ว่านลี่ถิงเองก็เดินดูผ้าและเลือกให้สาวใช้ของตัวเองไปด้วยเพราะมองไปแล้วสาวใช้ของนางจะเลือกเพียงผ้าราคาที่ถูกมาก นางจึงตัดสินใจเลือกให้เองเสียเลยแต่ถามสีที่พี่สาวทั้งสองคนชอบเสียก่อนจะให้คนงานขายผ้าอีกคนรับไปคิดตำลึงให้ พอดีกับพี่สาวคนที่ไปหาเถ้าแก่ของร้านขายผ้ามาเชิญนางไปที่ห้องทำงานของเจ้านาย
ว่านลี่ถิงเดินตามพี่สาวไปจนถึงห้องทำงานของเจ้าของร้าน พอเคาะประตูห้องได้รับอนุญาติพี่สาวก็พานางเข้าไปนั่งในห้องเรียบร้อย ก่อนจะขอตัวไปนำน้ำชาขนมมาให้ลูกค้าต่อไปตามหน้าที่ ว่านลี่ถิงมองดูเจ้าของร้านในวัยไม่เกินยี่สิบสองยี่สิบสามปีเห็นจะได้นั่งอยู่ในห้องทำงานต่างฝ่ายต่างมองสำรวจกันทั้งคู่ "สวัสดีคุณหนูได้ยินว่าท่านนำแบบที่วาดมาเสนอให้กับทางร้านหรือข้าซูเมิ่งหลันยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูเอ่อ" "ข้าว่านลี่ถิงเจ้าค่ะยินดีที่ได้รู้จักเถ้าแก่เนี้ยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงแนะนำตัวเองหลังจากทั้งสองผ่านการแนะนำตัวกันจบเรียบร้อย "เอาละคุณหนูว่านลี่ถิงเรียกข้าพี่สาวซูเมิ่งหลันก็ได้เพราะพี่อายุยี่สิบสองแล้ว" "เจ้าค่ะพี่สาวซูเมิ่งหลัน" ว่านลี่ถิงเรียกตามที่นางบอกด้วยความเต็มใจเหมือนกัน "ข้าได้ยินคนขายของข้ามาบอกว่าคุณหนูว่านลี่ถิงมีแบบชุดที่วาดเองมานำเสนอ ข้าขอดูแบบเพื่อจะได้รู้ว่ามันซ้ำกันกับที่ข้ามีหรือไม่เพราะที่ร้านยังไม่มีแบบใหม่ๆออกมาเลยช่วงนี้จึงมีแต่แบบเดิมๆอยู่" ซูเมิ่งหลันบอกกับว่านลี่ถิงอย่างไม่อ้อมค้อม "ได้เจ้าคะข้ารับรองว่าในแบบวาดที่ข้าวาดจะไม่มีซ้ำกับของทางร้านพี่สาวซูเมิ่งเลยเจ้าค่ะ" นางจึงนำถุงผ้าแบบวาดออกมาสี่ห้าแบบทั้งของผู้หญิงผู้ชายเด็กหญิงเด็กชายด้วย ซูเมิ่งหลันหยิบมาดูด้วยความสนใจและเบิกตากว้างกับแบบวาดที่แปลกตาและสวยงามทั้งของเด็กของผู้ใหญ่จนมือนางสั่นด้วยความตื่นเต้นและมองหน้าว่านลี่ถิงสลับกับแบบผ้าในมืออย่างเหลือเชื่อ "พี่สาวซูเมิ่งสนใจไหมคะถ้าไม่ชอบข้าจะได้นำไปเสนอร้านอื่นถ้าทางร้านของพี่สาวซูเมิ่งไม่สนใจแบบวาดที่ข้านำมาเสนอเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงพูดหลังจากมองดูเจ้าของร้านสาวที่มองดูแบบเสื้อผ้าของนางด้วยความตกใจอยู่จนลืมนางที่นั่งรอคำตอบอยู่ "ไม่ได้เอ่อพี่สาวขอโทษน้องว่านลี่ถิงด้วยที่เสียมารยาทแล้ว พี่ชอบทุกแบบที่น้องสาวว่านลี่ถิงวาดเลย เอาอย่างนี้เรามาคุยว่าน้องสาวว่านลี่ถิงต้องการราคาค่าวาดแบบที่เท่าไรในแต่ละแบบวาดทั้งห้าแบบนี้ละ" ซูเมิ่งหลันถามด้วยความจริงจัง "พี่สาวซูเคยซื้อแบบไหนละเจ้าคะลองบอกข้ามาก่อนแล้วข้าจะเสนอที่ข้าต้องการให้พี่สาวอีกทีเจ้าค่ะ" "ที่ผ่านมาพี่สาวจะซื้ออยู่ที่แบบละ5ตำลึงทองกับแบบพื้นๆทั่วไปถ้าแบบที่วาดยากมากหน่อยที่มีลวดลายเยอะๆก็แบบละ10ตำลึงทองแต่แบบที่น้องสาวว่านลี่ถิงวาดมาให้พี่สาวดูในวันนี้มันสวยมากจนเหมือนมันมีชีวิตเลย ถ้าพี่ตัดชุดออกมาตามแบบผ้าพี่ว่าจะต้องขายดีมากๆเลยและพี่สาวไม่เคยเห็นคนในเมืองหลวงที่มีชุดแบบนี้ออกมาสวมใส่เลย" ซูเมิ่งหลันตอบพร้อมทั้งลูบแบบวาดด้วยความหลงไหล "ถ้าพี่สาวซื้อในราคาที่มากกว่าคนอื่นแบบละห้าตำลึงทองน้องสาวว่านลี่ถิงจะพอใจไหม" นางลองถามหยังเชิงสาวน้อยตรงหน้า ว่านลี่ถิงมองหน้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันคนนี้นิสัยใช้ได้เลยทีเดียวเหมาะที่จะร่วมธุระกิจกับร้านขายผ้าของนางได้และในหัวของว่านลี่ถิงนั้นยังมีแบบวาดอีกมากมายที่จะนำมาให้กับพี่สาวซูเมิ่งได้ตลอด นางมองว่าถ้าขายขาดนางจะได้มาสอง50ตำลึงทองแต่ถ้านางกินแบบระยะยาวในสองส่วนกับแบบที่นางวาดและขายได้นางก็จะมีรายได้กินไปตลอด ที่นางมั่นใจเพราะที่ร้านนั้นขายให้คนทุกชนชั้นนั้นเองถือว่าครอบครัวพี่สาวซูเมิ่งหลันนั้นมีนิสัยไม่ดูถูกคนและไม่เอาเปรียบคนด้วย "ว่าอย่างไรละน้องว่านลี่ถิงพอใจในราคาที่พี่สาวเสนอให้ไหม" นางถามย้ำอีกครั้งเพื่อรอคำตอบจากสาวน้อยตรงหน้า "พี่สาวซูเมิ่งเจ้าคะข้าขอเสนอราคาที่ข้าต้องการในแบบผ้าของข้าให้พี่ลองพิจารณาดู พี่สาวคือคนลงทุนตัดเย็บและวางขายข้าจะวาดแบบมาให้เดือนละสี่แบบทั้งแบบทั่วไปของคนที่ทำงานสาวใช้ คุณหนูคุณชาย ทุกชนชั้นเด็กหญิงชายรวมถึงแบบของเครื่องประดับที่เข้าชุดกันของแต่ละชุดทั้งใส่ออกงานและใส่ในแต่ละวันของเหล่าคุณหนูคุณชาย ข้าจึงจะขอสองส่วนของกำไรเฉพาะส่วนที่ข้าออกแบบให้พี่สาวซูเมิ่งเพียงเท่านั้นและทางร้านของพี่จะมีแบบชุดใหม่ๆออกมาในทุกเดือนอยู่ที่ว่าพี่จะมีช่างตัดเย็บชุดที่ข้าออกแบบนั้นทันหรือเปล่าละเจ้าคะ" ว่านลี่ถิงถามรวดเดียวจบจนต้องยกน้ำชาขึ้นดื่ม ซูเมิ่งมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยความสนใจเด็กสาวที่อายุไม่ถึงสิบแปดแต่คุยงานได้แบบรื่นไหลอีกทั้งไม่เอาตำลึงที่นางยื่นเสนอให้ แต่เลือกรับส่วนแบ่งของรายได้ของแบบวาดแต่ละชุดสามารถทำตำลึงได้ไปตลอดที่ร่วมงานกับทางร้านของนาง ซูเมิ่งหลันคิดในใจอย่างรอบครอบจึงตอบคำถามของสาวน้อยตรงหน้าไปว่า "ถ้าพี่สาวรับข้อเสนอกับเจ้าพี่สาวจะไม่ขาดทุนใช่หรือไม่เจ้าจะมีแบบผ้าใหม่ๆออกมาให้พี่สาวทุกเดือนจริงหรือ ไม่ใช่พี่สาวดูถูกน้องสาวว่านลี่ถิงนะแต่เพื่อความมั่นใจที่พี่จะร่วมงานกับน้องสาวแล้วพี่ต้องการความมั่นใจเช่นเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นพี่สาวจะทำสัญญากันละฉบับเพื่อลงชื่อให้เป็นหลักฐานและน้องสาวจะต้องส่งแบบให้กับร้านของพี่สาวเจ้าเดียวเพียงเท่านั้น" ซูเมิ่งหลันบอกกับสาวหน้าตรงหน้าที่นั่งฟังนางคุยด้วยความตั้งใจและรอคำตอบกับไปในตอนนี้ "ได้ข้าให้สัญญาว่าจะออกแบบวาดชุดทุกอย่างนั้นให้กับร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งเพียงเท่านั้นเจ้าค่ะ และข้ายังจะแถมชุดเครื่องประดับให้พี่สาวอีกสองชุดในวันนี้ด้วย ข้ายังมีแผนการขายให้พี่สาวอีกตอนวางขายผ้าในแบบที่ข้าวาดให้พี่สาวด้วยละเจ้าค่ะ ส่วนแบ่งนั้นข้าไม่รีบร้อนข้ารอได้ขอให้พี่สาวหาช่างที่จะตัดเย็บให้ทันกับแบบวาดของข้าก็พอ" ว่านลี่ถิงพูดจบนางจึงหยิบแบบชุดเครื่องประดับในถุงผ้าออกมาแถมให้กับพี่สาวซูเมิ่งหลันไปอย่างใจป้ำเพราะนางยังมีอีกเยอะ "รับรองว่าถ้าแบบที่ข้าวาดนั้นพี่สาวทำออกมาวางขายในเดือนนี้ ทำตามที่ข้าเสนอถ้าข้ายังอยู่ในเมืองหลวงไม่ได้เดินทางไปที่ไหนข้าจะมาช่วยท่านขายที่นี้ด้วยเจ้าค่ะ" จากนั้นนางก็บอกแผนงานที่นางเคยทำในภพเก่าให้พี่สาวซูเมิ่งหลันฟังจนละเอียดจนซูเมิ่งหลันอึ้งจนพูดไม่ออกกับความคิดของสาวน้อยตรงหน้านี้นางอายุสิบเจ็ดปีจริงๆหรือ แล้วแบบเครื่องประดับที่นางให้มานี้มันสวยและเข้ากับชุดที่นางออกแบบให้มาแล้ว ซูเมิ่งหลันมองด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่นางกำลังร่วมงานกับสาวน้อยคนนี้เสียแล้วสิถ้าทุกอย่างสำเร็จนางกับมารดาคงจะมีความสุขกับกิจการร้านผ้านี้ไม่น้อย"อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะหย่าเจ้าหรือถิงเอ๋อร์ เจ้าจงเข้าใจเสียใหม่นะ ฮูหยินของข้าคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น"แม่ทัพตอบคำถามนางก่อนที่จะรวบตัวนางมากอดแนบตัวเพราะเขาเห็นนางจะกระโดดหนีไปอีกทาง ว่านลี่ถิงตกใจอ้าปากจะต่อว่าสามีหมาดๆของนางจึงเป็นว่านางอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดลิ้นปิดปากพัวพันกันจนเกิดเสียงหยาบโลน"อื้อ" ว่านลี่ถิงทุบอกชายหนุ่มเพราะนางใจจะขาดเพราะจูบที่เอาแต่ใจจากเขา แม่ทัพหนุ่มผละออกให้นางหายใจก่อนจะก้มลงปิดปากของนางใหม่ สติของว่านลี่ถิงกระเจิดกระเจิงเพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของนาง เขาจุดติดอย่างง่ายดายแม่ทัพคิดในใจว่าวันนี้ต้องเข้าหอกับนางให้ได้ นางจะได้หายฟุ้งซานว่าเขาจะหย่าให้นาง เช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าจะปั้นก้อนแป้งให้นางเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าถึงเวลาสร้างครอบครัวแล้วนั้นเองว่านลี่ถิงทั้งเสียวทั้งร้อนวูบวาบไปหมดกับการเร้าโรมของคนเป็นสามีที่พึ่งแต่งในวันนี้หมาดๆรุกนางหนักจนนางแทบเหลว เพราะเขาลูบคลำบีบเค้นทั่วร่างของนาง นางก็ตอบสนองเขากลับไปแบบเงอะๆงะๆด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ที่สร้างมาให้ชายหญิงคู่สามีภรรยา ร่างซ่อนรูปได้เปลือยเปล่าต่อหน้าของสามีที่ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเรื่
หลังจากจัดการเรื่องอดีตบ้านปู่ย่าของพี่สาวซูเมิ่งหลันให้คนในตระกูลไม่กล้ากลับมายุ่งกับครอบครัวของพี่สาวเมิ่งหลันได้อีก ด้วยความช่วยเหลือของท่านพ่อกับพี่ชายของนางทำให้ผู้นำตระกูลเว่ยสั่งฮูหยินของตนเองกับลูกสะใภ้ไม่ให้ไปหาเรื่องสองแม่ลูกซูเมิ่งหลิงกับซูเมิ่งหลันได้ อีกทั้งลงนามต่อหน้าหัวศาลถ้าคนตระกูลเว่ยไปหาเรื่องสองแม่ลูกอีกจะต้องถูกปรับหนึ่งพันตำลึงทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับเว่ยอี้หรานที่ไม่สามารถให้มารดากับท่านย่ายึดเอาร้านขายผ้าของสองแม่ลูกนั้นมาได้ แถมนางยังสนใจแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยที่ออกหน้าให้กับสองแม่ลูกซูนั้นอีกแล้วยังโดนท่านปู่กับท่านพ่อสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะส่งไปแต่งงานที่หัวเมืองอื่นนางจึงหยุดเอาไว้ก่อนแต่จะต้องหาโอกาสเข้าหาแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยให้ได้เพราะนางอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของซูเมิ่งหลันมาเป็นของตัวเองให้ได้จบเรื่องของพี่สาวซูไปนางก็ถึงวันแต่งให้ไอ้แม่ทัพขี้เก๊กนั้น นางถูกมารดาจับลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืดแต่หน้านางขอแต่งเองไม่อยากให้แต่งหน้ขาววอกของคนยุคนี้ซึ่งมารดาเองก็ยอมเพราะลูกสาวแต่งให้นางทุกวัน ถ้าอยู่ด้วยกันแถมนางจะนำเอาเครื่องสำอางค์ในมิติออกมาให้
พอสองแม่ลูกออกมาจากในห้องรับรองแขกก็เจอกับอดีตแม่สามียืนด่านางเสียงดังยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดสด เมื่อก่อนนางเคยดูถูกอาชีพของสองแม่ลูกอีกทั้งบังคับบุตรชายหย่ากับท่านแม่แต่ท่านพ่อไม่ยอม ถึงกับตัดท่านพ่อออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้าไม่สามารถหนุนตำแหน่งให้บุตรชายได้ "อ้อข้าคิดว่าคนบ้าที่ไหนมาร้องส่งเสียงดังในร้านของข้าไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอะไรกับพวกข้าหรือ ถึงมาก่อกวนในร้านขายผ้าของพวกข้าใครก็ได้ไปตามทหารมาคุมตัวคนบ้าออกไปจากในร้านของข้าสิหลงจู๊" ฮูหยินเมิ่งซูหลิงร้องสั่งหลงจู๊ในร้านออกไปเสียงดังพอประชันหน้ากันกับอดีตแม่สามี ที่ผ่านมานางยอมเพราะรักสามี แม้บุตรสาวนางยังเล็กโดนโขกสับในจวนมานานหลายปี จนตอนนี้นางกับบุตรสาวพากันบุกเบิกร้านขายผ้าตามมารดาของนางเองนับสิบปีตอนออกจากจวนมาพวกนางไม่ได้รับสมบัติจากบ้านของปู่ย่ามาด้วยเลยสักนิด มีเพียงตำลึงรายเดือนของท่านพ่อเพียงเท่านั้นที่ช่วยเหลือครอบครัวได้ พากันมาอาศัยที่จวนเก่าของท่านยายท่านตาจนถึงทุกวันนี้ ร้านค้านี้สมบัติของท่านยายที่ยกให้บุตรสาวหลังจากเสียชีวิตไปสองแม่ลูกชอบตัดเย็บเสื้อผ้าจึงพากันเย็บชุดขายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกื
ว่านลี่ถิงได้ขอบิดาของนางออกไปร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันในช่วงเช้ากับท่านแม่และพี่ชายว่าจะไปไม่นานนางขอให้ท่านพ่อไปด้วยนางสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเพราะนางต้องเตรียมตัวแต่งให้ท่านแม่ทัพนางถูกพี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยจับขัดตัวจนนางคิดว่าตัวนางถลอกหมดแล้ว ทั้งขัดทั้งอบน้ำหอมจนนางหมดแรงวันนี้ท่านพ่อจึงอนุญาตให้ไปได้ท่านจะไปด้วยเหมือนกันเห็นบุตรสาวขอร้องขนาดนั้นแม่ทัพใหญ่จึงใจอ่อนให้นาง อีกไม่กี่วันนางจะแต่งให้แม่ทัพเผิงแล้วเดินทางลงไปยังชายแดนใต้ไปช่วยงานองค์รัชทายาทอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ วันนี้ทุกคนจึงเดินทางออกจากจวนตั้งแต่ยามเฉิน หลังจากทานมื้อเช้าร่วมกันนางกับมารดานั้นนั่นในรถม้าบิดากับพี่ชายขี่ม้าประกบ มีคนสนิททั้งของบิดามารดาที่เดินทางไปด้วยกันร่วมสิบคน ขาดไม่ได้ก็พี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยที่นางส่งให้ออกเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อช่วยพี่สาวซูเมิ่งหลันตั้งแต่เช้ามืด"ท่านแม่คิดว่าคนจะเยอไหมเจ้าคะข้านั้นได้ให้พี่สาวทำตามแผนงานที่ลูกวางเอาไว้ให้ ลูกได้จ้างคนไปแจกใบปลิววันนี้ฮูหยินหวังซูซินบอกว่าจะมาร่วมงานพร้อมกับบุตรสาวที่ลูกช่วยในวันนั้นด้วยนะเจ้าคะ นางไปสั่งตัดชุดที่ร้านพี่สาวเมิ่งห
ว่านลี่ถิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ไม่สามารถขัดราชโองการของฝ่าบาทได้ เกือบจะได้ถอนหมั้นอยู่แล้วเชียวแต่ดันมีมารมาขัดขวางเสียก่อน เอาวะเขาคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางมาจากชาติที่แล้วชดใช้ให้มันหมดเวรต่อกันในชาตินี้เลยก็แล้วกัน อีกอย่างถ้าเกิดนางได้เดินทางไปชายแดนใต้ร่วมขบวนขององค์รัชทายาท ถ้านางได้ช่วยเหลืองานของพระองค์แล้วค่อยทูลขอใบหย่าก็ไม่น่าจะอยากแต่ต้องทำสัญญากับไอ้แม่ทัพหื่นนั้นเสียก่อน ว่าห้ามเข้าหอกับนาง นางยินดีจะหย่าให้เขาแต่งเมียเข้าจวนแต่งห้ามล้ำเส้นนางก็พอไม่เช่นนั้นนางจะฟาดกลับให้จวนร้อนเป็นไฟเลยสิคอยดู ว่านลี่ถิงคิดในใจ"ถิงเอ๋อร์เหลืออีกเพียงสิบวันจะตัดชุดแต่งงานของลูกทันหรือเปล่านี้ มาพาแม่ไปร้านของเมิ่งซูหลันกันเถอะลูกจะได้เลือกชุดแต่งงานที่ตัดสำเร็จไว้ที่ร้านของแม่นางเมิ่งซูหลันคงจะมีนะแม่ว่า" มารดาของนางรีบชวนบุตรสาวไปหาชุดแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันที่จะถึง"เจ้าค่ะท่านแม่แต่ลูกว่ามีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละเจ้าค่ะลูกไม่คิดมาก ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงบอกกับมารดา"ฮูหยินเจ้าคะมีคนจากจวนขององค์รัชทายาทนำชุดแต่งงานมามอบให้คุณหนูว่านลี่
เสียงเคาะประตูที่หน้าหองทำให้สองร่างผละออกจากกันแม่ทัพคลายอ้อมกอดออย่างเสียดายเพราะพึ่งจะได้จูบนางไปสองรอบเอง เขากำลังจะลองอีกในครั้งที่สามแต่โดนขัดจังหวะเสียก่อน "คุณหนูเจ้าคะนายท่านบอกให้มาเชิญท่านแม่ทัพกับคุณหนูไปที่หน้าจวนเจ้าค่ะมีขันทีของฝ่าบาทนำราชโองการมาถึงคุณหนู ให้คุณหนูกับท่านแม่ทัพรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" เสียงพี่สาวซิงซิงร้องบอกด้วยความร้อนใจว่านลี่ถิงเองดิ้นออกจากแม่ทัพได้พอนางได้ยินเสียงของสาวใช้เรียกที่หน้าห้องไม่เช่นนั้นนางจะต้องโดนไอ้แม่ทัพบ้านี้เอาเปรียบต่ออย่างแน่นอน นางจึงรีบเดินออกจากในห้องรับแขกด้วยความเร็วจนแม่ทัพหนุ่มหัวเราะตามหลังอย่างชอบใจที่นางวิ่งหนีเขาแถมก่อนจากนางยังตะคอกให้เขา"ไหนบอกว่ารังเกียจข้านักหนาแล้วมาแตะต้องตัวข้าทำไมไม่ทราบไอ้บ้ากามเอ๊ย" ว่านลี่ถิงด่าให้คู่หมั้นอย่างไม่เกรงกลัวอย่าเผลอเชียวละนางจะทุบให้กระอักเลือดตายเลย ทั้งเดินทั้งบ่นรวมถึงจัดเสื้อผ้าหน้าผมไปด้วยในตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากเรือนไปเลยแม่ทัพหนุ่มรีบเดินตามคู่หมั้นไปด้วยรอยยิ้มตามหลังนางไปติดๆ พอไปถึงนางเห็นท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายยืนรออยู่ที่หน้าเรือนคุยกับขันทีของฝ่าบาทรออ