แชร์

บทที่ 15

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ณ ท้องพระโรง

เรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นติดต่อกัน สีหน้าของบรรดาขุนนางด้านชาไปหมด

ขโมยเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงมากแล้ว

ไม่มีใครคิดว่า องค์ชายเก้าจะก้าวออกมาด้วยตนเอง ยอมรับว่าตนคือคนร้ายคนนั้น?

สมองของเขา ถูกลาเตะแล้วหรืออย่างไร?

เขาคงไม่คิดว่า ฮ่องเต้หวู่ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว จะยอมปล่อยเขาไปครั้งที่สองกระมัง

เวลานี้ ฮ่องเต้หวู่เหยียดกายลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร หัวเราะด้วยความพิโรธ “เจ้าเก้า เจ้าคิดอยากจะตาย เจตนาทำชั่ว อย่ากล่าวโทษข้าที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก จับตัวลูกทรพีคนนี้ซะ!”

“ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้น ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูอ่อนแอ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีเรื่องอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้หวู่หัวเราะในลำคอ “ว่ามา!”

ฮ่องเต้หวู่ดื้อรั้นไม่ฟังความเห็นของผู้อื่นก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นไม่ให้โอกาสลูกชายในการอธิบาย

ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็นึกสงสัยเช่นเดียวกัน

เจ้าเก้าเป็นคนขี้ขลาด ไม่เอาถ่าน ทว่าไม่ได้โง่เขลาและบ้าคลั่งถึงขั้นนี้!

หลี่หลงหลินพูด “เสด็จพ่อ ตอนกระหม่อมไปขอโทษพี่หก ในห้องหนังสือของเขา กระหม่อมบังเอิญเห็นจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งลงนามจาเอ๋อร์ปาเอาไว้! ด้วยความสงสัย กระหม่อมจึงฉวยโอกาสตอนที่พี่หกไม่ได้ตั้งตัว ขโมยจดหมายฉบับนั้น!”

จาเอ๋อร์ปา?

แม่ทัพใหญ่จาเอ๋อร์ปาของเผ่าหมาน!

เมื่อได้ยินชื่อเสียง ทุกคนในท้องพระโรงถึงกับตกตะลึง!

สายตาหวาดระแวงมากมาย จับจ้องไปที่องค์ชายหกหลี่เซวียน!

ฮ่องเต้หวู่พระพักตร์เคร่งขรึม ตบโต๊ะ ตะคอก “เจ้าหก นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

หลี่เซวียนกระวนกระวายทันที น้ำเสียงสั่นเทา “เสด็จพ่อ เจ้าเก้าโกหก เขาไม่ได้เป็นคนขโมยจดหมายแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่หลงหลินคว้าจดหมายออกมา ชูขึ้นสูง “พี่หก เมื่อครู่ท่านเพิ่งบอกว่า มีคนลักลอบเข้าไปในห้องหนังสือ ล้วงความลับ! ต่อหน้าเสด็จพ่อ ท่านคิดอยากจะปฏิเสธหรือ?”

“นี่ถือเป็นความผิดมหันต์ฐานหลอกลวงเบื้องสูง!”

“ยิ่งไปกว่านั้น จดหมายลับที่จาเอ๋อร์ปาส่งให้ท่าน อยู่ในมือข้า!”

“นี่คือหลักฐานขายชาติของท่าน!”

“หลักฐานแน่นหนาเช่นนี้ ท่านยังจะแก้ตัวอย่างไร!”

สีหน้าหลี่เซวียนฉายความกระวนกระวาย โต้เถียง “เป็นไปไม่ได้! จดหมายลับไม่มีวันอยู่ในมือเจ้า!”

หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “หื้ม? เช่นนั้นจดหมายลับควรอยู่ที่ใด?”

หลี่เซวียนพูดไม่คิด “ข้าไม่ได้โง่เขลาเช่นนั้น ที่จะวางจดหมายลับสำคัญเช่นนั้นไว้บนโต๊ะพร่ำเพรื่อ จดหมายลับย่อมอยู่ในห้องลับ...”

เมื่อพูดออกมา หลี่เซวียนเพิ่งตั้งสติได้ ดวงตาเปี่ยมไปด้วยเปลวไฟแห่งความพิโรธ จ้องมองหลี่หลิงหลิน “เจ้า...เจ้าหลอกข้า!”

หลี่หลงหลินหัวเราะแล้วพูด “ข้าหลอกท่าน แล้วท่านจะทำเช่นไรได้? ใครให้ท่านโง่เขลาเองเล่า?”

หลี่เซวียนสติแตก ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ “เป็นไปไม่ได้! ข้าจะหลงกลคนไม่เอาถ่านเยี่ยงเจ้าได้อย่างไร! ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้!”

หลี่เซวียนเป็นคนทระนง หยิ่งในศักดิ์ศรี คิดว่าตนคือคนฉลาดที่สุดในใต้หล้า!

คนที่เขาดูแคลนที่สุด ก็คือน้องเก้าหลี่หลงหลิน!

ถึงขั้นที่ว่า ในสายตาหลี่เซวียน

หลี่หลงหลินไม่ใช่หนึ่งในคนที่โง่เขลาที่สุด แต่เป็นคนที่โง่เขลาที่สุดในโลกใบนี้!

และเพราะเหตุนี้เอง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลี่เซวียนจึงสนิทสนมกับหลี่หลงหลิน มักชวนเขาไปสังสรรค์ เพราะอยากหลอกใช้เขา!

ความจริง หลี่หลงหลินเชื่อฟังคำพูดของหลี่เซวียน อยู่ในกำมือของเขา ไม่เพียงไปเป็นทหารที่ดินแดนทางเหนือ ทั้งยังถูกปรักปรำกล่าวโทษว่าเป็นคนขายชาติ ทำให้ทหารที่จงรักภักดีต้องตาย!

เวลานี้ หลี่เซวียนกลับถูกคนที่ตนดูถูกที่สุดปั่นหัว ต่อหน้าเสด็จพ่อและขุนนางทั้งราชสำนัก!

ความอัปยศนี้ ไม่อาจจินตนาการได้!

แทบจะทำลายกำแพงในใจหลี่เซวียน พังทลาย!

หลี่หลงหลินหัวเราะในลำคอ ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย โจมตีหลี่เซวียนจนสาหัส!

พรึ่บ!

ท่ามกลางสายตาทุกคน หลี่หลงหลินฉีกจดหมาย เปิดเนื้อความในจดหมายให้ทุกคนอ่าน!

ทุกคนตกตะลึง!

ขุนนางชราหลายคน ขยี้ตาตนเอง คิดว่าตนตาฝาด!

ว่างเปล่า!

ถูกต้อง!

ในจดหมายไม่มีเนื้อความใดๆ เป็นเพียงกระดาษเปล่า!

ซึ่งก็หมายความว่า

หลี่หลงหลินไม่ได้ขโมยสิ่งใด ออกมาจากห้องหนังสือของหลี่เซวียน

ไม่เพียงหลี่เซวียนที่ถูกหลอก!

ถึงขั้นที่ว่า แม้กระทั่งซูเฟิ่งหลิงและฮูหยินผู้เฒ่าซู ก็ถูกหลี่หลงหลินหลอกเช่นเดียวกัน!

ซูเฟิ่งหลิงขโมยจดหมายสำเร็จหรือไม่ ล้วนไม่สำคัญ!

ตั้งแต่แรก หลี่หลงหลินตั้งใจวางแผนแหวกหญ้าให้งูตื่น ปั่นหัวหลี่เซวียน!

ความคิดของหลี่เซวียนยากจะหยั่งถึง อย่างรวดเร็วเขาก็ดึงสติกลับมาจากความโกรธแค้นที่ถูกหลอก พูดอธิบายเสียงดัง “เสด็จพ่อ กระหม่อมไม่ได้ขายชาติพ่ะย่ะค่ะ! เจ้าเก้าไม่มีหลักฐาน พูดจาเหลวไหล!”

“เสด็จพ่อ ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้กระหม่อม!”

ฮ่องเต้หวู่ทรงพิโรธ พุ่งตัวไปหาหลี่เซวียน เตะเขาจนล้ม ตะคอกเสียงดัง “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ คิดอยากจะหลอกข้า? เจ้าเก้าไม่มีหลักฐาน ห้องลับในห้องหนังสือของเจ้า ไม่มีหลักฐานหรืออย่างไร?”

“เว่ยซวิน เจ้าพาคนไปค้นจวนเจ้าหกด้วยตนเอง!”

เว่ยซวินโน้มตัวลง “น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”

ความหวังของหลี่เซวียนจางหาย

ในจวนไม่ได้มีเพียงจดหมายขายชาติ

ห้องลับใต้ดิน มีชุดเกราะและเสบียงซ่อนอยู่ ทั้งยังมีทหารหน่วยกล้าตายที่เขาเลี้ยงไว้อีกแปดร้อยชีวิต!

นี่เป็นความผิดฐานก่อกบฏ มากพอที่จะทำให้เขาถูกประหารร้อยครั้ง!

“หึๆๆ...”

“ฮ่าๆๆ...”

จู่ๆ หลี่เซวียนกุมหน้าตนเอง หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาเปื้อนเลือดจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน “เจ้าเก้า! คิดไม่ถึงว่าคนที่ฉลาดปราดเปรื่องมาตลอดชีวิตเช่นข้า จะแพ้ให้กับเจ้า!”

“เดินผิดเพียงก้าวหนึ่ง พังทลายทั้งหมด!”

“แต่ว่า...”

“พวกเจ้าคงไม่คิดว่า ข้าแพ้แล้วจริงๆ กระมัง!”

“คนที่แพ้คือพวกเจ้า!”

“พวกเจ้าทุกคน ต้องตากันหมด!”

พูดจบ หลี่เซวียนหมุนตัวหันหลัง วิ่งออกไปจากท้องพระโรงราวกับคนสติวิปลาส

ฮ่องเต้หวู่หน้าถอดสี ตะโกนเสียงดัง “หยุดเขาเร็วเข้า! รีบหยุดเขาเดี๋ยวนี้!”

ทหารรักษาการณ์รอบๆ รีบพุ่งตัวไป ล้อมหลี่เซวียนเอาไว้

หลี่เซวียนออกไปนอกตำหนักแล้ว คว้าธนูส่งสารขึ้นมา ยิงออกไป!

ฟิ้ว!

ธนูส่งสารพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ส่งเสียงดังก้อง!

วินาทีต่อมา

เสียงฝีเท้าดังเสมือนฟ้าร้อง เสียงตะโกนสั่งฆ่าดังกระหึ่ม!

ทหารหน่วยกล้าตายในชุดเกราะสีดำแปดร้อยนาย มาจากทั่วทุกสารทิศราวกับกระแสน้ำ!

ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ ฉายความเหี้ยมโหด อาวุธครบมือ ซึ่งล้วนเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของต้าเซี่ย ไม่ด้อยไปกว่าทหารรักษาพระองค์!

อ๊ากกก...

ทหารรักษาการณ์วังหลวงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทหารหน่วยกล้าตายเหล่านี้ พวกเขาร้องโหยหวน ล้มลงในกองเลือด!

เพียงชั่วพริบตา

ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายบุกมาถึงลานหยกขาว ปิดล้อมท้องพระโรง!

องค์ชายหก เคลื่อนกำลังทหารก่อกบฏแล้ว!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (18)
goodnovel comment avatar
สถิตย์ โคกบ้าน
จากกันตลอดกาล ดีไม่เสียเงินอีกแล้ว
goodnovel comment avatar
นินจา มานิต
เป็นเครื่องใหม่ ทำอย่างไรจะอ่านเรื่องต่อจากเดิมได้คนับ
goodnovel comment avatar
อิทธิพล มากสุวรรณ์
ทำงัยดีจะอ่านตอนที่600กว่าแต่มันเปนรัยไม่รุ้มาอ่านตอน16แล้ว600กว่าตอนที่อ่านหายทำงัยอ่านต่อได้คับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1352

    เมืองใหม่ตงไห่ หลี่หลงหลินกำลังวางแผนสร้างเรือนพักเพิ่มเติม ราษฎรผู้อพยพที่เดินทางมายังเมืองใหม่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เมืองใหม่เองก็ต้องพิจารณาเรื่องการขยายอาณาเขตแล้ว องครักษ์นายหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่หลงหลินชะงัก วางพู่กันและหมึกลง “เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?” เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ในใจ องครักษ์หอบหายใจ เอ่ยว่า “เมื่อครู่ฝ่าบาทเสด็จออกไปพร้อมกับท่านพระเชษฐภาดาพ่ะย่ะค่ะ” หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเขาสองคนออกไปทำอันใด?” หลี่หลงหลินคิดแล้วคิดเล่าก็นึกไม่ออกว่าหลู่จงหมิงกับฝ่าบาทออกไปข้างนอกจะทำเรื่องดีอันใดได้ องครักษ์เอ่ยเสียงขรึม “วันนี้ท่านพระเชษฐภาดามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่จวนกะทันหัน บอกว่าเกรงฝ่าบาทจะทรงเบื่อหน่ายที่ประทับในจวนหลายวันนี้ จึงชวนพระองค์ออกไปสถานเริงรมย์ฟังดนตรีขับกล่อม เพื่อคลายความอัดอั้นพระทัย” “เหมือนจะบอกว่าไปหอที่ชื่อหอละอองฝนอะไรสักอย่าง ตามหาแม่นางหลิงเอ๋อร์ รายละเอียดหลังจากนั้น ข้าน้อยก็ไม่ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ...” หลี่หลงหลินพึมพำ “แม่นางหลิงเอ๋อร์?” แม้ว่าตอนนี้ต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1351

    ฮ่องเต้หวู่ทรงเสด็จเพียงลำพังในอุทยานหลวงด้านหลัง ทอดสายตามองเหล่าบุปผชาติที่ประชันโฉมเบ่งบาน ในใจรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง เว่ยซวินรีบเดินเข้ามา คารวะพลางทูลว่า “ฝ่าบาท ท่านพระเชษฐภาดามาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ฝีเท้าของฮ่องเต้หวู่ชะงักงัน แล้วทรงตรัสถามอย่างประหลาดใจ “พระเชษฐภาดามาทำอันใด?” เว่ยซวินส่ายหน้า แล้วเอ่ยว่า “บ่าวมิทราบพ่ะย่ะค่ะ ทราบเพียงว่าตั้งแต่ฝ่าบาทเสด็จมาถึงตงไห่ ยังมิได้มาเข้าเฝ้าเป็นการเฉพาะ จึงตั้งใจมาเข้าเฝ้าในครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้หวู่โบกมือ แล้วตรัสอย่างจนใจ “ให้เขาเข้ามาเถิด” การมาของพระเชษฐภาดาคงไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องที่ดินห้าแสนหมู่นั่น ที่ทำให้เราปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก แต่เมื่อเจ้าเก้าตัดสินใจไปแล้ว เราก็มิอาจทำอันใดได้ ครู่ต่อมา หลู่จงหมิงก็ตามเว่ยซวินเข้ามาในอุทยานหลวงด้านหลัง เมื่อหลู่จงหมิงเห็นฮ่องเต้หวู่ก็รีบถวายบังคม “กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงขรึม “ลุกขึ้นเถิด” หลู่จงหมิงค่อยๆ ลุกขึ้น ใบหน้าเจือรอยประจบประแจงเล็กน้อย ฮ่องเต้หวู่เหลือบมองหลู่จงหมิง แล้วตรัสว่า “พระเชษฐภาดา หากเจ้ามาเพราะเรื่องที

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1350

    บนเรือลำใหญ่ ลมทะเลสายหนึ่งพัดผ่าน ใบเรือโบกสะบัดพลิ้วไหวตามลมองค์หญิงใหญ่มีสีหน้าเย็นเยียบ “ท่านลุง ฉวยโอกาสที่ฮ่องเต้หวู่ยังอยู่ที่ตงไห่ ตอนนี้ท่านยังมีโอกาสสุดท้ายที่จะพลิกกระดาน”หลู่จงหมิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ กล่าวเสียงสั่นว่า “โอกาสสุดท้ายที่จะพลิกกระดานหรือ? จะพลิกได้อย่างไร โปรดองค์หญิงใหญ่ชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”องค์หญิงใหญ่ตรัสเสียงเคร่งขรึมว่า “ลอบสังหารฮ่องเต้หวู่ แล้วโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้เจ้าเก้า”“อะไรนะ!” ในดวงตาของหลู่จงหมิงฉายแววตื่นตะลึงหลังจากสิ้นเสียง นอกห้องโดยสาร ลมฝนก็โหมกระหน่ำ ฟ้าแลบหลู่จงหมิงพยักหน้าเล็กน้อย จมอยู่ในภวังค์ความคิดการลอบสังหารฮ่องเต้หวู่คือโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต หากเรื่องถูกเปิดโปงขึ้นมาเมื่อใด ก็ยากจะหนีพ้นภัยพิบัติ!แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้ตนไม่ทำอะไรเลย ยอมจำนนรอความตาย สุดท้ายก็เป็นหนทางสู่ความตายอยู่ดีตอนนี้ทรัพย์สินกิจการทั้งหมดของตระกูลหลู่ถูกหลี่หลงหลินหลอกเอาไปหมดแล้ว เงินในบัญชีของจวนเหลืออยู่เพียงร้อยตำลึง คนกว่าร้อยชีวิตทั้งจวนพระเชษฐภาดาล้วนต้องใช้เงินสำหรับค่ากินค่าอยู่ค่าใช้จ่าย ตอนนี้ไร้ซึ่งทรัพย์สินตระกูลแล้ว หล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1349

    องค์หญิงใหญ่กำลังจิบชาหอมในมือ เมื่อเห็นหลู่จงหมิง ก็เหลือบตามองขึ้นเล็กน้อย “ท่านลุง ท่านมาได้อย่างไร?”หลู่จงหมิงมีสีหน้าประจบประแจง “ไม่ได้พบกันนาน จึงมาเยี่ยมเยียนท่านเสียหน่อย มาพูดคุยรำลึกความหลัง”องค์หญิงใหญ่แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องพูดจาห่างเหิน คงไม่ใช่เพราะเจอเรื่องยากลำบากอะไรเข้าอีกแล้วกระมัง?”หลู่จงหมิงชะงักไป หัวเราะแล้วกล่าวว่า “ไม่มีเรื่องใดรอดพ้นสายตาของท่านไปได้จริงๆ ลุงเจอปัญหาจริงๆ จึงคิดจะมาหาท่านเพื่อปรึกษาหารือวางแผน”องค์หญิงใหญ่วางถ้วยชาในมือลง กล่าวเสียงเรียบว่า “ว่ามาเถิด พบเจอปัญหาอันใดอีก? หรือว่าเกี่ยวข้องกับหลี่หลงหลินอีกแล้ว?”หลู่จงหมิงพอได้ยินชื่อของหลี่หลงหลิน ในใจก็พลันเดือดดาลด้วยโทสะ!“องค์หญิงใหญ่ เจ้าหลี่หลงหลินนี่ ตอนนี้มันชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว! มันถึงกับอ้างเรื่องการแลกเปลี่ยนที่ดิน แลกเอาที่นาชั้นดีอันอุดมสมบูรณ์ในตงไห่ของพวกเราไปจนหมด! นั่นล้วนเป็นรากฐานของตระกูลหลู่ของพวกเรานะพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงใหญ่ตะลึงงันทันที “แลกเปลี่ยนที่ดินหรือ”หลู่จงหมิงอธิบายเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้องค์หญิงใหญ่ฟัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1348

    เหล่าผู้อพยพซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก ต่างพากันคุกเข่าลงคำนับ“องค์รัชทายาท! การได้พบท่านนับเป็นวาสนาสามชาติของข้าโดยแท้ บุญคุณนี้ชั่วชีวิตก็ไม่อาจตอบแทนได้หมดสิ้น!”“มีที่ดินผืนนี้ ข้าก็มีบ้านแล้ว ไม่ต้องร่อนเร่พเนจรไปทั่วสารทิศอีกต่อไป! ต่อไปตงไห่ก็คือบ้านของข้า!”“...”หลี่หลงหลินกล่าวเสียงขรึมว่า “เมืองใหม่มีรูปลักษณ์เช่นปัจจุบันนี้ได้ ไม่ใช่ความดีความชอบของข้าเพียงผู้เดียว แต่ยังเป็นความดีความชอบของพวกเจ้าด้วย ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถมองเมืองใหม่นี้เป็นบ้านของตนเองได้อย่างแท้จริง”ดวงตาของหลิวเกินเซิงพร่าเลือนไปด้วยน้ำตา น้ำตาขุ่นสายหนึ่งไหลผ่านแก้ม “องค์รัชทายาท! บุญคุณถึงเพียงนี้ ชั่วชีวิตข้าก็ยากจะตอบแทนได้หมดสิ้น!”หลี่หลงหลินก้าวไปข้างหน้า ประคองหลิวเกินเซิงให้ลุกขึ้น “ขอเพียงพวกเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เป็นอย่างดี ก็สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น ตอนนี้การก่อสร้างเมืองใหม่เพิ่งจะเริ่มต้น ต่อไปยิ่งเป็นเวลาที่ต้องการให้พวกเจ้าแสดงฝีมืออย่างเต็มที่”หลิวเกินเซิงพยักหน้า ในดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอ......จวนพระเชษฐภาดาหลู่จงหมิงนับตั้งแต่กลับมาจากจวนอ๋อง ก็เอาแต่นั่งอยู่ใน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1347

    ...ณ ใจกลางเมืองใหม่ตงไห่ลานกว้างที่เดิมทีว่างเปล่า บัดนี้กลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจนเต็มพื้นที่หลิวเกินเซิงกวาดตามองไป เห็นศีรษะผู้คนเคลื่อนไหวขวักไขว่ ต้องออกแรงทั้งหมดที่มี กว่าจะเบียดเสียดมาถึงแถวหน้าสุดได้ทันใดนั้น ร่างที่คุ้นตาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาเพียงเห็นหลี่หลงหลินสวมชุดปักลายหม่าง ดูองอาจผึ่งผาย ก้าวเดินเข้ามาพอหลี่หลงหลินปรากฏตัว กลุ่มคนที่เดิมทีเสียงดังจอแจก็เงียบกริบลงในทันใด ต่างคุกเข่าลงคำนับบนลานกว้างเหลือเพียงเสียงลมหายใจของเหล่าชาวบ้านอพยพ เงียบสงัดจนกระทั่งเสียงเข็มตกก็ยังได้ยินในสายตาของผู้อพยพ การที่ตนสามารถมีชีวิตเช่นนี้ได้ในปัจจุบัน ล้วนเป็นเพราะหลี่หลงหลินประทานให้หลี่หลงหลินกล่าวเสียงเรียบว่า “ลุกขึ้นเถิด ข้ามีเรื่องจะกล่าวกับพวกเจ้า”ใบหน้าของผู้อพยพเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้หลิวเกินเซิงขยับเข้าไปอยู่ด้านหน้าสุด เอ่ยถามว่า “องค์รัชทายาท มีเรื่องอันใดเร่งด่วนหรือพ่ะย่ะค่ะ?”หลี่หลงหลินชูโฉนดที่ดินปึกหนาในมือขึ้น กล่าวว่า “นี่คือที่นาชั้นดีอันอุดมสมบูรณ์ของตงไห่ ทว่าตอนนี้ไร้คนเพาะปลูก ข้าจะแบ่งที่ดินเหล่านี้ให้พวกเจ้า”“แบ่งที่ดิน?!”เหล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1346

    ฮ่องเต้หวู่นิ่งอึ้งไปในทันที ในแววตาฉายแววตื่นตะลึง “เจ็ดสิบปี? เวลามันจะไม่นานเกินไปหน่อยหรือ หากมองตามประวัติศาสตร์ แม้แต่ราชวงศ์ที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด จะมีสักกี่ราชวงศ์กันที่อยู่ได้ถึงเจ็ดสิบปี?”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย ทูลว่า “เสด็จพ่อ เรื่องนี้พระองค์อาจยังไม่ทรงทราบ ระยะเวลาเจ็ดสิบปีนี้มิใช่สิ่งที่ลูกกล่าวขึ้นมาพล่อยๆ แต่เป็นผลลัพธ์ที่ได้มาหลังจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“สาเหตุหลักที่แบ่งที่ดินให้ชาวบ้าน ก็เพราะตงไห่ต้องการการพัฒนา และการพัฒนาก็ต้องการคน ทว่าตอนนี้ชาวบ้านอพยพเหล่านี้เปรียบเสมือนจอกแหนไร้ราก ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ในหอพักของเมืองใหม่ สุดท้ายก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาอยู่ดี”“ตอนนี้ผู้อพยพเหล่านี้ก็เหมือนต้นไม้ หากไม่มีผืนดิน ก็ไม่อาจหยั่งราก ยิ่งไม่อาจเติบโตเป็นไม้ใหญ่เสียดฟ้าได้ ขอเพียงมีที่ดิน ชาวบ้านก็จะสามารถหยั่งรากในตงไห่ พัฒนาตงไห่ได้”“เจ็ดสิบปีคือเวลาที่เพียงพอสำหรับการสร้างตัวสร้างฐานะของบรรพบุรุษสามชั่วอายุคนพอดิบพอดีพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ทำตามที่เจ้าว่าเถิด ข้าไม่มีความเห็นใดๆ”...เมืองใหม่ตงไห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1345

    ทุกคนพยักหน้าเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ยคำใดให้มากความหลี่หลงหลินโบกมือ กล่าวเสียงขรึมว่า “ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านแล้ว ก็ออกไปเถิด ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องหารือกับเสด็จพ่อ”เหล่าตระกูลขุนนางและคหบดีต่างกลัวหางจุกก้น ล่าถอยออกจากจวนอ๋องไปอย่างเงียบเชียบ ไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่ครึ่งเค่อหลี่หลงหลินถือโฉนดที่ดินปึกหนา เดินไปเบื้องหน้าฮ่องเต้หวู่ “เสด็จพ่อ ตอนนี้พวกเราก็มีที่ดินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ช่างเหนือความคาดหมายของข้าอยู่บ้าง จับเสือมือเปล่าได้ดีนัก!”หลี่หลงหลินแย้มสรวลพลางทูลว่า: “เสด็จพ่อ ลูกหาได้จับเสือมือเปล่าไม่ อย่างไรเสียลูกก็ได้มอบที่ดินนับร้อยเท่าให้พวกเขาไปจริงๆ และนี่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนโดยสมัครใจของพวกเขาเองพ่ะย่ะค่ะ”แววพระเนตรของฮ่องเต้หวู่จับจ้องแน่วแน่ ตรัสว่า “ในเมื่อตอนนี้เจ้ามีที่ดินมากมายถึงเพียงนี้ จะเปลี่ยนที่ดินให้เป็นเงินได้อย่างไร? เพราะข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าที่ดินไม่อาจกลายเป็นเงินขึ้นมาลอยๆ ได้ มีเพียงเปลี่ยนเป็นเงินแล้ว เจ้าจึงจะมีทุนพัฒนาสร้างกองเรือ แล่นเรือออกไปค้นหาทวีปใหม่ได้”หลี่หลงหลินยิ้มบาง “เสด็จพ่อ เรื่องนี้พระองค์อาจยัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1344

    เหล่าขุนนางและคหบดีที่อยู่ที่แห่งนั้นล้วนเจ็บปวดใจและขุ่นเคืองอย่างยิ่ง จ้องมองหลี่หลงหลินเขม็งดุจพยัคฆ์จ้องตะครุบเหยื่อหลี่หลงหลินแย้มยิ้มบางเบา ส่งสายตาให้ซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงเข้าใจในทันที กุมกระบี่ประจำกาย ก้าวออกไปข้างหน้า ตะโกนใส่เหล่าขุนนางในที่นั้นว่า “บนโฉนดที่ดินนี้มีตัวอักษรขาวดำเขียนไว้ชัดเจน หรือคิดจะปฏิเสธไม่ยอมรับอีก?”ซูเฟิ่งหลิงสวมเกราะเงิน ท่วงท่างามสง่าองอาจ แผ่จิตสังหารอันแรงกล้าออกมาเหล่าทหารตระกูลซูติดตามมาติดๆ แสดงท่าทีคุกคามน่าสะพรึงกลัวหลู่จงหมิงเพิ่งจะตระหนักได้ในตอนนี้เองนี่มันงานเลี้ยงลวงมาฆ่าชัดๆ!เขาคือมีดเขียง ส่วนข้าคือเนื้อปลา!ฮ่องเต้หวู่เป็นเพียงฉากบังหน้าการกระทำทั้งหมดของหลี่หลงหลินล้วนได้รับความเห็นชอบอย่างเงียบๆ จากฮ่องเต้หวู่ ฮ่องเต้หวู่มิได้ตรัสอันใดเลยแม้แต่คำเดียวตั้งแต่ต้นจนจบหลู่จงหมิงเงยหน้ามองไป เพียงเห็นฮ่องเต้หวู่หรี่ตามองต่ำ เก็บงำสีหน้า ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนหลู่จงหมิงลอบสาปแช่งในใจข้าผู้เป็นถึงพระเชษฐภาดา ปกติอยู่ที่ตงไห่บัญชาการลมฝน มีอิทธิพลยิ่งนัก บัดนี้กลับปล่อยให้เจ้าหลี่หลงหลินมาเหยียบย่ำข้าได้อย่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status