Home / อื่น ๆ / เส้นทางเชื่อมใจ / บทที่ 1 ดินก้อนแรกในฝัน

Share

เส้นทางเชื่อมใจ
เส้นทางเชื่อมใจ
Author: Bosskerr

บทที่ 1 ดินก้อนแรกในฝัน

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-13 00:05:02

เสียงฝีเท้าหนักย่ำก้าวอย่างเร่งรีบมาตามทางเดินขรุขระลูกรัง ในมือนั้นถือถุงกับข้าวที่แวะซื้อที่ข้างทางมาด้วย ใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ผิวสีแทนแบบชายไทยแท้กำลังขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด สายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เริ่มเปียกโชก

“แม่ครับ! ผมกลับมาแล้ว” เมื่อมาถึงบ้านกึ่งไม้กึ่งสังกะสีขนาดไม่ใหญ่มากนักหลังหนึ่ง เขาก็รีบตะโกนร้องเรียกผู้เป็นแม่

“อ้าวไอ้แทน กลับมาแล้วเหรอ เอ็งตากฝนมาหรือเปล่าล่ะนั่น” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องตอบกลับมา

แทนไท ชายหนุ่มอายุ 24 ปี ที่ตอนนี้เพิ่งเลิกงานและกลับมาจากไซต์งานก่อสร้างรีบเดินเข้าบ้านไปหาผู้เป็นแม่

“แม่เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนบ้างเนี่ย” เมื่อเห็นหน้าวิไลผู้เป็นแม่ แทนก็ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยทันที

“ไม่เป็นไร เย็บสองเข็ม เอายาก็กลับบ้านได้แล้ว” วิไลเอ่ยพลางนิ่วหน้า ผ้าก็อซสีขาวกับเทปกาวใสแปะทั่วตัวหญิงอายุราวห้าสิบ ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งเอนกายพิงอยู่ที่ม้านั่งตัวเก่าที่คล้ายเหมือนจะพังแหล่มิพังแหล่

“แล้วแม่ไปทำอีท่าไหนมาล่ะครับเนี่ยถึงไปตกหลุมนั่นได้”

“จะอีท่าไหนล่ะ ข้าก็ปั่นจักรยานของข้าอยู่ดี ๆ ใครมันจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันมีหลุม พวก อบต. นี่ก็นะแทนที่จะปักเสาปักอะไรให้รู้บ้าง นี่อะไรเอาไม้อัดมาวางปากหลุม ข้าก็เทเข้าให้น่ะสิ” แม่บ่นกระปอดกระแปดยาวยืดระบายความหงุดหงิดของตัวเองที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะการทำงานชุ่ย ๆ และถนนที่สภาพเหมือนกับจำลองพื้นผิวดวงจันทร์มาไว้ในหมู่บ้าน

แทนไทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะแอบเบื่อหน่ายกับปัญหาเดิม ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ แต่ว่าครั้งนี้ดันแจ็กพอตที่มาเกิดกับผู้เป็นแม่ของเขา

“แล้วนี่เอ็งรู้ได้ยังไงล่ะว่าข้าเดินตกหลุม” วิไลเอ่ยถามผู้เป็นลูกชายด้วยความแปลกใจ

“ก็ไอ้วิทย์น่ะสิมันมาบอกผม ป้าอ้วนโทรไปบอกมันว่าพาแม่ไปโรงพยาบาล ผมก็เลยรู้” แทนไทกำลังพูดถึงวิทยาผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ที่ไซต์งานเดียวกัน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทในหมู่บ้านตั้งแต่สมัยเด็กอีก ป้าอ้วนแม่ของวิทยาเองก็สนิทกับแม่ของเขา

“เออ ๆ แล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยังล่ะ”

“ผมกินมาจากไซต์งานเรียบร้อยแล้ว และก็แวะซื้อข้าวมาให้แม่ด้วย แม่กินข้าวนะครับ จะได้กินยา” แทนไทว่าแล้วก็ไปจัดแจงเทกับข้าวใส่จานมาให้วิไล

วิไลมองผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวด้วยสายตารักใคร่ แทนไทนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เสียดายที่ลำพังเพียงเธอคนเดียวไม่มีปัญญาพอที่จะสามารถส่งลูกให้เรียนสูงกว่านี้ได้

แทนไทวาดฝันอนาคตของตัวเองไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นวิศวะกรที่เก่งกาจมากความสามารถ สามารถสรรสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ ๆ ทันสมัยอีกทั้งยังแข็งแรงขึ้นมามากมาย เพราะฉะนั้นแทนไทจึงตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นมาทางสายอาชีพ แต่ทว่าด้วยรู้ว่าผู้เป็นแม่ทำงานหนักเพียงคนเดียวและมีรายได้เล็กน้อยมากจากการทำขนมขาย แทนไทจึงตัดสินใจเรียนจบเพียงแค่ชั้น ปวช. และออกมารับจ๊อบทำงานตามไซต์งานก่อสร้างเล็ก ๆ เพื่อช่วยหารายได้เข้าบ้านอีกทาง

เช้าวันต่อมา…

กึง กึง กึง 

เสียงกระทืบเท้าลงบนแผ่นไม้อัดใหม่เอี่ยมดังกึง ๆ สองสามที “เดี๋ยวได้มีคนตกอีกแน่” แทนไทส่ายหน้าพลางมองหลุมบ่อเล็กใหญ่เบื้องหน้า

“เฮ้ย! ไอ้แทนไปกันได้แล้ว” วิทยา ชายหนุ่มรูปร่างสูงผอมร้องตะโกนเรียกคนเป็นเพื่อน เอาอีกแล้ว ไอ้แทนมันมัวแต่สนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว

“แป๊ป ไอ้วิทย์มึงมีถุงพลาสติกหรือเปล่าวะ”

“กูมีแต่ถุงข้าวเหนียวหมูปิ้ง มึงจะเอาไหม” วิทยากล่าวติดตลก

“เอา” พูดจบแทนไทก็เดินไปหยิบถุงพลาสติกสีขาวขุ่นใบเล็กกะทัดรัดจากมือของวิทยา เขามัดมันไว้กับกิ่งไม้ที่หาได้แถวนั้น หินก้อนใหญ่แถวนี้ไม่มีให้เขาวางค้ำยันเลยจำต้องใช้อุปกรณ์ท้ายรถกระบะของเพื่อนมาเจาะแผ่นกระดานเป็นรูพอให้เสียบกิ่งไม้ลงไปได้ ถุงพลาสติกพองขึ้นทันทีเมื่อลมพัดเข้าด้านใน

“มึงมัวทำอะไรอยู่วะ เดี๋ยวก็สายโดนหักเงินอีกหรอก” วิทยาเร่งเพื่อนอีกครั้งหลังยกนาฬิกาข้อมือเก่า ๆ ขึ้นมาดู เวลาบอกว่าตอนนี้พวกเขาควรออกเดินทางไปหาเงินมากกว่าทำเรื่องไร้สาระ... นี่มันหน้าที่หรือ ก็ไม่ใช่

“เออ ๆ กูเสร็จแล้ว” แทนไทรับคำแล้วรีบกระโดดขึ้นท้ายกระบะไป เขาหันกลับมามองสิ่งเตือนภัยพลางคิดว่าอย่างน้อยก็เตือนคนอื่นไว้หน่อยก็แล้วกัน ทว่า... เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“พี่วิทย์เว้ย! พี่วิทย์ พ่อพี่ขับรถตกหลุม!” ตกเย็นวันนั้น เสียงของคนในหมู่บ้านคนหนึ่งก็ตะโกนแหวกเสียงเครื่องยนต์รถบดถนนดังเข้าหูเจ้าของชื่อผู้กำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่ริมทาง มือที่กำลังจะตักน้ำในกระติกมาดื่มหยุดชะงัก

“หลุมไหน” คนที่วิ่งมาบอกเขาก็คือเด็กน้อยวัยรุ่นอย่างไอ้จุกที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับพวกเขา

“ก็อีตรงหน้าหมู่บ้านนั่นไง”

“เอ้า ก็เมื่อเช้าไอ้แทนมันเอาถุงมัดกิ่งไม้ไปเสียบเตือนคนแล้วไม่ใช่เหรอ” วิทยานึกขึ้นได้ว่าเพื่อนทำเรื่องนั้นจริง ๆ

“โอ๊ย ก็ผู้ใหญ่บ้านเขาบอกว่ามันดูไม่ดีเลยโยนทิ้งไว้ข้างทางนั่นแล้ว” ไอ้จุกเกาหัวแกรก ๆ

“โห่ มันมีสมองไว้คั่นหูหรือไงวะ ใครเลือกมันมาเป็นผู้ใหญ่บ้านเนี่ย” วิทยาบ่นอุบ

“ก็พี่ไง หัวคะแนน” คนแจ้งข่าวตอบ เสียงหัวเราะฮ่าฮ่าดังขึ้นรอบตัวลูกของผู้บาดเจ็บ กระนั้นมันก็ทำให้เขาเจ็บจี๊ดในใจ เงินค่าขีดปากกาตอนนั้นกลายมาเป็นค่ารักษาในตอนนี้ ช่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

และแทนที่ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ก็มีมาตรการบรรเทาเบาบางเหตุการณ์ลงบ้าง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือข่าวการบาดเจ็บไม่เว้นแต่ละวัน เด็กน้อย คนหนุ่มสาวไปจนถึงคนหัวหงอก ล้วนแต่ลงไปสำรวจหลุมนั้นกันแทบทุกบ้าน

“เมื่อไหร่เขาจะซ่อมสักทีก็ไม่รู้ไอ้หลุมนี่” และแล้วเหตุการณ์ซ้ำๆ ก็วนมาอีหรอบเดิมอีก

“นี่แม่ตกหลุมอีกแล้วเหรอ” แทนไทเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นวิไลกำลังทายานวดบนข้อเท้าที่บวมเป่งของตัวเอง

“เออน่ะสิ” มันเลี่ยงไม่ได้เลยเพราะว่าเธอนั้นต้องคอยหาบขนมเดินเข้าออกไปมาในหมู่บ้านทุกวัน และก็ไม่ใช่เพียงแค่หลุมใหญ่หลุมนี้ที่เป็นปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีหลุมเล็กหลุมน้อยให้ได้เดินสะดุดเพิ่มอีก และยิ่งหน้าฝนแบบนี้แล้วด้วย แทบไม่ต้องคิดเลยว่าวันไหนจะได้เดินกลับมาถึงบ้านในสภาพดีบ้าง

“สองเดือนแล้วยังไม่ทำอะไรอีกเหรอ นี่เรามี อบต. ผู้ใหญ่บ้านไว้ทำไม” ชายหนุ่มเริ่มหัวเสียกับการเพิกเฉยของผู้รับผิดชอบ

“อบต. บอกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าเป็นเรื่องของ อบต. งบไม่มีบ้าง กำลังของบบ้าง เฮ้อ”  วิไลเองก็ถอนใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตัวเธอจะไปทำอะไรได้ ชาวบ้านไม่ประสีประสาตาดำ ๆ อย่างพวกเธอก็จำต้องทนกับสภาพถนนบ่อโคลนแบบนี้ต่อไป

“เกี่ยงกันไปมาเมื่อไหร่จะได้ทำ สงสัยต้องรอให้คนที่บ้านผู้ใหญ่ ไม่ก็ อบต.หัวแตกก่อนล่ะมั้ง” แทนไทแอบสบถกร่นแช่งออกมา แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก

“ไม่ต้องรอหรอก เมื่อเย็นนี้ไอ้เคนลูกผู้ใหญ่บ้านก็ไหลลงหลุมไปแล้วเหมือนกัน ฮ่าฮ่า” วิไลหัวเราะในความเจ็บปวดของผู้อื่นหน้าตาเฉย แต่แทนไทเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขตามประสาแม่ลูกดังอยู่ในบ้านไม้สังกะสีหลังนั้นไปพักใหญ่

คืนนั้นแทนไทนอนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้จนดึกดื่น เขาอยากทำถนนของหมู่บ้านเล็ก ๆ เส้นนี้ให้มันดีขึ้น เขาไม่อยากเห็นแม่สะดุดหลุมหรือลงไปสำรวจข้างในหลุมนั้นอีกแล้วว่ามันลึกกี่เมตร ตอนนี้ยังถือว่าเคราะห์ดีที่ยังไม่มีใครถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าวันข้างหน้าจะไม่เกิดเรื่องร้ายแบบนั้นขึ้น

แทนไทกสองมือของตัวเองมองผ่านความมืดในมุ้งสายสีชมพู เขามองเห็นมันแค่ลาง ๆ เหมือนกับความคิดที่ว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรได้ เรียนก็จบแค่ ปวช. ก่อสร้างมาเท่านั้นา เงินเดือนที่ได้ก็แค่ค่าแรงขั้นต่ำที่พอเลี้ยงดูตัวเองและผู้เป็นแม่ไปวัน ๆ ได้ มีเพียงประสบการณ์จากไซต์งานก่อสร้างที่ทำมาหลายปีเลยพอจะรู้ว่าถนนที่ดีเป็นอย่างไร

ถนนจำลองพื้นผิวดวงจันทร์ในหมู่บ้านเส้นนี้ จริงอยู่ว่ามันไม่จำเป็นต้องเทคอนกรีตหรือลาดยางก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ แต่ทำไมถึงไม่มีใครทำอะไรบ้างเลยล่ะ หรือเพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้งั้นเหรอ

“เฮ้อ” ความคิดวนเวียนชวนถอนใจนี้ยาวนานจนกระทั่งเปลือกตาปิดลง

“ไอ้แทนวันนี้เงินเดือนออกไปกินเหล้ากัน” วิทยาสะกิดไหล่เพื่อนด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า

“ไม่ไปอ่ะ พรุ่งนี้มีเรื่องต้องทำแต่เช้า มึงก็มาช่วยกูหน่อยแล้วกัน”

“ทำอะไรวะ” วิทยาทำท่าถอยหนีคำไหว้วานของเพื่อน เพราะมันเป็นวันหยุดหลังเงินเดือนออกพอดี เขากะจะกินเหล้าให้เมาน็อกสักหน่อย

“เออน่า มาแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง สาย ๆ ก็ได้ กูไม่ได้ให้มึงมาช่วยฟรี ๆ หรอก” แทนไทยิ้มอย่างรู้ทัน เขารู้นิสัยของไอ้วิทย์ดี อย่างไอ้นี่ต้องมีของกำนัลมาล่อมันถึงจะกระตือรือร้น

“เออ ๆ ถ้ากูตื่นทันละนะ” วิทยาได้ยินแบบนั้นก็มีท่าทางตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ไอ้แทนมันจะทำอะไรวะ หวังว่าคงจะไม่หาทำอะไรที่ต้องเหนื่อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกนะ

แทนไทไม่ได้สนใจวิทยาอีก เขาเปิดสมุดเล่มเล็ก ๆ ที่พกมาด้วยแล้วจดอะไรบางอย่างขยุกขยิกลงไป เมื่ออ่านทวนอีกครั้งแล้ว ริมฝีปากก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ขึ้น

เอาล่ะ... หวังว่าเงินเดือนเดือนนี้ของเขาคงจะพอสร้างประโยชน์อะไรได้บ้างล่ะนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 16 ถนนที่แม่ไม่เคยเห็น

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 15 แสงดาวในยามใจหล่น

    แสงแดดยามเช้าของวันจันทร์ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องทำงานที่แทรกตัวอยู่กลางอาคารสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง แทนไทนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าหนักแน่นกว่าทุกวัน ถึงแม้เขาจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจจากบทลงโทษทางวินัยในมาในช่วงก่อนหน้า แต่สายตาของเขายังคงเต็มเปี่ยมด้วยเป้าหมายและแรงผลักดันเหมือนเดิมเขาเปิดแฟ้มโครงการที่เคยนำเสนอลงบนโต๊ะ พลางไล่สายตาอ่านบันทึกการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับเปิดเครื่องบันทึกเสียงจากมือถือเพื่อทบทวนคำพูดที่ลุงทวีเคยพูดไว้“ในชีวิตข้าทำงานสายนี้มาก็หลายสิบปี ไอ้ที่สำคัญไม่ใช่แค่ถนนจะตัดตรงไหน แต่มันอยู่ที่ว่าเราทำเพื่อใครต่างหากล่ะ”คำพูดนั้นยังดังก้องอยู่ในใจของเขาเสมอเสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้น“แทน ผมขอเข้าไปหน่อยนะ” เสียงของหัวหน้าเอ่ยดังขึ้นจากหน้าห้อง“เชิญครับหัวหน้า” แทนไทลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพหัวหน้าก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับของผู้ที่ผ่านประสบการณ์มานับไม่ถ้วน“แทน ผมชี้แจงบทลงโทษเกี่ยวกับรายงานของจังหวัดนั้นแล้วนะ เรื่องที่เขาแจ้งเตือนพฤติกรรมคุณ”แทนไทพยักหน้ารับเบา ๆ“ผมผิดเองครับหัวหน้า ผมใจร้อนไปหน่อย ผมอยากให้ชาวบ้านมีทางเดิน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 14 ลายเซ็นไม่มี สิ่งนี้ไม่เคยอนุมัติ

    ท้องฟ้ายามเช้าของเมืองหลวงยังคงครึ้มเทา แม้ไม่มีฝนตก แต่เมฆสีหม่นนั้นก็ทำให้บรรยากาศดูอึมครึมและกดดันไม่ต่างจากจิตใจของแทนไทในเวลานี้ รถยนต์คันเดิมที่เขาขับอยู่แล่นไปบนถนนด้วยความเร็วคงที่ ใจของเขาหนักอึ้งกว่าที่เคยเป็นมาในช่วงหลายเดือนเมื่อคืนเขาใช้เวลาคิดอยู่ทั้งคืน ว่าเขาควรทำอย่างไรดีหลังจากที่ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดไปถึงระดับจังหวัดว่ามีวิศสวกรจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองคนหนึ่งลงมือสร้างถนนเส้นทางลัดในพื้นที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติให้สร้าง ซึ่งนั่นหมายถึงตัวเขาโดยตรง และแทนไทก็ไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่จนนำไปสู่การฟ้องร้องหรือคดีความ เขาจึงตัดสินใจจะเดินทางไปที่สำนักงานจังหวัดในเช้าวันนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมยอมรับฟังทุกคำตักเตือนเมื่อรถของแทนไทมาถึงหน้าอาคารสำนักงาน เขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก้าวออกจากรถพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องในมือ แม้จะรู้ดีว่าในทางระเบียบนั้นตนเองพลาดที่ลงมือก่อนคำอนุมัติ แต่หัวใจของเขาก็ยังมั่นคงว่าตนเองกระทำไปเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของชาวบ้านและส่วนรวมทั้งสิ้นเขาถูกเรียกให้เข้าไปยังห้องประชุมชั้นสามของอาคาร หน้าห้องมีป้ายเล็ก ๆ ติด

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 13 ถนนที่ไม่มีชื่อ

    ช่วงเช้าของวันหยุดยาว แทนไทขับรถกระบะเก่า ๆ ที่เขาผูกพันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดบ้านเกิด สองข้างทางเป็นทุ่งนาเขียวขจี ฝนที่ตกลงมาเมื่อคืนก่อนทำให้ผิวดินยังชุ่มชื้นและมีกลิ่นสดชื่นของธรรมชาติอบอวลในอากาศบ้านของแทนไทอยู่ในชุมชนที่ชื่อว่า ‘บ้านดอนกลาง’ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของเขตอำเภอ พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านนี้เป็นทุ่งนา สวนผลไม้ และป่าชุมชนที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้อย่างดี แทนไทจอดรถหน้าบ้านไม้ใต้ถุนสูงของแม่วิไล หญิงวัยหกสิบต้น ๆ ที่ยังแข็งแรงและขยันขันแข็งเหมือนเช่นทุกวัน“แม่! แทนมาแล้วครับ” แทนไทร้องเรียกขณะที่เดินขึ้นบันไดบ้าน กลิ่นข้าวสวยหอมกรุ่นลอยมากระทบจมูก“อ้าว แทนมาแล้วเหรอ มาทันกินข้าวพอดีเลย” วิไลยิ้มกว้าง รินน้ำใส่แก้วให้ลูกชาย ก่อนจะยกหม้อข้าวและแกงส้มมาวางลงบนโต๊ะไม้กลางบ้านหลังจากนั่งทานข้าวและพูดคุยถึงชีวิตในกรุงเทพฯ ได้สักพัก วิไลก็เปรยเรื่องหนึ่งที่ทำให้แทนไทตั้งใจฟังมากขึ้น“ช่วงนี้ผู้ใหญ่บ้านเขาไปยื่นเรื่องของงบประมาณเพื่อทำถนนจากโรงเรียนไปตลาดใหญ่นะลูก แต่ก็โดนปฏิเสธมาแล้วสอ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 12 ก้าวใหม่ในเส้นทางเดิม

    แสงแดดยามเช้าลูบไล้ปลายใบไม้เบา ๆ ขณะที่สายลมฤดูร้อนพัดผ่านราวกับกำลังกระซิบบอกแทนไทว่า ถึงเวลาที่ต้องกลับมาลุยอีกครั้งแล้ว หลังจากใช้เวลาในภาคใต้เพื่อพักกายพักใจ เขาก็กลับมายังห้องทำงานเล็ก ๆ ในสำนักงานกรมโยธาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สถานที่ที่เขาคุ้นเคย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ยกเว้นเพียงแค่ความคิดและหัวใจของเขาที่เปลี่ยนไปบนโต๊ะทำงานมีแผนที่เก่าใบหนึ่งที่เขาพับไว้อย่างทะนุถนอม มันคือแผนที่ที่ลุงทวีเคยส่งมอบให้ ซึ่งกลายเป็นเหมือนแสงไฟนำทางให้เขาอีกครั้งแทนไทเปิดแผนที่ใบนั้นออก กระดาษเก่ากรอบที่มีรอยพับตามกาลเวลาเผยให้เห็นลายเส้นทางเก่าที่บางส่วนถูกลืมไปจากระบบราชการปัจจุบัน เขาจ้องมองมันราวกับจะมองทะลุเข้าไปยังอดีตของถนนสายที่ไม่เคยได้ถูกสร้าง“ลุงครับ เส้นทางตรงจุดนี้ ถ้าผมต่อมันเข้ากับทางสายหลัก จะช่วยให้ชาวบ้านบนดอยเดินทางลงมาโรงพยาบาลได้สะดวกขึ้นจริง ๆ ใช่ไหมครับ” แทนไทเอ่ยถามผ่านสายโทรศัพท์เสียงของลุงทวีจากปลายสายฟังดูอบอุ่นแม้จะผ่านระยะทางไกล“ใช่ แถวนี้ลุงเคยลงพื้นที่เองเมื่อสิบกว่าปีก่อน มันเป็นทางดินเก่า บางช่วงเป็นแค่ทางเดินสัตว์ แต่ถ้าทำจริง มันจะเปลี่ยนชีวิตคนได้เลยนะ แค่ม

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 11 พักกายพักใจ ก่อนกลับไปสู้ใหม่อีกครั้ง

    เสียงลมหายใจของทะเลกระทบฝั่งดังเป็นจังหวะช้า ๆ แผ่วเบา แทนไทยืนอยู่บนชายหาด มองเส้นขอบฟ้าที่ค่อย ๆ กลืนแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเย็นเข้าไปในม่านฟ้าสีส้มอมชมพู หลังจากวันที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความคิด ฟ้าสีนี้คล้ายกับกำลังปลอบประโลมหัวใจของเขาให้เบาลง อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้“สวยใช่ไหมคะ” เสียงของดาวดังแว่วมาจากด้านข้าง หญิงสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดตาเดินเท้าเปล่าลงบนผืนทราย เธอส่งยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่ไม่ต้องพยายามแต่งแต้มมองทีไรก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนใจเขาสั่น“ครับ พี่ไม่เคยรู้เลยว่าแค่ฟังเสียงคลื่นกับดูพระอาทิตย์ตกมันจะทำให้รู้สึกสงบได้ขนาดนี้” แทนไทตอบ เขาไม่ได้พูดเล่นเลย ถึงแม้จะเคยเดินทางมาแทบทุกภาคของประเทศ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ความเหนื่อยล้าจะหลุดออกไปจากใจจากกายง่ายเท่าครั้งนี้ดาวยิ้มอีกครั้ง พลางเดินนำเขาไปนั่งที่เปลผ้าริมชายหาดใต้ต้นสนทะเลที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เธอหยิบกระบอกน้ำไม้ไผ่ออกมายื่นส่งให้“น้ำสมุนไพรเย็น ๆ ค่ะ ดาวทำเอง รับประกันพี่จะสดชื่นหายเหนื่อยแน่นอน”แทนไทหัวเราะเบา ๆ “ขอบคุณครับ น้องดาวดูจะเตรียมตัวมาดีจัง”“แน่นอนสิคะ ดาวเป็นไกด์ประจำเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status