีกสองคนแต่ขุนนางที่ผูกติดกับเขาอย่างตัดไม่ขาดก็ยังคงมีอยู่ไม่น้อยเช่นเดิมแม้บารมีของเขาจะเสื่อมถอย แต่คนเหล่านี้ก็จำต้องยืนอยู่เคียงข้างเขาดังนั้นในชั่วขณะหนึ่ง ภายในท้องพระโรงจึงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ถกเถียงกันอย่างไม่ลดละ เกือบถึงขั้นมีคนลงไม้ลงมือกันฮ่องเต้ยิ่งชราก็ยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เรื่องนี้แท้จริงแล้วเขาก็ไม่เห็นด้วยกับการตรวจค้นอารามสุ่ยเยว่ถ้าจะให้เขาพูด หากมีเบาะแสจริง ก็สามารถตรวจค้นเป็นการส่วนตัวได้อย่างไรเสียเขาก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวหลานซื่ออยู่พอสมควรแต่บัดนี้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตเช่นนี้ ผู้คนทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้กันทั่วแล้ว จะให้ตรวจค้นเป็นการส่วนตัวอีกย่อมเป็นไปไม่ได้แต่หากกระทำอย่างเปิดเผย ส่งคนไปตรวจค้นโดยตรง อย่างไรก็ต้องให้บรรดาซือไท่ทั้งหลายในอารามสุ่ยเยว่เข้าคุกหลวงสักครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเป็นสถานที่ทั่วไปก็ไม่เป็นไร แต่อารามสุ่ยเยว่นั้นเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของหลานซื่อยิ่งกว่านั้นหลานซื่อยังเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ต้าหมิงที่เขาแต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status