แชร์

แพทย์เทวดาสะท้านภพ
แพทย์เทวดาสะท้านภพ
ผู้แต่ง: จิ้งจอกเหลวไหล

บทที่ 1

ผู้เขียน: จิ้งจอกเหลวไหล
เยี่ยชิวผลักประตูเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากทางห้องน้ำ

“ฉันอดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้ว”

“อย่ารีบร้อนนักสิคะ ฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยนะ......”

เปรี้ยง!

เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงฉับพลัน

เพราะประโยคหลังนั้น เป็นเสียงของจางลี่ลี่

จางลี่ลี่ก็คือแฟนสาวของเยี่ยชิว

พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนห้องเดียวกันในคณะแพทย์ศาสตร์ พวกเขาคบกันมาสองปีแล้ว หลังจากเรียนจบก็ยื่นสมัครเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจียงโจวพร้อมกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน ยังไม่ได้เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลอย่างแท้จริง

เยี่ยชิวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า จางลี่ลี่จะทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจของเขา

ตอนได้ยินเสียงหอบหายใจดังครวญครางออกมาจากห้องอาบน้ำเป็นระยะๆ เยี่ยชิวโกรธจัดจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขากำหมัดแน่นขณะก้าวฉับๆ ตรงไปทางห้องน้ำ

เขาอยากจะดูให้ชัดๆ ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครกันแน่!

แต่ทว่า ตอนที่เขาเดินมาถึงหน้าประตูห้อง ก็หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน

เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้วมันยังไงละ?

มันเปลี่ยนแปลงความจริงได้ที่ไหนกัน?

ระยะห่างเพียงบานประตูกั้นกลาง กลับทำให้เยี่ยชิวรู้สึกว่าในช่วงเวลานี้ เขากับจางลี่ลี่ห่างไกลกันราวกับมีพันขุนเขาหมื่นสายน้ำขวางกั้น

ช่างเถอะ ยังไงก็เคยรักกันมาก่อน ถือซะว่าไว้หน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน!

เยี่ยชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวกลับเตรียมจะเดินออกไป ประจวบเหมาะกับในจังหวะนั้น มีเสียงพูดคุยดังขึ้นในห้องน้ำพอดี

“นายเร่งมือหน่อย เยี่ยชิวใกล้จะเลิกงานแล้ว ถ้าเขากลับมาเห็นเข้าพวกเราได้จบเห่กันแน่”

“เห็นก็เห็นสิ ฉันกลัวเขาเสียที่ไหนกัน”

เยี่ยชิวขมวดคิ้ว เสียงของผู้ชายที่อยู่ด้านในฟังดูคุ้นหูอยู่เล็กน้อย

ก่อนจะได้ยินจางลี่ลี่บอกว่า “นายนี่แสบจริงๆ......จริงสิ นายไปคุยกับพ่อเรื่องรับฉันเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลหรือยัง?”

“ไม่ต้องห่วง พ่อผมเป็นถึงรองผู้อำนวยการ แค่สั่งการลงไปประโยคเดียวก็เลื่อนตำแหน่งให้เธอได้แล้ว”

เป็นเขานี่เอง!

วินาทีนั้น เยี่ยชิวมั่นใจทันทีว่าผู้ชายที่อยู่ในห้องน้ำเป็นใคร เขาคือกัวเส้าชง!

กัวเส้าชงคือศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลเจียงโจว ปกติเขามักจะทำตัวกร่างวางอำนาจไปทั่ว เพราะถือว่าพ่อของตัวเองเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจว

นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปทำงานในแผนกศัลยกรรม เยี่ยชิวก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกัวเส้าชงมาอย่างหนาหู อย่างเช่นเรื่องที่เขาบังคับแฟนสาวที่กำลังท้องให้ยุติการตั้งครรภ์ เรื่องที่เขาไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้วหรือเรื่องที่เขาบีบบังคับพยาบาลหน้าตาสะสวยให้......

สรุปได้ว่า กัวเส้าชงเป็นกากเดนคนหนึ่ง!

“เพียงเพราะต้องการผ่านโปร ลี่ลี่ถึงกับยอมหลับนอนกับไอ้สวะสังคมอย่างกัวเส้าชง ทำแบบนี้มันคุ้มค่างั้นเหรอ?” เยี่ยชิวปวดใจเหมือนโดนมีดกรีด

ในห้องน้ำ

จางลี่ลี่เอ่ยถามว่า “เยี่ยชิวจะได้บรรจุเป็นแพทย์ไหม?“

“ไม่มีทางซะหรอก” กัวเส้าชงตอบ “ฉันถามพ่อมาแล้ว ในบรรดาแพทย์ฝึกหัดทั้งหมดที่อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเธอ มีโควตาบรรจุได้แค่คนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ ที่เหลือจะต้องรอปีหน้า”

จางลี่ลี่เอ่ยต่อว่า “ตอนยื่นสมัครงานเยี่ยชิวได้คะแนนเต็ม ระหว่างช่วงฝึกปฏิบัติงานก็ทำผลงานได้ดีมาก ที่สำคัญที่สุดคือ หัวหน้าแผนกไป๋วาดหวังกับเขาไว้สูงมากเลย”

“หัวหน้าแผนกไป๋ให้ความสำคัญกับเขาแล้วยังไงล่ะ สุดท้ายอำนาจตัดสินใจก็อยู่ในมือของพ่อฉันอยู่ดี” กัวเส้าชงกล่าวต่อ “แต่ได้ยินพ่อฉันบอกว่าหัวหน้าแผนกไป๋เคยเรียกเขาเข้าไปพบ เพราะอยากจะให้โควตาบรรจุกับเยี่ยชิว ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมหัวหน้าแผนกไป๋ถึงดีกับเยี่ยชิวขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าพวกเขามีลับลมคมในกัน?”

“พูดบ้าอะไรของนายน่ะ หัวหน้าแผนกไป๋เธอสวยตั้งขนาดนั้น จะไปชายตามองคนอย่างเยี่ยชิวได้ยังไง”

“ก็จริงนะ หัวหน้าแผนกไป๋ทำหน้าบอกบุญไม่รับทุกวันเลย ท่าทางไม่เป็นมิตรเข้าถึงยากแบบนั้น มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกนิสัยเย็นชา”

“ถ้างั้นนายลองถามพ่อนายดูหรือยัง ว่าโควตาบรรจุครั้งนี้เป็นของใคร?”

“เรื่องนี้ยังต้องถามอีกเหรอ ก็ต้องเป็นของเธออยู่แล้วสิ! แต่ว่าไอ้เด็กเยี่ยชิวนั่นก็น่าสงสารเหมือนกันนะ นอกจากจะไม่มีทางได้บรรจุแล้ว ยังโดนแฟนสวมเขาอีก น่าสังเวชชะมัด”

“ทำไมล่ะ นายเห็นใจเขาเหรอ?” จางลี่ลี่ถาม

“เห็นใจก็บ้าแล้ว!” กัวเส้าชงเอ่ยอย่างขบขัน “จะว่าไปไอ้หมอนั่นก็โง่ชะมัด คบกับเธอมาตั้งสองปีแต่กลับไม่เคยมีอะไรด้วยกัน ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเขากำลังฝึกวิชาวัดเส้าหลินแน่ๆ”

“พอได้แล้วน่า นายน่ะเงียบไปเลย!”

“ฉันพูดแค่นี้เธอก็เป็นห่วงเป็นใยเขาแล้วเหรอ? ใช่สิ อย่างไรพวกเธอก็คบกันมาตั้งสองปี...”

“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย ก็แค่ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ฉันจะไปห่วงใยเขาทำบ้าอะไรล่ะ!” จางลี่ลี่พูดด้วยท่าทางหยามหมิ่น

เยี่ยชิวที่อยู่อีกด้านของประตูได้ยินประโยคนี้เข้าไปก็ลมหายใจติดขัด ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ในดวงตาประหนึ่งมีไฟปะทุออกมา

ลูกไม่มีพ่อ.....

ถึงแม้คำพูดนี้จะฟังดูหยาบคายอย่างยิ่ง แต่มันก็เป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ เขาเป็นลูกไม่มีพ่อจริงๆ

เพราะเขาเป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ของเขาถึงได้ถูกขับไล่ไสส่งออกมาจากครอบครัว

เรื่องนี้ เป็นความลับที่เยี่ยชิวไม่อยากจะเอ่ยถึงมากที่สุด

เขาบอกเรื่องนี้กับจางลี่ลี่แค่คนเดียวเท่านั้น

“เยี่ยชิวเป็นลูกไม่มีพ่อเหรอ? เรื่องมันเป็นมายังไงเนี่ย? เธอรีบเล่าให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้นะ” กัวเส้าชงรบเร้าถาม

จางลี่ลี่จึงเล่าว่า “จนถึงทุกวันนี้ เยี่ยชิวก็ยังไม่รู้ว่าพ่อที่แท้จริงของตัวเองเป็นใคร”

“บ้าน่า ขนาดพ่อของตัวเองเป็นใครยังไม่รู้เลยเนี่ยนะ? เขาโกหกเธอหรือเปล่า?”

“เขาไม่รู้จริงๆ นะ”

“งั้นแม่ของเขาไปท้องกับใครล่ะ?” กัวเส้าชงเอ่ยต่อ “ต่อให้นอนกับหมาตัวหนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักชื่อหมาตัวนั้นไม่ใช่เหรอ......”

เส้นเลือดบนหน้าผากของเยี่ยชิวปูดโปนขึ้นมา แม่เป็นเกล็ดย้อนของเขา ใครหน้าไหนก็มาหลบหลู่ดูหมิ่นแม่ของเขาไม่ได้ทั้งนั้น เขาจึงยกเท้าถีบประตูด้วยความเดือดดาล

“ปัง!”

ประตูห้องน้ำถูกถีบอย่างกะทันหัน คนที่อยู่ข้างในจึงแตกตื่นกันจ้าละหวั่น

“กรี๊ด.....” จางลี่ลี่กรีดร้องออกมาสุดเสียง รีบคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวอย่างว่องไว

กัวเส้าชงก็ตกใจจนสะดุ้งเฮือกไปเหมือนกัน เขารีบกระโจนขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ ตอนที่เขาเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเยี่ยชิว สีหน้าเคร่งเครียดที่มีอยู่แต่เดิมก็เลือนหายไปทันที ก่อนจะฉีกยิ้มเอ่ยว่า “ลี่ลี่ เธอดูสิว่าใครมา?”

ลี่ลี่หันไปมองทางประตูห้องน้ำก่อนจะชะงักไป “เยี่ยชิว นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“ฉันกลับมาสักพักแล้ว ขอโทษด้วยละกันที่มาขัดจังหวะความสุขของพวกเธอ” เยี่ยชิวใบหน้าถมึงทึง พยายามข่มกลั้นโทสะอย่างสุดกำลัง

จางลี่ลี่พยายามอธิบาย “เยี่ยชิว เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดนะ ฉัน......”

“ฉันเห็นกับตาตัวเองเลยนะ เธออยากจะบอกกับฉันว่าทั้งหมดที่เห็นมันเป็นเรื่องไม่จริงเหรอ? จางลี่ลี่ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้!”

การคาดคั้นของเยี่ยชิวทำให้จางลี่ลี่อับอายจนกลายเป็นความโกรธ

จางลี่ลี่คร้านจะหาข้อแก้ตัว เธอเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตอนแรกฉันน่าจะตาบอดจริงๆ นั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ไปหลงคบผู้ชายกระจอกอย่างนายหรอก”

“ตลอดสองปีที่คบกับนายมา นายให้กำไลเก่าๆ นี่เป็นของขวัญฉันแค่ชิ้นเดียว แถมยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลอีก ถุย!”

จางลี่ลี่ถอดกำไลหยกสีขาวออกมาจากข้อมือแล้วโยนคืนให้เยี่ยชิว “นับจากนี้เป็นต้นไป ฉันจะมีชีวิตที่สดใสรุ่งโรจน์ ส่วนนายก็ใช้ชีวิตยากลำบากต่อไปเถอะ พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก!”

เยี่ยชิวมองจางลี่ลี่ด้วยความตกตะลึง หัวใจเย็นเฉียบไปทั้งดวง

ผู้หญิงที่เขาหลงรักปักใจ ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ?

กัวเส้าชงตวัดแขนกอดเอวของจางลี่ลี่ มองเยี่ยชิวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ไอ้หน้าอ่อน อยากดูถ่ายทอดสดไหมล่ะ? ฉันกับจางลี่ลี่แสดงให้นายดูตอนนี้ได้นะ”

“ดูแม่มึงสิ” เยี่ยชิวกำหมัดยกขึ้นต่อยหน้ากัวเส้าชงเต็มแรง

ตุ้บ!

กัวเส้าชงโดนต่อยจนจมูกหักเลือดไหล

“เชี่ย กล้าต่อยกูเหรอวะ กูเอามึงตายแน่” กัวเส้าชงรัวกำปั้นต่อยใส่เยี่ยชิวแบบไม่ยั้ง

กัวเส้าชงตัวสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร สูงกว่าเยี่ยชิวถึงหนึ่งช่วงศีรษะ ปกติชอบออกกำลังอยู่แล้วจึงมีร่างกายแข็งแรงกำยำมาก เยี่ยชิวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิด

ไม่นานนัก เยี่ยชิวก็โดนต่อยจนลงไปนอนกองกับพื้น

“ก็แค่ลูกไม่มีพ่อ กล้าดียังไงมาต่อยกู อยากตายมากหรือไงวะ!”

หลังจากกัวเส้าชงทำร้ายอีกฝ่ายได้สักพักก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย เขาจึงเหยียบนิ้วมือสองข้างของเยี่ยชิวจนหักเป็นการทิ้งท้าย

“อ๊าก.....” เยี่ยชิวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหมดสติไป

“กระจอกขนาดนี้ยังกล้าลงไม้ลงมือกับกูอีก แกนี่มันขยะชัดๆ เลย”

กัวเส้าชงถ่มน้ำลายใส่ร่างเยี่ยชิว เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าในตอนนั้น เลือดแดงสดที่ไหลจากนิ้วของเยี่ยชิวกำลังค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในแหวนหยกสีขาว......
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status