"กินข้าวกันต่อเถอะค่ะ"
สิ้นเสียงของซีเซีย ทุกคนก็ต่างกินข้าวของตัวเองต่อ กระทั่งเตชินท์พูดขึ้น
"ที่หนูพั้นซ์เถียงตาเมื่อกี้มันไม่น่ารักเลยนะครับ ต่อให้หนูพั้นซ์ไม่ชอบหรือไม่พอใจกับสิ่งที่ตาทำ แต่หนูก็ควรจะพูดจาดีๆกับตาหน่อย เป็นเด็กเป็นเล็กควรจะมีมารยาทกับผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้นะครับ"
ด้านศิลากับซีเซียเงยหน้าขึ้นมองเตชินท์พร้อมกันทันทีเพราะไม่คิดว่าเตชินท์จะพูดตรงขนาดนี้ แม้มันจะเป็นคำพูดที่สุภาพ แต่มันก็ทำให้คนฟังรู้สึกจุกได้ ด้านน้ำพั้นซ์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เอาแต่ก้มหน้านั่งเงียบอยู่อย่างนั้น
เมื่อเห็นคนตัวเล็กเงียบไป เอาแต่ก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานไปมา เตชินท์ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าเธอจะไม่เข้าใจแล้วพาลโกรธเขาที่ถือวิสาสะไปสอนเธอ เขาจึงเอ่ยอธิบายออกไป
"อาไม่ได้อยากจะว่าหนูพั้นซ์นะครับ อาแค่อยากจะสอน หนูพั้นซ์โกรธอารึเปล่าครับ"
ได้ยินเช่นนั้นน้ำพั้นซ์จึงเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวโตตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ ทำเอาใจแกร่งกระตุกวูบทันทีเมื่อเห็นดวงตากลมโตของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยพูดขึ้น
"หนูไม่ได้โกรธค่ะ แต่หนูแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงต้องคอยมาบงการชีวิตหนูด้วย อยากให้หนูเป็นเด็กดี เป็นเด็กน่ารักว่านอนสอนง่าย อยากให้หนูได้ดั่งใจทุกอย่างตามที่อยากให้เป็น แต่ดูสิ่งที่ทำกับหนูสิ บังคับให้หนูไปกับคนที่ไม่ชอบ อยากให้หนูแต่งงานมีครอบครัวทั้งที่หนูไม่ต้องการด้วยซ้ำ อยากให้หนูอยู่แต่บ้านเฝ้าแต่เรือนเหมือนลูกหลานบ้านอื่น แล้วเคยถามหนูบ้างไหมว่าหนูชอบชีวิตแบบนี้รึเปล่า หนูแค่อยากทำในสิ่งที่หนูอยากทำ หนูแค่ไม่ชอบการถูกบังคับ ไอเป็นเด็กดีหนูเป็นให้ได้นะคะ แต่หนูแค่อยากให้ทุกคนเข้าใจหนูบ้าง ทำไมถึงไม่มีใครเข้าในหนูเลย ฮึ่ๆ" น้ำพั้นซ์พูดออกมายาวเหยียดด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่สะสมมานาน เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงระเบิดความรู้สึกออกมาต่อหน้าต่อตาคนที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ พอพูดจบน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าตาตลอดเวลาก็ไหลหยดแหมะลงมาอาบแก้มนุ่มทั้งสองข้างพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ที่ดังเล็ดรอดออกมาเล็กน้อย ทำเอาใจแกร่งของเตชินท์กระตุกวูบแล้ววูบอีก
พรึ่บ!
ด้วยความที่ไม่อาจทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้ น้ำพั้นซ์จึงลุกพรวดขึ้น เดินจ้ำอ้าวไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่แขวนอยู่ข้างเสาบ้าน ท่ามกลางเสียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"หนูพั้นซ์ หนูจะไปไหนครับ"
"พั้นซ์จะไปไหน"
น้ำพั้นซ์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น พอได้กุญแจรถมาเธอก็รีบวิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันโปรดของตัวเอง แล้วรีบสตาร์ทรถขับออกไปจากบ้านทันที
ด้านเตชินท์ที่นั่งไม่ติดเก้าอี้ จะวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะสองขาคงวิ่งไม่ทันสองล้อแน่นอน และเขาไม่มีทางปล่อยคนตัวเล็กให้ออกไปข้างนอกคนเดียวโดยที่สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่อยู่อย่างนี้ จึงรีบหันไปถามหลานสาวอย่างร้อนใจ
"น้องเซียกุญแจรถมอไซค์อีกคันอยู่ไหน"
...เตชินท์เลือกที่จะใช้รถมอเตอร์ไซค์ เพราะคิดว่าการขับรถในชุมชนหรือตามตรอกซอยเล็กๆในหมู่บ้านมันสะดวกและไวกว่าการใช้รถยนต์คันใหญ่ที่ดูเทอะทะ...
"อยู่นี่ค่ะ" ซีเซียเอ่ยตอบพร้อมกับวิ่งไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์อีกคันที่แขวนอยู่บนเสาบ้านต้นเดียวกับที่น้ำพั้นซ์หยิบเมื่อครู่ ก่อนจะวิ่งกลับมาแล้วยื่นกุญแจรถรุ่นเวฟ125iให้คนเป็นอาทันที
"กูไปด้วย" ศิลาหันไปพูดกับเพื่อนทันทีหลังจากที่เงียบอยู่นานเหมือนว่าตรงนี้ไม่ได้มีเขาอยู่ด้วย
"หนูไปด้วยค่ะ"
สองหนุ่มใหญ่พยักหน้าให้อย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะรู้ดีว่าต่อให้ห้ามซีเซียก็ไม่ฟัง เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามจึงวิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ที่โรงรถข้างรั้วบ้าน แล้วขับออกไปตามหาน้ำพั้นซ์ทันที โดยเตชินท์เป็นคนขับ ซีเซียนั่งตรงกลาง ส่วนศิลานั่งท้าย ในขณะที่ขับรถพลางกวาดสายตามองหาคนตัวเล็ก เตชินท์ก็เอ่ยถามหลานสาวไปด้วย
"น้องเซียพอจะรู้ไหมครับว่าหนูพั้นซ์ไปที่ไหน"
"ลองไปดูที่บ้านไข่ดำก็ได้ค่ะ อาเตขับตรงไปอีกนิดแล้วเลี้ยวซอยข้างหน้าเลยค่ะ"
ได้ยินเช่นนั้นเตชินท์ก็รีบบิดคันเร่งไปตามทางที่หลานสาวบอกให้เร็วขึ้นอีก จนกระทั่งทั้งสามมาถึงบ้านไข่ดำ ด้านซีเซียที่รู้จักไข่ดำอยู่แล้ว จึงตะโกนถามไข่ดำที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าบ้านไปทันที
"ไข่ดำพั้นซ์ได้มาที่นี่ไหม!"
ด้านไข่ดำเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงทันที พอเห็นว่าเป็นซีเซียและผู้ชายอีกสองคนที่ไม่รู้จัก แต่ไข่ดำก็เลือกที่จะเอ่ยทักทายซีเซียไปแทนที่จะตอบคำถามของซีเซีย
"อ่าวพี่เซีย ไหนเห็นว่าหลบกรุงเทพแล้ว ถึงนีหลบมาไซรอ่ะ" (อ่าวพี่เซีย ไหนเห็นว่ากลับกรุงเทพไปแล้ว แล้วนี่กลับมาทำไมอ่ะ)
"พี่ถามว่าพั้นซ์มาที่นี่ไหม ไม่ใช่ให้มาถามกลับ"
"อ่อ โทษทีพี่ แต่พี่พั้นซ์ไม่ได้มาทีนะ แรกวากะนัดกันแล้วว่าอิพาไอเงินไปขบที่บ้านพี่แสน นีกะไม่สาเห็นมาที แล้วพี่พั้นซ์ไปไหนเห็นมาตามหาบ้านผม" (อ่อ โทษทีพี่ แต่พี่พั้นซ์ยังไม่ได้มานะ เมื่อวานก็นัดกันแล้วว่าจะพาไอเงินไปกัดที่บ้านพี่แสน นี่ก็ไม่เห็นมาเลย แล้วพี่พั้นซ์ไปไหนทำไมถึงมาตามหาบ้านผม)
ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็ไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามของไข่ดำ เธอหันไปพูดกับอาตัวเองแทน
"อาเตขับไปข้างหน้าต่อเถอะค่ะ เผื่อจะเจอพั้นซ์"
เตชินท์ขับต่อไปข้างหน้าตามที่หลานสาวบอกทันที ด้านไข่ดำก็ได้แต่เกาหัวงึกๆ มองตามทั้งสามคนที่ขับรถออกไปด้วยความงุนงง แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ แล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เช่นเดิม
"น้องเซียพอจะรู้อีกไหมว่าหนูพั้นซ์น่าจะไปที่ไหนบ้าง" ปากเอ่ยถามหลานสาว แต่สายตาคู่คมกวาดมองหาคนตัวเล็กไปทั่ว
"เดี๋ยวหนูขอนึกแป๊บนะคะ" ซีเซียพูดพลางนึกถึงที่ที่น้ำพั้นซ์ชอบไป ซึ่งที่ที่น้ำพั้นซ์มักจะไปบ่อยก็คือบ้านของแสน แต่ถ้าจะไปที่บ้านแสนน้ำพั้นซ์ก็ต้องมาเอาไอเงินปลากัดตัวโปรดที่บ้านไข่ดำก่อน แต่ในเมื่อน้ำพันซ์ไม่ได้มาบ้านไข่ดำก็ไม่น่าจะไปที่บ้านแสน ซีเซียใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่เตชินท์ก็ขับรถไปข้างหน้าเรื่อยๆพลางมองหาคนตัวเล็กของเขาไปทั่ว แทบจะไม่ได้มองทางถนนเลย จนกระทั่งซีเซียนึกออกแล้วเอ่ยบอกออกไปทันที
"ลองไปดูที่สวนยางของตาก็ได้ค่ะ ช่วงเช้าแบบนี้พี่ดิวน่าจะเก็บยางอยู่ พั้นซ์น่าจะไปหาพี่ดิวก็ได้ค่ะ"
"แล้วทำไมหนูพั้นซ์ต้องไปหาไอเด็กดิวนั่นด้วย"
"ก็เพราะว่าพี่ดิวเป็นพี่ชายที่แสนดีของพั้นซ์ไงคะ ไม่ได้ขี้บ่นขี้ด่าขี้ดุเหมือนอาเต" ซีเซียพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัดใส่ข้างหูของคนเป็นอาอย่างนึกหมั่นไส้ เพราะถ้าไม่ใช่อาเธอที่ต่อว่าน้ำพั้นซ์ น้ำพั้นซ์ก็คงไม่ขับรถหนีออกจากบ้านมาแบบนี้
"อาไม่ได้ตั้งใจจะว่าหนูพั้นซ์เลยนะ อาแค่สอนเท่านั้น"
"กูว่ามึงค่อยไปอธิบายกับน้ำพั้นซ์เถอะ พูดตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก รีบๆขับรถไปดีกว่า" ศิลาพูดตัดบทเมื่อเห็นว่าเพื่อนกับคนรักเริ่มถกเถียงกัน ซึ่งตอนนี้มันควรจะมุ่งเน้นไปที่การตามหาน้ำพั้นซ์มากกว่าจะมาเถียงกันบนรถแบบนี้
หนึ่งเดือนต่อมาช่วงเวลาหนึ่งเดือนมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย งานแต่งของศิลากับซีเซียก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ คราแรกเตชินท์กับศิลาได้คุยกันไว้เล่นๆว่าอยากจัดงานแต่งพร้อมกันสองคู่ ทว่าก็ไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้เพราะฤกษ์ดีของศิลากับซีเซียที่หาไว้แล้วดันไม่ใช่ฤกษ์ดีของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์ ฤกษ์ดีไม่ตรงกันจึงไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้ ซึ่งฤกษ์ดีหรือฤกษ์แต่งงานของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ...ทว่าเจ้าตัวน้อยก็ดันมากำเนิดในท้องของน้ำพั้นซ์ก่อนงานแต่งเหมือนคู่ของศิลากับซีเซีย แม้จะเป็นการท้องก่อนแต่ง แต่ทุกคนก็ต่างร่วมยินดีกับทั้งสองคู่ตอนนี้น้ำพั้นซ์ตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว ส่วนซีเซียก็ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์ อายุครรภ์ห่างกันแค่เดือนเดียว ส่วนสองหนุ่มใหญ่พอเจอหน้ากันก็ขิงใส่กันแทบทุกวัน ว่าต่างฝ่ายต่างน้ำยาดีสามารถทำให้สาวๆติดท้องได้เร็ว ทั้งที่อายุก็จะเข้าเลขสี่อยู่แล้วแต่ก็ยังมีน้ำยา"มาอีกแล้วเหรอมึง บ้านช่องตัวเองไม่อยู่ อยู่แต่บ้านกูเนี่ย" เมื่อเห็นเพื่อนกับหลานสาวมาบ้าน เตชินท์ก็เอ่ยทักเพื่อนไปอย่างกวนๆตามประสาเพื่อนรักเพื่อนสนิท"มึงพูดแบบน
วันต่อมาวันนี้เตชินท์กับน้ำพั้นซ์ได้เดินทางกลับกรุงเทพ มาถึงบ้านก็ช่วงค่ำเหมือนเดิม ทว่าวันนี้ศิลากับซีเซียได้พากันมานอนที่บ้านด้วยในเวลาห้าทุ่มกว่าๆ สองหนุ่มใหญ่ต่างหลับไหลอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าข้างกายของพวกเขาตอนนี้ไร้ซึ่งร่างบางหรือเมียตัวน้อยของพวกเขา"มาแล้วจ้า~ มาม่าร้อนๆ ฝีมือไอพั้นซ์""หืม~ หอมอ่ะพั้นซ์ วางเลยๆ เราหิวจะแย่แล้ว""นั่งข้างล่างดีกว่าไหมเซีย กินหม้อเดียวกันจะได้กินถนัดหน่อย""ได้ดิ"หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อย สองสาวก็นั่งลงบนพื้นภายในห้องครัว น้ำพั้นซ์วางมาม่าหม้อเล็กที่เธอเพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆกำลังร้อนๆน่ากินลงบนพื้น จากนั้นสองสาวก็ไม่รอช้า จับตะเกียบคีบเส้นมาม่าในหม้อแล้วเป่าก่อนจะป้อนเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ่ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมกับความหิวกลางดึกโดยไม่ได้นัดหมาย ในเมื่อต่างคนต่างหิวพวกเธอก็เลยตัดสินใจมาต้มมาม่ากินกันสองคนในครัวแบบนี้ด้านเตชินท์ที่ลุกขึ้นมาจะเข้าห้องน้ำกลางดึก ทว่าเมื่อไม่เห็นเมียเด็กข้างกาย เขาจึงเดินไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ เลยเดินออกมาดูนอกห้อง ก็พบกับศิลาที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพอดี ก่อนจะเป็นศิลาที่เอ่ยถามขึ้น"มึงจะไป
วันต่อมาวันนี้น้ำพั้นซ์พาเตชินท์ไปหาแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเพื่อแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันไว้ หรือพาลูกเขยไปไหว้แม่ยายนั่นเอง หลังจากอยู่คุยกับคนเป็นแม่จนถึงช่วงบ่ายแก่ๆก็พากันกลับ โดยระหว่างทางกลับก็แวะตลาดสดเพื่อซื้อกับข้าวเย็นขณะที่ทั้งคู่เดินอยู่ในตลาดก็ดันมาเจอดิวที่มาเดินตลาดเช่นกัน โดยเป็นดิวที่เอ่ยทักขึ้นก่อน"มาซื้อกับข้าวเนาะพั้นซ์" (มาซื้อกับข้าวเหรอพั้นซ์) ดิวถามพลางหลุบตามองมือของน้ำพั้นซ์ที่มีมือของเตชินท์จับอยู่ เห็นเช่นนั้นดิวก็รู้สึกปวดใจ แต่ลึกๆก็ยินดีกับน้ำพั้นซ์ที่ได้คนเพรียบพร้อมอย่างเตชินท์คอยดูแล เทียบกับเขาที่ไม่มีอะไรเลย ก็คงเป็นได้แค่พี่ชายที่ดีให้เธอต่อไป"อือ แล้วนี่พี่ดิวจะขับรถกลับบ้านยังไงอ่ะ กับข้าวเต็มมือขนาดนี้" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบก่อนจะถามกลับเมื่อเห็นดิวซื้อของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง คงจะพากลับลำบาก"พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง" (พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง)น้ำพั้นซ์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้ดิวอย่างเข้าใจ เธออยากจะเอ่ยปากชวนดิวกลับด้วยกันแต่ก็ไม่กล้า กลัวคนข้างๆจะไม่พอใจอีก"ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง งั้นก็กลับด้วยกันสิ"ทว่าเสียงทุ้มข
สองวันต่อมาวันนี้เตชินท์หาเวลาว่างพาน้ำพั้นซ์กลับใต้มาหาคนเป็นตากับยาย แต่ซีเซียกับศิลาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากซีเซียนั้นท้องอยู่ จึงไม่สามารถนั่งรถเดินทางไกลๆได้เพราะจะเสี่ยงอันตรายต่อครรภ์อ่อนๆเตชินท์กับน้ำพั้นซ์เดินทางมาถึงใต้ช่วงเวลาตะวันใกล้ตกดินพอดี หลังจากที่น้ำพั้นซ์พูดคุยและกอดหอมคนเป็นตากับยายด้วยความคิดถึงจนหนำใจแล้ว ทุกคนก็พากันลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างตรงใต้ถุนบ้าน ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของดิวที่ขับเข้ามาในบ้านก็ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง ด้านดิวเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินมุ่งตรงมาทางทุกคนทันที ก่อนจะเอ่ยทักทายน้ำพั้นซ์ไป"หลบมาถึงนานแล้วเนาะพั้นซ์" (กลับมาถึงนานแล้วเหรอพั้นซ์)"ถึงสักพักแล้วล่ะ" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบดิว ก่อนจะหันมามองคนตัวโตข้างๆที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเขามองมาแววตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาก็เงียบ เธอเองก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งเสียงคนเป็นยายดังขึ้น"รู้ได้ไงว่าเจ้าพั้นซ์มันกลับบ้าน ได้ข่าวไวจริงนะเอ็ง""กะพั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมโร้พรือล่ะยาย" (ก็พั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะยาย"ด้านน้ำพั้นซ์ตอนนี้นั่งก้มหน้างุด เพราะ
หนึ่งเดือนผ่านไปวันเวลาล่วงเลยผ่านไปเร็วเหมือนโกหก หนึ่งเดือนมานี้ทุกคนต่างดำเนินชีวิตไปตามปกติ ด้านน้ำพั้นซ์ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ได้แล้ว และใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเตชินท์ได้อย่างมีความสุข แม้ที่ผ่านมาจะมีการงอนง้อหรือง้องอนกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคู่รักอยู่แล้ว และอีกหนึ่งข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งเดือนนี้คือซีเซียได้ตรวจพบว่าเธอนั้นท้องจริงๆ แต่ระยะครรภ์แค่เพียงสามสัปดาห์เท่านั้น หรือเธอเพิ่งจะตั้งครรภ์หลังจากที่กลับจากใต้นั่นเอง20:35 น.ณ ร้านเหล้าเปิดใหม่"ขอบใจนะไอเตไอศิที่มาประเดิมร้านให้กู ว่าแต่สองสาวน้อยนี่ใครวะ สวยจัด" เสียงเบียร์ เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของเตชินท์และศิลาเอ่ยพูดขึ้น โดยไม่ลืมที่จะถามถึงสาวน้อยข้างกายของทั้งสองคนที่สวยและน่ารักไม่แพ้กันเลย"เมียกู!/เมียกู!" เตชินท์กับศิลาเอ่ยตอบพร้อมกันทันทีด้วยน้ำเสียงแข็ง ต่างก็รู้สึกไม่ชอบใจเบียร์เท่าไหร่ที่มาชมเมียของพวกเขาต่อหน้าต่อตา ตามประสาคนหวงเมีย จนเบียร์ต้องเอ่ยความบริสุทธิ์ใจออกไป"กูก็แค่ชมเมียพวกมึงเฉยๆ อย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่กูดิ ว่าแต่ไม่คิดจะแนะนำเมียพวกมึงให้เพื่อนอย่างกูรู้จักหน่อยเหรอวะ
เมื่อทั้งสี่คนกลับมาถึงบ้าน ศิลาก็ขอตัวพาซีเซียกลับบ้านของเขา ตามที่เคยตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเตชินท์มีเมียเมื่อไหร่ก็จะยอมปล่อยซีเซียให้ไปอยู่บ้านของศิลาและเมื่อศิลาพาซีเซียกลับไปแล้ว เตชินท์ก็เดินขึ้นไปชั้นบน น้ำพั้นซ์ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามไปทันที พลางเอ่ยถามออกไป"อาเตจะไปไหนคะ""ห้องทำงานครับ อามีประชุมออนไลน์" เตชินท์เอ่ยตอบโดยที่ยังเดินไปข้างหน้า ไม่ได้หันกลับมามองคนตัวเล็กเลย เพราะเขากำลังแกล้งเมินเธออยู่ แต่เขาก็มีประชุมออนไลน์จริงๆ ถึงแม้เขาจะหายงอนเธอแล้ว แต่เขายังอยากที่จะแกล้งงอนเธอต่อ เพราะแค่อยากให้เธอง้อเขาอีก อยากใจละลายใจระทวยกับการง้อของเด็กก็เท่านั้นด้านน้ำพั้นซ์พอได้ยินคนตัวโตบอกว่ามีประชุมออนไลน์ สองเท้าเล็กก็หยุดชะงักกับที่ โดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เลือกที่จะเดินไปอีกทาง เพราะไม่อยากตามไปรบกวนเขาในเวลาทำงานน้ำพั้นซ์เดินมานั่งตรงประตูด้านข้างของบ้าน ดวงตากลมโตทอดมองไปยังสระน้ำสีฟ้าใสดูสะอาดตา พอได้อยู่คนเดียวโดยไม่มีซีเซียหรือคนคอยคุยด้วย ภายในใจก็รู้สึกอ้างว้างขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกคิดถึงตากับยาย คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกอย่างที่ใต้ ทว่าอยู่ๆโทรศัพท์ในกระเป