Accueil / รักโบราณ / โศลกเพลิงผลาญใจ / ตอนที่8 บุรุษแปลกหน้าในคืนจันทร์เสี้ยว

Share

ตอนที่8 บุรุษแปลกหน้าในคืนจันทร์เสี้ยว

last update Dernière mise à jour: 2025-07-14 02:06:41

            ในที่สุดหลินอวี่เหยาก็มีฟูกนอนเสียที แม้มันทำมาจากหญ้าก็เถิดแต่นางก็ไม่ต้องนอนปวดกระดูกอีกต่อไป หลายวันมานี้จูซินทำหน้าที่ป่าวประกาศว่านางสามารถวินิจฉัยโรคได้ ทำให้นางเริ่มมีรายได้เล็กๆน้อยๆ ซึ่งคนเหล่านั้นล้วนเป็นนางกำนัลหรือขันทีขั้นต่ำ ซึ่งไม่สามารถไปพบหมอหลวงได้ นางซึ่งมีความรู้เรื่องพืชสมุนไพรและศาสตร์แพทย์แผนจีนจึงได้ใช้ความรู้นี้แลกข้าวปลาอาหารและของใช้เล็กๆน้อยๆ

            ใครจะคาดคิดว่าชีวิตของหลินอวี่เหยาที่ถูกแย่งชิงเพื่อดึงตัวไปร่วมงานด้วยเงินเดือนสูงลิบต้องมาทำงานแลกข้าวและถั่วอย่างนี้ คิดแล้วก็อนาถใจยิ่งนัก แต่กระนั้นก็นับได้ว่าความรู้ที่สั่งสมมาไม่เสียเปล่า

            “เจ้าถั่วงอกน้อยที่แสนดี พรุ่งนี้ข้าจะกินเจ้าให้สมกับที่ประคบประหงมมาหลายวัน” 

หลินอวี่เหยาพูดกับตะกร้าถั่วงอกของนาง จากถั่วเขียนที่ขอขันทีจูซินไว้ นางเพาะจนมันเป็นถั่วงอก ร่างกายนี้ขาดสารอาหารมานาน อยากกินเนื้อก็คงไม่ได้กิน ตอนนี้กินถั่วซึ่งมีโปรตีนก็ใช้ทดแทนกันได้  หญิงสาวเช็ดมือแล้วเดินจากห้องเล็กด้านข้างที่ตอนนี้กลายเป็นห้องครัวย่อมๆ  จันทร์เสี้ยวที่แขวนตัวบนราวฟ้าทำให้นางหยุดมอง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มองท้องฟ้ายามค่ำคืนเช่นนี้ ชีวิตที่อยู่ในสถาบันและคร่ำเคร่งกับงานวิจัยทำให้นางไม่ได้แหงนหน้าชมความงามบนฟากฟ้ามาเนิ่นนาน   ตำหนักเย็นแห่งนี้นางจัดการทำความสะอาดและปรับปรุงที่ละเล็กละน้อย หิมะละลายแล้วเผยให้เห็นผืนดินที่พอเพาะปลูกพืชผักไว้เก็บกินได้ ต้นไม้ที่ยังรอดจากหิมะเริ่มแตกใบอ่อน โดยธรรมชาติอาจมีนกคาบเมล็ดพันธุ์มาทิ้งไว้  นางเพิ่งเห็นว่ามีต้นเหมยและหยางเหมยอยู่ด้านหลังใกล้กับบ่อน้ำ  เดิมทีที่นี่คงงดงามไม่น้อยแต่เพราะคนที่อยู่จิตใจหมองเศร้าจึงไร้การเหลียวแลกลายเป็นตำหนักเย็นที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง    แน่นอนว่านางไม่ต้องการใช้ชีวิตที่นี่ไปจนวันตาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาทางออกไปได้อย่างไร และสภาพร่างกายที่อ่อนแอเหลือเกินนี้ ทำให้นางต้องพยายามขุนตัวเองให้มีเนื้อมีหนังขึ้นมาหน่อย แล้วค่อยหาทางออกจากที่นี่  ด้วยความรู้ที่นางมี นางไม่เชื่อว่าจะเอาตัวรอดในยุคโบราณนี้ไม่ได้

คล้ายสายลมวูบหนึ่งพัดผ่าน หลินอวี่เหยาเพียงเอี้ยวตัวหันมองรอบกาย  ยังไม่ทันกะพริบตาฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งก็โอบมาปิดปากนางไว้แน่นไม่ให้ส่งเสียง แผ่นหลังปะทะกับร่างกายแข็งแกร่งดุจกำแพงหิน ทว่าไอร้อนจากกายทำให้หญิงสาวขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่ไอร้อนธรรมดา แต่เหมือนคนเป็นไข้สูงจนตัวร้อน  นางพยายามหันไปมองแต่ถูกปิดปากแน่นขึ้นและยังรั้งร่างนางหลบเร้นในเงามืด

“ถ้าไม่อยากตาย อย่าส่งเสียง”

ปิดปากแน่นขนาดนี้ จะร้องได้ยังไง!

ร่างเล็กพยายามดิ้นรนเพราะถูกกอดรัดจากบุรุษแปลกหน้านั้นยิ่งกลับทำให้วงแขนที่โอบรัดร่างนางแน่นขึ้น ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงคนตะโกนโหวกเหวก

“มีคนร้าย! มีคนร้าย!”

เสียงตะโกนเหล่านั้นใกล้เข้ามา ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ร่างของเธอก็ถูกบุรุษตัวโตพาเข้ามาในห้องของตนแล้ว การเคลื่อนไหวทุกอย่างรวดเร็วเงียบกริบ เทียนในห้องดับลงและตามด้วยร่างของนางที่ถูกเหวี่ยงลงที่นอน

โชคดีที่เตียงแข็งๆ มีฟูงหญ้าแห้งรองรับทำให้นางไม่เจ็บมากนัก ยังไม่ทันได้อ้าปากร้อง มือข้างนั้นก็ปิดปากนางไว้ หญิงสาวขึงตาใส่โต้ตอบด้วยแววตา นี่เขาจะฆ่านางด้วยการทำให้ขาดาอากาศหายใจหรืออย่างไรกัน

ร่างสูงใหญ่กำยำคร่อมร่างนางไว้ทั้งที่มือหนึ่งปิดปากนางอยู่ เขามองผ่านช่องหน้าต่างแม้ไม่เห็นด้านนอกชัดเจน แต่ประสาทหูอันฉับไวของคนฝึกยุทธ์ทำให้รู้ว่าคนกลุ่มหนึ่ง วิ่งมาหยุดที่ด้านนอก

“ค้นหาให้ทั่ว!”

เสียงผลักบานประตูใหญ่ทำให้หลินอวี่เหยาสะดุ้ง ทว่าร่างใหญ่กลับทรุดลงมาทับนางเสียก่อน ใบหน้าของเขาอยู่ที่ซอกคอขาวผ่อง ลมหายใจติดขัดและไอร้อนแผ่ซ่านออกมา  นางกลอกตามองเห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่ข่มความเจ็บปวดและซีดขาวแทบไร้สีเลือด ทว่านางกลับได้กลิ่นเลือดจากกายของเขา

“เจ้าบาดเจ็บรึ”  นางถามแล้วพยายามดันเขาให้พลิกไปด้านข้าง เสียงคนวิ่งเข้ามาด้านในทำให้นางตัดสินใจผลักเขาไปด้านในเตียงแล้วดึงผ้าห่มเก่าๆ ขาดๆ มาคลุมร่างของเขาไว้ ปรับลมหายใจครู่หนึ่งเพื่อรอให้ประตูเรือนถูกเปิดออก หญิงสาวพลางนับในใจ... สาม... สอง... หนึ่ง ….

ปัง!

“ค้น!”

“กรี๊ดดดด”

ทหารกลุ่มหนึ่งที่พังประตูเข้ามาตกใจกับเสียงกรีดร้อง  คบไฟที่ยื่นมาทำให้เห็นหญิงสาวผมเผ้าหยุงเหยิง มีเศษหญ้าติดตามตัว นางนั่งบนเตียงแล้วเอียงคอไปมาราวกับนกเค้าแมว แรกทีเดียวสีหน้านางดูตกใจก่อนจะคลี่ยิ้มเซ่อซ่าออกมา

“ท่านกงกง ฮ่องเต้จะมาหาข้าแล้วใช่ไหม”  หญิงสาวพูดเสียงหวานสูง “ข้ารอฮ่องเต้มาหลายคืนแล้ว ในที่สุดพระองค์ก็มาเสียที...ท่านกงกง ข้าสวยหรือไม่”

“หาดูให้ทั่ว”

นางทำเป็นจัดผมที่ยุ่งเหยิงของตน แล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ นางหยิบก้อนหินกลมเกลี้ยงที่อยู่ข้างเตียงแล้วยื่นไปยัดใส่มือของทหารที่เข้ามา

“ทองก้อนนี้ ท่านเก็บไว้นะ หากวันข้างหน้าข้าได้ดีจะไม่ลืมพวกท่านเลย”

 “สติฟั่นเฟือนไปแล้ว” ทหารก้มมองก้อนหินในมือแล้วส่ายหน้าไปมา “ไม่มีอะไรแล้วไปค้นที่อื่นต่อ”

“ท่านกงกง อย่าลืมล่ะ ข้ารอฮ่องเต้อยู่ทุกค่ำคืน ขอเพียงได้ถวายงานสักครั้ง ข้าจะ...”

หลินอวี่เหยาชะเง้อมองจนมั่นใจว่าทุกคนไปหมดแล้ว คล้ายเสียงการเคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศไปทางอื่น นางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรีบปิดประตูหน้าตำหนัก มือเรียวยกชายกระโปรงรีบวิ่งกลับมาที่เตียงของตน นางยื่นมือไปดึงผ้าห่มออกมีดสั้นเล่มหนึ่งก็จ่อที่ลำคอของนาง

“พี่ชายใจเย็นก่อน” นางพูดแล้วปัดปลายมีดออกจากคอของราวกับเห็นมันเป็นเพียงไม้ไร้คม “อย่าเคลื่อนไหวตัวมาก พิษจะแล่นไปทั่วร่างแล้ว”

ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองนาง

“ข้ารู้ ท่านใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มียกมีดมาจ่อคอข้า แต่ท่านเก็บแรงไว้หายใจเถิด ให้ข้าดูบาดแผลของท่านก่อน” 

นางอาศัยจมูกได้กลิ่นเลือดคลำไปบนร่างของเขาแล้วตัดสินใจกระตุกสายรัดเอวของเขาออก ชายหนุ่มไร้แรงต่อต้านจึงได้นอนนิ่งกัดฟันแน่นปล่อยให้สตรีเปลื้องเสื้อท่อนบนออก

“เจอแผลแล้ว!”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่100แดนโลกันต์ : ฮูหยิน?ใครเป็นฮูหยินกัน

    เพราะอยู่สวนเสียนเฉ่าซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างสามภพ ทำให้เหยาเหยาหรือดอกบัวน้อยของเซียนสมุนไพรเคยพบเห็นทั้งเทพเซียน,มารปีศาจ,สรรพสัตว์หรือมนุษย์ธรรมดา ยามนี้นางมีสาวใช่ปีศาจรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดจึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เพียงแค่นางไม่คุ้นชินให้ผู้อื่นมาค่อยดูแล ที่ผ่านมาก็มีแต่นางทำให้ผู้อื่น ได้หลับไปหนึ่งตื่นจิตใจจึงสงบลง นางจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้แล้ว ถูกปีศาจกลุ่มหนึ่งเข้ามาชิงสมุนไพรเซียนยามที่ซ่งเหอเทียนจวินไม่อยู่ ราวกับถูกจับตามองทุกการเคลื่อนไหวจึงฉวยโอกาสนี้บุกชิงสมุนไพรเซียน แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะชั่วร้ายเผาทำลายแปลงสมุนไพร ยังดีที่นางรอดชีวิตจึงได้มีโอกาสไถ่ความผิดในครั้งนี้ “ฮูหยินเจ้าค่ะ ท่านจอมมารให้นำเครื่องประดับมามอบให้ท่าน หากท่านไม่พอใจสามารถไปเลือกที่คลังของนายท่านได้เจ้าค่ะ” “ฮู...ฮูหยิน” ใบหน้างามแดงเรื่อ “พวกเจ้าหมายถึงผู้ใดกัน” เหล่าสาวใช้ปีศาจต่างหัวเราะคิกคัก “ก็ท่านอย่างไรเล่า” “ข้า...ข้าไม่ใช่...เข้าใจผิดแล้ว” “ท่านจอมมารอุ้มท่านเองกับมือ ท่านไม่ใช่ฮูหยินแล้วจะเป็นใครไ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่99แดนโลกันต์ : ท่านเป็นใครกันแน่

    “ข้าเป็นใครกันรึ” ปีศาจหนุ่มย้อนถามด้วยรอยยิ้ม ตอกย้ำได้ชัดว่านางช่วยเขาทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด นางคงเห็นเขาเป็นแค่แมวดำบาดเจ็บและเมื่อรู้ว่าแท้จริงเป็นปีศาจเสือดำนางก็ยังตั้งใจช่วยชีวิตของเขา หึ! ความเมตตาของนางช่างยิ่งใหญ่นัก! แม้คนเบื้องหน้ายิ้มแต่ดวงตาไร้รอยยิ้ม ทำให้ร่างเล็กเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาระลอกหนึ่งนำพาให้กระถดกายถอยไปด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวเล็กน้อยๆ นี้ย่อมอยู่ในสายตาของเขา “ข้าก็คือเสือดำตัวที่เจ้าช่วยรักษาและยังถ่ายปราณอันน้อยนิดมอบให้” เยี่ยหรงยิ้มบางเบาแล้วกวาดตามองทั่วร่าง เสื้อผ้านางขาดวิ่นเป็นบางแห่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เขาหรี่ตามองท่อนแขนมีแผลเพราะถูกอีกาจิกเมื่อครู่ ปราณชีวิตของนางได้รับมาจากเซียนสมุนไพร ทุกหยาดหยดในร่างกายนางจึงเสมือนอาหารอันแสนโอชาของบรรดาปีศาจทั่งปวง รวมถึงเขาด้วย แน่นอนว่าหญิงสาวไม่เชื่อ แต่เวลานี้เขาคือคนเดียวที่น่ารู้จักและหวังพึ่งพาได้ “ข้ามาตามหากล้วยไม้บรรพกาล มีผู้ขโมยมา ข้าใช้เถ้าธุลีจากเพลิงที่เผาไหม้สมุนไพรเซียนนำทางจึงถึงที่แห่งนี

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่98 แดนโลกันต์ : ท่านเป็นใครกันแน่

    เงาดำใหญ่ทาบทับร่างนาง หญิงสาวกลัวจนไม่กล้าขยับตัว นางคือดอกบัวน้อยในสระสวนเสียนเฉ่าที่เซียนสมุนไพรซ่งเหอเทียนจวินชุบชีวิตขึ้น พลังชีวิตของนางได้รับมาจากซ่งเหอเทียนจวินและกลิ่นหอมหวานของกายนั้นเย้ายวนปีศาจยิ่งนัก นางก็ไม่ต่างจากสมุนไพรเซียน หากมารปีศาจได้กลืนกินก็เพิ่มพลังปราณให้ตนเอง ร่างของหญิงสาวแข็งทื่อไม่รู้จะขยับตัวไปทิศทางใด แต่กระนั้นนางก็เงาดำนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งชวนสะอิดสะเอือน เท้าขนาดใหญ่ของสัตว์สี่เท้าคร่อมร่างนางไว้ อุ้งเท้าที่มีขนสีดำเป็นมันวาวอยู่ใกล้หัวไหล่ นางถูกปีศาจตนหนึ่งคร่อมร่างอยู่หัวใจนางเต้นถี่รัวแทบจะกระดอนออกจากอก น้ำตาหลั่งไหลดุจไข่มุกเม็ดเล็กๆ หล่นกระทบพื้นดินที่ร้อนและแห้งแล้ง ปลายจมูกยาวดอมดมกลิ่นกายนาง หญิงสาวเบี่ยงศีรษะอย่างลืมตัวทว่าทำให้ปีศาจตนนั้นตวัดลิ้นเลียหยาดน้ำตาของนาง “เหยาเหยา” ดอกบัวน้อยได้ยินเสียงคุ้นหู ดวงตาฉ่ำน้ำตากะพริบตาปริบๆก่อนรวบรวมความกล้าหันไปมอง ทำให้นางเห็นปีศาจตนหนึ่งรูปร่างเหมือนเสือดำแต่ตัวมหึมา ขนสีดำมันวาว ดวงตาเป็นสีแดงโลหิต เจ้าของดวงตาคู่นั

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่97 ปฐมบท : จอมมารแดนโลกันต์

    “เหยาเหยา! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ความเจ็บปวดถาโถมทำให้หญิงสาวร้องครางแผ่วออกมา ร่างไร้เรี่ยวแรงถูกประคองขึ้นนั่งด้วยมือสั่นเทาของเซียนสมุนไพรซ่งเหอเทียนจวิน หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองหมดสตินอนอยู่บนพื้นห้อง ความร้อนจากด้านนอกทำให้นางมองข้ามไหล่อาจารย์ปู่ออกไป ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นเปลวเพลิงกำลังโหมไหม้แปลงสมุนไพร “อาจารย์ปู่! ไฟไหม้! ไฟไหม้แปลงสมุนไพรเจ้าค่ะ” นางรีบยันกายขึ้นแต่เพียงลุกขึ้นก็เจ็บปวดไปทั่วร่างจนทรุดลงไปนั่งอีกครั้ง ซ่งเหอเทียนจวินวางฝ่ามือบนศีรษะของหญิงสาว ครู่หนึ่งความเจ็บปวดจึงทุเลาลง นางจึงสามารถลุกขึ้นได้อีกครั้ง “ไปจากที่นี่ก่อน” ซ่งเหอเทียนจวินเตือนศิษย์ตัวน้อยของตน “ไม่ได้เจ้าค่ะ ต้องดับไฟ” “นี่ไม่ใช่ไฟที่เจ้าจะดับได้” หญิงสาวเอียงคอมองอย่างงุนงงและสังเกตเห็นว่าเปลวเพลิงที่โหมไหม้นั้นราวกับสีแดงของโลหิต สองหูของนางได้ยินเสียงสมุนไพรในแปลงกรีดร้องระงม น้ำตาของหญิงสาวหลั่งไหลดุจหยาดฝน “อาจารย์ปู่! ช่วยพวกเขา!” นางเขย่าแขนเสื้อของเซียนสมุนไพร

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่96 กลลวง3

    หลินอวี่เหยาใช้เวลาดูแลจื่อหนิงอยู่หลายวัน และเพื่อความมั่นใจนางจึงนอนค้างที่เรือนของจื่อหนิง แม้ถูกขับไล่อย่างไร นางก็ยังดื้อรั้นอยู่ดูแล “อาจารย์หญิงไม่ต้องเหนื่อยไล่ข้า อย่างไรข้าจะอยู่จนกว่าท่านจะแข็งแรง” “เด็กโง่ เจ้าจะมาทนอยู่กับคนป่วยกระเสาะกระแสะอย่างข้าไปเผื่ออะไร” “ยามข้าเจ็บป่วยท่านยังดูแล แล้วยามนี้ท่านอ่อนแอข้าจะไม่ดูแลได้อย่างไรกัน” นางทำปากยื่นใส่ ทำให้จื่อหนิงอ่อนอกอ่อนใจยิ่งนัก “ที่ข้าสอนไป มิได้อยู่สมองน้อยๆของเจ้าเลยรึ แล้วอย่างนี้เจ้าจะเป็นฮูหยินแม่ทัพเยี่ยหรงได้อย่างไร” แก้มนวลพลันเปลี่ยนสีแดงเรื่อ จุดอ่อนของนางคือพูดเรื่องนี้ทีไร นางก็หน้าแดงทุกที ทำให้จือหนิงยิ้มเอ็นดูได้ทุกคราไป “อะไรก็ควรสอนข้าก็สอนแล้ว ที่เหลือเจ้าก็ตรึกตรองก่อนทำสิ่งใดลงไป” “ข้าทราบแล้ว...ข้าได้ออกจากที่นี่ไป จะหาทางพาท่านกับซูจินและเฉิงฮัวออกไปด้วย” จื่อหนิงพูดเรื่องนี้หลายครั้งจึงไม่อยากพูดอีก ทำได้แค่ยิ้มให้นางเท่านั้น “ท่านดื่มยาบำรุงอีกนิดนะเจ้าคะ” หลินอวี่เหยาป้อนยา

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่95 กลลวง 2

    หญิงสาวเคยอ่านเรื่องราวของกล้วยไม้ชนิดนี้มามาก นอกจากรูปภาพที่ได้ดูในหนังสือประวัติศาสตร์แล้วก็ไม่เคยเห็นของจริงสักที มาวันนี้กล้วยไม้หายากชนิดนั้นอยู่เบื้องหน้าแล้ว ความรู้สึกเต็มตื้นก็พุ่งขึ้นมาจุกอก ถ้าไม่ใช่เพราะกล้วยไม้ชนิดนี้หรือ? นางก็คงไม่ประสบอุบัติเหตุตกเขาและโผล่มาถึงที่นี่หรอก ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เห็น “กล้วยไม้บรรพกาล” ตรงหน้าเช่นนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา หากศาสตราจารย์หลิวเฉินอี้ได้เห็นคงต้องดีใจแน่นอน แต่ตอนนี้อยู่ห่างไกลหลายร้อยปี ลำบากตามหาแลกด้วยชีวิต แต่เมื่อไม่คิดตามหากลับได้พบเจออย่างง่ายดาย “เป็นอะไรไปหรือ” ไทเฮาทรงทรงถาม“ไม่ได้เป็นอะไรเพคะ แค่ตื้นตันใจที่ชีวิตนี้ได้มีโอกาสเห็นกล้วยไม้ล้ำค่าต้นนี้”“มีนักพรตท่านหนึ่งได้นำกล้วยไม้บรรพกาลถวายฮ่องเต้พระองค์ก่อน แล้วก็ทรงมอบให้ข้าดูแลอีกที กล้วยไม้นี้เป็นเหมือนของขวัญและตัวแทนขององค์ฮ่องเต้ ข้าคอยดูแลมาหลายปียังไม่เคยเห็นดอกเลยสักครา จำได้ว่านักพรตท่านนั้นให้ข้าเลี้ยงดูมันให้ดี แต่มีคนกล่าวว่ากล้วยไม้ชนิดนี้พิเศษนัก”“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ”“แล้วเจ้าคิดเห็นอย่างไร สามารถนำไปทำยาบำรุงให้ฮองเฮาได้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status