Home / รักโบราณ / โศลกเพลิงผลาญใจ /  ตอนที่7 เจ็บจัง

Share

 ตอนที่7 เจ็บจัง

last update Last Updated: 2025-07-12 16:17:12

            “เจ็บจัง”

            หลินอวี่เหยายันกายขึ้นจากเตียงนอน เธอยกมือขึ้นเสยผมยาวสลวยที่ตอนนี้ไม่ยุ่งเหยิงเหมือนวันแรก หญิงสาวถอนหายใจเบื่อหน่าย เตียงนี้แข็งไปจริงๆ นอนมาหลายคืนแล้วเธอยังไม่ชินและเจ็บกระดูกอยู่เลย

            ข้ามภพมาได้ครึ่งเดือน เหมือนจะชินแต่ยังไม่ชินเสียที

            “คุณปู่ค่ะ เหยาเหยาคิดถึงคุณปู่จังเลย”  หญิงสาวพึมพำแล้วกวาดตามองรอบห้องให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปอีกแล้ว  เบื่อหน่ายกับความฝันที่ซับซ้อนเหล่านี้ บางคืนนั้นเป็นภาพความทรงจำของเจ้าของร่างที่นางอาศัยอยู่ ซึ่งมีแต่ความทุกข์ระทมน่าเวทนา ถ้าเทียบกับนางในอีกโลกหนึ่งแล้ว ชีวิตนางย่อมดีกว่าหลายสิบเท่า แม้สูญเสียพ่อแม่ไปแต่ก็ยังมีคุณปู่หลินที่รับมาเลี้ยงและดูแลอย่างดี  ผิดกับหลินอวี่เหยาที่มีบิดาแต่ไม่เคยถูกโอบกอดเลยสักครั้ง และเมื่อต้องมาอยู่ในตำหนักเย็นก็ไร้คนเหลียวแลเห็นใจ นอกจากชื่อเดียวกันแล้ว ก็ไม่มีอะไรคล้ายกันเลยสักนิด

            เพราะอยู่คนเดียวไม่มีสาวใช้ติดตามมาด้วย หลินอวี่เหยาจึงจัดการตัวเองเสร็จสรรพด้วยความเคยชิน ยังดีที่เจ้าของร่างนี้มีอุปกรณ์เย็บปักอยู่บ้าง เครื่องประดับล้ำค่าไม่มี หรืออาจเคยมีแต่นำไปแลกเป็นอาหารหมดแล้ว  นางนำมาซ่อมเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่และผ้าห่ม ส่วนฟูกนอนนั้นเกินเยียวยาจริงๆ  แต่หลายวันมานี่นางทำความสะอาดตำหนักเย็นที่ตนเองอยู่จนสะอาดเอี่ยมเป็นที่น่าพอใจ  หิมะละลายจนพื้นเจิ่งนองด้วยน้ำ แต่เผยให้เห็นว่าสถานที่นี่ก็ไม่เลวร้ายมากนัก 

            หลังจากชำระล้างใบหน้าแล้ว หลิวอวี่เหยาหอบหญ้าที่ตัดไว้ไปผึ่งแดด  ยามนี้คงต้องอาศัยสิ่งนี้ใช้ทำฟูกนอนไปก่อน ดีกว่านอนบนเตียงแข็งๆ จนเจ็บกระดูก  ร่างนี้ยิ่งผอมบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตื่นมาแต่ละเช้าได้แต่ร้องโอดครวญราวหญิงชราทั้งที่ร่างนี้อายุแค่สิบเจ็ดปีเท่านั้น

            อยู่โลกโน้นนางอายุยี่สิบห้า อยู่ที่นี่นางอายุสิบเจ็ด ประสบการณ์ชีวิตมากกว่า และยังหอบความรู้มาจากศตวรรษที่21อีกด้วย

            “สนินหลิน”

            “ขันทีน้อย”  หญิงสาวส่งเสียงทักทาย

            “ข้าชื่อจูซิน เจ้าก็เรียกข้าดีๆหน่อย”

            “ท่านจูซินกงกง อย่าทรงโกรธเลยเพคะ”

            “เจ้านี่นะ”  ขันทีน้อยขึงตาใส่ แต่หญิงสาวกลับหัวเราะร่า เขาส่ายหน้าระอาใจแล้วเดินเข้าไปด้านในวางตะกร้าอาหารลงบนโต๊ะ

            เขาคือจูซิน ขันทีระดับล่างที่อายุเพียงสิบหก อยู่วังมานานแค่ยังไร้ผลงาน ตำแหน่งจึงต่ำต้อยต้องมาทำงานเช่นนี้ แต่เดิมเขาก็ไม่ได้สนใจสนมหลินนัก ที่ผ่านมานางเคยให้เครื่องประดับเพื่อแลกกับการส่งจดหมายกลับไปบ้านเกิด จนกระทั่งไม่เหลือสิ่งใดมาแลกเปลี่ยน อยู่วังมานานเห็นชะตาชีวิตสตรีในตำหนักเย็นมากมาย แต่ไม่คิดว่าจู่ๆ สนมหลินจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ยิ้มร่าเริงและกล่าวทักทายเขาทุกครั้งด้วยท่าทีเป็นมิตร  บางครั้งนางทำตัวเป็นพี่สาวเขาทั้งที่อายุก็ไม่มากไปกว่าเขาสักเท่าไหร่

            หลินอวี่เหยาช่วยหยิบอาหารออกมาจากตะกร้า แน่นอนว่ายังเป็นน้ำข้าวกับผักดอง ในแต่นั้นมีเมล็ดถั่วอยู่จำนวนหนึ่ง  หญิงสาวยิ้มจนดวงตาหยี่เล็กแล้วคว้าสิ่งนั้นเทลงบนฝ่ามือ

            “แค่เมล็ดถั่ว เจ้า เอ่อ สนมหลิวทำราวกับเห็นเมล็ดทองคำ”

            “แน่นอน นี่คือของล้ำค่าสำหรับข้าเลยล่ะ”   นางอุตส่าห์เก็บรื้อม่านมุ้งออกมาเพื่อทำที่เพาะเมล็ดถั่วเลยทีเดียว กว่าจะได้มาก็ยากเย็นแลกกับการ...

            “อาการของขันทีน้อยเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือไม่”

            จูซินมีสีหน้าเขินเล็กน้อยแล้วกระแอมไอเบาๆ “ด้วยคำแนะนำของสนมหลิน อาการของข้าดีขึ้นแล้ว”

            เพราะอากาศเย็นชื้น เขาเกิดผืนขึ้นที่โคนขา อับอายเกินกว่าจะไปให้หมอตรวจอาการ เวลาเดินก็เจ็บแสบเพราะเสียดสี นานวันเข้ากลายเป็นแผลถลอก ไม่รู้ว่าเพราะอาการเดินผิดปกติของเขาชัดเจนหรือไร สนมหลินสังเกตเห็นจึงเอ่ยทัก

            ‘ท่านเจ็บขาหรือ’

          ‘ไม่เกี่ยวกับเจ้า’

            ‘ไม่ใช่เท้า ก็น่าจะขา แต่...อืม ดูจากการเดินแล้ว น่าจะต้นขาสินะ’

          ในครั้งนั้นเขาตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่นิ่งงันไปทันที

          ‘มีอาการแดง คัน ระคายเคือง ผิวลอก มีน้ำเหลืองหรือแสบเวลาเดินใช่หรือไม่ ขันทีน้อยไม่ต้องกลัวไป หากเป็นที่ข้ากล่าวมานั้นเกิดจากความอับชื้น เหงื่อสะสม บริเวณนั้น’

          ‘จริงรึ...รักษาได้หรือไม่’

          หญิงสาวพยักหน้ารับ 'ใช้หวงไป๋ (ฝาง) ต้มกับน้ำและใช้น้ำมาล้างหรีอประคบบริวเณที่เป็นผืน ซับให้แห้ง ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ จะช่วยได้ แต่ถ้าขันทีน้อยมีอาการตัวร้อนเป็นไข้ต้องกินยาด้วย'

          ‘ยาอะไร’

          ‘นำจินอิ๋นฮวากับเหลียนเฉียวกลับมาต้มดื่มก็พอช่วยได้’

          หลินอวี่เหยาเกือบจะหลุดปากว่ายาฆ่าเชื้อ แต่ก็นึกได้ว่าที่นี่ไม่มียาเม็ดแบบแพทย์แผนตะวันตก ยังดีที่มีความรู้เรื่องแพทย์แผนจีนเพราะนางเรียนเรื่องพืชสมุนไพรจึงสามารถวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ ได้

            จูซินกลับไปทำตามที่นางแนะนำ หลายวันต่อมาก็ดีขึ้น เขาตอบแทนนางด้วยหมันโถวหนึ่งลูก หลินอวี่เหยาดีใจจนแทบหลั่งน้ำตา นางได้แต่กินน้ำข้าวกับผักดองหลายวันแล้ว แม้อยากเรียกร้องมากกว่านี้แต่รู้ขีดจำกัดดี ทุกอย่างต้องคอยเป็นค่อยไป

            “เจ้าทำอะไร” จูซินถามขณะที่เห็นนางนำขิงที่หั่นซอยไว้มาใส่ในน้ำข้าว ซึ่งวันนี้เขาแอบพ่อครัวให้ช่วยเติม ‘ข้าว’ ให้นางเพิ่งอีกนิดหน่อย  นางได้กินแค่ข้าววันล่ะหนึ่งมื้อเท่านั้น

            “ใส่ขิงสดหน่อย วันนี้มีเม็ดข้าวด้วย ขอบคุณจูซินกงกงอย่างยิ่งที่เมตตาข้าน้อย”  นางพูดติดตลกแล้วกินอาหารของตนเองไปด้วยรอยยิ้ม

            นางอาจเสียสติไปแล้วก็ได้ จูซินได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ฤดูใบไม้ผลิแล้ว”

            “อื้ม” นางพยักหน้ารับ “เหมาะกับการเพาะปลูก”

            ขันทีน้อยหัวเราะออกมา “เจ้าจะปลูกอะไรในที่แห่งนี้”

            “ขอแค่มีดินมีน้ำ และเมล็ดพันธุ์ย่อมเพาะปลูกได้”

            ‘อันที่จริงไม่มีดินก็ยังปลูกได้ แต่นั้นต้องใช้ตัวช่วยเยอะหน่อย’

            “เจ้ามีความรู้เรื่องการรักษา ครั้งหน้า...ข้าอาจมาขอคำแนะนำอีก”

            “ได้สิ”  นางพยักหน้ารับแล้วปรายตามองไปด้านหนึ่งของกำแพงตำหนักเย็น เมื่อหิมะละลาย ก็เผยอให้เห็นต้นไม้ที่ซุกซ่อนอยู่  ตอนนี้ในสมองของนางคิดแต่เรื่องของกินและฟูกนอนที่ช่วยไม่ให้นางปวดกระดูกก็พอแล้ว          

           

           

           

           

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่140 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน (จบ)

    เยี่ยหรงอ่านจดหมายที่ถูกส่งมาให้ คนที่บ้านรู้แล้วว่าออกรบครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องการให้เขากลับไปพักฟื้นที่บ้าน ปีหนึ่งเขากลับบ้านกี่ครั้งเชียว เอาจริงๆ แล้ว เขารู้สึกว่าค่ายทหารต่างหากที่เขาเรียกว่าบ้านได้เต็มปากเต็มคำ ชายหนุ่มออกจากโรงพยาบาลกลับมานอนพักฟื้นที่ค่ายทหารแล้ว แม้คนอื่นจะคัดค้านอยากให้เขอยู่โรงพยาบาลให้นานกว่านี้ เขารู้ตัวดีว่าพักไม่กี่วันก็ดีขึ้นไม่รู้จะไปแย่งที่นอนคนเจ็บป่วยคนอื่นเพื่ออะไรกัน อีกอย่างเขาก็...ขัดเขินทุกครั้งที่พยาบาลสาวคนนั้นมาทำแผลให้เขา ร่างกายเขาดันมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเธอเสียด้วย ปกติเรื่องพวกนี้เขาควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม แต่ไม่รู้ทำไม...ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งอับอาย เขาพับจดหมายใส่ซองตามเดิมแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ใช้ชีวิตทหารมาหลายปี ไต่เต้าด้วยตัวเอง เขาต้องการถูกยอมรับจากความสามารถของตัวเอง ตอนนี้เป็นร้อยเอกเยี่ยหรงแห่งค่ายทหารหน่วยที่ 308 อีกไม่นานเขาก็ได้เลื่อนยศแล้ว ขณะที่ใจลอยคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น สายตาก็เห็นหญิงสาวปั่นจักรยานเก่าๆ เข้ามาในเขตทหาร เขาเพ่งมองอย่างหงุดหงิดเพราะพื้นที่

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่139 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน 2

    แรงตีที่ข้อมือไม่ได้ทำให้เขาเจ็บแต่เรียกให้เขาได้สติ ชายหนุ่มรีบปล่อยมือทันทีทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลถอยห่างออกไปสองก้าว “สมกับเป็นผู้บัญชาการเยี่ยจริงๆ” อวี่เหยายกมือลูบลำคอของตน แต่ก็ต้องตกใจทีเห็นเขายันกายขึ้นนั่งและทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออก “อย่าค่ะ! ถ้าคุณดื้อฉันจะมัดคุณไว้กับเตียงนะ!” มีชีวิตอยู่มาตั้งอายุขนาดนี้เพิ่งเคยได้ยินคนขู่เขาแบบนี้เป็นครั้งแรก เยี่ยหรงจ้องมองหญิงสาว เธอสวมชุดพยาบาลและที่นี่คงเป็นโรงพยาบาลแน่นอน พลันนึกได้ว่าเมื่อครู่เขาพลั้งมือทำร้ายเธอไป “....” เยี่ยหรงขยับปากแต่ไม่มีเสียง พยาบาลสาวเห็นสีหน้าของคนเจ็บก็เข้าใจทันที เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัวนะคะ ตอนผ่าตัดใส่เครื่องช่วยหายใจ คุณเลยเจ็บคออยู่ ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ คุณนั่งนิ่งๆ อย่าดึงสายอะไรออกอีกนะ ฉันจะไปตามคุณหมอแล้วเอาน้ำมาให้คุณดื่ม” ร่างเพรียวบางหมุนตัวจากไปทันที เยี่ยหรงได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย อยากจะหัวเราะที่เขาตัวโตขนาดนี้แต่ถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ ดุเอาเสียได้ ไม่กี่นาทีต่อมาคุณหมอก็สาวเ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่138 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน 1

    ร้อน! เปลวไฟกำลังโหมกระหน่ำอย่างหนัก ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านท่ามกลางเปลวเพลิง เสียงวูบวาบทั่วทุกทิศทาง ผู้คนวิ่งชนหนีตายอลหม่านแต่เขายังยืนนิ่งงัน ทว่าในสมองคล้ายได้ยินเสียงแว่วอยู่ข้างหู คล้ายใครบางคนอ่านบทกวีแสนเศร้าให้ฟัง “ผู้บัญชาการ!!!” เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาได้สติ สหายร่วมรบถูกสะเก็ดระเบิด เขาไม่รอช้าแบกคนเจ็บขึ้นหลังทันที “ปล่อยผม! ทิ้งผมไว้ที่นี่” “ฉันสัญญากับแม่นายแล้วว่าจะพานายกลับบ้าน ก็ต้องทำตามสัญญา” เขากัดฟันทั้งที่ตัวเองก็บาดเจ็บไม่น้อย ในสนามรบที่เต็มไปด้วยทหารทั้งสองฝ่าย เสียงปืนดังรัวไม่ขาดสาย และระเบิดเป็นระยะๆ เขาแบกร่างของเพื่อนร่วมกองรบวิ่งกลับมาที่บังเกอร์ได้สำเร็จ “ผู้บัญชาการเยี่ย ท่านจะไปไหนอีกครับ” ลูกน้องถามเมื่อเห็นว่านายกองคว้าปืนยาวของสหายร่วมรบมาถือไว้ “จัดการพวกมันนะสิ” “ผู้บัญชาการ คนของเราเหลือแค่ไม่กี่คนแล้ว รอกองหนุนไม่ดีกว่าหรือครับ” “พวกนายอยู่นี่ ฉันไปจัดการเอง” “ผู้บัญชาการ!!” ความบ้าระห่ำของผู้ชายคนนี้ท

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่137 ตอนพิเศษ

    ห้าปีต่อมา คฤหาสน์ตระกูลเยี่ยมีเสียงหัวเราะของเด็กน้อย เด็กชายวัยสามขวบวิ่งถลามาหาหญิงสาวที่นั่งพิมพ์เอกสารอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ค เสียงร้องตกใจของคนรับใช้ทำให้หลินอวี่เหยาเงยหน้าขึ้นจากงานตรงหน้า ทว่าลูกชายยังมาไม่ถึงก็ถูกมือใหญ่ของคนเป็นพ่อคว้าคอเสื้อไว้ได้ทัน “ฮ่าวหมิง อย่ากระโจนใส่แม่แบบนั้นสิ” เยี่ยหรงเพิ่งกลับจากบริษัทพอดี เขาอุ้มลูกชายนั่งบนท่อนแขนแล้วอบรม “แม่อุ้มท้องน้องสาวอยู่ ถ้าลูกไปกระแทกท้องของแม่ก็กระทบกระเทือนถึงน้องสาวด้วย ลูกเข้าใจไหม” “ฮ่าวหมิงแค่อยากเล่นกับน้องสาว” เสียงเจื้อแจ้วเอ่ยตอบพร้อมดวงตากลมโตจ้องมารดา “เดือนหน้าก็ได้เจอหน้าน้องสาวแล้ว” คนเป็นพ่ออุ้มลูกชายแล้วเดินมานั่งข้างคนรักแล้วโน้มตัวลงมาอบรมคนเป็นแม่อีกคน “เดือนหน้าคุณก็จะคลอดแล้ว ยังทำงานอยู่อีก” “ฉันท้องไม่ได้ป่วยเสียหน่อย” หลินอวี่เหยาหัวเราะเสียงใส แต่ปลายนิ้วยังพร่างพรมบนคีย์บอร์ด จนกระทั่งเธอกดปุ่มเอ็นเทอร์และเซฟไฟล์งาน“เย่! เสร็จเรียบร้อยเสียที” “เย่ๆ” ฮ่าวหมิงร้องดีใจแม้ไม่เข้าใจว่าแม่ดีใจเรื่องอะไร

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่136 สวรรค์เมตตา

    “อืม...” หญิงสาวรับคำแล้วยกมือขึ้นแตะแก้มของเขา “ทำไมคุณโง่แบบนี้ ไม่ต้องช่วยฉันก็ได้ คุณเจ็บเพราะถูกกระบี่เทพสวรรค์แทงทะลุหัวใจ แล้วยังถูกเง็กเซียนฮ่องเต้ลงโทษอีก” ดวงตาของชายหนุ่มมีหยาดน้ำเอ่อคลอ “วันที่ฉันตกเขาไปครั้งนั้น ดวงวิญญาณในร่างนี้ทะลุมิติไปในชาติที่คุณคือแม่ทัพเยี่ยหรง” หญิงสาวยิ้มเศร้าเคล้าน้ำตา “ฉันตายในชาตินั้นก็กลับมาที่นี่ ได้พบคุณอีกแล้ว” “ผมขอโทษ” เขากอดร่างบอบบางทั้งที่ตัวเองก็สั่นสะท้าน “ผมรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้คุณเจ็บปวด ผมเห็นแก่ตัว แต่ชีวิตผมขาดคุณไม่ได้” มือเล็กดันแผ่นอกเขาเบาๆ รับรู้ว่าเขาก็กลัวไม่ต่างกัน เธอดันเขาออกแล้วพูดเสียงสั่นเครือ “ใช่ คุณคือสิ่งที่ฉันหวาดกลัวที่สุด แต่คุณก็คือความสุขที่สุดในชีวิตฉัน ไม่ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง มันก็คือความสุขที่ฉันยินดีรับไว้แม้จบอย่างเจ็บปวดก็ตามที” เธอวางมือตรงหัวใจของเขาแล้วยิ้มทั้งน้ำตา “เยี่ยหรง...คุณจะแต่งงานกับฉันไหมคะ” “เหยาเหยา...” “หลังจากนี้เ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่135 คุณจำผมได้ใช่ไหม

    จู่ๆ สายลมก็พัดแรง แรงจนสะพานแกว่งเหมือนมีมียักษ์มาแกว่ง หลินอวี่เหยาตัวเอียงไปมาจนร่างเซไปด้านหนึ่งของสะพาน เยี่ยหรงอยู่ด้านหลังแค่สองก้าวแต่เหมือนห่างไปสิบเมตร กระแสลมพัดแรงไม่ปกติ แม้รู้ดีว่าเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแต่สำหรับเขาไม่ปกติแน่นอน ทุกคนที่ก้าวข้ามไปแล้วถูกกระแสลมพัดแรงจนพวกเขาต้องหาที่ยึดเกาะ เพราะสะพานที่แกว่งไปมา ร่างเล็กเสียหลักหงายหลังตกสะพานแขวน!“เหยาเหยาระวัง!”“กรี๊ด!”เขายื่นมือไปสุดแขนแต่คว้ามือเธอไม่ทัน ร่างของหญิงสาวร่วงลงสู่แม่น้ำด้านล่าง เยี่ยหรงไม่รอช้าเขากระโดดตามไปทันที ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ครู่หนึ่งลมสงบแล้วหานเหยียนจึงวิ่งมากลางสะพานแล้วก้มมองลงไป เห็นเพียงเงาร่างเล็กๆ อยู่ในแม่น้ำ“บ้าเอ๊ย!” หานเหยียนสบถแล้วใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมสั่งการทันที “ใช้เฮลิคอปเตอร์ออกสำรวจปลายน้ำ เร็ว!”หานเหยียนสั่งการเฉียบขาด เขาให้คนอื่นๆ ดูแลทีมนักสำรวจที่เหลือ ส่วนตัวรีบหาทางไปที่ปลายแม่น้ำทันทีทำไมต้องมีเรื่องเช่นนี้กับเกิดท่านแม่ทัพของเขาด้วยนะ จะมีสักชาติไหมที่ทั้งสองได้ใช้ชีวิตครองคู่กันอย่างปกติสุขร่างเล็กร่วงลงในแม่น้ำอย่างรวดเร็ว เร็วจนหลินอวี่เหยาไม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status