Home / อื่น ๆ / เส้นทางเชื่อมใจ / บทที่ 1 ดินก้อนแรกในฝัน

Share

เส้นทางเชื่อมใจ
เส้นทางเชื่อมใจ
Author: Bosskerr

บทที่ 1 ดินก้อนแรกในฝัน

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-13 00:05:02

เสียงฝีเท้าหนักย่ำก้าวอย่างเร่งรีบมาตามทางเดินขรุขระลูกรัง ในมือนั้นถือถุงกับข้าวที่แวะซื้อที่ข้างทางมาด้วย ใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ผิวสีแทนแบบชายไทยแท้กำลังขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด สายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เริ่มเปียกโชก

“แม่ครับ! ผมกลับมาแล้ว” เมื่อมาถึงบ้านกึ่งไม้กึ่งสังกะสีขนาดไม่ใหญ่มากนักหลังหนึ่ง เขาก็รีบตะโกนร้องเรียกผู้เป็นแม่

“อ้าวไอ้แทน กลับมาแล้วเหรอ เอ็งตากฝนมาหรือเปล่าล่ะนั่น” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องตอบกลับมา

แทนไท ชายหนุ่มอายุ 24 ปี ที่ตอนนี้เพิ่งเลิกงานและกลับมาจากไซต์งานก่อสร้างรีบเดินเข้าบ้านไปหาผู้เป็นแม่

“แม่เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนบ้างเนี่ย” เมื่อเห็นหน้าวิไลผู้เป็นแม่ แทนก็ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยทันที

“ไม่เป็นไร เย็บสองเข็ม เอายาก็กลับบ้านได้แล้ว” วิไลเอ่ยพลางนิ่วหน้า ผ้าก็อซสีขาวกับเทปกาวใสแปะทั่วตัวหญิงอายุราวห้าสิบ ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งเอนกายพิงอยู่ที่ม้านั่งตัวเก่าที่คล้ายเหมือนจะพังแหล่มิพังแหล่

“แล้วแม่ไปทำอีท่าไหนมาล่ะครับเนี่ยถึงไปตกหลุมนั่นได้”

“จะอีท่าไหนล่ะ ข้าก็ปั่นจักรยานของข้าอยู่ดี ๆ ใครมันจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันมีหลุม พวก อบต. นี่ก็นะแทนที่จะปักเสาปักอะไรให้รู้บ้าง นี่อะไรเอาไม้อัดมาวางปากหลุม ข้าก็เทเข้าให้น่ะสิ” แม่บ่นกระปอดกระแปดยาวยืดระบายความหงุดหงิดของตัวเองที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะการทำงานชุ่ย ๆ และถนนที่สภาพเหมือนกับจำลองพื้นผิวดวงจันทร์มาไว้ในหมู่บ้าน

แทนไทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะแอบเบื่อหน่ายกับปัญหาเดิม ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ แต่ว่าครั้งนี้ดันแจ็กพอตที่มาเกิดกับผู้เป็นแม่ของเขา

“แล้วนี่เอ็งรู้ได้ยังไงล่ะว่าข้าเดินตกหลุม” วิไลเอ่ยถามผู้เป็นลูกชายด้วยความแปลกใจ

“ก็ไอ้วิทย์น่ะสิมันมาบอกผม ป้าอ้วนโทรไปบอกมันว่าพาแม่ไปโรงพยาบาล ผมก็เลยรู้” แทนไทกำลังพูดถึงวิทยาผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ที่ไซต์งานเดียวกัน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทในหมู่บ้านตั้งแต่สมัยเด็กอีก ป้าอ้วนแม่ของวิทยาเองก็สนิทกับแม่ของเขา

“เออ ๆ แล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยังล่ะ”

“ผมกินมาจากไซต์งานเรียบร้อยแล้ว และก็แวะซื้อข้าวมาให้แม่ด้วย แม่กินข้าวนะครับ จะได้กินยา” แทนไทว่าแล้วก็ไปจัดแจงเทกับข้าวใส่จานมาให้วิไล

วิไลมองผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวด้วยสายตารักใคร่ แทนไทนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เสียดายที่ลำพังเพียงเธอคนเดียวไม่มีปัญญาพอที่จะสามารถส่งลูกให้เรียนสูงกว่านี้ได้

แทนไทวาดฝันอนาคตของตัวเองไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นวิศวะกรที่เก่งกาจมากความสามารถ สามารถสรรสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ ๆ ทันสมัยอีกทั้งยังแข็งแรงขึ้นมามากมาย เพราะฉะนั้นแทนไทจึงตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นมาทางสายอาชีพ แต่ทว่าด้วยรู้ว่าผู้เป็นแม่ทำงานหนักเพียงคนเดียวและมีรายได้เล็กน้อยมากจากการทำขนมขาย แทนไทจึงตัดสินใจเรียนจบเพียงแค่ชั้น ปวช. และออกมารับจ๊อบทำงานตามไซต์งานก่อสร้างเล็ก ๆ เพื่อช่วยหารายได้เข้าบ้านอีกทาง

เช้าวันต่อมา…

กึง กึง กึง 

เสียงกระทืบเท้าลงบนแผ่นไม้อัดใหม่เอี่ยมดังกึง ๆ สองสามที “เดี๋ยวได้มีคนตกอีกแน่” แทนไทส่ายหน้าพลางมองหลุมบ่อเล็กใหญ่เบื้องหน้า

“เฮ้ย! ไอ้แทนไปกันได้แล้ว” วิทยา ชายหนุ่มรูปร่างสูงผอมร้องตะโกนเรียกคนเป็นเพื่อน เอาอีกแล้ว ไอ้แทนมันมัวแต่สนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว

“แป๊ป ไอ้วิทย์มึงมีถุงพลาสติกหรือเปล่าวะ”

“กูมีแต่ถุงข้าวเหนียวหมูปิ้ง มึงจะเอาไหม” วิทยากล่าวติดตลก

“เอา” พูดจบแทนไทก็เดินไปหยิบถุงพลาสติกสีขาวขุ่นใบเล็กกะทัดรัดจากมือของวิทยา เขามัดมันไว้กับกิ่งไม้ที่หาได้แถวนั้น หินก้อนใหญ่แถวนี้ไม่มีให้เขาวางค้ำยันเลยจำต้องใช้อุปกรณ์ท้ายรถกระบะของเพื่อนมาเจาะแผ่นกระดานเป็นรูพอให้เสียบกิ่งไม้ลงไปได้ ถุงพลาสติกพองขึ้นทันทีเมื่อลมพัดเข้าด้านใน

“มึงมัวทำอะไรอยู่วะ เดี๋ยวก็สายโดนหักเงินอีกหรอก” วิทยาเร่งเพื่อนอีกครั้งหลังยกนาฬิกาข้อมือเก่า ๆ ขึ้นมาดู เวลาบอกว่าตอนนี้พวกเขาควรออกเดินทางไปหาเงินมากกว่าทำเรื่องไร้สาระ... นี่มันหน้าที่หรือ ก็ไม่ใช่

“เออ ๆ กูเสร็จแล้ว” แทนไทรับคำแล้วรีบกระโดดขึ้นท้ายกระบะไป เขาหันกลับมามองสิ่งเตือนภัยพลางคิดว่าอย่างน้อยก็เตือนคนอื่นไว้หน่อยก็แล้วกัน ทว่า... เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“พี่วิทย์เว้ย! พี่วิทย์ พ่อพี่ขับรถตกหลุม!” ตกเย็นวันนั้น เสียงของคนในหมู่บ้านคนหนึ่งก็ตะโกนแหวกเสียงเครื่องยนต์รถบดถนนดังเข้าหูเจ้าของชื่อผู้กำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่ริมทาง มือที่กำลังจะตักน้ำในกระติกมาดื่มหยุดชะงัก

“หลุมไหน” คนที่วิ่งมาบอกเขาก็คือเด็กน้อยวัยรุ่นอย่างไอ้จุกที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับพวกเขา

“ก็อีตรงหน้าหมู่บ้านนั่นไง”

“เอ้า ก็เมื่อเช้าไอ้แทนมันเอาถุงมัดกิ่งไม้ไปเสียบเตือนคนแล้วไม่ใช่เหรอ” วิทยานึกขึ้นได้ว่าเพื่อนทำเรื่องนั้นจริง ๆ

“โอ๊ย ก็ผู้ใหญ่บ้านเขาบอกว่ามันดูไม่ดีเลยโยนทิ้งไว้ข้างทางนั่นแล้ว” ไอ้จุกเกาหัวแกรก ๆ

“โห่ มันมีสมองไว้คั่นหูหรือไงวะ ใครเลือกมันมาเป็นผู้ใหญ่บ้านเนี่ย” วิทยาบ่นอุบ

“ก็พี่ไง หัวคะแนน” คนแจ้งข่าวตอบ เสียงหัวเราะฮ่าฮ่าดังขึ้นรอบตัวลูกของผู้บาดเจ็บ กระนั้นมันก็ทำให้เขาเจ็บจี๊ดในใจ เงินค่าขีดปากกาตอนนั้นกลายมาเป็นค่ารักษาในตอนนี้ ช่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

และแทนที่ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ก็มีมาตรการบรรเทาเบาบางเหตุการณ์ลงบ้าง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือข่าวการบาดเจ็บไม่เว้นแต่ละวัน เด็กน้อย คนหนุ่มสาวไปจนถึงคนหัวหงอก ล้วนแต่ลงไปสำรวจหลุมนั้นกันแทบทุกบ้าน

“เมื่อไหร่เขาจะซ่อมสักทีก็ไม่รู้ไอ้หลุมนี่” และแล้วเหตุการณ์ซ้ำๆ ก็วนมาอีหรอบเดิมอีก

“นี่แม่ตกหลุมอีกแล้วเหรอ” แทนไทเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นวิไลกำลังทายานวดบนข้อเท้าที่บวมเป่งของตัวเอง

“เออน่ะสิ” มันเลี่ยงไม่ได้เลยเพราะว่าเธอนั้นต้องคอยหาบขนมเดินเข้าออกไปมาในหมู่บ้านทุกวัน และก็ไม่ใช่เพียงแค่หลุมใหญ่หลุมนี้ที่เป็นปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีหลุมเล็กหลุมน้อยให้ได้เดินสะดุดเพิ่มอีก และยิ่งหน้าฝนแบบนี้แล้วด้วย แทบไม่ต้องคิดเลยว่าวันไหนจะได้เดินกลับมาถึงบ้านในสภาพดีบ้าง

“สองเดือนแล้วยังไม่ทำอะไรอีกเหรอ นี่เรามี อบต. ผู้ใหญ่บ้านไว้ทำไม” ชายหนุ่มเริ่มหัวเสียกับการเพิกเฉยของผู้รับผิดชอบ

“อบต. บอกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าเป็นเรื่องของ อบต. งบไม่มีบ้าง กำลังของบบ้าง เฮ้อ”  วิไลเองก็ถอนใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตัวเธอจะไปทำอะไรได้ ชาวบ้านไม่ประสีประสาตาดำ ๆ อย่างพวกเธอก็จำต้องทนกับสภาพถนนบ่อโคลนแบบนี้ต่อไป

“เกี่ยงกันไปมาเมื่อไหร่จะได้ทำ สงสัยต้องรอให้คนที่บ้านผู้ใหญ่ ไม่ก็ อบต.หัวแตกก่อนล่ะมั้ง” แทนไทแอบสบถกร่นแช่งออกมา แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก

“ไม่ต้องรอหรอก เมื่อเย็นนี้ไอ้เคนลูกผู้ใหญ่บ้านก็ไหลลงหลุมไปแล้วเหมือนกัน ฮ่าฮ่า” วิไลหัวเราะในความเจ็บปวดของผู้อื่นหน้าตาเฉย แต่แทนไทเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขตามประสาแม่ลูกดังอยู่ในบ้านไม้สังกะสีหลังนั้นไปพักใหญ่

คืนนั้นแทนไทนอนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้จนดึกดื่น เขาอยากทำถนนของหมู่บ้านเล็ก ๆ เส้นนี้ให้มันดีขึ้น เขาไม่อยากเห็นแม่สะดุดหลุมหรือลงไปสำรวจข้างในหลุมนั้นอีกแล้วว่ามันลึกกี่เมตร ตอนนี้ยังถือว่าเคราะห์ดีที่ยังไม่มีใครถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าวันข้างหน้าจะไม่เกิดเรื่องร้ายแบบนั้นขึ้น

แทนไทกสองมือของตัวเองมองผ่านความมืดในมุ้งสายสีชมพู เขามองเห็นมันแค่ลาง ๆ เหมือนกับความคิดที่ว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรได้ เรียนก็จบแค่ ปวช. ก่อสร้างมาเท่านั้นา เงินเดือนที่ได้ก็แค่ค่าแรงขั้นต่ำที่พอเลี้ยงดูตัวเองและผู้เป็นแม่ไปวัน ๆ ได้ มีเพียงประสบการณ์จากไซต์งานก่อสร้างที่ทำมาหลายปีเลยพอจะรู้ว่าถนนที่ดีเป็นอย่างไร

ถนนจำลองพื้นผิวดวงจันทร์ในหมู่บ้านเส้นนี้ จริงอยู่ว่ามันไม่จำเป็นต้องเทคอนกรีตหรือลาดยางก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ แต่ทำไมถึงไม่มีใครทำอะไรบ้างเลยล่ะ หรือเพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้งั้นเหรอ

“เฮ้อ” ความคิดวนเวียนชวนถอนใจนี้ยาวนานจนกระทั่งเปลือกตาปิดลง

“ไอ้แทนวันนี้เงินเดือนออกไปกินเหล้ากัน” วิทยาสะกิดไหล่เพื่อนด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า

“ไม่ไปอ่ะ พรุ่งนี้มีเรื่องต้องทำแต่เช้า มึงก็มาช่วยกูหน่อยแล้วกัน”

“ทำอะไรวะ” วิทยาทำท่าถอยหนีคำไหว้วานของเพื่อน เพราะมันเป็นวันหยุดหลังเงินเดือนออกพอดี เขากะจะกินเหล้าให้เมาน็อกสักหน่อย

“เออน่า มาแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง สาย ๆ ก็ได้ กูไม่ได้ให้มึงมาช่วยฟรี ๆ หรอก” แทนไทยิ้มอย่างรู้ทัน เขารู้นิสัยของไอ้วิทย์ดี อย่างไอ้นี่ต้องมีของกำนัลมาล่อมันถึงจะกระตือรือร้น

“เออ ๆ ถ้ากูตื่นทันละนะ” วิทยาได้ยินแบบนั้นก็มีท่าทางตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ไอ้แทนมันจะทำอะไรวะ หวังว่าคงจะไม่หาทำอะไรที่ต้องเหนื่อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกนะ

แทนไทไม่ได้สนใจวิทยาอีก เขาเปิดสมุดเล่มเล็ก ๆ ที่พกมาด้วยแล้วจดอะไรบางอย่างขยุกขยิกลงไป เมื่ออ่านทวนอีกครั้งแล้ว ริมฝีปากก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ขึ้น

เอาล่ะ... หวังว่าเงินเดือนเดือนนี้ของเขาคงจะพอสร้างประโยชน์อะไรได้บ้างล่ะนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 21 เส้นทางสุดท้ายที่เดินร่วมกัน

    สายลมยามเย็นพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในสนามบอลชุมชน แสงแดดสีทองทอผ่านใบไม้สาดกระทบใบหน้าของแทนไท เขายืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่บัดนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้แข็งแรงและอบอุ่นขึ้น แต่ยังคงเก็บรายละเอียดเดิมไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้กระดานที่เคยเดินเล่นกับแม่ ยันชานบ้านที่เขาเคยหอบเสื่อ มุ้ง หมอนมามองท้องฟ้าในวัยเยาว์แทนไทในวัย 65 ปี หัวใจยังเต็มเปี่ยมเหมือนวัยหนุ่ม แม้จะไม่สามารถปีนขึ้นลงชั้นสองได้คล่องเหมือนเดิมแล้ว แต่วันนี้เขาก็ยังรู้สึกอยากมองวิวจากมุมเดิม มุมที่เขาเคยนั่งอยู่กับแม่ มองถนนเส้นเล็ก ๆ ด้านล่างถนนเส้นเดิมที่แม่ของเขาเคยเดินผ่านเพื่อหาบขนมหวานไปขายแล้วตกหลุมบ่อจนปาดเจ็บ ถนนเส้นนั้นที่เขาได้เป็นคนซ่อมแซมมัน ถนนเส้นนั้นที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเขา“เขาเป็นใครกันเหรอแม่” เสียงเด็กชายคนหนึ่งถามขณะวิ่งผ่านหน้าบ้านไปพร้อมกลุ่มเพื่อน“นั่นแหละ คนที่ทำให้หนูเดินไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้นทุกวันนี้ไงลูก” เสียงแม่ของเด็กคนนั้นตอบกลับอย่างภูมิใจแทนไทได้ยินประโยคนั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในหัวใจ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดรับ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 20 สร้างถนน สร้างเส้นทางมั่นคงของหัวใจ

    เสียงเปิดแฟ้มเอกสารดังแผ่วเบาภายในห้องประชุมของกรมทางหลวง แทนไทนั่งเงียบอยู่ตรงหัวโต๊ะ สายตาอ่านผ่านเอกสารฉบับหนึ่งไปยังอีกฉบับด้วยความตั้งใจอย่างไม่ลดละ ด้านข้างของเขาคือแผนที่ที่ถูกขีดเขียนวางแนวเส้นทางจนลายเส้นหนาทึบเหมือนชั้นหินทับซ้อน“นี่คือโครงการที่รัฐบาลอนุมัติล่าสุดนะแทนไท” เสียงของหัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเอ่ยขึ้น พร้อมส่งเอกสารอีกชุดหนึ่งให้เขาแทนไทเงยหน้าขึ้น พยักหน้าช้าๆ เขารับแฟ้มมาก่อนจะเปิดดู หน้าปกระบุชื่อโครงการว่า “มอเตอร์เวย์สายตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ”“ทางด่วนสายใหม่นี้จะเชื่อมจากชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกทะลุไปถึงจังหวัดทางเหนือ ใช้ตัดผ่านถึง 7 จังหวัด กินระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 4 ปี มีคุณเป็นผู้ควบคุมโครงการโดยตรง” หัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานอธิบายแทนไทนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”นับจากวันนั้น เขาเริ่มเข้าสู่การทำงานอย่างเต็มรูปแบบในโครงการระดับชาตินี้ แม้จะใช้เวลาก่อสร้างนานถึงสี่ปี แต่ในทุกปี ทุกเดือน และทุกสัปดาห์ของการทำงาน เขาไม่เคยผ่อนแรงหรือปล่อยผ่านรายละเอียดเลยแม้แต่น้อยภายในไซต์งานกลางหุบเ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 19 ความสำเร็จที่มามาพร้อมกับคำขอบคุณ

    เช้าตรู่ของวันจันทร์ แสงแดดอ่อน ๆ สาดลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ ที่หน้าต่างห้องพักของแทนไท เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงไม่ต่างจากวันแรกที่ยืนต่อหน้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเสนอโครงการครั้งแรก มือของเขาลูบผ่านปกเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ข้างเตียงอย่างเบามือ ทุกอย่างต้องพร้อม ทุกอย่างต้องเป๊ะในวันนี้ วันประชุมใหญ่ประจำเดือนของกรมทางหลวงที่สำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯแทนไทนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่จากหลากหลายแผนกและตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ห้องประชุมกว้างใหญ่เงียบกริบเมื่อเสียงประธานเปิดการประชุมจบลง และแทนไทก็ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนำเสนอในลำดับแรก“ผมขอเริ่มต้นด้วยโครงการเส้นทางตัดผ่านจากหมู่บ้านปากคลองสำราญไปยังโรงเรียนบ้านทุ่งหญ้าคา จังหวัดพัทลุงครับ” แทนไทกล่าว พลางคลิกเปิดสไลด์ที่เตรียมไว้ภาพแผนที่ถูกฉายขึ้นหน้าจอพร้อมกับกราฟิกที่แสดงเส้นทางที่เด็ก ๆ ต้องนั่งเรือข้ามคลองไปโรงเรียนทุกวัน เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังขึ้นจากบางมุม“ปัจจุบัน เด็ก ๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางไปโรงเรียนในแต่ละวัน ต้องพึ่งเรือโดยสารที่มีอยู่เพียงสองลำ ซึ่งหากฝน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 18 ทางเลือกในมือเรากับแสงดาวในหัวใจ

    หลังจากกลับจากหมู่บ้านบนดอย แทนไทเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกอบอุ่นจากรอยยิ้มและคำขอบคุณของชาวบ้านยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเขา กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง คำพูดที่แสนจริงใจของผู้ใหญ่บ้าน เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่รับขนมจากมือของเขา และสายตาแห่งความหวังจากคนทั้งหมู่บ้าน มันหล่อหลอมใจเขาจนแน่นหนา เขารู้เพียงว่าจะต้องไม่ยอมแพ้ทันทีที่กลับมาถึง เขาจัดโต๊ะทำงาน เปิดโน้ตบุ๊ก และเริ่มลงมือเขียนโครงการเส้นทางลัดจากหมู่บ้านบนดอยสู่ตัวอำเภออย่างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยทำมา ทำมันด้วยความรอบคอบมากกว่าครั้งไหน ๆ เขาอ่านเอกสารอ้างอิงซ้ำไปซ้ำมา นั่งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิค ทบทวนเส้นทางบนแผนที่ที่เขาศึกษาไว้ทั้งคืนจนกระทั่งดวงตาเริ่มพร่ามัวแต่ในขณะที่เขากำลังจะพักสายตา เขาก็นึกถึงภาพหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจตอนที่เขาไปเที่ยวพักร้อนภาคใต้ในช่วงนั้น ภาพของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ริมคลองใกล้กับตัวเมืองก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ เด็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่องเรือข้ามคลองเพื่อไปเรียนหนังสือในโรงเรียนอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ทุกเช้าและเย็นเด็ก ๆ ต้องนั่งเรือไปกลับ บางครั้งน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 17 ก้าวเดินด้วยหัวใจและความตั้งใจ

    เสียงเครื่องยนต์รถกระบะสีขาวคู่ใจของแทนไทดังกระหึ่มไปตามถนนที่ลัดเลาะผ่านเนินเขาและหุบเหว เขากำลังเดินทางกลับขึ้นสู่หมู่บ้านบนดอยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยเดินทางมาเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อศึกษาสภาพพื้นที่และฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านด้วยตัวเอง ครั้งนี้เขามาพร้อมกับความหวังใหม่และแผนงานที่วางไว้อย่างรอบคอบกว่าเดิม พร้อมกับคำมั่นในใจว่า จะต้องทำให้โครงการถนนเส้นทางลัดเชื่อมหมู่บ้านบนดอยกับตัวอำเภอเป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม“อาแทนไท!” เสียงเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ริมทางหน้าศาลาหมู่บ้านร้องเรียกด้วยความดีใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง แทนไทยิ้มกว้างก่อนจะจอดรถ เขาเปิดประตูลงมาและหยิบถุงขนมหลายถุงออกจากกระบะหลัง แจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ อย่างที่เคยทำ“อ้าว มาเร็วเด็ก ๆ ทั้งหลาย ยังจำอาได้กันอยู่ไหมเนี่ย” เขาถามพร้อมเสียงหัวเราะ เด็ก ๆ พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น บ้างก็ยื่นมือไปรับขนม บ้างก็โผเข้ากอดเอวเขาไว้แน่น“คราวนี้อามาพร้อมของสำคัญด้วยนะ” แทนไทหยิบแฟ้มเอกสารหนาออกมาจากรถ“จะให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ของทุกคนช่วยเซ็นชื่อสนับสนุนโครงการถนนที่จะสร้างตัดผ่านหมู่บ้านของเราไ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 16 ถนนที่แม่ไม่เคยเห็น

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status