Home / อื่น ๆ / เส้นทางเชื่อมใจ / บทที่ 4 แผนที่ในสมุดขาด ๆ

Share

บทที่ 4 แผนที่ในสมุดขาด ๆ

Author: Bosskerr
last update Huling Na-update: 2025-06-13 00:05:51

“ไอ้แทน วันนี้ข้าจะเข้าเมืองไปซื้อของ เอ็งจะเอาอะไรไหม” วิไลเอ่ยถามแทนไท

“เดี๋ยวนะแม่ นี่มันเพิ่งจะตี 5 เองนะ ออกไปแต่เช้ามืดขนาดนี้เลยเหรอ” แทนไทที่กำลังสะลึมสะลือควานหาโทรศัพท์มือถือเพื่อมาดูเวลา

“เออ ก็ต้องรีบออกแบบนี้แหละ ก็หมู่บ้านเรามันไกลจากในเมืองมากเอ็งก็รู้ ถ้าไม่รีบออกตอนนี้ กว่าจะไปถึง ไหนกว่าจะเลือกซื้อของอีก กว่าเสร็จกลับถึงบ้านก็คงได้มืดค่ำดึกดื่นเอาพอดี

หมู่บ้านของแทนไทนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองจังหวัด โดยปกติแล้วพวกตลาด ร้านค้า อนามัยหรือโรงเรียนก็จะอยู่ที่ตัวอำเภอซึ่งห่างจากหมู่บ้านเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่ทว่าก็จะมีบางครั้งที่ชาวบ้านหรือเจ้าของร้านค้าต่าง ๆ  จะเข้าไปในตัวเมืองเพื่อซื้อสินค้ามาเติม อย่างน้อย ๆ ก็เดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง และแต่ละครั้งก็มักจะนัดวันและเหมารถไปกันทีละเยอะ ๆ

ที่จริงแล้วเส้นทางจากหมู่บ้านของแทนไทที่จะเข้าไปในตัวเมืองเดิมทีก็ไม่ได้ไกลมากขนาดนี้ เพียงแต่ทว่าเส้นทางอีกฝั่งที่ใกล้กว่ามากเป็นพื้นที่เอกชน ที่ดินตรงนั้นมีเจ้าผู้ครอบครองและโฉนดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เดินทีที่ตรงนั้นเป็นตึกพาณิชย์และโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ แต่เมื่อเจ้าของเปลี่ยนย้ายที่ตั้งเข้าไปสร้างอยู่ในตัวเมือง สิ่งก่อสร้างตรงนั้นจึงถูกรื้อถอนและทุบทิ้งออกทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนมาเป็นถนนเส้นทางลัดแบบเก็บค่าผ่านทางเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองแทน และค่าผ่านทางที่เรียกเก็บก็แพงกว่าค่าทางด่วนในเมืองหลวงซะอีก แถมยังเก็บเป็นรายหัวไปกลับ เพราะแบบนั้นถ้าคนไหนที่ไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไปในตัวเมืองมากจึงมักจะยอมเลี่ยงอ้อมไปอีกทาง

“ถ้าไม่เอาอะไรงั้นข้าไปแล้วนะ รถมาจอดรอที่หน้าบ้านผู้ใหญ่แล้ว เช้านี้เอ็งก็หาอะไรกินเองล่ะ เที่ยง ๆ โน่นแหละข้าถึงจะกลับ” วิไลบอกผู้เป็นลูกชายอีกครั้งแล้วเดินออกจากบ้านไป

ด้วยความที่แทนไทยังคงงัวเงียอยู่และยังตื่นไม่เต็มตาเขาจึงหลับต่อไปอีกสักพัก จนกระทั่งได้ยินเสียงผู้คนที่พูดคุยกันและสียงบรรดาเด็กน้อยที่ตะโกนโหวกเหวกนั้นเขาถึงได้ตื่น

เมื่อหุงหากับข้าวกับปลาอย่างง่าย ๆ กินเรียบร้อยแล้วแทนไทก็หยิบกระเป๋าสายพายข้างขึ้นมาแล้วเดินออกจากบ้านไป เป้าหมายของเขาก็คือ โอเลี้ยงเข้ม ๆ หวานมันหอมอร่อยร้านอาโกที่อยู่กลางหมู่บ้าน พวกชาวที่เดินผ่านแทนไทต่างส่งรอยยิ้มให้แล้วทักทายเขา

“อ้าวไอ้แทน วันนี้เอ็งตื่นแต่เช้าเลยนะ”

“จะไปไหนแต่เช้าล่ะแทน”

“เอ็งไม่ได้เข้าไปในเมืองกับแม่เอ็งเรอะ”

ซึ่งแทนไทเองก็ตอบคำถามและทักทายกลับไปทุกคน จนกระทั่งเข้าเดินมาถึงร้านอาโก บังเอิญที่นั่นก็ได้เจอวิทยาเข้าพอดี

“อ้าวไอ้แทน มากินโอเลี้ยงเหมือนกันเหรอ” วิทยาเมื่อเห็นแทนไทก็ร้องทัก

“อาโก ขอโอเลี้ยงเข้ม ๆ แก้วหนึ่งครับ” แทนไทสั่งอาโกที่กำลังยืนชงกาแฟอยู่หน้าร้าน ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งกับวิทยา

“มึงไม่ได้เข้าไปในเมืองกับป้าวิไลเหรอวะ” วิทยาถามแทนไทต่อ

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” แทนไทเองก็ตอบเพียงสั้น ๆ เท่านั้น

“เออ เป็นกูก็ขี้เกียจไป ไกลฉิบหาย นั่งรถจนตูดบานหมด”

“อืม”

“ว่าก็ว่าเถอะนะ ถ้าถนนอีกเส้นมันไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าผ่านทางก็ดี จากที่นี่ถ้าผ่านไปเส้นทางนั้นช่วยย่นระยะทางไปได้อีกตั้งครึ่งแน่ะ แถมไอ้เจ้าของยังเรียกเก็บค่าผ่านทางแต่ล่ะรอบซะแพงยับ นี่มันกะขูดเลือดขูดเนื้อกันชัด ๆ เลย”

วิทยากำลังพูดถึงเรื่องถนนเส้นหลักอีกฝั่งที่แต่ก่อนนั้นเป็นตึกพาณิชและโรงงาน แต่ตอนนี้ถูกทุบทิ้งจนกลายมาเป็นถนนส่วนบุคคลไปแล้ว

“ทำไงได้ล่ะ พื้นที่ตรงนั้นมันเป็นที่ของเขา เขามีสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนพวกเราถ้าไม่อยากเสียค่าผ่านทางก็คงต้องยอมเสียเวลาอ้อมเพื่อไปอีกทางนั่นแหละ”

แทนไทพูดตอบออกไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งวิทยาก็รู้ดีว่าที่เพื่อนของเขาพูดนั้นมันถูกต้องทุกอย่าง

พวกเขาทั้งสองเลือกที่จะไม่ถกถึงเรื่องนี้ต่อกันอีก เพราะต่างรู้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าคิดจะแก้ปัญหาเรื่องนี้จริง ๆ ก็คงจำเป็นจะต้องสร้างถนนเชื่อมต่อกับหมู่บ้านสายใหม่ขึ้นมาเลยมั้ง

“เดี๋ยวกูไปก่อนนะไอ้แทน พอดีมีธุระที่อำเภอต่อว่ะ” หลังจากดื่ม   โอเลี้ยงและพูดคุยกันตามประสาเพื่อนเสร็จวิทยาก็เอ่ยลา

แทนไทล้วงหยิบแบงก์ยี่สิบในกระเป๋าเสื้อออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ “อาโก นี่ค่าโอเลี้ยงนะ”

สองเท้าก้าวย่ำเดินไปตามทางเรื่อย ๆ พลางสูดอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายที่หาไม่ได้ตามเมืองหลวง เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านแต่มุ่งหน้าไปทางสระบัวที่อยู่ตรงแถวเชิงสะพานข้ามฝากของทั้งสองหมู่บ้าน แถมนั้นมีต้นไม้ใหญ่และมีม้านั่งหินอ่อนไว้ให้นั่งเล่นด้วย

เมื่อมาถึงแล้วแทนไทก็นั่งลงแล้วหยิบบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมา... มันคือสมุดพกเก่า ๆ ที่มีรอยขาดเล่มเดิมกับดินสอสองบีหนึ่งแท่ง

แทนไทหลับตาลงพักหนึ่ง สีหน้าก็คล้ายกับกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็เริ่มบรรจงวาดและขีดเขียนบางอย่างลงไปในสมุดเล่นนั้น จากรอยเส้นสีดำหนึ่งรอยค่อย ๆ บรรจงลากจากอีกฝั่งไปยังอีกฝั่ง ข้อนิ้วที่แตกจนด้านจากการหยิบจับทำงานในไซต์ก่อสร้างขยับไปมาอย่างคล่องแคล่ว จะมีบางครั้งที่ชายหนุ่มเหมือนจะหลับตาลงเพื่อนึกอะไรบ้าง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาแล้วก็เริ่มขยับข้อมือขีดเขียนลงในสมุดนั้นต่อ ทำแบบนี้วนซ้ำไปมานานหลายชั่วโมง จนกระทั่งจากเส้นขีดเดียวที่เริ่มวาดลงไปในตอนแรกค่อย ๆ กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว” แทนไทเงยหน้าขึ้นแล้วบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อย จากนั้นก็ก้มลงไปมองสำรวจผลงานของตัวเองตรงหน้าอีกครั้ง รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นมาที่มุมปาก

และสิ่งที่แทนไทนั้นใช้เวลาในการนั่งวาดมาครึ่งค่อนวันก็คือเส้นทางสายใหม่ที่ตัดผ่านผืนป่าเชื่อมหมู่บ้านแห่งนี้ไปยังในตัวเมือง และแน่นอนว่าการคำนวณเส้นทางแผนผังที่เขาวาดขึ้นมาคร่าว ๆ จนมันกลายเป็นรูปเป็นร่างนั้นสามารถใช้ได้จริง แถมยังสะดวกและย่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้อีกเป็นสองเท่าตัว

เมื่อมองสำรวจมันจนพอใจแล้วแทนไทก็พับเก็บสมุดพกเล่มเก่าลงในกระเป๋า เขานั่งอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก ดวงตาคมเข้มทอดมองไปยังสะพานไม้เบื้องหน้า บนนั้นมีทั้งผู้คนและรถจักรยานคันเล็กสัญจรผ่านสวนกันไปมา ใบหน้าต่างก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

แทนไทถอนหายใจออกมาอีกครั้งช้า ๆ สิ่งที่เขาวาดมันลงไปในสมุดเมื่อครู่นี้เป็นเพียงแค่ความคิดเพ้อฝันของเขาเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะอยากทำให้มันเป็นจริงมากขึ้นมามากเท่าไหร่แต่แทนไทก็รู้ว่ามันไม่สามารถเป็นไปได้ และถึงแม้มันจะเป็นไปได้แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น คนตัวเล็ก ๆ ที่เพียงแค่ใจและกำลังจากสองมือมันคงไม่เพียงพอ

จนกระทั่งตะวันเริ่มขึ้นตรงหัว แทนไทจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง อีกไม่นานแม่ของเขาก็น่าจะกลับมาแล้ว

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 21 เส้นทางสุดท้ายที่เดินร่วมกัน

    สายลมยามเย็นพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในสนามบอลชุมชน แสงแดดสีทองทอผ่านใบไม้สาดกระทบใบหน้าของแทนไท เขายืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่บัดนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้แข็งแรงและอบอุ่นขึ้น แต่ยังคงเก็บรายละเอียดเดิมไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้กระดานที่เคยเดินเล่นกับแม่ ยันชานบ้านที่เขาเคยหอบเสื่อ มุ้ง หมอนมามองท้องฟ้าในวัยเยาว์แทนไทในวัย 65 ปี หัวใจยังเต็มเปี่ยมเหมือนวัยหนุ่ม แม้จะไม่สามารถปีนขึ้นลงชั้นสองได้คล่องเหมือนเดิมแล้ว แต่วันนี้เขาก็ยังรู้สึกอยากมองวิวจากมุมเดิม มุมที่เขาเคยนั่งอยู่กับแม่ มองถนนเส้นเล็ก ๆ ด้านล่างถนนเส้นเดิมที่แม่ของเขาเคยเดินผ่านเพื่อหาบขนมหวานไปขายแล้วตกหลุมบ่อจนปาดเจ็บ ถนนเส้นนั้นที่เขาได้เป็นคนซ่อมแซมมัน ถนนเส้นนั้นที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเขา“เขาเป็นใครกันเหรอแม่” เสียงเด็กชายคนหนึ่งถามขณะวิ่งผ่านหน้าบ้านไปพร้อมกลุ่มเพื่อน“นั่นแหละ คนที่ทำให้หนูเดินไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้นทุกวันนี้ไงลูก” เสียงแม่ของเด็กคนนั้นตอบกลับอย่างภูมิใจแทนไทได้ยินประโยคนั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในหัวใจ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดรับ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 20 สร้างถนน สร้างเส้นทางมั่นคงของหัวใจ

    เสียงเปิดแฟ้มเอกสารดังแผ่วเบาภายในห้องประชุมของกรมทางหลวง แทนไทนั่งเงียบอยู่ตรงหัวโต๊ะ สายตาอ่านผ่านเอกสารฉบับหนึ่งไปยังอีกฉบับด้วยความตั้งใจอย่างไม่ลดละ ด้านข้างของเขาคือแผนที่ที่ถูกขีดเขียนวางแนวเส้นทางจนลายเส้นหนาทึบเหมือนชั้นหินทับซ้อน“นี่คือโครงการที่รัฐบาลอนุมัติล่าสุดนะแทนไท” เสียงของหัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเอ่ยขึ้น พร้อมส่งเอกสารอีกชุดหนึ่งให้เขาแทนไทเงยหน้าขึ้น พยักหน้าช้าๆ เขารับแฟ้มมาก่อนจะเปิดดู หน้าปกระบุชื่อโครงการว่า “มอเตอร์เวย์สายตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ”“ทางด่วนสายใหม่นี้จะเชื่อมจากชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกทะลุไปถึงจังหวัดทางเหนือ ใช้ตัดผ่านถึง 7 จังหวัด กินระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 4 ปี มีคุณเป็นผู้ควบคุมโครงการโดยตรง” หัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานอธิบายแทนไทนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”นับจากวันนั้น เขาเริ่มเข้าสู่การทำงานอย่างเต็มรูปแบบในโครงการระดับชาตินี้ แม้จะใช้เวลาก่อสร้างนานถึงสี่ปี แต่ในทุกปี ทุกเดือน และทุกสัปดาห์ของการทำงาน เขาไม่เคยผ่อนแรงหรือปล่อยผ่านรายละเอียดเลยแม้แต่น้อยภายในไซต์งานกลางหุบเ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 19 ความสำเร็จที่มามาพร้อมกับคำขอบคุณ

    เช้าตรู่ของวันจันทร์ แสงแดดอ่อน ๆ สาดลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ ที่หน้าต่างห้องพักของแทนไท เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงไม่ต่างจากวันแรกที่ยืนต่อหน้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเสนอโครงการครั้งแรก มือของเขาลูบผ่านปกเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ข้างเตียงอย่างเบามือ ทุกอย่างต้องพร้อม ทุกอย่างต้องเป๊ะในวันนี้ วันประชุมใหญ่ประจำเดือนของกรมทางหลวงที่สำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯแทนไทนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่จากหลากหลายแผนกและตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ห้องประชุมกว้างใหญ่เงียบกริบเมื่อเสียงประธานเปิดการประชุมจบลง และแทนไทก็ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนำเสนอในลำดับแรก“ผมขอเริ่มต้นด้วยโครงการเส้นทางตัดผ่านจากหมู่บ้านปากคลองสำราญไปยังโรงเรียนบ้านทุ่งหญ้าคา จังหวัดพัทลุงครับ” แทนไทกล่าว พลางคลิกเปิดสไลด์ที่เตรียมไว้ภาพแผนที่ถูกฉายขึ้นหน้าจอพร้อมกับกราฟิกที่แสดงเส้นทางที่เด็ก ๆ ต้องนั่งเรือข้ามคลองไปโรงเรียนทุกวัน เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังขึ้นจากบางมุม“ปัจจุบัน เด็ก ๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางไปโรงเรียนในแต่ละวัน ต้องพึ่งเรือโดยสารที่มีอยู่เพียงสองลำ ซึ่งหากฝน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 18 ทางเลือกในมือเรากับแสงดาวในหัวใจ

    หลังจากกลับจากหมู่บ้านบนดอย แทนไทเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกอบอุ่นจากรอยยิ้มและคำขอบคุณของชาวบ้านยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเขา กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง คำพูดที่แสนจริงใจของผู้ใหญ่บ้าน เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่รับขนมจากมือของเขา และสายตาแห่งความหวังจากคนทั้งหมู่บ้าน มันหล่อหลอมใจเขาจนแน่นหนา เขารู้เพียงว่าจะต้องไม่ยอมแพ้ทันทีที่กลับมาถึง เขาจัดโต๊ะทำงาน เปิดโน้ตบุ๊ก และเริ่มลงมือเขียนโครงการเส้นทางลัดจากหมู่บ้านบนดอยสู่ตัวอำเภออย่างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยทำมา ทำมันด้วยความรอบคอบมากกว่าครั้งไหน ๆ เขาอ่านเอกสารอ้างอิงซ้ำไปซ้ำมา นั่งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิค ทบทวนเส้นทางบนแผนที่ที่เขาศึกษาไว้ทั้งคืนจนกระทั่งดวงตาเริ่มพร่ามัวแต่ในขณะที่เขากำลังจะพักสายตา เขาก็นึกถึงภาพหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจตอนที่เขาไปเที่ยวพักร้อนภาคใต้ในช่วงนั้น ภาพของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ริมคลองใกล้กับตัวเมืองก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ เด็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่องเรือข้ามคลองเพื่อไปเรียนหนังสือในโรงเรียนอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ทุกเช้าและเย็นเด็ก ๆ ต้องนั่งเรือไปกลับ บางครั้งน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 17 ก้าวเดินด้วยหัวใจและความตั้งใจ

    เสียงเครื่องยนต์รถกระบะสีขาวคู่ใจของแทนไทดังกระหึ่มไปตามถนนที่ลัดเลาะผ่านเนินเขาและหุบเหว เขากำลังเดินทางกลับขึ้นสู่หมู่บ้านบนดอยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยเดินทางมาเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อศึกษาสภาพพื้นที่และฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านด้วยตัวเอง ครั้งนี้เขามาพร้อมกับความหวังใหม่และแผนงานที่วางไว้อย่างรอบคอบกว่าเดิม พร้อมกับคำมั่นในใจว่า จะต้องทำให้โครงการถนนเส้นทางลัดเชื่อมหมู่บ้านบนดอยกับตัวอำเภอเป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม“อาแทนไท!” เสียงเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ริมทางหน้าศาลาหมู่บ้านร้องเรียกด้วยความดีใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง แทนไทยิ้มกว้างก่อนจะจอดรถ เขาเปิดประตูลงมาและหยิบถุงขนมหลายถุงออกจากกระบะหลัง แจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ อย่างที่เคยทำ“อ้าว มาเร็วเด็ก ๆ ทั้งหลาย ยังจำอาได้กันอยู่ไหมเนี่ย” เขาถามพร้อมเสียงหัวเราะ เด็ก ๆ พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น บ้างก็ยื่นมือไปรับขนม บ้างก็โผเข้ากอดเอวเขาไว้แน่น“คราวนี้อามาพร้อมของสำคัญด้วยนะ” แทนไทหยิบแฟ้มเอกสารหนาออกมาจากรถ“จะให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ของทุกคนช่วยเซ็นชื่อสนับสนุนโครงการถนนที่จะสร้างตัดผ่านหมู่บ้านของเราไ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 16 ถนนที่แม่ไม่เคยเห็น

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status