การเป็นเลขาของเจ้าพ่อคาสโนว่ามันแสนจะเหนื่อย เธอจึงต้องใช้เซ็กส์บำบัดจากคำแนะนำของเพื่อน แต่ใครจะคิดว่าหนุ่มที่นัดมาในคืนนั้น จะเป็นเจ้านายที่เธอแอบด่าลับหลังทุกวัน "ไม่เป็นไรขอแซ่บกับเจ้านายสักคืน"
Lihat lebih banyakร่างระหงในชุดสายเดี่ยวกางเกงขาสั้นที่เพิ่งตื่นนอนเธอบิดกายไปมาอย่างเกียจคร้าน ไล่ความง่วงงุน ยังไม่ทันที่เธอจะได้ล้างหน้าล้างตาแปรงฟันแต่สิ่งแรกที่เธอทำก่อนที่จะจัดการธุระส่วนตัวคือ เลื่อนดูเว็บต่าง ๆ เพื่อมองหางานและนั่นเป็นกิจวัตรประจำวันที่ แสนดี ในวัย 25 ปี ที่เพิ่งลาออกจากงานประจำหลังจากอดทนทำมาได้ตั้งสองปี
บริษัทเฮงซวย งานเฮงซวย หัวหน้างานเฮงซวยและเพื่อนร่วมงานเฮงซวย นั่นคือสิ่งที่เธอก่นด่าหลังจากที่เดินออกมาจากบริษัทในวันสุดท้ายทำให้ตอนนี้เธอต้องมาหางานใหม่ทั้ง ๆ ที่พ่อกับแม่ต่างก็ให้กลับไปอยู่บ้านแต่เพราะเธอยังอยากเป็นสาวเมืองกรุงและยังติดแสงสีแห่งเมืองศิวิไลซ์จึงอ้อนพ่อกับแม่ขออยู่ต่อ
มือบางเลื่อนเมาส์หาบริษัทที่รับสมัครงานอย่างตั้งใจ จนเจอเข้ากับบริษัทผลิตสื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่เปิดรับสมัครตำแหน่งเลขานุการ แสนดีตาลุกวาว เพราะนอกจากจะเป็นบริษัทใหญ่ที่ใครๆ ก็รู้จักแล้ว เงินเดือนที่ได้รับนั้นก็สูงมาก ๆ และมันดึงดูดแสนดีเป็นพิเศษ อดีตนักศึกษาสาวคณะบริหารการจัดการยื่นเรซูเม่ส่งทันที กับบริษัทสื่อชื่อดังอย่าง บริษัท Int.Entertainment (อิ้นท์ เอนเตอร์เทนเมนต์)
“สาธุขอให้ลูกช้างได้งานนี้ด้วยเถิด” หลังจากกดส่งเรซูเม่มือบางก็ยกขึ้นท่วมหัวขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงได้มีโอกาสเรียกสัมภาษณ์หรือจะโยนเธอไปตำแหน่งอะไรก็ได้ ไม่ต้องเงินเดือนสูงเธอก็ยอมทั้งหมดขอแค่เพียงเธอได้เข้าไปทำงานที่บริษัทนี้
***
ผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ทุกอย่างยังคงเงียบงัน ร่างเล็กที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งดูทีวีอยู่บนโซฟา เธอนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากเพราะยังไม่มีบริษัทไหนเรียกเธอไปสัมภาษณ์เลยสักบริษัทเดียว
แต่ระหว่างที่กำลังนอนหงอยอยู่นั้นก็พลันสะดุ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงอีเมลแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์และนั่นก็ทำให้หญิงสาวรีบลุกด้วยความตื่นเต้นมือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนอีเมลเข้า ก่อนจะกดเข้าไปดูด้วยหัวใจลุ้นระทึกพอเธอกดเข้าไปยังกล่องข้อความดวงตาคู่สวยจ้องไปที่รายละเอียดในเนื้อหาก่อนจะกรีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความดีใจ
“กรี๊ดดด….ในที่สุดก็เรียกสักที” แสนดีกรีดร้องพร้อมกระโดดโลดเต้นเพราะอีเมลตอบกลับจากบริษัท Int. Entertainment พร้อมกับวันนัดสัมภาษณ์
ไม่ต้องถามว่าเธอดีใจมากขนาดไหนถึงแม้ว่าจะมีการส่งเรซูเม่ไปหลายบริษัทแต่บริษัท Int. Entertainment เป็นอันดับหนึ่งที่เธอต้องการเข้าไปทำงานมากที่สุด ตอนนี้แสนดีหน้าบานเป็นจานกระด้งเลยทีเดียวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องไปเตรียมตัวหาเสื้อผ้าสวมใส่ในวันสัมภาษณ์วันนั้นเธอต้องดูดีที่สุด เธอต้องทำให้ผู้ที่พบเห็นประทับใจ
ภาพลักษณ์ต้องมาก่อนเผื่อว่าผู้สัมภาษณ์รู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
สองวันต่อมา
@บริษัท Int. Entertainment
ร่างเล็กก้าวเข้ามาในบริษัทผลิตสื่อเอนเตอร์เทนเมนท์ด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย วันนี้เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกระโปรงทรงเอคลุมเข่าสีดำ ผมยาวสลวยถูกมัดรวบเก็บลูกผมทรงหางม้าอย่างดีดูสุภาพเรียบร้อย
แสนดีไม่ลืมสวมแว่นตาบดบังใบหน้าและเผื่อกรรมการแล้วบางข้อตอบไม่ได้ เธอจะเนียน ๆ หลบสายตาพลางขบคิดหาคำตอบได้บ้าง
หลังจากเข้ามาติดต่อนัดสัมภาษณ์เธอก็ถูกพามานั่งรอที่ห้องรับรอง ถึงแม้ว่าเธอจะมาแต่เช้า ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาก่อนเธอมากมายขนาดนี้
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องรับรองแสนดีก็ถึงกับชะงักเล็กน้อยพร้อมกับกวาดตามองคู่แข่งที่รออยู่ในห้อง คนที่มาสัมภาษณ์ไม่น้อยเลย เธอกะด้วยสายตาราว ๆ 20 กว่าคนและการที่เธอพึ่งมาใหม่ทำให้ได้จัดอยู่ในลำดับท้าย ๆ แถมบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความกดดัน
แสนดีมองคู่แข่งด้วยความประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอผู้สัมภาษณ์งานเยอะที่สุดตั้งแต่เธอเคยสมัครงานมาก็อย่างว่าเงินเดือนมันล่อตาล่อใจ ใครจะไม่สนใจบ้าง
เธอนี่แหละคนนึง….
แสนดีพิจารณาคู่แข่งที่นั่งรออย่างสงบอยู่ในห้องแต่ละคนมีบุคลิกและหน้าตาที่ดูดีไม่น้อยและดูเหมือนว่าแต่ละคนจะมีอายุและประสบการณ์มากกว่าเธอด้วยซ้ำ แต่ถึงยังงั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้ยังไงเธอก็ทำการบ้านมาดีพร้อมกับพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
หลังจากที่พนักงานฝ่าย HR พาทุกคนมานั่งรวมกันแล้วก็มีแม่บ้านนำน้ำมาเสิร์ฟ แสนดีรับน้ำจากแม่บ้านและกล่าวขอบคุณหลังจากนั้นก็นั่งรออย่างสงบตามคนอื่น ๆ
เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์ พี่พนักงานคนเดิมก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแจ้งทุกคนในห้องด้วยความสุภาพ
“ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีตอนนี้ผู้ช่วยรองประธานจะเข้าร่วมสัมภาษณ์ด้วยต้องขออภัยน้อง ๆ ด้วยนะคะ เดี๋ยว ถ้าน้อง ๆ คนไหนต้องการเข้าห้องน้ำ เข้าก่อนได้เลยนะคะแล้วพี่ก็มีจัดของว่างให้อยู่ด้านหน้าห้องถ้าใครต้องการทานอะไรสามารถทานได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
พี่พนักงานแจ้งด้วยความสุภาพพร้อมกับขอโทษขอโพยและออกจากห้องไปแสนดีเห็นพวกพี่ ๆ ที่รอสัมภาษณ์เดินออกไปเข้าห้องน้ำบ้างหาของกินบ้าง แสนดีเองก็ลุกออกมาเข้าห้องน้ำบ้าง
แสนดีเดินเข้าไปในห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาก็เช็คเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยและกลับเข้าไปรอในห้องรับรองเหมือนเดิม
ผ่านมาแล้วค่อนวัน แสนดีนั่งรอจนรากงอกพักเที่ยงก็แล้วเสียงกริ่งพนักงานเลิกงานก็แล้ว เธอยังนั่งรออยู่ในห้องนี้ไม่ไปไหนรวมถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 4-5 คนที่ส่งยิ้มแหยให้กัน ยังดีที่ช่วงพักเที่ยงที่ผ่านมาแสนดีได้ไปทานอาหารมาแล้ว ก็ไม่ใช่จากที่ไหนเป็นอาหารจากพี่พนักงานที่เอามาให้ นี่สินะที่ทำให้คนพากันแห่เข้ามาสมัครงานที่นี่ ขนาดแค่มาสัมภาษณ์การรับรองยังไม่ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว แสนดีคิดว่าบริษัทนี้ดีมาก จริง ๆ ถึงไม่ได้ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้มาเหยียบบริษัทใหญ่โตนี่สักครั้งหนึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ก็แล้วกัน
ในที่สุดสิ่งที่เธอรอคอยมาเนิ่นนานก็สิ้นสุดลงเสียทีหลังจากพี่พนักงานเข้ามาเรียกชื่อเธอ
ร่างเล็กรีบลุกขึ้นเดินตามพี่เขาเข้าไปด้วยหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ความประหม่าเริ่มเข้ามากัดกินหัวใจเธออีกครั้ง
แสนดีเข้ามาในห้องสัมภาษณ์นั่งเก้าอี้ที่ผู้สัมภาษณ์ผายมือเชื้อเชิญให้เธอนั่ง เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามทำตัวให้นิ่งและส่งสายตามุ่งมั่นให้กับผู้สัมภาษณ์ที่มองเธออยู่ เธอมองผู้คนที่นั่งเรียงหน้ากระดานจำนวนห้าคนหัวใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอสัมภาษณ์งานและมีผู้สัมภาษณ์งานเยอะขนาดนี้
มือบางยกขึ้นไหว้ด้วยความอ่อนน้อมก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่ตรงกลางเขาดูโดดเด่นหล่อเหลาสะดุดตาที่สุด เธอยังแอบตะลึงไปชั่วขณะ
ต้องบอกว่าโคตรของโคตรหล่อเลยทีเดียวแต่เสียอย่างเดียวสีหน้าเขาดูออกจะเบื่อหน่ายเต็มที
“สวัสดีครับคุณแสนดีแนะนำตัวได้เลยครับ” ผู้สัมภาษณ์งานคนแรกเป็นคนถามแสนดีหายใจลึก ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างฉะฉานการแนะนำตัวของเธอไม่ต่างจากการสัมภาษณ์งานในหลายๆ ที่ที่ผ่านมา
"สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อนางสาวแสนดี วรโชติโภคิน จบการศึกษาที่...."
จากนั้นก็เป็นการถามคำถามต่อ ๆ ไป จนมาถึงคำถามสุดท้าย ยังไม่ทันที่แสนดีจะพูดขึ้นเสียงประตูด้านหลังก็เปิดขึ้นมาโดยไม่มีใครคาดคิด
ผลั๊วว!!
"ภามคะ...คุณจะทำแบบนี้กับฮารุไม่ได้นะ!!"
หญิงสาวหน้าตาจะสวยแต่งตัวดูดีเดินเข้ามาถึงก็พูดโวยวายใส่คนที่เป็นผู้ช่วยรองประธาน ก็คนที่ดูหล่อเหลาที่สุดในกลุ่มนั้นนั่นแหละ
แสนดีมองตามสาวสวยใจกล้าด้วยความงุนงง เธอหันไปมองคณะกรรมการทุกคนที่นั่งเงียบแต่ละคนก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกัน เสียงแหลมของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“ภามคุณจะเอาอย่างไรกันแน่คะ! ตกลงจะทิ้งฮารุเหรอคะ!! ฮารุไม่ยอมนะคะ!!!!”
แสนดีนั่งหน้าเหวอมองคนที่ชื่อภามเขายังคงทำหน้าเรียบเฉยสลับกับผู้หญิงที่เข้ามาโวยวายดูท่าทางเอาเรื่องเต็มที อย่าบอกนะว่าการสัมภาษณ์งานในครั้งนี้เธอจะล่ม ไม่นะเธอยังพูดไม่จบเลย ไม่ดีแน่ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้การสัมภาษณ์ของเธอจบไม่สวยแน่ ๆ
ในเมื่อผู้หญิงที่ชื่อฮารุไม่ยอมแสนดีก็ไม่ยอมเช่นกัน!!
ไม่มีใครคาดคิดแสนดีลุกขึ้นแล้วเอ่ยเสียงเขียวด้วยความหงุดหงิดเธอจัดการต่อว่าหญิงสาวที่เข้ามาขัดขวางการสัมภาษณ์งานของเธอ
“นี่คุณ…คุณก็เป็นคนสวย ดูถ้าจะมีฐานะและการศึกษาดีอยู่นะคะ แต่น่าจะมีมารยาทและความคิดมากกว่านี้หน่อย ฉันอาจจะไม่ดีเท่าคุณ แต่นี่คือช่วงเวลาสำคัญของฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะผ่านการสัมภาษณ์งานครั้งนี้หรือเปล่า แต่ฉันต้องการที่จะสัมภาษณ์งานให้จบอย่างสมบูรณ์ที่สุด ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณมีเรื่องอะไรกัน แต่คุณควรออกไปค่ะ อย่ามารบกวนช่วงเวลาสำคัญของฉัน การที่คุณมาทำแบบนี้ ทำให้ฉันและคนอื่นเดือดร้อนและมันเป็นการบ่งบอกถึงมารยาทและการเลี้ยงดูของคุณด้วยค่ะ” แสนดีพูดอย่างเหลืออด เธออดทนรอมาทั้งวันแล้วนะ!!
ฮารุสาวสวยไฮโซที่โดนเลี้ยงดูมาอยากเอาแต่ใจพอได้ยินคนที่บังอาจมาต่อว่าเธอก็อ้าปากพะงาบ ๆ ราวกับปลาขาดน้ำเพราะไม่เคยมีใครมาต่อว่าเธอแบบนี้มาก่อน หญิงสาวยกนิ้วชี้สั่น ๆ มาที่แสนดีด้วยความโกรธเตรียมกรีดร้องและด่าคืนแต่โชคดีที่ยามนั้นเข้ามาลากตัวเธอออกไปก่อน ทำให้แสนดีไม่ได้โดนทำร้ายหรือโดนด่ากลับ
“ไม่นะ แก อีบ้า!!แกเป็นใครเนี่ย บังอาจมากที่มาด่าฉัน!!...ปล่อย ปล่อยแกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใครปล่อยนะ...ปล่อย กรี๊ด ๆ ” เสียงกรีดร้องของฮารุดังก้องไปตามทางจนในที่สุดประตูก็ปิดจนไม่ได้ยินเสียงเธออีก
แสนดีถอนหายใจออกมาเพราะนี่อาจจะเป็นประโยคด่าใครยาว ๆ ครั้งแรกในชีวิตเธอ เธอหันไปมองคณะกรรมการที่มองมาที่เธออย่างอึ้ง ๆ เธอเองก็อึ้งเช่นกันเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพิ่งทำอะไรลงไปใบหน้าสวยซีดลงเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงอย่างอ่อนแรง
หมดกันความหวังที่จะได้ทำงานที่นี่ แสนดีคิดด้วยความหดหู่
แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่ดีใจอย่างปิดไม่มิด แน่สิสะบัดยัยฮารุทิ้งไปได้นี่
ในขณะที่ทุกคนยังเงียบเพราะยังอึ้งกับเหตุการณ์ที่พึ่งจบลง เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“เธอชื่ออะไรนะ” แสนดีหันมามองคนที่เป็นผู้ช่วยรองประธานที่โดนผู้หญิงคนนั้นมาต่อว่า เธอมองเขาและแอบด่าในใจเพราะผู้ชายคนนี้สินะที่ทำให้การสัมภาษณ์ของเธอหยุดชะงักไป แต่เธอก็ตอบกลับอย่างสุภาพ
“แสนดีค่ะ” เธอเอ่ยตอบ
“คุณแสนดี ตั้งแต่วันนี้ไปเธอมาเป็นเลขาให้ฉัน ฉันให้เวลาเธอหนึ่งอาทิตย์ก่อนเริ่มงานและเข้ามาทำงานที่นี่ กลับไปจัดการตัวเองให้มีประสิทธิภาพที่สุดและมาเริ่มงาน” เขาเอ่ยบอกเธอ ส่วนเธอนั้นหูดับไปตั้งแต่คำว่า ‘เป็นเลขาให้ฉัน’ แล้ว
แสนดีโห่ร้องในใจด้วยความดีใจ ได้งานแล้วเว้ย…จะมีเงินแล้วเว้ย ส่วนกรรมการคนอื่น ๆ ได้แต่อึ้งไปตามกัน ก่อนจะมีตัวแทนเอ่ยขึ้น
“คุณภามครับ แล้วคนอื่น ๆ ล่ะครับ…”
“ให้กลับบ้านไปได้ ฉันได้เลขาใหม่แล้ว หรือไม่ก็ให้ทิ้งเรซูเม่ หรือพอร์ตไว้ มีตำแหน่งไหนขาดหรือเหมาะสมกับตำแหน่งไหนก็ให้ ฝ่ายบุคคลจัดการ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“ครับ”
“ส่วนเธออย่าลืมล่ะ ฉันไปล่ะ” เขาเอ่ยย้ำกับเธอแล้วเอ่ยลาคน อื่น ๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
‘เย้!!ได้งานแล้วโว๊ย!!!’
'แสนดีคือแซนดี้ พวกเธอคือคนคนเดียวกัน'เขาควรดีใจหรือควรรู้สึกอย่างไรดีกับความจริงที่กระแทกหน้า ความรู้สึกเหมือนถูกหลอกทำให้โลกทั้งใบที่เคยมั่นคงพังทลายลงในชั่วพริบตาหัวใจเหมือนถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมีราวกับกระจกใสถูกทุบจนแตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจทุกอย่างสับสนประดังประเดเข้ามาไม่หยุดในหัวมีแต่คำถามว่า 'ทำไม ๆ' วนเวียนอย่างไม่จบไม่สิ้น เขารู้สึกเหมือนคนโง่ที่ถูกเธอปั่นหัวมาตลอดในตอนที่เขามั่นใจแล้วว่า เขาชอบแสนดีเลขาสุดเฉิ่มที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดสี่ปี แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขากันแน่ คำถามเกิดขึ้นเต็มหัวเขาไปหมด เธอทำแบบนั้นทำไม แสนดีจงใจเข้าหาเขาอย่างนั้นเหรอ? เธอทำเหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่ต้องการเข้าหาเขาจริง ๆ เหรอ?หรือบางทีอาจไม่เป็นแบบนั้น...ในใจของภามยังค้าน เพราะถ้าเธอทำเธอต้องทำเมื่อหลายปีก่อนแล้วสิ!หรือเธอตั้งใจเข้ามาหลอกเขา ต้องการปั่นหัวเขาเล่น แต่เธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกัน ที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่อย่างดีไม่เคยให้ท่าไม่มีท่าทางอะไรที่ทำเหมือนสนใจเขาด้วยซ้ำ ทั้งยังเว้นระยะห่างขีดเส้นเจ้านายกับลูกน้องชัดเจน อีกท
“ฉันทำได้ไหม?” ภามเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลปนเสียงพร่า แสนดีพยักหน้าเป็นคำตอบเธอเองก็หักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ร่างกายอ่อนระทวยตั้งแต่เขามอบจูบให้ครั้งแรก ภามโอบรอบเอวคอดกิ่วแล้วก้มลงบดจูบกันอีกครั้ง ต่างคนต่างดูดริมฝีปากราวกับโหยหามานาน อวัยวะรับรสที่อ่อนนุ่มเกี่ยวกระหวัดพันกันไปมา มือหนาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วถอดมันออกทันที มือร้อนลูบไล้ผิวเนียนและปลดบราเซียออกยอดอกชูชันขึ้นมาราวกับรอสัมผัส ฝ่ามือนวดคลึงอกอวบทั้งสองเต็มกำมือ เสียงหวานครางออกมาเมื่อถูกปรนเปรอที่จุดอ่อนไหวจนเธอสร้างสยิวไปทั้งตัวตรงจุดนั้นก็ร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมา แรงปรารถนาเข้าครอบงำจนสมองขาวโพลนสติหายไปเกินครึ่งมือบางจัดการถอดเสื้อยืดสีขาวของภามออกเช่นกันปากร้อนไล่จูบริมฝีปากบางกดจูบดูดดื่ม ลิ้นสากเลียมาที่ซอกคอ ร่างเล็กเนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อถูกดูดเม้มเข้าที่เนื้ออ่อนจนขนลุกชัน ภามลงน้ำหนักฝากรอยสีกุหลาบไว้เป็นเครื่องหมาย ความเสียวซ่านเริ่มก่อตัวเมื่อถูกปลุกเร้าอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง เธอบิดตัวหนีตามสัญชาตญาณแต่ริมฝีปากของร่างสูงยังตามมาไม่ลดละเขาหอมไล้ลงมาจนถึงยอดอกอวบ มือร้อนทั้งสองบีบนวดมาถึงต้นขาขาวแล้ว
สายตัดไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบ แสนดีเหลือบตามองท่านประธานใหญ่ที่จองมาเขม็ง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะท่านเพิ่งบอกไปว่าให้เธอรับใช้เจ้านายซึ่งคือเขาที่เป็นท่านประธาน แต่ตอนนี้เธอดันรับปากลูกชายเขาเรื่องงานที่สั่งมาเป็นชุด ไหนเลยจะกล้าปฏิเสธทำให้ตอนนี้เธอได้แต่นั่งทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญประโยคสุดท้ายที่คุณภามพูดนั้นมันทำเอาเธอใจเต้นตึกตักสั่นรัว เพราะอยู่มาเกือบจะ 5 ปีเขาเคยเอ่ยแบบนี้ที่ไหนกันภูมิพัฒน์มองเลขาลูกชายได้แต่คิดในใจว่า ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาขาดเลขาอย่างแสนดีไปไม่ได้อย่างแน่นอน คนอาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมมองออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมันมากกว่าเลขาและเจ้านาย ลูกชายของเขาเอาแต่ใจ และคนที่จัดการเรื่องตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตามเช็ดตามล้างให้เจ้าภาม ก็มีแต่เลขาแสนดีที่ทำได้ไม่สิ ลูกชายเขาเลือกให้เธอเป็นคนทำให้ต่างหาก ส่วนเธอก็เป็นคนที่ยอมเฮ้อ...ปวดหัว!!!"กลับเถอะ"***หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป กับการที่แสนดีได้เปลี่ยนเจ้านายใหม่ชั่วคราว เธอได้เลิกทำงานไวขึ้น ทุกครั้งที่เลิกงาน ท่านประธานมักบอกให้เธอกลับไปพักผ่อนซะ งานไม่ได้เร่งรีบขนาดนั้น แสนดีซึ้งจนน้ำ
แสนดียิ้มแหยเมื่อเห็นท่านประธานใหญ่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองอยู่ ท่าทางแบบนี้เหมือนกับว่าท่านจะได้ยินซะแล้ว“เอ่อ...พอดีดิฉันกำลังสั่งอาหารกลางวันให้คุณภามค่ะ” เธอเอ่ยตอบเสียงเบา ภูมิพัฒน์คิ้วขมวด มองเลขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก็ไอ้เจ้าลูกชายเขามันไม่ได้ทำงาน แล้วมันอยู่บ้าน สั่งข้าวเองไม่เป็นรึยังไง“ตอนนี้เจ้านายของเธอคือฉัน คนอื่นไม่ต้องไปฟังคำสั่งเข้าใจไหม” ภูมิพัฒน์เอ่ยเสียงเข้มแล้วเดินกลับเข้าห้องไป ในใจคิดถึงไอ้ลูกชายเอาแต่ใจ ขนาดวันปกติที่มันไม่ได้ทำงานมันก็มีแม่บ้านคอยเตรียมอาหารให้ ไม่จำเป็นต้องให้เลขามาจัดการให้ตลอด เรื่องแค่นี้ทำไมแม่บ้านจะจัดการให้มันไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเจ้าตัวนั้นเจาะจงให้เป็นเลขาของมันโดยเฉพาะ...แต่ทำไมล่ะ?ภูมิพัฒน์เข้ามานั่งในห้องทำงานก่อนจะต่อสายตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อถามเรื่องของแสนดี เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้องและเขาต้องรู้ให้ได้ หลังจากวางสายฝ่ายบุคคล ภูมิพัฒน์ไม่รู้ว่าจะตกใจเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างเรื่องเงินเดือนของแสนดีกับหน้าที่ที่ลูกชายมอบให้เขาเพิ่งรู้ว่าเงินเดือนของแสนดีพอ ๆ กับเลขาของเขาเลย ซึ่งระยะเวลาการทำงานแค่ 4 ปี ไม่น่าเงินเดือนสูงขนาดนี้
หลังจากจบงาน Outing ทุกคนมาทำงานตามปกติ รวมถึงภามด้วย แต่แสนดียังอยู่ในช่วงของการพักตามที่ภามบอก แน่นอนว่าเกิดเรื่องราวในบริษัทและยิ่งเป็นตำแหน่งสูง ๆ ด้วย ยิ่งถูกพูดถึง ภามถูกคณะกรรมการบอร์ดบริหารเพ่งเล็ง เหตุประพฤติตัวไม่เหมาะสม เพราะทำร้ายร่างกายพนักงานเกินกว่าเหตุ แม้ชนัยจะทำผิดจริงแต่ก็ไม่สมควรทำร้ายร่างกายเขาขนาดนั้นเนื่องจากการยื่นเรื่องไล่ชนัยออกทำให้คณะกรรมการต้องจัดประชุมเครียดและนั่นทำให้เรื่องที่ชนัยทำกับแสนดีเปิดเผยในห้องประชุมผู้บริหาร แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่ภามคาดหวังเพราะคณะกรรมการลงความเห็นว่าไล่ชนัยออกไม่ได้ เพราะด้วยชื่อเสียงเรื่องงานของชนัยนั้นไม่ได้ด้อยและหาคนอย่างชนัยยากเขาเป็นถึงโปรดิวเซอร์เบอร์ต้น ๆ รายการที่เขาทำอยู่ตอนนี้ ติดตลาดและเอนเกจดีทั้งหมด ยังไม่รวมรายการใหม่ที่คุณโรสเป็นพิธีกร ที่มาเป็นอันดับหนึ่งตอนนี้แล้วนั่นก็สร้างความไม่พอใจให้กับภามเป็นอย่างมาก@ห้องประชุม"ว่าไงนะ นี่พวกคุณคิดว่าเรื่องที่มันทำเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้นเหรอ!!! ไม่ทราบว่าก่อนจะพูดได้ไตร่ตรองออกมาจากสมองกันก่อนรึเปล่า ไอ้เหี้ยนั่นมันเข้าข่ายคุกคามทางเพศนะ!!" ภามลุ
“ไอ้เหี้ย!!!!”ภามรีบกระโจนเข้ามาหาชนัย ยิ่งมองไปทางเตียงเห็นเลขาของตัวเองนอนกึ่งโป๊อยู่ เขาก็ขาดสติตะโกนด่ากราดเสียงดังด้วยผลพวงจากน้ำเมาที่ดื่มไปเยอะยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านเดือดดาลกว่าเดิมหลายเท่า ร่างสูงพุ่งเข้ามาจัดการชนัย ง้างหมัดต่อยไปที่ใบหน้าเต็มแรงผลั้วะ!!!ภามต่อยชนัยจนล้มลงแต่ยังไม่พอ ร่างสูงเข้าไปคร่อมตัวชนัยแล้วรัวหมัดต่อไปหลายหมัด จนพนักงานบริษัทที่ตามเข้ามาต้องรีบเข้าไปห้ามและช่วยกันจับเจ้านายที่กำลังขาดสติออกมา"ว๊ายย..ตายแล้วคุณภาม เดี๋ยวก่อนค่ะ ใจเย็นก่อนค่ะ ใครก็ได้ช่วยแยกคุณภามก่อน" เจ๊กีกี้ ที่วิ่งตามมาติด ๆ ส่งเสียงห้ามเสียงดัง เพื่อนพนักงานที่ตามมาด้วยรีบแยกเจ้านายหัวร้อนออกจากชนัยทันที“ออกไปให้หมด!!!” ภามที่หลุดออกจากชนัยหันไปตวาดลูกน้องเสียงดัง ทุกคนรีบออกจากห้องไปอย่างเร็ว เหลือแต่ชนัยที่นอนสลบอยู่ภามเดินตรงเข้าไปหาร่างบางที่นอนไม่รู้เรื่องราว มือสั่น ๆ ยกขึ้นติดกระดุมเข้าด้วยกันจากนั้นก็ใช้ผ้าห่มคลุมตั้งแต่หัวปิดหน้าเอาไว้ แล้วอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวออกมา เขาเดินตรงดิ่งไปยังห้องที่พวกเขาพักอยู่ ถึงแม้ว่าภามจะปิดใบหน้าหญิงสาวคนนั้นไว้แต่ทุกคนก็รู้อยู่ดีว
Komen