“ต่อให้ไปอยู่ในสำนักระดับหก ก็สามารถเป็นศิษย์หลักได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว”……ในพริบตาเดียว เฉินเยียนจือก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน เธอเองก็อยากจะบอกเหลือเกินว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเย่ซิวแต่เพราะคำสาบานด้วยเลือดที่เคยให้ไว้ เธอจึงไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเย่ซิวได้แม้แต่นิดเดียวจึงทำได้เพียงอธิบายออกไปว่าเป็นเพราะโชคดี เลยได้สมบัติสวรรค์อันล้ำค่ามาครอบครองโดยบังเอิญเท่านั้นแน่นอนว่าคนที่ดีใจที่สุดก็ต้องเป็นภรรยาเจ้าสำนัก ลูกสาวของเธอโดดเด่นขนาดนี้ เธอก็มีหน้ามีตาไปด้วยแต่แล้วเธอก็พลันนึกขึ้นได้ “แล้วอู๋ซวงล่ะ ทำไมไม่เห็นเขากลับมาด้วยกันล่ะลูก?”ทันทีที่พูดถึงหนานกงอู๋ซวง สีหน้าของเฉินเยียนจือก็พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา น้ำเสียงของเธอแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความอาฆาต “เขาตายอยู่ในนั้นแล้วค่ะ”เหล่าผู้อาวุโสและภรรยาเจ้าสำนักต่างพากันตะลึง“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาไปตายอยู่ในนั้นได้ยังไง?!”“รีบบอกพวกเรามาเร็วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง!”เฉินเยียนจือแค่นเสียงเย็นชา “พวกท่านฟังให้ดี เรื่องมันมีอยู่ว่า…”จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นออกมา โดยไม่ม
เขตลับแห่งนี้ เมื่อเปิดออกแต่ละครั้งจะคงอยู่เป็นเวลาสองเดือนเย่ซิวก็อยู่ที่นี่มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วโดยไม่ทันรู้ตัวและสิ่งที่เขาได้รับจากที่นี่ก็เรียกได้ว่ามหาศาลเกินบรรยายหากคิดเป็นศิลาวิญญาณ มูลค่าก็พุ่งสูงถึงสองพันล้านเขายังได้สมุนไพรหายากล้ำค่ามากมายบริเวณที่ลึกที่สุดของเขตลับแห่งนี้ เย่ซิวก็ได้สำรวจจนเกือบทั่วหมดแล้วสิงโตหยกขาวทั้งแปดตัวก็ทะลวงถึงระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์กันหมดเพราะได้รับอาหารดีเกินไปแม้แต่เฉินเยียนจือก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย ตอนนี้เธอได้ก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดอย่างเป็นทางการแล้วหากไม่รวมเย่ซิวเข้าไปด้วย ตอนนี้เธอก็ถือเป็นคนรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของสำนักอวิ้นหลิงอย่างไม่ต้องสงสัยการที่สามารถบรรลุถึงระดับนี้ได้ แน่นอนว่าเฉินเยียนจือย่อมดีใจอย่างที่สุดสายตาที่เธอมองเย่ซิวในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อหนึ่งเดือนก่อนโดยสิ้นเชิงทั้งอ่อนโยน ละมุนละไมราวกับสายน้ำตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอถูกเสน่ห์เฉพาะตัวของเย่ซิว รวมถึงร่างกายอันแข็งแกร่งของเขากลืนกินจนหมดสิ้นความทรงจำเกี่ยวกับหนานกงอู๋ซวงที่เคยมี ถูกเธอโยนทิ้งไปจนหมดแล้ว
พอดีกับเวลานั้น สิงโตหยกขาวทั้งแปดตัวก็ตื่นขึ้นมาแล้วเย่ซิวปล่อยพวกมันออกมา พลังของพวกมันก็แข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ ตอนนี้แต่ละตัวอยู่ในระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นกลาง ส่วนตัวจ่าฝูงก็ไปถึงระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสูงแล้วเย่ซิวสั่งให้พวกมันเก็บซากของปีศาจทั้งแปดตัวมา จะกินเท่าไหร่ก็ตามใจจากนั้นเขาก็หยิบธงหมื่นวิญญาณออกมา ดูดกลืนดวงวิญญาณของปีศาจทั้งแปดเข้าไปแน่นอนว่าแม้พวกมันจะเป็นปีศาจระดับปฐมญาณในยามที่มีชีวิต แต่วิญญาณหลังความตายย่อมไม่อาจคงพลังเดิมไว้ได้เมื่อถูกดูดเข้าไปก็แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณนักรบ ก็จะมีการสูญเสียพลังบางส่วนระดับความสูญเสียมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสมบูรณ์ของดวงวิญญาณเป็นต้นดังนั้น เมื่อวิญญาณของปีศาจทั้งแปดถูกแปรสภาพแล้ว พวกมันจึงอยู่ที่ระดับถอดจิตขั้นสมบูรณ์ทั้งหมดแม้จะไม่ถึงระดับปฐมญาณ แต่ก็ยังถือว่าแข็งแกร่งมากอยู่ดีการได้วิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นสมบูรณ์มาถึงแปดตน สำหรับเย่ซิวแล้ว ถือเป็นการเพิ่มพลังครั้งใหญ่อย่างแท้จริงเขาลองประเมินดู หากตอนนี้ตนเองใช้ไพ่ตายทั้งหมดออกมา แล้วต้องสู้กับเจ้าสำนัก ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?คาดว่าน่าจะพอ
โครม!เย่ซิวออกแรงเต็มกำลังแม้ว่าเจ้าปีศาจยักษ์ตนนั้นจะอยู่ในระดับปฐมญาณ แต่หลังผ่านศึกหนักต่อเนื่อง สภาพร่างกายก็ยับเยิน พลังเหลือแทบไม่ถึงหนึ่งในสิบเมื่อเจอการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของเย่ซิว ปีกซ้ายของมันก็ถูกฟันขาดทันทีมันส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อเห็นเย่ซิว ร่างกายที่เล็กกะทัดรัดพลันขยายใหญ่ขึ้น เปิดใช้พลังพรสวรรค์ที่แม้แต่ตอนต่อสู้ตะลุมบอนก่อนหน้านี้ก็ยังไม่กล้าใช้บาดแผลทั่วร่างฟื้นคืนในพริบตา ปีกที่ขาดก็กลับงอกขึ้นใหม่พลังปีศาจมหาศาลปะทุออกมาดั่งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำขึ้นสู่ท้องฟ้าระดับพลังของมันพุ่งสูงจนแทบแตะระดับปฐมญาณขั้นสูงเย่ซิวถูกพลังที่มันแผ่ออกมาสะท้อนจนต้องถอยหลังไปในวินาทีนั้นเอง เสียงคำรามของมังกรก็ดังกระหึ่มออกจากปากของเย่ซิวร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเทพมังกรทองคำขนาดมหึมาที่มีความยาวเกือบสองร้อยเมตรพลังอำนาจของมังกรอันแข็งแกร่งไร้ขีดจำกัดแผ่กระจายออกไปดั่งคลื่นทะเลซัดสาด ทำให้ดวงตาของเจ้าอินทรีขาวปรากฏแววหวาดกลัวเผ่ามังกรนั้นมีพลังในการกดขี่ปีศาจแทบทุกสายพันธุ์อย่างไม่อาจต่อต้าน เว้นเสียแต่จะเป็นปีศาจระดับเดียวกันอย่างหงษ์เพลิงหรือปั
“โฮกกก!”ทันใดนั้นเอง เหล่าปีศาจยักษ์ทั้งแปดก็เปิดฉากต่อสู้กันขึ้นมาพลังปีศาจอันน่าสะพรึงโหมกระหน่ำราวคลื่นยักษ์ พัดถล่มไปทั่วทุกทิศระดับพลังของพวกมันรุนแรงเกินกว่าจะจินตนาการได้เพียงพริบตาเดียว หลุมดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นกลางสมรภูมิ ทุกสิ่งในรัศมีรอบด้านถูกทำลายสิ้นเย่ซิวพาเฉินเยียนจือถอยร่นขึ้นไปยังภูเขาลูกเล็กอีกลูกหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดหากเขาเผลอเข้าไปมีส่วนร่วมในการต่อสู้ระดับนี้ ผลลัพธ์คงไม่พ้นต้องตายอย่างแน่นอนเฉินเยียนจือเผลอขยับตัวเข้ามาใกล้เย่ซิวโดยไม่รู้ตัว ท่ามกลางศึกใหญ่ระดับนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นจอกแหนไร้ราก พร้อมจะถูกกลืนหายไปได้ทุกเมื่อมีการเพียงอยู่ข้างชายคนนี้เท่านั้น ที่เธอจะรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยเพียงน้อยนิดเธอเอ่ยเสียงเบา “พวกมันกำลังทำอะไรอยู่? จู่ ๆ ก็สู้กันขึ้นมาเฉยเลย”“ก้าสิบเปอร์เซ็นต์คงไม่พ้นแย่งสมบัติอะไรสักอย่างนั่นแหละ”เย่ซิวกวาดตามองไปรอบ ๆ สนามรบ น่าเสียดายที่ยังไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติเฉินเยียนจือครางรับ ก่อนจะผุดความคิดแปลก ๆ ขึ้นมากะทันหัน เธอยื่นมือลูบลงบนเอวของเขาอย่างแผ่วเบาเย่ซิวเหลือบตามามองเธอทันที
ตูม!พลังอันแข็งแกร่งสายหนึ่งปะทุออกมาจากตัวเฉินเยียนจือเธอทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ได้อย่างราบรื่นพลังวิญญาณในร่างแน่นหนาขึ้น ผิวพรรณเปล่งประกาย ดูมีชีวิตชีวาและงดงามสะดุดตาถึงขั้นทำให้ใครบางคนอยากจะดึงเธอเข้ามากอดไว้แล้วทะนุถนอมอย่างสุดหัวใจเฉินเยียนจือถอนหายใจเฮือกใหญ่ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจาง ๆอายุเท่านี้แต่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับนี้ได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วแต่พอคิดถึงเย่ซิวที่อายุพอ ๆ กันแต่กลับอยู่ในระดับถอดจิต ก็รู้สึกหมดกำลังใจทันทีหมอนี่ต้องไม่ใช่มนุษย์แน่ ไม่อย่างนั้นจะเก่งกาจผิดมนุษย์มนาขนาดนี้ได้ยังไงเย่ซิวโอบเอวที่นุ่มนวลของเฉินเยียนจือไว้ แล้วพุ่งตรงไปในทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูงเฉินเยียนจือรู้สึกไม่ค่อยชิน ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาๆ ว่า “ปล่อยฉันได้ไหม ฉัน…อยากเดินทางเอง”เย่ซิวยิ้มบาง “เธอนี่ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยนะ ถึงได้พูดเสียงอ่อนกับฉันแบบนี้ได้”เฉินเยียนจือหน้าเครียดเล็กน้อย “ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก แต่นายมันเก่งเกินไป ถ้ายังกล้าท้าทายนายแบบโง่ ๆ เหมือนเมื่อก่อน ฉันก็กลัวว่านายจะ…”คำหลังเธอพูดไม่ออกเย่ซิวไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปข้
ร่างกายของเย่ซิวแปรสภาพเป็นเทพมังกรทองคำขนาดเก้าสิบเก้าเมตรเพียงอ้าปากสูดลมหายใจ ก็ดูดกลืนเอาทรัพยากรขนาดมหึมาราวภูเขาลูกย่อมเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้งทั่วทั้งร่าง ราวทุกอณูเนื้อเลือดต่างส่งเสียงโห่ร้องยินดีอย่างคึกคักกล้ามเนื้อ กระดูก ไปจนถึงอวัยวะภายในล้วนแตกสลายแล้วฟื้นคืน ซ้ำแล้วซ้ำอีกพวกมันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งประสานเข้ากับหลักธรรมและวิถีแห่งโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นแรงกดดันอันรุนแรงของมังกรพลันแผ่ออกมาจากร่างเย่ซิวปราณโลหิตสีทองพลุ่งพล่านไปทั่วร่างเขามังกรบนหน้าผากก็ยืดยาวขึ้นไปอีกเล็กน้อยเขามังกรคือหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของเผ่ามังกรต้องอาศัยพลังบำเพ็ญอันลึกซึ้งอย่างมากถึงจะทำให้เขามังกรงอกยาวขึ้นได้ความยาวที่เพิ่มขึ้นทีละนิดนั้น ไม่ได้ได้มาง่าย ๆ เวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละนิดกระทั่งสองวันต่อมา เย่ซิวก็ใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่ตนมีจนหมดสิ้นในพริบตาเดียว ร่างมังกรที่เคยยาวเก้าสิบเก้าเมตร ก็ขยายเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเก้าสิบเก้าเมตรนั่นหมายความว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่วิชาแปรมังกรขั้นห้าอย่างสมบูรณ์แล้วขั้นถัดไปจะต้องใช้ทรัพยากรในระดับที่เรีย
กระแสน้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักเข้ามา เย่ซิวรู้สึกว่าหนังตาหนักอึ้งจนแทบจะลืมไม่ขึ้น อยากจะปิดเปลือกตาลงเสียเดี๋ยวนั้นนี่นับเป็นการบาดเจ็บที่สาหัสที่สุดนับตั้งแต่เขามาอยู่ในโลกนี้เลยเขากัดลิ้นตัวเองอย่างแรง ความเจ็บปวดรุนแรงช่วยให้สติกลับคืนมาเขารีบหยิบโอสถจำนวนมากออกมากลืนลงไปพลังโอสถค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่างและถูกดูดซึมเข้าไป ทำให้ร่างกายของเขาเริ่มฟื้นคืนพลังขึ้นทีละน้อย หัวใจก็กลับมาเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆเย่ซิวกวาดตามองไปรอบด้านเขาไม่รู้เลยว่าในทะเลสาบแห่งนี้จะมีปีศาจที่ทรงพลังซ่อนตัวอยู่หรือไม่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงหยิบพระราชวังขนาดย่อมที่มีไว้ติดตัวออกมา แล้วเข้าไปข้างใน และปล่อยให้พระราชวังจิ๋วนั้นจมดิ่งลงไปที่ก้นบึ้งของทะเลสาบณ ส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ มีเงาดำขนาดมหึมาพุ่งขึ้นมา มันอ้าปากอันกว้างใหญ่ราวถ้ำและกลืนพระราชวังทั้งหลังเข้าไปในคำเดียวภายในพระราชวัง เย่ซิวนั่งขัดสมาธิอยู่กลางโถงใหญ่ ก่อนจะเร่งหมุนเวียนพลังและดูดซับพลังโอสถอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูบาดแผลทั่วร่างกายให้กลับมาแข็งแกร่งดังเดิมโชคดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งผิดมนุษย์ บวกกับการโจมตีก่อนหน้านั้น
เย่ซิวงัดทุกไม้ตายออกมาใช้พลังร่างกายผสานกับพลังธาตุทั้งห้า ระเบิดออกมาจนสร้างพลังทำลายล้างได้อย่างน่าสะพรึงกลัวพร้อมกันนั้น เขายังปล่อยวิญญาณนักรบออกมาหลายตนด้วยใช้เวลาแค่สิบวินาทีก็จัดการเสือดาวตัวนั้นได้ตูม!แผ่นหลังของเย่ซิวถูกตะปบด้วยกรงเล็บแหลมคมเหมือนโดนภูเขาลูกใหญ่พุ่งชนเข้าอย่างจัง เลือดลมปั่นป่วน ร่างกระเด็นถอยหลังสุดแรง ในขณะเดียวกัน เขาก็กระชากกระบี่ห้าขุนเขาในมือขวาฟาดออกไปอย่างเต็มแรงตลอดเส้นทางที่กระบี่พุ่งผ่านนั้นเกิดเสียงระเบิดติดต่อกันเจ้าเสือดาวอีกตัวหลบไม่ทัน จึงทำให้กรงเล็บหน้าข้างหนึ่งถูกตัดขาดทันทีเย่ซิวชูมือขึ้นแล้วกดลงอย่างแรงสายฟ้าสีม่วงพุ่งลงมาจากฟ้าเจ้าเสือดาวโดนสายฟ้าฟาดจนตัวไหม้เกรียม“ระเบิด ระเบิด ระเบิด!”เย่ซิวเปล่งเสียงออกมาดังสนั่น คำพูดและท่าทางของเขาเต็มไปด้วยอำนาจมหาศาลผิวหนังของเสือดาวตัวนั้นเริ่มระเบิดอย่างต่อเนื่องเย่ซิวใช้พลังจิต ทันใดนั้นกระบี่ห้าขุนเขาก็กลับมาอยู่ในมือร่างของเขาเคลื่อนไหวรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏตัวบนหัวของมันแล้วฟันกระบี่ลงไปหนึ่งที“แฮ่ก ๆ ๆ…”เสียงหอบหายใจหนักหน่วงดังขึ้นไม่ขาดสายการจัดการศัตรูท