LOGINแค่เห็นหน้าเธอผ่านวีดีโอคอล คนแก่ก็ดันปิ๊งรักเด็กเข้าให้อย่างจัง รักโดยไม่มีเหตุผล รู้แค่ว่ามันรัก มันชอบ มันอยากได้ มันอยากครอบครอง จนต้องจ้างนักสืบคอยตามดูความเคลื่อนไหวของเธอมาตลอดนานถึงสี่ปี พอมีโอกาสที่จะได้ครอบครองเธอ เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป... "เข้าเรื่องเลยนะครับ คือผมมีเรื่องอยากจะขอตากับยายครับ" "ขอเหรอ เรื่องอะไรล่ะ" "ผมอยากจะขอหนูพั้นซ์ไปเลี้ยงครับ" ขอเด็กไปเลี้ยงเป็นลูกเป็นหลาน ขอไปเลี้ยงเป็นเมีย ️
View Moreแนะนำตัวละคร
พระเอก เตชินท์ หรือ อาเต นักธุรกิจหนุ่มใหญ่มากความสามารถ หล่อ รวย อบอุ่น ขี้เล่น ไม่ถือตัว แต่บุคลิคภายนอกอาจจะดูนิ่งๆ อายุ38ปี สูง188เซนติเมตร
นางเอก น้ำพั้นซ์ หรือ หนูพั้นซ์ เด็กใต้กะโปโลจอมแสบซน ดื้อรั้นไม่ฟังใคร ร่าเริงสดใส อัธยาศัยดี หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา อายุ22ปี สูง159เซนติเมตร
ลำดับตัวละครเนื่องจากนิยายเรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ต่อจากเรื่องเด็กดื้อของศิลา ไรท์จึงขอแนะนำลำดับความสัมพันธ์ของตัวละครกันก่อนจะไปอ่านบทนำนะคะ เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านหรือตามมาจากเรื่องแรก... เตชินท์คือเพื่อนสนิทของศิลา และเขายังเป็นอาแท้ๆของซีเซีย (ศิลากับซีเซียคือพระนางในเรื่องเด็กดื้อของศิลา) ส่วนน้ำพั้นซ์ก็เป็นลูกของน้องสาวแม่ซีเซียหรือเป็นลูกพี่ลูกน้องกับซีเซียทางฝ่ายแม่นั่นเอง แต่ทั้งคู่อายุรุ่นเดียวกัน เข้าใจอีกอย่างง่ายๆคือ แม่ของซีเซียกับแม่ของน้ำพั้นซ์เป็นพี่น้องกัน
บทนำ...เขา หนุ่มใหญ่นักธุรกิจมากความสามารถ หล่อ รวย เป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ที่พร้อมทอดสะพานทอดกายให้เขาทุกเมื่อ ทว่าเขากลับไม่สนใจใครเลยนอกจาก เธอ เด็กสาวกะโปโลจอมแสบซน หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่ของหลานสาวเขา แค่เพียงเขาได้เห็นเธอผ่านวีดีโอคอลตอนโทรไปหาหลานสาวเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่หลานสาวของเขายังอยู่ใต้ เขาก็โดนเธอตกไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้แอบจ้างนักสืบคอยตามดูความเคลื่อนไหวของเธอมาตลอด แม้แต่หลานสาวของเขาเองก็ไม่รู้ มีเพียงแค่เพื่อนของเขาหรือศิลาเท่านั้นที่รู้
คำเตือนนิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นจากจินตนาการของไรท์ บรรยายให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะพาดพิงถึงบุคคลหรือสถานที่ใด ข้อมูลในเรื่องอาจจะผิดเพี้ยนหรือไม่ถูกต้อง100% และอาจมีเนื้อหา18+ หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร นักอ่านควรใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะคะ (ด้วยรักและเคารพนักอ่านทุกคนของไรท์ค่ะ ขอบคุณค่ะ)
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537 ห้ามคัดลอก เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆทางอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น
หนึ่งเดือนต่อมาช่วงเวลาหนึ่งเดือนมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย งานแต่งของศิลากับซีเซียก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ คราแรกเตชินท์กับศิลาได้คุยกันไว้เล่นๆว่าอยากจัดงานแต่งพร้อมกันสองคู่ ทว่าก็ไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้เพราะฤกษ์ดีของศิลากับซีเซียที่หาไว้แล้วดันไม่ใช่ฤกษ์ดีของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์ ฤกษ์ดีไม่ตรงกันจึงไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้ ซึ่งฤกษ์ดีหรือฤกษ์แต่งงานของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ...ทว่าเจ้าตัวน้อยก็ดันมากำเนิดในท้องของน้ำพั้นซ์ก่อนงานแต่งเหมือนคู่ของศิลากับซีเซีย แม้จะเป็นการท้องก่อนแต่ง แต่ทุกคนก็ต่างร่วมยินดีกับทั้งสองคู่ตอนนี้น้ำพั้นซ์ตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว ส่วนซีเซียก็ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์ อายุครรภ์ห่างกันแค่เดือนเดียว ส่วนสองหนุ่มใหญ่พอเจอหน้ากันก็ขิงใส่กันแทบทุกวัน ว่าต่างฝ่ายต่างน้ำยาดีสามารถทำให้สาวๆติดท้องได้เร็ว ทั้งที่อายุก็จะเข้าเลขสี่อยู่แล้วแต่ก็ยังมีน้ำยา"มาอีกแล้วเหรอมึง บ้านช่องตัวเองไม่อยู่ อยู่แต่บ้านกูเนี่ย" เมื่อเห็นเพื่อนกับหลานสาวมาบ้าน เตชินท์ก็เอ่ยทักเพื่อนไปอย่างกวนๆตามประสาเพื่อนรักเพื่อนสนิท"มึงพูดแบบน
วันต่อมาวันนี้เตชินท์กับน้ำพั้นซ์ได้เดินทางกลับกรุงเทพ มาถึงบ้านก็ช่วงค่ำเหมือนเดิม ทว่าวันนี้ศิลากับซีเซียได้พากันมานอนที่บ้านด้วยในเวลาห้าทุ่มกว่าๆ สองหนุ่มใหญ่ต่างหลับไหลอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าข้างกายของพวกเขาตอนนี้ไร้ซึ่งร่างบางหรือเมียตัวน้อยของพวกเขา"มาแล้วจ้า~ มาม่าร้อนๆ ฝีมือไอพั้นซ์""หืม~ หอมอ่ะพั้นซ์ วางเลยๆ เราหิวจะแย่แล้ว""นั่งข้างล่างดีกว่าไหมเซีย กินหม้อเดียวกันจะได้กินถนัดหน่อย""ได้ดิ"หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อย สองสาวก็นั่งลงบนพื้นภายในห้องครัว น้ำพั้นซ์วางมาม่าหม้อเล็กที่เธอเพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆกำลังร้อนๆน่ากินลงบนพื้น จากนั้นสองสาวก็ไม่รอช้า จับตะเกียบคีบเส้นมาม่าในหม้อแล้วเป่าก่อนจะป้อนเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ่ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมกับความหิวกลางดึกโดยไม่ได้นัดหมาย ในเมื่อต่างคนต่างหิวพวกเธอก็เลยตัดสินใจมาต้มมาม่ากินกันสองคนในครัวแบบนี้ด้านเตชินท์ที่ลุกขึ้นมาจะเข้าห้องน้ำกลางดึก ทว่าเมื่อไม่เห็นเมียเด็กข้างกาย เขาจึงเดินไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ เลยเดินออกมาดูนอกห้อง ก็พบกับศิลาที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพอดี ก่อนจะเป็นศิลาที่เอ่ยถามขึ้น"มึงจะไป
วันต่อมาวันนี้น้ำพั้นซ์พาเตชินท์ไปหาแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเพื่อแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันไว้ หรือพาลูกเขยไปไหว้แม่ยายนั่นเอง หลังจากอยู่คุยกับคนเป็นแม่จนถึงช่วงบ่ายแก่ๆก็พากันกลับ โดยระหว่างทางกลับก็แวะตลาดสดเพื่อซื้อกับข้าวเย็นขณะที่ทั้งคู่เดินอยู่ในตลาดก็ดันมาเจอดิวที่มาเดินตลาดเช่นกัน โดยเป็นดิวที่เอ่ยทักขึ้นก่อน"มาซื้อกับข้าวเนาะพั้นซ์" (มาซื้อกับข้าวเหรอพั้นซ์) ดิวถามพลางหลุบตามองมือของน้ำพั้นซ์ที่มีมือของเตชินท์จับอยู่ เห็นเช่นนั้นดิวก็รู้สึกปวดใจ แต่ลึกๆก็ยินดีกับน้ำพั้นซ์ที่ได้คนเพรียบพร้อมอย่างเตชินท์คอยดูแล เทียบกับเขาที่ไม่มีอะไรเลย ก็คงเป็นได้แค่พี่ชายที่ดีให้เธอต่อไป"อือ แล้วนี่พี่ดิวจะขับรถกลับบ้านยังไงอ่ะ กับข้าวเต็มมือขนาดนี้" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบก่อนจะถามกลับเมื่อเห็นดิวซื้อของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง คงจะพากลับลำบาก"พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง" (พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง)น้ำพั้นซ์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้ดิวอย่างเข้าใจ เธออยากจะเอ่ยปากชวนดิวกลับด้วยกันแต่ก็ไม่กล้า กลัวคนข้างๆจะไม่พอใจอีก"ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง งั้นก็กลับด้วยกันสิ"ทว่าเสียงทุ้มข
สองวันต่อมาวันนี้เตชินท์หาเวลาว่างพาน้ำพั้นซ์กลับใต้มาหาคนเป็นตากับยาย แต่ซีเซียกับศิลาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากซีเซียนั้นท้องอยู่ จึงไม่สามารถนั่งรถเดินทางไกลๆได้เพราะจะเสี่ยงอันตรายต่อครรภ์อ่อนๆเตชินท์กับน้ำพั้นซ์เดินทางมาถึงใต้ช่วงเวลาตะวันใกล้ตกดินพอดี หลังจากที่น้ำพั้นซ์พูดคุยและกอดหอมคนเป็นตากับยายด้วยความคิดถึงจนหนำใจแล้ว ทุกคนก็พากันลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างตรงใต้ถุนบ้าน ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของดิวที่ขับเข้ามาในบ้านก็ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง ด้านดิวเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินมุ่งตรงมาทางทุกคนทันที ก่อนจะเอ่ยทักทายน้ำพั้นซ์ไป"หลบมาถึงนานแล้วเนาะพั้นซ์" (กลับมาถึงนานแล้วเหรอพั้นซ์)"ถึงสักพักแล้วล่ะ" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบดิว ก่อนจะหันมามองคนตัวโตข้างๆที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเขามองมาแววตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาก็เงียบ เธอเองก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งเสียงคนเป็นยายดังขึ้น"รู้ได้ไงว่าเจ้าพั้นซ์มันกลับบ้าน ได้ข่าวไวจริงนะเอ็ง""กะพั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมโร้พรือล่ะยาย" (ก็พั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะยาย"ด้านน้ำพั้นซ์ตอนนี้นั่งก้มหน้างุด เพราะ