Share

บทที่ 89

Author: กวนอวิ๋นเจี้ยน
“ไม่สนใจผู้อื่น ชอบเอาชนะ อารมณ์ร้อน ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ยังเคยทำร้ายคนที่หน้าหอคุมกฎด้วย"

“ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ท่านปรมาจารย์กระบี่จะไม่รับนางเป็นศิษย์ แล้วรับเพียงศิษย์น้องหญิงจี้เท่านั้น”

“ชิ ก็เพราะแบบนี้นางถึงได้จงใจหาเรื่องศิษย์น้องหญิงจี้ล่ะสิ? แถมยังบอกว่า การชี้แนะของท่านปรมาจารย์กระบี่สู้ผู้อาวุโสเสิ่นไม่ได้ ช่างทำให้คนอยากหัวร่อจนฟันร่วงจริง ๆ ข้าว่านางเข้าตำรา ‘องุ่นเปรี้ยว’ ที่บอกว่าองุ่นเปรี้ยวเพราะตัวเองไม่ได้กิน ใส่ร้ายป้ายสีเพราะไม่อาจได้มาครอบครองมากกว่า”

จี้ฝูเหยารอให้พวกเขาพูดจบ ค่อยคัดค้านด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “พวกท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้นอีกเลย อาจารย์อาอวี้มิใช่คนแบบนั้น”

การโน้มน้าวแบบนี้มีแต่จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามเท่านั้น “ศิษย์น้องหญิงจี้ นางถึงกับบังคับให้เจ้าขอโทษนางต่อหน้าทุกคนในสำนักแล้ว เหตุใดเจ้ายังพูดแทนนางอีกเล่า?”

งานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในครั้งนี้ สำนักกระบี่เสวียนเทียนมีคนไปทั้งสิ้นร่วมพัน

เรือวิญญาณทั้งสองลำล้วนมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย

บรรดาศิษย์ของยอดเขาวั่งเฉิน ก็นั่งอยู่บริเวณมุมห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่ชั้นหนึ่งของเรือวิญญาณ

เมื่อได้ยินเสีย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 98

    บางทีอาจเป็นเพราะตอนนี้จี้ฝูเหยายังเยาว์วัย ยังไม่เข้าใจการเก็บงำอารมณ์โดยสมบูรณ์ หรืออาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาสองชาติ ทำให้อวี้หลานชิงเข้าใจนางดีเกินไป เมื่อจิตสัมผัสรู้สึกได้ถึงสายตาของจี้ฝูเหยาที่มองตามหลังอีกฝ่ายไป อวี้หลานชิงก็คาดเดาการกระทำต่อไปของนางได้แล้ว นางทำเช่นนี้เป็นประจำใช้ท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา คำนึงถึงผู้อื่นมาดึงดูดทุกคนที่มีประโยชน์ต่อนาง ชาติที่แล้ว หากไม่ใช่เพราะกระบี่ที่ทะลวงหัวใจในตอนสุดท้าย อวี้หลานชิงก็คงถูกรูปลักษณ์ภายนอกของนางหลอกไปแล้ว ในฐานะผู้หญิงเหมือนกัน อวี้หลานชิงไม่อยากใช้คำพูดที่ร้ายกาจมาบรรยายจี้ฝูเหยา แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนที่แสดงออกมาเลย สายตาของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนน่าเป็นห่วงยิ่งนักความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมาในใจ อวี้หลานชิงก็อดไม่ได้ที่จะ “ถุย” อีกครั้ง ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนก็ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนกัน ศิษย์อาจารย์คู่นั้นชอบพอกันและกัน มีความรักต้องห้าม เรียกได้ว่าเหมือนเต่ามองถั่วเขียว รับสืบทอดสายตาที่ย่ำแย่มา“ไปกันเถิด” อวี้หลานชิงหันหน้ากลับมามอง เจ้าของแผงลอยที่ยังกำถุงเก็บของไว้แน่นเพราะกล

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 97

    อวี้หลานชิงไม่ได้สนใจสายตาของผู้คนรอบข้าง และไม่อยากอธิบายอะไร เดิมทีนางก็ไม่ได้คิดจะสังหารสัตว์วิญญาณตัวนี้เลย ในเมื่อจี้ฝูเหยายินดีเข้ามายุ่งเรื่องผู้อื่น ก็ปล่อยให้นางดูแลต่อไปก็พอ “ศิษย์หลานกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นหน้าที่สำคัญอย่างตามหาเจ้าของสัตว์วิญญาณตัวนี้ก็ยกให้ศิษย์หลานจัดการแล้วกัน” “แต่ว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้มีนิสัยซุกซน ศิษย์หลานต้องคอยจับตาดูหน่อย อย่าให้มันทำร้ายผู้คนอีกเป็นอันขาด” อวี้หลานชิงพูดจบก็เก็บกระบี่ยาว เจ้าของแผงลอยที่อาศัยช่วงเวลาชุลมุนเก็บกล่องบรรจุหญ้าเย็นกระจ่างกลับคืนสู่อ้อมอกอีกครั้ง ก็ฉวยโอกาสที่จี้ฝูเหยาพูดเมื่อครู่นี้เก็บข้าวของบนแผงลอยจนเสร็จเรียบร้อยนานแล้วอวี้หลานชิงส่งสายตา เขาก็เดินตามหลังนางออกจากฝูงชนทันทีจิ้งจอกแดงเพลิงที่ก่อความวุ่นวายไปครึ่งถนนตัวนั้น เมื่อครู่กำลังทำตากลมสุกใสนิ่งอยู่กับที่ มองอวี้หลานชิงกับจี้ฝูเหยาเหมือนชมละครสนุก ๆ ก็ไม่ปานปากยังคงเคี้ยว “หนวดหัวไชเท้า” ที่มันโยนทิ้งไว้บนพื้นลวก ๆ ก่อนหน้านี้อย่างไม่เร่งรีบเมื่อเห็นอวี้หลานชิงและเจ้าของแผงลอยนำสมุนไพรวิญญาณที่มันหมายตาจากไป มันก็อดร้อนใจไม่ได้มันคายหนวดหัว

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 96

    วิญญาณร้ายยังไม่สลายไปสักที ในสมองของอวี้หลานชิงผุดขึ้นมาแปดคำทันที จี้ฝูเหยาที่อยู่ตรงหน้าถือกระบี่ใบหลิวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ปลายกระบี่เรียวเล็ก ตรงด้ามกระบี่เคลือบทอง บนนั้นยังฝังอำพันที่ส่องประกายแวววาวสามก้อนตอนที่กระบี่ทั้งสองปะทะกันเมื่อครู่นี้ อวี้หลานชิงรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณธาตุไฟที่บริสุทธิ์สายหนึ่งปรากฏขึ้นบนตัวกระบี่เล่มนั้น เป็นลมปราณสายนี้เองที่ต้านทานปราณกระบี่ของนาง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกระบี่เล่มใหม่ที่ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนมอบให้จี้ฝูเหยา แม้จะเทียบไม่ได้กับกระบี่ที่หล่อหลอมปราณกระบี่ของปรมาจารย์กระบี่เยวี่ยหวาเล่มนั้นในชาติก่อน ซึ่งเข้ากับวิชาที่จี้ฝูเหยาฝึกฝนแต่ก็เป็นกระบี่ดีที่หาได้ยากเล่มหนึ่งจริง ๆ อย่างน้อยในแง่ของระดับก็ถือว่าหายากมากนี่ไม่ใช่อาวุธวิเศษ แต่เป็นอาวุธวิญญาณ แตกต่างกันเพียงคำเดียว แต่ราคาและความล้ำค่าระหว่างทั้งสองนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว อาวุธวิญญาณทั่วไปมีราคาแค่หินวิญญาณไม่กี่ร้อยก้อน แพงอีกแค่ไหนก็แค่พันกว่า แต่อาวุธวิญญาณเป็นสิ่งที่มีราคาแต่ไม่มีในตลาดมาโดยตลอด อย่าว่าแต่ผู้ฝึกตนระดับหลอมปราณเลย ตลอดชีวิตของผู้ฝึกตนระดับห

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 95

    เจ้าของแผลลอยกล่าวจบก็แอบเชยตามองปฏิกิริยาของอวี้หลานชิง จากนั้นก็เห็นนางทำสีหน้าเคร่งขรึม ไม่เอ่ยสักคำเดียวในใจอด “กระตุก” ขึ้นมาไม่ได้ผู้ฝึกตนหญิงผู้นี้คงไม่ให้เขาคืนหินวิญญาณหรอกนะ?ศิษย์ของสำนักใหญ่ ปกติแล้วจะไม่ยอมเสียหน้ากระมัง?แต่ว่าไม่มีเรื่องอะไรที่แน่นอน เขาตัดสินใจแล้วว่าหากผู้ฝึกตนหญิงตรงหน้าให้เขาคืนหินวิญญาณละก็ เขาจะเก็บแผงหนีไปทันที จากนั้นก็เปลี่ยนที่แล้วค่อยตั้งแผงใหม่ เจ้าของแผงลอยถึงค่อยเอ่ยปากพูดอย่างระมัดระวังว่า “สหายน้อย?” สิ่งที่อวี้หลานชิงคิดไม่ใช่เรื่องขอหินวิญญาณคืน “เมื่อครู่ท่านบอกว่าสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ระงับพิษเพลิงชื่อว่าอะไรนะ?”“หญ้าเย็นกระจ่าง สมุนไพรวิญญาณชั้นสูง หนึ่งต้นสามารถระงับพิษเพลิงได้สามเดือน” ความคิดที่จะหนีไปของเจ้าของแผงลอยถูกโยนทิ้งไว้ที่ด้านหลังสมองทันที ก่อนจะถามด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้นว่า “สหายน้อยถามถึงสมุนไพรนี้ แสดงว่า?”“ข้ามีอยู่ต้นหนึ่ง” อวี้หลานชิงก็เพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกันว่ามีสมุนไพรวิญญาณเช่นนี้อยู่ในแหวนเก็บของของตนเป็นของที่ผู้อาวุโสจวีหยางจากสำนักมอบให้ในพิธีกราบอาจารย์ก่อนหน้านี้ สมุนไพรวิญญาณที่

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 94

    “สหายน้อยอย่าเพิ่งไป!” อวี้หลานชิงเพิ่งเดินออกไปก้าวเดียว เจ้าของแผงลอยก็รีบตะโกนจากด้านหลัง “หากสหายน้อยคิดว่าหนึ่งพันหินวิญญาณไม่สมเหตุสมผล ข้าจะลดให้เจ้าสักเล็กน้อย ห้าร้อยหินวิญญาณเป็นอย่างไร?” “แร่วิญญาณที่หลอมแล้วหนึ่งชิ้น บวกกับข้อมูลของช่างตีเหล็ก ทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยหินวิญญาณหรือ?” อวี้หลานชิงชะงักฝีเท้า หันกลับมาแล้วถามคำถามที่อยู่ในใจ “ท่านเห็นข้าดูเหมือนคนโง่งมยอมให้คนอื่นเอาเปรียบหรือ?” “...” เจ้าของแผงลอยเงียบไปครู่หนึ่งก็ไม่เหมือนจริง ๆ ผู้ฝึกตนหญิงตรงหน้านี้แต่งตัวเรียบง่ายเสื้อคลุมสีเขียวไม่มีลายอักขระอะไรปักไว้เลย บนตัวก็ไม่มีเครื่องประดับแม้แต่ชิ้นเดียว ดูไม่เหมือนคนรวยเลยแต่อายุน้อยแค่นี้ก็มีพลังยุทธ์ระดับสร้างฐานขั้นปลาย อีกทั้งมองแวบเดียวก็จำเหล็กดาวเหมันต์ที่ผ่านการหลอมด้วยเคล็ดลับพิเศษก้อนนี้ได้ สายตาค่อนข้างดีเลยทีเดียว จะต้องเป็นลูกศิษย์ชั้นในของสำนักใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยหากบอกน้อยไป ก็ไม่คุ้มค่าพอให้คนแก่อย่างเขาอดทนต่อความเจ็บป่วย สิ้นเปลืองแรงกายแรงใจนั่งยอง ๆ อยู่ตรงนี้งานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนจัดขึ้นแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ที่ผ่านมาก

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 93

    “ใช่แล้ว อยู่ข้างหน้า...”อวี้หลานชิงไม่รู้เลยว่าหลังจากที่แยกทางกัน ซือถูเหมี่ยวกับศิษย์น้องหญิงยังคงพูดถึงนางและก็ไม่รู้ว่าศิษย์น้องผู้นั้นที่อยู่ข้างกายซือถูเหมี่ยวก็คือ “ผู้เบิกเนตรสวรรค์” ที่เลื่องชื่อหลังงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในชาติก่อนเมื่อบอกลาซือถูเหมี่ยวกับศิษย์น้องหญิงแล้ว นางก็มองไปยังแผงลอยก่อนหน้านั้นอีกครั้งเมื่อเห็นก้อนเหล็กดำสนิทยังคงวางทับอยู่ตรงมุมหนึ่งของแผงลอย นางก็อดโล่งใจไม่ได้ก้อนเหล็กดำสนิทนี้ก็คือเหล็กดาวเหมันต์อันเลื่องชื่อแต่เป็นเหล็กดาวเหมันต์ที่ผ่านการหลอมมาแล้วแม้จะไม่ค่อยงดงาม แต่ด้วยฝีมือของช่างตีเหล็ก ระดับความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่งกลับเหนือกว่าก่อนหลอมมากนักในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ช่างตีเหล็กเป็นตัวตนที่อยู่ต่ำกว่าช่างหลอมอาวุธขั้นหนึ่ง การหาช่างตีเหล็กมาหลอมแร่วิญญาณให้นาง ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองหินวิญญาณมากนักผู้ฝึกตนที่ขัดสนเงินทองบางคนก็จะให้ช่างตีเหล็กช่วยหลอมแร่วิญญาณที่ต้องใช้ก่อน แล้วค่อยไปหาช่างหลอมอาวุธให้ลงมืออีกทีแบบนี้อย่างน้อยก็ประหยัดหินวิญญาณได้สองถึงสามส่วน ทว่าช่างหลอมอาวุธไม่ยอมรับวิธีเช่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status