เมื่อฟ้าระวีเห็นเพื่อนนั่งร้องไห้โฮออกมาเธอก็เริ่มหงุดหงิด
“อะไรของแกอีกเนี่ย ยัยรติ”
“ฟ้าพี่เพชรนอกใจฉัน” หญิงสาวพูดออกมาอย่างคนเมาแล้วร้องห่มร้องไห้เสียงดัง จนฟ้าระวีและมินรดารีบเอามือปิดปากเพื่อนสาวทันทีและหันไปยิ้มแหยๆให้โต๊ะข้างๆที่หันมามอง
“แล้วมันใช่ที่ที่แกควรจะมาร้องไห้หรือเปล่าวะ นี่พวกฉันกำลังจะสนุกอยู่เลย”
“ก็ฉันเสียใจนี่ ฉันจะได้แต่งงานแล้วนะเว้ย ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว ทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับฉันด้วยวะ” รติรสบ่นพึมพำด้วยความเมามายและความเสียใจที่ฝังอยู่ในใจ จนเธอพร่ำเพ้อพรรณนาถึงพชรว่าที่เจ้าบ่าวของเธอไม่หยุดจนเพื่อนทั้งสองส่ายหน้าไปมา
“ฟ้า เดี๋ยวฉันฝากดูยัยรติด้วยนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เมื่อมินรดาเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วฟ้าระวีก็หันมามองเพื่อนสาวด้วยท่าทางเหนื่อยใจ
“เฮ้ย! แกก็ไม่เคยจะทันพี่เพชรเลยสักครั้ง นี่ฉันก็เข้าใจว่าพี่เพชรทิ้งลายไปตั้งนานแล้วนะถึงได้ขอแกแต่งงานที่ไหนได้ก็ยังเหมือนเดิม” ฟ้าระวีที่รู้จักพชรมาตั้งแต่เรียนมหาลัย เธอรู้ว่าเขาหน้าตาดีและยังเป็นเสือผู้หญิงแต่ไม่คิดว่าอายุปูนนี้แล้วเขาจะยังไม่ทิ้งนิสัยแบบนี้อีกมาทำให้เพื่อนเธอเสียใจ ถ้าเห็นที่ไหนเธอจะเตะให้ไข่ฝ่อมีลูกไม่ได้เลยคอยดูคิดแล้วหญิงสาวก็หัวเสีย
“ฉันอยากจะบีบไข่ผู้ชายคนนั้นจริงๆ แกหยุดร้องได้แล้วนะ ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ทางที่ดีแกควรหาผู้ชายมาดามอกนะรติ” เมื่อพูดถึงผู้ชายมาดามอก เธอก็กลับนึกถึงใบหน้าหล่อที่เจอกันเมื่อตอนกลางวันไม่ได้
“เขาว่าอะไรนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำขึ้นมา
“ใครว่าอะไรฮะแก ฉันยังไม่ได้ยินใครว่าอะไรเลย” ฟ้าระวีที่ถามขึ้น
“เขาบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน” เมื่อได้ยินคำว่าแต่งงานฟ้าระวีก็ส่ายหัวไปมาด้วยความระอา
“เขาไม่แต่งกับเธอแล้วยัยรติ” น้ำเสียงของเพื่อนดูเหมือนจะเหนื่อยๆกับการที่ต้องมานั่งฟังเธอละเมอเพ้อพบถึงผู้ชายเจ้าชู้คนนั้น
“ติง!” เสียงข้อความดังขึ้น รติรสกดเปิดข้อความอ่านก็เห็นคำถามที่พยัคฆินส่งมาหา
“ตกลงข้อเสนอของผม คุณว่ายังไง” รติรสอ่านข้อความแล้วพยักหน้าอย่างนี้ก็ดี ถ้าเธอรับข้อเสนอของเขาจริงๆเธอจะได้เลิกเสียใจด้วยความเมามายที่ไม่ได้สติหญิงสาวจึงส่งข้อความไปหาชายหนุ่มทันที
“ฉันจะแต่งงานกับคุณ” เธอพิมด้วยอาการเมาๆแต่ก็พยายามอ่านทวนข้อความก่อนอยู่หลายครั้งจะกดส่งไปให้ชายหนุ่มเสร็จแล้ว เธอก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆตัวเองไม่นานแอพพิเคชั่นไลน์ก็มีสายโทรเข้าทันที
“ใครโทรมาน่ะรติ” ฟ้าระวีหันมามองโทรศัพท์ของเพื่อนที่ได้ยินแรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ หญิงสาวขยับมือเรียวเข้าไปกดรับและยกโทรศัพท์เข้ามาแนบหู
“ฮัลโหลใครเนี่ย” พยัคฆินขมวดคิ้วที่ได้ยินเสียงพูดของหญิงสาวที่ลิ้นพันกันในขณะที่คุยกับเขาหรือว่าเธอกำลังเมาคงจะไปดื่มเหล้าย้อมใจแน่ๆ
“ผมเอง คุณอยู่ไหนทำไมเสียงดังขนาดนี้” เสียงเพลงในผับนั้นดังกระหึ่มจนเขาต้องตะโกนคุยกับเธอ
“ฉันอกหักไง ฉันก็เลยมาดื่มเหล้าคุณมีอะไรไม่ทราบ” คำพูดห้วนๆของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วอีกทั้งเสียงเพลงยังดัง เขาแทบจะไม่ได้ยินว่าหญิงสาวพูดอะไร
“คุณอยู่ที่ไหนบอกผมมา เดี๋ยวผมไปหา”
“ฉันเหรอฉันอยู่ที่ร้าน x” เมื่อได้ที่อยู่ของผับแล้วพยัคฆินก็รีบขับรถออกจากคอนโดแล้วตรงไปหาเธอทันที
เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปจอดหน้าผับดัง สาวๆที่ยืนอยู่แถวนั้นก็หันไปยืนมองเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูที่เพิ่งจะขับเข้ามาจอด อยากจะรู้นักว่าเจ้าของรถจะเป็นเสี่ยหรือว่าเป็นหนุ่มหล่อและแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดคือผู้ชายที่เดินลงมาจากรถคันหรูนั้นหล่อไม่เบา หล่อวัวตายควายล้ม
“ตายแล้ว ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลยทั้งหล่อ ทั้งรวยฉันชอบ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นเมื่อเห็นหน้าของพยัคฆิน เขาหันไปส่งยิ้มนิดนึงแล้วเดินเข้าผับ
ชายหนุ่มมองหาผู้หญิงที่เขาเจอเมื่อตอนกลางวันไม่นานก็ไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนฟุ๊บอยู่บนโต๊ะตรงกลางร้านพร้อมผู้หญิงอีกคน
“คุณเมาแล้วเหรอ” ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหมือนเทพบุตรจมูกโด่ง ดวงตาคม คิ้วหนาได้รูปเรียงเส้นเหมือนจับวาง ริมฝีปากหยักอมชมพู
“แม่เจ้า นี่มันดาราช่องไหนกันเนี่ย อยู่ดีๆก็เดินมาทักยัยรติ” ฟ้าระวีนั่งมองหน้าของพยัคฆินแล้วทำตาปริบๆ
“คุณทักคนผิดหรือเปล่าคะ” ฟ้าระวีที่เงยหน้าพูดกับพยัคฆินด้วยท่าทางงงๆ
“รติรสจะไปรู้จักผู้ชายหล่อๆแบบนี้ได้ยังไง” คิดแล้วเธอก็ส่ายหน้าไปมา
“ไม่สิผู้ชายหล่อขนาดนี้จะมารู้จักรติได้ยังไง”
“คุณพูดกับผมหรอ”
“ก็ใช่สิ อยู่ดีๆคุณก็เดินมาเขย่าแขนเพื่อนฉัน คุณรู้จักเพื่อนฉันได้ยังไง”
“อ๋อ! พอดีว่าผมโทรหาเธอเมื่อกี้ เธอบอกว่าให้ผมมารับ” ฟ้าระวีที่งงงวยในสิ่งที่เขาพูด เธอพลางคิดว่าเพื่อนสาวเธอนั้นเมาแอ๋ขนาดนี้จะให้เขามารับได้ยังไง คิดแล้วหญิงสาวก็มองจ้องอย่างจับผิด
แต่พยัคฆินก็ไม่อธิบายใดๆอีก เขาเกลี่ยเส้นผมที่ปกหน้าของหญิงสาวเพื่อดูให้ชัดเจนว่าใช่ผู้หญิงที่เขานั้นได้ยื่นข้อเสนอไปหรือเปล่าและแล้วก็เป็นเธอ เขาจึงอุ้มหญิงสาวขึ้นจนฟ้าระวีตกใจและรีบลุกขึ้นร้องห้ามทันที
“อะไรกัน คุณจะพาเพื่อนฉันไปไหนเนี่ย ปล่อยเพื่อนฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
“ผมจะพาเธอกลับบ้าน” ว่าแล้วชายหนุ่มก็อุ้มรติรสออกไปยังนอกร้านทันที
“ตายแล้วยายมิ้นอยู่ไหนเนี่ย ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำอีกนะ” ฟ้าระวีหันรีหันขวาแล้วรีบวิ่งตามรติรสออกไปเพราะเธอไม่รู้จักผู้ชายหน้าตาดีที่อุ้มเพื่อนสาวเธอออกไปแต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อวิ่งออกไปถึงหน้าประตูก็เจอผู้ชายคนนั้นกำลังพารติรสเดินไปยังรถสปอร์ตคันหรู
“แม่เจ้านั่นรถของผู้ชายคนนั้นเหรอเนี่ย” ว่าแล้วฟ้าระวีก็วิ่งตามมาแล้วตีเข้าที่แขนของพยัคฆินพลางร้องให้คนช่วย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณจะพาเพื่อนฉันไปไหน ฉันจะแจ้งตำรวจ ช่วยด้วยค่ะ” พยัคฆินหันมามองหน้าเธอแล้วไหวไหล่ให้ฟ้าระวี
“อยากแจ้งก็แจ้งสิ” เขาก็เดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับจนฟ้าระวีทำอะไรไม่ถูกจึงรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับเพื่อนสาวทันที
“ถ้าคุณจะพาเพื่อนฉันไป งั้นฉันขอไปด้วย” ฟ้าระวีพูดด้วยท่าทางจริงจังที่จะปกป้องเพื่อนสาวสุดชีวิต พยัคฆินไม่พูดอะไรเขาขับรถออกไปจากผับทันทีแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังคอนโด
เมื่อถึงคอนโดฟ้าระวีถึงกับต้องอ้าปากค้าง เมื่อเงยขึ้นไปดูป้ายของคอนโดเป็นคอนโดที่มีเพียงแค่สามสิบห้องเท่านั้นและที่เธอรู้คือมีแค่ดาราและไฮโซคนมีเงินที่พักอยู่ที่นี่
หญิงสาวอ้าปากค้างทำตาปริบๆไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มจะรวยขนาดนี้ พยัคฆินเดินมาเปิดประตูฝั่งของรติรสและอุ้มเธอขึ้นตรงไปยังคอนโดทันที
ฟ้าระวีหันไปมองพยัคฆินที่อุ้มเพื่อนสาวเข้าไปในคอนโดจึงรีบวิ่งตามเข้าไปจนยามห้ามไว้
“ไม่ได้ครับ คุณเข้ามาไม่ได้ครับ” ยามผู้ซึ่งทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีตามราคาเงินว่าจ้างที่คอนโดใจกลางเมืองจ่ายให้ค่อนข้างสูง
“นี่ คุณให้ฉันเข้าไปด้วยสิ คุณลักพาตัวเพื่อนฉันมานะ คุณจะไม่ให้ฉันเข้าไปเหรอไม่งั้นฉันจะแจ้งความนะ” พยัคฆินพยักหน้าให้ยามปล่อยฟ้าระวีเข้ามาพลางเดินตรงไปยังลิฟต์ เขาหันมองฟ้าระวีจนเธอรู้สึกงงงวยแล้วชี้นิ้วใส่ตัวเอง
“คุณกดลิฟต์สิ ผมอุ้มเพื่อนคุณอยู่”
“แล้วจะให้ฉันกดชั้นไหนล่ะ”
“ชั้นสิบแปด” ชายหนุ่มกล่าวเพียงสั้นๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่เอาแต่ทำหน้านิ่งเหมือนผู้ชายเย็นชา ฟ้าระวีนั้นเมียงมองเขาอยู่หลายครั้งเธอคิดในใจ
“เกิดอะไรขึ้นกันนะ ทำไมผู้ชายที่หล่อและรวยขนาดนี้รู้จักกับยัยรติหรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นกิ๊กของยัยรติแต่ก็คงไม่ใช่หรอกน่า เพราะปกติถ้ารติ มีอะไรก็จะเล่าให้เธอฟังตลอด ถ้าเป็นกิ๊กจริงๆและรติคงไม่เสียใจที่พชรนั้นนอกใจหรอก ตกลงผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ไม่นานเสียงประตูลิฟต์ก็เปิดขึ้น
“ติ่ง” พยัคฆินอุ้มรติรสเข้าไปแล้วหยุดยืนอยู่กลางห้องที่เห็นวิวพาโรนามาในยามค่ำคืนเสียงไประยิยระยับสวยมากเลยทีเดียวจนฟ้าระวียืนนิ่งอึ้งไปทันที
“คุณจะกลับได้หรือยัง” คำถามที่แสนเย็นชาเปล่งออกมา
“ฉันจะกลับได้ยังไง ในเมื่อคุณลักพาตัวเพื่อนของฉันมา”
“ผมว่าไม่นะ”
“ฉันว่าใช่”
“คุณต่างหากที่มาส่งผมกับเพื่อนของคุณถึงห้องอีกอย่างคุณยังเป็นคนกดลิฟต์ให้ด้วยซ้ำ” ฟ้าระวีที่จนมุมพูดอะไรไม่ออกเพราะสิ่งที่เขาพูดมาก็เป็นไปตามความจริง
“คุณบอกฉันมาเลยว่าคุณเป็นอะไรกับเพื่อนฉัน”
“ผมก็เป็นว่าที่เจ้าบ่าวคนต่อไปของเพื่อนคุณน่ะสิ อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้”
“ฉันเหรอ ฉันจะรู้ได้ยังไงในเมื่อวันนี้ยัยรติพึ่งจะประกาศเลิกกับว่าที่เจ้าบ่าวไปหมาดๆแล้วจะมีเจ้าบ่าวคนใหม่ได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะก็ผมนี่ไง” พยัคฆินตอบหน้าตาเฉยจนฟ้าระวีคดุ้นคิดอยู่นานแล้วก็เอ่ยออกมา
“ไหนล่ะ หลักฐานฉันไม่ยักรู้เลยว่าเพื่อนฉันบอกว่าจะแต่งงานกับคุณ”พยัคฆินหัวเราะในลำคอแล้วยื่นข้อความในไลน์ที่รติรสเพิ่งส่งมา ให้เพื่อนสาวเธอดู ฟ้าระวียื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆโทรศัพท์แล้วอ่านอย่างช้าๆ
“ฉันจะแต่งงานกับคุณ” ฟ้าระวีอ่านข้อความแล้วถึงกับอ้าปากค้าง เธอทึ่งในความไวไฟของเพื่อนสาวจนเธอกระพริบตาปริบ ๆ
“ที่นี้คุณเชื่อหรือยัง ถ้าเชื่อแล้วก็เชิญ” พยัคฆินผายมือให้ฟ้าระวีเดินออกไปจากห้องเขาสักทีเพราะตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยและเหม็นไปทั้งตัวอยากจะเข้าไปอาบน้ำสักหน่อย
“แล้วฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง”
“ถ้าผมไม่น่าไว้ใจเพื่อนคุณคงไม่ตกลงแต่งงานกับผมหรอกจริงไหม คุณคบกับเพื่อนคุณมาตั้งกี่ปีแล้ว คุณยังไม่รู้นิสัยของเพื่อนคุณอีกเหรอ” คำพูดของเขาก็ฟังดูมีเหตุผลจะว่าไปก็จริงอย่างที่เขาว่า
รติรสเป็นคนที่ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังถ้าเธอเลือกที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้แล้วจริงๆงั้นก็แสดงว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีไม่น้อย
หญิงสาวเสมองไปทางเพื่อนสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาแต่แล้วเธอก็พยักหน้าให้พยัคฆิน
“ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวฉันจะรีบโทรหาโทรมาหายัยรติตั้งแต่เช้าบอกให้เธอรับโทรศัพท์ด้วยนะ ถ้าเธอไม่รับโทรศัพท์รับรองฉันแจ้งตำรวจแน่” ฟ้าระวียกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปของพยัคฆินทันที
“ฉันมีป้ายทะเบียนรถของคุณ ฉันมีรูปถ่ายของคุณ ฉันรู้จักคอนโดของคุณ ถ้าคุณคิดร้ายกับเพื่อนฉัน คุณโดนฉันแจ้งจับแน่นอน” ฟ้าระวีทำท่าทางจริงจังแล้วยอมเดินถอยออกไปจากห้องของพยัคฆิน เขาส่ายหน้าเบาๆไปมาด้วยความหงุดหงิดใจ
“เพื่อนคุณร้ายใช่ย่อยนะ ว่าแต่คุณเถอะร้ายหรือเปล่า” นิ้วใหญ่เกลี่ยที่ไรผมที่มันปกหน้าปกตาของหญิงสาวออกแล้วเดินไปในห้องน้ำไม่นานเขาก็ถือชามน้ำกับผ้าขนหนูมาเช็ดใบหน้าให้รติรส
“อย่ามายุ่งฉันจะนอน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างคนหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มเช็ดตัวให้เธอเสร็จเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน เขาวางหญิงสาวลงบนเตียงกว้างอย่างอ่อนโยนแล้วนั่งลงข้างๆเธอ
ไม่รู้ว่าแผนนี้จะได้ผลหรือวุ่นวายมากกว่าเดิมชายหนุ่มคิดแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อออกเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเพราะเหม็นกลิ่นควันบุหรี่ที่ติดเสื้อผ้ามาจากผับที่เขาไปพาตัวเธอออกมา
เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วพยัคฆินก็ใส่เพียงแค่ชุดคลุมตัวออกมาจากห้องน้ำแล้วมานั่งข้างๆของหญิงสาวมือหนาดึงผ้าห่มมาห่มให้รติรส
“คุณชื่อรติสินะจากที่ผมได้ยินเพื่อนของคุณเรียกชื่อคุณ” ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนข้างๆเธอและพลิกตัวหันหน้าหาเธอ นิ้วเขาเกลี่ยที่แก้มขาวอมชมพูของหญิงสาว
ใบหน้าของเธอดูแล้วเหมือนเด็กมากทีเดียวทั้งดูสะอาดและใสซื่อเหมือนกระต่ายน้อยนอนหลับอยู่ก็ไม่ปาน
ตอนที่ 50ฉันเป็นภรรยาของเขาหลังจากที่แยกกันกับรติรสที่อำเภอ พยัคฆินก็ขับรถตรงไปยังห้องโดยที่ไม่เข้าบริษัทไม่ว่าใครจะโทรหา เขาก็ไม่รับสายใครสักคนชายหนุ่มเอาแต่ดื่มเหล้าตั้งแต่เช้ายันเย็น เขาเมาจนหัวราน้ำในที่สุดก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาในเวลาสองทุ่ม เขาก็เฝ้าวนเวียนเห็นภาพเธอเดินไปมาในห้องจนในที่สุดชายหนุ่มตัดสินใจกดเปิดเครื่อง เขาโทรหาเธอแต่รติรสที่ร้องไห้หนักจนหลับไปก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขา“ตื๊ด ตื๊ด” ไม่ว่าเขาจะโทรหาเธอกี่ครั้งเธอก็ไม่ยอมรับสายเขาเลย พยัคฆินจึงตัดสินใจที่จะขับรถไปหาเธอ เขาก็พยายามกดโทรหาเธอหลายครั้งต่อหลายครั้ง“ทำไมคุณไม่รับสายผมหรือคุณกำลังอยู่กับใคร” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความคิดที่วิ่งเข้ามาในหัวด้วยความคิดฟุ้งซ่านจู่ ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์กำลังจะยูเทิร์นและตัดหน้ารถของเขาทำให้พยัคฆินหลบรถมอเตอร์ไซค์คนนั้น“เฮ้ย!”“โครม” รถยนต์ของเขาหักหลบพุ่งเข้าข้างทางและตกลงไปในร่องคูน้ำและไปชนกับต้นไม้ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกที่กระแทกเข้ากับพวงมาลัยแต
ตอนที่ 49พยานหย่า“มาเจอกันที่อำเภอ ฉันจะหย่ากับคุณสิงห์” ฟ้าระวีใบหน้าซีดเผือดนึกว่าเมื่อคืนรติรสนั้นจะปรับความเข้าใจกับพยัคฆินแล้วซะอีกเพราะเธอไม่ได้กลับบ้านมาทั้งคืน แต่ทำไมตื่นเช้ามาเพื่อนสาวของเธอจึงส่งข้อความนี้มา“ยัยมิ้นตื่น ตื่นได้แล้ว” ฟ้าระวียื่นมือไปเขย่าแขนเพื่อนที่เมาหลับไม่ได้สติยันเช้า มินรดาลุกขึ้นนั่งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงไปซะหมด“อะไรล่ะยัยฟ้า ปลุกซะเสียงดังเลยเพิ่งจะได้นอนเนี่ย”“ไม่ต้องนอนแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปที่อำเภอ”“ไปที่อำเภอแล้วไปทำไมวะ”“ก็ไปเป็นพยานหย่าไง” ฟ้าระวีหันมาแว๊ดเสียงใส่มินรดาจนมิรดานิ่งงันไปในทันที“หย่าเหรอ ยัยรติจะหย่ากับคุณสิงห์จริง ๆ เหรอ” ฟ้าระวีหันมาพยักหน้าให้กับเพื่อนสาวณ ที่ว่าการอำเภอ“รติ” มินรดาเรียกรติรสขึ้นเสียงดังจากทางด้านหลังและหันไปมองพยัคฆินด้วยความไม่พอใจ“แกจะหย่ากับคุณสิงห์จริงเหรอ”
ตอนที่ 48ไปหย่ามือหนาประคองท้ายทอยของหญิงสาวและกดศีรษะของเธอเข้ามาใกล้ ๆ ดุ้นจนกระแทกผนังลำคอของเธอ“อ๊อก อื้อ” มือเรียวตบเข้าที่ต้นขาของเขารัว ๆ เพื่อที่จะบอกว่าเธอจะสำลักอยู่แล้ว“อ้า ซี๊ด ดีมากเลย” แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากท้ายทอยของเธอกลับกดค้างอยู่แบบนั้น“อ๊อก อ๊อก” เสียงคนตัวเล็กสำลักดุ้นและแล้วเขาก็หัวเราะชอบใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้“ฮึ ถึงกับสำลักเลยเหรอ” เขาจึงยอมปล่อยให้เธอนั้นถอนปากออกจากดุ้นเขาเพื่อให้เธอได้หายใจหายขอสักหน่อย“นี่มันจะมากไปแล้วนะ” เมื่อถอนปากออกจากดุ้นใหญ่ได้ เธอก็เริ่มต่อว่าเขาทันทีด้วยความไม่พอใจ น้ำหูน้ำตาของเธอไหลออกมาจนหญิงสาวจมูกแดงหมดแล้วแต่พอเธอเริ่มอ้าปากต่อว่าเขา ชายหนุ่มก็รีบยัดดุ้นเข้าไปในปากของเธออีกครั้งพลางโยกเข้าออกช้า ๆ“อือ” รติรสที่รู้ว่าตัวเองนั้นไม่ทันเกมของชายหนุ่มกลับต้องอมดูดดุ้นให้เขาอยู่แบบนั้นนานสองนาน ครั้งนี้เขาไม่ดันไปจนถึงผนังคอของเธอแต่เขาก็โยกเข้าออกช้า ๆ จนเธอรู้จังหวะและอมรูดให้เ
ตอนที่ 47มองหน้าผมแล้วตอบมาตามตรงรติรสผลักเขาออกจากตัวของเธอแล้วพยุงเขาให้นอนลงที่โซฟา เธอเดินไปในห้องนอนเพื่อที่จะไปเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขาแต่เมื่อเธอเปิดประตูออกมาจากห้องแต่งตัวกลับเห็นพยัคฆินยืนอยู่กลางห้องนอน“คุณไม่ได้เมาเหรอคะหรือว่าคุณหลอกฉัน”“เมาสิ ผมเมามากเลยทีเดียวล่ะ”“ถ้าคุณสามารถเดินได้ขนาดนี้ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วค่ะ” หญิงสาวเดินเลี่ยงตัวหลบเขาไปแต่แล้วมือใหญ่ก็คว้าต้นแขนของเธอไว้“หมับ!”“ใครอนุญาตให้คุณกลับ”“ฉันนี่แหละค่ะอนุญาตตัวของฉันเองปล่อยค่ะฉันจะกลับ” เธอพยายามสะบัดแขนจากมืออันแข็งแกร่งที่กำลังบีบที่ต้นแขนเธอเอาไว้แน่น“ปล่อยนะคะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”“คุณคิดเหรอว่าคุณจะรอดออกจากห้องนี้ไปได้” ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามาใกล้ ๆ กลิ่นน้ำหอมของคนตัวใหญ่ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก“ว้าย!” พยัคฆินอุ้มรติรสขึ้นจนตัวลอย เขาโยนเธอขึ้นไปบนที่นอนถึงแม่ว่าที่นอนจะนุ่มแต่เธอก็
ตอนที่ 46คุณกล้าตบผมเหรอ“เงินอะไรคะ รติไม่รู้เรื่องสักหน่อย”“ก็เงินที่พ่อผมให้ไปไง”“รติไม่ได้เอาเงินมาจากพ่อคุณเลยนะคะ” พยัคฆินจ้องหน้ารติรสอย่างเอาเรื่อง นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนคงถลุงเงินที่ได้มาจากพ่อเขาจนหมดแล้วสิท่า“เธอไม่ต้องมาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ผมไม่เชื่อผู้หญิงหน้าตาใสซื่อแต่ใจข้างในร้ายกาจอย่างคุณหรอก”“ฉันว่าคุณกำลังเข้าใจเพื่อนของฉันผิดนะคะ” ฟ้าระวีพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจที่พยัคฆินเดินเข้ามาแล้วก็ต่อว่าเพื่อนเธอโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ารติรสใช้เวลาเป็นเดือนที่จะรักษาแผลใจกว่าเธอจะยอมออกมาข้างนอกบ้าน นี่ก็เพิ่งเป็นวันแรกที่พวกเธอสามารถลากรติรสออกมาผ่อนคลายหลังจากที่เธอเศร้าใจมาเป็นเดือน“คุณเงียบไปเถอะ” สีหราชพูดขึ้นแล้วหันไปมองฟ้าระวีที่ชอบเข้ามาสอดเรื่องของชาวบ้าน“คุณเป็นใครไม่ทราบ”“ใช่ คุณยุ่งอะไรด้วย” มินรดาพูดสมทบฟ้าระวี“แล้วพวกคุณสองคนเป็นอะไร ทำไมถึงชอบแทรกแซงเรื่องของผัวเมียเขานัก” สีหราชพูดข
ตอนที่ 45แล้วคนนี้ล่ะ ใช่พี่สะใภ้ของผมไหม“แล้วตาสิงห์ชอบผู้หญิงแบบไหน” สองผู้อาวุโสหันหน้ามาถามอมรพร้อมกัน“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” อมรที่รีบถอยหลังแล้วเดินไปกดลิฟต์ทันที เมื่อลิฟต์เปิดออกเขารีบเข้าไปในลิฟต์แต่แล้วพรนภารีบตรงดิ่งมากดลิฟต์ค้างเอาไว้“ฉันไปด้วย ฉันไม่อยากจะอยู่ใกล้ ๆ คนรกโลกแถวนี้”“คุณว่าใครรกโลก”“จะใครซะอีกล่ะ คุณนั่นแหละที่รกโลกไม่มีประโยชน์”“ผมมีประโยชน์ก็แค่ให้คุณเป็นบันไดขึ้นไปพอคุณได้อยู่ที่สูงแล้ว คุณก็ก้าวเหยียบหัวผมข้ามไปแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น”“นี่คุณ คุณอย่ามาโทษฉันนะ คุณต่างหากที่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ฉันกับลูก”“คุณก็เลยทิ้งลูกกับผมไปมีความสุขกับผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ” พรนภาและคมสันที่ไม่หยุดทะเลาะกันสักทีจนอมรต้องรีบอุดหูแล้วเดินถอยหลังไปอยู่ที่มุมนึงในตัวลิฟต์สีหราชที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นพี่ว่าให้ไปเจอกันที่ผับเดิม เมื่อเขาไปถึงสีหราชก็ยกมือขึ้นโบกให้ผู้เป็นพี่“ทางนี้พี่” เสียงเรียกจากน้องชาย พยัคฆินจึงเดินตรงไปหา