พวกของเซียวหลันยวน มาถึงจุดที่สงสัยว่าน่าจะเป็นทางเข้าที่หลานหรงพูดไว้แล้วที่นี่มีเนินดินหลายแห่ง และยังมีหินอยู่บ้างน่าจะเพราะผ่านกาลเวลามานาน ยิ่งไปกว่านั้นดินยังอุดมสมบูรณ์ด้วย มีพืชพรรณอยู่หลากหลาย เนิ่นดินแต่ละแห่งเต็มไปด้วยพืชขึ้นกันสูงต่ำสลับซับซ้อนยังมีต้นไม้ที่แตกต่างออกไปอีกมาก กระทั่งขอบหินยังมีเถาวัลย์ออกดอกเลื้อยพันหินไว้จนมิดมีหลุมลึกบางส่วน หรือบ่อดินบางส่วน ด้านในมีเห็ดจำนวนมาก หรือไม่ก็พืชที่ดูรูปร่างแปลกตาขึ้นอยู่ด้วยพวกเขาเข้าๆ ออกๆ สำรวจในนี้มาแล้วหลายวัน และย่ำจนกลายเป็นทางเล็กๆ ขึ้นมาแล้ว"ท่านอ๋อง ที่นี่ขอรับ"หลานหรงพาพวกเขามาตรงหน้าหินยักษ์กับเนินดินแห่งหนึ่ง"พวกเราเห็นเนินลาดอยู่ไม่ไกล ตรงนั้นมีก้อนหินอยู่ และยังมีหลุมดินอีกสองสามหลุม หลังจากสำรวจก็สงสัยกันว่า หินยักษ์พวกนี้กลิ้งลงมาจากตรงนั้นแล้วมาหยุดอยู่ตรงนี้ แล้วยังกั้นดินเอาไว้บางส่วนด้วย พอเวลาผ่านไปนานก็มีต้นไม้เถาวัลย์งอกออกมา"หลานหรงชี้ไปยังเนินหินด้านหน้าอธิบายว่า "ดังนั้นพวกเราจึงคาดการณ์ว่า ที่นี่ปิดกั้นประตูเมืองเอาไว้"เขาเทียบกับด้านหลังขึ้นมา "และพื้นที่ใหญ่ด้านนอกนี้ เดิมทีน่
หลานหรงบอกว่า "ที่น่ายินดีที่สุดคือ วังจักรพรรดิเป็นไปได้มากว่ายังสมบูรณ์แทบไม่เสียหายอะไรเลย!"นี่จึงทำให้พวกเขารู้สึกยินดีและเกินคาดอย่างมากวังจักรพรรดิถ้าหากยังสมบูรณ์อยู่ พวกเขาก็สามารถย้ายเข้าไปได้ทันทีวังจักรพรรดิตงฉิงเดิม มีความหมายแตกต่างออกไปพวกเขาสร้างใหม่ได้ แต่มันก็ไม่เหมือนกันยิ่งไปกว่านั้น พอมาถึงวังจักรพรรดิ ท่านอ๋องจึงมีความรู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้านอย่างแท้จริงถ้าเขาหาร่องรอยการใช้ชีวิตของจักรพรรดินีในดีพบล่ะก็ ก็จะยิ่งเข้าใจชีวิตของราชวงศ์ตงฉิงมากว่าเป็นอย่างไร และหารายละเอียดอื่นพบเรื่องนี้สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วถือเป็นการปลอบโยนและความผูกพันอย่างหนึ่งดังนั้นหลานหรงพอพบว่าวังจักรพรรดิยังดีอยู่นั้นจึงดีใจเป็นอย่างมาก"พวกเจ้าเข้าไปกันหรือยัง?" เซียวหลันยวนถามเขาเองก็รู้สึกตกตะลึงยินดีมากจริงๆ"ยังหาทางเข้าไปไม่ได้ขอรับ ทั้งวังจักรพรรดิมีกลไกอยู่ พวกเรามองเห็นหอสูงตระหง่าน ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้วิธีตามที่คุณชายฟู่สอนเอาไว้ ใช้ท่อไม้ไผ่สอดเข้าไปก่อน จากนั้นก็ฟังเสียงเพื่อแยกแยะรอยแตก ก็รู้สึกได้ว่าวังจักรพรรดิน่าจะไม่ถล่มลงมา"ฟู่จิ้นเชินคิดหาวิธีไว้พอควร
ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึง ขณะที่คนอื่นจับจ้องนางขนาดนี้ กลัวว่านางจะไปสัมผัสกับเหมืองหินขาวนั่น เซียวหลันยวนกลับแอบหยิบก้อนเล็กออกมาให้อันที่จริงเขาก็รู้สึกสงสัยต่อความลับของนางอยู่ แต่หลายปีมานี้ก็ไม่เคยถามอย่างละเอียดเสียที และไม่มีการแอบสืบด้วยตอนที่นางต้องการจะเลี่ยงคนเพื่อหยิบของจากในห้องเภสัช หรือช่วงที่นางจะเข้าไปในห้องเภสัช เซียวหลันยวนกระทั่งยังคอยช่วงนางปกปิดด้วยซ้ำตอนนี้เขายังเดาออกมาว่านางน่าจะตรวจสอบดูว่าหินนี้มีปัญหาหรือไม่ แต่เขาก็ไม่ถามอะไรมากฟู่จาวหนิงรู้สึกจริงๆ ว่าที่นางมายังยุคนี้ แล้วได้เจอกับผู้ชายแบบนี้ เป็นโชคดีที่ยิ่งใหญ่สุดของนางเลยเดิมทีตอนที่นางตั้งท้อง ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรืออารมณ์แปรปรวนมากนัก แต่เพราะกำลังจะกลายเป็นแม่คน อันที่จริงนางก็คิดมากกว่าแต่ก่อนพอสมควรถึงยังไงการมีลูกกับไม่มีลูกก็แตกต่างกันในขั้นตอนการเติบโตของลูก พ่อเองก็เป็นบุคคลที่ค่อนข้างสำคัญเช่นกันนางยังคิดว่าหลังจากนี้จะคุยเบื้องลึกกับเซียวหลันยวนเสียหน่อย แต่ตอนนี้ จู่ๆ นางก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาในช่วงเวลาแบบนี้ เขายังสามารถพิจารณาเพื่อนางได้ละเอียดรอบด้านขนาดนี้ หลังจากนี้เข
ตงฉิงอันที่จริงมีทรัพยากรที่สมบูรณ์เลยพวกเขาไม่เพียงแต่ได้เห็นสัตว์ที่ตนเองไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วยังเจอวัตถุดิบยาและผลไม้อีกมากมายยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางที่มา น้ำในลำธารก็สะอาดหวานชื่นมากทิวทัศน์ก็งดงามมากระหว่างทาง กระทั่งฟู่จาวหนิงก็ไม่รู้ว่าชมเปราะไปกี่รอบแล้วก่อนหน้านี้นางวิ่งแจ้นไปทั่ว เธอได้เห็นภูมิประเทศและทิวทัศน์หลากหลายมาแล้ว แต่ตงฉิงก็ยังคงทำให้นางประหลาดใจได้อยู่นางกระทั่งรู้สึกมหัศจรรย์ที่ยังมีแคว้นแบบนี้อยู่จริงๆ เหมือนว่าสิ่งดีๆ ทั้งหมดมารวมกันอยู่ที่นี่แล้วแต่เรื่องดีกับร้ายมักอยู่คู่กัน อาจจะเพราะสภาพแวดล้อมที่ผิดปกตินี้ จึงทำให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงแค่หวังว่าภัยธรรมชาติระดับทำลายล้างแบบนั้นจะเกิดขึ้นแบบพันปีมีสักครั้ง หลังจากที่ประสบมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกเลย"เหมืองหินขาวเหล่านี้ของเมืองซิ่งฮว่าก็หาได้ยากด้วยเช่นกัน ต่อไปสิ่งนี้อาจใช้ค้าขายกับแคว้นอื่นได้"เสิ่นฉยงบอกพวกเขา "เพราะพวกเราพบว่า บ้านเรือนหลายหลังในเมืองซิ่งฮวาเหมือนว่าจะมีฐานะดี ใช้หินสีขาวแบบนี้มาทำเป็นเตียง แล้วยังนำมาสร้างห้องอาบน้ำด้วย ก่อขึ้นเป็นสระสำหรับแช่ตัวได้ ข้าเ
จะไปเมืองหลวงจักรพรรดิ เรื่องที่พวกเขาต้องเตรียมยังมีอีกมาก แค่เก็บของก็ใช้เวลาสิบวันแล้วจนตอนที่พวกเขาออกเดินทาง ฤดูหนาวก็ค่อยๆ ใกล้เข้ามาตงฉิงในฤดูหนาวดูงดงามเป็นพิเศษครั้งพวกเขาไม่เร่งเดินทาง บวกกับต้องคอยใส่ใจสุขภาพฟู่จาวหนิง จึงเดินทางด้วยความเร็วปกติระหว่างทาง พวกเขาก็ทยอยได้พบกับประชาชนบางส่วนนอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเล็กๆ บางแห่ง ที่แต่เดิมก็ค่อนข้างจะเก็บตัวเร้นลับ แต่ก็ยังอยู่รอดกันมาได้พวกของหลานหรงก่อนหน้านี้ไปมาแล้วรอบหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเมืองบางส่วนถูกกลบฝังไป ก็ทิ้งคนเอาไว้ที่นั่นเพื่อขุดค้นสำรวจต่อได้อะไรดีๆ มาด้วยจริงๆอย่างเช่นวันนี้พวกเขามาถึงสถานที่หนึ่งที่เรียกว่าเมืองซิ่งฮวาเมืองซิ่งฮวาเดิมทีเคยถูกโคลนถล่มและน้ำท่วมหนักเมื่อหลายปีก่อน แต่ยังคงมองเห็นหอเมือง รวมถึงอาคารเล็กๆสองสามชั้นที่อยู่ด้านในได้คนที่หลานหรงทิ้งไว้คอยขุดที่นี่อยู่ตลอดเสิ่นฉยงท่านลุงคนโตจากตระกูลเสิ่นก็อยู่ที่นี่ด้วยเพราะเสิ่นฉยงพบว่าด้านหลังของที่นี่มีเหมืองอยู่ หินหยกขาวนี้นั้นแม้จะไม่ล้ำค่าเท่าหยก แต่ก็มีสีขาวนวลผิวเรียบเนียน เหมาะนำมาปูพื้น หรือทำเป็นโต๊ะหินเก้าอี้หิ
ผู้อาวุโสจี้ก็เริ่มยุ่งขึ้นมาใหม่อีกครั้งในเมืองอั้นแห่งนี้เขารู้สึกว่าได้ยุ่งแบบนี้นั้นดีเอามากๆยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่า สภาพอากาศของตงฉิงเหมาะกับเขามากด้วย เรื่องดินเรื่องน้ำก็เหมาะสม พอมาถึงที่นี่ เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายตนเองเบาขึ้นไม่น้อยเลยบวกกับพออยู่กับฟู่จาวหนิง นางก็ยังคอยจับชีพจรให้เป็นครั้งคราว มีอะไรผิดปกติก็จะรักษาให้เขาทันที ถ้าบอกว่าวันนี้หัวใจเต้นไม่ค่อยปกติ ก็จะบังคับให้เขากินยาอะไร จากนั้นก็สั่งให้เขาไปนอนเพิ่มอีกหนึ่งชั่วยามพอเป็นแบบนี้ ผู้อาวุโสจี้ก็รู้สึกว่าตนเองหนุ่มแน่นขึ้นมากว่าแต่ก่อน แข้งขาก็เร็วขึ้นด้วย"ไอ้ศิษย์รองข้าคนนั้นก็ใกล้จะมาถึงตงฉิงแล้ว เขาจะมารับผิดชอบการเปิดสาขาแยกของพันธมิตรโอสถในตงฉิง ข้าให้เขาพาคนมาเยอะหน่อย แล้วก็เมล็ดพันธุ์วัตถุดิบยาเองก็รวบรวมมาแล้วไม่น้อย"ผู้อาวุโสจี้บอกกับไป๋หู่ว่า "ตระกูลเสิ่นมีคนอยากเข้าร่วมพันธมิตรโอสถไหม ข้าเห็นว่าถ้าถึงตอนนั้นก็สามารถให้เขารับศิษย์เข้ามาได้ เราต้องสร้างความแข็งแกร่งที่ตงฉิงนี้ให้ยิ่งใหญ่"ที่สำคัญสุดคือ หลังจากเขาปลูกวัตถุดิบยาที่อุทยานด้านบนมากว่าครึ่งเดือน ก็พบว่าที่นี่น