วันนี้เป็นอีกวันที่ดารินพาซินหยานมาปลดปล่อย น้องสาวเธออกหักจากคู่หมั้นมาหมาด ๆ ตัวเธอเองก็เช่นกันที่เพิ่งรับรู้ว่าคนรักที่คบกันมาหลายปีหักหลังทั้งที่เธอแสนไว้ใจเขามาตลอด เลยพากันมาจัดหนักจัดเต็มเจ็ดวันติดมันไปเลย และวันนี้ก็ปฏิญาณไว้แล้วว่าจะเป็นวันสุดท้าย ดื่มต่ออีกไม่ไหว นอกจากใจจะพัง ไตก็คงพังกันพอดี
นั่งดื่มกันอยู่ดี ๆ ยายซินหยานน้องสาวตัวแสบก็ดันขอไปแซ่บกับผู้ชาย เตือนแล้วไม่ฟังกันก็ปล่อยไปให้เจอประสบการณ์บ้างแล้วกัน
“เดินขาถ่างกลับมาแม่จะสมน้ำหน้าให้” ดารินบ่นไล่หลังซินหยานที่เดินหายวับไป แต่ไม่คิดจะห้ามปรามหรือบังคับน้องมากกว่านี้เพราะซินหยานโตแล้ว ตัดสินใจเองและดูแลตัวเองได้ เธอเชื่อเช่นนั้น
และอีกเหตุผลเพราะตอนนี้สมาธิของดารินไม่อยู่กับลูกพี่ลูกน้องอย่างซินหยานแล้วเช่นกัน เธอจ้องมองตามร่างของสองหนุ่มสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ จับมือกัน ซบกัน โอบกันราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ตัวติดกันจนแทบจะรวมร่าง
“ไอ้ตอแหล!” เสียงหวานเจือสั่นเอ่ยลอดไรฟัน ก่อนจะเดินตามหนุ่มสาวคู่นั้นไป
คบกันมาตั้งเกือบแปดปีไม่เคยมีปัญหา ทว่าพอย้ายไปทำงานที่ใหม่ ไอ้อดีตแฟนตัวดีดันมาบอกว่าหมดแพชชั่น อยากอยู่คนเดียวสักพัก อยากแยกย้ายกันไปเติบโต .. แต่ที่ไหนได้ มันไม่ได้อยากอยู่คนเดียวหรอก มันแค่อยากอยู่กับคนใหม่!
เมื่อสุดทางเดิน ไอ้ผีตายโหงกับอีโลงไม้ผุนั่นมันก็กอดจูบลูบคลำกันหน้าห้องน้ำที่มีป้ายวางไว้ว่าทำความสะอาด ชายหนุ่มผลักร่างหญิงสาวไปพิงประตูห้องน้ำแล้วพยายามเปิดมัน ทว่าเปิดไม่ได้
“เงี่ย_มากมั้ง” ดารินเบ้หน้าแล้วยืนกอดอกมองหมาติดสัตว์สองตัวที่ยังกอดจูบกันไม่เลิก ป้ายทำความสะอาดก็วางอยู่ทนโท่ ยังจะดันทุรังเข้าไปข้างในให้ได้อีก น่าเวทนาสิ้นดี
พอเห็นว่าประตูล็อก ไม่มีทีท่าจะเปิดออก สองหนุ่มสาวก็พากันเดินไปในมุมอับข้างกำแพง ดารินก็ไม่วายที่จะเดิมตามไปห่าง ๆ เธอหยุดเท้าไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะยกส้นเท้าขึ้นมาแล้วเอื้อมมือไปถอดรองเท้าส้นสูงที่สวมใส่มาถือไว้หนึ่งข้าง
เธอใช้เวลาเล็งไม่นานและทันใดนั้นเอง..
โป้ก!
“โอ๊ย!” ดนัยร้องลั่นเพราะโดนวัตถุสีแดงลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ากระทบกับท้ายทอยเขาอย่างจัง
“เป็นอะไรคะพี่นัท” สาวหน้าหวานถามอย่างสงสัย เธอก็มัวเมากับรสจูบของเขาจนไม่ทันมองว่าเกิดอะไรขึ้น ดนัยก้มลงหยิบเจ้ารองเท้าส้นสูงสีแดงจัดขึ้นมามอง แล้วก็ต้องกวาดสายตาหาที่มาของมัน ทันใดนั้นเขาก็สบตากับดารินที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกล
“อุ๊บส์! แม่นดีจัง” ดารินยกมือขึ้นปิดปาก เธอทำราวกับไม่ได้ตั้งใจ แต่สายตาของเธอขุ่นมัว มองอดีตคนรักเก่าราวกับพร้อมจะฉีกเนื้อแล้วเอาเกลือมาทาเสียให้ได้แล้วตอนนี้
“เดียร์!” ดนัยเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมาเจอกับดารินที่นี่ และในจังหวะนรกแบบนี้ด้วย เขาได้แต่โอดครวญในใจว่า ‘ฉิบหายแล้ว’ แต่ความโกรธกรุ่นยังคงมีมากกว่าเมื่อเห็นว่าดารินยืนเท้าเปล่าหนึ่งข้าง เท้าอีกข้างเธอสวมส้นสูงสีแดงแบบเดียวกันกับรองเท้าที่ปลิวมาโดนหัวเขา
“นี่เธอทำบ้าอะไร!”
“ปาหัวหมา เห็นมันกำลังติดสัตว์แบบผิดที่ผิดทางแล้วอุจาดตา” ดารินลอยหน้าลอยตาตอบ นั่นยิ่งทำให้ดนัยไม่พอใจ
“มันจะเกินไปแล้วนะเดียร์” ดารินไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนโยนก็จริงอยู่ แต่เธอก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายหรือไม่ให้เกียรติเขาเช่นนี้มาก่อนตลอดหลายปีที่รู้จักกัน
แต่ก็นั่นแหละ ดารินไม่สนใจความเกรี้ยวกราดของดนัยเลยด้วยซ้ำ เธอถามเรื่องที่อยากรู้ต่อ
“แฟนใหม่เหรอ.. หน้าคุ้น ๆ นะ ว่าไหม” มุมปากอิ่มยกยิ้ม แถมยังเป็นยิ้มที่แสนเหยียดหยันจนสองคนนั้นหน้าซีดเผือดทันที
ตื่นมาเธอก็ไม่เห็นคนเอาแต่ใจนอนข้างกาย ร่างบอบบางพยายามลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำในช่วงสายของอีกวันอย่างยากลำบาก เมื่อคืนโดนสามีเอาแต่ใจคาชุดเจ้าสาว กว่าเขาจะยอมหยุดก็ตอนที่เธอรน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว แทบจะต้องยกมือไหววิงวอนไม่ให้เขาทำต่อเธอพาตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำอุ่นพร้อมไว้ คงจะเป็นสามีที่เตรียมให้ ส่วนเขาคงตื่นก่อนแล้วออกไปหาลูกชายทั้งสองหญิงสาวถอนหายในโล่งเมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่น ๆ กลิ่นหอมของสบู่ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลับตาซึมซับกับความสบายได้ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระเพิ่มของน้ำ ร่างบอบบางโดนเบียดเสียดด้วยร่างหนาหนั่นแน่นที่มานั่งซ้อนหลัง“หิวรึยังครับ เมื่อกี้เฮียลงไปยกอาหารเช้ามาให้” เสียงทุ้มกระวิบแผ่วข้างหูขาว มือข้างหนึ่งกดนวดที่ไหล่สวยอีกข้างเค้นคลึงก้อนนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือสลับกับบดบี้ยอดถันสีหวานที่เริ่มแข็งชันสู้นิ้ว จนคนที่ยังหลังตาพริ้มอดขนลุกเกรียวด้วยความเสียวซ่านไม่ได้ ซินหยานยกยิ้ม ชอบจังเวลาเขาทำอะไรแบบนี้ให้“เฮียไม่เหนื่อยเหรอคะ” เธอถามบ้าง เพราะเขาดูแลทั้งเธอและลูกอย่างนี้ทุกวัน ยิ่งตอนที่ได้ย้ายกลับไปอยู่ไทยด้วยกันที่บ้านหลังเล็ก ๆ แสนอบอุ่นของเขา ทรงโป
ลำพังแค่อาชีพหมอและกิจการที่เจ้าลูกเขยหมอนี่ไปลงทุนไว้และกำลังริเริ่มทำก็มากเกินจนล้น จนไม่มีเวลาได้หายใจอยู่แล้ว ไม่รู้มันจะร้อนเงินอะไรกันนักหนา จะขยันไปไหนเขาแค่อยากให้มีคนที่ดีอยู่เคียงข้างซินหยานในวันสุดท้ายที่ตาแก่อย่างเขาหมดลมหายใจ หวังแค่ให้ทรงโปรดเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี เป็นเสาหลักให้แก่ลูกและหลานของเขาได้และไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจถึงทำให้เขาเชื่อว่าทรงโปรดจะเป็นทั้งหลักยึด ทั้งครอบครัว และที่พักพิงทางใจให้ซินหยานและหลานๆของเขาได้อย่างแน่นอนซินหยานและทรงโปรดได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานกันในตอนที่ลูกชายคนแรกอายุได้สี่ขวบ ลูกชายคนที่สองอายุได้สองขวบกว่า ฤกษ์ที่ว่าคือฤกษ์สะดวกของตัวเจ้าสาวเองด้วย เพราะกว่ารูปร่างจะเข้าที่เข้าทางสวยเช้งแบบนี้ในวัยที่ลูกสองแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เล่นเอาคนเป็นสามีบ่นจนท้อ“เฮ้อ.. กว่าจะได้แต่ง” ชายหนุ่มบ่นเสียงอ่อนแล้วทิ้งร่างลงนอนบนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม โรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวอย่างที่เจ้าสาวชอบ จนกลีบดอกกระดอนขึ้นตามแรงยวบจนมันฟุ้งกระจายไม่เหลือเค้ารูปหัวใจ“ก็ได้แต่งแล้วนี่ไงคะ ยังจะบ่นไม่หยุดอีก” ซินหยานบ่นกลับบ้าง พลางยืนถอดเครื่องประดับที่เป็
หลายเดือนแล้วที่ซินหยานและลูกย้ายตามทรงโปรดมาอยู่ที่ไทย ตอนที่รู้ว่าบิดาเป็นคนอยากให้ย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว เธอเองก็อดกังวลใจไม่ได้ที่ต้องจากบิดา ทิ้งให้ท่านต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวที่คฤหาสน์หลังโตนั่น และพรากหลานออกมาจากอกอากงที่รักแสนรักหลานชายแต่เพราะบิดายืนยันหนักแน่นว่าอยากให้ลูกและหลานได้อยู่เป็นครัวครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ ตัวท่านเองไม่เป็นไร หากเหงาก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ส่วนเธอจะบินกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แค่อยากให้ซินหยานปักหลักสร้างครอบครัวที่เมืองไทย“ป๊ายังอยากมีลูกเขยเป็นหมออยู่นะ เกิดมันบ้าลาออกแล้วตามลูกเมียมาเกาะป๊ากินขึ้นมา แย่แน่ ๆ ” ท่านพูดว่าอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วท่านแค่ไม่อยากให้ลูกเขยอย่างทรงโปรดต้องลาออกจากงานที่รัก ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ลูก ๆและเป็นดังที่หยางหวังพูดว่าจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ คนแก่คิดถึงหลานชายก็มาเยี่ยมบ่อยดังปากว่าจริง ๆ มาเยี่ยมทุกเดือนอย่างน้อยครั้งละเจ็ดถึงสิบวัน เดือนนี้บ่อยกว่า หยางหวังมาไทยสองครั้ง ครั้งละหนึ่งสัปดาห์จนทรงโปรดถึงขั้นออกปากพูดว่า..“ผมว่าอาป๊าย้ายมาอยู่ไทยด้วยกันเลยดีกว่าไหมครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างหน่ายใจ ไหนบอกว่าให้พวกเข
“มาถึงขั้นนี้แล้วจะหวงอะไรอีกครับป๊า น่า.. เดี๋ยวผมเสกหลานชายเพิ่มให้นะครับ” คุณหมอปากหมาก็ยังกระเซ้าเย้าแหย่พ่อตาต่อจากที่เคยโดนกระทืบปางตาย ทุกวันนี้เขาใช้ลูกตื๊อหน้าหนาหน้าทนซื้อใจพ่อตามาได้แล้ว จะตีจะเตะจะด่าหรือสารพัดก็เอาวะ ก็อยากได้ลูกเขา แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ หึ!“จะกลับไทยวันนี้ใช่ไหม กี่โมงล่ะ” เมื่อพ่อตาถามทรงโปรดก็ทำหน้าเป็นหมาป่วยใส่ ไม่ตอบคำถามไม่พอ แต่ดันถามพ่อตากลับด้วยนี่สิเป็นคำถามที่เขาไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใครก็ได้นอกจากภรรยา ทว่าเมื่อเข้ามาในครอบครัวของหญิงสาวแล้วเขาก็เคารพบุพการีของเธอเสมือนบุพการีตัวเองที่ไม่เคยมีมานานแล้ว“ป๊าครับ.. ถ้าเกิดผมจะลาออกจากหมอ ป๊าจะว่าอะไรไหม” เสียงชายหนุ่มจริงจังไร้ท่าทางล้อเล่นจนผู้อาวุโสกว่าชะงักแล้วละสายตาจากใบหน้าแป้นแล้นของหลานชายมามองขี้หน้าไอ้ลูกเขยตัวดี คิ้วขมวดมุ่น“ทำไม?” หยางหวังถามเหตุผล“ผมอยากอยู่กับลูกเมียครับ“ ทรงโปรดสารภาพตามความจริง เสียงทุ้มหนักแน่น ให้เดินทางมาหาบ่อย ๆ แบบทุกวันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยกายแค่ไหนเขาทนได้ แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจากครอบครัวไปสักนาที คนเคยขาดอย่างเขาแค่อยากมีชีวิตครอบครัวที่ปกติ เลี้
ทรงโปรดตื่นมาในช่วงสายของอีกวันเพราะเมื่อคืนมัวแต่ถ่างขาเมีย.. เอ้ย ถ่างตาช่วยเมียเลี้ยงลูกนานไปหน่อย...หน่อยที่แปลว่ายันเช้าเขาอุ้มลูกชายมาส่งให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้ซินหยานนอนหลับพักผ่อนไปยาว ๆ บ้าง ปกติเธอจะจัดการทุกเรื่องของลูกเป็นหลักเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร มีพี่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วย เขาอยากให้เธอพักผ่อน และเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะซินหยานมัวแต่ถ่างขะ.. ตา เธอถ่างตาดูแลลูกกับเขาเมามันกันจนเผลอครางเสียงดัง จนน้ำสุดท้ายตอนใกล้สว่างน้องแซมเลยตื่นก่อนเวลามาร้องไห้งอแง เพราะตกใจเสียงครางราวกับสัตว์ป่าของพ่อกับแม่ ก็ทำไงได้คนมันเก็บกดมานานกว่าครึ่งค่อนปี "ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ปะป๊าจะไม่เสียงดังให้น้องแซมตื่นอีกแล้วน้า.." คนเป็นพ่อเอ่ยขอโทษลูกชายด้วยเสียงสองที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนที่อุ้มเจ้าก้อนลงมาส่งให้อากงที่ห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน หยางหวังที่ปกติก็ตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาออกกำลังกายก่อนจะออกไปดูแลกิจการ ทุกวันนี้กลับกลายเป็นตาเฒ่าต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายหนักกว่าเก่าเพื่อที่จะได้มีร่างกายแข็งแรงไว้อุ้มหลาน หยางหวังออกกำลังกายเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัวหอม
เธอส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสยาย ความเสียวซ่านพุ่งทะยานถึงขีดสุดซินหยานก็กัดริมฝีปากจนแดงก่ำ หวีดร้องในคอแล้วร่างนวลก็กระตุกเกร็งเมื่อเขาใช้ทั้งปลายนิ้วและลิ้นร้อนแสนร้ายกาจส่งเธอไปแตะขอบรุ้งอันพร่างพราย หญิงสาวทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกนอนแน่นิ่งแล้วกอบโกยลมหายใจเข้าปอดถี่กระชั้น เพราะในตอนที่เสียวซ่านเธอเผลอกลั้นหายในเสียเนิ่นนานเขาเกือบจะทำให้เธอขาดใจไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ทรงโปรดปล่อยให้เธอได้พักเพราะไม่นานเขาก็จับเรียวขาขาวข้างหนึ่งมาพาดไหล่กำยำไร้ปราการปกปิด รั้งขอบกางเกงนอนลงต่ำจนท่อนเอ็นดีดขึงโด่ชี้ฟ้า เขาจับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มตึงแทบปริแตกถูไถกับน้ำหวานสีใสที่ฉ่ำเยิ้มตรงร่องสาวแล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่น“อื้อ! เฮียขา..” ซินหยานเบิกตากว้างเพราะช่องทางรักของเธอคับแน่นกว่าเก่า และท่อนลำของเขาก็ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานไปมากโข ทรงโปรดกัดกรามแน่น เขาเองก็ปวดตึงไม่ต่างจากซินหยาน ของเธอตอดรัดเสียจนเขาแทบขยับไม่ไหว“อา... เกือบแตกแล้วซิน” ชายหนุ่มสารภาพเสียงต่ำพร่า ก่อนจะหยุดขยับแน่นิ่ง แช่ท่อนลำที่ยังค้างอยู่เพียงครึ่งไว้เท่านั้นแล้วโน้มตัวลงประกบจูบปากซินหยานที่น้ำตาไหลออกจากหางตา เขา