แชร์

บทที่ 1293

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตผู้นี้ดึงดูดความสงสัยใคร่รู้ของเหล่าผู้อพยพได้ในที่สุด พวกเขาต่างพากันเดินเข้ามาหา

ในไม่ช้า รอบกายของหนิงชิงโหวก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมายมหาศาล

ในสายตาของผู้อพยพ หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตปรากฏตัวที่นี่ ย่อมต้องเป็นผู้รับคำสั่งราชสำนักมาแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยเป็นแน่ เหล่าผู้อพยพต่างหยิบชามกระเบื้องในมือขึ้นมา วิงวอนขอเสบียงอาหารจากหนิงชิงโหว

ทันใดนั้น หนิงชิงโหวกลับรู้สึกว่าตนเองช่างต่ำต้อยถึงเพียงนี้ แม้นได้อ่านตำราปราชญ์จนเจนจบ แต่ก็มิอาจหาหนทางแก้ไขปัญหาในความเป็นจริงจากในตำราเหล่านั้นได้ บัดนี้ราษฎรผู้ทุกข์ยากอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับจนปัญญา ไร้ความสามารถจะช่วยเหลือ

จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์เริ่มจะวุ่นวาย กระทั่งมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยเริ่มดึงทึ้งชายเสื้อของหนิงชิงโหว แต่หนิงชิงโหวก็มิได้หวั่นไหว ในแววตาของเขามีเพียงราษฎรผู้ทุกข์ยากเหล่านี้ นี่คือเขตเมืองหลวง ใต้พระบาทโอรสสวรรค์แท้ ๆ ในต้าเซี่ยอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ยังมีราษฎรเช่นนี้อีกเท่าใดกัน เขาเองก็ยากจะจินตนาการได้

พลันเกิดเพลิงแห่งความมุ่งมั่นลุกโชนขึ้นในใจของหนิงชิง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1294

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่ละคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ต่างมองตาละห้อยมายังหนิงชิงโหว เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังแว่วอยู่ข้างหู สภาพแวดล้อมในค่ายผู้ลี้ภัยยามนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง ไม่มีขุนนางผู้ใดยินดีเข้ามารับผิดชอบ น้ำเน่าไหลนองไปทั่ว อากาศค่อย ๆ อุ่นขึ้น เริ่มมีแมลงวันแมลงหวี่แพร่พันธุ์ หนิงชิงโหวสูดลมหายใจลึก เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้เบื้องหน้าพวกท่านมีเพียงหนทางรอดเดียว ฉวยโอกาสที่อากาศยังมิได้ร้อนอบอ้าว รีบเดินทางไปยังตงไห่เพื่อพึ่งพิงองค์รัชทายาททันที เมื่อถึงตงไห่ องค์รัชทายาทย่อมไม่ทรงทำให้พวกท่านลำบากเป็นแน่ มิเช่นนั้นหากยังคงอยู่ในเมืองหลวงต่อไป ก็มีแต่ทางตายสถานเดียว!” หนิงชิงโหวสีหน้าเคร่งขรึม ผู้อพยพเบื้องหน้ามืดฟ้ามัวดิน มองไปสุดลูกหูลูกตา มิอาจเห็นจุดสิ้นสุดได้เลย นี่จะต้องมีผู้อพยพมากมายเพียงใดกัน และมีครอบครัวที่เคยสมบูรณ์พูนสุขสักกี่ครอบครัวกันเล่า? เพียงเพราะภัยสงคราม จึงต้องตกอยู่ในสภาพพลัดพรากไร้ที่อยู่อาศัย หนิงชิงโหวตวาดเสียงดัง: “ผู้ใดเชื่อมั่นในองค์รัชทายาท ผู้นั้นรอด! ผู้ใดกังขาในองค์รัชทายาท ผู้นั้นตาย!” แม้สุ้มเสียงของหนิงชิงโหวจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1295

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีเสียงด่าทอดังกึกก้องสะท้านโสต! เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึง “อะไรนะ?” “เหตุใดผู้อพยพพวกนี้จึงยินยอมไปตงไห่?” “พระราชโองการยังมาไม่ถึงมิใช่หรือ?” เหล่าขุนนางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งุนงงสงสัยยิ่งนัก “พระราชโองการมาถึงแล้ว!” เสียงกังวานดังก้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย เหล่าผู้อพยพต่างมีสีหน้าตกตะลึงงัน “พระราชโองการ!” “ฝ่าบาททรงระลึกถึงพวกเราแล้ว รีบคุกเข่าลงเร็ว!” “...” ผู้อพยพนับแสนต่างค้อมกายลงคุกเข่า หมอบกราบถวายความเคารพอย่างสูง เว่ยซวินถือพระราชโองการ เดินผ่านเหล่าขุนนางไป มิได้สนใจแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัย คลี่พระราชโองการออกช้า ๆ: “สนองโองการสวรรค์ ฝ่าบาทมีราชโองการดังนี้ ปัจจุบันผู้อพยพในเมืองหลวงอดอยากปากแห้ง มีผู้คนล้มตายเพราะความอดอยากเกลื่อนกลาด เป็นความทุกข์ร้อนในใจของข้า บัดนี้ตงไห่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของราษฎรได้ จึงมีบัญชาให้ผู้อพยพทั้งหนึ่งแสนคนในเมืองหลวง เดินทางไปยังตงไห่พร้อมกัน ชักช้ามิได้แม้เพียงครู่ยาม ห้ามผู้ใดขัดขวางโดยเด็ดขาด!” “จงปฏิบัติตามนี้!” สายตาของเว่ยซวินจับจ้องไปยังเหล่าเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1296

    ณ จวนอ๋องตงไห่ นกพิราบสื่อสารตัวหนึ่งกางปีกบินมา เกาะลงบนบ่าของซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าสงสัยเคลือบแคลง: “ยามนี้มิมีการศึก เหตุใดจึงมีนกพิราบส่งสาส์นมา?” นางปลดกระบอกสาส์นจากขานกพิราบด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็พลันตกใจจนหน้าซีดเผือด “อะไรนะ!” ลั่วอวี้จู๋ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ซูเฟิ่งหลิงยื่นสาส์นให้ลั่วอวี้จู๋ เอ่ยว่า: “พี่สะใภ้ เป็นสาส์นจากหนิงชิงโหวที่เมืองหลวง ในสาส์นเอ่ยว่า บัดนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตตามคำขอขององค์รัชทายาทแล้ว มีพระบัญชาให้ผู้อพยพนับแสนคนเดินทางมายังตงไห่ทันที” ลั่วอวี้จู๋อ่านสาส์นจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “องค์รัชทายาทเหตุใดจึงทรงทำตามอำเภอใจเช่นนี้? บัดนี้ราษฎรตงไห่เพิ่งจะพอมีพอกินประทังชีวิต องค์รัชทายาทกลับทูลขอผู้อพยพจากฝ่าบาทอีกนับแสนคน? ยังมิต้องพูดถึงว่าผู้อพยพเหล่านี้ต้องบุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามเขามายังตงไห่ หนทางยาวไกล เมื่อมาถึงตงไห่แล้ว พวกเขาจะกินอะไร ดื่มอะไร?” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “พี่สะใภ้ ตอนนี้พวกเราไปหาองค์รัชทายาทที่ห้องหนังสือกันเถิด ดูว่าพระองค์ทรงมีแผนการเช่นไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1297

    ลั่วอวี้จู๋เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท พระองค์โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด บัดนี้ยังกลับคำได้ทัน คำนวณเวลาเดินทางแล้ว ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกรงว่ายังมิได้เดินทางออกจากเขตเมืองหลวง ยังสามารถให้พวกเขากลับไปยังค่ายผู้ลี้ภัยได้ หากมาถึงตงไห่แล้ว ย่อมสิ้นหนทางแก้ไข! หากที่ตงไห่มิอาจจัดการผู้อพยพนับแสนคนนี้ได้อย่างเหมาะสม เกรงว่าผลลัพธ์ร้ายแรงที่ตามมาจะยากเกินกว่าจะคาดคะเนได้!” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “มิต้อง เพียงผู้อพยพแสนคน ข้ายังเห็นว่าน้อยไปด้วยซ้ำ” “เห็นว่าน้อยไปรึ?” เหล่าพี่สะใภ้ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ อ้าปากค้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ย: “องค์รัชทายาท ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกือบจะเท่ากับจำนวนประชากรของเมืองตงไห่แล้ว เมืองตงไห่เล็กแค่นี้ จะรองรับผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า แล้วเอ่ยเสริม: “ใช่แล้วเจ้าคะ องค์รัชทายาท ยังมิต้องเอ่ยถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของผู้อพยพนับแสนคน เพียงแค่เรื่องที่พักอาศัยก็เพียงพอให้ปวดหัวแล้ว คงมิอาจให้พวกเขาไปอาศัยอยู่ตามท้องถนนได้หรอกกระมัง? ถึงเวลานั้นเกรงว่าเมืองตงไห่คงจะวุ่นวายเหมือนจับปูใส่กระด้ง ไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1298

    หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิงอย่างระอาใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “อ้ายเฟย เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน? เราคือองค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ยผู้สง่างาม หรือจะก่อกบฏต่อตนเองได้อย่างไร?” ซูเฟิ่งหลิงถามอย่างประหลาดใจ: “เช่นนั้นเหตุใดองค์รัชทายาทจึงตรัสว่าเขาทิศประจิมอยู่ใกล้เมืองหลวงเกินไป ทำให้การจัดการบางเรื่องไม่สะดวกเล่าเจ้าคะ?” หลี่หลงหลินส่ายหน้า เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้ไม่ว่าจะเป็นการถลุงโลหะหรือการหล่อโลหะล้วนก่อให้เกิดไอพิษ ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงยิ่ง หากตั้งอยู่ที่เขาทิศประจิม ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อพระวรกายของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ อีกทั้งในภายภาคหน้าเมื่อกิจการขยายใหญ่ขึ้น ไอพิษที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากขึ้น ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่ราษฎรทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย” ซุนชิงไต้พยักหน้า เอ่ยว่า: “ที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นมีเหตุผลยิ่งเจ้าค่ะ บัดนี้สภาพแวดล้อมที่เขาทิศประจิมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วจริง ๆ อากาศโดยรอบก็เริ่มมีกลิ่นผิดปกติ กระทั่งมีราษฎรที่เขาทิศประจิมเริ่มมีอาการไอที่ข้าหาสาเหตุมิได้ และจำนวนผู้ป่วยก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” หลิ่ว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1299

    “สามารถงอกเงยเป็นเงินได้!” ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ที่ดินที่สามารถงอกเงยเป็นเงินได้นั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูจากท่าทีของหลี่หลงหลินแล้ว ก็ไม่เหมือนกำลังเอ่ยวาจาโอ้อวด หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ข้าตั้งใจจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่แถบชายฝั่งทะเล มิเพียงสามารถจัดการให้ผู้อพยพพักพิงอาศัยได้ ยังจะขยายขนาดของสามกิจการใหญ่นั้น ให้ก้าวไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน! ที่ดินเช่นนี้ ไม่ว่าจะแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ ย่อมสามารถนำมาซึ่งผลกำไรหลั่งไหลมามิขาดสายได้อย่างแน่นอน!” บนใบหน้าของหลี่หลงหลินเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น มั่นใจในแผนการ ท่าทีเปี่ยมด้วยอำนาจบัญชาการ เมื่อได้ฟัง ลั่วอวี้จู๋พลันมีสีหน้าปรากฏแววลังเล: “องค์รัชทายาท ปัจจุบันกิจการนำผลกำไรมาสู่ตระกูลซูในแต่ละปีอย่างมั่นคงและเป็นกอบเป็นกำแล้ว หากผลีผลามโยกย้ายและขยายขนาดกิจการ มิเพียงต้องนำผลกำไรที่ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปลงทุนทั้งหมด กระทั่งอาจต้องเผชิญกับสภาวะที่รายได้ไม่แน่นอนอีกด้วย...” ลั่วอวี้จู๋ดูแลบัญชีของตระกูลซูทั้งหมดตลอดจนกิจการทั้งหมด ในฐานะผู้ดูแลการคลัง นางย่อมต้องพิจารณาจากมุมมองด้านผลกำไร ไม่ว่าจากด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1300

    ทุกคนมองไปยังจุดที่หลี่หลงหลินชี้บนแผนที่ สีหน้าล้วนแสดงความลำบากใจ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ณ สถานที่แห่งนี้จะสามารถสร้างเมืองใหม่ขึ้นได้จริงหรือเจ้าคะ?” แม้ซูเฟิ่งหลิงจะไม่เข้าใจวิชาการก่อสร้าง แต่นางมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง บ้านเรือนทั้งหมดในต้าเซี่ยล้วนต้องสร้างห่างจากทะเลและทะเลสาบ มิเช่นนั้นอากาศชื้นที่มาพร้อมกับลมทะเลจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของอิฐดินดิบที่ใช้สร้างบ้าน นานวันเข้าบ้านเรือนก็จะพังทลาย กระทั่งไม่มีหนทางซ่อมแซม ทำได้เพียงรื้อทิ้งสร้างใหม่เท่านั้น ดังนั้นแม้เมืองตงไห่จะอยู่ติดทะเล แต่จากประตูเมืองไปจนถึงริมทะเลที่แท้จริงยังต้องเดินทางอีกกว่าสิบลี้ หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ที่นี่คือทำเลที่มีค่าที่สุดในตงไห่ ตลอดจนทั่วทั้งต้าเซี่ย เพียงหนึ่งเดียว ณ ที่แห่งนี้จะต้องสร้างเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ที่นี่อยู่ใกล้ชายทะเลมากเกินไป หากสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่นี่ เกรงว่าอีกไม่กี่ปีก็จะถูกลมทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นกองซากปรักหักพัง เรื่องนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น องค์รัชทายาทโปรดทรงไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1301

    กงซูหว่านส่ายหน้า พูดเสียงเคร่งขรึม “น้องเล็ก ข้าเองก็ไม่รู้ ถ้อยคำที่องค์ชายพูดอยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจของข้า ไม่กล้าสรุปให้ชัดเจนในทันทีเลยได้ ข้าอยากได้ยินองค์ชายอธิบายสักหน่อยว่าตกลงปูนคอนกรีตนี้คือสิ่งใด จากนั้นค่อยตัดสินใจ”หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ปูนคอนกรีตนี้แท้จริงแล้วธรรมดามาก ก็คือผลผลิตที่ได้จากการนำปูนขาว ดินเหนียวและกรวดทรายในสัดส่วนที่แน่นอนมาผสมกับน้ำ ดังนั้นจึงเรียกชื่อตามความหมายว่าปูนคอนกรีต”ดวงตากงซูหว่านทอประกายระยับ “องค์ชาย เช่นนั้นคำว่าแข็งตัวหมายความว่าอันใด?”ซูเฟิ่งหลิงพูดว่า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดล้วนผสมกับน้ำแล้วจะไม่เละเป็นโจ๊กอีกหรือ ยังจะนำมาสร้างบ้านได้เยี่ยงไร?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “แข็งตัวก็คือส่วนสำคัญยิ่งกว่าสำคัญ”ทุกคนล้วนเผยสีหน้าแปลกใจหลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “เริ่มแรกนำปูนขาว ดินเหนียวและกรวดทรายในสัดส่วนที่แน่นอนมาผสมกันให้ดี เพราะคุณสมบัติของน้ำ ตอนนี้ปูนมีลักษณะเหมือนแป้งเปียก ทั้งเหลวทั้งไม่จับตัวกัน ไม่มีคุณสมบัติอันใด ก็เพราะสาเหตุนี้ มันถึงมีคุณสมบัติในการขึ้นรูป สามารถเปลี่ยนรูปแบบไปตามความคิด

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1316

    เมื่อกงซูหว่านได้ยินคำพูดของหลิวเกินเซิง ในดวงตาของนางพลันฉายแววตกใจ“หรือว่าตั้งแต่ตอนเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่เมืองหลวงเมื่อปีก่อน องค์ชายก็ทรงคาดการณ์ถึงวันนี้ และวางแผนโครงการเมืองใหม่ตงไห่ทั้งหมดไว้แล้ว?”กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความนับถืออยู่บ้างหลิวเกินเซิงเผยรอยยิ้มซื่อๆ กล่าวว่า “ท่านหัวหน้าช่าง วางใจเถอะขอรับ อย่างอื่นพวกเราอาจไม่ถนัด แต่งานใช้แรงกายแบบนี้พวกเราชำนาญนัก แม้เจอสิ่งที่ไม่เข้าใจ พวกเราก็เรียนรู้ได้ขอรับ”โครก...ท้องของกงซูหว่านส่งเสียงดังลั่น ใบหน้างามพลันแดงก่ำ เต็มไปด้วยความกระดากอาย เอ่ยเสียงเบา “ข้า... ดูเหมือนจะหิวแล้ว”ซุนชิงไต้มีสีหน้ายินดี “พี่สะใภ้รอง ท่านรู้ว่าหิวแล้ว นั่นก็หมายความว่าอาการป่วยทางใจหายดีแล้ว! องค์ชายช่างเก่งกาจจริงๆ รักษาปุ๊บหายปั๊บเลย!”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย โบกมือคราหนึ่ง “นำปลาในห้องเก็บน้ำแข็งออกมาให้หมด! วันนี้กินเนื้อดื่มเหล้ากันให้เต็มที่!”ทุกคนโห่ร้องยินดีอย่างลิงโลด ชูแขนตะโกนก้อง...จวนพระเชษฐภาดาหลู่จงหมิงกำลังดื่มสุราสรวลเสเฮฮากับเหล่าคหบดีตงไห่ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงดนตรีและการร่ายรำอย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1315

    ทุกคนภายในห้องพลันชะงักงันไปครู่หนึ่ง กล่าวด้วยความตกตะลึง “องค์รัชทายาท นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเพคะ!”ในดวงตาของซุนชิงไต้ฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง “องค์รัชทายาท อย่าได้ทรงผลีผลามเป็นอันขาดเพคะ หากอาการป่วยทางใจนี้รักษาไม่หายดี ก็อาจจะกลายเป็นปมในใจฝังลึก นั่นจะยิ่งเป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่หลวงตามมาได้!”ซูเฟิ่งหลิงจับมือของหลี่หลงหลินไว้ พลางทูลทัดทาน “องค์รัชทายาท เรื่องเช่นนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของท่านพี่สะใภ้สามจัดการเถิดเพคะ ขนาดท่านพี่สะใภ้สามผู้เป็นถึงหมอเทวดาแห่งต้าเซี่ยยังเห็นว่าเป็นเรื่องยากลำบาก ย่อมไม่ใช่การกล่าวเกินจริงเพื่อให้ตกใจเป็นแน่”หลี่หลงหลินยิ้มแย้มอย่างมีลับลมคมใน เสด็จไปประทับข้างกงซูหว่าน แล้วทรงผลักบานหน้าต่างเปิดออกทันทีทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด!แม้จะย่างเข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศภายนอกยังคงมีไอเย็นหลงเหลืออยู่บ้าง หากทำให้กงซูหว่านต้องลมจนเป็นหวัดขึ้นมาจะทำเช่นไร?ทว่าในวินาทีต่อมา สีหน้าตกตะลึงของทุกคนพลันแข็งค้างอยู่บนใบหน้าแม้แต่กงซูหว่านเองก็ยังเผยสีหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีดออกมาที่ปรากฏแก่สายตาคือ ภายในลานตำหนักอ๋องแห่งนี้ บัดนี้กลับมีผู้คนยื

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1314

    อารมณ์ของเหล่าผู้ลี้ภัยพลันผันผวนขึ้นลงราวกับนั่งรถไฟเหาะตีลังกา“มีเนื้อให้กินหรือพ่ะย่ะค่ะ? องค์รัชทายาท ท่านไม่ได้ทรงล้อเล่นใช่หรือไม่?”“นี่ข้าไม่ได้ฝันไปจริงๆ ใช่หรือไม่?”หลิวเกินเซิงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าหลี่หลงหลิน ตื้นตันใจอย่างยิ่ง กล่าวเสียงสั่นเครือ “องค์รัชทายาท พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยชีวิตทั้งครอบครัวของข้าน้อยไว้ ชาตินี้ต่อให้ต้องทำงานรับใช้หนักหนาดั่งวัวม้า ข้าน้อยก็จะขอตอบแทนพระกรุณาธิคุณให้จงได้พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าผู้ลี้ภัยต่างพากันคุกเข่าลง ถวายบังคมคำนับต่อหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินกล่าวเสียงเรียบ “ข้าเป็นถึงรัชทายาทแห่งแผ่นดิน ย่อมมีใจผูกพันห่วงใยประชาราษฎร์ การกังวลในทุกข์สุขของราษฎรถือเป็นหน้าที่ที่ข้าพึงกระทำอยู่แล้ว พวกท่านทุกคนไม่จำเป็นต้องมากพิธีรีตองอยู่ตรงนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด!”เหล่าผู้ลี้ภัยต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณจนน้ำตาไหลพรากหลี่หลงหลินตรัสเสียงเข้มขึ้น “พวกท่านเดินทางข้ามเขาลุยน้ำ เอาชนะความยากลำบากและภยันตรายนานัปการจนมาถึงตงไห่ได้ ก็รีบเข้าเมืองไปจัดการเรื่องที่พักพิงและกินให้อิ่มท้องเสียก่อน นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”คนเรานั้นต้องพึ่งพาอาหารการ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1313

    สีหน้าสิ้นหวังปรากฏชัดบนใบหน้าอันซูบผอมของเหล่าผู้อพยพ พวกเขาโศกเศร้าราวกับเพิ่งสูญเสียบุพการี“เกินเซิง พวกเรากลับกันเถอะ เดินหน้าต่อไปก็คงเสียแรงเปล่า”หลิวเกินเซิงกล่าวเสียงขรึม “กลับรึ? ตอนนี้พวกเราจะกลับไปที่ไหนได้อีก! ข้าไม่เชื่อว่าองค์รัชทายาทจะทรงทำเรื่องเช่นนี้ หลอกลวงน้ำใจประชาชน! วันนี้ต่อให้ต้องตาย ก็ขอตายให้รู้เรื่องรู้ราวไปเลย!”กล่าวจบ หลิวเกินเซิงก็สาวเท้าเดินตรงไปยังศาลาสิบลี้“เกินเซิง! ทำไมเจ้าถึงได้โง่เช่นนี้ ชีวิตต่ำต้อยก็ถือว่าเป็นชีวิตนะ หากเจ้าไปมีเรื่องมีราวกับทหารพวกนี้เข้า อาจต้องเอาชีวิตไปทิ้งได้!”ผู้คนที่ร่วมเดินทางมาด้วยพยายามทัดทาน แต่หลิวเกินเซิงเดินลิ่วไปไกลแล้วทุกคนจึงจำต้องเดินตามไปข้างหลัง เพื่อคอยระวังไม่ให้หลิวเกินเซิงก่อเรื่องร้ายแรงขึ้นศาลาสิบลี้ทหารม้าสิบกว่านายรอคอยอยู่ด้านนอกศาลา ทั้งไพร่พลและอาชาล้วนแข็งแกร่งกำยำ ดูน่าเกรงขาม ชวนให้ผู้พบเห็นขวัญหนีดีฝ่อภายในศาลามีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมอาภรณ์ผ้าไหมแพรพรรณงดงามกำลังนั่งจิบชาหอมกรุ่นอยู่หลิวเกินเซิงเดินตรงไปยังศาลา หมายจะเข้าไปขอคำอธิบายให้รู้เรื่องผู้ลี้ภัยกลุ่มหนึ่งตามติดอยู่ข้า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1312

    ยามเช้าตรู่นอกศาลาพักทางสิบห้าลี้ เมืองตงไห่สายลมวสันต์พัดโชยเบาๆ แสงแดดอ่อนละมุนหลิวเกินเซิงพาบรรดาผู้ลี้ภัยหนุ่มแน่นมาถึงใกล้เขตเมืองตงไห่ก่อนผู้ใด ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ เขาโบกมือพลางตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคน อดทนอีกหน่อย อีกไม่ไกลก็ถึงศาลาสิบลี้แล้ว! พอพ้นศาลานั้นก็เข้าเมืองตงไห่ได้เลย! ก่อนตะวันตกดินเราจะได้พบองค์รัชทายาทแน่นอน!”“แค่ได้พบหน้าองค์รัชทายาท พวกเราก็จะมีข้าวกินแล้ว!”ทว่าเมื่อได้ฟังคำของหลิวเกินเซิง เหล่าผู้ลี้ภัยกลับมิได้แสดงความยินดีแม้แต่น้อย แต่ละใบหน้าที่ซูบตอบกลับฉายแววคลางแคลงใจ“เกินเซิง เจ้าบอกว่าองค์รัชทายาทผู้นี้จะเชื่อถือได้จริงหรือ? ตลอดทางที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนเขตตงไห่จะรกร้างกันดาร พืชพันธุ์ธัญญาหารในนาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเก็บเกี่ยวได้ ท่านแน่ใจหรือว่าพวกเราไปถึงเมืองตงไห่แล้วจะมีข้าวกินจริงๆ?”“ใช่แล้ว เกินเซิง แม้ว่าหนทางนี้จะยากลำบากเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่อย่างน้อยระหว่างทางก็ยังพอมีเปลือกไม้ให้แทะ มีรากหญ้าให้เคี้ยว แต่พอเข้ามาในเขตเมืองตงไห่ ต้นไม้ทุกหนแห่งกลับมีแต่ลำต้นเกลี้ยงเกลา แม้แต่เปลือกไม้ก็ไม่มีให้แทะ ไม่ต้องพูดถึงรากหญ้า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1311

    เมื่อหลี่หลงหลินเห็นว่าท่าทีของกงชูหว่านแน่วแน่เด็ดเดี่ยว จึงไม่ได้ขัดขวางอีกต่อไป เพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วกล่าวว่า “พี่สะใภ้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องการรับคนเข้าทำงานก็ไม่จำเป็นต้องเร่งร้อนนักหรอก ขนาดเมืองตงไห่ใหญ่โตปานนั้น ประชากรกว่าหลายแสน จะให้เชื่อคำของพระเชษฐภาดาฝ่ายเดียวได้อย่างไร? ท่ามกลางราษฎรย่อมมีผู้ตาสว่างรู้ผิดชอบอยู่บ้าง เจ้าจึงไม่จำเป็นต้องแบกรับความกดดันจนหนักอึ้ง รับสมัครได้เท่าใด ก็เอาเท่านั้น! มีมาเท่าใด ก็รับไว้ทั้งหมด ไม่ต้องปฏิเสธผู้ใด!”กงซูหว่านชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยถามว่า “ไม่ปฏิเสธผู้ใดหรือเพคะ? รัชทายาท ยามนี้ค่าจ้างที่เราเสนอให้นั้นสูงกว่าราคาตลาดเท่าตัว ทั้งสวัสดิการก็ดีเยี่ยม หากมิใช่เพราะพระเชษฐภาดาออกมาสร้างความวุ่นวาย เกรงว่าเพียงแค่วันนี้วันเดียวก็คงสามารถรับสมัครช่างฝีมือดีได้ครบตามจำนวนแล้ว”“ทว่ายามนี้ข่าวลือแพร่สะพัด คนที่มาก็ล้วนเป็นพวกไร้ฝีมือ ถ้าไม่คัดกรองให้ดี เกรงว่างานก่อสร้างจะต้องพังเอาแน่ๆ”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พลางกล่าว “พี่สะใภ้ไม่ต้องกังวล แม้แต่พวกอันธพาลข้างถนน ก็ยังต้องเชื่องเมื่อเจอกับเฟิ่งหลิง ตราบใดที่คนเหล่านั้นมีฝีมือ ไม่ว่าจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1310

    ภายในห้องหนังสือหลี่หลงหลินกำลังวาดผังอย่างขะมักเขม้น เห็นว่ากงซูหว่านมา จึงเงยหน้าพูดยิ้มๆ “พี่สะใภ้รอง ท่านด่าพระเชษฐภาดาได้เจ็บแสบยิ่งนัก สาแก่ใจจริงๆ!”ใบหน้ากงซูหว่านแดงเรื่อ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ท่านรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “ไม่ใช่เพียงข้า เรื่องนี้เล่าลือไปทั่วทั้งตงไห่แล้ว อีกไม่นานก็จะส่งต่อไปยังเมืองหลวง ผ่านไปนานกว่านี้อีกระยะหนึ่ง ผู้คนทั้งเหนือใต้ก็จะได้รับรู้กันอย่างถ้วนทั่ว!”“พี่สะใภ้รอง ท่านจะมีชื่อเสียงแล้ว!”สีหน้ากงซูหว่านแดงยิ่งขึ้น ขบเม้มริมฝีปากเบาๆ “องค์ชาย ท่านอย่าล้อหม่อมฉันเล่นเลย! ชื่อเสียงเรื่องด่าคนมีอะไรดี! หม่อมฉันหญิงร้ายเช่นนี้ น่ากลัวว่าไม่มีชายใดต้องการ แต่งไม่ออกแล้ว!”หลี่หลงหลินแสยะยิ้ม “หากไม่มีใครกล้าแต่งกับท่าน ข้าจะแต่งเอง! อย่างไรเสียข้าก็แต่งงานกับเสือโคร่งอย่างซูเฟิ่งหลิงไปแล้ว เพิ่มหญิงปากคอเราะร้ายมาอีกหนึ่งคนก็ชินชาไม่รู้สึกรู้สาอันใดแล้ว!”กงซูหว่านสะเทิ้นอายใบหน้าแดงเรื่อ พูดเสียงนุ่มนวล “ห้ามพูดถึงหม่อมฉันและน้องเล็กเช่นนี้! ยิ่งไปกว่านั้น ใครรับปากว่าจะแต่งกับท่าน...”ผิวพรรณที่เดิมทีขาวดุจหิมะของกงซูหว่า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1309

    กงซูหว่านหัวเราะขึ้นมา “อะไรกัน? พระเชษฐภาดาท่านกลัวแล้วหรือ? คนซื่อตรงย่อมไม่หวั่นเกรงต่อคำว่าร้าย ท่านยิ่งไม่ให้พูด ข้าก็ยิ่งจะพูด! ข้ายังจะตะโกนเสียงดังอีกด้วย! พวกเจ้าสกุลหลู่ล้วนกบฏฝังลึกอยู่ภายในกระดูก อิงตามที่ข้าได้เห็น น่ากลัวว่าพระเชษฐภาดาก็ใกล้จะเจริญตามรอยพวกเขาในอีกไม่ช้าแล้ว!”หลู่จงหมิงกุมอกแน่นๆ คล้ายถูกคนชกอย่างแรงหนึ่งหมัด เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “สาม...สามหาว!”“ผู้หญิงฝีปากคมกริบตัวดี!”“กล้าหยามเกียรติพระเชษฐภาดาต่อหน้าธารกำนัล!”“เด็กๆ ตบปาก!”“ตบปากคมกริบของนางให้ข้า!”เพียงสิ้นเสียงลง บ่าวท่าทางดุดันหนึ่งกลุ่มทางด้านหลังหลู่จงหมิงก็ถลันเข้ามาล้อมกงซูหว่านเอาไว้สีหน้าเหล่าราษฎร์เผือดซีด ต่างพากันแยกย้ายพระเชษฐภาดาหยิ่งยโสโอหังภายในตงไห่จนคุ้นชินแล้ว พวกเขาล่วงเกินไม่ไหว!กงซูหว่านกลับไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าเยียบเย็นผ่อนคลาย สบมองหลู่จงหมิงสีหน้าหมิ่นแคลน “ท่านกล้าแตะต้องข้า?”หลู่จงหมิงหัวเราะ “ข้าเป็นพระเชษฐภาดาของฮ่องเต้พระองค์ปัจจุบัน เจ้านับเป็นตัวอะไร? ก็แค่พี่สะใภ้ของรัชทายาทไม่ใช่หรือ? กลับกล้าอ้างบารมีเย่อหยิ่งจองหอง? ข้าพระเชษฐภาดาผู้ยิ่งใหญ่ ต่อให

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1308

    เพียงเอ่ยถ้อยคำนี้ออกมาราษฎร์ตงไห่ต่างพากันฮือฮา!องค์ชายเก้าคนของต้าเซี่ย แต่ละคนล้วนเกิดความคิดก่อกบฏเริ่มแรกคือองค์ชายใหญ่ องค์ชายสาม องค์ชายสี่และองค์ชายหก วางแผนร้าย คิดก่อกบฏบัดนี้ถึงตาองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินแล้ว!บัดนี้เขาเป็นรัชทายาท ได้รับความโปรดปรานอย่างลึกซึ้งจากฮ่องเต้หวู่ ต่อให้ก่อกบฏ โทษก็ไม่ถึงตายเลวร้ายที่สุดก็เหมือนองค์ชายสี่หลี่จือ ถูกกักบริเวณ ใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมายไปชั่วชีวิตหากตนเองโง่งม ไปสร้างเมืองใหม่อะไรนั่นกับรัชทายาท วางแผนก่อกบฏ นั่นคือโทษประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร!ราษฎร์ไม่น้อยเดิมทีก็ลังเลอยู่ ครั้นถูกหลู่จงหมิงพูดคำนี้ออกมา ทำลายความคิดไปแล้วหลู่จงหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ใบหน้าลำพองใจ “กงซูหว่าน เจ้ากลับไปบอกรัชทายาท เรื่องเขาวางแผนก่อกบฏถูกข้าจับได้แล้ว! อีกเดี๋ยวข้าจะถวายฎีกาหนึ่งฉบับกราบทูลฝ่าบาท เล่นงานเขาจนอับจนหนทาง!”รัชทายาทรับมือยากจริง!แต่กงซูหว่านผู้หญิงคนหนึ่ง หลู่จงหมิงสามารถจัดการได้อย่างผ่อนคลาย“ฮึๆ...”คิดไม่ถึงเลยว่ากงซูหว่านไม่มีความตกใจเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกันแสยะยิ้มเย็นชาออกมาสีหน้าหลู่จงหมิงเคร่งขรึม “เจ้ายิ้ม

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status