ตอนที่สอง
ช่างน่ากินนัก
อนุสาวของบิดานางนี้ช่างเป็นของดีที่หาได้ยากนัก ดูสิ อกอวบอิ่มเด้งไหวขนาดใหญ่ล้นมือเกินหน้าเกินตานัก
แล้วยังเอวเล็กที่น่าโอบกอดกับใบหน้าที่อ่อนหวานน่ารัก
สำคัญที่สุดคือเนินโหนกที่นูนเด่น อยากเห็นเหลือเกินว่าร่องของนางจะน่าพิศวาสเพียงใด
ท่าทางของอนุสาวผู้อ่อนเยาว์ของบิดาที่แววตาล่องลอย ปากสั่นบวมอย่างน่ารังแกนักพาให้ฉู่จิ้นไห่ไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้อีกต่อไป
จะให้เขาหยุดตอนนี้จะทันได้อย่างไร
เนื้อเข้าปากเสือแล้วย่อมไม่อาจคายออก
อนุของท่านพ่อแล้วอย่างไร? ท่านพ่อไม่อยู่แล้ว สมบัติทุกชิ้นย่อมตกเป็นของเขา รวมทั้ง...นาง
“ไม่ต้องกลัว ลู่ไป๋อิง ข้าจะทะนุถนอมเจ้า” ถ้อยคำปลอบโยนที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจออกมาพร้อมการคลึงเคล้นบีบขยำสองเต้ากลมกลึงที่ช่างน่าฟัดหนักขึ้น
ดูสิ เม็ดบัวสีชมพูของนางช่างตั้งเด่นล่อตานัก
ไม่รอให้หญิงสาวได้ทักท้วงอีก สองมือใหญ่ตรงเข้าบดบี้จุกกลางเต้าทรวงอิ่มพลางวนเขี่ยสลับกับการฟอนเฟ้นบีบเคล้นจนสองก้อนเนื้อบิดเบี้ยวไปตามแรง
ฉู่จิ้นไห่ลดใบหน้าลง สองมือจับเต้าทรวงทั้งสองข้างให้แนบชิดกันแล้วส่งริมฝีปากอุ่นปัดผ่านเม็ดบัวที่แข็งชันพลางแลบลิ้นตวัดเลียสลับไปมาเรียกความซ่านเสียวจนกายบางสั่นสะท้าน
“อื้อ...”
ลู่ไป๋อิงเผลอส่งเสียงครางด้วยท่วงท่ายืนแอ่นอกยกเอวเสียววูบวาบจากปากและลิ้นของคุณชายใหญ่สกุลฉู่จนทั้งกายร้อนผ่าว
เมื่อหญิงสาวเด้งซาลาเปาคู่งามให้เขาได้ดูดกลืนอย่างถนัด ฉู่จิ้นไห่จึงตอบรับด้วยการห่อปากดูดดุนและดันลิ้นขบเม้มกัดกลืนกินราวหิวกระหาย
อืม...เต้าหู้สองก้อนของอนุนางนี้ช่างใหญ่ล้นนุ่มฟูนัก กินอย่างไรก็เอร็ดอร่อยยิ่ง
เนินอกขาวสล้างโดนความเย็นวูบจึงตั้งชี้ชันครั้นถูกความอบอุ่นเข้ารุมเร้าจึงโหยหางอตัวเด้งร่างส่งเนินอวบอิ่มให้พุ่งขึ้นสู่โพรงปากอุ่นให้ได้ดูดกินราวเป็นเด็กน้อย
ปากของฉู่จิ้นไห่ยังกลืนกินอย่างเพลิดเพลินส่วนมือทั้งสองข้างที่ยังว่างฉวยโอกาสไล่เลื้อยลงไปยังกลางหว่างขาเพื่อสัมผัสความโหนกนูนอันน่าค้นหา
ครั้นลากผ่านขนอันอ่อนนุ่มจนถึงร่องบุปผาซึ่งเริ่มคายน้ำหวานออกมาบ้างแล้วจึงอดสอดนิ้วเข้าไปทักทายไม่ได้
“อื้อ...”
เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากปากบางที่บัดนี้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระด้วยริมฝีปากอุ่นกำลังโจมตีความอิ่มล้นของซาลาเปาคู่ใหญ่
ฉู่จิ้นไห่ผู้ใช้มือสัมผัสร่องน้ำหวานแล้วย่อมไม่อาจรีรอเวลารีบโอบร่างบางไปยังเตียงแข็งพลางถอดเสื้อผ้าของตนเองออกโดยเร็ว
ลู่ไป๋อิงซึ่งถูกปล่อยตัวชั่วขณะรีบกระชับต้นขาเนียนเข้าหากันแล้วกระถดสะโพกหนีเป็นเชิงยังไม่ยินยอมแต่ทั้งลิ้นและนิ้วของฉู่จิ้นไห่กลับติดตามแนบชิดไม่ยอมปล่อย
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง” คราวนี้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาพอจะสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น หญิงสาวจึงปล่อยให้ลิ้นร้อนกดเน้นหนักและเพิ่มความเร็วระรัวเร่งจนดิ้นพล่านใบหน้าเหยเกส่งเสียงครางกระเส่า
“ซี้ดดดด...อ้า...”
อู้ว...คุณชายใหญ่คนนี้เล้าโลมเก่งนัก
ตอนที่ยี่สิบสอง สุขสันต์หรรษา หนทางชีวิตข้างหน้ายังอีกยาวไกล นางไม่มีวันให้ภรรยาเอกของผู้ใดมากลั่นแกล้งรังแกหรือขับไล่ออกจากเรือนแน่ดังนั้นจึงมีแต่ต้องรวมพลังของพวกเขาเอาไว้เท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งเลิกโปรดปรานนาง ก็ยังมีอีกคนที่ยังอยู่คุณชายทั้งสามต่างแวะเวียนกันมายังเรือนอิงเยว่พร้อมกับบิดาจนภรรยาเอกและเหล่าอนุของพวกเขาต่างไม่พอใจแต่พวกนางจะทำอันใดได้เล่า ในเมื่อไม่ปรับปรุงลีลาและท่วงท่าเร้าสวาทย่อมต้องนอนเหี่ยวแห้งไปจนวันตายยามเผชิญหน้ากับนายหญิงใหญ่ที่พากำลังคนมาหวังสั่งสอนอนุผู้ปีกกล้าขาแข็ง ลู่ไป๋เยว่ซึ่งรายล้อมด้วยคนคุ้มกันที่มีฝีมือใช้สายตาแห่งผู้ชนะยิ้มเยาะอย่างสาสม“คิดจะทำร้ายข้าหรือ นายหญิงใหญ่ คงต้องดูทิศทางลมให้ดีก่อนกระมังยามนี้ทั้งสามีและบุตรชายทั้งสามคนของเจ้าล้วนอยู่ในความดูแลของข้าอย่างสุขสบาย นายหญิงใหญ่ไม่ต้องกังวลใจไปรีบกลับจวนสกุลฉู่แล้วลำบากดูแลผู้คนและรับใช้คนแก่เรื่องมากกับจัดการเรื่องยิบย่อยมากภาระไปเถอะส่วนเรื่องที่สบายกายสบายใจมอบให้เป็นห
ตอนที่ยี่สิบสอง สุขสันต์หรรษาทั้งหลิวซื่อและฉู่ฮูหยินผู้เฒ่าต่างเงยหน้าขึ้นมองสายตาคาดคั้นของนายท่านใหญ่อย่างตื่นตระหนกเขา...เขารู้แล้วหรือ!คหบดีฉู่ตั้งใจเอ่ยประโยคนั้นเพื่อเป็นการข่มขู่ทั้งแม่และเมียด้วยรู้ดีว่าถึงป่านนี้ย่อมไม่อาจเอาผิดพวกเขาแล้วจับกุมไปรับโทษได้ แต่อย่างไรก็ต้องสะกดพวกเขาไม่ให้กระทำการที่ไม่เกรงกลัวบ้านเมืองอีก“ไม่ว่าคนๆหนึ่งจะมีความผิดมากมายเพียงใดก็ลงโทษได้เพียงกักบริเวณหรืออดข้าวไม่กี่มื้อ ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายทุบตีจนบาดเจ็บเกือบตายเพียงนี้ ท่านแม่เองก็ควรรู้ไม่ใช่หรือ”เจอบุตรชายข่มขู่หนักแน่นทั้งส่งสายตาดุดันจดจ้อง ฉู่ฮูหยินผู้เฒ่าจึงขบปากไม่กล้าเอ่ยคำใดออกมาตีแค่นี้จะถึงตายได้อย่างไร อาไห่ก็พูดเกินไปแม้จะรู้ว่าบุตรชายเอ่ยคำร้ายแรงเกินกว่าเหตุ แต่ผู้เฒ่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปีย่อมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ควรโต้เถียงในเมื่อผู้อาวุโสไม่โต้แย้ง บรรดาเมียคนอื่นย่อมไม่กล้าพูดมากเช่นกันแม้จะคิดอย่างคับข้องว่าแค่ตบ
ตอนที่ยี่สิบเอ็ด เรื่องน่าอายกว่าจะถึงกลางดึก ทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยไฟราคะที่เผาไหม้โชติช่วงและเพิ่งจะดับลงยามนี้ลู่ไป๋เยว่นอนหายใจรวยริน สภาพยับเยินอิดโรย ร่องทั้งหน้าหลังบวมแดงแหกกว้าง ทั้งเจ็บทั้งขาสั่นไม่อาจยืนหรือนอนในสภาพธรรมดาหญิงสาวที่ถูกนอนบดเบียดอยู่ตรงกลางทั้งจุกทั้งเสียดเสียวเพียงคิดว่าเมื่อครู่โดนสองลำเอ็นเด้งเข้าใส่พร้อมกันอย่างคึกคักเพียงใดพวกเขาพี่น้องฝ่ายหนึ่งร้อนอีกฝ่ายแรงกระแทกรัวเร็วไม่มีออมแรงสร้างความเคลิบเคลิ้มมึนเมา เสียวซ่านลึกถึงจิตวิญญาณแต่นางยังไม่อยากใช้ร่องสีหวานอย่างพร่ำเพรื่อจนหลวมกว้างไม่น่าชิดเชยจึงต้องหลีกเลี่ยงการรุมรังแกพร้อมกันเช่นนี้อีกยามเช้า ลู่ไป๋เยว่จึงเอ่ยลามารดาว่าคงต้องกลับจวนสกุลฉู่เสียทีแล้วค่อยให้คหบดีฉู่หาโอกาสมาพบมารดาทีหลังเนื่องจากสองพี่น้องที่ติดตามมาได้รู้ความลับของพวกเขาแล้วคุณชายสามซึ่งเอาแต่ใจกว่าพี่ชายย่อมมีท่าทีไม่เต็มใจด้วยเพิ่งได้สัมผัสรสสวาทอันอิ่มเอมไปเพียงไม่กี่ครา“หากกลับไปแล้วไม่ได้กินอาหารเลิศรสเช่นนี้อี
ตอนที่ยี่สิบ ไม่ไหวแล้ว ลู่ไป๋เยว่ร้องโวยวายจนเสียงแหบแห้งแต่กลับถูกจับปิดปากได้แต่ส่งเสียงอืออาพยายามดิ้นหนีเมื่อดุ้นลำหนาถูกกดพรวดเข้าในรูเล็กจนจมหายไปทั้งลำพวกเขาบ้าไปแล้ว หญิงสาวยังคงส่ายหัวไม่ยินยอม คุณชายรองสกุลฉู่จึงรีบเล้าโลมล้วงมือเข้าไปบดขยี้ติ่งเกสรที่ยืดยื่นขณะคุณชายสามขยำขยี้บดเน้นยังเม็ดบัวสีหวานที่ด้านบนพร้อมขยับแท่งเนื้อในร่องสวาทขึ้นลงไม่หยุดไม่นานฉู่จิ้นหรงที่ด้านหลังจึงเริ่มขยับเคลื่อนไหวเพื่อนำพาแท่งทวนแกว่งไกวทิ่มแทงสวนเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกันกับน้องชายใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งทรมานทั้งสุขสันต์ไปกับสองลำเอ็นที่อัดแน่นทั้งร่องดอกไม้ด้านหน้าและรูหยักด้านหลังปากอวบอิ่มอ้าค้างส่งเสียงร้องครางที่ฟังแทบไม่เป็นภาษาทั้งขาดหายเป็นช่วงๆเมื่อโดนทะลวงทั้งสองร่องสีหวานพร้อมกันจนจุกแน่น“โอ๊ย!...หยุดก่อน อื้อ...พอ...อ่า...พอแล้ว” ลู่ไป๋เยว่หรือจะคิดว่าจะมีวันนี้ด้วยยิ่งบอกให้หยุด สองพี่น้องยิ่งตอกกระหน่ำเข้าหากันอย่างสุดกำล
ตอนที่สิบเก้า ป้อนของหวาน พวกเขามัวแต่หลงอยู่ในวังวนแห่งวสันต์จนลืมวันลืมคืนโดยไม่คิดว่า คุณชายสาม ‘ฉู่จิ้นเฉิง’ จะตามมาถึงอีกคนฉู่จิ้นเฉิงมาถึงร้านอิงเยว่ด้วยหวังพบหน้าบิดาและพี่ชายแล้วเดินทางกลับพร้อมกันเขาย่อมไม่คิดว่าจะได้พบภาพบาดตาบาดใจของพี่ชายคนรองกับอนุสาวของพี่ชายคนโตเช่นนั้นภาพอนุลู่ซึ่งอยู่ในท่าคลานสี่ขาแนบหน้าก้มต่ำไปกับพื้นทำให้ส่วนสะโพกยกโด่งสูงขึ้นเห็นโคนขาขาวผ่องกับก้นกลมกลึงงอนงามเต็มตาช่างชวนให้ใจสั่นไหวนักทั้งกลีบอวบอูมที่ปลิดปลิ้นไปมายามโดนท่อนกายแข็งของพี่ชายคนรองมุดเข้ามุดออกช่างล่อตาล่อใจจนฉู่จิ้นเฉิงคิดอยากจะควักแท่งกายที่กำลังคึกคักผงาดง้ำยัดเข้าไปในร่องสีชมพูนั้นแล้วกระแทกจนลืมตายสายตาวาบหวามของฉู่จิ้นเฉิงที่ค่อยๆเดินเข้ามาจับจ้องยังสะโพกขาวที่เด้งเคลื่อนไหวไปมาตามจังหวะโยกขย่มของพี่ชายที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังทำให้สองหนุ่มสาวสะดุ้งตกใจ“คุณชายสาม!”“อาเฉิง!”“พวกเจ้าทำเช่นนี้ลับหลังพี่ใหญ่ได้อย่างไรกัน”
ตอนที่สิบแปดจะไม่ให้ข้าได้พักเลยหรือลู่ไป๋เยว่ที่คว่ำหน้าลงกับโต๊ะเตรียมเงยขึ้นเพื่อขยับก้นขาวออกจากท่อนหนา แต่กลับช้ากว่าชายหนุ่มที่จู่ๆก็ถอดถอนแท่งเนื้อออกจากรูร่องแล้วอุ้มร่างบางไปวางบนเตียงก่อนจะก้มลงละเลงเลียทั้งดูดทั้งกลืนขบเม้มทรวงอกอวบอิ่มทั้งสองข้างจนเป็นรอยแดงไปทั่วหญิงสาวแอ่นอกยกทรวงหยุ่นเข้าใส่ปากด้วยรู้สึกสั่นกระเส่าไปกับการเล้าโลมที่มาช้านักอืม...เพิ่งนึกได้หรือว่าต้องกลืนกินสักนิด ใบหน้าที่หล่อเหลากว่าพี่ชายเล็กน้อยค่อยๆเลื่อนลงไปยังเนินอวบอูมระหว่างขาขาวที่ถูกอ้ารออยู่ริมฝีปากหนาดูดกลีบเนื้อนุ่มจนเป็นรอยแดงทั้งใช้ลิ้นร้อนละเลงกวาดปาดป่ายไปทั่วขณะนิ้วอุ่นล้วงควานน้ำข้นขาวของตนเองออกจากรอยแยกสีหวานไม่หยุดจังหวะหมุนควงของนิ้วแข็งทั้งชักเข้าชักออกคล้ายกลั่นแกล้งสร้างความซ่านเสียวเป็นระยะจนลู่ไป๋เยว่ต้องกระถดสะโพกหนีแน่นอนว่าอีกฝ่ายย่อมไม่ยินยอมจึงยึดสะโพกบางเอาไว้แน่นไม่ให้ดิ้นหนีทั้งยกขาขาวขึ้นสูงแล้วลงลิ้นละเลงรัวบดคลึงเน้นขยี้จนเสียงกรีดร้องออกมาไม่