วาคิมร้องชื่อหญิงสาวลั่นห้อง ไอ้ท่าทางบ่าตั้งหลังตรง คอแข็งเป็นนางพญา แถมวาจาเชือดเฉือนไม่มีลดราวาศอกของหล่อนนี่มันสุดจะทนจริงๆ
เกล็ดมุกเดินเข้าห้องนอนอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวกระทำ กระทั่งผ่านไปอีกหลายนาทีเจ้าหล่อนก็เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับข้าวของหลายอย่างในอ้อมแขน หล่อนปล่อยทุกอย่างให้หล่นโครมบนโต๊ะตรงหน้าพวกเขา
วาคิมพูดไม่ออกเมื่อกล่องกระดาษใบเล็กกระเด็นมากระดอนมาโดนขา เขาต้องรีบรับมันไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงไปใต้โต๊ะ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แน่ละเพราะของทุกอย่างที่เขาสั่งให้หล่อน กวินเป็นคนจัดการทั้งสิ้น
หัวคิ้วของบอดี้การ์ดหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อแลเห็นของในมือเจ้านาย เกล็ดมุกกำลังจะทำอะไรกัน
“นั่นของขวัญปลอบใจ” เธอบอกเบาๆ ขมขื่นใจเหลือเกินเมื่อแลไปที่กล่องของขวัญใบเล็กในมือเขา “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างในมันคืออะไร คุณเป็นคนให้เอง บอกฉันได้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร”
วาคิมนิ่งอึ้ง รู้สึกว่าอากาศภายในห้องมีไม่เพียงพอสำหรับเขา มันอึดอัดหายใจลำบาก ที่สำคัญปากของเขาเหมือนถูกถ่วงไว้ด้วยลูกตุ้มยักษ์ ไม่อาจแก้ต่างให้กับข้อกล่าวหาที่เขารู้ดีว่ากระทำผิดจริง
“หึ...ช่างมันเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากได้มันสักเท่าไรหรอก ไม่เคยเปิดดูด้วยซ้ำ นี่พวกเครื่องเพชร นาฬิกา สมุดบัญชีแล้วก็เช็คเงินสด ฉันยืนยันด้วยหลักฐานที่มีว่าไม่เคยอยากได้ข้าวของเงินทองหรือแม้แต่ทะเบียนสมรสเลี่ยมทองของคุณเลย กรุณารับมันกลับไปด้วย เพราะฉันไม่เคยบอกว่าอยากได้!” เธอกัดฟันพูดมันออกไป ความจริงก็อยากเก็บของพวกนี้กลับไปทุกชิ้น หากเขาจะเป็นคนเลือก หากเขาจะให้ด้วยความรัก ด้วยดวงใจที่ปรารถนา ไม่ใช่ตีค่าว่ามันเป็นเพียงสิ่งตอบแทนที่เขาจะให้กวินจัดการหามาให้เมื่อใดก็ได้
วาคิมคอแข็งเป็นเอ็นเมื่อได้ฟัง หล่อนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธของพวกนี้ ข้าวของทุกชิ้นที่เขาสั่งให้กวินจัดหามาให้หล่อน ล้วนเป็นของดีมีราคา หากเป็นเช็คเงินสดก็แน่นอนว่าใบหนึ่งต้องมีตัวเลขหกหลักขึ้นไป แต่หล่อนทำเหมือนข้าวของพวกนี้เป็นเศษขยะไร้ค่า ช่างจองหองเหลือเกินแม่คุณ
“ทำไมล่ะ หรือว่ามันน้อยไป นั่นค่า ‘พรหมจรรย์’ ของเธอนะ”
ในที่สุดหยดน้ำใสก็เอ่อล้นจากหน่วยตาของเกล็ดมุก มันไหลหลั่งอาบสองแก้มเป็นเงาวาววับ
วาคิมใจกระตุกวูบ รอยยิ้มหยันอันพึงมีพลันเลือนหาย เหตุใดเล่าหัวใจเขาจึงเจ็บปวด ใช่! ทั้งจุกร้าวแสนทรมาน ราวถูกสาดซัดด้วยคลื่นเชี่ยวเกลียวหนาที่ก่อตัวจากทะเลน้ำตาของเกล็ดมุก
บอดี้การ์ดหนุ่มขยับกายด้วยความอึดอัด สถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าเริ่มทำให้เขาหายใจลำบาก เจ้านายที่เคารพคิดอะไรอยู่ เหตุใดจึงเอ่ยวาจาไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างนั้น เกล็ดมุกผู้น่าสงสารจะเสียใจแค่ไหนที่เจ้านายกินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งแบบนี้
หญิงสาวตัวชาดิกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เหมือนร่างกายถูกราดรดด้วยวาจาแช่แข็งของเขา ความเย็นเยือกเข้าแทะเล็มที่หัวใจทีละน้อย ค่อยๆ ขบเม้มความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันจนเว้าแหว่ง ไอเย็นเฉียบยังซึมแทรกลงสู่กระแสเลือดจนด้านชา กัดกร่อนลึกถึงใจกลางแกนกระดูก
เกล็ดมุกได้สติเมื่อรู้ถึงบางอย่างอุ่นชื้นที่หยดแหมะลงบนหลังมือ เธอใจหายเมื่อรู้ว่ามันคือน้ำตาของตัวเอง
“คุณวาคะ ตั้งแต่วันแรกที่มุกขึ้นมาเหยียบบนนี้ แทนที่จะทำแค่งานเลขาอยู่ข้างล่าง นั่นเพราะว่ามุกรักคุณ อยากอยู่กับคุณ มุกไม่เคยยอมอะไรง่ายๆ แต่มุกยอมทนทุกอย่างเพราะคุณ ยอมทนสายตาดูหมิ่นดูแคลนของพนักงานข้างล่างนั่น ยอมทนเสียงนินทาว่าร้าย ทั้งสมเพชเวทนา ยอมแม้กระทั่งเป็นลูกอกตัญญูทำร้ายจิตใจของพ่อ ถ้าไม่รักกันบ้าง ก็ได้โปรด...ช่วยเห็นแก่ที่ทุ่มเทไปมากมาย อย่าทำร้ายหัวใจของมุกด้วยการกล่าวหาเลย” หญิงสาวปาดเช็ดน้ำตา หัวใจแห้งเหี่ยวอับเฉานัก
วาคิมนั่งนิ่งพูดไม่ออก เกล็ดมุกดูเศร้าสร้อยและเข้มแข็งในคราวเดียว
“รับของของคุณคืนไปเถอะค่ะ มันไม่ได้ไร้ราคาจนมุกไม่อยากได้หรอก ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ มันมีราคาแพงลิบลิ่วจนน่าใจหาย แต่น่าแปลกนะคะ มันมีราคาแต่ไม่มีคุณค่าทางจิตใจ”
เกล็ดมุกกล่าวเป็นนัย หากวาคิมไม่โง่เขลาเกินไปคงรู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร
วาคิมรู้ดี หล่อนกำลังตัดพ้อเขา ก็อยากปลอบโยนคนตรงหน้า ทว่าทิฐิที่ครอบงำในจิตใจ มันกลับบดบังความปรารถนาลึกๆ เอาไว้จนมิด
“เธอต้องการอะไรกันแน่เกล็ดมุก” เขาถามด้วยความไม่เข้าใจ
เกล็ดมุกปาดน้ำตาอีกครั้ง กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอก่อนจะเอ่ย
“อย่างแรกก็คือ...อิสระ แต่คงไม่ต้องขอ เพราะคุณเคยบอกมุกแล้วว่าไม่เคยใส่ใจ มุกจะไปไหนก็ได้ตามแต่ใจมุก ขอบคุณนะคะที่ช่วยให้เรื่องมันง่ายขึ้น ส่วนอย่างที่สอง จะว่าขอจากคุณหรือเปล่า มุกก็ไม่แน่ใจ มุกคืนของให้คุณวาไปแล้ว เพราะฉะนั้น...หัวใจของมุก...มุกขอคืนนะคะ” บอกอย่างเด็ดเดี่ยว ทั้งส่งยิ้มฝืดเฝื่อนให้เขา ก่อนจะก้าวตรงไปที่ประตู ละทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เธอจะไม่เก็บมันไปเพื่อเฉือนหัวใจตัวเองอีกแล้ว ไม่เอาอะไรไปเลยแม้แต่ความรักที่มีต่อวาคิม
“เจ้านาย! คุณมุกจะไปแล้วนะ” กวินร้องเตือนเมื่อเห็นเจ้านายยังคงนิ่งเฉยคล้ายโดนน็อกกลางอากาศ ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ทั้งสิ้น
วาคิมนิ่งอึ้ง เสียงของเกล็ดมุกยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท มันรวดเร็วและหนักหนาเกินไป เขาคิดว่าหล่อนคงน้อยใจเสียใจตามประสา แล้วเขาอาจทดแทนหล่อนด้วยของกำนัลสักชิ้นเพื่อที่หล่อนจะหายจากอาการที่เป็น
เจ้าชายน้ำแข็งกำลังครุ่นคิด ทบทวนเรื่องราวกลับไปกลับมาซ้ำๆ หรือหล่อนจะรักเขาจริงอย่างที่บอก ยืนยันด้วยหลักฐานที่หล่อนวางคืนให้แก่เขา แต่ว่าเชื่อได้แน่หรือ ครั้งหนึ่งความรักก็เคยหลอกล่อเขาจนเจ็บเจียนตายมาแล้ว เขาจะยอมมีความรักอีกครั้งหรือ...ไม่!
ฝ่ายหนึ่งคัดค้าน แต่ใจอีกฝ่ายกลับสนับสนุน หล่อนยอมเขาทุกอย่างทุกเรื่องจริงๆ ยอมเป็นเบี้ยล่างเดินตามเกมที่เขากำหนด ยอมอยู่ในที่ของหล่อนโดยไม่เรียกร้อง ยอมแม้กระทั่งมอบพรหมจรรย์ที่หวงแหนใส่พานมาถวายถึงที่...ทำขนาดนี้ถ้าเขาไม่รั้งหล่อนเอาไว้ก็โง่เต็มที
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห