[5]
ลูกสาวเจ้าพ่อขอทวงบัลลังก์
_____________________________
“เดี๋ยว! เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันยังไม่อนุญาต”
เขาประกาศก้อง กวินยิ้มกว้างเต็มวงหน้า หลีกทางให้เจ้านายสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาว
เกล็ดมุกหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสมเพช วาคิมก็ยังเป็นวาคิมวันยังค่ำ หัวใจน้ำแข็งที่เย็นเยือกและแข็งกระด้างยังคงทระนงอยู่เช่นเดิม ไม่ยอมอ่อนไหวละลายลงให้ใครเลยแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง หากเขาบอกสักนิดว่า ‘รัก’ เธออาจจะเปลี่ยนใจ แต่...ไม่ละ ไม่ดีกว่า เธอทำให้บิดาและพี่ชายเสียใจมามากพอแล้ว
“คุณเคยบอกว่าไม่ต้องขออนุญาต อย่าลืม!”
เกล็ดมุกเปล่งน้ำเสียงเฉียบขาดประกาศจุดยืนอีกครั้ง เธอเดินหน้าก้าวต่อแม้ว่าพื้นห้องจะโคลงเคลงเหมือนเพิ่งลงจากรถไฟเหาะ
หมับ!
“อย่าแตะฉัน! ปล่อย!” เธอร้องลั่นเมื่อมือที่หมายจะเอื้อมไปเปิดประตูถูกเขาคว้าเอาไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ เขาตวัดแขนรอบเดียวก็เกี่ยวเธอมาแนบชิดติดอกแกร่ง ช่างง่ายดายเหลือเกิน
วาคิมลากร่างบอบบางถอยห่างจากประตู ให้ตายเถอะเกล็ดมุก ไปเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาขัดขืนเขานักหนานะ
“ปล่อยนะ! กวิน! เอาเจ้านายบ้าอำนาจของคุณออกไปที กระดูกมุกจะหักอยู่แล้ว!” ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ยืนอยู่กลางห้อง อารมณ์ขึ้นๆ ลงเพราะฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เธอฮึดสู้ด้วยแรงทั้งหมดที่ยังพอมี
“เจ้านายครับ...คือว่า” เขากำลังจะบอกว่าให้เจ้านายเพลาๆ มือลงหน่อย คุณมุกกำลังไม่สบาย แต่คงไม่ทัน เมื่ออีกฝ่ายตะคอกกลับมาเสียงดัง
“หุบปาก! ให้ฉันจัดการกับเมียหัวดื้อของฉันซะก่อน”
นัยน์ตาของเกล็ดมุกวาวโรจน์ หัวใจที่บาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าไม่อาจหายสนิทเพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของเขา เพิ่งจะนึกได้เหรอว่าเธอก็เป็นเมีย!
“ปล่อยฉัน! ใครเป็นเมียคุณไม่ทราบ! ฉันยังไม่ได้แต่งงาน!” สวนกลับเสียงดัง พยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออกแต่มันช่างยากเย็นนัก จังหวะเดียวกันนั้น เสียงสมาร์ตโฟนก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งในกระเป๋าเสื้อที่ข้างเอว เธอควานหาต้นตอแห่งเสียงด้วยความลำบาก เพราะเขากอดเธอแน่นจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ แต่ในที่สุดเธอก็หาเจอ!
“โทนี่! ใช่! ฉันเอง ขึ้นมาเร็วเข้า ใครขวางทางฉันอนุญาตให้ซัดไม่เลี้ยง!”
ท้ายประโยคเหมือนจะพูดกับคนตรงหน้ามากกว่า วาคิมยักไหล่ไม่แยแสวาจาประชดประชันและดวงตาวาววับของหล่อน
“คิดจะทำอะไร!” เขาถามเสียงขุ่น หลายอย่างที่เกิดขึ้นมันชวนให้สงสัย หล่อนยังดิ้นไม่หยุดราวกับรังเกียจอ้อมแขนของเขานักหนา
“เรื่องของฉัน! ปล่อยฉัน กวินช่วยมุกที!” หันไปร้องขอกวินอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้บอดี้การ์ดหนุ่มจะโดนหางเลขไปด้วย
“ถ้าได้ยิน ‘เมียฉัน’ ร้องขอความช่วยเหลือจากนายอีกครั้ง นายได้พักงานยาวแน่ กวิน!”
บอดี้การ์ดหนุ่มเสียวสันหลังวาบเมื่อได้ฟัง คงไม่ดีแน่ๆ หากต้องพักงานในเดือนนี้ เขาไม่ได้รับผิดชอบแค่ตัวเองนะ บอดี้การ์ดลูกติดเมียตายนี่ภาระมันเยอะจริงๆ
เกล็ดมุกจ้องหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มด้วยความขัดใจ กวินเอาแต่ก้มหน้านิ่งเหมือนบอกให้เธอรู้โดยปริยาย
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ไอ้คนชั่ว! จะเอาอะไรจากฉันอีก!” ตะเบ็งเสียงใส่หน้าเขาสุดชีวิตแล้วก็มาเหนื่อยหอบเสียเอง แต่ฝ่ายตรงข้ามยังนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน เอาหูไปไว้ตาตุ่มหรือไงนะตาบ้า!
เกล็ดมุกเอ็ดอึงในใจ ยังถูกเขากอดไว้ แม้สองมือจะเป็นอิสระแต่มันไร้ประโยชน์เมื่อส่วนอื่นขยับไม่ได้
สองนาทีไม่ขาดไม่เกิน เสียงฝีเท้านับสิบคู่ที่กำลังกรูออกมาจากลิฟต์ก็ดังสะเทือนเลือนลั่นบนชั้นสูงสุดของตึก GB
“โทนี่! ช่วยฉันที!” เกล็ดมุกร้องข้ามบานประตูเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเหล่านั้น วาคิมกับกวินงุนงงไม่แพ้กัน
ปัง!
เสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้นก่อนที่ประตูบานหนาหนักจะล้มตึง
ชายร่างยักษ์ผมทองที่ชื่อ โทนี่ ยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตู ในมือเขามีกุญแจส่วนตัวที่ยังหลงเหลือควันลอยอ้อยอิ่งที่ปลายกระบอก ด้านหลังของเขามีเหล่าชายฉกรรจ์นับสิบพร้อมอาวุธครบมือ และกำลังกรูเข้ามาในห้องในเวลาชั่วพริบตา
กวินรีบเข้ามาขวางทางปืนให้เจ้านาย นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!
มัจจุราชสีดำมันปราบถูกบอดี้การ์ดหนุ่มชักออกมาเล็งใส่ผู้บุกรุก แต่อย่างว่า กระบอกเดียวหรือจะสู้อีกสิบกว่ากระบอกได้ สุดท้ายกวินก็ต้องยอมจำนนต่อปลายกระบอกปืนของลูกน้องไอ้หมียักษ์หัวทองเช่นกัน
“โทนี่! กระดูกฉันจะหักอยู่แล้ว”
เกล็ดมุกร้องบอกมือขวาของบิดา โทนี่โบกมือให้ลูกน้องอีกคนเข้าไปจัดการ ตอนนี้เจ้าชายน้ำแข็งแห่ง GB ต้องยอมสยบต่อพญามัจจุราชที่กำลังจ่อที่ขมับอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยง
“พวกแกเป็นใคร! ต้องการอะไร แล้วรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอ?”
วาคิมเค้นเสียงเย็นเยียบถามออกไปทั้งที่ในใจร้อนรุ่มดั่งเพลิงพายุ
“เฮอะ! ถามโง่ๆ ถ้าไม่รู้จักแล้วเขาจะมาช่วยฉันทำไม คิดว่าฉันรู้จักแต่คุณกับคนของคุณ แล้วก็ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ นี่เหรอ”
คนที่เพิ่งได้รับอิสระชิงตอบเสียเอง เธอรีบไปยืนข้างมือขวาของบิดา มือเรียวเกาะชายเสื้อพ่อหมียักษ์หัวทองไว้แน่นเพราะพื้นที่ยืนอยู่มันกลับด้านอย่างปัจจุบันทันด่วน สมองของเธอหมุนคว้างเป็นลูกข่างก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบ!
“คุณหนูเล็ก! / มุก! / คุณมุก!”
โทนี่ วาคิมและกวิน ร้องขึ้นพร้อมกัน เมื่อคนปากเก่งเป็นลมล้มพับไปต่อหน้า วาคิมถลาเข้าหาร่างบางอย่างไม่รีรอ แต่สมุนมือหนักของเจ้าหมีหัวทองดันไวกว่า หิ้วปีกเขากลับมาที่เดิมอีกจนได้
“เจ้านาย! โธ่เว้ย! อะไรของพวกมึงวะ!”
กวินฉุนจัดเมื่อไม่สามารถคุ้มภัยให้เจ้านายของตนได้
“ปล่อยกู! นั่นมึงจะทำอะไร!? ปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้!”
เพลิงโทสะหลอมละลายเจ้าชายน้ำแข็งจนถึงจุดเดือด เมื่อไอ้หัวทองซึ่งคงเป็นหัวหน้าทีมช้อนร่างบอบบางของเกล็ดมุกขึ้นสู่อ้อมแขน
“กล้าดียังไงมาแตะต้องเมียกู ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
ครืดดด!!! ตึง!!!เมฆาลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ มันล้มหงายบนพื้นอย่างแรง เกล็ดมุกสะดุ้งเฮือก หลับตาแน่นหนึบ รอคอยถ้อยวาจาที่พี่ชายจะกล่าวออกมาเพื่อสั่งสอนเหมือนทุกครั้ง ทว่าทุกสรรพสิ่งยังเงียบงัน หลายนาทีผ่านไปจึงได้ลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง ดวงตาที่รื้นด้วยหยาดน้ำใสจึงทันเห็นแผ่นหลังกว้างของพี่ชายหายลับไปหลังบานประตูเกล็ดมุกหันมาหาบิดา เพียงชั่ววินาทีคำสารภาพของเธอก็เปลี่ยนฝ่ามืออุ่นๆ ของท่านให้เย็นเฉียบ เธอรับรู้ถึงความอบอุ่นที่จางหายบนฝ่ามือนั้น รีบทรุดตัวลงไปนั่งบนพรมผืนหนา คลานเข่าเข้าหาบิดาเหมือนครั้งที่ยังเล็กๆ มือเรียวพนมขึ้นมาแล้วก้มศีรษะลงกราบงามๆ แทบฝ่าเท้าของท่าน นิ่งนาน...เกล็ดมุกรู้ดี ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าบิดาจะให้อภัย ให้เธอได้มีโอกาสอุ้มท้องลูกคนนี้ ลูกไม่มีพ่อ“ความจริง...บ้านเรา มันก็เงียบเหงาเกินไปนะ ถ้ามีเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่นบ้างจะเป็นไรไป” เจ้าสัวใหญ่น้ำตาซึม เสียงแหบสั่นกลั่นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก ไร้ประโยชน์หากท่านจะถือโทษโกรธเคืองบุตรสาว หล่อนเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว และรู้ดีแก่ใจว่าได้ละเมิดข
“แน่ใจหรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของคุณ เจ้านายผมฝากมาบอกพวกคุณว่าถ้ายังไม่อยากตาย เลิกยุ่งกับคุณหนูเล็กซะ ไม่อยากนั้นจะได้กิน ‘ลูกปืน’ แทนข้าว” พ่อหมียักษ์ส่งสารตามที่เจ้านายสั่งไว้จนจบ เขาอุ้มร่างของคุณหนูเล็กขึ้นแนบอกแล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง ตามด้วยชายชุดดำรั้งท้ายอีกเป็นขบวน“โธ่เว้ย! พวกมันเป็นใครกวิน ฉันต้องการรู้ในสิบนาที มันกล้าทำขนาดนี้หยามกันชัดๆ สารเลวเอ๊ย!” ก่นด่าด้วยแรงอารมณ์ ของที่อยู่ใกล้มือที่สุดมีอันต้องลอยละลิ่วด้วยถูกปาจากมือเจ้าของวาคิมกลับเข้าไปในห้องนอน ระบายความโกรธแค้นที่โหมแรงราวพายุน้ำแข็งลงกับข้าวของในนั้น ยี่สิบนาทีต่อมาพายุลูกใหญ่ก็พัดผ่านเหลือเพียงเศษซากอารมณ์ที่พังยับ มันเกลื่อนกระจายบนพื้นห้อง อาจจะกองรวมกับเศษแจกันหรือไม่ก็โคมไฟทรงพระจันทร์สีนวลที่ตอนนี้เว้าแหว่งเหลือเพียงครึ่งเสี้ยวกวินกวาดสายตามองไปรอบห้อง พายุอารมณ์เริ่มอ่อนแรงแล้ว เขาเองก็อยากระบายอารมณ์ให้หายแค้นกับอะไรสักอย่าง แต่เจ้านายที่เคารพคงไม่อาจอยู่ได้ลำพังในสภาพนี้“ไม่ต้องรอถึงสิบนาทีหรอก ถ้าเป็นไอ้หมียักษ์นั่น
[5]ลูกสาวเจ้าพ่อขอทวงบัลลังก์_____________________________“เดี๋ยว! เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันยังไม่อนุญาต”เขาประกาศก้อง กวินยิ้มกว้างเต็มวงหน้า หลีกทางให้เจ้านายสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวเกล็ดมุกหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสมเพช วาคิมก็ยังเป็นวาคิมวันยังค่ำ หัวใจน้ำแข็งที่เย็นเยือกและแข็งกระด้างยังคงทระนงอยู่เช่นเดิม ไม่ยอมอ่อนไหวละลายลงให้ใครเลยแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง หากเขาบอกสักนิดว่า ‘รัก’ เธออาจจะเปลี่ยนใจ แต่...ไม่ละ ไม่ดีกว่า เธอทำให้บิดาและพี่ชายเสียใจมามากพอแล้ว“คุณเคยบอกว่าไม่ต้องขออนุญาต อย่าลืม!”เกล็ดมุกเปล่งน้ำเสียงเฉียบขาดประกาศจุดยืนอีกครั้ง เธอเดินหน้าก้าวต่อแม้ว่าพื้นห้องจะโคลงเคลงเหมือนเพิ่งลงจากรถไฟเหาะหมับ!“อย่าแตะฉัน! ปล่อย!” เธอร้องลั่นเมื่อมือที่หมายจะเอื้อมไปเปิดประตูถูกเขาคว้าเอาไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ เขาตวัดแขนรอบเดียวก็เกี่ยวเธอมาแนบชิดติดอกแกร่ง ช่างง่ายดายเหลือเกิน
วาคิมร้องชื่อหญิงสาวลั่นห้อง ไอ้ท่าทางบ่าตั้งหลังตรง คอแข็งเป็นนางพญา แถมวาจาเชือดเฉือนไม่มีลดราวาศอกของหล่อนนี่มันสุดจะทนจริงๆเกล็ดมุกเดินเข้าห้องนอนอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวกระทำ กระทั่งผ่านไปอีกหลายนาทีเจ้าหล่อนก็เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับข้าวของหลายอย่างในอ้อมแขน หล่อนปล่อยทุกอย่างให้หล่นโครมบนโต๊ะตรงหน้าพวกเขาวาคิมพูดไม่ออกเมื่อกล่องกระดาษใบเล็กกระเด็นมากระดอนมาโดนขา เขาต้องรีบรับมันไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงไปใต้โต๊ะ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แน่ละเพราะของทุกอย่างที่เขาสั่งให้หล่อน กวินเป็นคนจัดการทั้งสิ้นหัวคิ้วของบอดี้การ์ดหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อแลเห็นของในมือเจ้านาย เกล็ดมุกกำลังจะทำอะไรกัน“นั่นของขวัญปลอบใจ” เธอบอกเบาๆ ขมขื่นใจเหลือเกินเมื่อแลไปที่กล่องของขวัญใบเล็กในมือเขา “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างในมันคืออะไร คุณเป็นคนให้เอง บอกฉันได้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร”วาคิมนิ่งอึ้ง รู้สึกว่าอากาศภายในห้องมีไม่เพียงพอสำหรับเขา มันอึดอัดหายใจลำบาก ที่สำคัญปากของเขาเหมือนถูกถ่วงไว้ด้วยลูกตุ้มยักษ์ ไม่อาจแก้ต่างใ
หญิงสาวหยุดยืนที่กลางห้องเป็นครั้งสุดท้าย หน่วยตาหม่นเศร้ามีหยดน้ำใสคลออยู่ กวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว ซึมซับเอาความสุข ความทุกข์ ที่เขาและเธอมีร่วมกัน กลิ่นอายความสุขยังอบอวลอยู่ในนี้ มันมีมากพอๆ กับละอองของหยดน้ำตา“วาคิมคะ มุกมาอยู่ที่นี่เพราะว่ามุกรักคุณ แต่ที่มุกต้องไปก็เพราะมุกรักคุณเช่นกัน” เอ่ยกับห้องนอนอันว่างเปล่า ค่อยๆ ก้าวมาที่ประตูอย่างช้าๆ บิดลูกบิดสีเงินด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว แต่ยังไม่ทันได้ผลักมันออกไป เสียงประตูใหญ่ด้านนอกก็ถูกผลักเข้ามา มือเรียวสวยหยุดชะงัก ประตูห้องนอนถูกแง้มไว้มิได้เปิดออกจนสุด“ฉันกำลังโมโหมากเลยกวิน! เกล็ดมุกกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า!”วาคิมตะโกนบอกบอดี้การ์ดทั้งที่กวินก็เดินตามหลังมา ใช่! เขากำลังจะบ้าเพราะไม่รู้จะจัดการกับน้ำตาของเกล็ดมุกอย่างไรดี หล่อนชอบประชดประชันแล้วก็เอาแต่ร้องไห้ เขาพยายามไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ แต่หัวจิตหัวใจกลับเจ็บปวดเหลือทนเกล็ดมุกยืนนิ่งหลังประตูห้องนอน ไม่ได้จะแอบฟัง แต่ชื่อของตัวเองที่ถูกกล่าวถึงทำให้อดใจไม่ไหว“เจ้านายน่าจะคุยกับคุณมุกอีกที เธอกำลังไม่ส
เธอลุกยืนแล้วเดินเข้าห้องนอนอย่างช้าๆ รู้สึกถึงไอร้อนผะผ่าวทั่วร่าง เธอคงจับไข้เข้าให้แล้ววาคิมแสดงน้ำใจอันล้นเหลือด้วยการยืนกอดอก สองตาเพ่งมองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังตะเกียกตะกายเข้าห้อง ถ้าหล่อนร้องขอความช่วยเหลือสักคำ เขาคงอุ้มหล่อนไปส่งให้ถึงเตียงเชียว แต่นี่ไม่เลย เก่งให้ตลอดนะเกล็ดมุก ผู้หญิงหัวดื้อ!เกล็ดมุกสะท้อนในอก หากล้มลงไปตรงนี้วาคิมจะถลามาคว้าไว้หรือว่าจะก้าวข้ามกันแน่ เธอยิ้มขมขื่น จ้องมองทางข้างหน้าผ่านม่านน้ำตา ห้องน้ำด้านในห้องนอนคือจุดมุ่งหมาย และเมื่อเข้ามาได้ เธอก็ขย้อนเอาอาหารเที่ยงออกมาอีกครั้ง ร่างอ่อนแรงแทบสลบข้างโถชักโครก แต่ก็ยังแข็งใจฝืนลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ยาแก้ไข้ถูกป้อนเข้าปากตามด้วยน้ำอีกหนึ่งแก้วใหญ่ เธอปีนขึ้นเตียงนอน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยปัง!เสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ณ บัดนี้บนชั้นสูงสุดของตึก GB มีเพียงเกล็ดมุกเท่านั้นที่ยังอยู่ วาคิมบันดาลโทสะอันมากมีของเขาลงกับประตูบานเดิม เขาคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็คงหัวเสียที่วันนี้เธอกล้าเถียงเขา วาคิมเคยบอกว่าไม่เคยใส่ใจเรื่องของเธอ แต่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเขา