ว่านลี่ถิงอดทนรอคอยอย่างมีความหวังถึงแม้ว่านางจะยังไม่เห็นแม่ทัพหนุ่มคู่หมั้นเดินทางมาที่จวนเสียที แต่พอรู้ว่าเขาเดินทางไปราชการด่วนอีกหัวเมืองหนึ่งจึงทำให้นางเซ็งเป็นอย่างมาก อีกทั้งสั่งสาวใช้เอาไว้ว่าถ้าท่านแม่ทัพเผิงเย่ห่าวมาที่จวนหาบิดาให้แจ้งนางด้วย
วันนี้นางคิดว่าจะไปเดินเล่นตลาดหาลู่ทางทำตำลึงให้ตัวเองเสียหน่อย ในเมื่อนางมีไพ่ติดมิติมาด้วยนางอยากไปดูดวงให้คนในเมืองนี้ดูเสียหน่อยว่าจะมีคนสนใจจะดูดวงกับนางบ้างไหม และนางยังคิดจะนำแบบวาดเสื้อผ้าของคนในยุคนี้ดูวาดมันขึ้นมาได้หลายแบบ จะนำไปเสนอร้านที่ขายชุดตัดสำหรับคุณหนูๆทั้งหลายในเมืองหลวงแห่งนี้ดูเสียหน่อย ที่จริงแม้แต่วาดแบบเครื่องประดับนั้นนางก็มีในหัวที่ติดตัวมาจากภพเดิม นางทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เรียนจบจนทำงานเก็บเงินได้ไม่น้อย จนลาออกมาเรียนไพ่ทาโร่แล้วมาโผล่ที่ยุคโบราณแห่งนี้ หรือว่าคือโลกหลังความตายกันนะหรือว่าโลกคู่ขนานกันแน่แพรวาคิดในใจด้วยความสงสัยและหาคำตอบไม่ได้ นางเดินไปที่เรือนหลักของบิดามารดาเพราะนางนั้นแยกเรือนนอนออกมาได้สามปีแล้ว ตั้งแต่ที่นางนั้นปักปิ่นนางกับพี่ชายจึงมีเรือนคนละหลังที่บิดาทำให้กับลูกทั้งสองคน แต่อยู่ในที่ดินเดียวกันตามแบบบ้านเรือนสี่ประสานของคนยุคโบราณเรือนของนางแยกไปทางด้านหลังกับพี่ชาย ตลอดเวลาเกือบสองอาทิตย์ที่นางมาสวมร่างของว่านลี่ถิงนี้ นางได้เดินมาทานมื้อเช้าร่วมกับครอบครัวพูดคุยกันกับบิดามารดาก่อนที่จะไปร่วมประชุมเช้าในวังหลวงทุกวัน ทำให้นางสนิทกันกับครอบครัวมากยิ่งๆขึ้นไปกับความสัมพันธ์ที่ดีของสถาบันครอบครัว นางจะต้องรักษาครอบครัวที่อบอุ่นนี้เอาไว้ให้ดีไม่ต้องวิ่งตามหาความรักจากคนอื่นให้เสียความรู้สึกอีกต่อไป วันนี้นางนั้นได้บอกกับมารดาแล้วว่านางจะไปตลาดกับพี่ซิงซิงสาวใช้คนสนิทซึ่งมารดากับบิดานั้นรับรู้ตั้งแต่กินมื้อเช้าด้วยกันแล้ว นางจึงได้เวลาที่จะออกเดินทางคือยามซือ นางนัดกับสาวใช้ให้บอกคนขับรถม้าพานางออกไปตลาดเมืองหลวงที่คึกคักของเหล่าคุณหนูในห้องหอเหล่าบัณฑิตตามโรงน้ำชา ตอนนี้รถม้าได้พาว่านลี่ถิงคนใหม่ออกเดินทางไปที่ตลาดย่านการค้าของยุคโบราณที่มีเสน่ห์ให้เดินของคนยุคนี้ ใช้เวลาเดินทางสามเค่อรถม้าก็พานางมาถึงตลาดตอนนี้กำลังมีเหล่าคุณหนูออกมาหาจับจ่ายซื้อของและนัดเจอกันตามโรงน้ำชาตามสถานศึกษา ที่มีเหล่าบัณฑิตมาดื่มชาคุยกันก่อนและหลังเลิกเรียนรู้สึกว่าในเมืองหลวงนี้เจริญไม่น้อยเหมือนกัน ว่านลี่ถิงเปิดม่านรถม้าดูสองข้างทางจุดหมายของนางคือร้านผ้าขนาดใหญ่ที่จะนำแบบวาดไปนำเสนอเพื่อหาตำลึงเข้าคลังช่วยบิดากับพี่ชาย นางคิดในใจจบพอดีกับคนขับรถม้าบอกว่าถึงแล้วนางจึงเตรียมตัวลงรถม้ากับพี่สาวซิงซิงพอรถม้าหยุดสนิท ว่านลี่ถิงคนใหม่มองสำรวจตลาดยุคโบราณด้วยความพอใจ "พี่ซิงซิงพาข้าไปร้านผ้าที่เจ้าของร้านที่พี่คิดว่าจิตใจดีกว่าร้านที่ใหญ่โตที่คอยต้อนรับเฉพาะคุณหนูทั้งหลายหรือบรรดาชาวบ้านธรรมดาสามารถซื้อใส่ได้ ข้ามีแบบที่ข้านอนวาดเล่นในจวนมาเสนอให้ร้านขายผ้าสำหรับชาวบ้านทั่วไปด้วยจนถึงเหล่าคุณหนูที่ฐานะปานกลางให้ได้ซื้อใส่กันได้" ว่านลี่ถิงบอกกับสาวใช้คนสนิท "เจ้าค่ะคุณหนูบ่าวจะพาไปร้านที่สาวใช้ชอบมาซื้อหรือชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ได้ร่ำรวยมากสามารถซื้อหาได้เจ้าค่ะคุณหนู เอ่อว่าแต่คุณไปหัดวาดแบบผ้าตั้งแต่เมื่อไรเจ้าคะบ่าวไม่รู้มาก่อนเลย" สาวใช้ถามด้วยความสงสัยเพราะรับใช้คุณหนูมานานตลอดหลายปีไม่เคยเห็นคุณหนูสนใจเรื่องวาดรูปอะไรเลย นอกจากไปซื้อที่ร้านผ้าใหญ่ๆที่เหล่าคุณหนูทั้งหลายพากันไปแย่งซื้อเพื่อจะอวดกันในงานเลี้ยง แต่หลังจากที่คุณหนูตกน้ำไปฟื้นขึ้นมาสาวใช้ก็เห็นว่าคุณหนูของตัวเองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีน้อยไม่ถามหาแม่ทัพคู่หมั้นเหมือนเมื่อก่อน และไม่ค่อยออกจากจวนตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ก็เกือบสิบวันกว่าเข้าแล้ว สาวใช้คิดในใจแต่ไม่กล้าซักถามคุณหนูของตัวเองเพราะกลัวจะโดนหาว่ายุ่งกับเรื่องของเจ้านายนั้นเอง "อ้อพอดีข้านอนอยู่เฉยๆมาหลายวันข้าจึงเบื่อจึงลองหัดวาดแบบชุดเสื้อผ้าขึ้นมาดูและข้าก็สามารถทำได้เสียด้วยสิพี่ซิงซิง ต่อไปข้าจะหาตำลึงเข้าจวนช่วยท่านพ่อกับพี่ใหญ่ให้ได้เยอะๆเลยละพี่คอยดูสิ ข้าจะเอาเวลามาทำงานหาตำลึงดีกว่าวิ่งไล่ตามท่านแม่ทัพเผิงเย่เห่าวแล้วละ พี่คอยดูและข้าจะหาทางถอนหมั้นกับเขาให้ได้เลยพี่" "เจ้าค่ะคุณหนู" สาวใช้ตอบรับคำพูดของเจ้านายก่อนจะพาเดินเข้าร้านผ้าที่บรรดาสาวใช้ในเมืองหลวงชอบมาซื้อชุดสวยๆไปใส่กัน ตามตำลึงในมือที่มีพอจะซื้อเป็นชุดโปรดของตนเองเวลาวันหยุดหรือมีงานเทศกาลต่างๆในเมืองหลวงที่จัดขึ้นบ่อยมาก "ร้านนี้แหละเจ้าค่ะคุณหนูที่สาวใช้ชอบมาซื้อกันเพราะราคาไม่แพงมากเจ้าค่ะ" สาวใช้บอกก่อนจะพาคุณหนูของตัวเองเดินเข้าไปในร้านผ้า ว่านลี่ถิงมองดูชุดในร้านมากมายที่ต่างใช้ผ้าตามตำลึงในมือสำหรับคนทุกชนชั้นให้ได้เลือกซื้อหาไปใส่กันได้ ก็พอใจไม่น้อยเริ่มจากร้านสำหรับคนทั่วไปก่อนแล้วค่อยไปร้านที่ใหญ่โตทีหลังก็ยังไม่สาย "คุณหนูท่านต้องการซื้อชุดแบบไหนเจ้าคะทางร้านของเรามีทั้งชุดที่ตัดสำเร็จพร้อมใส่ทั้งชุดหรือจะเป็นผ้าพับมีทุกอย่างตั้งแต่ผ้าเนื้อหยาบไปจนถึงผ้าเนื้อนุ่มลื่นที่ใส่แล้วสบายตัวเจ้าค่ะคุณหนู" เสียงคนขายในวัยยี่สิบกว่าเข้าหาลูกค้าด้วยความเป็นกันเองโดยไม่แบ่งแยกลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านขายผ้าแห่งนี้ "คือข้าอยากเจอเจ้าของร้านพี่สาวคนสวยช่วยข้าได้ไหมเจ้าคะข้ามีแบบชุดที่วาดเองมาเสนอให้เจ้านายของพี่เจ้าค่ะ "ว่านลี่ถิงเอ่ยปากถามคนที่รับหน้าที่ขายผ้าทันทีเพราะอยากจะคุยเรื่องแบบชุดที่นางวาดแบบนำเสนอก่อน "คุณหนูรอสักครู่ข้าจะไปถามเก้าแก่ให้เจ้าค่ะ" พูดจบพี่สาวคนขายก็รีบไปที่หลังร้านเพื่อจะบอกเจ้านายในห้องทำงานเรื่องที่มีคนมาเสนอขายแบบชุดใหม่ให้กับทางร้านทันที "พี่ซิงซิงพี่อยากได้ชุดไหนข้าจะซื้อให้พี่เองพี่เลือกได้เลย วันนี้ข้าจะจ่ายให้พี่เองพี่ไม่ต้องเกรงใจข้าเพราะถ้าไม่มีพี่ช่วยข้าตลอดเวลาที่ข้าโดนรังแกจากสองคุณหนูจอมเสแสร้ง ข้าคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้พี่เลือกไปฝากพี่เพ่ยเพ่ยด้วยนะอยากตัดเองหรือจะเอาที่ตัดเสร็จแล้วข้าก็ไม่ว่าอะไร" สาวใช้จะอ้าปากว่าไม่เอาก็โดนคุณหนูหยุดเสียก่อนจึงได้แต่ต้องทำตามที่คุณหนูสั่งเพียงเท่านั้น "เจ้าค่ะ" สาวใช้ตอบแล้วจึงไปเลือกผ้าไปเผื่อพี่สาวด้วยคุณหนูบอกว่าให้คนละสามชุด นางมองคุณหนูด้วยความซาบซึ่งใจที่เจ้านายเมตตาต่อตัวเองและพี่สาวมาตลอด ที่นายท่านซื้อตัวนางสองพี่น้องมาจากโรงค้าทาสเพื่อมาดูแลบุตรสาวของพวกท่านตั้งแต่พวกนางได้สิบสองปี สองพี่น้องจึงรักคุณหนูของพวกตนไม่ว่าจะโดนคุณหนูทำโทษบ้างเป็นบางครั้งแต่ไม่เคยหนักหนาอะไร เพราะคนนำไปลือให้คุณหนูของนางดูร้ายกาจทั้งที่จริงแล้วคุณหนูไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลย เพียงแต่เอาแต่ใจบ้างก็เรื่องของคู่หมั้นอย่างท่านแม่ทัพเผิงเย่ห่าวเท่านั้นเอง สาวใช้ซิงซิงคิดในใจก่อนที่จะเลือกผ้าตามที่คุณหนูสั่งแต่นางก็ชำเลืองมองคุณหนูไม่ให้คาดสายตาด้วยเช่นเดียวกัน"อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะหย่าเจ้าหรือถิงเอ๋อร์ เจ้าจงเข้าใจเสียใหม่นะ ฮูหยินของข้าคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น"แม่ทัพตอบคำถามนางก่อนที่จะรวบตัวนางมากอดแนบตัวเพราะเขาเห็นนางจะกระโดดหนีไปอีกทาง ว่านลี่ถิงตกใจอ้าปากจะต่อว่าสามีหมาดๆของนางจึงเป็นว่านางอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดลิ้นปิดปากพัวพันกันจนเกิดเสียงหยาบโลน"อื้อ" ว่านลี่ถิงทุบอกชายหนุ่มเพราะนางใจจะขาดเพราะจูบที่เอาแต่ใจจากเขา แม่ทัพหนุ่มผละออกให้นางหายใจก่อนจะก้มลงปิดปากของนางใหม่ สติของว่านลี่ถิงกระเจิดกระเจิงเพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของนาง เขาจุดติดอย่างง่ายดายแม่ทัพคิดในใจว่าวันนี้ต้องเข้าหอกับนางให้ได้ นางจะได้หายฟุ้งซานว่าเขาจะหย่าให้นาง เช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าจะปั้นก้อนแป้งให้นางเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าถึงเวลาสร้างครอบครัวแล้วนั้นเองว่านลี่ถิงทั้งเสียวทั้งร้อนวูบวาบไปหมดกับการเร้าโรมของคนเป็นสามีที่พึ่งแต่งในวันนี้หมาดๆรุกนางหนักจนนางแทบเหลว เพราะเขาลูบคลำบีบเค้นทั่วร่างของนาง นางก็ตอบสนองเขากลับไปแบบเงอะๆงะๆด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ที่สร้างมาให้ชายหญิงคู่สามีภรรยา ร่างซ่อนรูปได้เปลือยเปล่าต่อหน้าของสามีที่ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเรื่
หลังจากจัดการเรื่องอดีตบ้านปู่ย่าของพี่สาวซูเมิ่งหลันให้คนในตระกูลไม่กล้ากลับมายุ่งกับครอบครัวของพี่สาวเมิ่งหลันได้อีก ด้วยความช่วยเหลือของท่านพ่อกับพี่ชายของนางทำให้ผู้นำตระกูลเว่ยสั่งฮูหยินของตนเองกับลูกสะใภ้ไม่ให้ไปหาเรื่องสองแม่ลูกซูเมิ่งหลิงกับซูเมิ่งหลันได้ อีกทั้งลงนามต่อหน้าหัวศาลถ้าคนตระกูลเว่ยไปหาเรื่องสองแม่ลูกอีกจะต้องถูกปรับหนึ่งพันตำลึงทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับเว่ยอี้หรานที่ไม่สามารถให้มารดากับท่านย่ายึดเอาร้านขายผ้าของสองแม่ลูกนั้นมาได้ แถมนางยังสนใจแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยที่ออกหน้าให้กับสองแม่ลูกซูนั้นอีกแล้วยังโดนท่านปู่กับท่านพ่อสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะส่งไปแต่งงานที่หัวเมืองอื่นนางจึงหยุดเอาไว้ก่อนแต่จะต้องหาโอกาสเข้าหาแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยให้ได้เพราะนางอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของซูเมิ่งหลันมาเป็นของตัวเองให้ได้จบเรื่องของพี่สาวซูไปนางก็ถึงวันแต่งให้ไอ้แม่ทัพขี้เก๊กนั้น นางถูกมารดาจับลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืดแต่หน้านางขอแต่งเองไม่อยากให้แต่งหน้ขาววอกของคนยุคนี้ซึ่งมารดาเองก็ยอมเพราะลูกสาวแต่งให้นางทุกวัน ถ้าอยู่ด้วยกันแถมนางจะนำเอาเครื่องสำอางค์ในมิติออกมาให้
พอสองแม่ลูกออกมาจากในห้องรับรองแขกก็เจอกับอดีตแม่สามียืนด่านางเสียงดังยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดสด เมื่อก่อนนางเคยดูถูกอาชีพของสองแม่ลูกอีกทั้งบังคับบุตรชายหย่ากับท่านแม่แต่ท่านพ่อไม่ยอม ถึงกับตัดท่านพ่อออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้าไม่สามารถหนุนตำแหน่งให้บุตรชายได้ "อ้อข้าคิดว่าคนบ้าที่ไหนมาร้องส่งเสียงดังในร้านของข้าไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอะไรกับพวกข้าหรือ ถึงมาก่อกวนในร้านขายผ้าของพวกข้าใครก็ได้ไปตามทหารมาคุมตัวคนบ้าออกไปจากในร้านของข้าสิหลงจู๊" ฮูหยินเมิ่งซูหลิงร้องสั่งหลงจู๊ในร้านออกไปเสียงดังพอประชันหน้ากันกับอดีตแม่สามี ที่ผ่านมานางยอมเพราะรักสามี แม้บุตรสาวนางยังเล็กโดนโขกสับในจวนมานานหลายปี จนตอนนี้นางกับบุตรสาวพากันบุกเบิกร้านขายผ้าตามมารดาของนางเองนับสิบปีตอนออกจากจวนมาพวกนางไม่ได้รับสมบัติจากบ้านของปู่ย่ามาด้วยเลยสักนิด มีเพียงตำลึงรายเดือนของท่านพ่อเพียงเท่านั้นที่ช่วยเหลือครอบครัวได้ พากันมาอาศัยที่จวนเก่าของท่านยายท่านตาจนถึงทุกวันนี้ ร้านค้านี้สมบัติของท่านยายที่ยกให้บุตรสาวหลังจากเสียชีวิตไปสองแม่ลูกชอบตัดเย็บเสื้อผ้าจึงพากันเย็บชุดขายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกื
ว่านลี่ถิงได้ขอบิดาของนางออกไปร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันในช่วงเช้ากับท่านแม่และพี่ชายว่าจะไปไม่นานนางขอให้ท่านพ่อไปด้วยนางสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเพราะนางต้องเตรียมตัวแต่งให้ท่านแม่ทัพนางถูกพี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยจับขัดตัวจนนางคิดว่าตัวนางถลอกหมดแล้ว ทั้งขัดทั้งอบน้ำหอมจนนางหมดแรงวันนี้ท่านพ่อจึงอนุญาตให้ไปได้ท่านจะไปด้วยเหมือนกันเห็นบุตรสาวขอร้องขนาดนั้นแม่ทัพใหญ่จึงใจอ่อนให้นาง อีกไม่กี่วันนางจะแต่งให้แม่ทัพเผิงแล้วเดินทางลงไปยังชายแดนใต้ไปช่วยงานองค์รัชทายาทอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ วันนี้ทุกคนจึงเดินทางออกจากจวนตั้งแต่ยามเฉิน หลังจากทานมื้อเช้าร่วมกันนางกับมารดานั้นนั่นในรถม้าบิดากับพี่ชายขี่ม้าประกบ มีคนสนิททั้งของบิดามารดาที่เดินทางไปด้วยกันร่วมสิบคน ขาดไม่ได้ก็พี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยที่นางส่งให้ออกเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อช่วยพี่สาวซูเมิ่งหลันตั้งแต่เช้ามืด"ท่านแม่คิดว่าคนจะเยอไหมเจ้าคะข้านั้นได้ให้พี่สาวทำตามแผนงานที่ลูกวางเอาไว้ให้ ลูกได้จ้างคนไปแจกใบปลิววันนี้ฮูหยินหวังซูซินบอกว่าจะมาร่วมงานพร้อมกับบุตรสาวที่ลูกช่วยในวันนั้นด้วยนะเจ้าคะ นางไปสั่งตัดชุดที่ร้านพี่สาวเมิ่งห
ว่านลี่ถิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ไม่สามารถขัดราชโองการของฝ่าบาทได้ เกือบจะได้ถอนหมั้นอยู่แล้วเชียวแต่ดันมีมารมาขัดขวางเสียก่อน เอาวะเขาคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางมาจากชาติที่แล้วชดใช้ให้มันหมดเวรต่อกันในชาตินี้เลยก็แล้วกัน อีกอย่างถ้าเกิดนางได้เดินทางไปชายแดนใต้ร่วมขบวนขององค์รัชทายาท ถ้านางได้ช่วยเหลืองานของพระองค์แล้วค่อยทูลขอใบหย่าก็ไม่น่าจะอยากแต่ต้องทำสัญญากับไอ้แม่ทัพหื่นนั้นเสียก่อน ว่าห้ามเข้าหอกับนาง นางยินดีจะหย่าให้เขาแต่งเมียเข้าจวนแต่งห้ามล้ำเส้นนางก็พอไม่เช่นนั้นนางจะฟาดกลับให้จวนร้อนเป็นไฟเลยสิคอยดู ว่านลี่ถิงคิดในใจ"ถิงเอ๋อร์เหลืออีกเพียงสิบวันจะตัดชุดแต่งงานของลูกทันหรือเปล่านี้ มาพาแม่ไปร้านของเมิ่งซูหลันกันเถอะลูกจะได้เลือกชุดแต่งงานที่ตัดสำเร็จไว้ที่ร้านของแม่นางเมิ่งซูหลันคงจะมีนะแม่ว่า" มารดาของนางรีบชวนบุตรสาวไปหาชุดแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันที่จะถึง"เจ้าค่ะท่านแม่แต่ลูกว่ามีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละเจ้าค่ะลูกไม่คิดมาก ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงบอกกับมารดา"ฮูหยินเจ้าคะมีคนจากจวนขององค์รัชทายาทนำชุดแต่งงานมามอบให้คุณหนูว่านลี่
เสียงเคาะประตูที่หน้าหองทำให้สองร่างผละออกจากกันแม่ทัพคลายอ้อมกอดออย่างเสียดายเพราะพึ่งจะได้จูบนางไปสองรอบเอง เขากำลังจะลองอีกในครั้งที่สามแต่โดนขัดจังหวะเสียก่อน "คุณหนูเจ้าคะนายท่านบอกให้มาเชิญท่านแม่ทัพกับคุณหนูไปที่หน้าจวนเจ้าค่ะมีขันทีของฝ่าบาทนำราชโองการมาถึงคุณหนู ให้คุณหนูกับท่านแม่ทัพรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" เสียงพี่สาวซิงซิงร้องบอกด้วยความร้อนใจว่านลี่ถิงเองดิ้นออกจากแม่ทัพได้พอนางได้ยินเสียงของสาวใช้เรียกที่หน้าห้องไม่เช่นนั้นนางจะต้องโดนไอ้แม่ทัพบ้านี้เอาเปรียบต่ออย่างแน่นอน นางจึงรีบเดินออกจากในห้องรับแขกด้วยความเร็วจนแม่ทัพหนุ่มหัวเราะตามหลังอย่างชอบใจที่นางวิ่งหนีเขาแถมก่อนจากนางยังตะคอกให้เขา"ไหนบอกว่ารังเกียจข้านักหนาแล้วมาแตะต้องตัวข้าทำไมไม่ทราบไอ้บ้ากามเอ๊ย" ว่านลี่ถิงด่าให้คู่หมั้นอย่างไม่เกรงกลัวอย่าเผลอเชียวละนางจะทุบให้กระอักเลือดตายเลย ทั้งเดินทั้งบ่นรวมถึงจัดเสื้อผ้าหน้าผมไปด้วยในตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากเรือนไปเลยแม่ทัพหนุ่มรีบเดินตามคู่หมั้นไปด้วยรอยยิ้มตามหลังนางไปติดๆ พอไปถึงนางเห็นท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายยืนรออยู่ที่หน้าเรือนคุยกับขันทีของฝ่าบาทรออ