ตกเย็น... แทนไทยังคงเดินทางกลับบ้านด้วยเส้นทางเดิม รถกระบะคันเก่าของเพื่อนที่ไซต์งานที่เขามักจะติดมาประจำจอดอยู่ที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน
“ขอบใจนะ แล้วเจอกัน” แทนไทตะโกนบอกคนในรถแล้วโบกมือให้ จากนั้นรถก็แล่นออกไป
“ตกลงคืนนี้มึงจะไม่ไปกินเหล้ากับพวกกูแน่นะ” วิทยาเอ่ยถามแทนไทอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ไม่อ่ะ พวกมึงตามสบายเหอะ แต่อย่าลืมว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นมาช่วยกูล่ะ” แทนไทเอ่ยปฏิเสธ
“เออ ๆ รู้แล้วน่า แล้วมึงจะบอกกูได้ยังว่าพรุ่งนี้มึงจะทำอะไร วันหยุดทั้งทีนะไอ้แทน กูขอร้องอย่าสรรหาอะไรเหนื่อย ๆ มาให้กูทำนะ กูไหว้แหละ” วิทยายกมือไหว้ท่วมหัวปรก ๆ
แทนไทไม่ตอบ เขาทำเพียงแค่โบกไม้โบกมือให้แล้วหันหลังเพื่อเดินตรงกลับบ้าน
“อ้าว ไอ้แทน ไอ้แทนโว๊ย!”
ตลอดทางที่เดินกลับ... แทนไทมองหลุมเล็กหลุมน้อยที่กระจัดกระจายอยู่เป็นหย่อม ๆ อย่างเงียบ ๆ เขาล้วงหยิบเอาสมุดพกเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาจดอะไรบางอย่างลงไป โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตกลงมา แต่ทว่าท้องฟ้าก็ส่อแววตั้งเค้ามาลาง ๆ
“อ้าว ไอ้แทน กลับมาแล้วเรอะ” ป้าแจ๋วที่ขายขนมจีนข้างบ้านเอ่ยร้องทักแทนไทขณะที่ปั่นจักรยานผ่าน
“ครับป้า” แทนไทก้มหัวเล็กน้อยแล้วส่งยิ้มกลับไป เขามองเห็นดินโคลนกระจุกใหญ่ติดอยู่ที่ขาและน่องของป้าแจ๋ว และพอสังเกตให้ดีก็เห็นว่าตรงแฮนด์จักรยานและตะกร้าหน้ารถก็มีดินโคลนติดอยู่ด้วยเหมือนกัน
“เออ เอ็งเดินก็ระวังดี ๆ ล่ะ ไอ้หลุมบ่อใหญ่ข้างหน้าน่ะไม้กระดานมันหักอีกแล้ว แม่เจ้าโว๊ย! ไม่รู้ชาติไหนจะมีถนนดี ๆ กับเขาใช้บ้าง” ป้าแจ๋วบ่นกระปอดประแปดอย่างหัวเสีย ดูท่าทางแบบนี้คงขับจักรยานลงไปสำรวจหลุมมาอีกแล้วแน่ ๆ
แทนไทยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากตอบอะไรป้าแจ๋วก็ขับจักรยานผ่านไปแล้ว ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าว่ากันตามจริงแล้วทางเข้าในหมู่บ้านนี้ก็มีหลายทาง ตัวบ้านเรือนก็มีอยู่สองฝั่ง คั่นกลางด้วยสะพานไม้เล็ก ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา สามารถสัญจรผ่านได้เพียงจักรยานและรถมอเตอร์ไซค์เพียงเท่านั้น รถยนต์ต้องอ้อมไปอีกทาง ต้องมานั่งลุ้นรายวันว่ามันจะถล่มแตกหักลงมาตอนไหน เคยมีชาวบ้านร้องเรียนไปทางผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดต่อประสานงานไปยัง อบต. ให้เข้ามาดูแลและซ่อมแซมให้ แต่ทว่าติดต่อไปกี่ครั้งก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการขอเบิกงบประมาณและรอให้เป็นไปตามขั้นตอน ทำให้จนถึงตอนนี้ถนนลูกรังเส้นนี้และสะพานไม้ที่ใช้ข้ามผ่านระหว่างหมู่บ้านก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที
แทนไทถอนหายใจยาว ๆ ออกมาอีกครั้ง รู้สึกเหนื่อยใจกับการทำงานของรัฐที่สุดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คงมีเพียงแต่ต้องดิ้นรนหาทางเอาเองไปก่อนเท่านั้น
“เอ็งทำอะไรอยู่วะไอ้แทน มืดค่ำป่านนี้ยังไม่หลับไม่นอน” วิไลเอ่ยถามผู้เป็นลูกชาย เพราะเธอเห็นแทนไทกลับมาถึงบ้านอาบน้ำตั้งนานแล้ว
“พรุ่งนี้วันหยุดน่ะแม่” แทนไทเงยหน้าจากสมุดพกที่เขาใช้จดอะไรบางอย่างลงไปในนั้นตั้งแต่เมื่อกลางวัน
“เออ แล้วกำลังจดอะไรอยู่ล่ะนั่น”
“นี่น่ะเหรอครับ” แทนไทอ่านทวนอีกครั้งแล้วจึงยิ้มออกมา “ผมกำลังจดรายการพวกค่าวัสดุที่จะไปซื้อมาทำถนนในวันพรุ่งนี้ครับ”
“ทำถนนเหรอ?” วิไลถามด้วยน้ำเสียงงุนงง
“ครับ ก็ถนนทางเข้าหมู่บ้านของพวกเราไงล่ะแม่”
วิไลเมื่อได้ยินคำตอบของแทนไทก็ถึงกับชะงัก “ยังไงนะ ข้างงไปหมดแล้ว นี่ทาง อบต. ให้คนมาทำแล้วเหรอ”
“อบต. อะไรกันล่ะแม่ ยังไม่มี อบต. ไหนหรือใครมาทำให้ทั้งนั้นแหละ ผมจะทำของผมเอง ด้วยเงินของผม”
“ฮะ! เอ็งว่ายังไงนะ เอ็งเนี่ยนะจะทำเอง”
“ก็ใช่ไงแม่ ยังไงผมก็ทำงานไซต์ก่อสร้างนะ ถึงจะเป็นแค่ช่างปูนธรรมดา ๆ แต่ผมก็พอรู้ว่าไอ้ถนนที่ดีน่ะมันควรจะทำยังไง”
ใช่... ถึงจะไม่ได้ดีจนถึงขนาดใช้งานไปได้อีกเป็นสิบ ๆ ปี แต่ก็ยังพอบรรเทาแก้ขัดไปได้สักระยะหนึ่ง เขาเองก็ไม่อยากเห็นแม่ต้องเผลอตกลงไปสำรวจหลุมนั่นอีกแล้ว รวมทั้งชาวบ้านคนอื่น ๆ ด้วย
“ข้ารู้ว่าเอ็งน่ะทำได้ แต่ว่ามันจะไม่หนักเกินไปเหรอไอ้แทน มันต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ ข้าว่ารอให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาทำดีกว่าไหม”
วิไลรู้ว่าแทนไทเป็นคนเก่ง ถึงจะเป็นแค่ช่างที่ไซต์งานก่อสร้างธรรมดาทั่วไป แต่ลูกชายของเธอก็ทำได้แทบทุกอย่าง เสียดายก็แต่ที่แทนไทไม่ได้เรียนต่อให้สูงกว่านี้ตามความฝัน
“แม่ไม่ต้องห่วง ผมมีวิธี ใช้เงินไม่ได้มากมายอะไร รับรองว่าไม่ทำให้บ้านเราลำบากแน่นอนครับ”
แทนไทพูดให้วิไลสบายใจ เงินส่วนนี้เป็นเงินที่เขาเก็บแยกต่างหาก ที่จริงแทนไทมีความคิดที่จะทำเองมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เขารอเวลาเผื่อว่าทางหน่วยงานจะเข้ามาทำให้ก่อน แต่ทว่าดูท่าแล้วเขาคงจะต้องลงมือทำเองจริง ๆ ถ้าขืนมัวแต่รอ มีหวังแม่ของเขาอาจจะต้องขาหักเข้าสักวัน
“เออ ๆ ตามใจเอ็งแล้วกัน แต่ก็ทำเท่าที่ไหวนะ อย่าทำอะไรที่มันหนักตัวเองมากเกินไป มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา”
“ครับแม่”
ถึงปากจะตอบผู้เป็นแม่ออกไปแบบนั้น แต่ในใจเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้นเลย คนอย่างเขาไม่อยากเพียงแค่เกิดมาแล้วใช้ชีวิตเพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองไปวัน ๆ เท่านั้น สำหรับแทนไทแล้ว เขาคิดว่าคนเราถ้าพอมีแรงและมีกำลังเหลือก็ควรจะสร้างประโยชน์หรือช่วยเหลือสังคมบ้างไม่มากก็น้อย
วันรุ่งขึ้น
“ไอ้แทน นี่มึงพากูมาที่นี่ทำไมวะ” วิทยาเอ่ยถามแทนไทในเช้าของวันถัดมา ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือกองเศษอิฐหัก ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจากไซต์งานก่อสร้างที่พวกเขาทำงานอยู่
“เออ มึงมาช่วยกูขนเศษอิฐที่ไม่ได้ใช้พวกนี้ขึ้นรถที” แทนไทตอบกลับแล้วรีบหยิบอุปกรณ์ที่อยู่หลังรถกระบะลงไป
“เดี๋ยว ๆ ไอ้แทน มึงจะเอาเศษอิฐพวกนี้ไปทำอะไรวะ”
“กูจะเอาไปซ่อมถนนทางเข้าหมู่บ้านเรา” แทนไทไขข้อข้องใจของเพื่อนรัก และนั่นก็ทำให้วิทยาถึงกับร้อง ‘ฮะ!’ ออกมา
“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่าที่ปลุกให้กูตื่นมาแต่เช้าในวันหยุดแบบนี้ก็เพราะจะให้กูมาช่วยมึงซ่อมถนนอ่ะ”
“ใช่”
วิทยาได้ยินแบบนั้นก็แทบจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกแทนไทดึงคอเสื้อไว้
“มึงจะไปไหนวะไอ้วิทย์ อย่ามัวลีลา รีบ ๆ มาช่วยกูเร็วเข้า”
“โอ๊ย! ไอ้แทน มึงนี่หาเรื่องจริง ๆ เลยนะ มันใช่หน้าที่ของมึงไหม จะหาเรื่องให้ตัวเองเหนื่อยทำไมก่อน” ก็พอจะรู้อยู่แหละนะว่าไอ้แทนเพื่อนของเขานั้นเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่แบบนี้มันก็ออกจะมีน้ำใจมากเกินไปหน่อย
“มันก็ไม่ใช่งานหนักหนาอะไรไหม ก็แค่ซ่อมพวกตรงที่เป็นหลุมเป็นบ่อนิดหน่อยเท่านั้นเอง มึงไม่เห็นเหรอว่าทางเข้าหมู่บ้านเรามันแย่ขนาดไหนหรือต้องรอให้แม่มึงเทียวขับรถลงไปสำรวจพื้นดินอีก”
วิทยาที่กำลังจะอ้าปากเถียงก็หุบปากลง
“แล้วอีกอย่างกูก็ไม่ได้ขอให้มึงช่วยออกเงินอะไร กูจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง” ไทแทนพูดต่อ “มึงแค่ช่วยกูขนเศษอิฐแตกพวกนี้ไปก็พอ เร็ว ๆ เข้า”
จากที่แทนไทสำรวจและคำนวณทุกอย่างไว้คร่าว ๆ ทางเข้าหมู่บ้านเขามีความยาวประมาณ 100 เมตร เป็นถนนผิวทางลูกรัง ซึ่งหมายถึงถนนที่มีชั้นผิวทางชั่วคราวหรือพื้นผิวการจราจรที่ทำจากดินลูกรัง กรวด หินผุ หรือ หินคลุกที่มีคุณสมบัติตามกำหนด ถนนผิวทางลูกรังจะมีความแข็งแรงไม่มากนัก เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับการจราจรในปริมาณมาก ๆ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเส้นทางคมนาคมเพื่อสัญจรและส่งสินค้าการเกษตรตามชนบท
ถนนผิวทางลูกรังเป็นถนนที่ชำรุดเสียหายได้ง่ายกว่าถนนประเภทอื่น ความเสียหายของถนนผิวทางลูกรังอาจเกิดจากการจราจรหรือการระบายน้ำผิวทางไม่ดี นอกจากนี้แล้วความเสียหายของถนนยังอาจเกิดมาจากสภาพดินฟ้าอากาศ เช่น การกัดเซาะของน้ำฝน การพัดพาของลม ดังนั้นถนนผิวทางลูกรังจึงควรต้องได้รับการรักษาและซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแผ่วงกว้างออกไป ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการซ่อมบำรุงโดยไม่จำเป็น
“เออ ๆ ยุ่งจริง ๆ เลยมึงเนี่ย” วิทยาบ่นอุบแต่ก็ยอมเข้าไปช่วยแทนไทแต่โดยดี
และแล้วอุปกรณ์และวัสดุทุกอย่างที่จะใช้ในการซ่อมถนนลูกรังทางเข้าหมู่บ้านก็พร้อม
การซ่อมถนนลูกรังของแทนไทในครั้งนี้คือการซ่อมแบบทำการ ‘ปะซ่อม’ มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยากนักและใช้งบน้อยที่สุด โดยการที่ขุดตรงบริเวณหลุมบ่อที่ชำรุดเสียหายเป็นแบบสี่เหลี่ยม จากนั้นก็ใช้เครื่องบดอัดกดทับอัดที่ก้นหลุมให้แน่น ครั้งนี้แทนไทออกเงินส่วนตัวของเขาเองในการซื้อลูกรังหรือก็คือหินแลงเป็นเม็ด ๆ และเพื่อลดปริมาณค่าใช้จ่ายลง เขาจึงผสมมันไปกับเศษอิฐปูนที่แตกละเอียดด้วย หลังจากนั้นก็ใส่ลูกรังใหม่ลงไปเป็นชั้นแรกประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วใช้เครื่องบดอัดเข้าไปให้แน่นอีกรอบ เมื่อเสร็จจากขั้นตอนนี้แล้วก็พรมน้ำลงไปในปริมาณที่ทำให้วัสดุมีความชื้นที่พอเหมาะ เสร็จแล้วก็คลุกเคล้าจนเนื้อวัสดุนั้นเข้ากันได้ดีและมีความชื้นที่สม่ำเสมอทั่วกัน ปาดเกลี่ยแล้วบดอัดด้วยเครื่องมือเฉพาะจุดเพื่อให้ได้ความแน่นตามที่กำหนดอีกครั้ง ชั้นสุดท้ายก็ใส่ลูกรังเพิ่มเข้าไปอีกให้สูงพ้นจากปากหลุมประมาณ 3 เซนติเมตร พรมน้ำและคลุกเคล้าให้ความชื้นสม่ำเสมอเหมือนเดิม จากนั้นก็บดอัดให้แน่นและทำการปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบเสมอกับทางเดิน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“เฮ้ย! ไอ้แทน ไอ้วิทย์ นี่พวกเอ็งมาซ่อมถนนกันเองเลยเหรอวะ ดี จริง ๆ”
เสียงของชาวบ้านและรถราที่สัญจรผ่านมาไปแถวนั้นต่างหยุดดูสองชายหนุ่มที่ช่วยกันซ่อมถนนอย่างขะมักเขม้น
“โอ๊ย! ป้า ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยหรอก เป็นไอ้แทนโน้นที่เป็นคนต้นคิด และมันก็เป็นคนออกเงินซื้อวัสดุทั้งหมดเองด้วย ผมแค่โดนมันลากมาช่วยเฉย ๆ” วิทยาตะโกนตอบกลับไป และนั่นก็ต่างทำให้สายตาของทุกคู่จับจ้องไปยังแทนไททันที
“นิด ๆ หน่อย ๆ เองครับ พวกเราจะได้ไม่ต้องมีใครเดินตกหลุมตกบ่อให้บาดเจ็บกันอีก” แทนไทตะโกนตอบไปบ้าง
“ไอ้แทนเอ๊ย เอ็งนี่ไฟแรงดีจริง ๆ แถมยังมีน้ำใจอีก ถ้าพวกคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบมันกระตือรือร้นได้สักครึ่งหนึ่งของเอ็งก็คงจะดีไม่น้อย”
“เออ จริงด้วย ไอ้พวกหน่วยงานที่ควรจะต้องรับชอบกลับหายหัว”
“นั่นสิ”
เสียงพูดคุยของชาวบ้านละแวกนั้นต่างโต้ตอบกันไปมาอย่างออกรสออกชาติ แทนไทไม่ได้สนใจอีก รีบก้มหน้าก้มตาซ่อมถนนไปตามจุดต่าง ๆ จนครบ ถึงแม้มือจะบวกช้ำจากการขุดถนนมาเกือบทั้งวันแต่เขาก็ไม่คิดปริปากบ่น จนกระทั่งตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้าลงไปนั่นแหละก็พอดีกับหลุมบ่อสุดท้ายที่ถูกพวกเขาซ่อมแซมเสร็จ
แทนไทกมือขึ้นปาดเหงื่อจากหน้าผากของตัวเองและมองไปยังถนนเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม... ในที่สุดเขาก็สร้างถนนเล็ก ๆ นี้ขึ้นมาใหม่ให้แม่ของเขาเดินโดยไม่สะดุดตกหลุมได้แล้ว
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก
แสงแดดยามเช้าของวันจันทร์ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องทำงานที่แทรกตัวอยู่กลางอาคารสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง แทนไทนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าหนักแน่นกว่าทุกวัน ถึงแม้เขาจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจจากบทลงโทษทางวินัยในมาในช่วงก่อนหน้า แต่สายตาของเขายังคงเต็มเปี่ยมด้วยเป้าหมายและแรงผลักดันเหมือนเดิมเขาเปิดแฟ้มโครงการที่เคยนำเสนอลงบนโต๊ะ พลางไล่สายตาอ่านบันทึกการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับเปิดเครื่องบันทึกเสียงจากมือถือเพื่อทบทวนคำพูดที่ลุงทวีเคยพูดไว้“ในชีวิตข้าทำงานสายนี้มาก็หลายสิบปี ไอ้ที่สำคัญไม่ใช่แค่ถนนจะตัดตรงไหน แต่มันอยู่ที่ว่าเราทำเพื่อใครต่างหากล่ะ”คำพูดนั้นยังดังก้องอยู่ในใจของเขาเสมอเสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้น“แทน ผมขอเข้าไปหน่อยนะ” เสียงของหัวหน้าเอ่ยดังขึ้นจากหน้าห้อง“เชิญครับหัวหน้า” แทนไทลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพหัวหน้าก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับของผู้ที่ผ่านประสบการณ์มานับไม่ถ้วน“แทน ผมชี้แจงบทลงโทษเกี่ยวกับรายงานของจังหวัดนั้นแล้วนะ เรื่องที่เขาแจ้งเตือนพฤติกรรมคุณ”แทนไทพยักหน้ารับเบา ๆ“ผมผิดเองครับหัวหน้า ผมใจร้อนไปหน่อย ผมอยากให้ชาวบ้านมีทางเดิน
ท้องฟ้ายามเช้าของเมืองหลวงยังคงครึ้มเทา แม้ไม่มีฝนตก แต่เมฆสีหม่นนั้นก็ทำให้บรรยากาศดูอึมครึมและกดดันไม่ต่างจากจิตใจของแทนไทในเวลานี้ รถยนต์คันเดิมที่เขาขับอยู่แล่นไปบนถนนด้วยความเร็วคงที่ ใจของเขาหนักอึ้งกว่าที่เคยเป็นมาในช่วงหลายเดือนเมื่อคืนเขาใช้เวลาคิดอยู่ทั้งคืน ว่าเขาควรทำอย่างไรดีหลังจากที่ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดไปถึงระดับจังหวัดว่ามีวิศสวกรจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองคนหนึ่งลงมือสร้างถนนเส้นทางลัดในพื้นที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติให้สร้าง ซึ่งนั่นหมายถึงตัวเขาโดยตรง และแทนไทก็ไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่จนนำไปสู่การฟ้องร้องหรือคดีความ เขาจึงตัดสินใจจะเดินทางไปที่สำนักงานจังหวัดในเช้าวันนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมยอมรับฟังทุกคำตักเตือนเมื่อรถของแทนไทมาถึงหน้าอาคารสำนักงาน เขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก้าวออกจากรถพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องในมือ แม้จะรู้ดีว่าในทางระเบียบนั้นตนเองพลาดที่ลงมือก่อนคำอนุมัติ แต่หัวใจของเขาก็ยังมั่นคงว่าตนเองกระทำไปเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของชาวบ้านและส่วนรวมทั้งสิ้นเขาถูกเรียกให้เข้าไปยังห้องประชุมชั้นสามของอาคาร หน้าห้องมีป้ายเล็ก ๆ ติด
ช่วงเช้าของวันหยุดยาว แทนไทขับรถกระบะเก่า ๆ ที่เขาผูกพันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดบ้านเกิด สองข้างทางเป็นทุ่งนาเขียวขจี ฝนที่ตกลงมาเมื่อคืนก่อนทำให้ผิวดินยังชุ่มชื้นและมีกลิ่นสดชื่นของธรรมชาติอบอวลในอากาศบ้านของแทนไทอยู่ในชุมชนที่ชื่อว่า ‘บ้านดอนกลาง’ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของเขตอำเภอ พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านนี้เป็นทุ่งนา สวนผลไม้ และป่าชุมชนที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้อย่างดี แทนไทจอดรถหน้าบ้านไม้ใต้ถุนสูงของแม่วิไล หญิงวัยหกสิบต้น ๆ ที่ยังแข็งแรงและขยันขันแข็งเหมือนเช่นทุกวัน“แม่! แทนมาแล้วครับ” แทนไทร้องเรียกขณะที่เดินขึ้นบันไดบ้าน กลิ่นข้าวสวยหอมกรุ่นลอยมากระทบจมูก“อ้าว แทนมาแล้วเหรอ มาทันกินข้าวพอดีเลย” วิไลยิ้มกว้าง รินน้ำใส่แก้วให้ลูกชาย ก่อนจะยกหม้อข้าวและแกงส้มมาวางลงบนโต๊ะไม้กลางบ้านหลังจากนั่งทานข้าวและพูดคุยถึงชีวิตในกรุงเทพฯ ได้สักพัก วิไลก็เปรยเรื่องหนึ่งที่ทำให้แทนไทตั้งใจฟังมากขึ้น“ช่วงนี้ผู้ใหญ่บ้านเขาไปยื่นเรื่องของงบประมาณเพื่อทำถนนจากโรงเรียนไปตลาดใหญ่นะลูก แต่ก็โดนปฏิเสธมาแล้วสอ
แสงแดดยามเช้าลูบไล้ปลายใบไม้เบา ๆ ขณะที่สายลมฤดูร้อนพัดผ่านราวกับกำลังกระซิบบอกแทนไทว่า ถึงเวลาที่ต้องกลับมาลุยอีกครั้งแล้ว หลังจากใช้เวลาในภาคใต้เพื่อพักกายพักใจ เขาก็กลับมายังห้องทำงานเล็ก ๆ ในสำนักงานกรมโยธาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สถานที่ที่เขาคุ้นเคย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ยกเว้นเพียงแค่ความคิดและหัวใจของเขาที่เปลี่ยนไปบนโต๊ะทำงานมีแผนที่เก่าใบหนึ่งที่เขาพับไว้อย่างทะนุถนอม มันคือแผนที่ที่ลุงทวีเคยส่งมอบให้ ซึ่งกลายเป็นเหมือนแสงไฟนำทางให้เขาอีกครั้งแทนไทเปิดแผนที่ใบนั้นออก กระดาษเก่ากรอบที่มีรอยพับตามกาลเวลาเผยให้เห็นลายเส้นทางเก่าที่บางส่วนถูกลืมไปจากระบบราชการปัจจุบัน เขาจ้องมองมันราวกับจะมองทะลุเข้าไปยังอดีตของถนนสายที่ไม่เคยได้ถูกสร้าง“ลุงครับ เส้นทางตรงจุดนี้ ถ้าผมต่อมันเข้ากับทางสายหลัก จะช่วยให้ชาวบ้านบนดอยเดินทางลงมาโรงพยาบาลได้สะดวกขึ้นจริง ๆ ใช่ไหมครับ” แทนไทเอ่ยถามผ่านสายโทรศัพท์เสียงของลุงทวีจากปลายสายฟังดูอบอุ่นแม้จะผ่านระยะทางไกล“ใช่ แถวนี้ลุงเคยลงพื้นที่เองเมื่อสิบกว่าปีก่อน มันเป็นทางดินเก่า บางช่วงเป็นแค่ทางเดินสัตว์ แต่ถ้าทำจริง มันจะเปลี่ยนชีวิตคนได้เลยนะ แค่ม
เสียงลมหายใจของทะเลกระทบฝั่งดังเป็นจังหวะช้า ๆ แผ่วเบา แทนไทยืนอยู่บนชายหาด มองเส้นขอบฟ้าที่ค่อย ๆ กลืนแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเย็นเข้าไปในม่านฟ้าสีส้มอมชมพู หลังจากวันที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความคิด ฟ้าสีนี้คล้ายกับกำลังปลอบประโลมหัวใจของเขาให้เบาลง อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้“สวยใช่ไหมคะ” เสียงของดาวดังแว่วมาจากด้านข้าง หญิงสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดตาเดินเท้าเปล่าลงบนผืนทราย เธอส่งยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่ไม่ต้องพยายามแต่งแต้มมองทีไรก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนใจเขาสั่น“ครับ พี่ไม่เคยรู้เลยว่าแค่ฟังเสียงคลื่นกับดูพระอาทิตย์ตกมันจะทำให้รู้สึกสงบได้ขนาดนี้” แทนไทตอบ เขาไม่ได้พูดเล่นเลย ถึงแม้จะเคยเดินทางมาแทบทุกภาคของประเทศ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ความเหนื่อยล้าจะหลุดออกไปจากใจจากกายง่ายเท่าครั้งนี้ดาวยิ้มอีกครั้ง พลางเดินนำเขาไปนั่งที่เปลผ้าริมชายหาดใต้ต้นสนทะเลที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เธอหยิบกระบอกน้ำไม้ไผ่ออกมายื่นส่งให้“น้ำสมุนไพรเย็น ๆ ค่ะ ดาวทำเอง รับประกันพี่จะสดชื่นหายเหนื่อยแน่นอน”แทนไทหัวเราะเบา ๆ “ขอบคุณครับ น้องดาวดูจะเตรียมตัวมาดีจัง”“แน่นอนสิคะ ดาวเป็นไกด์ประจำเ