หน้าหลัก / อื่น ๆ / เส้นทางเชื่อมใจ / บทที่ 2 ทางลูกรังที่บ้าน

แชร์

บทที่ 2 ทางลูกรังที่บ้าน

ผู้เขียน: Bosskerr
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-13 00:05:19

ตกเย็น... แทนไทยังคงเดินทางกลับบ้านด้วยเส้นทางเดิม รถกระบะคันเก่าของเพื่อนที่ไซต์งานที่เขามักจะติดมาประจำจอดอยู่ที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน

“ขอบใจนะ แล้วเจอกัน” แทนไทตะโกนบอกคนในรถแล้วโบกมือให้ จากนั้นรถก็แล่นออกไป

“ตกลงคืนนี้มึงจะไม่ไปกินเหล้ากับพวกกูแน่นะ” วิทยาเอ่ยถามแทนไทอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ไม่อ่ะ พวกมึงตามสบายเหอะ แต่อย่าลืมว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นมาช่วยกูล่ะ” แทนไทเอ่ยปฏิเสธ

“เออ ๆ รู้แล้วน่า แล้วมึงจะบอกกูได้ยังว่าพรุ่งนี้มึงจะทำอะไร วันหยุดทั้งทีนะไอ้แทน กูขอร้องอย่าสรรหาอะไรเหนื่อย ๆ มาให้กูทำนะ กูไหว้แหละ” วิทยายกมือไหว้ท่วมหัวปรก ๆ

แทนไทไม่ตอบ เขาทำเพียงแค่โบกไม้โบกมือให้แล้วหันหลังเพื่อเดินตรงกลับบ้าน

“อ้าว ไอ้แทน ไอ้แทนโว๊ย!”

ตลอดทางที่เดินกลับ... แทนไทมองหลุมเล็กหลุมน้อยที่กระจัดกระจายอยู่เป็นหย่อม ๆ อย่างเงียบ ๆ เขาล้วงหยิบเอาสมุดพกเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาจดอะไรบางอย่างลงไป โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตกลงมา แต่ทว่าท้องฟ้าก็ส่อแววตั้งเค้ามาลาง ๆ

“อ้าว ไอ้แทน กลับมาแล้วเรอะ” ป้าแจ๋วที่ขายขนมจีนข้างบ้านเอ่ยร้องทักแทนไทขณะที่ปั่นจักรยานผ่าน

“ครับป้า” แทนไทก้มหัวเล็กน้อยแล้วส่งยิ้มกลับไป เขามองเห็นดินโคลนกระจุกใหญ่ติดอยู่ที่ขาและน่องของป้าแจ๋ว และพอสังเกตให้ดีก็เห็นว่าตรงแฮนด์จักรยานและตะกร้าหน้ารถก็มีดินโคลนติดอยู่ด้วยเหมือนกัน

“เออ เอ็งเดินก็ระวังดี ๆ ล่ะ ไอ้หลุมบ่อใหญ่ข้างหน้าน่ะไม้กระดานมันหักอีกแล้ว แม่เจ้าโว๊ย! ไม่รู้ชาติไหนจะมีถนนดี ๆ กับเขาใช้บ้าง” ป้าแจ๋วบ่นกระปอดประแปดอย่างหัวเสีย ดูท่าทางแบบนี้คงขับจักรยานลงไปสำรวจหลุมมาอีกแล้วแน่ ๆ

แทนไทยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากตอบอะไรป้าแจ๋วก็ขับจักรยานผ่านไปแล้ว ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าว่ากันตามจริงแล้วทางเข้าในหมู่บ้านนี้ก็มีหลายทาง ตัวบ้านเรือนก็มีอยู่สองฝั่ง คั่นกลางด้วยสะพานไม้เล็ก ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา สามารถสัญจรผ่านได้เพียงจักรยานและรถมอเตอร์ไซค์เพียงเท่านั้น รถยนต์ต้องอ้อมไปอีกทาง ต้องมานั่งลุ้นรายวันว่ามันจะถล่มแตกหักลงมาตอนไหน เคยมีชาวบ้านร้องเรียนไปทางผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดต่อประสานงานไปยัง อบต. ให้เข้ามาดูแลและซ่อมแซมให้ แต่ทว่าติดต่อไปกี่ครั้งก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการขอเบิกงบประมาณและรอให้เป็นไปตามขั้นตอน ทำให้จนถึงตอนนี้ถนนลูกรังเส้นนี้และสะพานไม้ที่ใช้ข้ามผ่านระหว่างหมู่บ้านก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที

แทนไทถอนหายใจยาว ๆ ออกมาอีกครั้ง รู้สึกเหนื่อยใจกับการทำงานของรัฐที่สุดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คงมีเพียงแต่ต้องดิ้นรนหาทางเอาเองไปก่อนเท่านั้น

“เอ็งทำอะไรอยู่วะไอ้แทน มืดค่ำป่านนี้ยังไม่หลับไม่นอน” วิไลเอ่ยถามผู้เป็นลูกชาย เพราะเธอเห็นแทนไทกลับมาถึงบ้านอาบน้ำตั้งนานแล้ว

“พรุ่งนี้วันหยุดน่ะแม่” แทนไทเงยหน้าจากสมุดพกที่เขาใช้จดอะไรบางอย่างลงไปในนั้นตั้งแต่เมื่อกลางวัน

“เออ แล้วกำลังจดอะไรอยู่ล่ะนั่น”

“นี่น่ะเหรอครับ” แทนไทอ่านทวนอีกครั้งแล้วจึงยิ้มออกมา “ผมกำลังจดรายการพวกค่าวัสดุที่จะไปซื้อมาทำถนนในวันพรุ่งนี้ครับ”

“ทำถนนเหรอ?” วิไลถามด้วยน้ำเสียงงุนงง

“ครับ ก็ถนนทางเข้าหมู่บ้านของพวกเราไงล่ะแม่”

วิไลเมื่อได้ยินคำตอบของแทนไทก็ถึงกับชะงัก “ยังไงนะ ข้างงไปหมดแล้ว นี่ทาง อบต. ให้คนมาทำแล้วเหรอ”

“อบต. อะไรกันล่ะแม่ ยังไม่มี อบต. ไหนหรือใครมาทำให้ทั้งนั้นแหละ ผมจะทำของผมเอง ด้วยเงินของผม”

“ฮะ! เอ็งว่ายังไงนะ เอ็งเนี่ยนะจะทำเอง”

“ก็ใช่ไงแม่ ยังไงผมก็ทำงานไซต์ก่อสร้างนะ ถึงจะเป็นแค่ช่างปูนธรรมดา ๆ แต่ผมก็พอรู้ว่าไอ้ถนนที่ดีน่ะมันควรจะทำยังไง”

ใช่... ถึงจะไม่ได้ดีจนถึงขนาดใช้งานไปได้อีกเป็นสิบ ๆ ปี แต่ก็ยังพอบรรเทาแก้ขัดไปได้สักระยะหนึ่ง เขาเองก็ไม่อยากเห็นแม่ต้องเผลอตกลงไปสำรวจหลุมนั่นอีกแล้ว รวมทั้งชาวบ้านคนอื่น ๆ ด้วย

“ข้ารู้ว่าเอ็งน่ะทำได้ แต่ว่ามันจะไม่หนักเกินไปเหรอไอ้แทน มันต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ ข้าว่ารอให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาทำดีกว่าไหม”

วิไลรู้ว่าแทนไทเป็นคนเก่ง ถึงจะเป็นแค่ช่างที่ไซต์งานก่อสร้างธรรมดาทั่วไป แต่ลูกชายของเธอก็ทำได้แทบทุกอย่าง เสียดายก็แต่ที่แทนไทไม่ได้เรียนต่อให้สูงกว่านี้ตามความฝัน

“แม่ไม่ต้องห่วง ผมมีวิธี ใช้เงินไม่ได้มากมายอะไร รับรองว่าไม่ทำให้บ้านเราลำบากแน่นอนครับ”

แทนไทพูดให้วิไลสบายใจ เงินส่วนนี้เป็นเงินที่เขาเก็บแยกต่างหาก ที่จริงแทนไทมีความคิดที่จะทำเองมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เขารอเวลาเผื่อว่าทางหน่วยงานจะเข้ามาทำให้ก่อน แต่ทว่าดูท่าแล้วเขาคงจะต้องลงมือทำเองจริง ๆ ถ้าขืนมัวแต่รอ มีหวังแม่ของเขาอาจจะต้องขาหักเข้าสักวัน

“เออ ๆ ตามใจเอ็งแล้วกัน แต่ก็ทำเท่าที่ไหวนะ อย่าทำอะไรที่มันหนักตัวเองมากเกินไป มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา”

“ครับแม่”

ถึงปากจะตอบผู้เป็นแม่ออกไปแบบนั้น แต่ในใจเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้นเลย คนอย่างเขาไม่อยากเพียงแค่เกิดมาแล้วใช้ชีวิตเพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองไปวัน ๆ เท่านั้น สำหรับแทนไทแล้ว เขาคิดว่าคนเราถ้าพอมีแรงและมีกำลังเหลือก็ควรจะสร้างประโยชน์หรือช่วยเหลือสังคมบ้างไม่มากก็น้อย

วันรุ่งขึ้น

“ไอ้แทน นี่มึงพากูมาที่นี่ทำไมวะ” วิทยาเอ่ยถามแทนไทในเช้าของวันถัดมา ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือกองเศษอิฐหัก ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจากไซต์งานก่อสร้างที่พวกเขาทำงานอยู่

“เออ มึงมาช่วยกูขนเศษอิฐที่ไม่ได้ใช้พวกนี้ขึ้นรถที” แทนไทตอบกลับแล้วรีบหยิบอุปกรณ์ที่อยู่หลังรถกระบะลงไป

“เดี๋ยว ๆ ไอ้แทน มึงจะเอาเศษอิฐพวกนี้ไปทำอะไรวะ”

“กูจะเอาไปซ่อมถนนทางเข้าหมู่บ้านเรา” แทนไทไขข้อข้องใจของเพื่อนรัก และนั่นก็ทำให้วิทยาถึงกับร้อง ‘ฮะ!’ ออกมา

“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่าที่ปลุกให้กูตื่นมาแต่เช้าในวันหยุดแบบนี้ก็เพราะจะให้กูมาช่วยมึงซ่อมถนนอ่ะ”

“ใช่”

วิทยาได้ยินแบบนั้นก็แทบจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกแทนไทดึงคอเสื้อไว้

“มึงจะไปไหนวะไอ้วิทย์ อย่ามัวลีลา รีบ ๆ มาช่วยกูเร็วเข้า”

“โอ๊ย! ไอ้แทน มึงนี่หาเรื่องจริง ๆ เลยนะ มันใช่หน้าที่ของมึงไหม จะหาเรื่องให้ตัวเองเหนื่อยทำไมก่อน” ก็พอจะรู้อยู่แหละนะว่าไอ้แทนเพื่อนของเขานั้นเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่แบบนี้มันก็ออกจะมีน้ำใจมากเกินไปหน่อย

“มันก็ไม่ใช่งานหนักหนาอะไรไหม ก็แค่ซ่อมพวกตรงที่เป็นหลุมเป็นบ่อนิดหน่อยเท่านั้นเอง มึงไม่เห็นเหรอว่าทางเข้าหมู่บ้านเรามันแย่ขนาดไหนหรือต้องรอให้แม่มึงเทียวขับรถลงไปสำรวจพื้นดินอีก”

วิทยาที่กำลังจะอ้าปากเถียงก็หุบปากลง

“แล้วอีกอย่างกูก็ไม่ได้ขอให้มึงช่วยออกเงินอะไร กูจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง” ไทแทนพูดต่อ “มึงแค่ช่วยกูขนเศษอิฐแตกพวกนี้ไปก็พอ เร็ว ๆ เข้า”

จากที่แทนไทสำรวจและคำนวณทุกอย่างไว้คร่าว ๆ ทางเข้าหมู่บ้านเขามีความยาวประมาณ 100 เมตร เป็นถนนผิวทางลูกรัง ซึ่งหมายถึงถนนที่มีชั้นผิวทางชั่วคราวหรือพื้นผิวการจราจรที่ทำจากดินลูกรัง กรวด หินผุ หรือ หินคลุกที่มีคุณสมบัติตามกำหนด ถนนผิวทางลูกรังจะมีความแข็งแรงไม่มากนัก เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับการจราจรในปริมาณมาก ๆ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเส้นทางคมนาคมเพื่อสัญจรและส่งสินค้าการเกษตรตามชนบท

ถนนผิวทางลูกรังเป็นถนนที่ชำรุดเสียหายได้ง่ายกว่าถนนประเภทอื่น ความเสียหายของถนนผิวทางลูกรังอาจเกิดจากการจราจรหรือการระบายน้ำผิวทางไม่ดี นอกจากนี้แล้วความเสียหายของถนนยังอาจเกิดมาจากสภาพดินฟ้าอากาศ เช่น การกัดเซาะของน้ำฝน การพัดพาของลม ดังนั้นถนนผิวทางลูกรังจึงควรต้องได้รับการรักษาและซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแผ่วงกว้างออกไป ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการซ่อมบำรุงโดยไม่จำเป็น

“เออ ๆ ยุ่งจริง ๆ เลยมึงเนี่ย” วิทยาบ่นอุบแต่ก็ยอมเข้าไปช่วยแทนไทแต่โดยดี

และแล้วอุปกรณ์และวัสดุทุกอย่างที่จะใช้ในการซ่อมถนนลูกรังทางเข้าหมู่บ้านก็พร้อม

การซ่อมถนนลูกรังของแทนไทในครั้งนี้คือการซ่อมแบบทำการ ‘ปะซ่อม’ มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยากนักและใช้งบน้อยที่สุด โดยการที่ขุดตรงบริเวณหลุมบ่อที่ชำรุดเสียหายเป็นแบบสี่เหลี่ยม จากนั้นก็ใช้เครื่องบดอัดกดทับอัดที่ก้นหลุมให้แน่น ครั้งนี้แทนไทออกเงินส่วนตัวของเขาเองในการซื้อลูกรังหรือก็คือหินแลงเป็นเม็ด ๆ และเพื่อลดปริมาณค่าใช้จ่ายลง เขาจึงผสมมันไปกับเศษอิฐปูนที่แตกละเอียดด้วย หลังจากนั้นก็ใส่ลูกรังใหม่ลงไปเป็นชั้นแรกประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วใช้เครื่องบดอัดเข้าไปให้แน่นอีกรอบ เมื่อเสร็จจากขั้นตอนนี้แล้วก็พรมน้ำลงไปในปริมาณที่ทำให้วัสดุมีความชื้นที่พอเหมาะ เสร็จแล้วก็คลุกเคล้าจนเนื้อวัสดุนั้นเข้ากันได้ดีและมีความชื้นที่สม่ำเสมอทั่วกัน ปาดเกลี่ยแล้วบดอัดด้วยเครื่องมือเฉพาะจุดเพื่อให้ได้ความแน่นตามที่กำหนดอีกครั้ง ชั้นสุดท้ายก็ใส่ลูกรังเพิ่มเข้าไปอีกให้สูงพ้นจากปากหลุมประมาณ 3 เซนติเมตร พรมน้ำและคลุกเคล้าให้ความชื้นสม่ำเสมอเหมือนเดิม จากนั้นก็บดอัดให้แน่นและทำการปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบเสมอกับทางเดิน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

“เฮ้ย! ไอ้แทน ไอ้วิทย์ นี่พวกเอ็งมาซ่อมถนนกันเองเลยเหรอวะ ดี จริง ๆ”

เสียงของชาวบ้านและรถราที่สัญจรผ่านมาไปแถวนั้นต่างหยุดดูสองชายหนุ่มที่ช่วยกันซ่อมถนนอย่างขะมักเขม้น

“โอ๊ย! ป้า ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยหรอก เป็นไอ้แทนโน้นที่เป็นคนต้นคิด และมันก็เป็นคนออกเงินซื้อวัสดุทั้งหมดเองด้วย ผมแค่โดนมันลากมาช่วยเฉย ๆ” วิทยาตะโกนตอบกลับไป และนั่นก็ต่างทำให้สายตาของทุกคู่จับจ้องไปยังแทนไททันที

“นิด ๆ หน่อย ๆ เองครับ พวกเราจะได้ไม่ต้องมีใครเดินตกหลุมตกบ่อให้บาดเจ็บกันอีก” แทนไทตะโกนตอบไปบ้าง

“ไอ้แทนเอ๊ย เอ็งนี่ไฟแรงดีจริง ๆ แถมยังมีน้ำใจอีก ถ้าพวกคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบมันกระตือรือร้นได้สักครึ่งหนึ่งของเอ็งก็คงจะดีไม่น้อย”

“เออ จริงด้วย ไอ้พวกหน่วยงานที่ควรจะต้องรับชอบกลับหายหัว”

“นั่นสิ”

เสียงพูดคุยของชาวบ้านละแวกนั้นต่างโต้ตอบกันไปมาอย่างออกรสออกชาติ แทนไทไม่ได้สนใจอีก รีบก้มหน้าก้มตาซ่อมถนนไปตามจุดต่าง ๆ จนครบ ถึงแม้มือจะบวกช้ำจากการขุดถนนมาเกือบทั้งวันแต่เขาก็ไม่คิดปริปากบ่น จนกระทั่งตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้าลงไปนั่นแหละก็พอดีกับหลุมบ่อสุดท้ายที่ถูกพวกเขาซ่อมแซมเสร็จ

แทนไทกมือขึ้นปาดเหงื่อจากหน้าผากของตัวเองและมองไปยังถนนเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม... ในที่สุดเขาก็สร้างถนนเล็ก ๆ นี้ขึ้นมาใหม่ให้แม่ของเขาเดินโดยไม่สะดุดตกหลุมได้แล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 21 เส้นทางสุดท้ายที่เดินร่วมกัน

    สายลมยามเย็นพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในสนามบอลชุมชน แสงแดดสีทองทอผ่านใบไม้สาดกระทบใบหน้าของแทนไท เขายืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่บัดนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้แข็งแรงและอบอุ่นขึ้น แต่ยังคงเก็บรายละเอียดเดิมไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้กระดานที่เคยเดินเล่นกับแม่ ยันชานบ้านที่เขาเคยหอบเสื่อ มุ้ง หมอนมามองท้องฟ้าในวัยเยาว์แทนไทในวัย 65 ปี หัวใจยังเต็มเปี่ยมเหมือนวัยหนุ่ม แม้จะไม่สามารถปีนขึ้นลงชั้นสองได้คล่องเหมือนเดิมแล้ว แต่วันนี้เขาก็ยังรู้สึกอยากมองวิวจากมุมเดิม มุมที่เขาเคยนั่งอยู่กับแม่ มองถนนเส้นเล็ก ๆ ด้านล่างถนนเส้นเดิมที่แม่ของเขาเคยเดินผ่านเพื่อหาบขนมหวานไปขายแล้วตกหลุมบ่อจนปาดเจ็บ ถนนเส้นนั้นที่เขาได้เป็นคนซ่อมแซมมัน ถนนเส้นนั้นที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเขา“เขาเป็นใครกันเหรอแม่” เสียงเด็กชายคนหนึ่งถามขณะวิ่งผ่านหน้าบ้านไปพร้อมกลุ่มเพื่อน“นั่นแหละ คนที่ทำให้หนูเดินไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้นทุกวันนี้ไงลูก” เสียงแม่ของเด็กคนนั้นตอบกลับอย่างภูมิใจแทนไทได้ยินประโยคนั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในหัวใจ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดรับ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 20 สร้างถนน สร้างเส้นทางมั่นคงของหัวใจ

    เสียงเปิดแฟ้มเอกสารดังแผ่วเบาภายในห้องประชุมของกรมทางหลวง แทนไทนั่งเงียบอยู่ตรงหัวโต๊ะ สายตาอ่านผ่านเอกสารฉบับหนึ่งไปยังอีกฉบับด้วยความตั้งใจอย่างไม่ลดละ ด้านข้างของเขาคือแผนที่ที่ถูกขีดเขียนวางแนวเส้นทางจนลายเส้นหนาทึบเหมือนชั้นหินทับซ้อน“นี่คือโครงการที่รัฐบาลอนุมัติล่าสุดนะแทนไท” เสียงของหัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเอ่ยขึ้น พร้อมส่งเอกสารอีกชุดหนึ่งให้เขาแทนไทเงยหน้าขึ้น พยักหน้าช้าๆ เขารับแฟ้มมาก่อนจะเปิดดู หน้าปกระบุชื่อโครงการว่า “มอเตอร์เวย์สายตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ”“ทางด่วนสายใหม่นี้จะเชื่อมจากชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกทะลุไปถึงจังหวัดทางเหนือ ใช้ตัดผ่านถึง 7 จังหวัด กินระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 4 ปี มีคุณเป็นผู้ควบคุมโครงการโดยตรง” หัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานอธิบายแทนไทนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”นับจากวันนั้น เขาเริ่มเข้าสู่การทำงานอย่างเต็มรูปแบบในโครงการระดับชาตินี้ แม้จะใช้เวลาก่อสร้างนานถึงสี่ปี แต่ในทุกปี ทุกเดือน และทุกสัปดาห์ของการทำงาน เขาไม่เคยผ่อนแรงหรือปล่อยผ่านรายละเอียดเลยแม้แต่น้อยภายในไซต์งานกลางหุบเ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 19 ความสำเร็จที่มามาพร้อมกับคำขอบคุณ

    เช้าตรู่ของวันจันทร์ แสงแดดอ่อน ๆ สาดลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ ที่หน้าต่างห้องพักของแทนไท เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงไม่ต่างจากวันแรกที่ยืนต่อหน้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเสนอโครงการครั้งแรก มือของเขาลูบผ่านปกเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ข้างเตียงอย่างเบามือ ทุกอย่างต้องพร้อม ทุกอย่างต้องเป๊ะในวันนี้ วันประชุมใหญ่ประจำเดือนของกรมทางหลวงที่สำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯแทนไทนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่จากหลากหลายแผนกและตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ห้องประชุมกว้างใหญ่เงียบกริบเมื่อเสียงประธานเปิดการประชุมจบลง และแทนไทก็ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนำเสนอในลำดับแรก“ผมขอเริ่มต้นด้วยโครงการเส้นทางตัดผ่านจากหมู่บ้านปากคลองสำราญไปยังโรงเรียนบ้านทุ่งหญ้าคา จังหวัดพัทลุงครับ” แทนไทกล่าว พลางคลิกเปิดสไลด์ที่เตรียมไว้ภาพแผนที่ถูกฉายขึ้นหน้าจอพร้อมกับกราฟิกที่แสดงเส้นทางที่เด็ก ๆ ต้องนั่งเรือข้ามคลองไปโรงเรียนทุกวัน เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังขึ้นจากบางมุม“ปัจจุบัน เด็ก ๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางไปโรงเรียนในแต่ละวัน ต้องพึ่งเรือโดยสารที่มีอยู่เพียงสองลำ ซึ่งหากฝน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 18 ทางเลือกในมือเรากับแสงดาวในหัวใจ

    หลังจากกลับจากหมู่บ้านบนดอย แทนไทเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกอบอุ่นจากรอยยิ้มและคำขอบคุณของชาวบ้านยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเขา กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง คำพูดที่แสนจริงใจของผู้ใหญ่บ้าน เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่รับขนมจากมือของเขา และสายตาแห่งความหวังจากคนทั้งหมู่บ้าน มันหล่อหลอมใจเขาจนแน่นหนา เขารู้เพียงว่าจะต้องไม่ยอมแพ้ทันทีที่กลับมาถึง เขาจัดโต๊ะทำงาน เปิดโน้ตบุ๊ก และเริ่มลงมือเขียนโครงการเส้นทางลัดจากหมู่บ้านบนดอยสู่ตัวอำเภออย่างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยทำมา ทำมันด้วยความรอบคอบมากกว่าครั้งไหน ๆ เขาอ่านเอกสารอ้างอิงซ้ำไปซ้ำมา นั่งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิค ทบทวนเส้นทางบนแผนที่ที่เขาศึกษาไว้ทั้งคืนจนกระทั่งดวงตาเริ่มพร่ามัวแต่ในขณะที่เขากำลังจะพักสายตา เขาก็นึกถึงภาพหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจตอนที่เขาไปเที่ยวพักร้อนภาคใต้ในช่วงนั้น ภาพของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ริมคลองใกล้กับตัวเมืองก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ เด็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่องเรือข้ามคลองเพื่อไปเรียนหนังสือในโรงเรียนอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ทุกเช้าและเย็นเด็ก ๆ ต้องนั่งเรือไปกลับ บางครั้งน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 17 ก้าวเดินด้วยหัวใจและความตั้งใจ

    เสียงเครื่องยนต์รถกระบะสีขาวคู่ใจของแทนไทดังกระหึ่มไปตามถนนที่ลัดเลาะผ่านเนินเขาและหุบเหว เขากำลังเดินทางกลับขึ้นสู่หมู่บ้านบนดอยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยเดินทางมาเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อศึกษาสภาพพื้นที่และฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านด้วยตัวเอง ครั้งนี้เขามาพร้อมกับความหวังใหม่และแผนงานที่วางไว้อย่างรอบคอบกว่าเดิม พร้อมกับคำมั่นในใจว่า จะต้องทำให้โครงการถนนเส้นทางลัดเชื่อมหมู่บ้านบนดอยกับตัวอำเภอเป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม“อาแทนไท!” เสียงเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ริมทางหน้าศาลาหมู่บ้านร้องเรียกด้วยความดีใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง แทนไทยิ้มกว้างก่อนจะจอดรถ เขาเปิดประตูลงมาและหยิบถุงขนมหลายถุงออกจากกระบะหลัง แจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ อย่างที่เคยทำ“อ้าว มาเร็วเด็ก ๆ ทั้งหลาย ยังจำอาได้กันอยู่ไหมเนี่ย” เขาถามพร้อมเสียงหัวเราะ เด็ก ๆ พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น บ้างก็ยื่นมือไปรับขนม บ้างก็โผเข้ากอดเอวเขาไว้แน่น“คราวนี้อามาพร้อมของสำคัญด้วยนะ” แทนไทหยิบแฟ้มเอกสารหนาออกมาจากรถ“จะให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ของทุกคนช่วยเซ็นชื่อสนับสนุนโครงการถนนที่จะสร้างตัดผ่านหมู่บ้านของเราไ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 16 ถนนที่แม่ไม่เคยเห็น

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status