เมื่อมีสาวงามมาเสนอตัวให้ถึงที่ ชายชาติทหารอย่างเขามีหรือจะปล่อยผ่านไปได้ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีนางกลับหายไป เขาตามหานางแทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อพบนางแล้วสิ่งที่นางเอ่ยออกมามันทำให้เขาแทบทรุดลงกับพื้น
View Moreเมื่อฝ่าบาทส่งแม่ทัพอย่างเขา ' ไป๋มู่จิน ' มา เพื่อช่วยกำจัดโจรภูเขาที่ชอบก่อความวุ่นวายให้กับชาวบ้าน
แต่พอไปถึง กับมีสตรีผู้งดงามนางหนึ่งมาเสนอตัว ให้เขาถึงในห้อง เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่หวันไหว หลังเสร็จกิจ ่ นางกลับหายตัวไปเหลือเพียงป้ายหยกของนาง และรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนผ้าปูที่นอนเท่านั้น เขาออกตามหานางจวนจะพลิกแผ่นดิน ในที่สุดก็หานางจนเจอ และหวังว่านางจะยอมกลับไปเมืองหลวงกับเขา " เรื่องที่เกิดขึ้น ในคืนนั้นข้าจะรับผิดชอบเอง " " ไม่จำเป็นหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่อยากจะมีลูก แต่ไม่ได้อยากจะมีสามี " คำตอบของนางทำให้เขานิ่งอึ่งไป ใบหน้าอันหล่อเหลา ชาเหมือนดันถูกตบก็มิปาน หึ...นางไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบ แถมยังบอกอีกว่าอยากได้แค่ลูก แต่ไม่อยากได้สามีอีก นี่นางเห็นเขาเป็นเพียงแค่พ่อพันธุ์อย่างนั้นหรือ น่าขำยิ่งนัก " ได้หากเจ้าอยากจะมีลูก ข้าก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ จะเอากี่คนดีแหละ ....ข้าจัดให้ได้นะ " ตอนที่ 1 อำเภอชิงเหอ ตลาดยามเช้าเต็มไปเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาเดินซื้อของ ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างเมืองที่เดินทางผ่านมาและจะแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านอยู่เสมอ อำเภอชิงเหอมีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดภูเขาอยู่ห่างจากเมืองหลวงของแคว้นเหลียงมากนัก แต่ที่นี่อยู่ติดกับเขตแดนระหว่างแคว้นเหลียงกับแคว้นหนานจงซึ้งเป็น พันธมิตรที่ดีต่อกันมาช้านาน จึงมีผู้คนต่างแคว้นเดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก เสียงพ่อค้าแม่ค้าต่างร้องเรียกลูกค้าที่เดินผ่านร้านของตนกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกันกับร้านขายเครื่องหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดของอำเภอนี้ ' ร้านหวินซี ' สตรีตัวเล็กผิวขาวใบหน้างดงามกำลังนั่งทำบัญชีอยู่ภายในร้าน นางเป็นเจ้าของร้านและเป็นคนคิดค้นกลิ่นน้ำหอมเองทั้งหมด นางมีนามว่าซูหวินซี เป็นหลานสาวคนเดียวของท่านนายอำเภอซูหม่าอิน เรื่องที่อยู่ในหัวของนางตอนมีแต่เรื่องการค้าและเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นนางหาได้สนใจไม่ เพราะอดีตที่เจ็บปวด ของครอบครัวที่แตกแยกท่านพ่อของนางทิ้งนางกับท่านแม่ไปแต่งงานใหม่กับตระกูลผู้ดี ปล่อยให้ท่านแม่ต้องทนทุกทรมานอยู่นานหลายปี นางจึงเชื่อว่าหากไม่มีความรักก็จะไม่เป็นทุก ดังนั้นนางจึงปฏิเสธบุรุษทุกคนที่เข้าหานาง " คุณหนูเจ้าคะ น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ท่านนำมาทดลองขาย ขายหมดเกลี้ยงแล้วเจ้าค่ะ " หลี่เจินเดินเข้ามารายงานคุณของตนด้วยความกระตือรือร้น ไม่ว่าคุณหนูของนางจะทำน้ำหอมกลิ่นไหนออกมาขาย ก็ขายหมดภายในพริบตา " อืม.....ขายหมดก็ดีแล้ว " " นี่เป็นรายชื่อทั้งหมดของคุณหนูทุกคนที่สั่งจองสินค้าของเราเจ้าค่ะ " " ไหน......อืม.....เยอะเหมือนกันนะเนี่ย " " ซีซี ดูท่ากิจการของเจ้ากำลังไปได้ดีเลยทีเดียว......ไม่เหมือนร้านผ้าของข้าที่เงียบเสียยิ่งกว่าป่าช้าอีก " นางยิ้มรับคำกล่าวของผู้มาเยือน โดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่รายชื่อในมือ เสียงนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากสหายของนางเสิ่นหยวนจี เจ้าของร้านขายผ้าที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอชิงเหอแห่งนี้ " ร้านขายเครื่องหอมของข้าเล็กเท่าฝ่ามือ จะไปเทียบกับร้านขายผ้าเนื้อดีของตระกูลเสิ่นของเจ้าได้อย่างไรกันหล่ะเจ้าคะ " " นี่แนะ " " นี่เจ้าตีข้าทำไม " เมื่อถูกสหายตีมือนางจึงวางรายชื่อลงบนโต๊ะแล้วเงิยหน้าขึ้นมามองสตรีตรงหน้าที่นั่งตีหน้ายักษ์อยู่ " ก็เจ้านั่นแหละเมื่อไหร่จะออกแบบชุดสวย ๆ ให้ข้าเสียที่......นี่ก็ใกล้เทศกาลชีซีแล้วนะ " " ข้ายังไม่ว่าง .... แล้วนี่ท่านพี่เว่ยของเจ้าไปไหนถึงได้ปล่อยให้เจ้าออกมาหาข้าได้ " หวินซีเอ่ยถามสหายเมื่อไม่เห็นสามีขอนางตามมาด้วยเหมือนทุกที " ท่านพี่ออกไปปราบโจรที่ช่วงนี้ชอบลงมาก่อความวุ่นวายให้ชาวบ้านไม่หยุดหย่อน .....ได้ยินท่านพี่บอกว่าทางการจะส่งคนมาช่วยอีกแรง เป็นฮูหยินมือปราบนี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ข้าเองก็อดห่วงเขาไม่ได้ " " ออ......เดี๋ยวคนของทางการมาทุกอย่างก็คงดีขึ้นเองแหละนะเจ้าอย่าคิดมากเลย ท่านพี่เว่ยของเจ้าเก่งจะตายไป " มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสหายเข้าไว้เพื่อให้กำลังใจนางที่มีสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเมื่อเอ่ยถึงสามี " แย่แล้วเจ้าค่ะคุณหนู ..." หลี่เจินวิ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตกใจ ทำให้คนในห้องหันไปมองนางอย่างงุนงง " หลี่เจินเจ้าจะเสียงดังทำไมกันอยู่ใกล้แค่นี้เอง " " เอ่อ.....คุณชาย.....คุณชายเซี้ยส่งของหมั้นไปที่จวนท่านนายอำเภอแล้วเจ้าค่ะคุณหนู " " หา/หา...." สตรีทั้งสองร้องออกมาพร้อม ๆ กันด้วยความตกใจที่ว่าการอำเภอ งานเลี้ยงเล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายภายในจวน ส่วนมากจะเป็นหัวหน้ามือปราบและทหารที่จะมาปรึกษาหารือกันเท่านั้น งานเลี้ยงนี้จึงคล้ายกับการประชุมเสียมากกว่า ที่จะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าทหาร ซูหวินซี เดินตรวจดูความเรียบร้อย ของอาหารและเครื่องดื่มจนครบหมดทุกอย่างแล้วจึงเดินไปหาผู้ดูแลจวนคนสนิทของท่านตา ที่กำลังดูแลการจัดที่นั่งอยู่กับบ่าวรับใช้ " ท่านพ่อบ้านใหญ่เจ้าคะ " นางเอ่ยเรียกท่านพ่อบ้านใหญ่ที่ดูแลนางมาตั้งแต่เด็กด้วยความเคารพ นางนับถือท่านพ่อบ้านใหญ่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง " คุณหนู ท่านจะกลับ แล้วหรือขอรับ " " ใช่เจ้าค่ะ จากนี้ข้าต้องรบกวนท่านพ่อบ้านแล้ว " " รบกวนอะไรกันขอรับ มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วท่านไม่ต้องเป็นห่วง .... ส่วนเจ้าหลี่เจิน ดูแลคุณหนูให้ดี ๆ นะ " ท่านพ่อกล่าวกับคุณหนูด้วยท่าทางนอบน้อม และหันไปสั่งหลานสาวของตนที่อยู่ด้านหลังของคุณหนูเสียงเข้ม " ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อบ้าน.......ทีกับคุณหนูมีเสียงหนึ่งเสียงสอง พอกับหลานตัวเองฟังแทบไม่ได้ " หลี่เจินแอบบ่นให้ท่า
เซียวเทียนเฟิง เดินทางมาถึงอำเภอชิงเหอพร้อมกับท่านแม่ทัพ แต่เขาแยกตัวออกมาพักที่โรงเตี๊ยมด้านนอกแทน หากจะให้คนที่รักอิสระอย่างเขาไปอยู่ที่เรือนรับรองกับเจ้าแม่ทัพจอมเผด็จการณ์นั่นคงจะไม่ไหว " เมิ่งฉี เจ้าว่าเราจะพักที่ไหนกันดี " เซียวเทียนเฟิง เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทของตน เมื่อตอนนี้พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อทั้งสองแห่งของอำเภอชิงเหอที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งหนึ่งเป็นโรงเตี๊ยมชิงฮุยที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสเลิส ที่รวมเอาอาหารขึ้นชื่อของทุกเมืองมาไว้ที่เดียวกัน ส่วนอีกฝั่งเป็นจุดศูนย์รวมของผู้ที่ชื่นชอบการชิมชาชั้นเลิสที่รวบรวมเอาใบชาจากทั่วทุกสารทิศมารวมกันไว้ในโรงเตี๊ยมฟู่หลงแห่งนี้ " ข้าว่า โรงเตี้ยมฟู่หลง เหมาะแก่การพักผ่อนดีขอรับคุณชาย " " อืม ข้าเห็นด้วย ไปกัน " เซียวเทียนเฟิง เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเดินนำ ลูกน้องคนสนิทเข้าไปในโรงเตี๊ยมฟู่หลง เพียงแค่พวกเขาก้าวผ่านประตูของโรงเตี๊ยมเข้ามา กลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำชาก็โชยมาตามลม ทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปพลันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที แค่กลิ่นยังขนาดนี้ แล้วหากได้ลิ้ม
ซูหวินซี เดินตรวจดูรายการอาหารที่นางให้หลี่เจินไปซื้อมา เพื่อที่จะได้นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนอยู่ในตอนนี้ แม้ว่านางจะไม่ได้ไปเอง แต่ก็ให้คนนำไปส่งให้อยู่ดี นางนำเงินส่วนตัวที่ได้กำไรจากการขายเครื่องหอมส่วนหนึ่งมาซื้อของใช้ที่จำเป็นและยารักษาโรคไปมอบให้แก่ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนอยู่ " ซีซี มีอะไรให้ข้าช่วยไหม " " ไม่ " นางตอบโดยไม่หยุดคิดซักนิด และไม่หันไปมองให้เสียเวลาด้วยซ้ำว่าใครอาสามาช่วยนาง แค่ฟังเสียงนางก็รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร จะเป็นใครไปได้นอกจาก ' ซานเป่าโจ ' สหายที่เคยวิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ที่ตอนนี้เขาเป็นถึงมือปราบหนุ่มที่สาว ๆ ในอำเภอชิงเหอแห่งนี้ต่างก็หมายปอง " เจ้าจะไม่คิดซักนิดเลยหรือ " " คิดทำไม ข้ามิกล้ารบกวนเวลาอันมีค่าของท่านมือปราบซานหรอกเจ้าค่ะ " " สตรีทุกคนในอำเภอนี้ล้วนอยากให้ข้าช่วยกันทั้งนั้น มีแต่เจ้านี่แหล่ะ ที่ชอบผลัก ไสไร่ส่งข้า " นางหยุดดูรายการของในมือแล้วหันมามองหน้าสหายอย่างจริงจัง " เจ้าดูนั่น " นางชี้นิ้วไปที่สะพานฝั่งตรง
เมืองหลวง จวนตระกูลไป๋ ท่านโหวไป๋ซ่างเจินกลับมาที่จวนของตนในช่วงสาย เขาเดินตรงไปยังห้องตำรา แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าภาพเหมือนของสตรีนางหนึ่ง ที่มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา นางคือ ไป๋ฮูหยิน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเยว่เฟยซิน มารดาผู้ให้กำเนิด ' ไป๋มู่จิน ' บุตรชายคนเดียวของเขา นางจากไปตั้งแต่ ไป๋มู่จิน อายุได้เพียงสองขวบเท่านั้นหลังจากนั้นเขาก็โตมากับแม่นมของเขาที่เป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของเยว่เฟยซิน ความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาไม่ค่อยดีนัก เพราะในตอนนั้นหลังจากที่เยว่เฟยซินจากไป ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยกตำแหน่งฮูหยินใหญ่ให้ฮูหยินรองที่นางเป็นคนตกแต่งเข้ามาให้กับไป๋ซ่างเจิน ทำให้เขาและบุตรชายห่างเหินกันนับตั้งแต่นั้นมา และเมื่อไป๋มู่จิน ได้รับตำแหน่งแม่ทัพ เขาก็แยกตัวออกไปอยู่ที่จวนของตนเองและไม่เคยกลับมาที่จวนตระกูลไป๋อีกเลย " ซินเอ๋อ เจ้าไม่น่าจากข้าไปเร็วเยี่ยงนี้เลย ข้ากับเขายังมิอาจมีโอกาสได้คุยกันดี ๆ เลยสักครั้ง หากเจ้ายังอยู่ก็คงดีกว่านี้ ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน " ไป๋ซ่างเจิน ยืนจ้องมองภาพเสมื
เมืองหลวง & จวนแม่ทัพ ค่ำคืนที่เงียบสงบ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวง สายลมเย็นพัดผ่านร่างบุรุษ ชุดดำใบหน้าคมเข้มรูปร่างสูงโปร่งดวงตาคมจมูกโด่งสัน ที่ฝึกเพลงดาบประจำตระกูลอยู่กลางลานบ้าน โดยมีลูกน้องคนสนิทนาม ' เสี่ยวฮัว ' ยืนเฝ้าผู้เป็นนายอยู่ไม่เคยห่างกาย เขาคือมัจจุราชเดินดินที่มีหน้าตาเปรียบเสมือนลูกรักของพระเจ้า หรือที่สหายของเขาชอบเรียกเขาว่าเพชรฆาตหน้าหยก ที่มีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แดนเหนือ ' ไป๋มู่จิน ' เป็นลูกชายคนเดียวของท่านโหว ' ไป๋ซ่างเจิน ' คนส่วนใหญ่ต่างหลีกหนีไปให้ไกล แม้แต่ญาติพี่น้องก็ไม่เว้น เพราะหากใครทำผิด เขาก็ลงโทษตามกฎ โดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนเรื่องอิสตรียิ่งแล้วใหญ่ เพียงแค่เจอสายตาเย็นชาของเขา พวกนางก็วิ่งหนีแทบไม่ทัน แต่หากเขาได้สนใจอะไรเข้าแล้วละก็ เขาจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ จนกว่าจะได้ของสิ่งนั้นมาครอบครอง " เฮ้อ....กลับมาเมืองหลวงทั้งที ใยเจ้าถึงยังเอาแต่ซ้อมดาบอยู่
สตรีร่างบางนั่งเก็บขวดน้ำหอมลงในตระกร้าอย่างระมัดระวัง นี่เป็นน้ำหอมที่นางพึ่งสกัดเสร็จนางพยายามหากลวิธีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อที่จะให้ความหอมคงอยู่ได้นานขึ้น " คุณหนูเจ้าคะ " " ว่าไงหลี่เจิน ข้าใกล้เสร็จแล้ว " นางขานรับสาวใช้ของตนทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ " ของที่ท่านให้ข้าไปหาได้แล้วเจ้าค่ะ " " ออ....เสร็จแล้วเจ้าเอาไปเก็บที " " เจ้าค่ะ " หลี่เจินรับตระกร้าน้ำหอมไปเก็บไว้บนชั้น แล้วกลับมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามคุณหนูของนาง ก่อนที่จะแกะกระดาษห่อหนังสือออก ข้างในมีสมุดภาพเปลือยของชายหญิงกำลังร่วมรักกันในท่วงท่าต่าง ๆ ซูหวินซีกวาดตามองแล้วพยักหน้าเบา ๆ " เข้าใจแล้ว...ก็ไม่เห็นจะยากอะไร...เจ้าว่าไหม " นางเงิยหน้าขึ้นมาคุยกับสาวใช้คนสนิทที่นั่งเอามือปิดตาตัวเองไว้ แล้วส่ายหน้าไปมาเบา ๆ เด็กหนอเด็ก " แล้วนั่นอะไรอยู่ในมือเจ้าน่ะ " " อ๋อ....นี่คือภาพเหมือนและประวัติของคุณชายที่มีชื่อเสียงตามลำดับหนึ่งถึงสิบ
Comments